ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ฝันที่เป็นจริง
ตอนที่ 2
เช้าวันรุ่งขึ้น โอ๋ตื่นขึ้นมาก่อนจึงปลุกแป้งให้ตื่นขึ้นมา แต่แป้งกลับอิดออดไม่ยอมตื่นท่าเดียว
    “แป้งตื่นได้แล้ว สายแล้วนะ”
    “อีกนิดเดียวน่านะ” แป้งพูดพร้อมเอาหมอนปิดหู
    “ไม่ได้ ตื่นเดี๋ยวนี้นะ”
    “โอ๋ลงไปก่อนเถอะ เดี๋ยวเราตามไป”
    โอ๋รู้นิสัยเพื่อนคนนี้เป็นอย่างดี เธอจะตี่นได้เมื่อมีสิ่งเร้าให้เธอสนใจ โอ๋จึงแกลังเปิดประตูแล้วตะโกนออกไปว่า
    “สวัสดีคะพี่โจ้ พี่มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”
    เพียงคำพูดประโยคแรกเท่านั้นแหละ แป้งก็สะดุ้งตัวขึ้นมาทันที
    “ไหน ๆ พี่โจ้มาหรือโอ๋”
    โอ๋ขำในท่าทีของเพื่อนที่รีบลุกขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินเสียง
    “เปล่าหรอกจ๊ะ และแล้วเพื่อนเราก็ตื่น เร็วรีบไปอาบน้ำแต่งตัวเร็ว”
    “จำไว้เลยนะ หลอกเพื่อนอย่างนี้ อย่าให้เจอกับตัวเองบ้างหละ”
    แป้งและโอ๋อาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ลงมาทานข้าวเช้ากัน ระหว่างที่ทานกันอยู่นั้นก็มีคนมากดออดหน้าบ้าน แป้งจึงอาสาออกไปดู
    “เดี๋ยวแป้งออกไปดูให้คะ พ่อกับแม่ทานข้าวต่อไปเถอะคะ”
    แป้งพูดเสร็จก็วิ่งตัวปลิวออกไปทันที เมื่อเธอเห็นแขกที่มาเยือนเธอถึงกับตกใจ เพราะมีชายหนุ่มร่างสูงคนหนึ่งยืนเก้ ๆ กัง ๆ อยู่
    “พี่โจ้มาได้ยังไงคะ” แป้งถามออกไปด้วยความงง
    “ก็ขับรถมาหนะสิ หรือจะให้พี่เดินมาฮะ”
    “แป้งใครมาหนะลูก” เสียงพ่อตะโกนดังออกมาจากในบ้าน
    “พี่โจ้เข้าบ้านก่อนเถอะคะ ข้างนอกร้อนออก”
    แป้งเดินนำพาโจ้เข้าบ้านไป พ่อกับแม่ของแป้งงงเล็กน้อยด้วยว่าไม่ทราบว่าแขกคนนี้คือใคร
    “แป้งใครหนะลูก”
    “พ่อ แม่คะ นี่พี่โจ้คะที่เป็นนักร้องชื่อดัง ที่เค้ามาส่งหนูเมื่อวานไงคะ” แป้งแนะนำอย่างคล่องแคล่วให้พ่อแม่เธอรู้จัก
    “พี่โจ้คะ นี่พ่อกับแม่แป้ง”
    “สวัสดีครับคุณน้า คุณอา”    ชายหนุ่มยกมือไหว้อย่างนอบน้อม
    “สวัสดีจ๊ะ แล้วนี่ทานอะไรมาหรือยังคะ” แม่กล่าวถามเชิงเชิญชวน    “ทานมาเรียบร้อยแล้วครับ”
    พอดีกับที่แป้งกับโอ๋ทานข้าวกันเสร็จ เธอทั้งสองจึงขอตัวไปคุยกับแขกของเธอก่อนที่ห้องนั่งเล่น
    “วันนี้แป้งไปไหนหรือเปล่าครับ” หนุ่มโจ้เอ่ยถาม
    “ไม่ไปไหนหรอกคะ”
    “อืม..จำเมื่อวานได้ไหมครับที่ว่าแป้งอยากเป็นนักร้องหนะคะ”
    “อ๋อจำได้คะ” แป้งลากเสียงยาวจนเกือบไปถึงบางอ้อแหนะ
“เดี๋ยววันนี้พี่พาไปเทสต์เสียง ไปได้ไหม”
    “ไปเทสต์เสียง” แป้งและโอ๋ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกัน
    “ใช่ ทำไมหรือ” ชายหนุ่มถามด้วยความงุนงงเมื่อเห็นพวกเธออึ้งไปซักพักหลังจากพูดจบ
    “ปะ...ปะ...เปล่าคะ ไปได้คะ”
    “อะไรกัน ใครจะไปเป็นนักร้องหรือ” พ่อเอ่ยถามขึ้น   
    “น้องแป้งครับ คุณอา” นักร้องหนุ่มกล่าว
    “ยัยแป้งนี่นะจะไปเป็นนักร้อง จะไหวไหมเนี่ย” พ่อพูดอย่างตกใจ
    “ไหวสิครับ”
    “คุณอา คุณน้าครับ ผมขออนุญาตพาแป้งไปเทสต์เสียงได้ไหมครับ” โจ้กล่าวขอแทนแป้งที่กำลังจะเอ่ยปากขอ
    พ่อและแม่ของแป้งนิ่งเงียบไป จนโจ้ต้องพูดอีกรอบ
    “ถ้าคุณอา คุณน้าไม่ไว้ใจผมก็ไปด้วยกันก็ได้นะครับ” คำพูดของโจ้ทำให้พ่อและแม่ใจชื้นขึ้น
