ตอนที่ 6 : Love You, My Herbivore - Chapter 6
ขายาวของหัวหน้ากรรมการคุมกฎรีบก้าวเดินออกมาจากโรงเรียนกลับไปยังแมนชั่นของคนรักอย่างอารมณ์เสีย ด้วยเพราะเจ้าพวกอันธพาลที่ตีกันในโรงเรียนนั้นยกพวกกันกลับไปก่อนที่ตนจะไปถึง ...เสียเวลาชะมัด
และเมื่อมาถึง ๆ ที่ ๆ ตนจากมาเมื่อสักครู่ ฮิบาริจึงรีบเปิดประตูเข้าไปหาเจ้าของห้องที่คาดว่าคงจะยังนอนขี้เซาอยู่บนเตียง แต่ทว่า...
...ไม่มีใครอยู่ในห้อง...
ฮิบาริรีบสาวเท้าก้าวเดินกลับไปยังโรงเรียนนามิโมริ ด้วยคิดว่าคนรักจะไปหาตนที่ห้องรับแขกถึงที่โรงเรียน ใบหน้าคมยิ้มไม่หุบเมื่อภาพของคนหน้าหวานจอมโวยวายเจ้าของหัวใจของตนลอยเข้ามาในหัว ยิ่งคิดถึงเรียวขายาวก็ยิ่งเร่งความเร็วในการเยื้องย่างขึ้นเรื่อย ๆ เพราะไม่อยากจะห่างกันเลยแม้แต่วินาทีเดียว..
มือหนาจับลูกบิดประตู รีบหมุนลูกบิดและเปิดประตูเข้าไป สายตาสอดส่องมองหาใครสักคนที่คิดว่าน่าจะมาอยู่ที่นี่ ...แต่กลับไม่มีคนอยู่
ฮายาโตะไม่ได้มาที่นี่!
...วูบหนึ่งที่ฮิบาริรู้สึกใจหายวาบ แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าคนรักของตนเคยพูดเปรยไว้ว่าจะไปเยี่ยมเจ้าห่วยสึนะที่เคารพนักหนาจึงพยายามไม่คิดอะไรมาก ...ฮายาโตะ อาจจะอยู่ที่บ้านเจ้าสัตว์น้ำนั่นก็ได้
คิดได้ดังนั้นแล้ว จึงรีบรุดไปยังสถานที่ ๆ ตนได้คาดการณ์ไว้
...แต่เมื่อไปถึง...
"เอ๊ะ โกคุเดระคุงไม่ได้มาที่นี่นะจ้ะ ลองไปร้านซูชิของพ่อยามาโมโตะสิ แม่เคยได้ยินซือคุงเล่าให้ฟังว่าเค้าชอบกินมากุโร่ที่สุดเลย อาจจะอยู่ที่นั่นก็ได้นะจ้ะ"
ฮิบาริ เคียวยะ เมื่อได้ยินคำบอกเล่าจากมารดาของคนที่ยังคงนอนป่วยอยู่ ความรู้สึกผิดแปลกบางอย่างก็แล่นเข้ามาในหัว
หรือว่าเจ้าสัตว์กินเนื้อนั่นมันจะฉวยโอกาสตอนที่เราไม่อยู่ แอบพาตัวฮายาโตะไป.. ไม่เข็ดอีกรึไงกัน
เท้าทั้งสองข้างสามัคคีกันทำงานอย่างขะมักเขม้น ....จากเดินธรรมดากลายเป็นเดินเร็วขึ้น ...จากที่เดินเร็วขึ้นก็กลายเป็นวิ่ง ...จากที่วิ่งธรรมดาก็กลายเป็นแทบจะพุ่งถลาไปยังทิศที่ตั้งของคนที่เป็นศัตรูหัวใจของตน ใจหนึ่งนึกขึ้นว่าหากตนหายตัวได้แบบเจ้าสายหมอกจอมหลอกลวงที่ตนเกลียดชังนักหนานั่นก็คงจะดีไม่น้อย ...บัดนี้จิตใจของฮิบาริ เคียวยะกระวนกระวายยิ่งกว่าเวลาปกติชนิดที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน หากเกิดอะไรขึ้นกับโกคุเดระ ตนจะไม่ยอมให้เจ้านักกีฬานั่นมีชีวิตอยู่ได้เลยแม้สักวินาทีเดียว
...ครืด...
