ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 2 การพบกันครั้งแรก
Chapter 2
ในระหว่างที่เดินทางกันอยู่ในป่านั้น คาคาชิก็เดินเข้าไปถามนายทหารคนนั้นขึ้นว่า
"เจ้าชื่ออะไรเหรอ"
"เจ้าจะรู้ไปทำไม" นายทหารคนนั้นย้อนถาม
"แล้วข้ารู้ไม่ได้เหรอ" คาคาชิแกล้งตอบกวนๆ
"บอกชื่อของเจ้ามาก่อนแล้วข้าจะบอกชื่อของข้า"
นายทหารคนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
"ข้าชื่อ อุสึมากิ คาคาชิ เจ้าเรียกข้าว่าคาคาชิเฉยๆ ก็ได้นะ"
"ข้าอิรุกะ อุมิโนะ"
"ชื่อเจ้าเพราะจังนะงั้นข้าขอเรียกเจ้าว่าอิรุกะแล้วกันนะ"
อิรุกะก็เฉยๆ โดยไม่โต้ตอบอะไร
ทั้ง 5 ก็เดินทางกันไปเรื่อยๆ พอตกกลางคืนก็ต้องหาที่นอนในป่า วันรุ่งขึ้นก็เดินทางกันต่อจนกระทั่งทั้งหมดได้เดินทางเข้ามาถึงตัวเมือง เมื่อเข้าไปในเมืองด้วยความที่ คาคาชิกับนารูโตะเพิ่งเดินทางเข้าเมืองหลวงเป็นครั้งแรกจึงดูท่าทางตื่นเต้น โดยเฉพาะนารูโตะที่เอาแต่เดินมองข้างทางมาตลอด ในเมืองหลวงนี้มีพวกผู้คนเดินตามท้องถนนกันให้ขวักไขว่ มีทั้งคนธรรมดารวมไปถึงคนชั้นสูง พวกผู้ดีที่เห็นอยู่ตามท้องถนนนั้นต่างก็แต่งตัวกันด้วยเสื้อผ้าราคาแพง
สองข้างทางก็มีร้านค้ามากมาย ทั้งภัตคาร,ร้านขายของชำ,ร้านขายเครื่องประดับ รวมทั้งเสื้อผ้าดีๆ มากมาย
และยังมีรถม้าที่คอยรอรับผู้โดยสารจอดอยู่อีกมากมาย
เมื่อทั้ง 5 เดินทางผ่านย่านชุมชนกันออกมาแล้ว บ้านคนก็เริ่มลดน้อยลงและเมื่อเดินไปเรื่อยๆ ก็เห็นต้นไม้และดอกไม้นานาชนิดปลูกเรียงรายอยู่สองข้างทางอย่างมากมาย
จนกระทั่งถึงสวนองุ่นซึ่งบัดนี้ได้สุกงอมอยู่บนเถา และส่งกลิ่นหอมหวนไปทั่วและเมื่อเดินผ่านสวนองุ่นออกไปก็พบลำธารที่ทอดยาวไปเรื่อยๆ และก็มีสะพานข้ามลำธารที่ทำด้วยหินอ่อนและมีการแกะสลักอย่างประณีตงดงาม
เมื่อเข้าไปยังในพระราชวัง อิรุกะก็บอกให้คาคาชิกับนารูโตะรออยู่ตรงหน้าท้องพระโรง และเมื่อเหล่านายทหารทั้ง 3 เดินออกไปแล้ว ทั้งคาคาชิและนารูโตะก็ถึงกับตะลึงในความโอ่อ่างดงามและยิ่งใหญ่ของพระราชวังนี้
บนเพดานของพระราชวังก็ไปดับไปด้วยโคมไฟระย้าโคมใหญ่ที่สวยงามและยังมีภาพวาดของเหล่านางฟ้าและเทวดาที่คอยอวยพรให้ ถูกวาดขึ้นอย่างงดงามด้วยฝีมือของจิตรกรชื่อดัง ตรงฝาผนังก็มีภาพวาดสีน้ำมันขนาดใหญ่ติดอยู่มากมาย ข้างๆ ของภาพวาดก็มีหน้าต่างขนาดมหึมาอยู่สลับกับภาพวาดเหล่านั้น ในภาพวาดนั้นก็เป็นภาพของบรรดากษัตริย์ในราชวงศ์นี้
นารูโตะเดินดูด้วยความชื่นชมมาเรื่อยๆ จนกระทั่งหยุดเดินเพราะมาสะดุดที่ภาพๆ นึง ในภาพนั้นเป็นของชายหนุ่มผมและนัยน์ตาสีดำยามรัตติกาล ผิวขาว หน้าหวานราวกับผู้หญิงแต่นัยน์ตาสีดำคู่นั้นช่างดูมีอำนาจราวกับพญาราชสีห์
แต่เนื่องจากรูปนี้เป็นรูปที่ใหญ่มาก ทำให้นารูโตะอยากเห็นผน้าของคนในรูปให้ชัดกว่านี้เค้าจึงได้ถอยหลังเพื่อจะทำให้เห็นภาพได้ชัดขึ้นและ...
