ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักพลิกล็อค1

    ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 5

    • อัปเดตล่าสุด 13 ก.ค. 49


    Chapter 5

    เฮ้อ ! เช้าวันใหม่แล้วหรือเนี่ย วันนี้ผมไม่อยากไปไหนเลย อยากจะหมกตัวอยู่แต่ในห้องทั้งวัน

    แต่มันเป็นไปไม่ได้หรอก ผมจะเอาเรื่องส่วนตัวเข้ามาทำให้งานให้งานเสียไม่ได้ ยิ่งผมเป็นถึง

    ผู้จัดการฝ่ายด้วยยิ่งทำไม่ได้เลย เมื่อผมมาถึงสถานีรถไฟใต้ดินผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าผมจะ

    มองไปรอบๆ ทำไม หรือผมหวังจะได้เจอกับใครงั้นเหรอ

    "หัวหน้า ! ครับ...หัวหน้า !" "มีอะไรเหรอไซโต้คุง"

    นี่ผมเหม่อขณะทำงานด้วยเหรอเนี่ยและต่อหน้าลูกน้องอีก

    ไม่อยากจะเชื่อตัวเองเลย

    "แผนงานของผมมีปัญหาอะไรมั้ยครับ" ตั้งสมาธิหน่อยสิๆ

    "จากที่ผมตรวจสอบดูแล้วก็ไม่มีปัญหาอะไรนะ เอาเป็นว่าผมอนุมัติแล้วกัน"

    "เอ่อ...คือผมไม่ได้ตั้งใจจะยุ่งเรื่องส่วนตัวของหัวหน้านะครับ เพียงแต่ผมอยากทราบว่า วันนี้หัวหน้ามีอะไรไม่สบายใจรึเปล่าครับ เพราะดูท่าทางใจลอย"

    "เปล่านี่ผมไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้นแหละ และคุณก็กลับไปทำงานของคุณได้แล้วนะ อ้อและก็ขอบใจนะ"

    ไซโต้คุงยิ้มให้ผมก่อนที่จะเดินออกไป วันนี้สะสางงานเสร็จแล้วรีบกลับดีกว่า

    นี่ผมกำลังทำอะไรอยู่เนี่ย เลิกงานแล้วยังไม่กลับบ้าน แต่กลับมานั่งร้านที่ผมชอบนัดเจอกับไมค์บ่อยๆ

    ผมควรจะทำตามที่โนริโกะจังขอร้องดีมั้ยนะ ทำไมนะการที่ผมกับไมค์เป็นเพื่อนกันมันเป็นเรื่องที่น่าเสียหาย

    มากเลยเหรอ โนริโกะจังพูดอย่างกับว่าผมจะไปแย่งไมค์มาจากเธองั้นแหละ มันจะเป็นไปได้อย่างไร

    เออ ถ้าหากผมเป็นเด็กสาวม.ปลายค่อยว่าไปอย่าง

    เสียงโทรศัพท์มือถือของผมดังขึ้นช่วยเรียกผมให้ตื่นจากภวังค์

    แต่ผมไม่ได้ดูว่าใครโทรเข้ามา จึงกดรับไปเลย

    "ครับ"

    ผมกรอกเสียงลงไป

    "ทาคายาม่าซัง" ไมค์โทรมานี่

    "มีธุระอะไร"

    "ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน"

    "แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอด้วย"

    "เอาเหอะน่า บอกผมมาเหอะ"

    "ฉันถามเธอแล้วไงว่า มีธุระอะไร"

    "งั้นผมต้องการเจอกับคุณ ผมมีเรื่องที่จะต้องคุยและอธิบายให้คุณฟัง"

    "อย่าเลย เพราะฉันไม่มีอะไรจะคุยกับเธอทั้งนั้นแหละ และก็อย่าติดต่อฉันอีก"

    ผมกดสายทิ้งไปแต่เค้าก็โทรเข้ามาอีก

    "นี่ทาคายาม่าซัง คราวนี้อย่าวางสายอีกนะ ต้องคุยกันให้รู้เรื่องก่อน"

    คุยงั้นเหรอ เค้าจะคุยอะไรกับผมนะ ก็ดีเหมือนกันคุยกันให้สิ้นเรื่องสิ้นราวไปเลย จะได้จบๆ ซะที

    "ก็ได้ งั้นเจอกันที่เดิมตอนสองทุ่มนะ" ผมนัดเวลากับเค้าเรียบร้อย ซึ่งเค้าก็ตอบตกลง

    ความจริงนะผมดีใจมากๆ เลยที่ไมค์โทรหาผม แต่สิ่งที่ทำให้ผมต้องพูดไม่ดีกับเค้าก็คือ คำขอร้องของโนริโกะจัง

    ทำไมเวลามันผ่านไปเร็วนักนะ แป๊ปเดียวก็ทุ่มครึ่งไปแล้ว และตอนนี้ผมก็อยู่ที่สถานที่นัดแล้วด้วย

    ผมจะมาก่อนเวลาทำไมนะ.......

    พอสองทุ่มพอดีผมก็เห็นไมค์กำลังเดินมา คราวนี้เค้าแต่งชุดไปรเวท

    คืนนี้อากาศค่อนข้างหนาว เพราะผมรู้สึกได้ถึงควันที่ออกมาจากปากและจมูกของตอนที่ผมกำลังหายใจ

    และไมค์ก็ใส่กางเกงยีนส์ตัวใหญ่ๆ สวมเสื้อฮู้ทแขนยาวและใส่หมวกถัก ดูแปลกตาไปอีกแบบ แต่ก็ดูดีทีเลยทีเดียว

    ความจริงผมไม่ได้เจอเค้ามาสี่วันแล้ว

    พอได้เจอมันก็ทำให้รู้สึกประหม่าได้เหมือนกัน ยิ่งครั้งล่าสุดที่เจอกัน เราทะเลาะกันอีกด้วย

    เค้าเดินเข้ามาหาผมด้วยท่าทางที่เครียดๆ

    "ไงทาคายาม่าซัง ไม่ได้เจอกันตั้งสี่วันเลยนะ"

    "อืม งั้นเหรอ" ผมตอบเพียงแค่นี้

    "ผมรู้เรื่องหมดแล้วนะ ว่าโนริโกะพูดอะไรกับคุณบ้าง"

    "ก็ดี ในเมื่อรู้แล้ว เราสองคนก็ควรจะทำตามนั้นนะ"

    "นี่คุณฟังยัยนั่นเหรอ คุณบ้าไปแล้วรึไง" ท่าทางของเค้าดูจะโมโหมาก

    "ก็แล้วไงล่ะ จะให้ฉันทำยังไง เค้ามาขอร้องฉันซะขนาดนี้แล้ว..."