"ทาเคซูชิ ยินดีต้อนรับคร้าบ!!! " เสียงใสของผู้อาวุโสที่สุดในร้าน อายุราว ๆ 42 ปีได้ ยามาโมโตะ สึโยชิ เจ้าของร้านทาเคซูชิ พ่อของชายหนุ่มนักเบสบอลประจำโรงเรียนนามิโมริเอ่ยทักทายทันทีที่ตนก้าวเข้ามาภายในร้าน
"ผมมาหายามาโมโตะ ทาเคชิ"
"อ้อ!! เพื่อนของเจ้าทาเคชิน่ะเอง วันนี้นัดกันมาทำธุระเรื่องงานสินะเนี่ย ฮะฮะ เมื่อกี้พ่อหนุ่มหน้าสวยก็มาคนนึงแล้ว เชิญข้างบนชั้นสองเลยนะพ่อหนุ่ม ตามสบายนะ ฮ่า ๆ "
หนุ่มหน้าสวยงั้นเรอะ ..ฮายาโตะไม่ผิดแน่
สมองบอกตัวเองว่าหนุ่มหน้าสวยที่อีกฝ่ายพูดถึงต้องเป็นคนที่ตนกำลังตามหาอยู่เป็นแน่ เพราะไม่มีผู้ชายคนไหนที่จะมีใบหน้าและรูปร่างสวยงามสะโอดสะองได้เท่ากับคนรักของตนอีกแล้ว ฮิบาริคิดพลางมองเจ้าของร้านที่ยังคงยืนปั้นซูชิอยู่ด้วยความร่าเริง ดูมีความสุขกับงานที่ทำเป็นนักหนา ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมยามาโมโตะถึงได้อารมณ์ดีอยู่ได้ตลอดเวลา
และเพราะความอารมณ์ดีที่มีมากจนเกินเหตุ เจ้าของร้านจึงไม่ได้รู้สึกเลยว่า ผู้มาเยือนนั้นจะมาด้วยจุดประสงค์ดีหรือร้ายกับลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของตน
ฮิบาริ รีบก้าวเดินขึ้นบันไดสู่ชั้นสองของตัวร้าน ยิ่งเดินก็ยิ่งรู้สึกถึงความสูงของบันใดที่มีมากขึ้น ...ใจหนึ่งหวังว่าสิ่งที่ตนคิดมันจะไม่เกิดขึ้น อีกใจหนึ่งกระวนกระวายหากต้องพบเจอกับสิ่งที่คาดไม่ถึง
และเมื่อขึ้นมาถึงชั้นสอง...
"อ๊ะ ยามาโมโตะ... อย่าเล่นบ้า ๆ อย่างนี้สิ อ๊ะ อ๊า! "
เสียงหยอกเย้ากระหนุงกระหนิงอย่างมีความสุขดังเล็ดลอดออกมาจากประตูบานหนึ่งเรียกความสนใจของผู้มาเยือนได้เป็นอย่างดี ...ปกติใครจะทำอะไร จะเป็นยังไง ฮิบาริ เคียวยะคนนี้จะไม่สนใจเลย หากว่าหนึ่งในสองเสียงนั้นจะไม่ใช่เสียงหวานหูที่ตนนั้นคุ้นเคยเป็นอย่างดี ...เสียงของโกคุเดระ ฮายาโตะ...
"ฮะฮะ ก็นายน่ารักขนาดนี้ ใครจะอดใจไหวกันล่ะ โกคุเดระ ขอกินหน่อยนะ"
และแค่ได้ยินชื่อ หัวหน้ากรรมการคุมกฎก็แทบจะทรุดตัวลงตรงหน้าประตู ขาเริ่มหมดแรงกำลังจะยืนไหว หูของเขาได้ยินไม่ผิดแน่ โกคุเดระมาที่นี่จริง ๆ และคงไม่ได้ถูกลักพามา คงเต็มใจมาเองเลยด้วย ฟังจากเสียงที่ดูมีชีวิตชีวาและดูมีความสุขอย่างเหลือล้นนั่น...
