คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : วันแต่งงานของเธอ
หมายเหตุก่อนอ่าน – ในตอนนี้จะกล่าวถึง ปอจูและยูในวัย 25ปี อนึ่ง อย่าพึ่งคาดหวัง...
ยูบ่นทั้งเรื่องนะ อย่าคาดหวังเลยว่าจะแต่งดีเพราะ แต่งแบบมึนๆ พล่ามอะไรก็ไม่รู้
-----------------------------------------------
ปอจู เธออายุ 25 ปีแล้ว
ปอจู เธอกำลังมีความสุขในชีวิตของเธอ
ปอจู เธอมีคนที่จะปกป้องดูแลเธอได้แล้ว
........ปอจู.....เธอกำลังแต่งงาน.......
“ ไม่นึกเลยนะคะ ว่าพี่ปอจูจะลงจากคานทองก่อนเป็นคนแรก! “ ผมมองหญิงสาวผู้มีใบหน้าน่ารักยืนยิ้มกว้างให้กับยัยนั่น ตัวตนอีกด้านหนึ่งผมในชุดเจ้าสาวสีขาวสะอาด โดยมีชายหนุ่มที่มีใบหน้าคล้ายคลึงกับหญิงสาวยืนกุมขมับอยู่ข้างๆ
“.....อย่าไปกวนเจ้าสาวสิ ยัยเตี้ยเนล..” ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งพูดพร้อมถอนหายใจหันไปยิ้มให้ยัยนั่น ” ยินดีด้วยนะครับ”
“ชิ ใครเตี้ย ห๊ะ ตาบ้าเลน พี่ปอยินดีด้วยนะคะ” เนลยิ้มพร้อมยื่นของขวัญแต่งงานให้เจ้าสาวที่ส่ายหน้าไปมากับรุ่นน้อง
“ ขอบคุณนะ เนล เลน พี่รอฟังข่าวดีของทั้งสองคนอยู่เหมือนกันนะ เฮ้ ยูอย่าอู้งานสิย่ะเอาของไปเก็บสิย่ะ!” พูดจบของ ขวัญชิ้นเล็กก็ถูกโยนมาที่หน้าผม...มันเจ็บนะเฮ้ย! ยัยบ้า! ขวางมาได้
“ Élite! Félicitations! Tous mes voeux de bonheur! (เอลิท! ยินดีด้วย! ขออวยพรให้มีแต่ความสุข!)”
เสียงที่จะว่าใสก็ได้ แหลมก็ไม่เชิง ที่แน่ๆ ดังเกิน 180 เดซิเบล ในหมู่คนที่มางาน มีแค่คนเดียวเท่านั้น....ยัยเตี้ยน่ารำคาญนั่น ไม่ใช่ว่ายังอยู่แคนาดาหรอกเรอะ! ผมหันไปมองหญิงสาวผมยาวสีน้ำตาลดำนัยน์ตาสีน้ำตาลดำภายใต้กรอบแว่นที่ดูเหนื่อยๆ ทำให้ผมรู้สึกขนลุกแปลกๆ....อย่าบอกนะว่ายัยนั้นบินตรงมาจากแคนาดาตั้งแต่มีคำเชิญจากยัยถึกนั้น! เฮ้ยๆ ถึงเขาจะพึ่งคุยทางเน็ตเพื่อเชิญมาก็เถอะแต่ไม่นึกเลยว่าจะรีบบินมา....
“ Danke!(ขอบคุณ) “ ปอจูในชุดเจ้าสาวรีบหันไปกอดหญิงสาวตัวเล็ก ว่าแต่? ทำไมพวกเธอต้องพูดภาษาที่ 3ด้วยล่ะเฮ้ย!
