ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บังเอิญจังนะ
เช้าวันหนึ่งของกรุงเทพฯ ท่ามกลางความสับสนวุ่นวายของคนในเมืองกรุงที่ต้องเผชิญกับสภาวะต่าง ๆ ที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ หญิงสาวคนหนึ่งในชุดนักเรียนม.ปลายกำลังรีบร้อนที่จะไปโรงเรียน
    “พ่อคะ เร็วหน่อยสิคะ เดี๋ยวหนูไปสายนะ” เธอพูดอย่างร้อนรน
    “เสร็จแล้ว ๆ เอ้าขึ้นรถกันเร็ว ๆ” พ่อของนลินีพูด แล้วตัวเธอเองก็ได้เดินทางเข้าสู่การจราจรที่ติดขัด เมื่อแป้งหรือนลินีได้มาถึงโรงเรียนในเวลา 8 โมงเช้าพอดี
    “เฮ้! แป้งทำไมพึ่งมาเอาป่านนี้หละ” เพื่อนของเธอพูด
    “เนี่ยกว่าจะมาถึงก็แทบตาย ดูสิรถในบ้านเมืองเราก็ติดได้ทุกวันเลยนะ มีวันไหนบ้างเนี่ยที่กรุงเทพฯ รถจะไม่ติดบ้างนะ” แป้งกล่าว
เมื่อกริ่งโรงเรียนดังขึ้น นักเรียนทั้งหมดก็ออกมาเข้าแถวหน้าห้องเรียน เมื่อเพลงชาติจบลง นักเรียนแต่ละคนก็เดินเข้าห้องกันอย่างเป็นระเบียบ อาจจะเป็นเพราะมีครูคอยดูอยู่ก็ได้ หลังจากที่ครูเช็คชื่อเด็กเสร็จเรียบร้อยแล้ว โอ๋จึงกล่าวขึ้นว่า
“แป้ง เมื่อคืนทำอะไรอยู่อะ โทรไปเห็นพ่อเธอบอกว่านอนแล้ว”
“ก็เราบอกกี่ทีแล้วว่าอย่าโทรไปดึก เพราะเราเป็นคนนอนเช้า”
พอดีกับที่ครูสุวรรณครูที่สอนภาษาไทย ซึ่งนักเรียนทุกคนต่างกลัวเพราะครูคนนี้ดูภายนอกอาจจะไม่มีอะไร ดูเป็นครูธรรมดาที่คงจะไม่ตีเด็ก แต่ไม่ใช่เธอเป็นคนที่เข้มงวดในกฎระเบียบ ข้อบังคับ รวมทั้งการลงโทษเมื่อไม่ได้ทำการบ้านด้วยการตี
“นี่เธอสองคนคุยอะไรกันเนี่ย ถึงเวลาเรียนทำไมไม่รู้จักเรียนกันฮะ” ครูตักเตือนแป้งและโอ๋
“คะ” หญิงสาวตอบรับพร้อมกัน
เมื่อถึงเวลาพักกลางวัน แป้งและโอ๋ทุกวันมักจะไปทานข้าวด้วยกัน แถวโรงเรียนหรือในโรงเรียนก็ตาม หลายคนมักคิดว่าเธอสองคนนี้อาจจะเป็นคู่ทอมดี้ก็ได้ แต่ไม่ใช่พวกเธอเป็นแค่เพื่อนสนิทที่สนิทกันมาก
“อือ เดี๋ยวกินเสร็จแล้วไปดูหนังสือต่อนะ” โอ๋ชักชวนเพื่อน
“ได้ แต่ขอกินก่อนนะคือว่าเราหิวอะ กินอะไรกันดีหละโอ๋”
“งั้นเอาเป็นข้าวมันไก่ก็แล้วกัน โอเคปะ”
“โอเค งั้นไปกันเลย เร็ว ๆ ด้วย”
เมื่อสองสาวได้เดินมาถึงร้านข้าวมันไก่และสั่งข้าวทันที “พี่คะ เอาเนื้อหนังพิเศษ แล้วก็เนื้อเนื้อพิเศษคะ”
“แหมรู้ดีจริงนะ” โอ๋เหน็บแนม “ก็เราเป็นเพื่อนกันหนิ” แป้งตอบ
ระหว่างที่ทั้งสองทานข้าวกันอยู่ แป้งก็ได้เอ่ยถามขึ้นว่า
“อือ ใช่ที่ว่าจะไปดูหนังสือหนะ หนังสืออะไรหรอ”
“ก็หนังสือ I-Spy ไงรู้สึกว่าเดือนนี้เขาจะลงรูปพี่โจ้ด้วยนะ”
“จริงอะ งั้นเราขอดูเป็นคนแรกเลยนะ”
วรเวช หรือพี่โจ้ที่สาว ๆ รู้จักกันดี เขาคนนี้เป็นดารานักร้องยอดนิยมของสาว ๆ ในสมัยนี้ เขาดูคมเข้ม อาจจะเป็นเพราะสีผิวของเขาที่ดูดำแต่ไม่ถึงกับดำมาก ทำให้เขาดูเท่ห์
“เนี่ยนะ ถ้าเราได้เจอเค้าก็ดีซินะ อยากจะมีพี่ชายอย่างนี้ซักคน ถ้ามีเราคงรักตายเลยแหละ”
    “แต่เราว่านะฝันของเธอจะเป็นจริงแล้วหละ”
    “ทำไมหรอ”
    “ก็เราได้ยินมาว่าพี่โจ้จะมาถ่ายมิวสิควิดีโอแถว ๆ โรงเรียนเราด้วยแหละ รู้สึกว่าจะเป็นวันเสาร์นี้นะ”
    “จริงอะ งั้นเดี๋ยวเราจะมาให้ได้ โอ๋มาเป็นเพื่อนเรานะ”
    “ก็ได้ เพื่อนเราไม่น่าเป็นถึงขนาดนี้เลยนะ เห็นเงียบ ๆ ติ๋ม ๆ”
    “แหม คนเราก็ต้องมีความชื่นชอบส่วนตัวบ้างสิ”
    แล้วเวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว จนถึงเช้าวันเสาร์ แป้งรีบตื่นแต่เช้า แล้วอาบน้ำ แต่งตัว ทานข้าว จนพ่อแม่ของเธอสงสัยว่าทำไมวันนี้ลูกสาวถึงรีบตื่นแต่เช้านัก แม่จึงเอ่ยถามขึ้นว่า
    “ทำไมวันนี้ลูกสาวเราตื่นเช้าจังนะพ่อ”
    “ก็นั่นหนะสิ มีหนุ่มที่ไหนนัดไปเที่ยวหรือเปล่าน้า” พ่อพูดแล้วทำหน้าไม่รู้เรื่อง
    “เปล่าหรอกคะ คือวันนี้แป้งมีนัดกับโอ๋หนะคะ กะว่าจะไปเดินเที่ยวกัน” หญิงสาวในชุดเสื้อยืดแขนตุ๊กตาและกางเกงยีนส์ตอบ
    “แล้วหนูจะไปเจอโอ๋ที่ไหนหละลูก” แม่เอ่ยถาม
    “ก็แถวโรงเรียนจ๊ะแม่ อือ” แป้งพูดพลางเหลือบมองดูนาฬิกาข้อมือของตน “โหจะเก้าโมงแล้ว งั้นเดี๋ยวแป้งไปก่อนนะคะ สวัสดีคะคุณพ่อคุณแม่” แป้งพนมมือไหว้ลา
    “อย่ากลับเย็นนักนะลูก” แม่กล่าวเตือน “ได้คะแม่” แป้งเอ่ยพร้อมกับปิดประตูบ้าน
    แป้งเดินออกมาหน้าปากซอยเพื่อรอรถเมล์ ระหว่างที่จะข้ามถนนมาอีกฟากหนึ่ง แป้งก็ไม่ได้มองรถที่กำลังแล่นมาจำทำให้เธอถูกรถคันนั้นเฉี่ยวเข้าทันที เพราะคนขับพยายามหักหลบ คนขับจึงรีบออกมาจากรถเพื่อดูคนเจ็บ
    “อือ คุณเป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ” ชายหนุ่มกล่าวถามด้วยความห่วงใย
    “โอ้ย! มีหรือจะไม่เป็นอะไร คุณหนะขับรถภาษาอะไรไม่ดูคนบ้างเลย” แป้งต่อว่าด้วยความโกรธโดยมิได้มองหน้าคู่กรณี
    “ขอโทษจริง ๆ ครับ ผมไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ นะครับ” ชายหนุ่มกล่าวพร้อมประคองหญิงสาวขึ้นเพื่อที่จะพาเธอไปส่งโรงพยาบาล เมื่อแป้งเงยหน้าขึ้นมองหน้าคู่กรณี เธอก็ถึงกับตะลึง
