คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 4
Chapter 4
ทำไมวันนี้มันถึงได้น่าเบื่ออย่างนี้นะ ผมไม่อยากไปทำงานเลย นี่ก็สี่วันเข้าไปแล้วตั้งแต่ที่ผมเจอกับไมค์แล้วมีปากเสียงกันนิดหน่อย เค้าก็หายไปเลย
โทรศัพท์ก็ไม่ติดต่อมา เค้าคงโกรธผมอยู่แน่ๆ
แต่ช่างสิ ผมไม่ง้อหรอก ก็ผมไม่ผิดนี่นา เรื่องอะไรต้องโทรไปง้อหมอนั่นก่อน
เอ๊ะ ! แล้วนี่ทำไมผมถึงเอาแต่มานั่งคิดถึงเรื่องหมอนั่นด้วยนะ
เปลี่ยนเรื่องๆ ไม่คิดดีกว่า มาคิดถึงนางฟ้าของผมดีกว่า พูดถึงโนริโกะจัง นี่ผมก็ไม่ได้เจอเธอเลยตั้งแต่วันนั้น อยากเจอจัง ไม่รู้ว่าเธอจะนึกถึงผมบ้างมั้ยน้า วันนี้ที่ทำงานผมมีเรื่องวุ่นวายนิดหน่อยเกี่ยวกับบริษัทคู่ค้าของเรา แต่มันก็ผ่านไปได้ด้วยดีค่อยยังชั่วหน่อย แต่ผมก็รู้สึกได้เลยว่า ชีวิตของผมกลับมาดำเนินตามรูปแบบเดิมอีกแล้ว "ทาคายาม่าซัง" เอ๊ะ ! ใครเรียกผมนะ หา ! นั่นโนริโกะจังนี่เธออยู่กับกลุ่มเพื่อนของเธอด้วย
เมื่อผมมองไปที่เธอ เธอก็ยิ้มให้ผมพร้อมกับหันไปพูดกับเพื่อนของเธอ ซึ่งผมไม่ได้ยินว่าเธอพูดอะไร แล้วเธอก็เดินเข้ามาหาผม "ทาคายาม่าซัง ว่างรึเปล่าคะ" ว้าว ! เป็นครั้งแรกนะเนี่ยที่เค้าเข้ามาพูดกับผม
แล้วเรากำลังอยู่กันสองต่อสองไม่มีเจ้าเด็กบ้าตัวกวนอารมณ์นั่น เอาอีกแล้วผมนึกถึงหมอนั่นอีกแล้ว หรือเนี่ย "ว่ายังไงคะ" "ครับ ว่างสิครับ โนริโกะจังมีอะไรเหรอ" "งั้นเราไปนั่งในร้าน Cafe กันสักแป๊ปนึงได้มั้ยคะ โนริโกะมีเรื่องจะคุยกับคุณน่ะค่ะ"
ผมไม่ได้ฝันไปใช่มั้ย นี่เธอกำลังชวนผมด้วย ถ้าผมปฏิเสธไปก็โง่เต็มทนแล้ว ผมจึงตอบตกลงไปแล้วเราจึงไปนั่งในร้าน เป็นร้านกาแฟเล็กๆ ใกล้กับร้านอาหารที่ผมชอบนัดเจอกับไมค์ที่นั่น บรรยากาศภายในร้านอบอวลไปด้วยกลิ่นของกาแฟ และขนมเค้ก เราต่างก็นั่งเงียบทั้งคู่ ผมจึงเริ่มบทสนทนาก่อน "โนริโกะจัง วันนี้เรียนหนักมั้ยครับ" เป็นการเริ่มต้นบทสนทนาที่งี่เง่ามากเลย ทำไมผมถึงมีปัญญาคิดได้แค่นี้นะ "ก็นิดหน่อยน่ะค่ะ" เธอตอบด้วยท่าทางยิ้มๆ "เอ่อ...ทาคายาม่าซังคะ คือโนริโกะอยากรู้ว่าทาคายาม่าซัง รู้จักกับมิมูระคุงได้ยังไงเหรอคะ" เอาอีกแล้วทั้งโนริโกะทั้งหมอนั่นทำไมต้องมาถามผมแบบนี้ด้วยนะ "เอ่อ..ทำไมโนริโกะจังถึงไม่ถามไมค์..เอ๊ย..มิมูระคุงเองล่ะครับ" "นี่คุณเรียกชื่อเล่นเค้าด้วยหรือคะ ขนาดฉันเรียกเค้ายังไม่ค่อยชอบเลย" อ้าวเหรอผมจะไปรู้มั้ยล่ะ ก็เค้าให้ผมเรียกเค้าแบบนั้นนี่ "ความจริงแล้วโนริโกะถามมิมูระคุงก่อนคุณอีกนะคะ แต่เค้าก็ไม่เล่าให้ฟังแถมว่า โนริโกะว่าอย่าไปเซ้าซี้เค้ามาก โนริโกะก็เลยคิดว่ามาถามกับทาคายาม่าซังดีกว่า" "งั้นผมถามอะไรคุณตรงๆ ก่อนเลยได้มั้ยครับ" "ค่ะ" "คือคุณน่ะชอบมิมูระคุงเค้าเหรอครับ" เมื่อโนริโกะจังได้ยินคำถามนี้จากผม เธอถึงกับหน้าแดง พร้อมกับยิ้มอายๆ ก่อนจะยอมรับว่า "ใช่ค่ะ" ผมรู้สึกเหมืนกับใจมันหายไปไหนก็ไม่รู้ มันโหวงเหวงมาก ถึงแม้ว่าผมจะเคยทำใจเกี่ยวกับเรื่องนี้มาบ้าง แต่พอมาได้ยินเองแบบนี้ มันก็ทำให้รู้สึกอึ้งได้เหมือนกัน เมื่อสติของผมกลับคืนมาแล้วผมจึงเล่าให้เธอฟัง