แล้วจู่ ๆ เสียง ๆ หนึ่งก็ดังก้องเข้ามาในหัว
...เข้าไปดูให้เห็นกับตาสิ... นายน่ะไม่ใช่คนที่เชื่ออะไรง่าย ๆ นี่
ฮิบาริจึงทำตามที่เสียงในหัวบอก มือหนาจึงยื่นออกไปเปิดประตู ...และเมื่อบานประตูถูกเปิดออก ภาพที่เห็นทำเอานัยน์ตาสีนิลไหววูบ น้ำตาลูกผู้ชายเริ่มเอ่อล้นตรงขอบตา มือทั้งสองข้างกำแน่น เจ็บปวดยิ่งกว่าความเจ็บใด ๆ ที่เคยได้รับ...
ภาพของโกคุเดระ กับยามาโมโตะกำลังกอดก่ายเย้าหยอกกันกระหนุงกระหนิงปานคู่รักที่เพิ่งแต่งงานกันใหม่ ๆ เป็นภาพแรกที่เขาเห็นเมื่อเปิดประตูมองเข้าไป
"ฮิบาริ!!! "
โกคุเดระหันมาหาชายคนรักด้วยความตกใจ ใบหน้าสวยถอดสี...
"............"
เพียงไม่นาน เมื่อตั้งสติได้... ฮิบาริลุกขึ้นยืนเต็มความสูง แสยะยิ้มมองหน้าเจ้าของร่างบอบบางข้างใต้ชายหนุ่มนักกีฬาด้วยความสมเพช
"หึ แกคิดว่ามาไม้นี้แล้วชั้นจะเชื่อแกเหรอไอ้พืชล้มลุก อย่าลืมสิว่าฉันน่ะ ...เกลียดภาพลวงตามากที่สุด ภาพลวงตาถึงทำอะไรไม่ได้ยังไงล่ะ"
...ร้ายจริงมุคุโร่ เมื่อกี้ฉันยังวูบคิดว่าภาพที่เห็นเป็นเรื่องจริงเลย แต่มีเหรอที่ฉันจะไม่รู้ว่ารอยที่ฉันทำไว้มันอยู่ตรงไหนบ้าง
"แกพลาดแล้วล่ะ ...ออกมาเดี๋ยวนี้ ไอ้พืชไร่! "
ฉับพลันร่างของโกคุเดระที่นอนอยู่ภายใต้เรือนกายกำยำของยามาโมโตะ ทาเคชิก็กลายเป็นหมอกสลายหายไป สายตาสีดำกวาดมองไปรอบ ๆ ห้องมองหาตัวการสร้างภาพ แล้วเสียงของคนที่ตนรังเกียจมากที่สุดก็ดังออกมาจากทางด้านหลังของตน ...เสียงของมุคุโร่
"คึหึหึ เก่งจังเลยนะครับฮิบาริ เคียวยะ ...ช่วยแสร้งทำเป็นเชื่อสักหน่อยก็ไม่ได้ ...แต่ก็เกือบแล้วนี่นะ"
"ไม่มีทาง... พวกแกต้องการอะไรถึงใช้วิธีสกปรกแบบนี้ แล้วสัตว์กินพืชของฉันล่ะ พวกแกเอาไปไว้ที่ไหน"
"ผมไม่ได้พาคนรักของคุณไปไหนนี่ครับ นั่นน่ะมันภาพลวงตาของผมเอง ไหนบอกว่าภาพมายาทำอะไรคุณไม่ได้ยังไงล่ะ แล้วทำไมเรื่องแค่นี้กลับดูไม่ออกกันล่ะครับ... คุณฮิบาริ เคียวยะ"
"ฮะฮะ ส่วนฉันก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากมายหรอกนะ แค่ฉันอยากจะเอาโกคุเดระของฉันคืน ..ก็เท่านั้นเอง"
ยามาโมโตะเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงที่เย็นเยือก สีหน้าท่าทางบ่งบอกว่าคน ๆ นี้เอาจริง แตกต่างจากเสียงหัวเราะที่เปล่งออกมายิ่งนัก
"ฮายาโตะไม่ใช่ของแก! "
