ลำดับตอนที่ #13
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : เขาเป็นใครกันอะ
                “พี่จุง ขอบคุณนะคะ ที่พาฝ้ายเที่ยววันนี้”  ฉันพูดขึ้น ขณะที่เรากำลังดูทีวีกันอยู่
    “ผมต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายขอบคุณฝ้าย  รู้ไหมตั้งแต่ผมได้เจอฝ้าย  ชีวิตผมก็มีแต่ความสุข”
    “ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกคะ”  พี่จุงพูดอย่างนี้ได้ไงเนี่ย  เค้าเขินนะ
    “ฝ้าย  ผมมีอะไรบางอย่างจะบอกฝ้าย”  ทำไมเขาต้องมองด้วยสายตาอย่างนั้นด้วย  รู้ไหมว่า ใจฉันชักเต้นไม่จังหวะแล้วนะ
    “อะไรหรือคะ”
    “คือ ผม .”  ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบ  ก็มีใครบางคนมากดออดที่หน้าประตู  (จะมาทำไมกันตอนนี้เนี่ย  เลยไม่รู้เลยว่าพี่จุงจะบอกอะไรฉัน)
    “ออด ๆ ๆ ๆ “  คนที่มายังกดออดไม่เลิก  ที่บ้านไม่มีออดให้กดหรือไงฟะ  ฉันคิดในใจ
    “เดี๋ยวผมไปดูเอง  ฝ้ายรออยู่ตรงนี้นะ”
    เขาเดินไปที่ประตู  ส่องผ่านช่องเล็ก ๆ ที่เค้ามีตรงประตูบ้านกันอะ  ไม่รู้เรียกว่าอะไรอะ  นั่นแหละ ทุกคนคงจะเข้าใจนะ  ดูท่าทางเขาตกใจมากเลย    เขารีบวิ่งมาหาฉัน แล้วจับมือฉันวิ่งออกไปทางประตูหลังบ้าน  (เพิ่งรู้นะเนี่ย ว่าบ้านนี้มีประตูหลังบ้านด้วย)  แล้วเขาก็พาฉันวิ่งไปเรื่อย ๆ ไม่คิดจะพักให้ฉันถามหน่อยหรือไงว่ามันเกิดอะไรขึ้น  ถึงต้องวิ่งอย่างกับหนีตายซะขนาดนี้
    แล้วเขาก็มาหยุดในซอยแคบ ๆ แถมยังมืดด้วย  หน้าของเราสองคนใกล้กันมาก  ก็ห่างกันไม่ถึง 3 ซม.  ฉันไม่เคยอยู่ใกล้ผู้ชายมากขนาดนี้มาก่อนเลย  ใจฉันเริ่มเต้นแรงขึ้น  ก็ทั้งเหนื่อย และตื่นเต้นด้วย  ฉันรู้สึกได้ถึงลมหายใจที่หอบถี่ของเขา
    “พี่จุงนี่มันเกิดอะไรขึ้นคะ  ทำไมเราต้องวิ่งหนีมาอย่างนี้ด้วย”
    “มีเรื่องนิดหน่อยครับ  ไว้ผมจะเล่าให้ฟังทีหลัง  แต่ตอนนี้ฝ้ายต้องเชื่อผมนะ อยู่เงียบ ๆ อย่าส่งเสียงอะไรทั้งนั้น” 
    ฉันได้ยินเสียงคนวิ่งมากันเยอะแยะเลย  แล้วพวกนั้นก็มาหยุดยืนตรงใกล้ ๆ กับซอยที่พี่จุงและฉันซ่อนตัวอยู่  พวกนั้นถือมีด กับปืนมาด้วย  นี่พวกมันจะมาไล่ฆ่าใครเนี่ย
    “หายไปไหนของมันวะ  ซุง ซี จุง  อย่าให้ข้าเจอนะ  จะเอาให้ตายเลย”  ฉันว่าฉันได้ยินคนพวกนั้นพูดถึงชื่อของพี่จุงนะ
    “เฮ้ย!  ไปดูทางโน้นดิ  เดี๋ยวข้าดูทางนี้เอง”  คนที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าออกคำสั่ง  แล้วก็วิ่งสลายตัวกันไป  ฉันได้ยินเสียงพี่จุงถอนหายใจเฮือกใหญ่
    “พี่มีเรื่องกับพวกเมื่อตะกี้นี้ใช่ไหมคะ”  ฉันอดถามไม่ได้  ก็มันสงสัยนี่นา