ว่าผมกับไมค์รู้จักกันได้อย่างไร แต่ผมไม่ได้เล่าเรื่องคืนที่เราทะเลาะกันให้เธอฟัง "อ๋อ ที่แท้เรื่องก็เป็นอย่างนี้นี่เอง" เธอทำท่าทางเข้าใจเรื่องที่ผมเล่า "อ้อใช่ และอีกเรื่องนึงที่โนริโกะอยากขอร้องทาคายาม่าซัง ถ้ารู้แล้วอย่าโกรธโนริโกะนะคะ แต่โนริโกะก็ขอร้องจริงๆ" "อะไรเหรอครับ"
"ทาคายาม่าซังเลิกยุ่งกับมิมูระคุงได้มั้ยคะ ! "
ผมแทบไม่เชื่อหูตัวเองเลยว่าจะได้ยินประโยคนี้จากปากของโนริโกะ ผู้หญิงในฝันของผม เมื่อผมกลับมาถึงอพาร์ทเม้นท์ของตัวเอง ผมก็หมดแรงล้มตัวอยู่บนเตียง ทำไมกันนะ ผมไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าทำไมโนริโกะถึงพูดแบบนั้นกับผม ทำไมถึงให้ผมเลิกยุ่งกับไมค์ล่ะ ตอนที่ผมได้ยินประโยคนั้น ผมก็ไม่ได้ตอบอะไรไปเลย ผมจำได้ว่าผมไม่พูดอะไรอีกเลย จนกระทั่งเราแยกกัน ทำไมล่ะ ผมเป็นเพื่อนกับไมค์ไม่ได้เหรอ มันน่าเสียหายมากเลยเหรอ หรือว่าผมแก่เกินไป อีกอย่างมันอาจจะแปลกๆ ก็ได้นะที่คนทำงานแล้วจะเป็นเพื่อนกับเด็กม.ปลาย ผมนอนคิดไปเรื่อยๆ จนกระทั่งสติของผมได้หลุดลอยไปเข้าสู่ห้วงนิทรา "ทาคายาม่าซังเลิกยุ่งกับมิมูระคุงได้มั้ยคะ ! "
ผมแทบไม่เชื่อหูตัวเองเลยว่าจะได้ยินประโยคนี้จากปากของโนริโกะ ผู้หญิงในฝันของผม เมื่อผมกลับมาถึงอพาร์ทเม้นท์ของตัวเอง ผมก็หมดแรงล้มตัวอยู่บนเตียง ทำไมกันนะ ผมไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าทำไมโนริโกะถึงพูดแบบนั้นกับผม ทำไมถึงให้ผมเลิกยุ่งกับไมค์ล่ะ ตอนที่ผมได้ยินประโยคนั้น ผมก็ไม่ได้ตอบอะไรไปเลย ผมจำได้ว่าผมไม่พูดอะไรอีกเลย จนกระทั่งเราแยกกัน ทำไมล่ะ ผมเป็นเพื่อนกับไมค์ไม่ได้เหรอ มันน่าเสียหายมากเลยเหรอ หรือว่าผมแก่เกินไป อีกอย่างมันอาจจะแปลกๆ ก็ได้นะที่คนทำงานแล้วจะเป็นเพื่อนกับเด็กม.ปลาย ผมนอนคิดไปเรื่อยๆ จนกระทั่งสติของผมได้หลุดลอยไปเข้าสู่ห้วงนิทรา
เปลี่ยนเรื่องๆ ไม่คิดดีกว่า มาคิดถึงนางฟ้าของผมดีกว่า
พูดถึงโนริโกะจัง นี่ผมก็ไม่ได้เจอเธอเลยตั้งแต่วันนั้น อยากเจอจัง
ไม่รู้ว่าเธอจะนึกถึงผมบ้างมั้ยน้า
วันนี้ที่ทำงานผมมีเรื่องวุ่นวายนิดหน่อยเกี่ยวกับบริษัทคู่ค้าของเรา
แต่มันก็ผ่านไปได้ด้วยดีค่อยยังชั่วหน่อย แต่ผมก็รู้สึกได้เลยว่า
ชีวิตของผมกลับมาดำเนินตามรูปแบบเดิมอีกแล้ว
"ทาคายาม่าซัง"
เอ๊ะ ! ใครเรียกผมนะ หา ! นั่นโนริโกะจังนี่เธออยู่กับกลุ่มเพื่อนของเธอด้วย
เมื่อผมมองไปที่เธอ เธอก็ยิ้มให้ผมพร้อมกับหันไปพูดกับเพื่อนของเธอ ซึ่งผมไม่ได้ยินว่าเธอพูดอะไร แล้วเธอก็เดินเข้ามาหาผม "ทาคายาม่าซัง ว่างรึเปล่าคะ" ว้าว ! เป็นครั้งแรกนะเนี่ยที่เค้าเข้ามาพูดกับผม
แล้วเรากำลังอยู่กันสองต่อสองไม่มีเจ้าเด็กบ้าตัวกวนอารมณ์นั่น เอาอีกแล้วผมนึกถึงหมอนั่นอีกแล้ว หรือเนี่ย "ว่ายังไงคะ" "ครับ ว่างสิครับ โนริโกะจังมีอะไรเหรอ" "งั้นเราไปนั่งในร้าน Cafe กันสักแป๊ปนึงได้มั้ยคะ โนริโกะมีเรื่องจะคุยกับคุณน่ะค่ะ"
