ตอนที่ 12 : Love You, My Herbivore - Chapter 12 (End)
...เรื่องราวทุกอย่างจบลงแล้ว เคนและจิคุสะถูกนำตัวกลับไปขังไว้ที่คุกวินดิเช่อีกครั้ง ส่วนโคลมถูกนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล...ในขณะที่มุคุโร่โดนบังคับให้กินยาเม็ดชนิดพิเศษที่ทำให้ไม่สามารถถอดร่างออกไปไหนได้อีก
...สายหมอกจอมมายาถูกพันธนาการอยู่ในคุกน้ำดำมืดไม่สามารถพบเจอแสงสว่างได้อีกต่อไป...
โรงพยาบาลนามิโมริ บริเวณลานจอดรถ
ดีโน่ สึนะ รีบอร์น และยามาโมโตะ กำลังคุยกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากที่ออกมาจากการเข้าเยี่ยมฮิบาริแล้ว ยามาโมโตะเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ทุกคนฟัง และยอมรับความผิดที่ตนได้ทำไป เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่ามุคุโร่จะมีแผนชั่วร้าย ...เขาเองที่หลงเข้าไปในเกมของมุคุโร่ จนทำให้แฟมิลี่ต้องตกอยู่ในอันตราย
"ขอโทษนะ สึนะ ฉันยอมรับผิดทุกอย่าง จะให้ฉันทำอะไรก็ได้ จะพาฉันไปขังที่คุกมาเฟียอะไรนั่นก็ได้ ฉันรู้ตัวแล้วว่าฉันผิด ฉันไม่ได้ตั้งใจจะให้เป็นแบบนี้ เรื่องมันเลวร้ายกว่าที่ฉันคิดไว้มาก ขอโทษจริง ๆ"
นักกีฬาเบสบอลว่าพลางก้มหัวให้เพื่อนตัวเล็กหลาย ๆ รอบ เพราะยอมรับในสิ่งที่ตนทำ เขานึกไม่ออกเลยว่าถ้ามุคุโร่ไม่หักหลังเขาซะก่อน ต่อไปโกคุเดระที่อยู่ในกำมือเขานั้นจะมีสภาพเป็นอย่างไร ...เขาอาจกักขังเจ้านกน้อยสีเงินเอาไว้ให้อยู่กับตัวเองไปตลอดโดยไม่บอกใครก็เป็นได้ และโกคุเดระอาจไม่มีความสุขไปตลอดชีวิตเพราะฝีมือของเขาเอง...
"ไม่เป็นไร ๆ ยามาโมโตะคุง เลิกทำอย่างนี้ได้แล้ว ฉันรู้มานานแล้วว่านายแอบชอบโกคุเดระคุง แต่ก็ไม่คิดว่าจะทำแบบนี้ ...ยังไงก็ช่างเถอะ ฉันเข้าใจนายนะ"
คนตัวเล็กว่าพลางเอื้อมมือไปตบไหล่เพื่อนตัวสูงกว่าเป็นการให้อภัย ...อย่างน้อยเรื่องราวที่เกิดในครั้งนี้ก็ได้สอนอะไรหลาย ๆ อย่างให้กับยามาโมโตะ และอย่างน้อยก็ไม่มีใครเป็นอะไรจากเหตุการณ์นี้
...ยกเว้นใครบางคนที่จะไม่หายดีง่าย ๆ และอาจจะเป็นอะไรไป เพราะความดื้อรั้นที่ไม่ยอมกินอาหารผู้ป่วยนี่แหล่ะ...
