"แค่ช่วงเวลาหนึ่ง...ของความรัก" - "แค่ช่วงเวลาหนึ่ง...ของความรัก" นิยาย "แค่ช่วงเวลาหนึ่ง...ของความรัก" : Dek-D.com - Writer

    "แค่ช่วงเวลาหนึ่ง...ของความรัก"

    แค่อยากให้บทความนี้ เป็นตัวแทนคำขอโทษจากฉัน ไปถึงเธอ และบอกให้เธอรู้ว่า ฉันไม่ได้ตั้งใจ ทำลายความเป็นเพื่อนของเรา แค่อยากกลับไปเป็นเพื่อนเหมือนเดิม

    ผู้เข้าชมรวม

    433

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    433

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    2
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  2 ต.ค. 49 / 16:59 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    ความเป็นเพื่อนของเรา จบลง เพราะ อะไรกันแน่? นาย "เข้าใจผิด" หรือเพราะ คำว่า "รัก" ที่นายกลัวว่าจะให้ความหวังกับเรา ทำให้เรา เข้าใจผิดว่านายจะรักเรา หากทั้งหมด มันคือความผิดของเรา เราพร้อมจะขอโทษ และ อยากจะคุยกับนายให้รู้เรื่อง เราไม่อยากเสียเพื่อน ดีดี อย่างนายไปเลย แต่หากนี่คือ ความต้องการของนาย ที่เลือกจะเลิกคบ กับเรา เราก็ เข้าใจ!! หากมันมาจากความต้องการของนายเอง ไม่ใช่เพราะนาย ฟังใครพูดมา!!

    ชื่อตัวละคร ตัวเองของเรื่องคือ ชื่อจริง และก็ขอโทษที่ใช้ชื่อจริง เพราะเราแค่อยากให้นายรู้ว่าว่าเราหมายถึงนาย

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ผู้หญิงคนหนึ่ง ที่มีความมั่นใจในตัวเองน้อย คิดว่าตัวเองหน้าตาดีไม่มาก แต่ร่าเริงและก็แจ่มใส ยิ้มได้เสมอกับทุกเรื่องราวที่ต้องประสบพบเจอ รักเพื่อรเป็นที่สุด ไม่เคยทันเล่ห์เหลี่ยมของใคร  และอ่อนต่อโลก ชอบช่วยเหลือทุกคนที่เดือดร้อน
      นั่น คือ ฉัน

      ผู้ชายคนหนึ่ง ที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง คิดว่าตัวเองหน้าตาดี ร่าเริง แจ่มใส ฉลาด รอบรู้ ใจดี ชอบช่วยเหลือทุกคนที่เดือดร้อน ใจเย็น เชื่อคนง่าย
      นั่น คือ เธอ

      เราสองคนแตกต่างกันมากเหลือเกิน เส้นทางชีวิตของเราสองคนจะเป็นยังไงน้า.......

      ฉันเจอเธอครั้งแรกที่จังหวัดเล็ก ๆ แห่งหนึ่งใน ประเทศไทย เราได้ร่วมงานกันเพราะทางบริษัทติดต่อเราให้มาเป็นล่ามให้กับ ชาวต่างชาติที่จังหวัดเก ๆ แห่งนี้ First impression ของเราช่างดีเหลือเกิน เพราะเธอต้องนั่งรอฉัน และ เพื่อน ๆ นานเป็นชั่วโมง เพื่อให้ติดต่อ check in โรงแรมเข้าที่พัก และทราบถึงรายละเอียดการทำงานในครั้งนี้

      เมื่อรถรับ-ส่งล่ามที่เราจ้างผูกขาดไว้มาส่งที่หน้าโรงแรม ฉัน และ เพื่อน ๆก็เดินเข้าไปที่Lobby ของโรงแรมทันทีแว๊บแรกที่ฉันเห็นเธอนั้นแค่ครึ่งหน้า แต่ฉันก็ไม่รู้สึกผิดหวังอะไรเลยเมื่อเธอหันหน้ามา เสื้อชั้นในสีเขียวขี้ม้าของนักศึกษาวิชาทหาร กางเกงยีนส์ทรงตรง รองเท้าผ้าใบ และบุคคลิกที่ประดับบนตัวเธอตอนนี้นั้นมันทำให้ฉันต้องอึงในความดูดีนั้น และฉันก็มั่นใจทันทีว่าเธอเป็นชายแท้ 100% ไม่เหมือนล่ามผู้ชายคนอื่น ๆ (ถึงแม้ว่าคนอื่นจะแมนก็ไม่มีใครดูดีเท่าเธอ)