"โอ๊ย !" นารูโตะรู้สึกตกใจจึงพูดขึ้นมาทันทีว่า
"เฮ้ย ! ขอโทษเป็นอะไรมั้ย"
ทำให้คนที่โนเหยียบเท้าและเหล่าทหารแทบจะไม่เชื่อหูตัวเอง เมื่อทุกคนหายจากอาการอึ้งในการกระทำของนารูโตะ
อิรุกะก็พูดขึ้นมาว่า
"เจ้า ! บังอาจยังไม่ยอมคุกเข่าขออภัยอีกรึ"
"ก็ข้าขอโทษไปแล้วไงล่ะ" นารูโตะรีบตอบทันที
ขณะนั้นเองคาคาชิก็ได้สังเกตุว่า คนในรูปกับคนที่น้องชายของเค้าเหยียบเท้าไปช่างคล้ายกันราวกับแกะ เค้าจึงรีบดึงนารูโตะให้คุกเข่าไปพร้อมกับเค้าแทบไม่ทัน
"เอ่อ...ข้าต้องขอประทานอภัยแทนน้องชายของข้าด้วยครับ เพราะเค้าไม่รู้ว่าท่านเป็ฯใคร"
ที่แท้คนที่นารูโตะเหยียบเท้าไปนั้นก็คืเจ้าชายซาสึเกะนั่นเอง
"ช่างเถอะข้าไม่ใส่ใจหรอก อิรุกะถ่ายทอดคำสั่งข้า"
เจ้าชายซาสึเกะเริ่มออกคำสั่ง
"เชิญรับสั่งเลยฝ่าบาท"
"ข้าต้องการให้มีการคัดเลือกองครักษ์ในวันพรุ่งนี้"
"ได้เลยครับฝ่าบาท"
"อ้อ..แล้วก็อย่าลืมจัดการหาที่พักให้ 2 คนนี้ด้วยล่ะ"
เมื่อพูดเสร็จเจ้าชายซาสึเกะก็เดินออกไปจากท้องพระโรง
"เนี่ยเหรอเจ้าชายซาสึเกะที่เค้าร่ำรือกัน พระองค์ดูช่างมีอำนาจและสง่างามมาก"
คาคาชิพูดขึ้นทันทีที่เจ้าชายซาสึเกะเดินออกไปแล้ว
"หา ! นั่นน่ะเหรอเจ้าชายซาสึเกะ มิน่าข้าว่าการแต่งตัวแปลกๆ ดูไม่เหมือนกับคนอื่น เออ...ใช่ข้าต้องตายแน่ๆ เลย ก็เมื่อกี๊ข้าไปเหยียบเท้าเจ้าชายเข้า ข้าต้องหัวหลุดจากบ่าตายแน่เลย" นารูโตะพูดด้วยท่าทางที่ร้อนรน
"เจ้าชายซาสึเกะไม่ได้เป็นอย่างที่เจ้าคิดหรอก และเมื่อกี๊พระองค์ก็ทรงอภัยโทษให้แล้ว เจ้าก็ไม่ต้องกังวลไปหรอก"
อิรุกะช่วยพูดปลอบใจให้ แล้วก็พาทั้ง 2 ไปยังที่พัก
เช้าวันรุ่งขึ้นที่ท้องพระโรงได้มีบรรดาเหล่าเสนาบดี ขุนนางชั้นผู้ใหญ่และเหล่าทหารมากมายยืนรายล้อมกันอย่างคับคั่ง
นอกจากนั้นก็ยังมีชายหนุ่มที่กำลังรอรับการทดสอบเพื่อไปเป็นองครักษ์ของเจ้าชายซึ่งล้วนแล้วแต่ดูท่าทางแข็งแรง ต่างก็เฝ้ารอคอยการทดสอบกันอย่างใจจดใจจ่อ จะมีก็แต่
นารูโตะที่รู้สึกอยากจะกลับบ้านเพราะรู้สึกเหมือนกับมาอยู่ผิดที่ ผิดกับคาคาชิที่รู้สึกอยากจะอยู่เพราะมีจุดประสงค์แอบแฝงนั่นก็คือการที่จะได้อยู่ใกล้ๆ กับอิรุกะ
