ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My Buddy จับคู่หัวใจให้ตรงกัน

    ลำดับตอนที่ #10 : พรุ่งนี้

    • อัปเดตล่าสุด 6 มี.ค. 57


    `★APPLE PIE.

    พรุ่งนี้เป็นวันครบรอบแต่งงานของปอจู..

    แล้วเขาก็สัญญาว่าจะมาแสดงความยินดีในงานเลี้ยงครบรอบของเธอ...

     

    “พรุ่งนี้เอาอะไรไปให้ยัยนั่นดีนะ” เขาพูดพึมพำก่อนจะเหลือบมองนาฬิกาข้อมือที่บ่งบอกเวลาที่เขาควรจะกลับบ้านได้แล้ว ก่อนเดินข้ามทางม้าลายที่ขึ้นสัญญานให้คนข้ามได้ไป

     

    ครืด.. ครืด..

     

    แรงสั่นครืดภายในกระเป๋ากางเกงทำให้ยูต้องหยิบขึ้นมาดู บนหน้าจอปรากฏข้อความจากหญิงสาวที่เขาเพิ่งพูดถึงเมื่อสักครู่ทำให้เขาเผลอยิ้มออกมา

     

    พรุ่งนี้อย่าลืมล่ะ มางานเลี้ยงด้วยนะ!’

     

    อืม  พรุ่งนี้เจอกัน

     

    เขาพิมพ์ตอบกลับไปก่อนจะเร่งความเร็วในการเดิน เพราะมัวอ้อยอิ่งอยู่นานจนเกือบจะหยุดยืนอยู่กลางถนนยามดึกที่ไร้รถยนต์เสียแล้ว เขายังไม่อยากมาทำเอ็มวีตอนนี้หรอกนะ..

     

    ตึก ตึก ตึก..

     

    “เฮ้ย!! หลบไป!! / พ่อหนุ่มระวัง!!!!”  เสียงที่น่าจะมาจากที่ไหนสักแห่งร้องขึ้นก่อนยูจะหันกลับไปพบกับความเจ็บปวดอย่างรุนแรง เจ็บมาก.. เจ็บจนจุก..

     

    “ตายมั้ยวะ... / หนีสิโว้ย! / เฮ้ย พวกชนแล้วหนีนี่!!!” เสียงโดยรอบดังอื้ออึงไปหมด ยูที่อยู่ในสภาพมึนเกินกว่าจะรับรู้อะไรได้แต่กลอกตาไปมา สูดเอาอากาศสุดท้ายเข้าปอดตามสัญชาตญานมนุษย์ก่อนที่สติจะดับวูบไป

     

    วี้หว่อ วี้หว่อ วี้หว่อ

     

     

    เพล้ง!!!

     

    อยู่ๆแก้วที่มือเรียวถืออยู่ก็ลื่นหลุดมือพร้อมๆกับที่ปอจูรู้สึกใจหายวายไปสักครู่ก่อนจะก้มลงไปเก็บกวาดเศษแก้ว

     

    “เป็นอะไรน่ะคุณ อยู่ๆทำไมปล่อยแก้วแบบนั้นล่ะ” คนเป็นสามีที่เพิ่งลงจากวอร์ดฉุกเฉินเมื่อสักครู่ถามด้วยความเป็นห่วง

     

    “พักผ่อนน้อยมั้ง ไม่รู้สิ” เธอตอบห้วนๆตามนิสัยก่อนที่เสียงโทรศัพท์บ้านจะดังขึ้น ซึ่งปลายสายขอคุยกับเฟอร์

     

    “ครับ? มีอะไรเหรอครับอาจารย์หมอ” เขารับสายก่อนจะรีบสาวเท้าไปหยิบเสื้อกาวน์ของตัวเองมาใส่ ก่อนจะใส่รองเท้าและรีบบึ่งรถไปที่โรงพยาบาลทันทีที่อาจารย์หมอโทรมาบอกว่ามีคนไข้ฉุกเฉินที่อาการเข้าขั้นโคม่ารอให้เขาไปช่วยชีวิตอยู่