    “นี่พี่โจ้ใช่ไหมคะ” หญิงสาวถามเพื่อความชัวร์
    “ใช่ครับ ว่าแต่คุณหนะครับ ตอนนี้ไปโรงพยาบาลก่อนเถอะครับ” ดาราหนุ่มเอ่ย
    “ไม่เป็นไรหรอกคะ แค่แผลถลอกนิดหน่อยเองคะ” แป้งเอ่ย
    “แต่ว่าแผลถลอกแค่นี้ก็อาจจะเป็นแผลเรื้อรังก็ได้นะครับ” หนุ่มโจ้กล่าวด้วยความห่วงใย
    แต่ในระหว่างที่หนุ่มสาวสองคนนี้กำลังพูดคุยกันอยู่นั้น โอ๋เพื่อนสาวก็ได้นั่งรถผ่านมาพอดี และได้เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นจึงรีบหยุดรถ และเดินลงมาจากรถทันทีพร้อมกับกล่าวว่า
    “แป้ง เป็นอะไรหรือเปล่า เจ็บตรงไหนไหม”
    “ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ แค่ถลอกนิดหน่อยเอง” แป้งตอบด้วยอาการเขินปนกันความดีใจที่ได้พบดารานักร้องคนโปรด
    “งั้นเราก็ไปกันเถอะ เดี๋ยวไปไม่ทันนะ นี่ก็เก้าโมงกว่าแล้วนะ” โอ๋พูดพร้อมกับลากตัวเพื่อนสาว โดยไม่มองหน้าชายหนุ่ม
    “โอเค งั้นแป้งไปก่อนนะคะ”
    “ครับ แล้วหากมีโอกาส เราคงจะได้พบกันอีกนะครับ”
    โอ๋ได้ลากแป้งขึ้นรถและซักถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โอ๋จึงได้รู้ว่าคู่กรณีของแป้งเป็นใคร
    “แป้งเธอว่ายังไงนะ เมื่อตะกี้พี่โจ้ วรเวชขับรถชนเธอหรือ” โอ๋กล่าวด้วยสีหน้าตกใจ
    “ใช่ ทำไมหรอ” แป้งนั่งอมยิ้มคนเดียว
    “ก็แล้วทำไมแป้งไม่สะกิดเราบ้างหละ” โอ๋เริ่มหน้าเสียเมื่อรู้ความจริง
    “แล้วเธอมีเวลาให้ฉันสะกิดไหมหละ พอเข้ามาถึงก็พูด ๆ อย่างเดียวไม่ฟังเสียงใครบ้างเลย” แป้งต่อว่าเป็นชุด
    “ดูดิ หน้าแตกหมดเลย โหแล้วยิ่งเดี๋ยวต้องไปเจอหน้ากับพี่เขาด้วยหนะซิ อายชะมัดยากเลย”
    “ไม่เป็นไรหรอก พี่เขาดูเป็นคนไม่ถือตัว แถมยังเป็นสุภาพบุรุษอีกด้วย” แป้งปลอบเพื่อน แต่ยังไม่วายที่จะชมเขาคนนั้น
    “แหม เห็นเขาดีไปหมดซะทุกอย่างเชียวนะ” แป้งแซว
    “ก็... เอาเถอะ อย่าไปพูดถึงมันเลยนะ” แป้งพูดกับเพื่อน แล้วหันไปบอกให้คนขับเตรียมจอด
    “พี่ ๆ เดี๋ยวจอดตรงรถเก๋งข้างหน้านี่แหละคะ” แป้งชี้นิ้วไปยังรถคันนั้น
    “ครับ” แล้วคนขับก็จอดตรงที่เธอบอก แป้งและโอ๋ก็ลงจากรถ โดยมีแป้งวิ่งนำไปยังกองถ่าย โอ่จึงต้องวิ่งตามเธอไป มิฉะนั้นคงต้องตามเธอไม่ทันแน่
    “แป้งจ๋า รอเพื่อนด้วยสิ”    โอ๋พูดอย่างเหนื่อยหอบ
    “ก็วิ่งตามมาเร็ว ๆ สิ เดี๋ยวก็ไม่ทันหรอก เร็ว” แป้งยังคงวิ่งนำต่อไป แต่เธอต้องเบรกกะทันหัน จนทำให้แป้งที่วิ่งตามมาด้วยความเร็วที่ไม่แพ้กัน เบรกไม่ทันจึงชนเข้าที่หลังแป้งอย่างจัง
    “เป็นอะไร ทำไมหยุดแล้วไม่รู้จักบอกกันบ้าง” โอ๋ต่อว่า ทั้ง ๆ ที่เธอยังคงหอบอยู่
    “ก็ดูนั่นสิ เห็นอะไรมั้ย” แป้งชี้ไปยังกลุ่มคนกลุ่มใหญ่ที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด ท่ามกลางทีมงานที่อยู่กระจัดกระจาย
    “อ๋อ เห็นก็คนไง ไม่รู้จักหรอ”    โอ๋ย้อนถาม
    “รู้ แต่ตอนนี้ไม่ต้องมาเล่นมุขอย่างนี้ได้ปะ”
    “ก็แล้วมันมีอะไรหละ” แป้งยังคงซักต่อ
    “ก็เห็นไหมพี่โจ้ไง อยู่ตรงกลุ่มนั้น”
    แป้งรีบลากเพื่อนตรงเข้าไปยังกลุ่มคนที่ทั้งหมดนั้นคือหญิงสาว ไม่ว่าจะวัยใดก็ตามต่างรุมล้อมศิลปินคนดังอยู่ จนทำให้คนที่อยู่ข้างหลังไม่เห็นจุดสนใจที่พวกเธอห้อมล้อมกัน แต่แป้งก็พยายามเบียดตัวเข้าไปจนได้อยู่ข้างหน้าสุดและเจอกับนักร้องหนุ่มที่ตนชื่นชอบ
    “อ้าว น้องนี่เอง เป็นไงบ้างครับ” เสียงทุ้มของใครคนหนึ่งดังขึ้นมา
    “ไม่เป็นไรแล้วคะ” แป้งตอบอย่างอาย ๆ
    “เดี๋ยวพี่ขอคุยอะไรหน่อยได้ไหมครับ มีธุระหรือเปล่า” ชายหนุ่มเอ่ยถาม
    “ไม่มีคะ” แป้งตอบด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม
    “งั้นผมขอตัวสักแป๊บนะครับ” นักร้องหนุ่มกล่าวพร้อมกับถอนตัวออกมาจากบรรดาแฟนเพลง และแฟนคลับ เดินนำแป้งและโอ๋มายังห้องแต่งตัวของเขา
    “พี่มีอะไรหรือคะ หรือว่ายัยแป้งทำรถพี่บุบคะ” โอ๋กล่าวถาม แต่ไม่วายที่จะเหน็บแนมเพื่อน
    “เปล่าหรอกครับ ผมกลัวว่าน้องเขาจะบุบมากกว่านะครับ จริงไหม” หนุ่มโจ้พูด แล้วหันไปมองหน้าใส ๆ ที่นั่งมองหน้าเขาอยู่
    “จริงคะ เพื่อนแป้งก็พูดเว่อร์ไป” เธอเหยียบเท้าเพื่อนเพื่อแก้เขิน
    “โอ้ย แป้งจะบ้าหรอ อยู่ดี ๆ ก็มาเหยียบเท้าเรา”
    “อุ๊ย โทษที เราไม่ได้ตั้งใจอะ”
    “เอาหละครับ เรามาคุยธุระของเรากันดีกว่า” ชายหนุ่มกล่าวเพื่อห้ามศึก
    “โอเคคะ ว่าแต่พี่มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ” แป้งเอ่ยถามขึ้นบ้าง
    “ก็คือว่าผมอยากจะเลี้ยงข้าวน้องสองคน เพื่อไถ่โทษที่ผมชนน้องแป้งหนะครับ”
    “ไม่เป็นไรคะ แค่อุบัติเหตุนิดหน่อยเอง หนำซ้ำยังเป็นความประมาทของแป้งเองด้วยคะ”
    “แต่ว่าถ้าผมไม่ได้เลี้ยงข้าวน้องสองคน ผมคงต้องโทษตัวเองไปอีกนาน ไปทานข้าวกับผมเถอะนะครับ” หนุ่มโจ้กล่าวง้อ เมื่อเห็นสาวทั้งสองไม่ยอมที่จะไปทานข้าวด้วย
    “แต่..”