เมื่อทุกคนมาอยู่กันพร้อมหน้าแล้ว ก็มีเสนาบดีคนนึงเดินออกมาข้างหน้าพร้อมกับกระดาษในมือ แล้วก็พูดด้วยเสียงอันดังขึ้นว่า
"ขอต้อนรับทุกท่านสู่อาณาจักรโคโนฮะงาคุเระ ข้ารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นผู้กล้ามากมายที่ยินดีที่จะมาเป็นองครักษ์ขององค์ชาย นั่นเป็นการแสดงความจงรักภักดีต่อกษัตริย์แห่งอาณาจักรของพวกเรา ตัวข้าเองก็ขอให้ทุกท่านจงกล้าหาญและโชคดีกับการทดสอบที่จะมีขึ้นนี้ด้วยเถอะ"
เมือพูดเสร็จเสนาบดีคนนั้นก็เดินกลับไปยังที่ของตน แล้วเจ้าชายซาสึเกะก็ขึ้นไปประทับยังบัลลังก์ ขณะนั้นเองเหล่ากลุ่มผู้ที่มารับการทดสอบต่างก็ส่งเสียงฮือฮาเซ็งแซ่กันยกใหญ่
ก่อนที่จะมีทหารออกมาพูดขึ้นว่า
"เอาล่ะเริ่มการทดสอบ ณ บัดนี้"
TBC
ในระหว่างที่เดินทางกันอยู่ในป่านั้น คาคาชิก็เดินเข้าไปถามนายทหารคนนั้นขึ้นว่า
"เจ้าชื่ออะไรเหรอ"
"เจ้าจะรู้ไปทำไม" นายทหารคนนั้นย้อนถาม
"แล้วข้ารู้ไม่ได้เหรอ" คาคาชิแกล้งตอบกวนๆ
"บอกชื่อของเจ้ามาก่อนแล้วข้าจะบอกชื่อของข้า"
นายทหารคนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
"ข้าชื่อ อุสึมากิ คาคาชิ เจ้าเรียกข้าว่าคาคาชิเฉยๆ ก็ได้นะ"
"ข้าอิรุกะ อุมิโนะ"
"ชื่อเจ้าเพราะจังนะงั้นข้าขอเรียกเจ้าว่าอิรุกะแล้วกันนะ"
อิรุกะก็เฉยๆ โดยไม่โต้ตอบอะไร
ทั้ง 5 ก็เดินทางกันไปเรื่อยๆ พอตกกลางคืนก็ต้องหาที่นอนในป่า วันรุ่งขึ้นก็เดินทางกันต่อจนกระทั่งทั้งหมดได้เดินทางเข้ามาถึงตัวเมือง เมื่อเข้าไปในเมืองด้วยความที่ คาคาชิกับนารูโตะเพิ่งเดินทางเข้าเมืองหลวงเป็นครั้งแรกจึงดูท่าทางตื่นเต้น โดยเฉพาะนารูโตะที่เอาแต่เดินมองข้างทางมาตลอด ในเมืองหลวงนี้มีพวกผู้คนเดินตามท้องถนนกันให้ขวักไขว่ มีทั้งคนธรรมดารวมไปถึงคนชั้นสูง พวกผู้ดีที่เห็นอยู่ตามท้องถนนนั้นต่างก็แต่งตัวกันด้วยเสื้อผ้าราคาแพง
สองข้างทางก็มีร้านค้ามากมาย ทั้งภัตคาร,ร้านขายของชำ,ร้านขายเครื่องประดับ รวมทั้งเสื้อผ้าดีๆ มากมาย
และยังมีรถม้าที่คอยรอรับผู้โดยสารจอดอยู่อีกมากมาย
เมื่อทั้ง 5 เดินทางผ่านย่านชุมชนกันออกมาแล้ว บ้านคนก็เริ่มลดน้อยลงและเมื่อเดินไปเรื่อยๆ ก็เห็นต้นไม้และดอกไม้นานาชนิดปลูกเรียงรายอยู่สองข้างทางอย่างมากมาย