หัวหน้ากรรมการคุมกฎพูดพลางชักอาวุธคู่กายออกมาเตรียมจะใช้งาน ในขณะที่ชายหนุ่มเจ้าของห้องคว้าดาบชิงุเระโซเอ็นที่วางอยู่ใกล้ ๆ ออกมาถือกระชับไว้ในมือแน่น ส่วนสายหมอกมากเล่ห์ก็คว้าสามง่ามอาวุธประจำกายของตนออกมาจ่อไว้ที่ท้ายทอยของหัวหน้ากรรมการคุมกฎ ...จิตสังหารดำมืดแผ่กำจายออกมาจากคนทั้งสาม ...สองต่อหนึ่ง
"เจ้าบ้าคุมกฎนั่นจนป่านนี้ยังทำธุระไม่เสร็จอีกรึไงกันนะ" เสียงหวานพร่ำบ่นหาชายคนรักที่ไปทำธุระตั้งนานแล้วจนป่านนี้ก็ยังไม่กลับมาสักที สายตาเหลือบไปมองนาฬิกาตรงหัวเตียงทำให้รู้ว่านี่มันเย็นมากแล้ว
ไปเยี่ยมรุ่นที่สิบดีกว่า
คิดได้ดังนั้นแล้วจึงรีบลุกขึ้นแต่งตัวแล้วรีบรุดออกไปจากห้องของตนทันที
"แฮ่ก ๆ " .... เสียงหอบหายใจ และไอร้อนจากร่างกายด้วยความเหนื่อยจากการต่อสู้ที่กินระยะเวลานานของบุคคลทั้งสามยังคงอบอวนอยู่รอบบริเวณสวนสาธารณะประจำเมืองนามิโมริ เพราะการต่อสู้อันดุเดือดจึงไม่สามารถใช้สถานที่แคบ ๆ อย่างในร้านซูชิเล็ก ๆ ได้...
ฮิบาริ เคียวยะมองหน้าสัตว์กินพืชทั้งสองคนที่ช่วยกันรุมตัวเองอยู่ด้วยความเหน็ดเหนื่อย เพราะแม้แต่คนที่แข็งแกร่งที่สุดก็มีพละกำลังจำกัด ยิ่งคู่ต่อสู้ที่ฝีมือไม่ธรรมดามารวมตัวกันด้วยแล้ว ยิ่งสร้างความลำบากให้แก่หัวหน้ากรรมการคุมกฎเพิ่มขึ้นอีกเป็นสองเท่า แม้หนึ่งในนั้นจะยังคงบาดเจ็บเพราะแผลเก่าที่ตนเคยทำไว้อยู่บ้างก็ตาม...
ป่านนี้รุ่นที่สิบจะเป็นยังไงบ้างนะ เป็นมือขวาที่แย่จริง ๆ เลยเรา ท่านรุ่นที่สิบป่วยมาตั้งวันกว่าแล้วเพิ่งจะไปเยี่ยม เพราะเจ้าบ้าคุมกฎนั่นแท้ ๆ ...นี่ก็ยังระบม ๆ อยู่เลย ...ตาบ้านี่
มือขวาหน้าสวยคิดพลางยิ้มกรุ้มกริ่มไปพลาง เมื่อนึกถึงสาเหตุที่ชายคนรักทำให้ตนไม่ได้ไปเยี่ยมรุ่นที่สิบที่เคารพ
แต่ระหว่างทางที่กำลังเดินไป...
"นี่เธอ เมื่อกี้มีนักเรียนตีกันที่สวนสาธารณะอีกแล้วล่ะ"
"โอ้ย เด็กพวกนี้ ตีกันไม่เว้นแต่ละวันเลย คราวนี้เป็นโรงเรียนไหนล่ะ"
"ไม่รู้เหมือนกัน วันนี้เป็นวันหยุดไม่มีเด็กที่ไหนใส่เครื่องแบบนักเรียนหรอก แต่มีอยู่คนนึงนะยังใส่ชุดนักเรียนอยู่เลย เด็กโรงเรียนนามิโมริล่ะ ที่แขนติดป้ายกรรมการคุมกฎไว้ด้วย กำลังโดนเด็กอีกสองคนรุมล่ะ สองคนนั้นก็ร้ายไม่เบานะ ใช้อาวุธด้วย เป็นดาบกับสามง่ามน่ะ คงกะจะเอาให้ตายกันไปข้างนึงเลยล่ะมั๊ง อันตรายจริง ๆ สังคมสมัยนี้"
กรรมการคุมกฎ? หรือว่าจะเป็น.. ฮิบาริ แล้วดาบกับสามง่ามนั่น ..อย่าบอกนะว่า...!!