    “ครับ  ตอนนี้อย่าเพิ่งถามอะไรเลย  ผมว่าเรารีบหาที่พักที่ปลอดภัยกว่านี้ดีกว่า”
    “เรากลับไปบ้านไม่ได้หรือคะ”
    “ไม่ได้  มันยังไม่ปลอดภัยครับ  เดี๋ยวเราไปเอามอเตอร์ไซค์กันก่อน แล้วเราค่อยหาที่พักกันอีกที”  เขารีบพาฉันวิ่งไปที่บ้าน  แล้วรีบออกรถทันที  อากาศตอนกลางคืนนี่ก็หนาวเหมือนกันนะเนี่ย  ดีนะที่ได้ซบหลังพี่จุง  พอให้ฉันรู้สึกอุ่นขึ้นมาบ้าง  แต่มือฉันจะแข็งอยู่แล้ว  นั่งไปซักพัก  ฉันก็เผลอหลับไป
    พอตื่นขึ้นมาอีกที  ฉันก็อยู่บนฟูกนุ่ม ๆ  แล้วก็เห็นป้าเจ้าของร้านเนื้อย่างนั่งอยู่ข้าง ๆ ป้าคนนั้นยิ้มให้ฉันด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น
    “เป็นยังไงบ้างจ๊ะ”  ป้าคนนั้นพูดเป็นภาษาเกาหลี  ฉันก็ฟังไม่ออกหนะสิ  ทำไงดีละเนี่ย  อือ! ใช่ พี่จุง พี่จุงอยู่ไหนเนี่ย
    “พี่ซุง ซี จุง หละคะ”  ฉันพูดเป็นภาษาไทย  แต่ฉันคิดว่าป้าเค้าคงจะรู้หรอกนะว่าหมายถึงอะไร  แล้วป้าก็หายไปซักพักหนึ่ง  กลับมาพร้อมกับพี่จุง
                “เป็นยังไงบ้างครับฝ้าย”
    “รู้สึกปวดหัวนิดหน่อยหนะคะ  แล้วที่นี่ที่ไหนคะ”  ฉันรัวถามพี่เค้าเป็นชุดเลย
    “ที่นี่บ้านของป้าเจ้าของร้าน ที่เรามาทานอาหารเย็นกันหนะครับ  เราจะมาหลบกันอยู่ที่นี่ซักพักนึง  ฝ้ายไม่ต้องห่วงนะ  จะไม่มีใครมาทำร้ายฝ้ายได้แน่นอน  ถ้าผมยังอยู่ข้าง ๆ ฝ้าย”  สีหน้าเขาจริงจังมาก ๆ เลยนะเนี่ย  แต่ถึงจะจริงจังแค่ไหน  เขาก็ยังน่ารักอยู่ดีแหละ
    “แล้วฝ้ายมานอนอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ”
    “ก็พอมาถึง ฝ้ายก็หลับไปแล้ว  ผมปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่น  เลยต้องอุ้มเข้ามานะครับ  ขอโทษด้วยนะครับ ที่ต้องทำแบบนั้น”  เขาหน้าแดงอีกแล้วหละ  เขาช่างเป็นสุภาพบุรุษจังเลยนะ
    “ขอบคุณคะ”
    “เดี๋ยวป้าไปเอาข้าวต้มมาให้นะจ๊ะ”  ป้าคนนั้นพูดกับพี่จุง  แล้วก็เดินออกไป
    “อะไรหรือคะ”  ฉันถามด้วยความอยากรู้
    “อ๋อ  เดี๋ยวป้าเค้าจะเอาข้าวต้มมาให้หนะครับ”
    “คะ”
    “ฝ้าย”
    “คะ พี่จุง”
    “คือ ผมอยากจะบอกฝ้ายว่า ”  แล้วป้าคนนั้นก็เปิดประตูเข้ามา  ทำให้เขาไม่พูดต่อ  ว้า! อดรู้เลย
    “ข้าวต้มร้อน ๆ มาแล้วจ๊ะ”  ป้าคนนั้นกลับมา พร้อมกับชามข้าวต้มที่หอมมาก ๆ  ท่าทางต้องอร่อยแน่ ๆ เลย
    “ขอบคุณครับ”  พี่จุงรีบรับชามเอาวางไว้บนพื้น  แล้วป้าก็เดินออกไป
    “เมื่อกี้  พี่จุงจะบอกอะไรฝ้ายหรือคะ”
    “คือ .”  ดูเขาอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ  เหมือนจะไม่ค่อยอยากบอกฉันเท่าไหร่เลย
******************
ตอนต่อไปจะเป็นยังไงนะ  แล้วพี่จุงจะบอกฝ้ายหรือเปล่า