จนกระทั่งถึงสวนองุ่นซึ่งบัดนี้ได้สุกงอมอยู่บนเถา และส่งกลิ่นหอมหวนไปทั่วและเมื่อเดินผ่านสวนองุ่นออกไปก็พบลำธารที่ทอดยาวไปเรื่อยๆ และก็มีสะพานข้ามลำธารที่ทำด้วยหินอ่อนและมีการแกะสลักอย่างประณีตงดงาม
เมื่อเข้าไปยังในพระราชวัง อิรุกะก็บอกให้คาคาชิกับนารูโตะรออยู่ตรงหน้าท้องพระโรง และเมื่อเหล่านายทหารทั้ง 3 เดินออกไปแล้ว ทั้งคาคาชิและนารูโตะก็ถึงกับตะลึงในความโอ่อ่างดงามและยิ่งใหญ่ของพระราชวังนี้
บนเพดานของพระราชวังก็ไปดับไปด้วยโคมไฟระย้าโคมใหญ่ที่สวยงามและยังมีภาพวาดของเหล่านางฟ้าและเทวดาที่คอยอวยพรให้ ถูกวาดขึ้นอย่างงดงามด้วยฝีมือของจิตรกรชื่อดัง ตรงฝาผนังก็มีภาพวาดสีน้ำมันขนาดใหญ่ติดอยู่มากมาย ข้างๆ ของภาพวาดก็มีหน้าต่างขนาดมหึมาอยู่สลับกับภาพวาดเหล่านั้น ในภาพวาดนั้นก็เป็นภาพของบรรดากษัตริย์ในราชวงศ์นี้
นารูโตะเดินดูด้วยความชื่นชมมาเรื่อยๆ จนกระทั่งหยุดเดินเพราะมาสะดุดที่ภาพๆ นึง ในภาพนั้นเป็นของชายหนุ่มผมและนัยน์ตาสีดำยามรัตติกาล ผิวขาว หน้าหวานราวกับผู้หญิงแต่นัยน์ตาสีดำคู่นั้นช่างดูมีอำนาจราวกับพญาราชสีห์
แต่เนื่องจากรูปนี้เป็นรูปที่ใหญ่มาก ทำให้นารูโตะอยากเห็นผน้าของคนในรูปให้ชัดกว่านี้เค้าจึงได้ถอยหลังเพื่อจะทำให้เห็นภาพได้ชัดขึ้นและ...
"โอ๊ย !" นารูโตะรู้สึกตกใจจึงพูดขึ้นมาทันทีว่า
"เฮ้ย ! ขอโทษเป็นอะไรมั้ย"
ทำให้คนที่โนเหยียบเท้าและเหล่าทหารแทบจะไม่เชื่อหูตัวเอง เมื่อทุกคนหายจากอาการอึ้งในการกระทำของนารูโตะ
อิรุกะก็พูดขึ้นมาว่า
"เจ้า ! บังอาจยังไม่ยอมคุกเข่าขออภัยอีกรึ"
"ก็ข้าขอโทษไปแล้วไงล่ะ" นารูโตะรีบตอบทันที
ขณะนั้นเองคาคาชิก็ได้สังเกตุว่า คนในรูปกับคนที่น้องชายของเค้าเหยียบเท้าไปช่างคล้ายกันราวกับแกะ เค้าจึงรีบดึงนารูโตะให้คุกเข่าไปพร้อมกับเค้าแทบไม่ทัน
"เอ่อ...ข้าต้องขอประทานอภัยแทนน้องชายของข้าด้วยครับ เพราะเค้าไม่รู้ว่าท่านเป็ฯใคร"
ที่แท้คนที่นารูโตะเหยียบเท้าไปนั้นก็คืเจ้าชายซาสึเกะนั่นเอง
"ช่างเถอะข้าไม่ใส่ใจหรอก อิรุกะถ่ายทอดคำสั่งข้า"
เจ้าชายซาสึเกะเริ่มออกคำสั่ง
"เชิญรับสั่งเลยฝ่าบาท"