      หลังจากที่ทักทายกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็เคลื่อนย้ายกันไปที่ห้องพักชั้น 4 ของเรา เธอต้องพักกับพี่ผู้หญิงคนหนึ่งที่มาก่อน เพราะห้องฉันเต็ม

      การทำงานวันแรก

      เธอตื่นเช้ามาก ตรงข้ามกับฉันและคนอื่น ๆที่ตื่นสายมากแทบไม่ทันรถ แต่เราก็พยายามอาบน้ำแต่งตัวไปให้ทันเข้างาน วันนั้น พวกเราก็ไม่ได้ทำอะไรเลยเหมือนเคย เราทั้งหมดจึงมีเวลานั่งคุยกันถึงเรื่องราวของแต่ละคน มันทำให้ฉันและ เธอรู้จักกันมากขึ้น รวมทั้งคนอื่น ๆ ด้วย
      เย็นนั้น พี่ชายที่แสนดีของฉันก็กลับมาจากเที่ยวเหนือ ห้องเธอมีสมาชิกเพิ่มขึ้นอีกคน หลังจากกลับจากที่ทำงาน ฉัน เพื่อนของฉันอีก 2 คน พี่ชายที่แสนดี และเธอ ก็ไปเดินหาอะไรทานที่โต้รุ่ง หรือเรียก อีกอย่างว่า  ตลาดนัดคนเดิน เพลินรับประทาน ละแวกประจำที่พวกเราจะทานข้าวเย็นกัน หลังจากทานอาหารเสร็จพวกเราก็เดินเล่นกันไปจนถึง 7-eleven แล้วพวกเราก็เดินเข้าไปซื้อของกัน เมื่อซื้อของเสร็จพวกเราก็เดินกลับ แต่เดินไปคนละทางกับขามา แล้วพวกเราก็ไปเจอกับสวนสุขภาพแห่งหนึ่ง น่านั่งเล่นมาก เลยแวะเข้าไปเล่นเครื่องเล่น และพูดคุยกันต่อในสวนสุขภาพ เราเล่นสไลเดอร์ นั่งชิงช้า แล้วก็กระดานหก เมื่อปล่อยแก่กันเต็มที่แล้วพวกเราก็เดินกลับโรงแรม
      ระหว่างทาง ฉัน และ เธอ คุยกันว่า "พรุ่งนี้จะลงมาวิ่งตอนเช้า"เพราะพรุ่งนี้เป็นวันหยุด เพื่อนของฉันก็พูดขึ้นว่า ฉันไม่มีทางทำได้ แล้วฉันกับเธอก็เลยท้ากันว่า "พรุ่งนี้ใครเป็นคนเคาะประตูห้องเรียกอีกฝ่ายก่อนชนะ"

      ตลอดเวลาที่ผ่านมา ฉันไม่เคยคิดอะไรเลย ไม่รู้ว่าฉันรัก ชอบ เธอรึเปล่า ฉันรู้เพียงว่า ฉันกำลังมีเพื่อนคนหนึ่ง ที่มีอะไรหลาย ๆ อย่างคล้ายกัน ชอบ และไม่ชอบในสิ่งเดียวกัน เพื่อนที่เข้ากันได้ดี.....

      ฉันชอบใช้เวลาว่างเกือบทั้งหมดในการอ่านหนังสือ
      ฉันชอบแมว แล้วก็ชอบเล่นกับมันแทบทกครั้งที่เจอ
      ฉันเกลียดทุเรียน เหม็น และไม่กิน
      ฉันแพ้ควันบุหรี่
      ฉันไม่ชอบเที่ยวกลางคืน
      ฉันชอบวาดรูป
      ฉันชอบเขีนหนังสือ
      ฉันชอบให้คนดูแล
      ฉันไม่ชอบให้ใครมาเซ้าซี้
      **************************************
      เธอชอบใช้เวลาว่างเกือบทั้งหมอในการอ่านหนังสือ
      เธอชอบแมว แล้วก็ชอบเล่นกับมันทุกครั้งที่เจอ
      เธอไม่กินทุเรียน
      เธอไม่ชอบควันบุหรี่
      เธอไม่ชอบเที่ยวกลางคืน
      เธอช่วยฉันวาดรูป
      เธอบอกให้ฉันส่งเรื่องที่ฉันเขียนไปให้เธออ่าน
      เธอชอบดูแลคน
      เธอเป็นคนง่าย ๆ ไม่เซ้าซี้