เมื่อนึกได้ว่ากรรมการคุมกฎและชายที่ถืออาวุธทั้งสองชนิดที่คนพวกนั้นพูดถึงอาจจะเป็นชายคนรักของตนและคนที่ตนรู้จักดี จึงรีบวิ่งไปยังสถานที่ ๆ ได้ยินมา
เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ โกคุเดระเห็นฮิบาริ มุคุโร่ และยามาโมโตะกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด แต่ดูท่าว่าคนรักของตนจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ จึงรีบวิ่งเข้าไปหมายจะห้ามปรามคนทั้งสามให้หยุดการต่อสู้
"หยุดนะ!!! "
ตึก ๆ ๆ
ขาเรียวรีบวิ่งไปยังจุดที่ชายคนรักของตนยืนอยู่ด้วยหมายจะไปยืนอยู่ข้าง ๆ
ทำไมสองคนนั้นถึงได้ใช้วิธีการอย่างสุนัขจรจัดแบบนี้
"เคียวยะ!!!!! "
ริมฝีปากบางร้องตะโกนเรียกหัวหน้ากรรมการคุมกฎหมายจะให้หันมามองที่ตนและให้หยุดการต่อสู้
"ฮายาโตะ!! "
ฮิบาริ เมื่อได้ยินเสียงหวานของคนที่ตนรักมากที่สุดจึงหันไปหาต้นเสียง แต่แล้ว...
ฉึก!!!
"เคียวยะ!!!!!!!!!!!! "
เสียงดาบญี่ปุ่นคมกริบเสียบทิ่มแทงเข้ามาจากทางด้านหลังของชายผู้ที่ได้ชื่อว่าแข็งแกร่งที่สุดในโรงเรียนนามิโมริ ฮิบาริเคียวยะทรุดตัวลงกับพื้น ของเหลวแห่งชีวิตสีแดงสดไหลนองเต็มพื้นส่งกลิ่นคาวคละคลุ้งไปรอบบริเวณ แต่คนแทงก็ยังคงไม่ชักดาบออกมา ยังคงใช้อาวุธของตนเสียบลงไปให้ลึกมากขึ้นกว่าเดิม ไม่สนใจอีกแล้วว่าคนที่ตนแอบรักนั้นจะเกลียดตนขนาดไหน ในเมื่อเห็นขนาดนี้แล้ว
ในเมื่ออยากได้ก็ต้องได้...
โกคุเดระที่กำลังวิ่งไปหาหัวหน้ากรรมการคุมกฎถึงกับชะงัก สายน้ำแห่งความโศกเศร้าเอ่อล้นออกมาจากดวงตาคู่สวยหลั่งรินออกมาเรื่อย ๆ ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ดวงตาสีเขียวขุ่นมัวหันไปมองเพื่อนที่เคยสนิทด้วยสายตาเคียดแค้น
"ยามาโมโตะทาเคชิ แกปล่อยเคียวยะเดี๋ยวนี้นะ! "
คนที่ถูกเรียกหันไปหาคนต้นเสียง ...ต้นเสียงที่เรียกชื่อตนแตกต่างจากที่เคยเรียก เสียง... ที่แสดงถึงความห่างเหินและความชิงชัง...
"นายคงจะโกรธฉันมากเลยสินะ ถึงได้เรียกชื่อฉันซะเต็มยศขนาดนั้น ...โกคุเดระ เอาเลย โกรธฉัน เกลียดฉันให้มากที่สุด ในเมื่อตอนนี้ฉันกลายเป็นคนเลวเต็มรูปแบบล้ว ฉันเป็นคนฆ่าเจ้าบ้าคุมกฎของนายได้แล้ว..."