โรงพยาบาลนามิโมริ ภายในห้องผู้ป่วยหมายเลข 18 (อีกครั้ง)
"นี่ อ้าปากสิ ไอ้บ้าคุมกฎ" เสียงหวานใสของโกคุเดระเอ่ยเรียกชายคนรักที่ยังคงกึ่งนั่งกึ่งนอนทำหน้านิ่งอยู่บนเตียงคนไข้ คนป่วยตัวดีคนนี้ไม่ยอมอ้าปากกินข้าวต้มร้อนที่ตัวเองเอามาป้อนให้
คนอะไร ดื้อจริง ๆ ขนาดพามาหาหมอหลังจากจบเรื่องแล้วก็ยังไม่วายบังคับให้เขาอยู่เฝ้าไม่ยอมให้ออกไปไหน แม้กระทั่งจะลงไปซื้ออาหารที่ร้านใกล้ ๆ โรงพยาบาลยังไม่ให้ไป ...มีอะไรก็ให้คุซาคาเบะไปแทนตลอด... จะไปโรงเรียนยังไปไม่ได้...นี่มันจะมากเกินไปมั้ยเนี่ย
"เคียวยะ..." น้ำเสียงเรียบนิ่งของคนที่อยู่บนเตียงคนไข้เอ่ยขึ้น... เรียกให้คนที่นั่งเฝ้าหันมามองด้วยความสงสัย
"อะไร"
"ฉันบอกให้เรียกเคียวยะ"
...ก็แค่อยากอ้อน
"เออ ๆ เคียวยะ"
"พูดใหม่ทั้งหมดตั้งแต่แรกสิ เจ้าสัตว์กินพืชฮายาโตะ"
"แกก็เรียกฉันธรรมดาไม่ต้องมีสัตว์กินพืชได้มั๊ยล่ะ ถ้าทำได้ฉันจะพูดใหม่ทั้งหมดตั้งแต่แรกเลย"
เสียงหวานใสต่อรองอีกฝ่ายที่เห็นคนอื่นเป็นสัตว์กินพืชไปซะหมด นี่เขาก็กินเนื้อได้เหมือนกันนะ
"พูดใหม่ทั้งหมดตั้งแต่แรกสิ ...ฮายาโตะ"
"เออ! มันต้องอย่างนี้! ...อะนี่ ๆ อ้าปากสิ ไอ้บ้า ..เคียวยะ"
ข้าวต้มร้อน ๆ ที่ถูกเป่าจนอุ่นให้พอกินได้ถูกป้อนเข้าไปในปากหัวหน้ากรรมการคุมกฎอย่างช้า ๆ ด้วยเพราะคนป้อนกลัวมันจะไม่อุ่นพอ ...คนที่ถูกเรียกว่าเคียวยะที่อ้าปากรออยู่นานแล้วจึงเริ่มทนไม่ไหว จับมือของอีกฝ่ายให้เข้ามาใกล้กว่าเดิมแล้วจึงจัดการอาหารในช้อนจนหมดด้วยความรวดเร็ว ...เขาค่อย ๆ กลืนกินสิ่งที่อยู่ในปากด้วยใบหน้าที่ไม่ค่อยจะพอใจนัก จึงช้อนตามองคนรักแล้วพูดขึ้นว่า
"ข้าวต้มปลานี่ไม่อร่อยเลย"
"ไม่อร่อยก็ต้องกิน แกน่ะเป็นคนป่วย สำเหนียกตัวเองหน่อย ไอ้คนไข้แหกโรงพยาบาล!"
เสียงใสบ่น... ยังไม่หายดีแท้ ๆ ยังจะหนีไปหาเรื่องเดือดร้อนให้ตัวเองต้องเจ็บตัวเพิ่มอีก
"แหกเพื่อไปช่วยสัตว์กินพืชงี่เง่าที่ไหนก็ไม่รู้ ...อยู่ดี ๆ ก็วิ่งมาให้คนอื่นจับตัวไป แย่ ๆ"
ได้ทีแซวกลับอย่างไม่ยอมรับความผิด
"ก็วิ่งไปหาแกนั่นแหล่ะ ไอ้บ้า"
อยู่ดี ๆ ความเงียบก็เข้ามาปกคลุม ภาพเหตุการณ์ที่สวนสาธารณะในครั้งนั้นหวนกลับเข้ามาในสมองของคนทั้งคู่ ...เหตุการณ์ที่ทำเอาหัวใจทั้งสองดวงหล่นวูบ ความรู้สึกเจ็บปวดเมื่อต่างก็คิดว่าตนเองสูญเสียคนรักไปแล้วจริง ๆ ก็กลับมาด้วย...
ต่างคนต่างมองหน้ากันพร้อมด้วยหยาดน้ำเม็ดเล็กที่เอ่อล้นตรงขอบตา... ไม่มีใครพูดอะไรจนกระทั่ง...
"เจ้าสัตว์กินเนื้อนั่น ไม่ได้ทำอะไรแกใช่มั้ย"
คนถามเอ่ยพร้อมหันไปมองคนรักด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย ...ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาก็ยังรักเจ้าคนหัวเงินคนนี้อยู่ดี
...ก็แค่อยากรู้
"ก็เกือบแล้วล่ะ ...เอ้า กิน ๆ เข้าไป อีกนิดเดียวก็จะหมดแล้ว"
...เปลี่ยนเรื่องคุย ไม่อยากนึกถึง
"ป้อนให้หน่อย..." คนป่วยพูดพร้อมชายตามองคนที่ถือช้อนข้าวต้มอีกคำหนึ่งคาไว้ด้วยสายตาที่พยามจะทำให้ดูเหมือนแมวขี้อ้อนมากที่สุด แต่ไม่รู้ว่าทำอีท่าไหน สายตาสีดำที่อีกคนเห็นนั้นมันถึงได้เหมือนเสือที่เตรียมจะขย้ำเหยื่อยังไงยังงั้น
...อยากกินคนตรงหน้ามากกว่า
"ก็ป้อนอยู่นี่ไง จะเอาอะไรอีกหา" สายตาสีมรกตจ้องมองเจ้าคนป่วยเอาแต่ใจอย่างเอาเรื่อง
...เรื่องมากดีนัก เดี๋ยวเอาระเบิดยัดปากซะเลย ถ้าไม่ติดว่าเป็นคนป่วยนะ!