      ฉันตื่นขึ้นมาตอนตีห้า เพราะเสียงนาฬิกาปลุก ฉันรีบลุกขึ้นอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วก็แปรงฟัน ฉันคิดเพียงอย่างเดียวว่าต้องเป็นคนเคาะประตูห้องเธอก่อนให้ได้ฉันออกไปยืนนอกระเบียงรอเวลาให้นาฬิกาบอกว่า 6 โมงเช้า เพื่อชัยชนะของฉัน จนนาฬิกาบอกว่าเหลืออีก 20 นาทีจะ 6 โมง ดวงอาทิตย์ ทำท่าจะโผล่ขึ้นมาทักทาย ฉันเลยคดว่าไปเรียกเธอก่อนดีกว่าก่อนที่มันจะโผล่ขึ้นมา จะได้ลงไปดูมันด้วยกัน ฉันรีบเดินไปยังหน้าห้องของเธอ แล้วก็เคาะประตูเรียกเธอหลังจากตัดสินใจอยู่หน้าห้องเธอหลายรอบ ไม่ถึง 1 นาที ประตูห้องของเธอเปิดออกราวกับว่าเธอยืนอยู่หน้าห้อง "แป๊บหนึ่ง จะเสร็จแล้ว ทำไมเร็วจัง" ฉันตอบว่า "ต้องรีบลงไปก่อนดวงอาทิตย์ขึ้น จะได้ไปดูดวงอาทิตย์ขึ้นกัน" เธอรีบกลับไปจัดการธุระส่วนตัว ขณะที่ฉันยืนรออยู่หน้าห้อง ในไม่ช้าเธอก็ออกมา แล้วเราก็ลงไปวิ่งกัน

      เริ่มต้นวอร์มร่างกายโดยการเดินลงจากชั้น 4 ไปชั้นล่าง แล้วก็ไปถึงสวนหลวง ร. 9 เริ่มวิ่งที่ลานที่ใช้เล่นฟุตบอล หลังจากวิ่งจนเหนื่อยก็เดินเล่นกันรอบ ๆ สวน คุยเรื่องนู้น เรื่องนี้ แล้วก็ไปเจอ สวนตรงข้ามสวนหลวงที่สวนมาก ถูกจัดด้วยโทนเขียวเลือง ฉัน และ เธอ คุยกันว่า ไว้คราวหน้าเราจะข้ามไปฝั่งโน้น ไปเดินเล่นในสวนกัน

      แล้วก็ไปเดินเล่นกันที่สวนสุขภาพ เดินดูน้ำตกจำลอง แล้วก็เดินไปที่สนามเด็กเล่นเล็ก ๆ เปิดดูสวนจำลองเล็ก ๆ ในโรงเรียนข้าง ๆ นั้น ตอนนั้นฉันมีความสุขมาก ไม่อยากให้ช่วงเวลานี้ผ่านไปเลย ฉันสบายใจ และรู้สึกดีที่ได้อยู่ใกล้เธอ

      ฉัน และ เธอ แยกย้ายกันกลับห้อง ไปอาบน้ำ รอเธอมาเรียก

      จนเธอมาเรียกไปกินข้าว เพื่อนของฉันยังไม่ตื่น เลยไม่ได้ปลุก เราลงไปทานข้าวกันที่ร้านในซอย ที่ค่อนข้างไกลโรงแรม สั่งก๋วยเตี๋ยวคนละชาม กินกันไปคุยกันไป ฉันบอกเธอว่า นี่คืออาหารเช้ามื้อเเรกของฉันหลังจากที่ไม่ได้กินมานานเพราะตื่นไม่ทัน แล้วเราก็หัวเราะ