ผมไม่ได้ฝันไปใช่มั้ย นี่เธอกำลังชวนผมด้วย ถ้าผมปฏิเสธไปก็โง่เต็มทนแล้ว ผมจึงตอบตกลงไปแล้วเราจึงไปนั่งในร้าน เป็นร้านกาแฟเล็กๆ ใกล้กับร้านอาหารที่ผมชอบนัดเจอกับไมค์ที่นั่น บรรยากาศภายในร้านอบอวลไปด้วยกลิ่นของกาแฟ และขนมเค้ก เราต่างก็นั่งเงียบทั้งคู่ ผมจึงเริ่มบทสนทนาก่อน "โนริโกะจัง วันนี้เรียนหนักมั้ยครับ" เป็นการเริ่มต้นบทสนทนาที่งี่เง่ามากเลย ทำไมผมถึงมีปัญญาคิดได้แค่นี้นะ "ก็นิดหน่อยน่ะค่ะ" เธอตอบด้วยท่าทางยิ้มๆ "เอ่อ...ทาคายาม่าซังคะ คือโนริโกะอยากรู้ว่าทาคายาม่าซัง รู้จักกับมิมูระคุงได้ยังไงเหรอคะ" เอาอีกแล้วทั้งโนริโกะทั้งหมอนั่นทำไมต้องมาถามผมแบบนี้ด้วยนะ "เอ่อ..ทำไมโนริโกะจังถึงไม่ถามไมค์..เอ๊ย..มิมูระคุงเองล่ะครับ" "นี่คุณเรียกชื่อเล่นเค้าด้วยหรือคะ ขนาดฉันเรียกเค้ายังไม่ค่อยชอบเลย" อ้าวเหรอผมจะไปรู้มั้ยล่ะ ก็เค้าให้ผมเรียกเค้าแบบนั้นนี่ "ความจริงแล้วโนริโกะถามมิมูระคุงก่อนคุณอีกนะคะ แต่เค้าก็ไม่เล่าให้ฟังแถมว่า โนริโกะว่าอย่าไปเซ้าซี้เค้ามาก โนริโกะก็เลยคิดว่ามาถามกับทาคายาม่าซังดีกว่า" "งั้นผมถามอะไรคุณตรงๆ ก่อนเลยได้มั้ยครับ" "ค่ะ" "คือคุณน่ะชอบมิมูระคุงเค้าเหรอครับ" เมื่อโนริโกะจังได้ยินคำถามนี้จากผม เธอถึงกับหน้าแดง พร้อมกับยิ้มอายๆ ก่อนจะยอมรับว่า "ใช่ค่ะ" ผมรู้สึกเหมืนกับใจมันหายไปไหนก็ไม่รู้ มันโหวงเหวงมาก ถึงแม้ว่าผมจะเคยทำใจเกี่ยวกับเรื่องนี้มาบ้าง แต่พอมาได้ยินเองแบบนี้ มันก็ทำให้รู้สึกอึ้งได้เหมือนกัน เมื่อสติของผมกลับคืนมาแล้วผมจึงเล่าให้เธอฟัง
ว่าผมกับไมค์รู้จักกันได้อย่างไร แต่ผมไม่ได้เล่าเรื่องคืนที่เราทะเลาะกันให้เธอฟัง "อ๋อ ที่แท้เรื่องก็เป็นอย่างนี้นี่เอง" เธอทำท่าทางเข้าใจเรื่องที่ผมเล่า "อ้อใช่ และอีกเรื่องนึงที่โนริโกะอยากขอร้องทาคายาม่าซัง ถ้ารู้แล้วอย่าโกรธโนริโกะนะคะ แต่โนริโกะก็ขอร้องจริงๆ" "อะไรเหรอครับ"
"ทาคายาม่าซังเลิกยุ่งกับมิมูระคุงได้มั้ยคะ ! "
ผมแทบไม่เชื่อหูตัวเองเลยว่าจะได้ยินประโยคนี้จากปากของโนริโกะ ผู้หญิงในฝันของผม เมื่อผมกลับมาถึงอพาร์ทเม้นท์ของตัวเอง ผมก็หมดแรงล้มตัวอยู่บนเตียง ทำไมกันนะ ผมไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าทำไมโนริโกะถึงพูดแบบนั้นกับผม ทำไมถึงให้ผมเลิกยุ่งกับไมค์ล่ะ ตอนที่ผมได้ยินประโยคนั้น ผมก็ไม่ได้ตอบอะไรไปเลย ผมจำได้ว่าผมไม่พูดอะไรอีกเลย จนกระทั่งเราแยกกัน ทำไมล่ะ ผมเป็นเพื่อนกับไมค์ไม่ได้เหรอ มันน่าเสียหายมากเลยเหรอ หรือว่าผมแก่เกินไป อีกอย่างมันอาจจะแปลกๆ ก็ได้นะที่คนทำงานแล้วจะเป็นเพื่อนกับเด็กม.ปลาย ผมนอนคิดไปเรื่อยๆ จนกระทั่งสติของผมได้หลุดลอยไปเข้าสู่ห้วงนิทรา "ทาคายาม่าซังเลิกยุ่งกับมิมูระคุงได้มั้ยคะ ! "