    “ไม่มีแต่หรอกครับ ไปทานข้าวกันนะครับ” หนุ่มโจ้พูดสวนขึ้นมา
    แป้งและโอ๋หันหน้าปรึกษากัน แล้วตอบออกไปว่า
    “งั้นก็ได้คะ” โอ๋บอกผลสรุปจากการปรึกษาครั้งนี้ออกไป
    “เอาเป็นว่าเดี๋ยวประมาณบ่าย 4 โมงครึ่ง เรามาเจอกันที่นี่นะครับ” โจ้พูดพร้อมชำเลืองมองนาฬิกาบนข้อมือตน
    “คะ”
    การถ่ายทำมิวสิคฯ ดูจะไม่ราบรื่นอย่างที่ทุก ๆ คนคิด เพราะว่านางเอกมิวสิคฯ เกิดไม่สบายขึ้นมากะทันหันจึงมาทำงานไม่ได้ ครั้นการถ่ายทำนี้จะเลื่อนวันออกไปก็คงจะทำไม่ได้ เนื่องจากมิวสิคฯ ตัวนี้เป็นตัวแรกที่ใช้ในการเปิดตัวอัลบั้มใหม่ของหนุ่มโจ้ และเหลือเวลาไม่มากในการตัดต่อชิ้นงานทั้งหมด จึงทำให้ผู้กำกับต้องวิ่งมาปรึกษากับเจ้าของชิ้นงานโดยด่วน ว่าจะทำอย่างไรต่อไปกันดี
    “น้องโจ้ นางเอกมิวสิคฯ ที่ทางเราจัดไว้เธอไม่สบายมาไม่ได้” ผู้กำกับยังคงหอบด้วยความเหนื่อย
    “แย่แล้ว ถ้าจะเลื่อนก็เลื่อนได้เพราะอาทิตย์นี้ผมว่างตลอด จะถ่ายเมื่อไหร่ก็ได้ แต่พวกพี่ ๆ เหลือแค่สัปดาห์เดียว เดี๋ยวไหนพี่ยังจะต้องตัดต่ออะไรอีกตั้งเยอะ ผมกลัวว่าพี่จะทำไม่ทันน่ะครับ” สีหน้าของเขาเริ่มเครียดขึ้นมา
    “ก็นั่นน่ะสิ เฮ้อ เราจะทำยังไงกันดีน้า” ผู้กำกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วคิดหาวิธีให้งานเสร็จ แต่ก็ไม่มี จนเขาได้หันมาเห็นแป้งและนึกวีแก้ไขได้ทันที
    “พี่รู้แล้วว่าจะหานางเอกได้จากไหน” เขาพูดพร้อมหันมามองหน้าแป้ง
    “ใครครับพี่ ใคร” หนุ่มโจ้เอ่ยถามอย่างร้อนรนด้วยเป็นห่วงในงาน
    “ก็น้องคนนี้ไง หน้าตาน้องเขาใช้ได้เลยนะ”
    “จริงด้วยพี่ งั้นแป้งมาเล่นเป็นนางเอกมิวสิคฯ ให้กับผมได้ไหมครับ”
    แป้งนั่งนิ่งเหมือนว่าไม่ได้ยินในสิ่งที่เขาพูดเลยเมื่อได้ยินว่าเขาจะให้เธอเป็นนางเอกมิวสิคฯ ในขณะที่เธออยู่ในเหตุการณ์ทุกตอน
    “แป้ง เป็นอะไร ทำไมนั่งแข็งเชียว” โอ๋สะกิดเรียกเพื่อนแรง ๆ แต่เธอยังคงนั่งนิ่งเหมือนเดิม
    “อะไรคะ” แป้งรู้สึกตัวขึ้นเมื่อถูกแรงเหยียบของเพื่อน
    “ตกลงน้องเป็นนางเอกให้พวกพี่นะ ได้ไหม” ผู้กำกับรบเร้า
    แป้งหันไปปรึกษากับโอ๋อีกครั้งเกี่ยวกับเรื่องนี้ แล้วเธอก็ตอบออกมาว่า
    “ตกลงคะ แต่ถ้าแป้งทำอะไรให้พี่เสียหายก็อย่าว่ากันนะคะ” แป้งพูดพร้อมกับโค้งตัวลง
    “ไม่ว่าหรอก เอ้าเร็วไปแต่งตัวกัน” เขาลากเธอเข้าไปให้ช่างแต่งหน้า ทำผม แต่งตัวให้เธอ
    การถ่ายทำเป็นไปอย่างเรียบร้อย แป้งเล่นได้ดีมากกว่าที่ทุก ๆ คนคาดไว้ โอ๋นั่งเป็นกำลังใจให้เพื่อนอยู่ข้าง ๆ จนงานเสร็จ และเดินไปห้องแต่งตัวกับแป้งเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมไปทานข้าวกับนักร้องหนุ่ม
    “น้องแป้งแต่งตัวเสร็จหรือยังครับ” ชายหนุ่มเอ่ยถามเมื่อเห็นเธอเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้านานแล้ว
    “จะเสร็จแล้วคะ” เสียงใส ๆ ตอบกลับมา แต่ไม่ใช่เสียงของแป้ง
    หญิงสาว 2 คนเดินออกมาจากห้องแต่งตัวตรงไปยังข้างหลังของผู้ชายร่างสูงใหญ่คนหนึ่ง
    “พี่โจ้คะ แป้งเสร็จแล้วคะ” แป้งร้องทัก
    “ไปกันเลยสิครับ เชิญทางนี้ครับ” หนุ่มโจ้พาเดินนำไปที่รถของตน โดยแป้งนั่งอยู่ข้างคนขับ ส่วนโอ๋ก็เดินไปนั่งเบาะหลัง โจ้ขับรถตรงไปตามถนนสายสุขุมวิท เพื่อหาร้านอาหารอร่อย ๆ ทานกัน
   
    “ร้านดูโรแมนติกจังเลยนะคะ” แป้งพูดขึ้นเมื่อลงจากรถแล้วยืนอยู่หน้าร้าน
    “จริงคะ แหมนึกไม่ถึงเลยนะคะว่าพี่โจ้จะรู้จักร้านอาหารอย่างนี้ด้วย” โอ๋เสริมต่อ
    “ทำไมหรอ เห็นผมเป็นคนแบบไหนครับถึงดูแปลกใจจัง” เขากล่าวอย่างสงสัย
    “ก็โอ๋นึกว่า พี่จะเข้าแต่ร้านอาหารหรู ๆ แพง ๆ นี่คะ” โอ๋เอ่ยความในใจออกมา
    “แปลกนะครับ ผมกลับไม่ชอบร้านแบบนั้นเลยครับ มันดูเว่อร์ ๆ ยังไงก็ไม่รู้” โจ้ตอบแล้วเดินไปยังโต๊ะอาหาร แป้งและโอ๋เดินตามอย่างว่าง่าย
    “เชิญสั่งกันได้เต็มที่เลยนะครับ วันนี้ผมเลี้ยง” เขาพูดพร้อมกับเริ่มเปิดดูเมนู
    “ถ้าพี่พูดอย่างนั้น โอ๋สงสารพี่แทนเลยนะคะ”
    “สงสารอะไรผมหรอ”
    “ก็เพื่อนโอ๋เขากินเก่งไม่ใช่เล่นนะคะ”
    “ขนาดนั้นเลยหรอ งั้นก็อย่าเต็มที่มากก็ได้เดี๋ยวผมหมดตัวแน่เลยครับ” โจ้รับมุขโอ๋
    “ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกคะพี่ โอ๋ก็พูดเกินจริงไป” แป้งพูดแล้วทำตาเขียวใส่เพื่อนสาว
    เมื่ออาหารทุกอย่างที่สั่งไว้มาอยู่บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว ทุก ๆ คนก็ลงมือทานข้าวกันอย่างเอร็ดอร่อย หรือว่าหิวก็ไม่ทราบ โดยไม่มีใครพูดคุยกันเลย หลังจากทานข้าวเสร็จแล้ว โจ้ก็พูดขึ้นมาเพื่อทำลายความเงียบ
    “เป็นยังไงบ้างครับวันนี้ เหนื่อยกันหรือเปล่า”
    “ไม่เหนื่อยหรอกคะ แป้งสนุกมากกว่าอีก”