    “ไม่เอาดีกว่าจ๊ะ เดี๋ยวเจ้าตัวเขาจะเขินเอาให้โอ๋ไปกับแป้งดีกว่าจ๊ะ” แม่พูดขึ้น
    “ถ้าอย่างนั้นก็ได้ครับ เราไปกันเลยดีไหมครับ”
    “ก็ดีคะ ไปเร็วจะได้กลับเร็ว” โอ๋พูด
    “งั้นพ่อ แม่คะ แป้งไปก่อนนะคะ”
    “คุณน้าคุณอา ผมไปก่อนนะครับ”
    โจ้พาแป้งและโอ๋ไปที่รถของตน แล้วออกรถทันทีมุ่งหน้าไปยังค่ายเทปของตน
   
    “นี่แม่ ลูกเราบ้าดาราเหมือนใครอะ” พ่อถามหลังจากที่ลูกสาวออกไปได้ซักพัก
    “จะไปรู้หรอ” แม่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
    “พ่อว่านะเหมือนแม่ตอนสมัยยังสาว ๆ เลย”
    “หรอ” แม่เดินสะบัดหน้าไป
   
    รถของโจ้ก็ได้เคลื่อนมาจอดที่หน้าบริษัท อาร์.วี.เอส จำกัด โจ้ลงจากรถแล้ววิ่งอ้อมมาเปิดประตูให้แป้งและโอ๋ ทั้งสองลงจากรถด้วยความตะลึง
    “น้องแป้ง น้องโอ๋เป็นอะไรไปหรือเปล่าครับ” โจ้ถามด้วยความเป็นห่วง
    “ไม่เป็นไรหรอกคะ” แป้งตอบ
    “แล้วทำไมถึงยืนแข็งทื่อกันอย่างนี้หละครับ”
    “แค่ตะลึงนิดหน่อยคะ”
    “เราเข้าไปกันดีกว่านะครับ” โจ้เดินนำเข้าไปในบริษัท
    “เดี๋ยวน้องสองคนรออยู่ตรงนี้ก่อนนะครับ อย่าเดินไหนหละ” โจ้ย้ำเหมือนเธอสองคนเป็นเด็กซน
    “ได้ครับผม” แป้งตอบรับ
    โจ้เดินเข้าไปข้างในบริษัท แป้งและโอ๋ยืนมองสำรวจไปรอบ ๆ ระหว่างที่รอเขา แล้วซักพักโจ้ก็เดินมาพร้อมกับพูดว่า
    “ตามพี่มา” โจ้พาเดินไปยังห้องเทสต์เสียง
    แป้งต้องนิ่งอีกครั้งเมื่อเห็นบรรยากาศในห้องนั้นแล้ว เธอขนลุกขึ้นทันที ทีมงานของเขาทำงานกันเป็นระบบ ดูน่าเกรงขามขึ้นมาทันที ตอนนี้เธออยากกลับบ้านเป็นที่สุดแล้ว ใครก็ได้พาฉันกลับบ้านที ฉันไม่อยากเป็นมันแล้วนักรงนักร้องเนี่ย
    “แป้ง เป็นอะไรหรือเปล่า” โจ้ถาม
    “คือแป้งอยากกลับบ้านน่ะคะ” แป้งพูดความจริงออกไป ถึงแม้มันดูน่าอายก็ตาม
    “ทำไมล่ะ กลัวหรือ” ชายหนุ่มถามอย่างรู้เชิง
    “ใช่คะ” แป้งก้มหน้า
    “ไม่ต้องกลัวหรอก ตั้งใจร้องให้ดีนะ มองหน้าพี่ไว้แล้วกำลังใจน้องก็จะมาเอง เชื่อพี่สิ มั่นใจนะแป้ง” โจ้กล่าวปลอบ
    “ใช่แป้ง มั่นใจแล้วก็ตั้งใจด้วย เราจะเป็นกำลังใจให้อีกแรงแล้วกัน” โอ๋ทำท่าเชียร์เพื่อนใหญ่
    “ขอบคุณคะ”
“อืม..เกือบลืมแนะนำไป นี่พี่เอกเป็นโปรดิวเซอร์มือเก่งเลยนะ แล้วนี่ก็แป้งครับพี่”
“สวัสดีคะพี่เอก ยินดีที่ได้รู้จักคะ” แป้งยกมือไหว้ตามมารยาทไทย
“สวัสดีครับ ไม่ต้องวงต้องไหว้หรอกครับ น้องกับพี่อายุก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่หนิ” โปรดิวเซอร์ยกมือรับไหว้
“โอเค รู้จักกันแล้วนะ เราเริ่มงานกันเลยดีกว่า พร้อมหรือยังครับแป้ง” โจ้เอ่ยถาม
“พร้อมแล้วคะ” เธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ หนึ่งครั้งก่อนเดินเข้าไปในห้อง
    พอดนตรีเริ่มเธอก็เริ่มร้องคลอไปกับดนตรีที่เปิด สายตาจดจ้องมองไปที่ชายหนุ่มที่อยู่เบื้องหน้าที่ยืนยิ้มให้ข้างหญิงสาว
    “รักเธอนะ เธอให้ความมั่นใจ
    เพราะเธอนะ ทำให้ฉันมีแรงใจ
    ไม่กลัวความมืดมิด ไม่กลัวคืนไหน ๆ
    ถ้ารู้ว่าข้างกายจะมีเธอ
    ค่ำคืนนี้ เมื่อมีเธอร่วมทาง
    ก็เหมือนกับคนที่อ้างว้าง มีดวงไฟในคืนแรม”