ผมแทบไม่เชื่อหูตัวเองเลยว่าจะได้ยินประโยคนี้จากปากของโนริโกะ ผู้หญิงในฝันของผม เมื่อผมกลับมาถึงอพาร์ทเม้นท์ของตัวเอง ผมก็หมดแรงล้มตัวอยู่บนเตียง ทำไมกันนะ ผมไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าทำไมโนริโกะถึงพูดแบบนั้นกับผม ทำไมถึงให้ผมเลิกยุ่งกับไมค์ล่ะ ตอนที่ผมได้ยินประโยคนั้น ผมก็ไม่ได้ตอบอะไรไปเลย ผมจำได้ว่าผมไม่พูดอะไรอีกเลย จนกระทั่งเราแยกกัน ทำไมล่ะ ผมเป็นเพื่อนกับไมค์ไม่ได้เหรอ มันน่าเสียหายมากเลยเหรอ หรือว่าผมแก่เกินไป อีกอย่างมันอาจจะแปลกๆ ก็ได้นะที่คนทำงานแล้วจะเป็นเพื่อนกับเด็กม.ปลาย ผมนอนคิดไปเรื่อยๆ จนกระทั่งสติของผมได้หลุดลอยไปเข้าสู่ห้วงนิทรา
เมื่อผมมองไปที่เธอ เธอก็ยิ้มให้ผมพร้อมกับหันไปพูดกับเพื่อนของเธอ
ซึ่งผมไม่ได้ยินว่าเธอพูดอะไร
แล้วเธอก็เดินเข้ามาหาผม
"ทาคายาม่าซัง ว่างรึเปล่าคะ"
ว้าว ! เป็นครั้งแรกนะเนี่ยที่เค้าเข้ามาพูดกับผม
แล้วเรากำลังอยู่กันสองต่อสองไม่มีเจ้าเด็กบ้าตัวกวนอารมณ์นั่น เอาอีกแล้วผมนึกถึงหมอนั่นอีกแล้ว หรือเนี่ย "ว่ายังไงคะ" "ครับ ว่างสิครับ โนริโกะจังมีอะไรเหรอ" "งั้นเราไปนั่งในร้าน Cafe กันสักแป๊ปนึงได้มั้ยคะ โนริโกะมีเรื่องจะคุยกับคุณน่ะค่ะ"
ผมไม่ได้ฝันไปใช่มั้ย นี่เธอกำลังชวนผมด้วย ถ้าผมปฏิเสธไปก็โง่เต็มทนแล้ว ผมจึงตอบตกลงไปแล้วเราจึงไปนั่งในร้าน เป็นร้านกาแฟเล็กๆ ใกล้กับร้านอาหารที่ผมชอบนัดเจอกับไมค์ที่นั่น บรรยากาศภายในร้านอบอวลไปด้วยกลิ่นของกาแฟ และขนมเค้ก เราต่างก็นั่งเงียบทั้งคู่ ผมจึงเริ่มบทสนทนาก่อน "โนริโกะจัง วันนี้เรียนหนักมั้ยครับ" เป็นการเริ่มต้นบทสนทนาที่งี่เง่ามากเลย ทำไมผมถึงมีปัญญาคิดได้แค่นี้นะ "ก็นิดหน่อยน่ะค่ะ" เธอตอบด้วยท่าทางยิ้มๆ "เอ่อ...ทาคายาม่าซังคะ คือโนริโกะอยากรู้ว่าทาคายาม่าซัง รู้จักกับมิมูระคุงได้ยังไงเหรอคะ" เอาอีกแล้วทั้งโนริโกะทั้งหมอนั่นทำไมต้องมาถามผมแบบนี้ด้วยนะ "เอ่อ..ทำไมโนริโกะจังถึงไม่ถามไมค์..เอ๊ย..มิมูระคุงเองล่ะครับ" "นี่คุณเรียกชื่อเล่นเค้าด้วยหรือคะ ขนาดฉันเรียกเค้ายังไม่ค่อยชอบเลย" อ้าวเหรอผมจะไปรู้มั้ยล่ะ ก็เค้าให้ผมเรียกเค้าแบบนั้นนี่ "ความจริงแล้วโนริโกะถามมิมูระคุงก่อนคุณอีกนะคะ แต่เค้าก็ไม่เล่าให้ฟังแถมว่า โนริโกะว่าอย่าไปเซ้าซี้เค้ามาก โนริโกะก็เลยคิดว่ามาถามกับทาคายาม่าซังดีกว่า" "งั้นผมถามอะไรคุณตรงๆ ก่อนเลยได้มั้ยครับ" "ค่ะ" "คือคุณน่ะชอบมิมูระคุงเค้าเหรอครับ" เมื่อโนริโกะจังได้ยินคำถามนี้จากผม เธอถึงกับหน้าแดง พร้อมกับยิ้มอายๆ ก่อนจะยอมรับว่า "ใช่ค่ะ" ผมรู้สึกเหมืนกับใจมันหายไปไหนก็ไม่รู้ มันโหวงเหวงมาก ถึงแม้ว่าผมจะเคยทำใจเกี่ยวกับเรื่องนี้มาบ้าง แต่พอมาได้ยินเองแบบนี้ มันก็ทำให้รู้สึกอึ้งได้เหมือนกัน เมื่อสติของผมกลับคืนมาแล้วผมจึงเล่าให้เธอฟัง
ว่าผมกับไมค์รู้จักกันได้อย่างไร แต่ผมไม่ได้เล่าเรื่องคืนที่เราทะเลาะกันให้เธอฟัง "อ๋อ ที่แท้เรื่องก็เป็นอย่างนี้นี่เอง" เธอทำท่าทางเข้าใจเรื่องที่ผมเล่า "อ้อใช่ และอีกเรื่องนึงที่โนริโกะอยากขอร้องทาคายาม่าซัง ถ้ารู้แล้วอย่าโกรธโนริโกะนะคะ แต่โนริโกะก็ขอร้องจริงๆ" "อะไรเหรอครับ"
"ทาคายาม่าซังเลิกยุ่งกับมิมูระคุงได้มั้ยคะ ! "