"ข้าต้องการให้มีการคัดเลือกองครักษ์ในวันพรุ่งนี้"
"ได้เลยครับฝ่าบาท"
"อ้อ..แล้วก็อย่าลืมจัดการหาที่พักให้ 2 คนนี้ด้วยล่ะ"
เมื่อพูดเสร็จเจ้าชายซาสึเกะก็เดินออกไปจากท้องพระโรง
"เนี่ยเหรอเจ้าชายซาสึเกะที่เค้าร่ำรือกัน พระองค์ดูช่างมีอำนาจและสง่างามมาก"
คาคาชิพูดขึ้นทันทีที่เจ้าชายซาสึเกะเดินออกไปแล้ว
"หา ! นั่นน่ะเหรอเจ้าชายซาสึเกะ มิน่าข้าว่าการแต่งตัวแปลกๆ ดูไม่เหมือนกับคนอื่น เออ...ใช่ข้าต้องตายแน่ๆ เลย ก็เมื่อกี๊ข้าไปเหยียบเท้าเจ้าชายเข้า ข้าต้องหัวหลุดจากบ่าตายแน่เลย" นารูโตะพูดด้วยท่าทางที่ร้อนรน
"เจ้าชายซาสึเกะไม่ได้เป็นอย่างที่เจ้าคิดหรอก และเมื่อกี๊พระองค์ก็ทรงอภัยโทษให้แล้ว เจ้าก็ไม่ต้องกังวลไปหรอก"
อิรุกะช่วยพูดปลอบใจให้ แล้วก็พาทั้ง 2 ไปยังที่พัก
เช้าวันรุ่งขึ้นที่ท้องพระโรงได้มีบรรดาเหล่าเสนาบดี ขุนนางชั้นผู้ใหญ่และเหล่าทหารมากมายยืนรายล้อมกันอย่างคับคั่ง
นอกจากนั้นก็ยังมีชายหนุ่มที่กำลังรอรับการทดสอบเพื่อไปเป็นองครักษ์ของเจ้าชายซึ่งล้วนแล้วแต่ดูท่าทางแข็งแรง ต่างก็เฝ้ารอคอยการทดสอบกันอย่างใจจดใจจ่อ จะมีก็แต่
นารูโตะที่รู้สึกอยากจะกลับบ้านเพราะรู้สึกเหมือนกับมาอยู่ผิดที่ ผิดกับคาคาชิที่รู้สึกอยากจะอยู่เพราะมีจุดประสงค์แอบแฝงนั่นก็คือการที่จะได้อยู่ใกล้ๆ กับอิรุกะ
เมื่อทุกคนมาอยู่กันพร้อมหน้าแล้ว ก็มีเสนาบดีคนนึงเดินออกมาข้างหน้าพร้อมกับกระดาษในมือ แล้วก็พูดด้วยเสียงอันดังขึ้นว่า
"ขอต้อนรับทุกท่านสู่อาณาจักรโคโนฮะงาคุเระ ข้ารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นผู้กล้ามากมายที่ยินดีที่จะมาเป็นองครักษ์ขององค์ชาย นั่นเป็นการแสดงความจงรักภักดีต่อกษัตริย์แห่งอาณาจักรของพวกเรา ตัวข้าเองก็ขอให้ทุกท่านจงกล้าหาญและโชคดีกับการทดสอบที่จะมีขึ้นนี้ด้วยเถอะ"
เมือพูดเสร็จเสนาบดีคนนั้นก็เดินกลับไปยังที่ของตน แล้วเจ้าชายซาสึเกะก็ขึ้นไปประทับยังบัลลังก์ ขณะนั้นเองเหล่ากลุ่มผู้ที่มารับการทดสอบต่างก็ส่งเสียงฮือฮาเซ็งแซ่กันยกใหญ่
ก่อนที่จะมีทหารออกมาพูดขึ้นว่า
"เอาล่ะเริ่มการทดสอบ ณ บัดนี้"
TBC
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น