      ************************************************

      ฉันเริ่มมีความรู้สึกว่ากำลังจะสูญเสียเธอไป เริ่มรู้สึกว่าเราจะต้องไม่ได้เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันแบบนี้ ใบหน้าเธอที่ยิ้มแย้ม พูดคุยกับฉันอย่างเพื่อนที่ดี ความห่วงใยประสาเพื่อนที่เธอมีให้ฉัน ท่าทีดูแลเป็นอย่างดีของเธอนั้น กำลังจะถูดพรากไป ฉันเช่อว่าเธอเองก็คงไม่คิดเหมือนกันว่ามันจะเกิดขึ้น เธอจึงยังคงยิ้มแย้ม และ พูดคุยกับฉันเหมือนเดิม และไม่มีทีท่าว่าจะจากฉันไปเลย

      **************************************************

      แล้วหลังจากวันนั้น ความเปลี่ยนแปลง ก็เข้ามาแทรกกลางความเป็นเพื่อนของเรา มันเกิดอะไรขึ้น ฉันทำอะไรงั้นหรอ เธอมาเปลี่ยนไปแบบที่ฉันไม่รู้ตัว เริ่มจากถามคำตอบคำเป็น ไม่พูดด้วย ไม่มองหน้าเลย
      เธอขอemail ทุกคน แต่ไม่ขอ email ฉัน ทั้ง ๆที่ ฉันนั่งอยู่ตรงนั้นแท้ ๆ ฉันกลายเป็นตัวน่ารังเกียจสำหรับเธองั้นหรือ?
      เวลาอีก 2 สัปดาห์ที่ต้องอยู่ด้วยกันที่โรงแรม มันคือความทรมานที่แสนจะอึดอัด เพื่อนของฉันก็เปลี่ยนไป ฉันกลายเป็นส่วนเกินของทุกคน กลายเป็นภาระที่ไม่มีใครต้องการ ฉันพยายามคิดในแง่ดีว่าเธอมีemailฉันแล้วเลยไม่ขอ แต่ไม่ใช่ เพราะเมื่อกลับมาเธอemail ถึงทุกคน ยกเว้นฉัน

      เรายังเป็นเพื่อนกันอยู่ไหม? ฉันน่าจะรู้ดี และไม่น่าถามเธอเลย แต่ฉันก็อยากรู้จริง ๆ

      *************************************************************
      ฉันทำอะไรผิดหรอ เมย์บอกว่าป๊อบไม่อยากให้ความหวังแนน เลยทำแบบนี้ งั้นหรอ ขอบใจนะ แต่ฉันมันขี้ขลาดเกินไปเลยไม่ได้คุยกับนายให้รู้เรื่องสะตั้งแต่ตอนนั้น
      แนนต้องเสียเพื่อนอย่างป๊อบไปจริง ๆ ใช่ไหม?
      มันไม่มีทางแก้ไขเรื่องของเราแล้วใช่ไหม?
      เราเป็นคนไม่รู้จักกันตั้งแต่วันนั้นแล้วใช่ไหม?

      เราอยากบอกว่า ถ้านายคิดว่า เราผิด เราขอโทษ และจะไม่ให้นายต้องมาลำบากใจกับเรื่องไร้สาระของเราอีก ตลอดไป!!!!...........

      ฉันผิดในสายตาเธอใช่ไหม
      งั้นก็ขอโทษที่ทำให้ลำบากใจ
      จากนี้จะไม่มีคนวุ่นวายมากวนเธอ

      ********************************************************
      ขอบคุณที่ทนอ่านเรื่องไร้สาระของกระดาษไขนะคะ มันเป็นเรื่องจริงค่ะ ไม่ใช่เรื่องแต่งเหมือนเรื่องอื่น เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับกระดาษไข เมื่อตอนปิดเทอมใหญ่ที่ผ่านมานี่เอง กระดาษไขเขียนเพื่อขอโทษเพื่อนคนนึงที่กระดาษไขรักมาก กระดาษไขแค่อยากเขียนขอโทษเขา เพราะไม่สามารถโทรไปกวนเขาได้เพราะกลัวเขาจะรำคาญน่ะค่ะ



       

       


       

       

       

       

       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×