ก็ติดตามดูนะคะ  ขอบคุณทุกคนนะ ที่เป็นกำลังใจ
    “ผมต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายขอบคุณฝ้าย  รู้ไหมตั้งแต่ผมได้เจอฝ้าย  ชีวิตผมก็มีแต่ความสุข”
    “ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกคะ”  พี่จุงพูดอย่างนี้ได้ไงเนี่ย  เค้าเขินนะ
    “ฝ้าย  ผมมีอะไรบางอย่างจะบอกฝ้าย”  ทำไมเขาต้องมองด้วยสายตาอย่างนั้นด้วย  รู้ไหมว่า ใจฉันชักเต้นไม่จังหวะแล้วนะ
    “อะไรหรือคะ”
    “คือ ผม .”  ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบ  ก็มีใครบางคนมากดออดที่หน้าประตู  (จะมาทำไมกันตอนนี้เนี่ย  เลยไม่รู้เลยว่าพี่จุงจะบอกอะไรฉัน)
    “ออด ๆ ๆ ๆ “  คนที่มายังกดออดไม่เลิก  ที่บ้านไม่มีออดให้กดหรือไงฟะ  ฉันคิดในใจ
    “เดี๋ยวผมไปดูเอง  ฝ้ายรออยู่ตรงนี้นะ”
    เขาเดินไปที่ประตู  ส่องผ่านช่องเล็ก ๆ ที่เค้ามีตรงประตูบ้านกันอะ  ไม่รู้เรียกว่าอะไรอะ  นั่นแหละ ทุกคนคงจะเข้าใจนะ  ดูท่าทางเขาตกใจมากเลย    เขารีบวิ่งมาหาฉัน แล้วจับมือฉันวิ่งออกไปทางประตูหลังบ้าน  (เพิ่งรู้นะเนี่ย ว่าบ้านนี้มีประตูหลังบ้านด้วย)  แล้วเขาก็พาฉันวิ่งไปเรื่อย ๆ ไม่คิดจะพักให้ฉันถามหน่อยหรือไงว่ามันเกิดอะไรขึ้น  ถึงต้องวิ่งอย่างกับหนีตายซะขนาดนี้
    แล้วเขาก็มาหยุดในซอยแคบ ๆ แถมยังมืดด้วย  หน้าของเราสองคนใกล้กันมาก  ก็ห่างกันไม่ถึง 3 ซม.  ฉันไม่เคยอยู่ใกล้ผู้ชายมากขนาดนี้มาก่อนเลย  ใจฉันเริ่มเต้นแรงขึ้น  ก็ทั้งเหนื่อย และตื่นเต้นด้วย  ฉันรู้สึกได้ถึงลมหายใจที่หอบถี่ของเขา
    “พี่จุงนี่มันเกิดอะไรขึ้นคะ  ทำไมเราต้องวิ่งหนีมาอย่างนี้ด้วย”
    “มีเรื่องนิดหน่อยครับ  ไว้ผมจะเล่าให้ฟังทีหลัง  แต่ตอนนี้ฝ้ายต้องเชื่อผมนะ อยู่เงียบ ๆ อย่าส่งเสียงอะไรทั้งนั้น” 
    ฉันได้ยินเสียงคนวิ่งมากันเยอะแยะเลย  แล้วพวกนั้นก็มาหยุดยืนตรงใกล้ ๆ กับซอยที่พี่จุงและฉันซ่อนตัวอยู่  พวกนั้นถือมีด กับปืนมาด้วย  นี่พวกมันจะมาไล่ฆ่าใครเนี่ย
    “หายไปไหนของมันวะ  ซุง ซี จุง  อย่าให้ข้าเจอนะ  จะเอาให้ตายเลย”  ฉันว่าฉันได้ยินคนพวกนั้นพูดถึงชื่อของพี่จุงนะ
    “เฮ้ย!  ไปดูทางโน้นดิ  เดี๋ยวข้าดูทางนี้เอง”  คนที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าออกคำสั่ง  แล้วก็วิ่งสลายตัวกันไป  ฉันได้ยินเสียงพี่จุงถอนหายใจเฮือกใหญ่
    “พี่มีเรื่องกับพวกเมื่อตะกี้นี้ใช่ไหมคะ”  ฉันอดถามไม่ได้  ก็มันสงสัยนี่นา
    “ครับ  ตอนนี้อย่าเพิ่งถามอะไรเลย  ผมว่าเรารีบหาที่พักที่ปลอดภัยกว่านี้ดีกว่า”
    “เรากลับไปบ้านไม่ได้หรือคะ”