“ เหมือนจะมาสาย? แต่ช่างเถอะ เพราะโดนเชิญเป็นคนสุดท้ายนี่น้า....แหม่ ใครให้ติดต่อมาเมื่อ 2วันก่อนกันล่ะจ๊ะเนี่ย ปอจัง ยูเคะ อ๊ะ Bonjour! ไม่เจอกันสักพักนะคะ พี่เฟอร์ (โปรดมโนนะคะว่าคุยภาษาเยอรมันแปร่งๆกันอยู่ค่ะ(?)) ” หญิงสาวตัวเล็กหันไปคุยกับเจ้าบ่าวของเพื่อนด้วยรอยยิ้ม ชายหนุ่มผมบลอนทองผู้เป็นเจ้าบ่าวยิ้มให้หญิงสาวตัวเล็ก พร้อมๆกับโอบเอวภรรยาแล้วคุยกับหญิงสาวเพื่อนสนิทว่าที่ภรรยาด้วยรอยยิ้ม.....มุมปาก(?)
เอ้าๆ ก่อนที่จะงงไปมากกว่านี้ ผมขอบอกเลยแล้วกันว่า ผมไม่ใช่เจ้าบ่าว! ห๋า? อะไรนะ เรื่องนั้นรู้อยู่แล้ว? ได้ไง เอาเถอะ ช่างมันก่อน เข้าเรื่องอย่างแรก
ยัยผู้หญิงเตี้ยที่คุยกับปอจูนั้นคือ อุ้ม เหอะ? คุ้นๆล่ะสิ ยัยนั้นเป็นเพื่อนยัยถึกปอจู ตอนแรกนึกว่าอยู่ฝรั่งเศสที่ไหนได้บินไปอยู่แคนาดา....ส่วนที่ไปทำไมน่ะผมไม่รู้หรอกนะ ส่วนรุ่นน้องสองคนชายหญิงนั้นก็ เนลและเลน สองคนนี้มาเที่ยวยุโรปพอดีเลยทำให้ไม่รู้สึกผิดเท่ายัยเตี้ยอุ้ม...
หลุดประเด็นอีก....ต้องเข้าเรื่องงานแต่งยัยถึกปอจูดีสิ เริ่มจาก....
เจ้าบ่าวของยัยปอจู เป็นคนเยอรมัน เจอกันตอนไปเยอรมันด้วยเหตุผลบ้างอย่าง ก็นะ ตอนเจอกันทะเลาะกันแทบตายสุดท้ายก็รักกัน เสียแรงที่อุสาขัดขวางทุกอย่างจริงๆ!!
ชื่อของ เจ้าบ่าวยัยถึกนั้นก็เป็นชื่อที่ดูแปลกๆอย่าง เฟอร์ สมิธ ถึงจะบอกว่าเจอที่เยอรมัน แต่ เจ้านี้ เป็นเสี้ยว รัสเซีย-เยอรมัน-ฝรั่งเศส เหอะ หรูล่ะสิ อย่างพึ่งนึกว่าหมอนี้มีนามสกุลยาวนะเฟ้ย เพราะว่า เจ้านี้เป็นลูกบุญธรรมของแม่เยอรมัน ครอบครัวเลยไม่ได้ใหญ่เลย แต่มีเงินเหลือเฟื่อ แต่ประเด็นไม่ได้อยู่ตรงนั้น! เออๆ ยอมรับว่าหน้าตาหมอนี้ดี ฐานะเลิศ รักและโคตรขี้หึงขี้หวง ยัยถึก อย่างกับหมีกินน้ำผึ่ง(?) แต่ไม่ใช่สาเหตุที่ผมต้องปล่อยมือ ยัยถึกนั้นหรอกนะ...
“ แต่ก็ปล่อยมือ จากเธอไปแล้วไม่ใช่เหรอครับ ” ผมเงยหน้ามองเจ้าของเสียง ผมไม่ได้เตี้ยหรอกนะ แต่หมอนี้มันสูงไป และ มันก็ไม่สำคัญด้วยว่าทำไมหมอนี้ถึงรู้ว่าผมคิดอะไร เพราะมันไม่ใช่เรื่องแปลก...