    "คุณก็เลยจะทำตาม นี่คุณเป็นผู้ใหญ่ภาษาอะไร" ผมชักฉุนแล้วนะ

    "แล้วเด็กอย่างเธอนี่รู้ดีนักรึไง"

    "อย่างน้อยผมก็เป็นเด็กที่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร ไม่เหมือนคุณก็แล้วกัน

    แค่ยัยนั่นพูดนิดพูดหน่อยคุณก็ยินดีทำตามแล้ว"

    "แล้วเธอไม่แคร์เค้าบ้างรึไง" ผมถามจากความรู้สึกจริงๆ

    "ไม่เลย" เค้าตอบอย่างเย็นชามาก

    "เพราะผมแคร์คุณมากกว่า" ประโยคหลังนี้ทำเอาผมแทบไม่เชื่อหูตัวเอง

    "ว่าไงนะ เธอจะบอกว่าเธอแคร์ฉันมากกว่าโนริโกะจังเนี่ยนะ"

    "ใช่แล้ว" เค้าตอบด้วยท่าทางจริงจังมาก

    "ทำไมล่ะ" ใช่ทำไมล่ะช่วยบอกฉันที คราวนี้เค้าจ้องตาผมพร้อมกับตอบว่า

    "เพราะผมชอบคุณน่ะสิ และก็ชอบมากๆ เลยด้วย ถึงแม้จะรู้ว่าคุณชอบโนริโกะผมก็ยังชอบคุณ"

    น้ำเสียงของเค้าดูหนักแน่นมากเหมือนจะยืนยันในสิ่งที่พูด คราวนี้ผมได้ยินชัดแจ๋วทั้งสองรูหู

    ผมได้แต่ยืนนิ่ง มันคิดอะไรไม่ออกอีกแล้ว และอยู่ๆ มันเหมือนภาพตรงหน้าผมกำลังเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ เมื่อผมรู้สึกตัวผมก็พบว่าตัวเองกำลังอยู่ในอ้อมกอดของไมค์ แต่แปลกนะที่ผมไม่รู้สึกรังเกียจอะไรกลับรู้สึกอบอุ่นด้วยซ้ำ อากาศที่ดูเหมือนจะเย็นกลับร้อนซะจนผมแทบจะเหงื่อแตก ใจของผมเต้นรัวและแรงมาก

    "หนาวเหรอทาคายาม่าซัง ดูสิหน้าคุณน่ะแดงไปหมดแล้วนะ" เค้าพูดพร้อมกับกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นมาอีก เอ๊ะ ! นี่ผมกำลังคล้อยตามเค้าอยูเหรอเนี่ย พอผมรู้สึกตัวผมก็ผลักเค้าออกไป

    "เธอจะบ้าเหรอ ฉันเป็นผู้ชายนะ" ผมพูดออกไปแทบทันที

    "ผมรู้ว่าคุณเป็นผู้ชาย ก็ผมกำลังบอกรักคุณที่เป็นผู้ชายนี่ไง แล้วผมก็ไม่ได้บ้าด้วย"

    "เธอน่ะบ้าไปแล้ว ถ้าฉันไปคล้อยตามเธอฉันก็จะบ้าไปด้วย โทษทีนะฉันไม่มีเวลามาเล่นกับเด็กอย่างเธอ"

    ผมกำลังจะเดินหนี แต่เค้าก็คว้าแขนผมเอาไว้

    "แต่ผมจริงจังนะ ผมชอบคุณจริงๆ คุณยังไม่ต้องตอบอะไรผมตอนนี้ก็ได้ ขอเพียงแต่อย่าเพิ่งปฏิเสธผม"

    ผมสะบัดแขนออกจาเค้าพร้อมกับพูดว่า

    "ฉันจะกลับแล้ว และขอร้องล่ะอย่าตามฉันมาเลย ฉันสับสนไปหมดแล้ว"

    "ผมจะไม่เร่งรัดคุณ ผมรอได้ แต่ผมก็หวังไว้เหมือนกันนะว่าคุณจะชอบผมแม้เพียงสักนิดก็ยังดี ยังไงก็ช่วย

    คิดเรื่องของผมด้วยนะครับ"

    ผมเห็นสายตาสิ้นหวังของเค้า แล้วก็อดพยักหน้าตอบไปไม่ได้ แล้วผมก็เดินจากมา

    5

    เฮ้อ ! เช้าวันใหม่แล้วหรือเนี่ย วันนี้ผมไม่อยากไปไหนเลย อยากจะหมกตัวอยู่แต่ในห้องทั้งวัน

    แต่มันเป็นไปไม่ได้หรอก ผมจะเอาเรื่องส่วนตัวเข้ามาทำให้งานให้งานเสียไม่ได้ ยิ่งผมเป็นถึง

    ผู้จัดการฝ่ายด้วยยิ่งทำไม่ได้เลย เมื่อผมมาถึงสถานีรถไฟใต้ดินผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าผมจะ

    มองไปรอบๆ ทำไม หรือผมหวังจะได้เจอกับใครงั้นเหรอ

    "หัวหน้า ! ครับ...หัวหน้า !" "มีอะไรเหรอไซโต้คุง"

    นี่ผมเหม่อขณะทำงานด้วยเหรอเนี่ยและต่อหน้าลูกน้องอีก

    ไม่อยากจะเชื่อตัวเองเลย

    "แผนงานของผมมีปัญหาอะไรมั้ยครับ" ตั้งสมาธิหน่อยสิๆ

    "จากที่ผมตรวจสอบดูแล้วก็ไม่มีปัญหาอะไรนะ เอาเป็นว่าผมอนุมัติแล้วกัน"

    "เอ่อ...คือผมไม่ได้ตั้งใจจะยุ่งเรื่องส่วนตัวของหัวหน้านะครับ เพียงแต่ผมอยากทราบว่า วันนี้หัวหน้ามีอะไรไม่สบายใจรึเปล่าครับ เพราะดูท่าทางใจลอย"

    "เปล่านี่ผมไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้นแหละ และคุณก็กลับไปทำงานของคุณได้แล้วนะ อ้อและก็ขอบใจนะ"

    ไซโต้คุงยิ้มให้ผมก่อนที่จะเดินออกไป วันนี้สะสางงานเสร็จแล้วรีบกลับดีกว่า

    นี่ผมกำลังทำอะไรอยู่เนี่ย เลิกงานแล้วยังไม่กลับบ้าน แต่กลับมานั่งร้านที่ผมชอบนัดเจอกับไมค์บ่อยๆ

    ผมควรจะทำตามที่โนริโกะจังขอร้องดีมั้ยนะ ทำไมนะการที่ผมกับไมค์เป็นเพื่อนกันมันเป็นเรื่องที่น่าเสียหาย

    มากเลยเหรอ โนริโกะจังพูดอย่างกับว่าผมจะไปแย่งไมค์มาจากเธองั้นแหละ มันจะเป็นไปได้อย่างไร

    เออ ถ้าหากผมเป็นเด็กสาวม.ปลายค่อยว่าไปอย่าง

    เสียงโทรศัพท์มือถือของผมดังขึ้นช่วยเรียกผมให้ตื่นจากภวังค์

    แต่ผมไม่ได้ดูว่าใครโทรเข้ามา จึงกดรับไปเลย

    "ครับ"

    ผมกรอกเสียงลงไป

    "ทาคายาม่าซัง" ไมค์โทรมานี่

    "มีธุระอะไร"

    "ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน"

    "แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอด้วย"

    "เอาเหอะน่า บอกผมมาเหอะ"

    "ฉันถามเธอแล้วไงว่า มีธุระอะไร"

    "งั้นผมต้องการเจอกับคุณ ผมมีเรื่องที่จะต้องคุยและอธิบายให้คุณฟัง"

    "อย่าเลย เพราะฉันไม่มีอะไรจะคุยกับเธอทั้งนั้นแหละ และก็อย่าติดต่อฉันอีก"

    ผมกดสายทิ้งไปแต่เค้าก็โทรเข้ามาอีก

    "นี่ทาคายาม่าซัง คราวนี้อย่าวางสายอีกนะ ต้องคุยกันให้รู้เรื่องก่อน"

    คุยงั้นเหรอ เค้าจะคุยอะไรกับผมนะ ก็ดีเหมือนกันคุยกันให้สิ้นเรื่องสิ้นราวไปเลย จะได้จบๆ ซะที

    "ก็ได้ งั้นเจอกันที่เดิมตอนสองทุ่มนะ" ผมนัดเวลากับเค้าเรียบร้อย ซึ่งเค้าก็ตอบตกลง

    ความจริงนะผมดีใจมากๆ เลยที่ไมค์โทรหาผม แต่สิ่งที่ทำให้ผมต้องพูดไม่ดีกับเค้าก็คือ คำขอร้องของโนริโกะจัง

    ทำไมเวลามันผ่านไปเร็วนักนะ แป๊ปเดียวก็ทุ่มครึ่งไปแล้ว และตอนนี้ผมก็อยู่ที่สถานที่นัดแล้วด้วย

    ผมจะมาก่อนเวลาทำไมนะ.......