ผมแทบไม่เชื่อหูตัวเองเลยว่าจะได้ยินประโยคนี้จากปากของโนริโกะ ผู้หญิงในฝันของผม เมื่อผมกลับมาถึงอพาร์ทเม้นท์ของตัวเอง ผมก็หมดแรงล้มตัวอยู่บนเตียง ทำไมกันนะ ผมไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าทำไมโนริโกะถึงพูดแบบนั้นกับผม ทำไมถึงให้ผมเลิกยุ่งกับไมค์ล่ะ ตอนที่ผมได้ยินประโยคนั้น ผมก็ไม่ได้ตอบอะไรไปเลย ผมจำได้ว่าผมไม่พูดอะไรอีกเลย จนกระทั่งเราแยกกัน ทำไมล่ะ ผมเป็นเพื่อนกับไมค์ไม่ได้เหรอ มันน่าเสียหายมากเลยเหรอ หรือว่าผมแก่เกินไป อีกอย่างมันอาจจะแปลกๆ ก็ได้นะที่คนทำงานแล้วจะเป็นเพื่อนกับเด็กม.ปลาย ผมนอนคิดไปเรื่อยๆ จนกระทั่งสติของผมได้หลุดลอยไปเข้าสู่ห้วงนิทรา "ทาคายาม่าซังเลิกยุ่งกับมิมูระคุงได้มั้ยคะ ! "
ผมแทบไม่เชื่อหูตัวเองเลยว่าจะได้ยินประโยคนี้จากปากของโนริโกะ ผู้หญิงในฝันของผม เมื่อผมกลับมาถึงอพาร์ทเม้นท์ของตัวเอง ผมก็หมดแรงล้มตัวอยู่บนเตียง ทำไมกันนะ ผมไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าทำไมโนริโกะถึงพูดแบบนั้นกับผม ทำไมถึงให้ผมเลิกยุ่งกับไมค์ล่ะ ตอนที่ผมได้ยินประโยคนั้น ผมก็ไม่ได้ตอบอะไรไปเลย ผมจำได้ว่าผมไม่พูดอะไรอีกเลย จนกระทั่งเราแยกกัน ทำไมล่ะ ผมเป็นเพื่อนกับไมค์ไม่ได้เหรอ มันน่าเสียหายมากเลยเหรอ หรือว่าผมแก่เกินไป อีกอย่างมันอาจจะแปลกๆ ก็ได้นะที่คนทำงานแล้วจะเป็นเพื่อนกับเด็กม.ปลาย ผมนอนคิดไปเรื่อยๆ จนกระทั่งสติของผมได้หลุดลอยไปเข้าสู่ห้วงนิทรา
แล้วเรากำลังอยู่กันสองต่อสองไม่มีเจ้าเด็กบ้าตัวกวนอารมณ์นั่น
เอาอีกแล้วผมนึกถึงหมอนั่นอีกแล้ว
หรือเนี่ย
"ว่ายังไงคะ"
"ครับ ว่างสิครับ โนริโกะจังมีอะไรเหรอ"
"งั้นเราไปนั่งในร้าน Cafe กันสักแป๊ปนึงได้มั้ยคะ โนริโกะมีเรื่องจะคุยกับคุณน่ะค่ะ"
ผมไม่ได้ฝันไปใช่มั้ย นี่เธอกำลังชวนผมด้วย ถ้าผมปฏิเสธไปก็โง่เต็มทนแล้ว ผมจึงตอบตกลงไปแล้วเราจึงไปนั่งในร้าน เป็นร้านกาแฟเล็กๆ ใกล้กับร้านอาหารที่ผมชอบนัดเจอกับไมค์ที่นั่น บรรยากาศภายในร้านอบอวลไปด้วยกลิ่นของกาแฟ และขนมเค้ก เราต่างก็นั่งเงียบทั้งคู่ ผมจึงเริ่มบทสนทนาก่อน "โนริโกะจัง วันนี้เรียนหนักมั้ยครับ" เป็นการเริ่มต้นบทสนทนาที่งี่เง่ามากเลย ทำไมผมถึงมีปัญญาคิดได้แค่นี้นะ "ก็นิดหน่อยน่ะค่ะ" เธอตอบด้วยท่าทางยิ้มๆ "เอ่อ...ทาคายาม่าซังคะ คือโนริโกะอยากรู้ว่าทาคายาม่าซัง รู้จักกับมิมูระคุงได้ยังไงเหรอคะ" เอาอีกแล้วทั้งโนริโกะทั้งหมอนั่นทำไมต้องมาถามผมแบบนี้ด้วยนะ "เอ่อ..ทำไมโนริโกะจังถึงไม่ถามไมค์..เอ๊ย..มิมูระคุงเองล่ะครับ" "นี่คุณเรียกชื่อเล่นเค้าด้วยหรือคะ ขนาดฉันเรียกเค้ายังไม่ค่อยชอบเลย" อ้าวเหรอผมจะไปรู้มั้ยล่ะ ก็เค้าให้ผมเรียกเค้าแบบนั้นนี่ "ความจริงแล้วโนริโกะถามมิมูระคุงก่อนคุณอีกนะคะ แต่เค้าก็ไม่เล่าให้ฟังแถมว่า โนริโกะว่าอย่าไปเซ้าซี้เค้ามาก โนริโกะก็เลยคิดว่ามาถามกับทาคายาม่าซังดีกว่า" "งั้นผมถามอะไรคุณตรงๆ ก่อนเลยได้มั้ยครับ" "ค่ะ" "คือคุณน่ะชอบมิมูระคุงเค้าเหรอครับ" เมื่อโนริโกะจังได้ยินคำถามนี้จากผม เธอถึงกับหน้าแดง พร้อมกับยิ้มอายๆ ก่อนจะยอมรับว่า "ใช่ค่ะ" ผมรู้สึกเหมืนกับใจมันหายไปไหนก็ไม่รู้ มันโหวงเหวงมาก ถึงแม้ว่าผมจะเคยทำใจเกี่ยวกับเรื่องนี้มาบ้าง แต่พอมาได้ยินเองแบบนี้ มันก็ทำให้รู้สึกอึ้งได้เหมือนกัน เมื่อสติของผมกลับคืนมาแล้วผมจึงเล่าให้เธอฟัง