    “แล้วโอ๋ล่ะ เหนื่อยไหม”
    “แหมถ้าแค่นี้โอ๋เหนื่อย คนอื่นไม่ต้องเป็นลมเลยหรอคะ” คำตอบของโอ๋เรียกเสียงหัวเราะได้จากคนฟังทั้งสองเล็กน้อย
    “จริงด้วยครับ อือ..แป้งชอบงานวงการบันเทิงใช่ไหมครับ เห็นวันนี้ตอนทำงานแป้งดูสนุกกับงานมากเลยนะครับ”
    “แน่นอนเลยคะพี่ เนี่ยนะเธอยังเคยบ่นกับโอ๋เลยว่าอยากจะเป็นนักร้องกับเขาสักที”
    “จริงหรอครับ ผมจะช่วยแนะนำเอาไหม” โจ้หันมาถามแป้งเพื่อความแน่ใจ
    “จริงก็จริงนะคะ แต่ว่าอย่างแป้งคงเป็นไม่ได้หรอกคะ”
    “อย่าพูดอย่างนั้นซิครับ ของอย่างนี้ถ้าใจรักก็ไม่ยากเกินตัวหรอกครับ”
    “งั้นแป้งก็ขอขอบคุณพี่มากเลยนะคะ” เธอยกมือไหว้ขอบคุณ
    “ไม่เป็นไรครับ ว่าแต่น้อง 2 คนจะกลับบ้านกันยังไงครับ” เขาพูดพร้อมชำเลืองมองดูนาฬิกา
    “ก็เดี๋ยวแป้งกับโอ๋จะนั่งแท็กซี่กลับกันคะ” แป้งตอบ
    “งั้นเดี๋ยวพี่ไปส่งแล้วกันนะครับ” โจ้รีบเสนอตัว
    “ไม่ต้องหรอกคะ พวกเรากลับกันเองได้”
    “ดูสิทุ่มนึงล่ะ นั่งแท็กซี่กลับกันเอง มันอันตรายนะครับเป็นผู้หญิงกันด้วย” เขาพูดอย่างเป็นห่วง
    “เราก็เคยกลับกันบ่อยไปนะคะ ใช่ไหมแป้ง” โอ๋สะกิดเพื่อนให้ตอบ
    “ใช่คะ มันจะรบกวนพี่เปล่า ๆ คะ”
    “ไม่รบกวนอะไรหรอก งั้นเรากลับกันเลยดีกว่า เดี๋ยวพ่อแม่น้อง ๆ จะเป็นห่วง” เขาพูดแล้วควักเงินออกมาจ่ายค่าอาหารทั้งหมด
    จากนั้นหนุ่มสาวทั้ง 3 คนก็เดินออกมาจากร้าน เพื่อกลับบ้านกัน
    “บ้านน้อง ๆ อยู่ไหนกันครับ ผมจะได้ไปส่งถูก”
    “ไปส่งเราสองคนที่บ้านแป้งก็ได้คะ”
    “อ้าว ทำไมอย่างนั้นหละครับ เดี่ยวผมไปส่งทีบ้านโอ๋ด้วยก็ได้นี่ครับ”
    “ไม่เป็นไรหรอกคะ แค่นี้ก็รบกวนพี่มากพอแล้ว”
    “อย่างนั้นก็ได้ครับ แล้วบ้านแป้งอยู่ไหนหละครับ” เขาละสายตาจากคนที่พูดอยู่ด้วยก่อนมามองแป้ง
    “เดี่ยวแป้งค่อย ๆ บอกไปแล้วกันคะ”
    โจ้ขับรถตรงไปยังบ้านของแป้ง ตามคำบอกเล่าของเจ้าของบ้านที่นั่งอยู่ข้าง ๆ จนรถคันงามของเขาก็มาจอดอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่ง ที่ไม่ใหญ่มากเท่าไหร่ แต่ก็ดูร่มรื่นดีด้วยต้นไม้นานาชนิด
    “ขอบคุณพี่สำหรับทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับวันนี้นะคะ” แป้งพูดเมื่อลงมาจากรถแล้ว
    “ผมเองก็ต้องขอบคุณน้องเหมือนกันหละครับ ถ้าไม่มีน้องงานพี่วันนี้คงจะไม่เสร็จแน่”
    “คะ งั้นเราหายกันนะคะ”
    “ผมขอตัวก่อนนะครับ”
    “คะ บ๊ายบายคะ” โอ๋และแป้งโบกมือลารถที่กำลังถอยออกไป
    “ครับ” โจ้ก็โบกมือลาเช่นกัน
    แป้งเปิดประตูเข้าไปในบ้าน และได้พบหน้าพ่อกับแม่นั่งคอยอยู่ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
    “ไปไหนมา” แม่ทำเสียงดุใส่
    “ไปเดินเล่น แล้วก็...” แป้งตอบ ใบหน้าของเธอดูซีดลง
    “เห็นไหมว่ากี่โมงแล้ว”
    “เห็นคะ”
    “แล้วทำไมไม่โทรมาบอกทางบ้านว่าจะกลับช้า”
    “ก็แป้งลืมน่ะคะ”
    “แล้วไปไหนกันอีก” พ่อถามขึ้นบ้าง
    “ไปดูเขาถ่ายมิวสิคฯ น่ะคะ”
    “เมื่อตะกี้รถใคร ใครมาส่งหรอ”
    “รถพี่โจ้คะ พี่ที่เป็นนักร้องที่แป้งชอบน่ะคะ”
    คำตอบของเธอทำให้พ่อกับแม่เงียบผิดปกติ เธอจึงพูดอย่างสำนึกว่า
    “พ่อ แม่คะ แป้งขอโทษ แป้งรู้ว่าพ่อกับแม่เป็นห่วง แป้งขอโทษจริง ๆ นะคะ แป้งจะไม่ทำอย่างนี้อีกแล้วคะ” แป้งยกมือไหว้ ใบหน้าของเธอตอนนี้เต็มไปด้วยน้ำตา
    แม่เหลือบเห็นแผลถลอกที่แขนแป้งจึงเอ่ยถามขึ้นด้วยความตกใจโดยลืมความโกรธทั้งหมด
    “ไปโดนอะไรมาจ๊ะลูก”
    แป้งลูกคลำบาดแผลที่อยู่บนแขนของเธอแล้วจึงพูดออกไปว่า
    “แค่อุบัติเหตุนิดหน่อยเองคะ คือเมื่อเช้าแป้งซุ่มซ่ามไปหน่อยเลยโดนรถเฉี่ยวคะ” หยดน้ำตาใส ๆ ยังคงไหลรินอาบแก้มอยู่ดี
    “แล้วคนขับรู้ตัวหรือเปล่าว่าเขาเฉี่ยวหนู” พ่อซักต่อ
    “รู้คะ เขายังบอกอีกด้วยนะคะว่าจะพาหนูไปโรงพยาบาล แต่หนูไม่ไปเองคะ”
    “แล้วใครขับรถเฉี่ยวหนูล่ะ”
    “ก็พี่โจ้อีกนั่นแหละคะ เขาก็เลยชวนแป้งกับโอ๋ไปเลี้ยงข้าวเพื่อขอโทษนี่แหละคะ”
    แป้งเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้พ่อและแม่ฟังอย่างละเอียด โดยมีโอ๋คอยเสริมเรื่องราวอยู่ข้าง ๆ
    “อือ..นี่ก็ดึกมากแล้วโอ๋จะกลับบ้านหรือว่าจะนอนค้างที่นี่ไหมจ๊ะ” แม่เอ่ยถามเมื่อเหลือบเห็นนาฬิกาบอกเวลา 2 ทุ่มแล้ว
    “ถ้าไม่เป็นการรบกวนคุณน้าคุณอาหละก็ โอ๋ขอนอนค้างที่นี่สักคืนแล้วกัน” โอ๋ตอบหลังจากที่คิดอยู่เป็นนาน
    “ไม่รบกวนหรอก แต่โอ๋อย่าลืมโทรกลับไปบอกทางบ้านด้วยนะจ๊ะ เดี๋ยวเขาจะเป็นห่วงเอา”
    “คะ ขอบคุณมากนะคะ”
    แป้งวิ่งนำขึ้นไปยังห้องนอนตน โดยมีโอ๋วิ่งตามหลังไปติด ๆ
    “พ่อคะ เร็วหน่อยสิคะ เดี๋ยวหนูไปสายนะ” เธอพูดอย่างร้อนรน