    พอสองทุ่มพอดีผมก็เห็นไมค์กำลังเดินมา คราวนี้เค้าแต่งชุดไปรเวท

    คืนนี้อากาศค่อนข้างหนาว เพราะผมรู้สึกได้ถึงควันที่ออกมาจากปากและจมูกของตอนที่ผมกำลังหายใจ

    และไมค์ก็ใส่กางเกงยีนส์ตัวใหญ่ๆ สวมเสื้อฮู้ทแขนยาวและใส่หมวกถัก ดูแปลกตาไปอีกแบบ แต่ก็ดูดีทีเลยทีเดียว

    ความจริงผมไม่ได้เจอเค้ามาสี่วันแล้ว

    พอได้เจอมันก็ทำให้รู้สึกประหม่าได้เหมือนกัน ยิ่งครั้งล่าสุดที่เจอกัน เราทะเลาะกันอีกด้วย

    เค้าเดินเข้ามาหาผมด้วยท่าทางที่เครียดๆ

    "ไงทาคายาม่าซัง ไม่ได้เจอกันตั้งสี่วันเลยนะ"

    "อืม งั้นเหรอ" ผมตอบเพียงแค่นี้

    "ผมรู้เรื่องหมดแล้วนะ ว่าโนริโกะพูดอะไรกับคุณบ้าง"

    "ก็ดี ในเมื่อรู้แล้ว เราสองคนก็ควรจะทำตามนั้นนะ"

    "นี่คุณฟังยัยนั่นเหรอ คุณบ้าไปแล้วรึไง" ท่าทางของเค้าดูจะโมโหมาก

    "ก็แล้วไงล่ะ จะให้ฉันทำยังไง เค้ามาขอร้องฉันซะขนาดนี้แล้ว..."

    "คุณก็เลยจะทำตาม นี่คุณเป็นผู้ใหญ่ภาษาอะไร" ผมชักฉุนแล้วนะ

    "แล้วเด็กอย่างเธอนี่รู้ดีนักรึไง"

    "อย่างน้อยผมก็เป็นเด็กที่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร ไม่เหมือนคุณก็แล้วกัน

    แค่ยัยนั่นพูดนิดพูดหน่อยคุณก็ยินดีทำตามแล้ว"

    "แล้วเธอไม่แคร์เค้าบ้างรึไง" ผมถามจากความรู้สึกจริงๆ

    "ไม่เลย" เค้าตอบอย่างเย็นชามาก

    "เพราะผมแคร์คุณมากกว่า" ประโยคหลังนี้ทำเอาผมแทบไม่เชื่อหูตัวเอง

    "ว่าไงนะ เธอจะบอกว่าเธอแคร์ฉันมากกว่าโนริโกะจังเนี่ยนะ"

    "ใช่แล้ว" เค้าตอบด้วยท่าทางจริงจังมาก

    "ทำไมล่ะ" ใช่ทำไมล่ะช่วยบอกฉันที คราวนี้เค้าจ้องตาผมพร้อมกับตอบว่า

    "เพราะผมชอบคุณน่ะสิ และก็ชอบมากๆ เลยด้วย ถึงแม้จะรู้ว่าคุณชอบโนริโกะผมก็ยังชอบคุณ"

    น้ำเสียงของเค้าดูหนักแน่นมากเหมือนจะยืนยันในสิ่งที่พูด คราวนี้ผมได้ยินชัดแจ๋วทั้งสองรูหู

    ผมได้แต่ยืนนิ่ง มันคิดอะไรไม่ออกอีกแล้ว และอยู่ๆ มันเหมือนภาพตรงหน้าผมกำลังเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ เมื่อผมรู้สึกตัวผมก็พบว่าตัวเองกำลังอยู่ในอ้อมกอดของไมค์ แต่แปลกนะที่ผมไม่รู้สึกรังเกียจอะไรกลับรู้สึกอบอุ่นด้วยซ้ำ อากาศที่ดูเหมือนจะเย็นกลับร้อนซะจนผมแทบจะเหงื่อแตก ใจของผมเต้นรัวและแรงมาก

    "หนาวเหรอทาคายาม่าซัง ดูสิหน้าคุณน่ะแดงไปหมดแล้วนะ" เค้าพูดพร้อมกับกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นมาอีก เอ๊ะ ! นี่ผมกำลังคล้อยตามเค้าอยูเหรอเนี่ย พอผมรู้สึกตัวผมก็ผลักเค้าออกไป

    "เธอจะบ้าเหรอ ฉันเป็นผู้ชายนะ" ผมพูดออกไปแทบทันที

    "ผมรู้ว่าคุณเป็นผู้ชาย ก็ผมกำลังบอกรักคุณที่เป็นผู้ชายนี่ไง แล้วผมก็ไม่ได้บ้าด้วย"

    "เธอน่ะบ้าไปแล้ว ถ้าฉันไปคล้อยตามเธอฉันก็จะบ้าไปด้วย โทษทีนะฉันไม่มีเวลามาเล่นกับเด็กอย่างเธอ"

    ผมกำลังจะเดินหนี แต่เค้าก็คว้าแขนผมเอาไว้

    "แต่ผมจริงจังนะ ผมชอบคุณจริงๆ คุณยังไม่ต้องตอบอะไรผมตอนนี้ก็ได้ ขอเพียงแต่อย่าเพิ่งปฏิเสธผม"

    ผมสะบัดแขนออกจาเค้าพร้อมกับพูดว่า

    "ฉันจะกลับแล้ว และขอร้องล่ะอย่าตามฉันมาเลย ฉันสับสนไปหมดแล้ว"

    "ผมจะไม่เร่งรัดคุณ ผมรอได้ แต่ผมก็หวังไว้เหมือนกันนะว่าคุณจะชอบผมแม้เพียงสักนิดก็ยังดี ยังไงก็ช่วย

    คิดเรื่องของผมด้วยนะครับ"

    ผมเห็นสายตาสิ้นหวังของเค้า แล้วก็อดพยักหน้าตอบไปไม่ได้ แล้วผมก็เดินจากมา

    เฮ้อ ! เช้าวันใหม่แล้วหรือเนี่ย วันนี้ผมไม่อยากไปไหนเลย อยากจะหมกตัวอยู่แต่ในห้องทั้งวัน

    แต่มันเป็นไปไม่ได้หรอก ผมจะเอาเรื่องส่วนตัวเข้ามาทำให้งานให้งานเสียไม่ได้ ยิ่งผมเป็นถึง

    ผู้จัดการฝ่ายด้วยยิ่งทำไม่ได้เลย เมื่อผมมาถึงสถานีรถไฟใต้ดินผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าผมจะ

    มองไปรอบๆ ทำไม หรือผมหวังจะได้เจอกับใครงั้นเหรอ

    "หัวหน้า ! ครับ...หัวหน้า !" "มีอะไรเหรอไซโต้คุง"

    นี่ผมเหม่อขณะทำงานด้วยเหรอเนี่ยและต่อหน้าลูกน้องอีก

    ไม่อยากจะเชื่อตัวเองเลย

    "แผนงานของผมมีปัญหาอะไรมั้ยครับ" ตั้งสมาธิหน่อยสิๆ

    "จากที่ผมตรวจสอบดูแล้วก็ไม่มีปัญหาอะไรนะ เอาเป็นว่าผมอนุมัติแล้วกัน"