ว่าผมกับไมค์รู้จักกันได้อย่างไร แต่ผมไม่ได้เล่าเรื่องคืนที่เราทะเลาะกันให้เธอฟัง "อ๋อ ที่แท้เรื่องก็เป็นอย่างนี้นี่เอง" เธอทำท่าทางเข้าใจเรื่องที่ผมเล่า "อ้อใช่ และอีกเรื่องนึงที่โนริโกะอยากขอร้องทาคายาม่าซัง ถ้ารู้แล้วอย่าโกรธโนริโกะนะคะ แต่โนริโกะก็ขอร้องจริงๆ" "อะไรเหรอครับ"
"ทาคายาม่าซังเลิกยุ่งกับมิมูระคุงได้มั้ยคะ ! "
ผมแทบไม่เชื่อหูตัวเองเลยว่าจะได้ยินประโยคนี้จากปากของโนริโกะ ผู้หญิงในฝันของผม เมื่อผมกลับมาถึงอพาร์ทเม้นท์ของตัวเอง ผมก็หมดแรงล้มตัวอยู่บนเตียง ทำไมกันนะ ผมไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าทำไมโนริโกะถึงพูดแบบนั้นกับผม ทำไมถึงให้ผมเลิกยุ่งกับไมค์ล่ะ ตอนที่ผมได้ยินประโยคนั้น ผมก็ไม่ได้ตอบอะไรไปเลย ผมจำได้ว่าผมไม่พูดอะไรอีกเลย จนกระทั่งเราแยกกัน ทำไมล่ะ ผมเป็นเพื่อนกับไมค์ไม่ได้เหรอ มันน่าเสียหายมากเลยเหรอ หรือว่าผมแก่เกินไป อีกอย่างมันอาจจะแปลกๆ ก็ได้นะที่คนทำงานแล้วจะเป็นเพื่อนกับเด็กม.ปลาย ผมนอนคิดไปเรื่อยๆ จนกระทั่งสติของผมได้หลุดลอยไปเข้าสู่ห้วงนิทรา "ทาคายาม่าซังเลิกยุ่งกับมิมูระคุงได้มั้ยคะ ! "
ผมแทบไม่เชื่อหูตัวเองเลยว่าจะได้ยินประโยคนี้จากปากของโนริโกะ ผู้หญิงในฝันของผม เมื่อผมกลับมาถึงอพาร์ทเม้นท์ของตัวเอง ผมก็หมดแรงล้มตัวอยู่บนเตียง ทำไมกันนะ ผมไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าทำไมโนริโกะถึงพูดแบบนั้นกับผม ทำไมถึงให้ผมเลิกยุ่งกับไมค์ล่ะ ตอนที่ผมได้ยินประโยคนั้น ผมก็ไม่ได้ตอบอะไรไปเลย ผมจำได้ว่าผมไม่พูดอะไรอีกเลย จนกระทั่งเราแยกกัน ทำไมล่ะ ผมเป็นเพื่อนกับไมค์ไม่ได้เหรอ มันน่าเสียหายมากเลยเหรอ หรือว่าผมแก่เกินไป อีกอย่างมันอาจจะแปลกๆ ก็ได้นะที่คนทำงานแล้วจะเป็นเพื่อนกับเด็กม.ปลาย ผมนอนคิดไปเรื่อยๆ จนกระทั่งสติของผมได้หลุดลอยไปเข้าสู่ห้วงนิทรา
ผมไม่ได้ฝันไปใช่มั้ย นี่เธอกำลังชวนผมด้วย ถ้าผมปฏิเสธไปก็โง่เต็มทนแล้ว
ผมจึงตอบตกลงไปแล้วเราจึงไปนั่งในร้าน เป็นร้านกาแฟเล็กๆ
ใกล้กับร้านอาหารที่ผมชอบนัดเจอกับไมค์ที่นั่น บรรยากาศภายในร้านอบอวลไปด้วยกลิ่นของกาแฟ และขนมเค้ก
เราต่างก็นั่งเงียบทั้งคู่ ผมจึงเริ่มบทสนทนาก่อน
"โนริโกะจัง วันนี้เรียนหนักมั้ยครับ"
เป็นการเริ่มต้นบทสนทนาที่งี่เง่ามากเลย ทำไมผมถึงมีปัญญาคิดได้แค่นี้นะ
"ก็นิดหน่อยน่ะค่ะ"
เธอตอบด้วยท่าทางยิ้มๆ
"เอ่อ...ทาคายาม่าซังคะ คือโนริโกะอยากรู้ว่าทาคายาม่าซัง รู้จักกับมิมูระคุงได้ยังไงเหรอคะ"
เอาอีกแล้วทั้งโนริโกะทั้งหมอนั่นทำไมต้องมาถามผมแบบนี้ด้วยนะ