    พอเสียงดนตรีและเสียงใส ๆ ของเธอจบลง ก็มีเสียงปรบมือดังออกมาจากห้องทันที แป้งประหลาดใจเมื่อทุก ๆ คนต่างปรบมือกัน ตอนแรกเธอคิดในใจว่าเขาคงปรบมือไล่ เพราะพวกพี่ ๆ เขาปรบกันไม่หยุดเลย แป้งเดินออกมาจากห้องแล้วเอ่ยถามพวกพี่ ๆ ทีมงานทันที
    “แป้งร้องไม่ดีหรือคะ ถึงต้องปรบมือไล่กันอย่างนี้น่ะ” เสียงปรบมือยังคงดังอยู่
    “ไม่ใช่ไล่ครับ คือน้องแป้งเสียงดีมาก มันเป็นเสียงที่มีพลังมาก แบบนักร้องบางคนยังอายเลยนะครับเนี่ย” โปรดิวเซอร์ชมแป้งเมื่อเสียงปรบมือหยุดลง
    “แหม เล่นชมกันอย่างนี้ก็เขินแย่เลยนะคะ เสียงแป้งไม่ดีถึงขนาดนั้นหรอกคะ” แป้งถ่อมตัว
    “ใครบอกแป้งน่ะเสียงดีมาก พี่ยังต้องนับถือเลย” โจ้พูด
    “ใช่แป้ง เรานึกไม่ถึงเลยนะว่าเพื่อนเราจะเสียงดีขนาดนี้น่ะ” โอ๋กล่าวขึ้นบ้าง
    “แล้วโอ๋ไม่ลองเทสต์เสียงดูบ้างหรือครับ เผื่อจะได้เป็นนักร้องคู่กับแป้งก็ได้นะ” โจ้กล่าวชวน
    “ไม่ดีกว่าคะ เดี๋ยวมื้อกลางวันพวกพี่ ๆ จะทานข้าวกันไม่ลงนะคะ”
    “ถึงขนาดนั้นเลยหรือ งั้นพี่กลัวแล้วไม่เอาดีกว่า ไปหาที่ทานข้าวกันเถอะ”
    “ก็ดีเหมือนกันคะ โอ๋ก็หิวแล้วเหมือนกัน”
    “พี่เอกครับ ถ้าได้เรื่องยังไงก็โทรบอกผมได้เลยนะครับ เดี๋ยวผมจะบอกน้องเขาเอง”
    “เอาอย่างนั้นก็ได้” โปรดิวเซอร์พูด
    “งั้นพวกผมไปกันเลยแล้วกันนะครับ สวัสดีครับ”
    “สวัสดีคะ” แป้งและโอ๋กล่าวลาเป็นเสียงเดียว
    หนุ่มสาวทั้งสามก็เดินออกจากบริษัทไปที่รถของโจ้ทันที หลังจากนั้นโจ้ก็ขับรถมุ่งหน้าไปแถวพุทธมณฑล ที่นั่นมีร้านอาหารที่อร่อย บรรยากาศดี แถมยังสงบอีกต่างหาก ร้านนี้เป็นที่ ๆ โจ้กับแม่จะมาทานอาหารกันบ่อย ๆ ถือว่าเป็นลูกค้าประจำเลยก็ได้
    เมื่อรถแล่นเข้ามาจอดอยู่หน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง โจ้ก็รีบทำหน้าที่เปิดประตูให้กับหญิงสาวทั้งสองเช่นเคย ดูไปเขาก็เหมือนคนขับรถยังไงก็ไม่รู้นะ โจ้พาเดินไปที่โต๊ะประจำของเขา แล้วเริ่มลงมือสั่งอาหารกัน
    “พี่โจ้ชอบกินแต่ของเผ็ด ๆ ทั้งนั้นเลยนะคะ” แป้งพูดขึ้นอีกครั้งหลังจากที่เงียบไปนาน
    “อือ..พี่ก็ลืมถามพวกน้อง ๆ ไปว่าชอบทานอะไรกัน แล้วนี่ทานเผ็ดกันได้หรือเปล่าครับ”
    “สบายคะพี่ โดยเฉพาะแป้งนะคะ โหกินเผ็ดสุดยอดเลยคะ” โอ๋กล่าวขึ้น
    “พี่โจ้รู้จักร้านนี้ได้ยังไงคะ บรรยากาศดีมาก เงียบสงบ แถมยังโรแมนติกอีกด้วย” แป้งกล่าวชม
    “ก็ขับรถผ่านมา เห็นร้านตกแต่งดูเรียบง่ายดีก็เลยลองแวะเข้ามาดูครับ”
    อาหารที่สั่งทั้งหมดก็เริ่มถูกทยอยมาเสิร์ฟทีละอย่างสองอย่างจนเต็มโต๊ะไปหมด จะช้าอยู่ทำไมหละเราก็เริ่มทานกันเลยดีกว่า ทุกคนทานกันอย่างเอร็ดอร่อย พอทานเสร็จก็นั่งคุยกันต่อไปเรื่อย ๆ
    “ขอบคุณพี่มากนะคะสำหรับวันนี้” แป้งเอ่ยขึ้น
    “ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวถ้าผลออกมายังไง พี่จะไปบอกให้ถึงบ้านเลยนะครับ”
    “รบกวนพี่สิคะ เอายังงี้ดีกว่า” แป้งพูดพร้อมยื่นกระดาษแผ่นเล็ก ๆ ส่งให้ชายหนุ่ม “นี่เบอร์ของแป้ง ถ้ารู้ข่าวแล้วก็โทรมาบอกดีกว่านะคะ พี่จะได้ไม่ต้องลำบาก”
    โจ้ยื่นมือไปรับกระดาษแผ่นนั้นแล้วอ่านทวนเบอร์โทรเพื่อความแน่ใจ จากนั้นจึงเก็บลงกระเป๋าเสื้อ
    “งั้นเรากลับบ้านกันเลยดีกว่านะครับ นี่ก็บ่ายมากแล้ว เดี๋ยวพ่อแม่แป้งจะเป็นห่วงเอา”
    โจ้ขับรถพาหญิงสาวทั้งสองคนกลับ เมื่อรถแล่นมาจอดอยู่ที่หน้าบ้าน ทั้งสามคนก็ลงมาจากรถ แป้งเชิญให้โจ้เข้าบ้านไปนั่งคุยกันก่อน