    “เสร็จแล้ว ๆ เอ้าขึ้นรถกันเร็ว ๆ” พ่อของนลินีพูด แล้วตัวเธอเองก็ได้เดินทางเข้าสู่การจราจรที่ติดขัด เมื่อแป้งหรือนลินีได้มาถึงโรงเรียนในเวลา 8 โมงเช้าพอดี
    “เฮ้! แป้งทำไมพึ่งมาเอาป่านนี้หละ” เพื่อนของเธอพูด
    “เนี่ยกว่าจะมาถึงก็แทบตาย ดูสิรถในบ้านเมืองเราก็ติดได้ทุกวันเลยนะ มีวันไหนบ้างเนี่ยที่กรุงเทพฯ รถจะไม่ติดบ้างนะ” แป้งกล่าว
เมื่อกริ่งโรงเรียนดังขึ้น นักเรียนทั้งหมดก็ออกมาเข้าแถวหน้าห้องเรียน เมื่อเพลงชาติจบลง นักเรียนแต่ละคนก็เดินเข้าห้องกันอย่างเป็นระเบียบ อาจจะเป็นเพราะมีครูคอยดูอยู่ก็ได้ หลังจากที่ครูเช็คชื่อเด็กเสร็จเรียบร้อยแล้ว โอ๋จึงกล่าวขึ้นว่า
“แป้ง เมื่อคืนทำอะไรอยู่อะ โทรไปเห็นพ่อเธอบอกว่านอนแล้ว”
“ก็เราบอกกี่ทีแล้วว่าอย่าโทรไปดึก เพราะเราเป็นคนนอนเช้า”
พอดีกับที่ครูสุวรรณครูที่สอนภาษาไทย ซึ่งนักเรียนทุกคนต่างกลัวเพราะครูคนนี้ดูภายนอกอาจจะไม่มีอะไร ดูเป็นครูธรรมดาที่คงจะไม่ตีเด็ก แต่ไม่ใช่เธอเป็นคนที่เข้มงวดในกฎระเบียบ ข้อบังคับ รวมทั้งการลงโทษเมื่อไม่ได้ทำการบ้านด้วยการตี
“นี่เธอสองคนคุยอะไรกันเนี่ย ถึงเวลาเรียนทำไมไม่รู้จักเรียนกันฮะ” ครูตักเตือนแป้งและโอ๋
“คะ” หญิงสาวตอบรับพร้อมกัน
เมื่อถึงเวลาพักกลางวัน แป้งและโอ๋ทุกวันมักจะไปทานข้าวด้วยกัน แถวโรงเรียนหรือในโรงเรียนก็ตาม หลายคนมักคิดว่าเธอสองคนนี้อาจจะเป็นคู่ทอมดี้ก็ได้ แต่ไม่ใช่พวกเธอเป็นแค่เพื่อนสนิทที่สนิทกันมาก
“อือ เดี๋ยวกินเสร็จแล้วไปดูหนังสือต่อนะ” โอ๋ชักชวนเพื่อน
“ได้ แต่ขอกินก่อนนะคือว่าเราหิวอะ กินอะไรกันดีหละโอ๋”
“งั้นเอาเป็นข้าวมันไก่ก็แล้วกัน โอเคปะ”
“โอเค งั้นไปกันเลย เร็ว ๆ ด้วย”
เมื่อสองสาวได้เดินมาถึงร้านข้าวมันไก่และสั่งข้าวทันที “พี่คะ เอาเนื้อหนังพิเศษ แล้วก็เนื้อเนื้อพิเศษคะ”
“แหมรู้ดีจริงนะ” โอ๋เหน็บแนม “ก็เราเป็นเพื่อนกันหนิ” แป้งตอบ
ระหว่างที่ทั้งสองทานข้าวกันอยู่ แป้งก็ได้เอ่ยถามขึ้นว่า
“อือ ใช่ที่ว่าจะไปดูหนังสือหนะ หนังสืออะไรหรอ”
“ก็หนังสือ I-Spy ไงรู้สึกว่าเดือนนี้เขาจะลงรูปพี่โจ้ด้วยนะ”
“จริงอะ งั้นเราขอดูเป็นคนแรกเลยนะ”
วรเวช หรือพี่โจ้ที่สาว ๆ รู้จักกันดี เขาคนนี้เป็นดารานักร้องยอดนิยมของสาว ๆ ในสมัยนี้ เขาดูคมเข้ม อาจจะเป็นเพราะสีผิวของเขาที่ดูดำแต่ไม่ถึงกับดำมาก ทำให้เขาดูเท่ห์
“เนี่ยนะ ถ้าเราได้เจอเค้าก็ดีซินะ อยากจะมีพี่ชายอย่างนี้ซักคน ถ้ามีเราคงรักตายเลยแหละ”
    “แต่เราว่านะฝันของเธอจะเป็นจริงแล้วหละ”
    “ทำไมหรอ”
    “ก็เราได้ยินมาว่าพี่โจ้จะมาถ่ายมิวสิควิดีโอแถว ๆ โรงเรียนเราด้วยแหละ รู้สึกว่าจะเป็นวันเสาร์นี้นะ”
    “จริงอะ งั้นเดี๋ยวเราจะมาให้ได้ โอ๋มาเป็นเพื่อนเรานะ”
    “ก็ได้ เพื่อนเราไม่น่าเป็นถึงขนาดนี้เลยนะ เห็นเงียบ ๆ ติ๋ม ๆ”
    “แหม คนเราก็ต้องมีความชื่นชอบส่วนตัวบ้างสิ”
    แล้วเวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว จนถึงเช้าวันเสาร์ แป้งรีบตื่นแต่เช้า แล้วอาบน้ำ แต่งตัว ทานข้าว จนพ่อแม่ของเธอสงสัยว่าทำไมวันนี้ลูกสาวถึงรีบตื่นแต่เช้านัก แม่จึงเอ่ยถามขึ้นว่า
    “ทำไมวันนี้ลูกสาวเราตื่นเช้าจังนะพ่อ”
    “ก็นั่นหนะสิ มีหนุ่มที่ไหนนัดไปเที่ยวหรือเปล่าน้า” พ่อพูดแล้วทำหน้าไม่รู้เรื่อง
    “เปล่าหรอกคะ คือวันนี้แป้งมีนัดกับโอ๋หนะคะ กะว่าจะไปเดินเที่ยวกัน” หญิงสาวในชุดเสื้อยืดแขนตุ๊กตาและกางเกงยีนส์ตอบ
    “แล้วหนูจะไปเจอโอ๋ที่ไหนหละลูก” แม่เอ่ยถาม
    “ก็แถวโรงเรียนจ๊ะแม่ อือ” แป้งพูดพลางเหลือบมองดูนาฬิกาข้อมือของตน “โหจะเก้าโมงแล้ว งั้นเดี๋ยวแป้งไปก่อนนะคะ สวัสดีคะคุณพ่อคุณแม่” แป้งพนมมือไหว้ลา
    “อย่ากลับเย็นนักนะลูก” แม่กล่าวเตือน “ได้คะแม่” แป้งเอ่ยพร้อมกับปิดประตูบ้าน
    แป้งเดินออกมาหน้าปากซอยเพื่อรอรถเมล์ ระหว่างที่จะข้ามถนนมาอีกฟากหนึ่ง แป้งก็ไม่ได้มองรถที่กำลังแล่นมาจำทำให้เธอถูกรถคันนั้นเฉี่ยวเข้าทันที เพราะคนขับพยายามหักหลบ คนขับจึงรีบออกมาจากรถเพื่อดูคนเจ็บ
    “อือ คุณเป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ” ชายหนุ่มกล่าวถามด้วยความห่วงใย
    “โอ้ย! มีหรือจะไม่เป็นอะไร คุณหนะขับรถภาษาอะไรไม่ดูคนบ้างเลย” แป้งต่อว่าด้วยความโกรธโดยมิได้มองหน้าคู่กรณี
    “ขอโทษจริง ๆ ครับ ผมไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ นะครับ” ชายหนุ่มกล่าวพร้อมประคองหญิงสาวขึ้นเพื่อที่จะพาเธอไปส่งโรงพยาบาล เมื่อแป้งเงยหน้าขึ้นมองหน้าคู่กรณี เธอก็ถึงกับตะลึง
    “นี่พี่โจ้ใช่ไหมคะ” หญิงสาวถามเพื่อความชัวร์
    “ใช่ครับ ว่าแต่คุณหนะครับ ตอนนี้ไปโรงพยาบาลก่อนเถอะครับ” ดาราหนุ่มเอ่ย