     

    หลังจากที่เฟอร์ออกไปสักพัก โทรศัพท์ของปอจูก็ดังขึ้น ปลายสายที่พูดเหมือนวิ่งอยู่ทำให้อีกคนใจหล่นวูบก่อนที่แข้งขาจะหมดแรงและทรุดลงนั่งอยู่ที่เดิม

     

    น้ำใสๆไหลอาบแก้มเนียนของร่างโปร่งไม่หยุด รู้สึกใจเสียมากๆเหมือนมีลางร้ายสักอย่างมาเยือน หลังจากที่ได้รับฟังคำของสามี..

     

    [คุณคาโงะโดนรถชนเข้าอย่างจัง  ตอนนี้อาการโคม่าอยู่ที่โรงพยาบาล รีบมานะครับ...]

     

     

     

     

     

     

     

     

    ตึก ตึก ตึก

     

    “ย-.. ยู...!!” ร่างโปร่งของใครคนหนึ่งวิ่งอยู่ข้างๆกับเตียงที่บุรุษพยาบาลร่างใหญ่กำลังเข็นร่างหนึ่งที่กำลังหลับตาสงบ ร่างทั้งร่างของยูโชกไปด้วยเลือด ใบหน้าที่มักจะชอบยักคิ้วกวนประสาทอยู่เสมอกลับสงบนิ่งและเต็มไปด้วยรอยแผล มุมปากที่มีคราบเลือดติดอยู่จากการกระตุกเมื่อสักครู่ทำให้ปอจูใจหาย

     

    “ญาติคนไข้รอข้างนอกด้วยครับ!” บุรุษพยาบาลคนเดิมว่าก่อนจะเข็นเตียงนั้นเข้าไปในห้องฉุกเฉิน ก่อนจะปิดประตูลงพร้อมๆกับร่างโปร่งที่สะอื้นจนตัวโยน ใบหน้าเธอชุ่มไปด้วยน้ำตาโดยมีคนตัวเล็กคอยกอดปลอบอยู่ข้างๆ

     

    “ไม่เป็นไรนะจ๊ะ ปอจัง ยูน่ะถึกจะตาย ยังไงก็ต้องรอดจ้ะ!” อุ้มว่าพลางลูบหัวลูบหลังเพื่อนสาวยกใหญ่ แถมยังไม่ลืมชงพี่เขยตัวเองซะด้วย “พี่เฟอร์น่ะเก่งจะตาย! รอดแน่ๆจ้ะ!

     

    “นั่นไม่ใช่วิธีปลอบที่ดีเท่าไรนะครับ พี่อุ้ม” เลนพูดพลางส่งยิ้มแหยๆให้เมื่อเห็นว่ารุ่นพี่หน้าเจื่อนลงอย่างเห็นได้ชัด

     

    “พี่คะ ใจเย็นๆนะคะ พี่ยูต้องปลอดภัยแน่ๆค่ะ” เนลพูดพลางกุมมือเรียวที่สั่นระริกของปอจูไว้ ก่อนจะส่งผ้าเช็ดหน้าให้

     

    ขอให้เป็นอย่างนั้นเถอะ...

     

     

     

     

    ภายในห้องผ่าตัด...

    เฟอร์ในชุดหมอผ่าตัดสีเขียวสวมถุงมือสีขาวเตรียมพร้อมพลางถามไถ่อาการจากนางพยาบาลที่กำลังควบคุมเครื่องวัดความดันและชีพจรอยู่ เขาเงยหน้ามองชีพจรที่น้อยจนน่าเป็นห่วงก่อนจะแทบลมจับเพราะอาการของร่างที่นอนอยู่บนเตียงอาการหนักกว่าที่คิด

     

    “คนไข้มีอาการปอดและม้ามฉีกจากการโดนกระดูกซี่โครงที่หักแทง ตกเลือดในช่องท้องและมีอาการเสียเลือดมากค่ะคุณหมอ!!