    “พี่โจ้คะเข้าไปนั่งคุยกันในบ้านก่อนไหมคะ”
    ชายหนุ่มก้มหน้ามองนาฬิกาข้อมือเรือนงามของตน เพื่อดูว่าเขายังพอมีเวลาบ้างไหม
    “ก็ดีครับ”
    แป้งเดินนำพาเพื่อนและแขกเข้าไปในบ้าน พ่อและแม่นั่งดูทีวีอยู่ที่ห้องนั่งเล่น
    “พ่อแม่คะแป้งกลับมาแล้วคะ” แป้งส่งเสียงใส ๆ ทักทาย
    “ผมพาลูกสาวคุณน้ากับคุณอามาส่งแล้วครับ” โจ้กล่าวรายงาน
    “ลูกสาวอาเป็นไงบ้างจ๊ะ ทำอะไรให้คุณเสียหายหรือเปล่า” พ่อถามขึ้น
    “เสียงน้องเขาดีมากเลยครับ ผมเนี่ยยังคาดไม่ถึงเลยเห็นเงียบ ๆ อย่างนี้”
    “ขนาดนั้นเลยหรือเนี่ย น้าไม่อยากจะเชื่อเลย” แม่พูดเสริม
    “จริง ๆ นะครับ”
    ระหว่างที่โจ้กับพ่อแม่ของแป้งคุยกันไปสักพัก แป้งจึงขอตัวออกไปส่งเพื่อนที่หน้าปากซอยก่อน
    “แป้งขอตัวไปส่งโอ่ก่อนนะคะ”
    “จ๊ะ ไปเถอะ”
    “สวัสดีคะคุณน้าคุณอา” โอ๋ยกมือไหว้ “ไปก่อนนะคะพี่โจ้”
   
    “หนูเป็นนักร้องมานานหรือยังจ๊ะ” พ่อเริ่มซักประวัติ
    “ก็ประมาณ 2-3 เดือนน่ะครับ”
    “อาอยากจะขอพูดอะไรหน่อยได้ไหมจ๊ะ”
    “อะไรครับ ว่ามาได้เลยครับ”
    “คืออาไม่อยากให้แป้งไปเป็นนักร้อง อากลัวว่าลูกอาจะแยกเวลาไม่ออกระหว่างการเรียนกับงาน กลัวว่าผลการเรียนจะตก เพราะปีหน้าแป้งเขาก็ต้องเอ็นฯ ด้วย”
    “ไม่เป็นไรนี่ครับ ตอนนี้ผมก็ยังเรียนอยู่ปี 3 แล้วผมยังทำงานไปด้วย ผลการเรียนผมก็ไม่เคยตก คือมันขึ้นอยู่กับน้องเขามากกว่าว่าจะแยกแยะเวลาออกไหม แต่ผมเชื่อว่าน้องเขาต้องทำได้แน่นอนครับ ส่วนเรื่องการเป็นนักร้อง ผมว่าลองให้น้องเขาทำดู เพราะมันเป็นความฝันของเขาที่เขาอยากจะทำตามฝันที่มีอยู่ ถ้าไม่ดีเราค่อยถอนตัวออกมาก็ยังทันนะครับ” โจ้อธิบาย
    “มันก็จริงอยากที่หนูพูดนะ โอเคอาจะลองให้เขาทำดู”
    แป้งเดินเข้ามาพอดีหลังจากที่ไปส่งเพื่อน เห็นพ่อกับแม่คุยกับโจ้อย่างสนุกสนาน เธอจึงพูดหยอกเล่นขึ้นมา
    “แอบนินทาอะไรแป้งอยู่หรือเปล่าคะ”
    “ไม่มีซักหน่อย” โจ้ตอบ “เดี๋ยวผมขอตัวกลับก่อนดีกว่านะครับ”
    “จ๊ะ” แม่ตอบรับ
    “สวัสดีครับคุณน้าคุณอา” โจ้ยกมือไหว้
    “ขับรถดี ๆ นะจ๊ะ แป้งไปส่งพี่เขาหน่อยสิลูก”
    “คะพ่อ”
    แป้งเดินไปส่งโจ้ถึงที่รถ ก่อนที่รถจะเคลื่อนออกไปโจ้ก็ยื่นหน้าออกพูดว่า
    “พี่ไปก่อนนะแป้ง”
    “คะ บ๊ายบายคะ” แป้งโบกมือให้   
    แป้งเดินเข้าบ้านด้วยความสุขใจ และสบายใจกับสิ่งที่ได้พบเจอในวันนี้ ก่อนที่แป้งจะเดินขึ้นห้องไปแม่ก็พูดเชิงตักเตือนว่า
    “ระวังให้ดีนะดารานักร้องพวกนี้ไว้ใจไม่ค่อยได้นักหรอก ทั้งเจ้าชู้เอย กระล่อนเอยสารพัด ระวังด้วยนะ”
    “ถ้าพูดถึงพี่โจ้หละก็ พี่เขาไม่เป็นคนอย่างนั้นหรอกคะ” แล้วแป้งก็วิ่งขึ้นข้างบนไป
   
    “แหมวันนี้หายไปไหนมาทั้งวันจ๊ะ” เสียงค่อนข้างแหบเล็กน้อยของหญิงคนหนึ่งกล่าวขึ้นเมื่อเห็นลูกชายเดินเข้าบ้านอย่างอารมณ์ดี
    “พาน้องคนนึงไปเทสต์เสียงมาครับแม่” ชายหนุ่มเดินผิวปากไปพร้อมกับเดินไปที่ตู้เย็นเพื่อเทน้ำดื่ม
    “ใครกันนะที่ทำให้ลูกชายของแม่อารมณ์ดีได้อย่างนี้ อยากรู้จักจัง” แม่แกลังหยอกโจ้เล่น
    “ไว้วันนึงแม่ต้องได้รู้จักเขาแน่ครับ ผมสัญญา” โจ้ทำท่าปฎิญาณตนแบบลูกเสือ
    “จ๊ะ รีบไปอาบน้ำซะแล้วจะได้มาทานข้าวกัน”