"เอ่อ..ทำไมโนริโกะจังถึงไม่ถามไมค์..เอ๊ย..มิมูระคุงเองล่ะครับ"
"นี่คุณเรียกชื่อเล่นเค้าด้วยหรือคะ ขนาดฉันเรียกเค้ายังไม่ค่อยชอบเลย"
อ้าวเหรอผมจะไปรู้มั้ยล่ะ ก็เค้าให้ผมเรียกเค้าแบบนั้นนี่
"ความจริงแล้วโนริโกะถามมิมูระคุงก่อนคุณอีกนะคะ แต่เค้าก็ไม่เล่าให้ฟังแถมว่า
โนริโกะว่าอย่าไปเซ้าซี้เค้ามาก โนริโกะก็เลยคิดว่ามาถามกับทาคายาม่าซังดีกว่า"
"งั้นผมถามอะไรคุณตรงๆ ก่อนเลยได้มั้ยครับ"
"ค่ะ"
"คือคุณน่ะชอบมิมูระคุงเค้าเหรอครับ"
เมื่อโนริโกะจังได้ยินคำถามนี้จากผม เธอถึงกับหน้าแดง พร้อมกับยิ้มอายๆ ก่อนจะยอมรับว่า
"ใช่ค่ะ"
ผมรู้สึกเหมืนกับใจมันหายไปไหนก็ไม่รู้ มันโหวงเหวงมาก ถึงแม้ว่าผมจะเคยทำใจเกี่ยวกับเรื่องนี้มาบ้าง แต่พอมาได้ยินเองแบบนี้ มันก็ทำให้รู้สึกอึ้งได้เหมือนกัน เมื่อสติของผมกลับคืนมาแล้วผมจึงเล่าให้เธอฟัง
ว่าผมกับไมค์รู้จักกันได้อย่างไร แต่ผมไม่ได้เล่าเรื่องคืนที่เราทะเลาะกันให้เธอฟัง "อ๋อ ที่แท้เรื่องก็เป็นอย่างนี้นี่เอง" เธอทำท่าทางเข้าใจเรื่องที่ผมเล่า "อ้อใช่ และอีกเรื่องนึงที่โนริโกะอยากขอร้องทาคายาม่าซัง ถ้ารู้แล้วอย่าโกรธโนริโกะนะคะ แต่โนริโกะก็ขอร้องจริงๆ" "อะไรเหรอครับ"
"ทาคายาม่าซังเลิกยุ่งกับมิมูระคุงได้มั้ยคะ ! "
ผมแทบไม่เชื่อหูตัวเองเลยว่าจะได้ยินประโยคนี้จากปากของโนริโกะ ผู้หญิงในฝันของผม เมื่อผมกลับมาถึงอพาร์ทเม้นท์ของตัวเอง ผมก็หมดแรงล้มตัวอยู่บนเตียง ทำไมกันนะ ผมไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าทำไมโนริโกะถึงพูดแบบนั้นกับผม ทำไมถึงให้ผมเลิกยุ่งกับไมค์ล่ะ ตอนที่ผมได้ยินประโยคนั้น ผมก็ไม่ได้ตอบอะไรไปเลย ผมจำได้ว่าผมไม่พูดอะไรอีกเลย จนกระทั่งเราแยกกัน ทำไมล่ะ ผมเป็นเพื่อนกับไมค์ไม่ได้เหรอ มันน่าเสียหายมากเลยเหรอ หรือว่าผมแก่เกินไป อีกอย่างมันอาจจะแปลกๆ ก็ได้นะที่คนทำงานแล้วจะเป็นเพื่อนกับเด็กม.ปลาย ผมนอนคิดไปเรื่อยๆ จนกระทั่งสติของผมได้หลุดลอยไปเข้าสู่ห้วงนิทรา
"ทาคายาม่าซังเลิกยุ่งกับมิมูระคุงได้มั้ยคะ ! "
ผมแทบไม่เชื่อหูตัวเองเลยว่าจะได้ยินประโยคนี้จากปากของโนริโกะ ผู้หญิงในฝันของผม เมื่อผมกลับมาถึงอพาร์ทเม้นท์ของตัวเอง ผมก็หมดแรงล้มตัวอยู่บนเตียง ทำไมกันนะ ผมไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าทำไมโนริโกะถึงพูดแบบนั้นกับผม ทำไมถึงให้ผมเลิกยุ่งกับไมค์ล่ะ ตอนที่ผมได้ยินประโยคนั้น ผมก็ไม่ได้ตอบอะไรไปเลย ผมจำได้ว่าผมไม่พูดอะไรอีกเลย จนกระทั่งเราแยกกัน ทำไมล่ะ ผมเป็นเพื่อนกับไมค์ไม่ได้เหรอ มันน่าเสียหายมากเลยเหรอ หรือว่าผมแก่เกินไป อีกอย่างมันอาจจะแปลกๆ ก็ได้นะที่คนทำงานแล้วจะเป็นเพื่อนกับเด็กม.ปลาย ผมนอนคิดไปเรื่อยๆ จนกระทั่งสติของผมได้หลุดลอยไปเข้าสู่ห้วงนิทรา
ว่าผมกับไมค์รู้จักกันได้อย่างไร แต่ผมไม่ได้เล่าเรื่องคืนที่เราทะเลาะกันให้เธอฟัง
"อ๋อ ที่แท้เรื่องก็เป็นอย่างนี้นี่เอง"
เธอทำท่าทางเข้าใจเรื่องที่ผมเล่า