    เฟอร์รีบลงมือผ่าตัดทันทีโดยมีแพทย์จากหลายแผนกยืนดูและเป็นลูกมือให้เขาในการช่วยยื้อชีวิตของยู

     

    “มีด”

     

    คุณหมอพูดผ่านหน้ากากที่ปิดปากกับจมูกอยู่ พยาบาลผู้ช่วยส่งมีดให้ บรรยากาศในห้องผ่าตัดกำลังตึงเครียด สำลีชุบแอลกฮอลล์คอยซับเลือดที่ไหลไม่หยุดและยังคั่งค้างอยู่ในท้องของคนเจ็บหมดไปชิ้นแล้วชิ้นเล่า พอๆกับที่ชีพจรของอีกคนไม่ได้ดีขึ้นเลย

    แถมดูเหมือนจะค่อยๆอ่อนลงด้วยซ้ำ..

     

    “ฉงซานเพิ่มเลือดอีก” เขาพูดพลางเหลือบมองชีพจรของยูแล้วหันมาเย็บม้ามที่ฉีกต่อ การผ่าตัดที่ดูเหมือนจะไปได้ดีกลับมาตึงเครียดอีกครั้งเมื่อพยาบาลที่ดูแลเครื่องวัดชีพจรกับความดันร้องขึ้นมา

     

    “ความดันลดอีกแล้วค่ะหมอ!

     

    “เฟอร์...” ฉงซานที่เป็นลูกมือทำหน้าหนักใจเมื่อเห็นเลือดมากมายออกที่ปอดของยู บ่งบอกว่าคนคนนี้ได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง มิหนำซ้ำเพราะอาการแทรกซ้อนอย่างภาวะปอดช้ำแถมด้วยกระดูกซี่โครงที่หักทำให้การผ่าตัดยุ่งยากไปอีกระดับหนึ่ง

     

    “ความดันลดลงอีกแล้วค่ะคุณหมอ!” ความกดดันถูกส่งมาที่เฟอร์อีกครั้ง เขาปาดเหงื่อเล็กน้อยก่อนจะจรดมีดลงไปที่ข้างปอดเพื่อหยุดเลือดที่ระดับอกในระดับลึกและเพื่อลดปัญหาเลือดที่คั่งค้างภายใน

     

    แพทย์ตัวสูงในชุดสีเขียวเปรอะเลือดปาดเหงื่ออีกครั้งก่อนจะตั้งสติแล้วเย็บแผลที่ปอดของคนเจ็บอีกครั้งอย่างใจเย็น และนั่นก็สร้างความเบาใจให้เขาจุดนึงว่าคนสำคัญของภรรยาจะไม่เป็นไร..

     

    “อาการทรุดอีกแล้วค่ะหมอ!!!!

     

    ถ้าไม่มีเหตุการณ์ต่อมา... ที่นางพยาบาลร้องลั่นหลังจากที่เห็นยูชักและกระตุกขึ้นมาเหมือนขาดอากาศ ชีพจรในเครื่องวัดค่อยๆเต้นเบาลง เบาลง จนแทบจะเหยียดเป็นเส้นตรง..

     

    “ปั๊มหัวใจเร็ว!

    เมื่อได้รับคำสั่ง พยาบาลที่อยู่ใกล้ที่สุดก็รีบช่วยชีวิตทันที สองมือของเธอประสานกันไว้แล้วกดลงไปที่หน้าอกของยูเป็นจังหวะ เพราะการที่ยูเจ็บแบบนี้การใช้เครื่องปั๊มดูจะอันตรายเกินไป ทำให้ต้องใช้มือแทน

     

    ทว่าชีพจรของยูกลับเต้นอ่อนลงเรื่อยๆ เรื่อยๆ.. จนเหยียดเป็นเส้นตรง...

     

    ตื๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

     

     

     

     

    หน้าห้องฉุกเฉิน..