    “ไม่เป็นไรหรอกคะ แค่แผลถลอกนิดหน่อยเองคะ” แป้งเอ่ย
    “แต่ว่าแผลถลอกแค่นี้ก็อาจจะเป็นแผลเรื้อรังก็ได้นะครับ” หนุ่มโจ้กล่าวด้วยความห่วงใย
    แต่ในระหว่างที่หนุ่มสาวสองคนนี้กำลังพูดคุยกันอยู่นั้น โอ๋เพื่อนสาวก็ได้นั่งรถผ่านมาพอดี และได้เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นจึงรีบหยุดรถ และเดินลงมาจากรถทันทีพร้อมกับกล่าวว่า
    “แป้ง เป็นอะไรหรือเปล่า เจ็บตรงไหนไหม”
    “ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ แค่ถลอกนิดหน่อยเอง” แป้งตอบด้วยอาการเขินปนกันความดีใจที่ได้พบดารานักร้องคนโปรด
    “งั้นเราก็ไปกันเถอะ เดี๋ยวไปไม่ทันนะ นี่ก็เก้าโมงกว่าแล้วนะ” โอ๋พูดพร้อมกับลากตัวเพื่อนสาว โดยไม่มองหน้าชายหนุ่ม
    “โอเค งั้นแป้งไปก่อนนะคะ”
    “ครับ แล้วหากมีโอกาส เราคงจะได้พบกันอีกนะครับ”
    โอ๋ได้ลากแป้งขึ้นรถและซักถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โอ๋จึงได้รู้ว่าคู่กรณีของแป้งเป็นใคร
    “แป้งเธอว่ายังไงนะ เมื่อตะกี้พี่โจ้ วรเวชขับรถชนเธอหรือ” โอ๋กล่าวด้วยสีหน้าตกใจ
    “ใช่ ทำไมหรอ” แป้งนั่งอมยิ้มคนเดียว
    “ก็แล้วทำไมแป้งไม่สะกิดเราบ้างหละ” โอ๋เริ่มหน้าเสียเมื่อรู้ความจริง
    “แล้วเธอมีเวลาให้ฉันสะกิดไหมหละ พอเข้ามาถึงก็พูด ๆ อย่างเดียวไม่ฟังเสียงใครบ้างเลย” แป้งต่อว่าเป็นชุด
    “ดูดิ หน้าแตกหมดเลย โหแล้วยิ่งเดี๋ยวต้องไปเจอหน้ากับพี่เขาด้วยหนะซิ อายชะมัดยากเลย”
    “ไม่เป็นไรหรอก พี่เขาดูเป็นคนไม่ถือตัว แถมยังเป็นสุภาพบุรุษอีกด้วย” แป้งปลอบเพื่อน แต่ยังไม่วายที่จะชมเขาคนนั้น
    “แหม เห็นเขาดีไปหมดซะทุกอย่างเชียวนะ” แป้งแซว
    “ก็... เอาเถอะ อย่าไปพูดถึงมันเลยนะ” แป้งพูดกับเพื่อน แล้วหันไปบอกให้คนขับเตรียมจอด
    “พี่ ๆ เดี๋ยวจอดตรงรถเก๋งข้างหน้านี่แหละคะ” แป้งชี้นิ้วไปยังรถคันนั้น
    “ครับ” แล้วคนขับก็จอดตรงที่เธอบอก แป้งและโอ๋ก็ลงจากรถ โดยมีแป้งวิ่งนำไปยังกองถ่าย โอ่จึงต้องวิ่งตามเธอไป มิฉะนั้นคงต้องตามเธอไม่ทันแน่
    “แป้งจ๋า รอเพื่อนด้วยสิ”    โอ๋พูดอย่างเหนื่อยหอบ
    “ก็วิ่งตามมาเร็ว ๆ สิ เดี๋ยวก็ไม่ทันหรอก เร็ว” แป้งยังคงวิ่งนำต่อไป แต่เธอต้องเบรกกะทันหัน จนทำให้แป้งที่วิ่งตามมาด้วยความเร็วที่ไม่แพ้กัน เบรกไม่ทันจึงชนเข้าที่หลังแป้งอย่างจัง
    “เป็นอะไร ทำไมหยุดแล้วไม่รู้จักบอกกันบ้าง” โอ๋ต่อว่า ทั้ง ๆ ที่เธอยังคงหอบอยู่
    “ก็ดูนั่นสิ เห็นอะไรมั้ย” แป้งชี้ไปยังกลุ่มคนกลุ่มใหญ่ที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด ท่ามกลางทีมงานที่อยู่กระจัดกระจาย
    “อ๋อ เห็นก็คนไง ไม่รู้จักหรอ”    โอ๋ย้อนถาม
    “รู้ แต่ตอนนี้ไม่ต้องมาเล่นมุขอย่างนี้ได้ปะ”
    “ก็แล้วมันมีอะไรหละ” แป้งยังคงซักต่อ
    “ก็เห็นไหมพี่โจ้ไง อยู่ตรงกลุ่มนั้น”
    แป้งรีบลากเพื่อนตรงเข้าไปยังกลุ่มคนที่ทั้งหมดนั้นคือหญิงสาว ไม่ว่าจะวัยใดก็ตามต่างรุมล้อมศิลปินคนดังอยู่ จนทำให้คนที่อยู่ข้างหลังไม่เห็นจุดสนใจที่พวกเธอห้อมล้อมกัน แต่แป้งก็พยายามเบียดตัวเข้าไปจนได้อยู่ข้างหน้าสุดและเจอกับนักร้องหนุ่มที่ตนชื่นชอบ
    “อ้าว น้องนี่เอง เป็นไงบ้างครับ” เสียงทุ้มของใครคนหนึ่งดังขึ้นมา
    “ไม่เป็นไรแล้วคะ” แป้งตอบอย่างอาย ๆ
    “เดี๋ยวพี่ขอคุยอะไรหน่อยได้ไหมครับ มีธุระหรือเปล่า” ชายหนุ่มเอ่ยถาม
    “ไม่มีคะ” แป้งตอบด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม
    “งั้นผมขอตัวสักแป๊บนะครับ” นักร้องหนุ่มกล่าวพร้อมกับถอนตัวออกมาจากบรรดาแฟนเพลง และแฟนคลับ เดินนำแป้งและโอ๋มายังห้องแต่งตัวของเขา
    “พี่มีอะไรหรือคะ หรือว่ายัยแป้งทำรถพี่บุบคะ” โอ๋กล่าวถาม แต่ไม่วายที่จะเหน็บแนมเพื่อน
    “เปล่าหรอกครับ ผมกลัวว่าน้องเขาจะบุบมากกว่านะครับ จริงไหม” หนุ่มโจ้พูด แล้วหันไปมองหน้าใส ๆ ที่นั่งมองหน้าเขาอยู่
    “จริงคะ เพื่อนแป้งก็พูดเว่อร์ไป” เธอเหยียบเท้าเพื่อนเพื่อแก้เขิน
    “โอ้ย แป้งจะบ้าหรอ อยู่ดี ๆ ก็มาเหยียบเท้าเรา”
    “อุ๊ย โทษที เราไม่ได้ตั้งใจอะ”
    “เอาหละครับ เรามาคุยธุระของเรากันดีกว่า” ชายหนุ่มกล่าวเพื่อห้ามศึก
    “โอเคคะ ว่าแต่พี่มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ” แป้งเอ่ยถามขึ้นบ้าง
    “ก็คือว่าผมอยากจะเลี้ยงข้าวน้องสองคน เพื่อไถ่โทษที่ผมชนน้องแป้งหนะครับ”
    “ไม่เป็นไรคะ แค่อุบัติเหตุนิดหน่อยเอง หนำซ้ำยังเป็นความประมาทของแป้งเองด้วยคะ”
    “แต่ว่าถ้าผมไม่ได้เลี้ยงข้าวน้องสองคน ผมคงต้องโทษตัวเองไปอีกนาน ไปทานข้าวกับผมเถอะนะครับ” หนุ่มโจ้กล่าวง้อ เมื่อเห็นสาวทั้งสองไม่ยอมที่จะไปทานข้าวด้วย
    “แต่..”