“ เหอะ นายเองก็ต้องปล่อยมือจาก ยัยเตี้ยนั่นไม่ใช่รึไง คูล ” ผมปลายตามองคนหัวเหลืองตาสีฟ้าครามก่อนจะหันไปมองอุ้ม หญิงสาวตัวเล็กที่ไม่สูงขึ้นเลยตั้งแต่สมัยก่อน รวมถึงรอยยิ้มนั้นก็ไม่เคยเปลี่ยนด้วย
“ มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ครับ ถึงจะอยากอยู่กับเธอตลอดไปยังไง แต่เธอก็ไม่มีทางรักพวกเราในความหมายนั้นหรอกนะครับ คุณก็รู้นี่ครับ “ คูลพอนายพูดอะไรแบบนี้ ช่วยอย่าแผ่รังสีมาคุได้ไหมฟ๊ะ!
“ เออ ที่นายพูดมันก็ถูกนะ....แต่ว่า....” ผมเงียบลงแล้วมองหน้าหญิงสาวคุ้นชินที่สุดก่อนจะถอนหายใจ
“ แต่ว่า.....รักไปแล้วใช่ไหมครับพี่ยู ” เลนที่มาตอนไหนมารู้มายื่นอยู่ข้างๆผมอย่างหน้าตาย
“เออ อย่ามาพูดความจริงเท่านี้ได้ไหมห๊ะ เจ้าเด็กแก่แดด....ถึงเวลาพิธีแล้ว....ก๊กเหล้าได้ยัง?” ผมถามดึงความสนใจ จากงานโดยด้วยอาการเลื่อนลอย
“ เอ่อ.....พี่ยู......ผะ ผมไม่รู้เรื่องด้วยนะครับ ” “ ห๊ะ? อะไรไม่รู้เรื่อ--........โอเค เข้าใจล่ะ” ผมถอนหายใจมองหน้าคูลที่ปล่อยรังสีทะมึนด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ลืมไปว่าหมอนี้ดื่มไม่ได้.....เพราะยัยนั่น....ไม่ชอบ..แล้วก็ดันลืมอีกว่าเจ้านี้มันเป็นอุ้มลิซึ่ม
“......โทษที ถือว่าไม่ได้พูดแล้วกัน “ ผมพูดแล้วก็เงียบทั้งวง คูลและเลนเหมือนจะเหม่อมองเข้าไปในงานและพอหันไปมองทางพิธีอีกที่ ก็เห็นว่าถึงเวลาโยนดอกไม้เจ้าสาว
“ใครจะได้กันนะ “ ผมพึมพำๆ พร้อมมองยัยถึกปอจู เล็งหาคนก่อนจะโยน โดยมีสาวน้อยใหญ่รวมถึงหนุ่มบ้างคนยกแขนรับ อาจจะยกเว้นสาวๆบ้างคนที่ถูกดันออกมาด้วยก็เถอะ.....
“ อย่าให้ยัยเตี้ยเนลนั้นได้เลย...” หันไปมองเลนที่กำลังพึมพำๆจ้องร่างของเนล พอผมหันไปมองอีกคน..
“ ใครจะได้ก็ช่างสิครับ ตัวเล็กของผมไม่ได้ก็พอ ” คูล รังสีนายมาคุสุดๆ....แล้วก็ยิ่งมาคุเข้าไปอีกเมื่อเห็นอุ้มได้ช่อดอกไม้ ยัยถึกปอจู เธอจะทำให้ฉันซวยนะเฟ้ย! โยนไปทางอื่นก็ไม่ได้ ยัยเตี้ยอุ้มก็อีก! แถวนี้มันหนาวแล้วนะเฟ้ย!
“ อุ้มจังได้ดอกไม้! จะรอดูนะจ๊ะ “ ยัยถึกปอจูพูดพร้อมวิ่งมาทางพวกผม มาทำไมล่ะเฮ้ย! ไปหาสามีเธอเซ!