"ป้อนแบบปากต่อปากสิ... เมาท์ทูเมาท์น่ะ"
ริมฝีปากหนาเหยียดยิ้มเจ้าเล่ห์มองหน้าคนป้อนอย่างเป็นต่อ ...คนป่วยจะเรียกร้องอะไรย่อมไม่ผิด ทำเอาเจ้าของใบหน้าสวยถึงกับหน้าขึ้นสีระเรื่อ
จะว่าไป เจ้าบ้านี่ก็มีมุมน่ารัก ๆ กับเค้าด้วยเหมือนกันแฮะ
"กะ แกจะบ้าเหรอ!! นี่มันโรงพยาบาลนะ สำรวม ๆ หน่อย ไอ้คนไข้ไม่เจียมตัว"
ริมฝีปากบางพูด พร้อมเสมองไปทางประตูด้วยกลัวว่าใครจะเข้ามาเห็นแล้วหันกลับมาจ้องหน้าคนไข้จอมเอาแต่ใจ
"ไม่มีใครเห็นนี่ ฮายาโตะ ...จ๋า" หางเสียงสุดท้ายที่ได้ยินทำเอาคนที่ได้ฟังถึงกับห้ามตัวเองไม่ให้หลุดขำออกมาไม่ได้ ก็คนอย่างฮิบาริน่ะ เคยพูดจาแบบนี้ซะที่ไหน ...
"เออ!! ก็ได้โว้ย ทีเดียวนะ นี่ถ้าไม่เห็นว่าป่วย ไม่ทำให้หรอกนะ" ว่าเสร็จใบหน้าสวยก็ก้มลงประทับริมฝีปากของตนกับอีกฝ่าย แล้วรีบผละออกมาอย่างรวดเร็ว ...เขาก็อายเป็นเหมือนกันนะ!
แต่ว่า...
"เดี๋ยว..."
"อะไรอีก"
"เอาแบบเมาท์ทูเมาท์สิ" เจ้าของเสียงทุ้มเรียกร้องอย่างเอาแต่ใจ ในเมื่ออีกฝ่ายทำผิดโจทย์ที่ตั้งเอาไว้
...ป้อนแบบเมาท์ทูเมาท์ ไม่ใช่การจูบสักหน่อย
"ก็ทำให้แล้วไงเล่า จะเอาอะไรอีกไอ้บ้านี่ เดี๋ยวก็ให้คุซาคาเบะมาป้อนให้ซะเลย"
"ก็ป้อนแบบเมาท์ทูเมาท์ไง ...เมื่อกี้มันไม่ใช่นี่"
".ช่วยไม่ได้นี่ ก็แกอยากบอกไม่ชัดเจนเอง ถือว่าทำไปแล้วก็แล้วกัน"
...ความจริงก็รู้นะ ว่าต้องการอะไร ...แต่คนมันเขิน เข้าใจมั้ย
"อ๊ะ!! นี่ ไอ้เคียวยะบ้า แกจะทำอะไรน่ะ ปล่อยเดี๋ยวนี้เลย อึดอัดนะเว้ย" ร่างบอบบางดิ้นขลุกขลักเมื่อลำตัวของตนถูกแขนข้างหนึ่งของคนป่วยรวบเข้ามากอดจนทั้งตัวทั้งใบหน้าเริ่มชิดกัน ให้สายตาสีเขียวและสีดำจดจ้องมองกันและกันอยู่เนิ่นนาน...