    “ไม่ได้  มันยังไม่ปลอดภัยครับ  เดี๋ยวเราไปเอามอเตอร์ไซค์กันก่อน แล้วเราค่อยหาที่พักกันอีกที”  เขารีบพาฉันวิ่งไปที่บ้าน  แล้วรีบออกรถทันที  อากาศตอนกลางคืนนี่ก็หนาวเหมือนกันนะเนี่ย  ดีนะที่ได้ซบหลังพี่จุง  พอให้ฉันรู้สึกอุ่นขึ้นมาบ้าง  แต่มือฉันจะแข็งอยู่แล้ว  นั่งไปซักพัก  ฉันก็เผลอหลับไป
    พอตื่นขึ้นมาอีกที  ฉันก็อยู่บนฟูกนุ่ม ๆ  แล้วก็เห็นป้าเจ้าของร้านเนื้อย่างนั่งอยู่ข้าง ๆ ป้าคนนั้นยิ้มให้ฉันด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น
    “เป็นยังไงบ้างจ๊ะ”  ป้าคนนั้นพูดเป็นภาษาเกาหลี  ฉันก็ฟังไม่ออกหนะสิ  ทำไงดีละเนี่ย  อือ! ใช่ พี่จุง พี่จุงอยู่ไหนเนี่ย
    “พี่ซุง ซี จุง หละคะ”  ฉันพูดเป็นภาษาไทย  แต่ฉันคิดว่าป้าเค้าคงจะรู้หรอกนะว่าหมายถึงอะไร  แล้วป้าก็หายไปซักพักหนึ่ง  กลับมาพร้อมกับพี่จุง
                “เป็นยังไงบ้างครับฝ้าย”
    “รู้สึกปวดหัวนิดหน่อยหนะคะ  แล้วที่นี่ที่ไหนคะ”  ฉันรัวถามพี่เค้าเป็นชุดเลย
    “ที่นี่บ้านของป้าเจ้าของร้าน ที่เรามาทานอาหารเย็นกันหนะครับ  เราจะมาหลบกันอยู่ที่นี่ซักพักนึง  ฝ้ายไม่ต้องห่วงนะ  จะไม่มีใครมาทำร้ายฝ้ายได้แน่นอน  ถ้าผมยังอยู่ข้าง ๆ ฝ้าย”  สีหน้าเขาจริงจังมาก ๆ เลยนะเนี่ย  แต่ถึงจะจริงจังแค่ไหน  เขาก็ยังน่ารักอยู่ดีแหละ
    “แล้วฝ้ายมานอนอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ”
    “ก็พอมาถึง ฝ้ายก็หลับไปแล้ว  ผมปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่น  เลยต้องอุ้มเข้ามานะครับ  ขอโทษด้วยนะครับ ที่ต้องทำแบบนั้น”  เขาหน้าแดงอีกแล้วหละ  เขาช่างเป็นสุภาพบุรุษจังเลยนะ
    “ขอบคุณคะ”
    “เดี๋ยวป้าไปเอาข้าวต้มมาให้นะจ๊ะ”  ป้าคนนั้นพูดกับพี่จุง  แล้วก็เดินออกไป
    “อะไรหรือคะ”  ฉันถามด้วยความอยากรู้
    “อ๋อ  เดี๋ยวป้าเค้าจะเอาข้าวต้มมาให้หนะครับ”
    “คะ”
    “ฝ้าย”
    “คะ พี่จุง”
    “คือ ผมอยากจะบอกฝ้ายว่า ”  แล้วป้าคนนั้นก็เปิดประตูเข้ามา  ทำให้เขาไม่พูดต่อ  ว้า! อดรู้เลย
    “ข้าวต้มร้อน ๆ มาแล้วจ๊ะ”  ป้าคนนั้นกลับมา พร้อมกับชามข้าวต้มที่หอมมาก ๆ  ท่าทางต้องอร่อยแน่ ๆ เลย
    “ขอบคุณครับ”  พี่จุงรีบรับชามเอาวางไว้บนพื้น  แล้วป้าก็เดินออกไป
    “เมื่อกี้  พี่จุงจะบอกอะไรฝ้ายหรือคะ”
    “คือ .”  ดูเขาอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ  เหมือนจะไม่ค่อยอยากบอกฉันเท่าไหร่เลย
******************
ตอนต่อไปจะเป็นยังไงนะ  แล้วพี่จุงจะบอกฝ้ายหรือเปล่า
ก็ติดตามดูนะคะ  ขอบคุณทุกคนนะ ที่เป็นกำลังใจ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น