    “ครับแม่”
เช้าวันรุ่งขึ้น โอ๋ตื่นขึ้นมาก่อนจึงปลุกแป้งให้ตื่นขึ้นมา แต่แป้งกลับอิดออดไม่ยอมตื่นท่าเดียว
    “แป้งตื่นได้แล้ว สายแล้วนะ”
    “อีกนิดเดียวน่านะ” แป้งพูดพร้อมเอาหมอนปิดหู
    “ไม่ได้ ตื่นเดี๋ยวนี้นะ”
    “โอ๋ลงไปก่อนเถอะ เดี๋ยวเราตามไป”
    โอ๋รู้นิสัยเพื่อนคนนี้เป็นอย่างดี เธอจะตี่นได้เมื่อมีสิ่งเร้าให้เธอสนใจ โอ๋จึงแกลังเปิดประตูแล้วตะโกนออกไปว่า
    “สวัสดีคะพี่โจ้ พี่มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”
    เพียงคำพูดประโยคแรกเท่านั้นแหละ แป้งก็สะดุ้งตัวขึ้นมาทันที
    “ไหน ๆ พี่โจ้มาหรือโอ๋”
    โอ๋ขำในท่าทีของเพื่อนที่รีบลุกขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินเสียง
    “เปล่าหรอกจ๊ะ และแล้วเพื่อนเราก็ตื่น เร็วรีบไปอาบน้ำแต่งตัวเร็ว”
    “จำไว้เลยนะ หลอกเพื่อนอย่างนี้ อย่าให้เจอกับตัวเองบ้างหละ”
    แป้งและโอ๋อาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ลงมาทานข้าวเช้ากัน ระหว่างที่ทานกันอยู่นั้นก็มีคนมากดออดหน้าบ้าน แป้งจึงอาสาออกไปดู
    “เดี๋ยวแป้งออกไปดูให้คะ พ่อกับแม่ทานข้าวต่อไปเถอะคะ”
    แป้งพูดเสร็จก็วิ่งตัวปลิวออกไปทันที เมื่อเธอเห็นแขกที่มาเยือนเธอถึงกับตกใจ เพราะมีชายหนุ่มร่างสูงคนหนึ่งยืนเก้ ๆ กัง ๆ อยู่
    “พี่โจ้มาได้ยังไงคะ” แป้งถามออกไปด้วยความงง
    “ก็ขับรถมาหนะสิ หรือจะให้พี่เดินมาฮะ”
    “แป้งใครมาหนะลูก” เสียงพ่อตะโกนดังออกมาจากในบ้าน
    “พี่โจ้เข้าบ้านก่อนเถอะคะ ข้างนอกร้อนออก”
    แป้งเดินนำพาโจ้เข้าบ้านไป พ่อกับแม่ของแป้งงงเล็กน้อยด้วยว่าไม่ทราบว่าแขกคนนี้คือใคร
    “แป้งใครหนะลูก”
    “พ่อ แม่คะ นี่พี่โจ้คะที่เป็นนักร้องชื่อดัง ที่เค้ามาส่งหนูเมื่อวานไงคะ” แป้งแนะนำอย่างคล่องแคล่วให้พ่อแม่เธอรู้จัก
    “พี่โจ้คะ นี่พ่อกับแม่แป้ง”
    “สวัสดีครับคุณน้า คุณอา”    ชายหนุ่มยกมือไหว้อย่างนอบน้อม
    “สวัสดีจ๊ะ แล้วนี่ทานอะไรมาหรือยังคะ” แม่กล่าวถามเชิงเชิญชวน    “ทานมาเรียบร้อยแล้วครับ”
    พอดีกับที่แป้งกับโอ๋ทานข้าวกันเสร็จ เธอทั้งสองจึงขอตัวไปคุยกับแขกของเธอก่อนที่ห้องนั่งเล่น
    “วันนี้แป้งไปไหนหรือเปล่าครับ” หนุ่มโจ้เอ่ยถาม
    “ไม่ไปไหนหรอกคะ”
    “อืม..จำเมื่อวานได้ไหมครับที่ว่าแป้งอยากเป็นนักร้องหนะคะ”
    “อ๋อจำได้คะ” แป้งลากเสียงยาวจนเกือบไปถึงบางอ้อแหนะ
“เดี๋ยววันนี้พี่พาไปเทสต์เสียง ไปได้ไหม”
    “ไปเทสต์เสียง” แป้งและโอ๋ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกัน
    “ใช่ ทำไมหรือ” ชายหนุ่มถามด้วยความงุนงงเมื่อเห็นพวกเธออึ้งไปซักพักหลังจากพูดจบ
    “ปะ...ปะ...เปล่าคะ ไปได้คะ”
    “อะไรกัน ใครจะไปเป็นนักร้องหรือ” พ่อเอ่ยถามขึ้น   
    “น้องแป้งครับ คุณอา” นักร้องหนุ่มกล่าว
    “ยัยแป้งนี่นะจะไปเป็นนักร้อง จะไหวไหมเนี่ย” พ่อพูดอย่างตกใจ
    “ไหวสิครับ”
    “คุณอา คุณน้าครับ ผมขออนุญาตพาแป้งไปเทสต์เสียงได้ไหมครับ” โจ้กล่าวขอแทนแป้งที่กำลังจะเอ่ยปากขอ
    พ่อและแม่ของแป้งนิ่งเงียบไป จนโจ้ต้องพูดอีกรอบ
    “ถ้าคุณอา คุณน้าไม่ไว้ใจผมก็ไปด้วยกันก็ได้นะครับ” คำพูดของโจ้ทำให้พ่อและแม่ใจชื้นขึ้น
    “ไม่เอาดีกว่าจ๊ะ เดี๋ยวเจ้าตัวเขาจะเขินเอาให้โอ๋ไปกับแป้งดีกว่าจ๊ะ” แม่พูดขึ้น