"อ้อใช่ และอีกเรื่องนึงที่โนริโกะอยากขอร้องทาคายาม่าซัง ถ้ารู้แล้วอย่าโกรธโนริโกะนะคะ แต่โนริโกะก็ขอร้องจริงๆ"
"อะไรเหรอครับ"
"ทาคายาม่าซังเลิกยุ่งกับมิมูระคุงได้มั้ยคะ ! "
ผมแทบไม่เชื่อหูตัวเองเลยว่าจะได้ยินประโยคนี้จากปากของโนริโกะ ผู้หญิงในฝันของผม เมื่อผมกลับมาถึงอพาร์ทเม้นท์ของตัวเอง ผมก็หมดแรงล้มตัวอยู่บนเตียง ทำไมกันนะ ผมไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าทำไมโนริโกะถึงพูดแบบนั้นกับผม ทำไมถึงให้ผมเลิกยุ่งกับไมค์ล่ะ ตอนที่ผมได้ยินประโยคนั้น ผมก็ไม่ได้ตอบอะไรไปเลย ผมจำได้ว่าผมไม่พูดอะไรอีกเลย จนกระทั่งเราแยกกัน ทำไมล่ะ ผมเป็นเพื่อนกับไมค์ไม่ได้เหรอ มันน่าเสียหายมากเลยเหรอ หรือว่าผมแก่เกินไป อีกอย่างมันอาจจะแปลกๆ ก็ได้นะที่คนทำงานแล้วจะเป็นเพื่อนกับเด็กม.ปลาย ผมนอนคิดไปเรื่อยๆ จนกระทั่งสติของผมได้หลุดลอยไปเข้าสู่ห้วงนิทรา
"ทาคายาม่าซังเลิกยุ่งกับมิมูระคุงได้มั้ยคะ ! "
ผมแทบไม่เชื่อหูตัวเองเลยว่าจะได้ยินประโยคนี้จากปากของโนริโกะ ผู้หญิงในฝันของผม เมื่อผมกลับมาถึงอพาร์ทเม้นท์ของตัวเอง ผมก็หมดแรงล้มตัวอยู่บนเตียง ทำไมกันนะ ผมไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าทำไมโนริโกะถึงพูดแบบนั้นกับผม ทำไมถึงให้ผมเลิกยุ่งกับไมค์ล่ะ ตอนที่ผมได้ยินประโยคนั้น ผมก็ไม่ได้ตอบอะไรไปเลย ผมจำได้ว่าผมไม่พูดอะไรอีกเลย จนกระทั่งเราแยกกัน ทำไมล่ะ ผมเป็นเพื่อนกับไมค์ไม่ได้เหรอ มันน่าเสียหายมากเลยเหรอ หรือว่าผมแก่เกินไป อีกอย่างมันอาจจะแปลกๆ ก็ได้นะที่คนทำงานแล้วจะเป็นเพื่อนกับเด็กม.ปลาย ผมนอนคิดไปเรื่อยๆ จนกระทั่งสติของผมได้หลุดลอยไปเข้าสู่ห้วงนิทรา
ผมแทบไม่เชื่อหูตัวเองเลยว่าจะได้ยินประโยคนี้จากปากของโนริโกะ ผู้หญิงในฝันของผม เมื่อผมกลับมาถึงอพาร์ทเม้นท์ของตัวเอง ผมก็หมดแรงล้มตัวอยู่บนเตียง ทำไมกันนะ ผมไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าทำไมโนริโกะถึงพูดแบบนั้นกับผม ทำไมถึงให้ผมเลิกยุ่งกับไมค์ล่ะ ตอนที่ผมได้ยินประโยคนั้น ผมก็ไม่ได้ตอบอะไรไปเลย ผมจำได้ว่าผมไม่พูดอะไรอีกเลย จนกระทั่งเราแยกกัน ทำไมล่ะ ผมเป็นเพื่อนกับไมค์ไม่ได้เหรอ มันน่าเสียหายมากเลยเหรอ หรือว่าผมแก่เกินไป อีกอย่างมันอาจจะแปลกๆ ก็ได้นะที่คนทำงานแล้วจะเป็นเพื่อนกับเด็กม.ปลาย ผมนอนคิดไปเรื่อยๆ จนกระทั่งสติของผมได้หลุดลอยไปเข้าสู่ห้วงนิทรา
เมื่อผมกลับมาถึงอพาร์ทเม้นท์ของตัวเอง ผมก็หมดแรงล้มตัวอยู่บนเตียง ทำไมกันนะ ผมไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าทำไมโนริโกะถึงพูดแบบนั้นกับผม ทำไมถึงให้ผมเลิกยุ่งกับไมค์ล่ะ ตอนที่ผมได้ยินประโยคนั้น ผมก็ไม่ได้ตอบอะไรไปเลย ผมจำได้ว่าผมไม่พูดอะไรอีกเลย จนกระทั่งเราแยกกัน ทำไมล่ะ ผมเป็นเพื่อนกับไมค์ไม่ได้เหรอ มันน่าเสียหายมากเลยเหรอ หรือว่าผมแก่เกินไป อีกอย่างมันอาจจะแปลกๆ ก็ได้นะที่คนทำงานแล้วจะเป็นเพื่อนกับเด็กม.ปลาย ผมนอนคิดไปเรื่อยๆ จนกระทั่งสติของผมได้หลุดลอยไปเข้าสู่ห้วงนิทราTCB
ความคิดเห็น