    "เอ่อ...คือผมไม่ได้ตั้งใจจะยุ่งเรื่องส่วนตัวของหัวหน้านะครับ เพียงแต่ผมอยากทราบว่า วันนี้หัวหน้ามีอะไรไม่สบายใจรึเปล่าครับ เพราะดูท่าทางใจลอย"

    "เปล่านี่ผมไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้นแหละ และคุณก็กลับไปทำงานของคุณได้แล้วนะ อ้อและก็ขอบใจนะ"

    ไซโต้คุงยิ้มให้ผมก่อนที่จะเดินออกไป วันนี้สะสางงานเสร็จแล้วรีบกลับดีกว่า

    นี่ผมกำลังทำอะไรอยู่เนี่ย เลิกงานแล้วยังไม่กลับบ้าน แต่กลับมานั่งร้านที่ผมชอบนัดเจอกับไมค์บ่อยๆ

    ผมควรจะทำตามที่โนริโกะจังขอร้องดีมั้ยนะ ทำไมนะการที่ผมกับไมค์เป็นเพื่อนกันมันเป็นเรื่องที่น่าเสียหาย

    มากเลยเหรอ โนริโกะจังพูดอย่างกับว่าผมจะไปแย่งไมค์มาจากเธองั้นแหละ มันจะเป็นไปได้อย่างไร

    เออ ถ้าหากผมเป็นเด็กสาวม.ปลายค่อยว่าไปอย่าง

    เสียงโทรศัพท์มือถือของผมดังขึ้นช่วยเรียกผมให้ตื่นจากภวังค์

    แต่ผมไม่ได้ดูว่าใครโทรเข้ามา จึงกดรับไปเลย

    "ครับ"

    ผมกรอกเสียงลงไป

    "ทาคายาม่าซัง" ไมค์โทรมานี่

    "มีธุระอะไร"

    "ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน"

    "แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอด้วย"

    "เอาเหอะน่า บอกผมมาเหอะ"

    "ฉันถามเธอแล้วไงว่า มีธุระอะไร"

    "งั้นผมต้องการเจอกับคุณ ผมมีเรื่องที่จะต้องคุยและอธิบายให้คุณฟัง"

    "อย่าเลย เพราะฉันไม่มีอะไรจะคุยกับเธอทั้งนั้นแหละ และก็อย่าติดต่อฉันอีก"

    ผมกดสายทิ้งไปแต่เค้าก็โทรเข้ามาอีก

    "นี่ทาคายาม่าซัง คราวนี้อย่าวางสายอีกนะ ต้องคุยกันให้รู้เรื่องก่อน"

    คุยงั้นเหรอ เค้าจะคุยอะไรกับผมนะ ก็ดีเหมือนกันคุยกันให้สิ้นเรื่องสิ้นราวไปเลย จะได้จบๆ ซะที

    "ก็ได้ งั้นเจอกันที่เดิมตอนสองทุ่มนะ" ผมนัดเวลากับเค้าเรียบร้อย ซึ่งเค้าก็ตอบตกลง

    ความจริงนะผมดีใจมากๆ เลยที่ไมค์โทรหาผม แต่สิ่งที่ทำให้ผมต้องพูดไม่ดีกับเค้าก็คือ คำขอร้องของโนริโกะจัง

    ทำไมเวลามันผ่านไปเร็วนักนะ แป๊ปเดียวก็ทุ่มครึ่งไปแล้ว และตอนนี้ผมก็อยู่ที่สถานที่นัดแล้วด้วย

    ผมจะมาก่อนเวลาทำไมนะ.......

    พอสองทุ่มพอดีผมก็เห็นไมค์กำลังเดินมา คราวนี้เค้าแต่งชุดไปรเวท

    คืนนี้อากาศค่อนข้างหนาว เพราะผมรู้สึกได้ถึงควันที่ออกมาจากปากและจมูกของตอนที่ผมกำลังหายใจ

    และไมค์ก็ใส่กางเกงยีนส์ตัวใหญ่ๆ สวมเสื้อฮู้ทแขนยาวและใส่หมวกถัก ดูแปลกตาไปอีกแบบ แต่ก็ดูดีทีเลยทีเดียว

    ความจริงผมไม่ได้เจอเค้ามาสี่วันแล้ว

    พอได้เจอมันก็ทำให้รู้สึกประหม่าได้เหมือนกัน ยิ่งครั้งล่าสุดที่เจอกัน เราทะเลาะกันอีกด้วย

    เค้าเดินเข้ามาหาผมด้วยท่าทางที่เครียดๆ

    "ไงทาคายาม่าซัง ไม่ได้เจอกันตั้งสี่วันเลยนะ"

    "อืม งั้นเหรอ" ผมตอบเพียงแค่นี้

    "ผมรู้เรื่องหมดแล้วนะ ว่าโนริโกะพูดอะไรกับคุณบ้าง"

    "ก็ดี ในเมื่อรู้แล้ว เราสองคนก็ควรจะทำตามนั้นนะ"

    "นี่คุณฟังยัยนั่นเหรอ คุณบ้าไปแล้วรึไง" ท่าทางของเค้าดูจะโมโหมาก

    "ก็แล้วไงล่ะ จะให้ฉันทำยังไง เค้ามาขอร้องฉันซะขนาดนี้แล้ว..."

    "คุณก็เลยจะทำตาม นี่คุณเป็นผู้ใหญ่ภาษาอะไร" ผมชักฉุนแล้วนะ

    "แล้วเด็กอย่างเธอนี่รู้ดีนักรึไง"

    "อย่างน้อยผมก็เป็นเด็กที่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร ไม่เหมือนคุณก็แล้วกัน

    แค่ยัยนั่นพูดนิดพูดหน่อยคุณก็ยินดีทำตามแล้ว"

    "แล้วเธอไม่แคร์เค้าบ้างรึไง" ผมถามจากความรู้สึกจริงๆ

    "ไม่เลย" เค้าตอบอย่างเย็นชามาก

    "เพราะผมแคร์คุณมากกว่า" ประโยคหลังนี้ทำเอาผมแทบไม่เชื่อหูตัวเอง

    "ว่าไงนะ เธอจะบอกว่าเธอแคร์ฉันมากกว่าโนริโกะจังเนี่ยนะ"

    "ใช่แล้ว" เค้าตอบด้วยท่าทางจริงจังมาก

    "ทำไมล่ะ" ใช่ทำไมล่ะช่วยบอกฉันที คราวนี้เค้าจ้องตาผมพร้อมกับตอบว่า

    "เพราะผมชอบคุณน่ะสิ และก็ชอบมากๆ เลยด้วย ถึงแม้จะรู้ว่าคุณชอบโนริโกะผมก็ยังชอบคุณ"

    น้ำเสียงของเค้าดูหนักแน่นมากเหมือนจะยืนยันในสิ่งที่พูด คราวนี้ผมได้ยินชัดแจ๋วทั้งสองรูหู

    ผมได้แต่ยืนนิ่ง มันคิดอะไรไม่ออกอีกแล้ว และอยู่ๆ มันเหมือนภาพตรงหน้าผมกำลังเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ เมื่อผมรู้สึกตัวผมก็พบว่าตัวเองกำลังอยู่ในอ้อมกอดของไมค์ แต่แปลกนะที่ผมไม่รู้สึกรังเกียจอะไรกลับรู้สึกอบอุ่นด้วยซ้ำ อากาศที่ดูเหมือนจะเย็นกลับร้อนซะจนผมแทบจะเหงื่อแตก ใจของผมเต้นรัวและแรงมาก