    “ถ้าอย่างนั้นก็ได้ครับ เราไปกันเลยดีไหมครับ”
    “ก็ดีคะ ไปเร็วจะได้กลับเร็ว” โอ๋พูด
    “งั้นพ่อ แม่คะ แป้งไปก่อนนะคะ”
    “คุณน้าคุณอา ผมไปก่อนนะครับ”
    โจ้พาแป้งและโอ๋ไปที่รถของตน แล้วออกรถทันทีมุ่งหน้าไปยังค่ายเทปของตน
   
    “นี่แม่ ลูกเราบ้าดาราเหมือนใครอะ” พ่อถามหลังจากที่ลูกสาวออกไปได้ซักพัก
    “จะไปรู้หรอ” แม่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
    “พ่อว่านะเหมือนแม่ตอนสมัยยังสาว ๆ เลย”
    “หรอ” แม่เดินสะบัดหน้าไป
   
    รถของโจ้ก็ได้เคลื่อนมาจอดที่หน้าบริษัท อาร์.วี.เอส จำกัด โจ้ลงจากรถแล้ววิ่งอ้อมมาเปิดประตูให้แป้งและโอ๋ ทั้งสองลงจากรถด้วยความตะลึง
    “น้องแป้ง น้องโอ๋เป็นอะไรไปหรือเปล่าครับ” โจ้ถามด้วยความเป็นห่วง
    “ไม่เป็นไรหรอกคะ” แป้งตอบ
    “แล้วทำไมถึงยืนแข็งทื่อกันอย่างนี้หละครับ”
    “แค่ตะลึงนิดหน่อยคะ”
    “เราเข้าไปกันดีกว่านะครับ” โจ้เดินนำเข้าไปในบริษัท
    “เดี๋ยวน้องสองคนรออยู่ตรงนี้ก่อนนะครับ อย่าเดินไหนหละ” โจ้ย้ำเหมือนเธอสองคนเป็นเด็กซน
    “ได้ครับผม” แป้งตอบรับ
    โจ้เดินเข้าไปข้างในบริษัท แป้งและโอ๋ยืนมองสำรวจไปรอบ ๆ ระหว่างที่รอเขา แล้วซักพักโจ้ก็เดินมาพร้อมกับพูดว่า
    “ตามพี่มา” โจ้พาเดินไปยังห้องเทสต์เสียง
    แป้งต้องนิ่งอีกครั้งเมื่อเห็นบรรยากาศในห้องนั้นแล้ว เธอขนลุกขึ้นทันที ทีมงานของเขาทำงานกันเป็นระบบ ดูน่าเกรงขามขึ้นมาทันที ตอนนี้เธออยากกลับบ้านเป็นที่สุดแล้ว ใครก็ได้พาฉันกลับบ้านที ฉันไม่อยากเป็นมันแล้วนักรงนักร้องเนี่ย
    “แป้ง เป็นอะไรหรือเปล่า” โจ้ถาม
    “คือแป้งอยากกลับบ้านน่ะคะ” แป้งพูดความจริงออกไป ถึงแม้มันดูน่าอายก็ตาม
    “ทำไมล่ะ กลัวหรือ” ชายหนุ่มถามอย่างรู้เชิง
    “ใช่คะ” แป้งก้มหน้า
    “ไม่ต้องกลัวหรอก ตั้งใจร้องให้ดีนะ มองหน้าพี่ไว้แล้วกำลังใจน้องก็จะมาเอง เชื่อพี่สิ มั่นใจนะแป้ง” โจ้กล่าวปลอบ
    “ใช่แป้ง มั่นใจแล้วก็ตั้งใจด้วย เราจะเป็นกำลังใจให้อีกแรงแล้วกัน” โอ๋ทำท่าเชียร์เพื่อนใหญ่
    “ขอบคุณคะ”
“อืม..เกือบลืมแนะนำไป นี่พี่เอกเป็นโปรดิวเซอร์มือเก่งเลยนะ แล้วนี่ก็แป้งครับพี่”
“สวัสดีคะพี่เอก ยินดีที่ได้รู้จักคะ” แป้งยกมือไหว้ตามมารยาทไทย
“สวัสดีครับ ไม่ต้องวงต้องไหว้หรอกครับ น้องกับพี่อายุก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่หนิ” โปรดิวเซอร์ยกมือรับไหว้
“โอเค รู้จักกันแล้วนะ เราเริ่มงานกันเลยดีกว่า พร้อมหรือยังครับแป้ง” โจ้เอ่ยถาม
“พร้อมแล้วคะ” เธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ หนึ่งครั้งก่อนเดินเข้าไปในห้อง
    พอดนตรีเริ่มเธอก็เริ่มร้องคลอไปกับดนตรีที่เปิด สายตาจดจ้องมองไปที่ชายหนุ่มที่อยู่เบื้องหน้าที่ยืนยิ้มให้ข้างหญิงสาว
    “รักเธอนะ เธอให้ความมั่นใจ
    เพราะเธอนะ ทำให้ฉันมีแรงใจ
    ไม่กลัวความมืดมิด ไม่กลัวคืนไหน ๆ
    ถ้ารู้ว่าข้างกายจะมีเธอ
    ค่ำคืนนี้ เมื่อมีเธอร่วมทาง
    ก็เหมือนกับคนที่อ้างว้าง มีดวงไฟในคืนแรม”
    พอเสียงดนตรีและเสียงใส ๆ ของเธอจบลง ก็มีเสียงปรบมือดังออกมาจากห้องทันที แป้งประหลาดใจเมื่อทุก ๆ คนต่างปรบมือกัน ตอนแรกเธอคิดในใจว่าเขาคงปรบมือไล่ เพราะพวกพี่ ๆ เขาปรบกันไม่หยุดเลย แป้งเดินออกมาจากห้องแล้วเอ่ยถามพวกพี่ ๆ ทีมงานทันที