“ เฮ้อ เหนื่อยอ่ะ เลนป๊ะ กลับบ้านได้ของฟรีจากพี่ปอจูแล้วล่ะ ถึงจะเสียดายดอกไม้ก็เถอะ “ เนลพึมพำพร้อมลากเลนออกไป ถึงอย่างนั้นสองคนนั้นก็หันมาโบกมือลาพวกผมอยู่ดี
“ดอกไม้มันก็สวยดีหรอกนะ แต่รู้สึกไม่อยากแต่งงานต่อจากปอจังจริงๆน้า อ๊ะ กลับก่อนนะ ยูเคะ ปอจัง พอดีว่ายังมีงานค้างอยู่ ถ้าจะได้เจอกันอีกก็คงอีกนานเลยล่ะ ถ้าจะมาหาก็แคนาดานา! ไปกันเถอะคูล“ ยัยเตี้ยอุ้มพูดด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเดินจับชายเสื้อคูลไป ความสัมพันธ์ของคู่นี้บ้างที่ก็เหมือนคนใช้ช่างเอาใจกับเจ้านายเอาแต่ใจ....หรือดีหน่อยก็คงเป็น พี่ชายขี้หวงกับน้องสาวเอาแต่ใจ
“โชคดีนะ เอาล่ะ ยู นาย ตอบคำถามฉันมาก่อนสิว่า ทำไมถึงไม่เข้าไปในงาน? แต่ ช่างเถอะ ไปคุยกันหน่อยสิ ตาบ้านั้นอนุญาตจนถึงแค่พระอาทิตย์ตกดิน”
“แล้วจะคุยทำไมล่ะห๊ะ ยัยถึก”
“เงียบไปย่ะ! ฉันก็แค่อยากรู้ว่า ถ้าฉันแต่งงาน นายจะยังอยู่กับฉันต่อไหม? ยังไงนายก็เป็น ’คนใช้ ’ฉันนี่”
“ขอบพระคุณมากที่พูดแบบนี้ เหอะ เออๆ จะยังอยู่ไปตลอดนั้นล่ะ ยัยบ๊อง” พูดไปก็เจ็บเหะ...แต่ได้เห็นรอยยิ้มของยัยนี้...ก็ถือว่าคุ้มล่ะ...มั้ง
“ดีมากยู ขอบคุณนะที่อยู่ด้วยกันมาตลอด ไปล่ะ” เธอเข้ามากอดผมก่อนจะวิ่งออกไป....
แต่เดียว? ตะกี้..ยัยนั้นกอดสินะ.......อ่า....รู้สึกดีจังเลยนะ....” ถึงจะเจ็บก็เถอะ...”
“....รู้ดีว่าต่อให้รักมากแค่ไหน ต่อให้เธอรู้ ก็ไม่ได้สิทธิ์ที่จะได้รับความรักกลับ
ถึงจะต้องเจ็บปวดที่ต้องปล่อยมือเธอให้คนอื่น แต่ถ้าเธอมีความสุข ฉันก็มีความสุข....แค่เธอยังยิ้ม ยังหัวเราะ ยังมีชีวิตอยู่
แค่เธอยังต้องการฉัน ยังต้องการพวกเรา แค่นั้น....ก็พอแล้ว....จะยังคงอยู่กับเธอต่อไป...ปอจู ฉัน......รักเธอมากนะ”
ต่อให้รักมากแค่ไหน ก็ต้องปล่อยมือ
แม้จะรักมากแค่ไหน ก็เปล่าประโยชน์
ตัวตนอีกด้านอย่างพวกเรา มีสิทธิ์รัก
แต่พวกเรา ไม่มีสิทธิ์ได้รับรักที่เหมือนกันจากอีกฝ่าย
พวกเรารู้ แต่ว่า...
พวกเรา ไม่เคยที่จะไม่ตกหลุมรักตัวตนอีกด้าน
อยากจะรักมากกว่านี้ แต่ทำได้แค่คอยปกป้องอยู่ห่างๆ
ถึงแบบนั้นก็มีความสุข...
-----------------------------------------------------
จบเถอะ อะไรก็ไม่รู้? เหมือนจะเป็นการพล่ามๆ บ่นๆ แต่งแต่ว่าจะให้เสร็จแปลกๆเจ้าค่ะ=A=;;
ความคิดเห็น