    "หนาวเหรอทาคายาม่าซัง ดูสิหน้าคุณน่ะแดงไปหมดแล้วนะ" เค้าพูดพร้อมกับกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นมาอีก เอ๊ะ ! นี่ผมกำลังคล้อยตามเค้าอยูเหรอเนี่ย พอผมรู้สึกตัวผมก็ผลักเค้าออกไป

    "เธอจะบ้าเหรอ ฉันเป็นผู้ชายนะ" ผมพูดออกไปแทบทันที

    "ผมรู้ว่าคุณเป็นผู้ชาย ก็ผมกำลังบอกรักคุณที่เป็นผู้ชายนี่ไง แล้วผมก็ไม่ได้บ้าด้วย"

    "เธอน่ะบ้าไปแล้ว ถ้าฉันไปคล้อยตามเธอฉันก็จะบ้าไปด้วย โทษทีนะฉันไม่มีเวลามาเล่นกับเด็กอย่างเธอ"

    ผมกำลังจะเดินหนี แต่เค้าก็คว้าแขนผมเอาไว้

    "แต่ผมจริงจังนะ ผมชอบคุณจริงๆ คุณยังไม่ต้องตอบอะไรผมตอนนี้ก็ได้ ขอเพียงแต่อย่าเพิ่งปฏิเสธผม"

    ผมสะบัดแขนออกจาเค้าพร้อมกับพูดว่า

    "ฉันจะกลับแล้ว และขอร้องล่ะอย่าตามฉันมาเลย ฉันสับสนไปหมดแล้ว"

    "ผมจะไม่เร่งรัดคุณ ผมรอได้ แต่ผมก็หวังไว้เหมือนกันนะว่าคุณจะชอบผมแม้เพียงสักนิดก็ยังดี ยังไงก็ช่วย

    คิดเรื่องของผมด้วยนะครับ"

    ผมเห็นสายตาสิ้นหวังของเค้า แล้วก็อดพยักหน้าตอบไปไม่ได้ แล้วผมก็เดินจากมา

    แต่มันเป็นไปไม่ได้หรอก ผมจะเอาเรื่องส่วนตัวเข้ามาทำให้งานให้งานเสียไม่ได้ ยิ่งผมเป็นถึง

    ผู้จัดการฝ่ายด้วยยิ่งทำไม่ได้เลย เมื่อผมมาถึงสถานีรถไฟใต้ดินผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าผมจะ

    มองไปรอบๆ ทำไม หรือผมหวังจะได้เจอกับใครงั้นเหรอ

    "หัวหน้า ! ครับ...หัวหน้า !" "มีอะไรเหรอไซโต้คุง"

    นี่ผมเหม่อขณะทำงานด้วยเหรอเนี่ยและต่อหน้าลูกน้องอีก

    ไม่อยากจะเชื่อตัวเองเลย

    "แผนงานของผมมีปัญหาอะไรมั้ยครับ" ตั้งสมาธิหน่อยสิๆ

    "จากที่ผมตรวจสอบดูแล้วก็ไม่มีปัญหาอะไรนะ เอาเป็นว่าผมอนุมัติแล้วกัน"

    "เอ่อ...คือผมไม่ได้ตั้งใจจะยุ่งเรื่องส่วนตัวของหัวหน้านะครับ เพียงแต่ผมอยากทราบว่า วันนี้หัวหน้ามีอะไรไม่สบายใจรึเปล่าครับ เพราะดูท่าทางใจลอย"

    "เปล่านี่ผมไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้นแหละ และคุณก็กลับไปทำงานของคุณได้แล้วนะ อ้อและก็ขอบใจนะ"

    ไซโต้คุงยิ้มให้ผมก่อนที่จะเดินออกไป วันนี้สะสางงานเสร็จแล้วรีบกลับดีกว่า

    นี่ผมกำลังทำอะไรอยู่เนี่ย เลิกงานแล้วยังไม่กลับบ้าน แต่กลับมานั่งร้านที่ผมชอบนัดเจอกับไมค์บ่อยๆ

    ผมควรจะทำตามที่โนริโกะจังขอร้องดีมั้ยนะ ทำไมนะการที่ผมกับไมค์เป็นเพื่อนกันมันเป็นเรื่องที่น่าเสียหาย

    มากเลยเหรอ โนริโกะจังพูดอย่างกับว่าผมจะไปแย่งไมค์มาจากเธองั้นแหละ มันจะเป็นไปได้อย่างไร

    เออ ถ้าหากผมเป็นเด็กสาวม.ปลายค่อยว่าไปอย่าง

    เสียงโทรศัพท์มือถือของผมดังขึ้นช่วยเรียกผมให้ตื่นจากภวังค์

    แต่ผมไม่ได้ดูว่าใครโทรเข้ามา จึงกดรับไปเลย

    "ครับ"

    ผมกรอกเสียงลงไป

    "ทาคายาม่าซัง" ไมค์โทรมานี่

    "มีธุระอะไร"

    "ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน"

    "แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอด้วย"

    "เอาเหอะน่า บอกผมมาเหอะ"

    "ฉันถามเธอแล้วไงว่า มีธุระอะไร"

    "งั้นผมต้องการเจอกับคุณ ผมมีเรื่องที่จะต้องคุยและอธิบายให้คุณฟัง"

    "อย่าเลย เพราะฉันไม่มีอะไรจะคุยกับเธอทั้งนั้นแหละ และก็อย่าติดต่อฉันอีก"

    ผมกดสายทิ้งไปแต่เค้าก็โทรเข้ามาอีก

    "นี่ทาคายาม่าซัง คราวนี้อย่าวางสายอีกนะ ต้องคุยกันให้รู้เรื่องก่อน"

    คุยงั้นเหรอ เค้าจะคุยอะไรกับผมนะ ก็ดีเหมือนกันคุยกันให้สิ้นเรื่องสิ้นราวไปเลย จะได้จบๆ ซะที

    "ก็ได้ งั้นเจอกันที่เดิมตอนสองทุ่มนะ" ผมนัดเวลากับเค้าเรียบร้อย ซึ่งเค้าก็ตอบตกลง

    ความจริงนะผมดีใจมากๆ เลยที่ไมค์โทรหาผม แต่สิ่งที่ทำให้ผมต้องพูดไม่ดีกับเค้าก็คือ คำขอร้องของโนริโกะจัง

    ทำไมเวลามันผ่านไปเร็วนักนะ แป๊ปเดียวก็ทุ่มครึ่งไปแล้ว และตอนนี้ผมก็อยู่ที่สถานที่นัดแล้วด้วย

    ผมจะมาก่อนเวลาทำไมนะ.......

    พอสองทุ่มพอดีผมก็เห็นไมค์กำลังเดินมา คราวนี้เค้าแต่งชุดไปรเวท

    คืนนี้อากาศค่อนข้างหนาว เพราะผมรู้สึกได้ถึงควันที่ออกมาจากปากและจมูกของตอนที่ผมกำลังหายใจ

    และไมค์ก็ใส่กางเกงยีนส์ตัวใหญ่ๆ สวมเสื้อฮู้ทแขนยาวและใส่หมวกถัก ดูแปลกตาไปอีกแบบ แต่ก็ดูดีทีเลยทีเดียว

    ความจริงผมไม่ได้เจอเค้ามาสี่วันแล้ว

    พอได้เจอมันก็ทำให้รู้สึกประหม่าได้เหมือนกัน ยิ่งครั้งล่าสุดที่เจอกัน เราทะเลาะกันอีกด้วย

    เค้าเดินเข้ามาหาผมด้วยท่าทางที่เครียดๆ

    "ไงทาคายาม่าซัง ไม่ได้เจอกันตั้งสี่วันเลยนะ"

    "อืม งั้นเหรอ" ผมตอบเพียงแค่นี้

    "ผมรู้เรื่องหมดแล้วนะ ว่าโนริโกะพูดอะไรกับคุณบ้าง"

    "ก็ดี ในเมื่อรู้แล้ว เราสองคนก็ควรจะทำตามนั้นนะ"

    "นี่คุณฟังยัยนั่นเหรอ คุณบ้าไปแล้วรึไง" ท่าทางของเค้าดูจะโมโหมาก

    "ก็แล้วไงล่ะ จะให้ฉันทำยังไง เค้ามาขอร้องฉันซะขนาดนี้แล้ว..."