    “แป้งร้องไม่ดีหรือคะ ถึงต้องปรบมือไล่กันอย่างนี้น่ะ” เสียงปรบมือยังคงดังอยู่
    “ไม่ใช่ไล่ครับ คือน้องแป้งเสียงดีมาก มันเป็นเสียงที่มีพลังมาก แบบนักร้องบางคนยังอายเลยนะครับเนี่ย” โปรดิวเซอร์ชมแป้งเมื่อเสียงปรบมือหยุดลง
    “แหม เล่นชมกันอย่างนี้ก็เขินแย่เลยนะคะ เสียงแป้งไม่ดีถึงขนาดนั้นหรอกคะ” แป้งถ่อมตัว
    “ใครบอกแป้งน่ะเสียงดีมาก พี่ยังต้องนับถือเลย” โจ้พูด
    “ใช่แป้ง เรานึกไม่ถึงเลยนะว่าเพื่อนเราจะเสียงดีขนาดนี้น่ะ” โอ๋กล่าวขึ้นบ้าง
    “แล้วโอ๋ไม่ลองเทสต์เสียงดูบ้างหรือครับ เผื่อจะได้เป็นนักร้องคู่กับแป้งก็ได้นะ” โจ้กล่าวชวน
    “ไม่ดีกว่าคะ เดี๋ยวมื้อกลางวันพวกพี่ ๆ จะทานข้าวกันไม่ลงนะคะ”
    “ถึงขนาดนั้นเลยหรือ งั้นพี่กลัวแล้วไม่เอาดีกว่า ไปหาที่ทานข้าวกันเถอะ”
    “ก็ดีเหมือนกันคะ โอ๋ก็หิวแล้วเหมือนกัน”
    “พี่เอกครับ ถ้าได้เรื่องยังไงก็โทรบอกผมได้เลยนะครับ เดี๋ยวผมจะบอกน้องเขาเอง”
    “เอาอย่างนั้นก็ได้” โปรดิวเซอร์พูด
    “งั้นพวกผมไปกันเลยแล้วกันนะครับ สวัสดีครับ”
    “สวัสดีคะ” แป้งและโอ๋กล่าวลาเป็นเสียงเดียว
    หนุ่มสาวทั้งสามก็เดินออกจากบริษัทไปที่รถของโจ้ทันที หลังจากนั้นโจ้ก็ขับรถมุ่งหน้าไปแถวพุทธมณฑล ที่นั่นมีร้านอาหารที่อร่อย บรรยากาศดี แถมยังสงบอีกต่างหาก ร้านนี้เป็นที่ ๆ โจ้กับแม่จะมาทานอาหารกันบ่อย ๆ ถือว่าเป็นลูกค้าประจำเลยก็ได้
    เมื่อรถแล่นเข้ามาจอดอยู่หน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง โจ้ก็รีบทำหน้าที่เปิดประตูให้กับหญิงสาวทั้งสองเช่นเคย ดูไปเขาก็เหมือนคนขับรถยังไงก็ไม่รู้นะ โจ้พาเดินไปที่โต๊ะประจำของเขา แล้วเริ่มลงมือสั่งอาหารกัน
    “พี่โจ้ชอบกินแต่ของเผ็ด ๆ ทั้งนั้นเลยนะคะ” แป้งพูดขึ้นอีกครั้งหลังจากที่เงียบไปนาน
    “อือ..พี่ก็ลืมถามพวกน้อง ๆ ไปว่าชอบทานอะไรกัน แล้วนี่ทานเผ็ดกันได้หรือเปล่าครับ”
    “สบายคะพี่ โดยเฉพาะแป้งนะคะ โหกินเผ็ดสุดยอดเลยคะ” โอ๋กล่าวขึ้น
    “พี่โจ้รู้จักร้านนี้ได้ยังไงคะ บรรยากาศดีมาก เงียบสงบ แถมยังโรแมนติกอีกด้วย” แป้งกล่าวชม
    “ก็ขับรถผ่านมา เห็นร้านตกแต่งดูเรียบง่ายดีก็เลยลองแวะเข้ามาดูครับ”
    อาหารที่สั่งทั้งหมดก็เริ่มถูกทยอยมาเสิร์ฟทีละอย่างสองอย่างจนเต็มโต๊ะไปหมด จะช้าอยู่ทำไมหละเราก็เริ่มทานกันเลยดีกว่า ทุกคนทานกันอย่างเอร็ดอร่อย พอทานเสร็จก็นั่งคุยกันต่อไปเรื่อย ๆ
    “ขอบคุณพี่มากนะคะสำหรับวันนี้” แป้งเอ่ยขึ้น
    “ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวถ้าผลออกมายังไง พี่จะไปบอกให้ถึงบ้านเลยนะครับ”
    “รบกวนพี่สิคะ เอายังงี้ดีกว่า” แป้งพูดพร้อมยื่นกระดาษแผ่นเล็ก ๆ ส่งให้ชายหนุ่ม “นี่เบอร์ของแป้ง ถ้ารู้ข่าวแล้วก็โทรมาบอกดีกว่านะคะ พี่จะได้ไม่ต้องลำบาก”
    โจ้ยื่นมือไปรับกระดาษแผ่นนั้นแล้วอ่านทวนเบอร์โทรเพื่อความแน่ใจ จากนั้นจึงเก็บลงกระเป๋าเสื้อ
    “งั้นเรากลับบ้านกันเลยดีกว่านะครับ นี่ก็บ่ายมากแล้ว เดี๋ยวพ่อแม่แป้งจะเป็นห่วงเอา”
    โจ้ขับรถพาหญิงสาวทั้งสองคนกลับ เมื่อรถแล่นมาจอดอยู่ที่หน้าบ้าน ทั้งสามคนก็ลงมาจากรถ แป้งเชิญให้โจ้เข้าบ้านไปนั่งคุยกันก่อน