     

    “เฮือก!” อยู่ๆก็รู้สึกใจหายขึ้นมาอย่างประหลาด ปอจูระบายลมหายใจออกมาอีกครั้งอย่างเป็นห่วงคนในห้อง

     

    “เป็นอะไรเหรอปอจูซัง” เซนถามด้วยความเป็นห่วงก่อนจะลูบหลังอีกคนเบาๆ

     

    “เปล่า.. แค่รู้สึกโหวงๆนิดหน่อย”

     

    “คิดมากน่า.. ยูซังต้อ-..

     

    ครืด..

     

    ไม่ทันขาดคำบานประตูถูกเลื่อนออกโดยแพทย์เจ้าของไข้ของยูช้าๆ ช้ามากจนเธอใจเสีย ปอจูมองหน้าเฟอร์อย่างมีความหวัง

     

    “คุณ?.. ยูล่ะ หมอนั่นเป็นยังไงบ้าง?”

     

    “...” เฟอร์เงียบ ลำบากใจที่จะบอก

     

    “คุณ.. อย่าเงียบได้ไหม? ฉันใจไม่ดีเลยนะ”

     

    “ปอจู คุณใจเย็นๆก่อนนะครับ..” คนเป็นสามีพูดพลางทำท่าทางอึกอักก่อนจะเดินมาโอบภรรยาไว้ กอดเธอหลวมๆ ก่อนจะพูดด้วยเสียงแผ่วเบา “คุณคาโงะน่ะ.. ไปแล้วครับ..”

     

    “...” ปอจูอึ้ง เงียบไปทันทีที่ได้ยิน ม่านน้ำตาเริ่มบดบังภาพตรงหน้าแล้วไหลลงมาอาบแก้มช้าๆ มือเรียวถูกยกขึ้นมากลั้นเสียงสะอื้น “ฮึก..”

     

    แต่ถึงอย่างนั้นอีกคนก็ยังคงได้ยิน เขาพูดกับภรรยาช้าๆก่อนจะคลายกอดแล้วเปลี่ยนมากุมมือของอีกฝ่ายไว้

     

    “ผมช่วยเขาไม่ได้.. ผมขอโทษ..”

     

    “อึก.. ฮึก.. ฮึก...” ร่างโปร่งสะอื้นจนตัวโยน ทำให้คนที่อยู่ด้วยกรูกันเข้ามาปลอบแทบไม่ทัน ปอจูสะอื้นหนักมากและน้ำตาก็ไหลอาบแก้มไม่หยุด

     

    “ขอโทษครับ.. ขอโทษ.. คุณอย่าร้องไห้เลยนะครับ” อีกคนก็ยังคงพร่ำคำขอโทษไม่หยุด

     

    ปอจูส่ายหน้าเบาๆ “ไม่หรอก.. คุณไม่ผิด..”

     

    มือหนาถูกยกขึ้นมาเกลี่ยน้ำตาให้ภรรยาช้าๆ ก่อนที่เตียงเหล็กจะถูกเข็นออกมาโดยบุรุษพยาบาลคนเดิม เตียงที่มีร่างหนึ่งนอนสงบหนึ่งอยู่ภายใต้ผ้าสีขาวผืนบางนอนสงบนิ่งอยู่..

     

    เตียงนั้นค่อยๆถูกเข็นออกไปช้าๆ...

    โดยมีอีกคนที่สะอื้นไห้จนตัวโยน.. กระทั่งเตียงนั้นถูกเข็นจนลับตาไป..

     

     

     

     

    พรุ่งนี้เจอกันฉันจำได้ว่านั่นเป็นคำสุดท้ายที่ฉันได้ยิน...

    แต่ไม่นึกเลยว่านั่นจะเป็น.. คำบอกลาของนาย..

     

     

     

     

    หลับให้สบายนะ.. ยู..

     

    .....................

    บทจะแช่งตัวตนอีกด้านของตัวเองก็เอาซะอิ่มมาม่า

    ฮาาา ไรท์ไม่ได้ตั้งใจจ มันเป็นฟีลลิ่ง(?) #โดนโบก

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×