    “ไม่มีแต่หรอกครับ ไปทานข้าวกันนะครับ” หนุ่มโจ้พูดสวนขึ้นมา
    แป้งและโอ๋หันหน้าปรึกษากัน แล้วตอบออกไปว่า
    “งั้นก็ได้คะ” โอ๋บอกผลสรุปจากการปรึกษาครั้งนี้ออกไป
    “เอาเป็นว่าเดี๋ยวประมาณบ่าย 4 โมงครึ่ง เรามาเจอกันที่นี่นะครับ” โจ้พูดพร้อมชำเลืองมองนาฬิกาบนข้อมือตน
    “คะ”
    การถ่ายทำมิวสิคฯ ดูจะไม่ราบรื่นอย่างที่ทุก ๆ คนคิด เพราะว่านางเอกมิวสิคฯ เกิดไม่สบายขึ้นมากะทันหันจึงมาทำงานไม่ได้ ครั้นการถ่ายทำนี้จะเลื่อนวันออกไปก็คงจะทำไม่ได้ เนื่องจากมิวสิคฯ ตัวนี้เป็นตัวแรกที่ใช้ในการเปิดตัวอัลบั้มใหม่ของหนุ่มโจ้ และเหลือเวลาไม่มากในการตัดต่อชิ้นงานทั้งหมด จึงทำให้ผู้กำกับต้องวิ่งมาปรึกษากับเจ้าของชิ้นงานโดยด่วน ว่าจะทำอย่างไรต่อไปกันดี
    “น้องโจ้ นางเอกมิวสิคฯ ที่ทางเราจัดไว้เธอไม่สบายมาไม่ได้” ผู้กำกับยังคงหอบด้วยความเหนื่อย
    “แย่แล้ว ถ้าจะเลื่อนก็เลื่อนได้เพราะอาทิตย์นี้ผมว่างตลอด จะถ่ายเมื่อไหร่ก็ได้ แต่พวกพี่ ๆ เหลือแค่สัปดาห์เดียว เดี๋ยวไหนพี่ยังจะต้องตัดต่ออะไรอีกตั้งเยอะ ผมกลัวว่าพี่จะทำไม่ทันน่ะครับ” สีหน้าของเขาเริ่มเครียดขึ้นมา
    “ก็นั่นน่ะสิ เฮ้อ เราจะทำยังไงกันดีน้า” ผู้กำกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วคิดหาวิธีให้งานเสร็จ แต่ก็ไม่มี จนเขาได้หันมาเห็นแป้งและนึกวีแก้ไขได้ทันที
    “พี่รู้แล้วว่าจะหานางเอกได้จากไหน” เขาพูดพร้อมหันมามองหน้าแป้ง
    “ใครครับพี่ ใคร” หนุ่มโจ้เอ่ยถามอย่างร้อนรนด้วยเป็นห่วงในงาน
    “ก็น้องคนนี้ไง หน้าตาน้องเขาใช้ได้เลยนะ”
    “จริงด้วยพี่ งั้นแป้งมาเล่นเป็นนางเอกมิวสิคฯ ให้กับผมได้ไหมครับ”
    แป้งนั่งนิ่งเหมือนว่าไม่ได้ยินในสิ่งที่เขาพูดเลยเมื่อได้ยินว่าเขาจะให้เธอเป็นนางเอกมิวสิคฯ ในขณะที่เธออยู่ในเหตุการณ์ทุกตอน
    “แป้ง เป็นอะไร ทำไมนั่งแข็งเชียว” โอ๋สะกิดเรียกเพื่อนแรง ๆ แต่เธอยังคงนั่งนิ่งเหมือนเดิม
    “อะไรคะ” แป้งรู้สึกตัวขึ้นเมื่อถูกแรงเหยียบของเพื่อน
    “ตกลงน้องเป็นนางเอกให้พวกพี่นะ ได้ไหม” ผู้กำกับรบเร้า
    แป้งหันไปปรึกษากับโอ๋อีกครั้งเกี่ยวกับเรื่องนี้ แล้วเธอก็ตอบออกมาว่า
    “ตกลงคะ แต่ถ้าแป้งทำอะไรให้พี่เสียหายก็อย่าว่ากันนะคะ” แป้งพูดพร้อมกับโค้งตัวลง
    “ไม่ว่าหรอก เอ้าเร็วไปแต่งตัวกัน” เขาลากเธอเข้าไปให้ช่างแต่งหน้า ทำผม แต่งตัวให้เธอ
    การถ่ายทำเป็นไปอย่างเรียบร้อย แป้งเล่นได้ดีมากกว่าที่ทุก ๆ คนคาดไว้ โอ๋นั่งเป็นกำลังใจให้เพื่อนอยู่ข้าง ๆ จนงานเสร็จ และเดินไปห้องแต่งตัวกับแป้งเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมไปทานข้าวกับนักร้องหนุ่ม
    “น้องแป้งแต่งตัวเสร็จหรือยังครับ” ชายหนุ่มเอ่ยถามเมื่อเห็นเธอเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้านานแล้ว
    “จะเสร็จแล้วคะ” เสียงใส ๆ ตอบกลับมา แต่ไม่ใช่เสียงของแป้ง
    หญิงสาว 2 คนเดินออกมาจากห้องแต่งตัวตรงไปยังข้างหลังของผู้ชายร่างสูงใหญ่คนหนึ่ง
    “พี่โจ้คะ แป้งเสร็จแล้วคะ” แป้งร้องทัก
    “ไปกันเลยสิครับ เชิญทางนี้ครับ” หนุ่มโจ้พาเดินนำไปที่รถของตน โดยแป้งนั่งอยู่ข้างคนขับ ส่วนโอ๋ก็เดินไปนั่งเบาะหลัง โจ้ขับรถตรงไปตามถนนสายสุขุมวิท เพื่อหาร้านอาหารอร่อย ๆ ทานกัน
   
    “ร้านดูโรแมนติกจังเลยนะคะ” แป้งพูดขึ้นเมื่อลงจากรถแล้วยืนอยู่หน้าร้าน
    “จริงคะ แหมนึกไม่ถึงเลยนะคะว่าพี่โจ้จะรู้จักร้านอาหารอย่างนี้ด้วย” โอ๋เสริมต่อ
    “ทำไมหรอ เห็นผมเป็นคนแบบไหนครับถึงดูแปลกใจจัง” เขากล่าวอย่างสงสัย
    “ก็โอ๋นึกว่า พี่จะเข้าแต่ร้านอาหารหรู ๆ แพง ๆ นี่คะ” โอ๋เอ่ยความในใจออกมา
    “แปลกนะครับ ผมกลับไม่ชอบร้านแบบนั้นเลยครับ มันดูเว่อร์ ๆ ยังไงก็ไม่รู้” โจ้ตอบแล้วเดินไปยังโต๊ะอาหาร แป้งและโอ๋เดินตามอย่างว่าง่าย
    “เชิญสั่งกันได้เต็มที่เลยนะครับ วันนี้ผมเลี้ยง” เขาพูดพร้อมกับเริ่มเปิดดูเมนู
    “ถ้าพี่พูดอย่างนั้น โอ๋สงสารพี่แทนเลยนะคะ”
    “สงสารอะไรผมหรอ”
    “ก็เพื่อนโอ๋เขากินเก่งไม่ใช่เล่นนะคะ”
    “ขนาดนั้นเลยหรอ งั้นก็อย่าเต็มที่มากก็ได้เดี๋ยวผมหมดตัวแน่เลยครับ” โจ้รับมุขโอ๋
    “ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกคะพี่ โอ๋ก็พูดเกินจริงไป” แป้งพูดแล้วทำตาเขียวใส่เพื่อนสาว
    เมื่ออาหารทุกอย่างที่สั่งไว้มาอยู่บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว ทุก ๆ คนก็ลงมือทานข้าวกันอย่างเอร็ดอร่อย หรือว่าหิวก็ไม่ทราบ โดยไม่มีใครพูดคุยกันเลย หลังจากทานข้าวเสร็จแล้ว โจ้ก็พูดขึ้นมาเพื่อทำลายความเงียบ
    “เป็นยังไงบ้างครับวันนี้ เหนื่อยกันหรือเปล่า”
    “ไม่เหนื่อยหรอกคะ แป้งสนุกมากกว่าอีก”