ยามาโมโตะชักดาบออกจากตัวฮิบาริออกอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้คนที่ยังนอนหายใจรวยรินสะดุ้งเฮือกแต่ก็ยังคงไม่เปล่งเสียงใด ๆ ออกมา ด้วยเพราะความอดทนต่อความเจ็บปวดที่มีมากล้น ได้แต่นอนไร้เรี่ยวแรงอยู่อย่างนั้น
โกคุเดระรีบวิ่งไปประคองชายคนรักของตน ดวงหน้าหวานซบลงตรงแผงอกที่บัดนี้ถูกแต่งแต้มไปด้วยเลือดจนใบหน้าขาวสวยและเส้นไหมสีเงินเปรอะเปื้อน สีหน้าเต็มไปด้วยความหวาดวิตก น้ำตาที่มีมากอยู่แล้วยิ่งไหลรินมากขึ้นกว่าเดิม
"ยะ อย่าเป็นอะไรไปนะไอ้บ้าคุมกฎ เราเพิ่งคบกันได้แค่วันเดียวเอง"
"คะ แค่ ..วันเดียว ...ก็พอแล้ว ที่ฉัน..ได้คบกับแก ร...รักแก ...ฮายาโตะ"
"ฉันก็รักแกนะ ย...อย่าพูดแบบนั้นสิ ...มันต้องไม่ใช่แค่วันเดียว แต่ตลอดไปเลยต่างหาก แกเป็นคนใจแข็งไม่ใช่เหรอ แข็งใจไว้อีกนิดนะ เดี๋ยวฉันจะโทรเรียกรถพยาบาลมาเดี๋ยวนี้แหล่ะ อ๊ะ!!! "
แต่ยังไม่ทันที่มือบางจะคว้าโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงได้ ก็ถูกใครอีกคนฉุดกระชากเรียวแขนขาวให้ลุกขึ้น ลำตัวบางถูกโอบกอดไว้แนบแน่นจนแทบหายใจไม่ออก
"ปล่อยมันไว้อย่างนั้นแหล่ะ ...โกคุเดระ นายต้องมากับฉัน"
"ไม่!!! ปล่อยฉันนะไอ้เลว อย่าหลับตานะเคียวยะ!! ฉันรักแก ..รัก อุ๊บ! "
ริมฝีปากสีระเรื่อถูกปิดไว้ด้วยมือหยาบของคนที่หมายเอาชีวิตคนรักของตน เสียงที่จะเอื้อนเอ่ยถูกกักกั้นไม่ให้เปล่งออกมาได้มากกว่านี้ เพราะคนที่โอบร่างบอบบางนี้ไว้ไม่อยากจะได้ยินคำรักที่ไม่ใช่ของตน ...ที่มันไม่ใช่ของยามาโมโตะ ทาเคชิ
"อื้อ ๆ ๆ " ริมฝีปากที่ยังคงถูกกดปิดร่ำร้องถึงชายคนรักที่ยังคงนอนแน่นิ่ง แม้เสียงที่เล็ดลอดออกไปจะอู้อี้จนฟังไม่ได้ศัพท์เลยก็ตาม...
ชายหนุ่มนักกีฬาอุ้มเรือนกายสีน้ำนมพาดบ่าเดินออกไปจาก ณ ที่ตรงนั้นโดยไม่สนใจเสียงร้องไห้ฟูมฟายและเสียงด่าทอของคนบนบ่า ปล่อยให้ที่เหลือเป็นหน้าที่ของสายหมอกจอมมารยา...
To Be Continued............
อ้ากกก!!! หลบรองเท้า ขวด ก้อนหิน และสหบาทา/// ทำไมทำกับทั่นฮิอย่างนี้ล่ะไรเตอร์
ยังค่ะ ทั่นฮิจะไม่เป็นอะไร ถึงแม้จะเป็นอะไรไปแล้วก็เถอะ แต่ยังไง ๆ ก็ไม่เป็นอะไรแน่นอน (เอ๊ะ???) แต่อย่าลืมนะว่าไผเป็นพระเอก แหะ ๆ อย่าว่าแต่รีดเดอร์เลย ไรเตอร์เองยังพิมพ์ไปกำหมัดแน่นแค้นแทนหนูก๊กไปด้วยเหมือนกัน
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ไปเลยค่ะ แรร์ มาก
มุคุแย่งเลย ยามะแย่งเลยอยากเห็นทุกคนรุมแย่งหนูก๊ก
คนสวยก้เงี้ยย ><
อ๊ะ...ควบสองเลยก็ได้นะ #ผิด