    "คุณก็เลยจะทำตาม นี่คุณเป็นผู้ใหญ่ภาษาอะไร" ผมชักฉุนแล้วนะ

    "แล้วเด็กอย่างเธอนี่รู้ดีนักรึไง"

    "อย่างน้อยผมก็เป็นเด็กที่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร ไม่เหมือนคุณก็แล้วกัน

    แค่ยัยนั่นพูดนิดพูดหน่อยคุณก็ยินดีทำตามแล้ว"

    "แล้วเธอไม่แคร์เค้าบ้างรึไง" ผมถามจากความรู้สึกจริงๆ

    "ไม่เลย" เค้าตอบอย่างเย็นชามาก

    "เพราะผมแคร์คุณมากกว่า" ประโยคหลังนี้ทำเอาผมแทบไม่เชื่อหูตัวเอง

    "ว่าไงนะ เธอจะบอกว่าเธอแคร์ฉันมากกว่าโนริโกะจังเนี่ยนะ"

    "ใช่แล้ว" เค้าตอบด้วยท่าทางจริงจังมาก

    "ทำไมล่ะ" ใช่ทำไมล่ะช่วยบอกฉันที คราวนี้เค้าจ้องตาผมพร้อมกับตอบว่า

    "เพราะผมชอบคุณน่ะสิ และก็ชอบมากๆ เลยด้วย ถึงแม้จะรู้ว่าคุณชอบโนริโกะผมก็ยังชอบคุณ"

    น้ำเสียงของเค้าดูหนักแน่นมากเหมือนจะยืนยันในสิ่งที่พูด คราวนี้ผมได้ยินชัดแจ๋วทั้งสองรูหู

    ผมได้แต่ยืนนิ่ง มันคิดอะไรไม่ออกอีกแล้ว และอยู่ๆ มันเหมือนภาพตรงหน้าผมกำลังเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ เมื่อผมรู้สึกตัวผมก็พบว่าตัวเองกำลังอยู่ในอ้อมกอดของไมค์ แต่แปลกนะที่ผมไม่รู้สึกรังเกียจอะไรกลับรู้สึกอบอุ่นด้วยซ้ำ อากาศที่ดูเหมือนจะเย็นกลับร้อนซะจนผมแทบจะเหงื่อแตก ใจของผมเต้นรัวและแรงมาก

    "หนาวเหรอทาคายาม่าซัง ดูสิหน้าคุณน่ะแดงไปหมดแล้วนะ" เค้าพูดพร้อมกับกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นมาอีก เอ๊ะ ! นี่ผมกำลังคล้อยตามเค้าอยูเหรอเนี่ย พอผมรู้สึกตัวผมก็ผลักเค้าออกไป

    "เธอจะบ้าเหรอ ฉันเป็นผู้ชายนะ" ผมพูดออกไปแทบทันที

    "ผมรู้ว่าคุณเป็นผู้ชาย ก็ผมกำลังบอกรักคุณที่เป็นผู้ชายนี่ไง แล้วผมก็ไม่ได้บ้าด้วย"

    "เธอน่ะบ้าไปแล้ว ถ้าฉันไปคล้อยตามเธอฉันก็จะบ้าไปด้วย โทษทีนะฉันไม่มีเวลามาเล่นกับเด็กอย่างเธอ"

    ผมกำลังจะเดินหนี แต่เค้าก็คว้าแขนผมเอาไว้

    "แต่ผมจริงจังนะ ผมชอบคุณจริงๆ คุณยังไม่ต้องตอบอะไรผมตอนนี้ก็ได้ ขอเพียงแต่อย่าเพิ่งปฏิเสธผม"

    ผมสะบัดแขนออกจาเค้าพร้อมกับพูดว่า

    "ฉันจะกลับแล้ว และขอร้องล่ะอย่าตามฉันมาเลย ฉันสับสนไปหมดแล้ว"

    "ผมจะไม่เร่งรัดคุณ ผมรอได้ แต่ผมก็หวังไว้เหมือนกันนะว่าคุณจะชอบผมแม้เพียงสักนิดก็ยังดี ยังไงก็ช่วย

    คิดเรื่องของผมด้วยนะครับ"

    ผมเห็นสายตาสิ้นหวังของเค้า แล้วก็อดพยักหน้าตอบไปไม่ได้ แล้วผมก็เดินจากมา

    นี่ผมเหม่อขณะทำงานด้วยเหรอเนี่ยและต่อหน้าลูกน้องอีก

    ไม่อยากจะเชื่อตัวเองเลย

    "แผนงานของผมมีปัญหาอะไรมั้ยครับ" ตั้งสมาธิหน่อยสิๆ

    "จากที่ผมตรวจสอบดูแล้วก็ไม่มีปัญหาอะไรนะ เอาเป็นว่าผมอนุมัติแล้วกัน"

    "เอ่อ...คือผมไม่ได้ตั้งใจจะยุ่งเรื่องส่วนตัวของหัวหน้านะครับ เพียงแต่ผมอยากทราบว่า วันนี้หัวหน้ามีอะไรไม่สบายใจรึเปล่าครับ เพราะดูท่าทางใจลอย"

    "เปล่านี่ผมไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้นแหละ และคุณก็กลับไปทำงานของคุณได้แล้วนะ อ้อและก็ขอบใจนะ"

    ไซโต้คุงยิ้มให้ผมก่อนที่จะเดินออกไป วันนี้สะสางงานเสร็จแล้วรีบกลับดีกว่า

    นี่ผมกำลังทำอะไรอยู่เนี่ย เลิกงานแล้วยังไม่กลับบ้าน แต่กลับมานั่งร้านที่ผมชอบนัดเจอกับไมค์บ่อยๆ

    ผมควรจะทำตามที่โนริโกะจังขอร้องดีมั้ยนะ ทำไมนะการที่ผมกับไมค์เป็นเพื่อนกันมันเป็นเรื่องที่น่าเสียหาย

    มากเลยเหรอ โนริโกะจังพูดอย่างกับว่าผมจะไปแย่งไมค์มาจากเธองั้นแหละ มันจะเป็นไปได้อย่างไร

    เออ ถ้าหากผมเป็นเด็กสาวม.ปลายค่อยว่าไปอย่าง

    เสียงโทรศัพท์มือถือของผมดังขึ้นช่วยเรียกผมให้ตื่นจากภวังค์

    แต่ผมไม่ได้ดูว่าใครโทรเข้ามา จึงกดรับไปเลย

    "ครับ"

    ผมกรอกเสียงลงไป

    "ทาคายาม่าซัง" ไมค์โทรมานี่

    "มีธุระอะไร"

    "ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน"

    "แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอด้วย"

    "เอาเหอะน่า บอกผมมาเหอะ"

    "ฉันถามเธอแล้วไงว่า มีธุระอะไร"

    "งั้นผมต้องการเจอกับคุณ ผมมีเรื่องที่จะต้องคุยและอธิบายให้คุณฟัง"

    "อย่าเลย เพราะฉันไม่มีอะไรจะคุยกับเธอทั้งนั้นแหละ และก็อย่าติดต่อฉันอีก"