    “พี่โจ้คะเข้าไปนั่งคุยกันในบ้านก่อนไหมคะ”
    ชายหนุ่มก้มหน้ามองนาฬิกาข้อมือเรือนงามของตน เพื่อดูว่าเขายังพอมีเวลาบ้างไหม
    “ก็ดีครับ”
    แป้งเดินนำพาเพื่อนและแขกเข้าไปในบ้าน พ่อและแม่นั่งดูทีวีอยู่ที่ห้องนั่งเล่น
    “พ่อแม่คะแป้งกลับมาแล้วคะ” แป้งส่งเสียงใส ๆ ทักทาย
    “ผมพาลูกสาวคุณน้ากับคุณอามาส่งแล้วครับ” โจ้กล่าวรายงาน
    “ลูกสาวอาเป็นไงบ้างจ๊ะ ทำอะไรให้คุณเสียหายหรือเปล่า” พ่อถามขึ้น
    “เสียงน้องเขาดีมากเลยครับ ผมเนี่ยยังคาดไม่ถึงเลยเห็นเงียบ ๆ อย่างนี้”
    “ขนาดนั้นเลยหรือเนี่ย น้าไม่อยากจะเชื่อเลย” แม่พูดเสริม
    “จริง ๆ นะครับ”
    ระหว่างที่โจ้กับพ่อแม่ของแป้งคุยกันไปสักพัก แป้งจึงขอตัวออกไปส่งเพื่อนที่หน้าปากซอยก่อน
    “แป้งขอตัวไปส่งโอ่ก่อนนะคะ”
    “จ๊ะ ไปเถอะ”
    “สวัสดีคะคุณน้าคุณอา” โอ๋ยกมือไหว้ “ไปก่อนนะคะพี่โจ้”
   
    “หนูเป็นนักร้องมานานหรือยังจ๊ะ” พ่อเริ่มซักประวัติ
    “ก็ประมาณ 2-3 เดือนน่ะครับ”
    “อาอยากจะขอพูดอะไรหน่อยได้ไหมจ๊ะ”
    “อะไรครับ ว่ามาได้เลยครับ”
    “คืออาไม่อยากให้แป้งไปเป็นนักร้อง อากลัวว่าลูกอาจะแยกเวลาไม่ออกระหว่างการเรียนกับงาน กลัวว่าผลการเรียนจะตก เพราะปีหน้าแป้งเขาก็ต้องเอ็นฯ ด้วย”
    “ไม่เป็นไรนี่ครับ ตอนนี้ผมก็ยังเรียนอยู่ปี 3 แล้วผมยังทำงานไปด้วย ผลการเรียนผมก็ไม่เคยตก คือมันขึ้นอยู่กับน้องเขามากกว่าว่าจะแยกแยะเวลาออกไหม แต่ผมเชื่อว่าน้องเขาต้องทำได้แน่นอนครับ ส่วนเรื่องการเป็นนักร้อง ผมว่าลองให้น้องเขาทำดู เพราะมันเป็นความฝันของเขาที่เขาอยากจะทำตามฝันที่มีอยู่ ถ้าไม่ดีเราค่อยถอนตัวออกมาก็ยังทันนะครับ” โจ้อธิบาย
    “มันก็จริงอยากที่หนูพูดนะ โอเคอาจะลองให้เขาทำดู”
    แป้งเดินเข้ามาพอดีหลังจากที่ไปส่งเพื่อน เห็นพ่อกับแม่คุยกับโจ้อย่างสนุกสนาน เธอจึงพูดหยอกเล่นขึ้นมา
    “แอบนินทาอะไรแป้งอยู่หรือเปล่าคะ”
    “ไม่มีซักหน่อย” โจ้ตอบ “เดี๋ยวผมขอตัวกลับก่อนดีกว่านะครับ”
    “จ๊ะ” แม่ตอบรับ
    “สวัสดีครับคุณน้าคุณอา” โจ้ยกมือไหว้
    “ขับรถดี ๆ นะจ๊ะ แป้งไปส่งพี่เขาหน่อยสิลูก”
    “คะพ่อ”
    แป้งเดินไปส่งโจ้ถึงที่รถ ก่อนที่รถจะเคลื่อนออกไปโจ้ก็ยื่นหน้าออกพูดว่า
    “พี่ไปก่อนนะแป้ง”
    “คะ บ๊ายบายคะ” แป้งโบกมือให้   
    แป้งเดินเข้าบ้านด้วยความสุขใจ และสบายใจกับสิ่งที่ได้พบเจอในวันนี้ ก่อนที่แป้งจะเดินขึ้นห้องไปแม่ก็พูดเชิงตักเตือนว่า
    “ระวังให้ดีนะดารานักร้องพวกนี้ไว้ใจไม่ค่อยได้นักหรอก ทั้งเจ้าชู้เอย กระล่อนเอยสารพัด ระวังด้วยนะ”
    “ถ้าพูดถึงพี่โจ้หละก็ พี่เขาไม่เป็นคนอย่างนั้นหรอกคะ” แล้วแป้งก็วิ่งขึ้นข้างบนไป
   
    “แหมวันนี้หายไปไหนมาทั้งวันจ๊ะ” เสียงค่อนข้างแหบเล็กน้อยของหญิงคนหนึ่งกล่าวขึ้นเมื่อเห็นลูกชายเดินเข้าบ้านอย่างอารมณ์ดี
    “พาน้องคนนึงไปเทสต์เสียงมาครับแม่” ชายหนุ่มเดินผิวปากไปพร้อมกับเดินไปที่ตู้เย็นเพื่อเทน้ำดื่ม
    “ใครกันนะที่ทำให้ลูกชายของแม่อารมณ์ดีได้อย่างนี้ อยากรู้จักจัง” แม่แกลังหยอกโจ้เล่น
    “ไว้วันนึงแม่ต้องได้รู้จักเขาแน่ครับ ผมสัญญา” โจ้ทำท่าปฎิญาณตนแบบลูกเสือ
    “จ๊ะ รีบไปอาบน้ำซะแล้วจะได้มาทานข้าวกัน”
    “ครับแม่”
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น