    “แล้วโอ๋ล่ะ เหนื่อยไหม”
    “แหมถ้าแค่นี้โอ๋เหนื่อย คนอื่นไม่ต้องเป็นลมเลยหรอคะ” คำตอบของโอ๋เรียกเสียงหัวเราะได้จากคนฟังทั้งสองเล็กน้อย
    “จริงด้วยครับ อือ..แป้งชอบงานวงการบันเทิงใช่ไหมครับ เห็นวันนี้ตอนทำงานแป้งดูสนุกกับงานมากเลยนะครับ”
    “แน่นอนเลยคะพี่ เนี่ยนะเธอยังเคยบ่นกับโอ๋เลยว่าอยากจะเป็นนักร้องกับเขาสักที”
    “จริงหรอครับ ผมจะช่วยแนะนำเอาไหม” โจ้หันมาถามแป้งเพื่อความแน่ใจ
    “จริงก็จริงนะคะ แต่ว่าอย่างแป้งคงเป็นไม่ได้หรอกคะ”
    “อย่าพูดอย่างนั้นซิครับ ของอย่างนี้ถ้าใจรักก็ไม่ยากเกินตัวหรอกครับ”
    “งั้นแป้งก็ขอขอบคุณพี่มากเลยนะคะ” เธอยกมือไหว้ขอบคุณ
    “ไม่เป็นไรครับ ว่าแต่น้อง 2 คนจะกลับบ้านกันยังไงครับ” เขาพูดพร้อมชำเลืองมองดูนาฬิกา
    “ก็เดี๋ยวแป้งกับโอ๋จะนั่งแท็กซี่กลับกันคะ” แป้งตอบ
    “งั้นเดี๋ยวพี่ไปส่งแล้วกันนะครับ” โจ้รีบเสนอตัว
    “ไม่ต้องหรอกคะ พวกเรากลับกันเองได้”
    “ดูสิทุ่มนึงล่ะ นั่งแท็กซี่กลับกันเอง มันอันตรายนะครับเป็นผู้หญิงกันด้วย” เขาพูดอย่างเป็นห่วง
    “เราก็เคยกลับกันบ่อยไปนะคะ ใช่ไหมแป้ง” โอ๋สะกิดเพื่อนให้ตอบ
    “ใช่คะ มันจะรบกวนพี่เปล่า ๆ คะ”
    “ไม่รบกวนอะไรหรอก งั้นเรากลับกันเลยดีกว่า เดี๋ยวพ่อแม่น้อง ๆ จะเป็นห่วง” เขาพูดแล้วควักเงินออกมาจ่ายค่าอาหารทั้งหมด
    จากนั้นหนุ่มสาวทั้ง 3 คนก็เดินออกมาจากร้าน เพื่อกลับบ้านกัน
    “บ้านน้อง ๆ อยู่ไหนกันครับ ผมจะได้ไปส่งถูก”
    “ไปส่งเราสองคนที่บ้านแป้งก็ได้คะ”
    “อ้าว ทำไมอย่างนั้นหละครับ เดี่ยวผมไปส่งทีบ้านโอ๋ด้วยก็ได้นี่ครับ”
    “ไม่เป็นไรหรอกคะ แค่นี้ก็รบกวนพี่มากพอแล้ว”
    “อย่างนั้นก็ได้ครับ แล้วบ้านแป้งอยู่ไหนหละครับ” เขาละสายตาจากคนที่พูดอยู่ด้วยก่อนมามองแป้ง
    “เดี่ยวแป้งค่อย ๆ บอกไปแล้วกันคะ”
    โจ้ขับรถตรงไปยังบ้านของแป้ง ตามคำบอกเล่าของเจ้าของบ้านที่นั่งอยู่ข้าง ๆ จนรถคันงามของเขาก็มาจอดอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่ง ที่ไม่ใหญ่มากเท่าไหร่ แต่ก็ดูร่มรื่นดีด้วยต้นไม้นานาชนิด
    “ขอบคุณพี่สำหรับทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับวันนี้นะคะ” แป้งพูดเมื่อลงมาจากรถแล้ว
    “ผมเองก็ต้องขอบคุณน้องเหมือนกันหละครับ ถ้าไม่มีน้องงานพี่วันนี้คงจะไม่เสร็จแน่”
    “คะ งั้นเราหายกันนะคะ”
    “ผมขอตัวก่อนนะครับ”
    “คะ บ๊ายบายคะ” โอ๋และแป้งโบกมือลารถที่กำลังถอยออกไป
    “ครับ” โจ้ก็โบกมือลาเช่นกัน
    แป้งเปิดประตูเข้าไปในบ้าน และได้พบหน้าพ่อกับแม่นั่งคอยอยู่ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
    “ไปไหนมา” แม่ทำเสียงดุใส่
    “ไปเดินเล่น แล้วก็...” แป้งตอบ ใบหน้าของเธอดูซีดลง
    “เห็นไหมว่ากี่โมงแล้ว”
    “เห็นคะ”
    “แล้วทำไมไม่โทรมาบอกทางบ้านว่าจะกลับช้า”
    “ก็แป้งลืมน่ะคะ”
    “แล้วไปไหนกันอีก” พ่อถามขึ้นบ้าง
    “ไปดูเขาถ่ายมิวสิคฯ น่ะคะ”
    “เมื่อตะกี้รถใคร ใครมาส่งหรอ”
    “รถพี่โจ้คะ พี่ที่เป็นนักร้องที่แป้งชอบน่ะคะ”
    คำตอบของเธอทำให้พ่อกับแม่เงียบผิดปกติ เธอจึงพูดอย่างสำนึกว่า
    “พ่อ แม่คะ แป้งขอโทษ แป้งรู้ว่าพ่อกับแม่เป็นห่วง แป้งขอโทษจริง ๆ นะคะ แป้งจะไม่ทำอย่างนี้อีกแล้วคะ” แป้งยกมือไหว้ ใบหน้าของเธอตอนนี้เต็มไปด้วยน้ำตา
    แม่เหลือบเห็นแผลถลอกที่แขนแป้งจึงเอ่ยถามขึ้นด้วยความตกใจโดยลืมความโกรธทั้งหมด
    “ไปโดนอะไรมาจ๊ะลูก”
    แป้งลูกคลำบาดแผลที่อยู่บนแขนของเธอแล้วจึงพูดออกไปว่า
    “แค่อุบัติเหตุนิดหน่อยเองคะ คือเมื่อเช้าแป้งซุ่มซ่ามไปหน่อยเลยโดนรถเฉี่ยวคะ” หยดน้ำตาใส ๆ ยังคงไหลรินอาบแก้มอยู่ดี
    “แล้วคนขับรู้ตัวหรือเปล่าว่าเขาเฉี่ยวหนู” พ่อซักต่อ
    “รู้คะ เขายังบอกอีกด้วยนะคะว่าจะพาหนูไปโรงพยาบาล แต่หนูไม่ไปเองคะ”
    “แล้วใครขับรถเฉี่ยวหนูล่ะ”
    “ก็พี่โจ้อีกนั่นแหละคะ เขาก็เลยชวนแป้งกับโอ๋ไปเลี้ยงข้าวเพื่อขอโทษนี่แหละคะ”
    แป้งเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้พ่อและแม่ฟังอย่างละเอียด โดยมีโอ๋คอยเสริมเรื่องราวอยู่ข้าง ๆ
    “อือ..นี่ก็ดึกมากแล้วโอ๋จะกลับบ้านหรือว่าจะนอนค้างที่นี่ไหมจ๊ะ” แม่เอ่ยถามเมื่อเหลือบเห็นนาฬิกาบอกเวลา 2 ทุ่มแล้ว
    “ถ้าไม่เป็นการรบกวนคุณน้าคุณอาหละก็ โอ๋ขอนอนค้างที่นี่สักคืนแล้วกัน” โอ๋ตอบหลังจากที่คิดอยู่เป็นนาน
    “ไม่รบกวนหรอก แต่โอ๋อย่าลืมโทรกลับไปบอกทางบ้านด้วยนะจ๊ะ เดี๋ยวเขาจะเป็นห่วงเอา”
    “คะ ขอบคุณมากนะคะ”
    แป้งวิ่งนำขึ้นไปยังห้องนอนตน โดยมีโอ๋วิ่งตามหลังไปติด ๆ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น