    ผมกดสายทิ้งไปแต่เค้าก็โทรเข้ามาอีก

    "นี่ทาคายาม่าซัง คราวนี้อย่าวางสายอีกนะ ต้องคุยกันให้รู้เรื่องก่อน"

    คุยงั้นเหรอ เค้าจะคุยอะไรกับผมนะ ก็ดีเหมือนกันคุยกันให้สิ้นเรื่องสิ้นราวไปเลย จะได้จบๆ ซะที

    "ก็ได้ งั้นเจอกันที่เดิมตอนสองทุ่มนะ" ผมนัดเวลากับเค้าเรียบร้อย ซึ่งเค้าก็ตอบตกลง

    ความจริงนะผมดีใจมากๆ เลยที่ไมค์โทรหาผม แต่สิ่งที่ทำให้ผมต้องพูดไม่ดีกับเค้าก็คือ คำขอร้องของโนริโกะจัง

    ทำไมเวลามันผ่านไปเร็วนักนะ แป๊ปเดียวก็ทุ่มครึ่งไปแล้ว และตอนนี้ผมก็อยู่ที่สถานที่นัดแล้วด้วย

    ผมจะมาก่อนเวลาทำไมนะ.......

    พอสองทุ่มพอดีผมก็เห็นไมค์กำลังเดินมา คราวนี้เค้าแต่งชุดไปรเวท

    คืนนี้อากาศค่อนข้างหนาว เพราะผมรู้สึกได้ถึงควันที่ออกมาจากปากและจมูกของตอนที่ผมกำลังหายใจ

    และไมค์ก็ใส่กางเกงยีนส์ตัวใหญ่ๆ สวมเสื้อฮู้ทแขนยาวและใส่หมวกถัก ดูแปลกตาไปอีกแบบ แต่ก็ดูดีทีเลยทีเดียว

    ความจริงผมไม่ได้เจอเค้ามาสี่วันแล้ว

    พอได้เจอมันก็ทำให้รู้สึกประหม่าได้เหมือนกัน ยิ่งครั้งล่าสุดที่เจอกัน เราทะเลาะกันอีกด้วย

    เค้าเดินเข้ามาหาผมด้วยท่าทางที่เครียดๆ

    "ไงทาคายาม่าซัง ไม่ได้เจอกันตั้งสี่วันเลยนะ"

    "อืม งั้นเหรอ" ผมตอบเพียงแค่นี้

    "ผมรู้เรื่องหมดแล้วนะ ว่าโนริโกะพูดอะไรกับคุณบ้าง"

    "ก็ดี ในเมื่อรู้แล้ว เราสองคนก็ควรจะทำตามนั้นนะ"

    "นี่คุณฟังยัยนั่นเหรอ คุณบ้าไปแล้วรึไง" ท่าทางของเค้าดูจะโมโหมาก

    "ก็แล้วไงล่ะ จะให้ฉันทำยังไง เค้ามาขอร้องฉันซะขนาดนี้แล้ว..."

    "คุณก็เลยจะทำตาม นี่คุณเป็นผู้ใหญ่ภาษาอะไร" ผมชักฉุนแล้วนะ

    "แล้วเด็กอย่างเธอนี่รู้ดีนักรึไง"

    "อย่างน้อยผมก็เป็นเด็กที่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร ไม่เหมือนคุณก็แล้วกัน

    แค่ยัยนั่นพูดนิดพูดหน่อยคุณก็ยินดีทำตามแล้ว"

    "แล้วเธอไม่แคร์เค้าบ้างรึไง" ผมถามจากความรู้สึกจริงๆ

    "ไม่เลย" เค้าตอบอย่างเย็นชามาก

    "เพราะผมแคร์คุณมากกว่า" ประโยคหลังนี้ทำเอาผมแทบไม่เชื่อหูตัวเอง

    "ว่าไงนะ เธอจะบอกว่าเธอแคร์ฉันมากกว่าโนริโกะจังเนี่ยนะ"

    "ใช่แล้ว" เค้าตอบด้วยท่าทางจริงจังมาก

    "ทำไมล่ะ" ใช่ทำไมล่ะช่วยบอกฉันที คราวนี้เค้าจ้องตาผมพร้อมกับตอบว่า

    "เพราะผมชอบคุณน่ะสิ และก็ชอบมากๆ เลยด้วย ถึงแม้จะรู้ว่าคุณชอบโนริโกะผมก็ยังชอบคุณ"

    น้ำเสียงของเค้าดูหนักแน่นมากเหมือนจะยืนยันในสิ่งที่พูด คราวนี้ผมได้ยินชัดแจ๋วทั้งสองรูหู

    ผมได้แต่ยืนนิ่ง มันคิดอะไรไม่ออกอีกแล้ว และอยู่ๆ มันเหมือนภาพตรงหน้าผมกำลังเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ เมื่อผมรู้สึกตัวผมก็พบว่าตัวเองกำลังอยู่ในอ้อมกอดของไมค์ แต่แปลกนะที่ผมไม่รู้สึกรังเกียจอะไรกลับรู้สึกอบอุ่นด้วยซ้ำ อากาศที่ดูเหมือนจะเย็นกลับร้อนซะจนผมแทบจะเหงื่อแตก ใจของผมเต้นรัวและแรงมาก

    "หนาวเหรอทาคายาม่าซัง ดูสิหน้าคุณน่ะแดงไปหมดแล้วนะ" เค้าพูดพร้อมกับกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นมาอีก เอ๊ะ ! นี่ผมกำลังคล้อยตามเค้าอยูเหรอเนี่ย พอผมรู้สึกตัวผมก็ผลักเค้าออกไป

    "เธอจะบ้าเหรอ ฉันเป็นผู้ชายนะ" ผมพูดออกไปแทบทันที

    "ผมรู้ว่าคุณเป็นผู้ชาย ก็ผมกำลังบอกรักคุณที่เป็นผู้ชายนี่ไง แล้วผมก็ไม่ได้บ้าด้วย"

    "เธอน่ะบ้าไปแล้ว ถ้าฉันไปคล้อยตามเธอฉันก็จะบ้าไปด้วย โทษทีนะฉันไม่มีเวลามาเล่นกับเด็กอย่างเธอ"

    ผมกำลังจะเดินหนี แต่เค้าก็คว้าแขนผมเอาไว้

    "แต่ผมจริงจังนะ ผมชอบคุณจริงๆ คุณยังไม่ต้องตอบอะไรผมตอนนี้ก็ได้ ขอเพียงแต่อย่าเพิ่งปฏิเสธผม"

    ผมสะบัดแขนออกจาเค้าพร้อมกับพูดว่า

    "ฉันจะกลับแล้ว และขอร้องล่ะอย่าตามฉันมาเลย ฉันสับสนไปหมดแล้ว"

    "ผมจะไม่เร่งรัดคุณ ผมรอได้ แต่ผมก็หวังไว้เหมือนกันนะว่าคุณจะชอบผมแม้เพียงสักนิดก็ยังดี ยังไงก็ช่วย

    คิดเรื่องของผมด้วยนะครับ"

    ผมเห็นสายตาสิ้นหวังของเค้า แล้วก็อดพยักหน้าตอบไปไม่ได้ แล้วผมก็เดินจากมา

    ความจริงนะผมดีใจมากๆ เลยที่ไมค์โทรหาผม แต่สิ่งที่ทำให้ผมต้องพูดไม่ดีกับเค้าก็คือ คำขอร้องของโนริโกะจัง

    ทำไมเวลามันผ่านไปเร็วนักนะ แป๊ปเดียวก็ทุ่มครึ่งไปแล้ว และตอนนี้ผมก็อยู่ที่สถานที่นัดแล้วด้วย

    ผมจะมาก่อนเวลาทำไมนะ.......