"ไม่ปล่อย ต้องป้อนแบบเมาท์ทูเมาท์ก่อน ถ้าไม่อย่างนั้น ฉันจะกินแกแทน ในโรงพยาบาลนี่ล่ะ"
คนป่วยเอาแต่ใจยื่นคำขาด พร้อมส่งสายตาหื่นกระหายไปให้เจ้าคนขี้โวยวาย ...ในเมื่อที่นี่ไม่ใช่โรงเรียนที่เขารัก... เขาก็ไม่จำเป็นต้องสนใจ
เจ้าของใบหน้าหวานมองหน้าชายคนรักและรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้พูดเล่น จึงตัดสินใจยอมทำตามคำขอร้องแกมบังคับของอีกฝ่าย วายุแสนสวยตักข้าวต้มที่เวลานี้ชักจะเริ่มอุ่นลงแล้วเข้าปากตัวเอง แล้วใช้สายตามองหน้าอีกฝ่ายค้อน ๆ เป็นสัญญาณว่าให้อ้าปากได้
เรียวลิ้นร้อนไล้เลียละเลียดเอาสิ่งที่เรียกว่าอาหารคนป่วยเข้ามาในปากของตัวเองแล้วกลืนกินเข้าไปจนหมดแต่ก็ไม่ยอมละจากอีกฝ่ายเสียที ในเมื่อรสชาติของคนรักนั้นหอมหวานเสียยิ่งกว่าข้าวต้มด้วยซ้ำ
...เป็นใคร ๆ จะอดใจไหว...
เรียวลิ้นร้อนของคนป่วยจึงเริ่มรุกไล่อีกฝ่ายที่เริ่มอ่อนแรงจากการถูกรุกราน ดวงหน้าหวานร้อนผ่าว อุณหภูมิที่ใบหน้าเริ่มสูงขึ้นอย่างกับจะสุกให้ได้ ...ทั้งหมดที่คนที่ตัวเองชอบเรียกว่าไอ้บ้าคุมกฎกำลังทำนั้นเรียกความรู้สึกบางอย่างให้ปะทุออกมาได้เป็นอย่างดี
"คุซาคาเบะเฝ้าข้างนอกไว้ อย่าให้ใครเข้ามาได้นะ"
[ครับ]
"นี่แกจะทำอะไรของแกน่ะ!แกยังกินไม่หมดเลยนะ ยาหลังอาหารด้วย" เจ้าของใบหน้าสวยหันไปแว้ดใส่เจ้าคนป่วยที่เพิ่งโทรไปบอกคุซาคาเบะไม่ให้มีใครเข้ามารบกวนตนได้ ...นี่คิดจะทำอย่างนั้นกันที่นี่จริง ๆ เลยใช่มั๊ย
"ช่วยไม่ได้ แกอยากน่ากินเอง ...อยากให้ฉันกินให้อิ่มไม่ใช่เหรอ"
"มะ มันก็ใช่ แต่ไม่ใช่แบบนี้นี่ แล้วทางโรงพยาบาลล่ะ มาทำแบบนี้ในโรงพยาบาลมันไม่ดีเลยนะ ปล่อยเลยนะ ไอ้เคียวยะบ้า"
"ขอกินปลาหมึกหน่อยไม่ได้หรือไง ...ใจร้ายจังนะฮายาโตะ คนเค้าเป็นห่วงแทบแย่ อีกอย่าง ...โรงพยาบาลนี้ ฉันเป็นคนคุ้มครองอยู่ ไม่มีใครมาว่าเราได้หรอก"
คนพูด ๆ อย่างถือสิทธิ์ ...สิทธิ์ในโรงพยาบาล และสิทธิ์ในตัววายุแสนสวยเอง
"ขอกินหน่อยนะ"
พูดไม่พูดเปล่า...
"อ๊ะ อ๊า ไอ้บ้า เคียวยะ!"
แล้วเสียงเพลงรักที่บรรเลงโดยคนทั้งสองก็ดังเล็ดลอดออกมาให้คนข้างนอกได้ยิน ...ฮิบาริ เคียวยะ ตั้งใจจะประกาศตัวอย่างเปิดเผยกับคนในโรงพยาบาล และทุกคนที่มาเยี่ยม ว่า ...โกคุเดระ ฮายาโตะ เป็นคนรักของเขา และจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาทำร้าย ทำลายคนที่เขารักได้อีกเป็นอันขาด...
Story never ends............
สวัสดีค่า รีดเดอร์ที่น่ารัก ...จบ จบแล้วค่า 555 ไรเตอร์ยอมรับนะ ว่ายังแต่งไม่ได้เก่งอะไรมาก เนื้อเรื่องมันอาจจะดูไม่ซับซ้อนอะไร แต่นี่คือฟิคเรื่องแรก และวางพล็อตเอาไว้แบบนี้จนจบตั้งแต่แรกแล้ว
ขอบคุณที่ติดตามกันมาตลอด ขอบคุณนักอ่านทั้งที่คอมเม้นท์และไม่คอมเม้นท์ ขอบคุณจริง ๆ ค่ะ ไรเตอร์จะพยายามปรับปรุงงานเขียนให้ดีขึ้นกว่านี้นะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

อ้ากกกกกกก
เคียวยะอย่าเป็นอะไรไปนะ
น้องก๊กจะเป็นม่าย
ฮืออ
มุคุอย่าทำอะไรท่านฮินะเว้ยยยย