    พอสองทุ่มพอดีผมก็เห็นไมค์กำลังเดินมา คราวนี้เค้าแต่งชุดไปรเวท

    คืนนี้อากาศค่อนข้างหนาว เพราะผมรู้สึกได้ถึงควันที่ออกมาจากปากและจมูกของตอนที่ผมกำลังหายใจ

    และไมค์ก็ใส่กางเกงยีนส์ตัวใหญ่ๆ สวมเสื้อฮู้ทแขนยาวและใส่หมวกถัก ดูแปลกตาไปอีกแบบ แต่ก็ดูดีทีเลยทีเดียว

    ความจริงผมไม่ได้เจอเค้ามาสี่วันแล้ว

    พอได้เจอมันก็ทำให้รู้สึกประหม่าได้เหมือนกัน ยิ่งครั้งล่าสุดที่เจอกัน เราทะเลาะกันอีกด้วย

    เค้าเดินเข้ามาหาผมด้วยท่าทางที่เครียดๆ

    "ไงทาคายาม่าซัง ไม่ได้เจอกันตั้งสี่วันเลยนะ"

    "อืม งั้นเหรอ" ผมตอบเพียงแค่นี้

    "ผมรู้เรื่องหมดแล้วนะ ว่าโนริโกะพูดอะไรกับคุณบ้าง"

    "ก็ดี ในเมื่อรู้แล้ว เราสองคนก็ควรจะทำตามนั้นนะ"

    "นี่คุณฟังยัยนั่นเหรอ คุณบ้าไปแล้วรึไง" ท่าทางของเค้าดูจะโมโหมาก

    "ก็แล้วไงล่ะ จะให้ฉันทำยังไง เค้ามาขอร้องฉันซะขนาดนี้แล้ว..."

    "คุณก็เลยจะทำตาม นี่คุณเป็นผู้ใหญ่ภาษาอะไร" ผมชักฉุนแล้วนะ

    "แล้วเด็กอย่างเธอนี่รู้ดีนักรึไง"

    "อย่างน้อยผมก็เป็นเด็กที่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร ไม่เหมือนคุณก็แล้วกัน

    แค่ยัยนั่นพูดนิดพูดหน่อยคุณก็ยินดีทำตามแล้ว"

    "แล้วเธอไม่แคร์เค้าบ้างรึไง" ผมถามจากความรู้สึกจริงๆ

    "ไม่เลย" เค้าตอบอย่างเย็นชามาก

    "เพราะผมแคร์คุณมากกว่า" ประโยคหลังนี้ทำเอาผมแทบไม่เชื่อหูตัวเอง

    "ว่าไงนะ เธอจะบอกว่าเธอแคร์ฉันมากกว่าโนริโกะจังเนี่ยนะ"

    "ใช่แล้ว" เค้าตอบด้วยท่าทางจริงจังมาก

    "ทำไมล่ะ" ใช่ทำไมล่ะช่วยบอกฉันที คราวนี้เค้าจ้องตาผมพร้อมกับตอบว่า

    "เพราะผมชอบคุณน่ะสิ และก็ชอบมากๆ เลยด้วย ถึงแม้จะรู้ว่าคุณชอบโนริโกะผมก็ยังชอบคุณ"

    น้ำเสียงของเค้าดูหนักแน่นมากเหมือนจะยืนยันในสิ่งที่พูด คราวนี้ผมได้ยินชัดแจ๋วทั้งสองรูหู

    ผมได้แต่ยืนนิ่ง มันคิดอะไรไม่ออกอีกแล้ว และอยู่ๆ มันเหมือนภาพตรงหน้าผมกำลังเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ เมื่อผมรู้สึกตัวผมก็พบว่าตัวเองกำลังอยู่ในอ้อมกอดของไมค์ แต่แปลกนะที่ผมไม่รู้สึกรังเกียจอะไรกลับรู้สึกอบอุ่นด้วยซ้ำ อากาศที่ดูเหมือนจะเย็นกลับร้อนซะจนผมแทบจะเหงื่อแตก ใจของผมเต้นรัวและแรงมาก

    "หนาวเหรอทาคายาม่าซัง ดูสิหน้าคุณน่ะแดงไปหมดแล้วนะ" เค้าพูดพร้อมกับกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นมาอีก เอ๊ะ ! นี่ผมกำลังคล้อยตามเค้าอยูเหรอเนี่ย พอผมรู้สึกตัวผมก็ผลักเค้าออกไป

    "เธอจะบ้าเหรอ ฉันเป็นผู้ชายนะ" ผมพูดออกไปแทบทันที

    "ผมรู้ว่าคุณเป็นผู้ชาย ก็ผมกำลังบอกรักคุณที่เป็นผู้ชายนี่ไง แล้วผมก็ไม่ได้บ้าด้วย"

    "เธอน่ะบ้าไปแล้ว ถ้าฉันไปคล้อยตามเธอฉันก็จะบ้าไปด้วย โทษทีนะฉันไม่มีเวลามาเล่นกับเด็กอย่างเธอ"

    ผมกำลังจะเดินหนี แต่เค้าก็คว้าแขนผมเอาไว้

    "แต่ผมจริงจังนะ ผมชอบคุณจริงๆ คุณยังไม่ต้องตอบอะไรผมตอนนี้ก็ได้ ขอเพียงแต่อย่าเพิ่งปฏิเสธผม"

    ผมสะบัดแขนออกจาเค้าพร้อมกับพูดว่า

    "ฉันจะกลับแล้ว และขอร้องล่ะอย่าตามฉันมาเลย ฉันสับสนไปหมดแล้ว"

    "ผมจะไม่เร่งรัดคุณ ผมรอได้ แต่ผมก็หวังไว้เหมือนกันนะว่าคุณจะชอบผมแม้เพียงสักนิดก็ยังดี ยังไงก็ช่วย

    คิดเรื่องของผมด้วยนะครับ"

    ผมเห็นสายตาสิ้นหวังของเค้า แล้วก็อดพยักหน้าตอบไปไม่ได้ แล้วผมก็เดินจากมา

    "เธอจะบ้าเหรอ ฉันเป็นผู้ชายนะ" ผมพูดออกไปแทบทันที

    "ผมรู้ว่าคุณเป็นผู้ชาย ก็ผมกำลังบอกรักคุณที่เป็นผู้ชายนี่ไง แล้วผมก็ไม่ได้บ้าด้วย"

    "เธอน่ะบ้าไปแล้ว ถ้าฉันไปคล้อยตามเธอฉันก็จะบ้าไปด้วย โทษทีนะฉันไม่มีเวลามาเล่นกับเด็กอย่างเธอ"

    ผมกำลังจะเดินหนี แต่เค้าก็คว้าแขนผมเอาไว้

    "แต่ผมจริงจังนะ ผมชอบคุณจริงๆ คุณยังไม่ต้องตอบอะไรผมตอนนี้ก็ได้ ขอเพียงแต่อย่าเพิ่งปฏิเสธผม"

    ผมสะบัดแขนออกจาเค้าพร้อมกับพูดว่า

    "ฉันจะกลับแล้ว และขอร้องล่ะอย่าตามฉันมาเลย ฉันสับสนไปหมดแล้ว"

    "ผมจะไม่เร่งรัดคุณ ผมรอได้ แต่ผมก็หวังไว้เหมือนกันนะว่าคุณจะชอบผมแม้เพียงสักนิดก็ยังดี ยังไงก็ช่วย

    คิดเรื่องของผมด้วยนะครับ"

    ผมเห็นสายตาสิ้นหวังของเค้า แล้วก็อดพยักหน้าตอบไปไม่ได้ แล้วผมก็เดินจากมา

    TCB

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×