คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่1
บทที่ 1
ตอนนี้ฉันก็มาถึงโรงเรียนและซ้อมบาสอยู่กับเพื่อน จริงๆฉันว่าฉันควรเอาเวลานี้ไปอ่านหนังสือนะ (พึ่งคิดได้)
“หยา ไปเตรียมตัวเข้าแถวเหอะจะแปดโมงละ”
“อือๆ”
เสียงข้าวฟ่างเพื่อนสนิทสุดน่ารักของฉันตะโกนเรียกฉันให้ไปเตรียมตัวเข้าแถว แล้วฉันก็เอาลูกบาสฯไปคืนที่ห้องพละ และไปที่สนาม
“พี่หยา”
หึ เสียงอีตาฟีนอลไม่ใช่หรอ ลืมซะสนิทเลยว่าไม่ได้เอาข้าวกล่องมา โดนอีตานั้นเทศน์ชัวร์
“พี่”
ฉันหั่นไปตามเสียงเรียก แล้วเขาก็ยื่นกล่องข้าวให้
“ก่อนออกมาหัดเช็คอะไรให้มันดีๆหน่อยสิ”
“ก็คนมันลืมหนิ”
“หันหลังไป”
“อะไรของนาย”
“หันหลังไป”
ฉันหันหลังไปตามที่เขาบอก แล้วเขากะเอาโบว์มาติดให้ฉัน
“ขืนให้เธอติดเองมีหวังเบี้ยวชัวร์”
“รู้แล้วน่า ฉันให้เพื่อนฉันติดให้ก็ได้”
ตอนนี้สีหน้าของเขาบอกบ่งเลยว่ามันคือเรื่องจริง
“นายนี้เห็นฉันเป็นเด็กไปได้”
“ก็จริงมั้ยหละ เธอทำอะไรเป็นซะที่ไหน”
“ที่นี้ไง อย่าลืมซิว่าที่โรงเรียนฉันเป็นเจ้าแม่ และดังมากด้วย ทุกคนยังไม่รู้สักหน่อยว่าบ้านเราอยู่ข้างกันยกเว้นฟ่างกับลูกหมี อย่ามาทำให้ฉันดูเป็นเด็กหน่อยเลย ”
อีตานั้นชอบทำว่าฉันเป็นเด็กอยู่เรื่อยเลย ชิ! น่าหมั่นไส้
“หยาไปเข้าแถวกัน”
ลูกหมีเดินมาเรียกฉัน
“จ้า”
และฉันก็ตอบกลับไป
“นายไส้หัวไปเข้าแถวได้แล้ว”
“ได้ แต่!”
“แต่อะไร”
“พี่ลืมนี้”
อีตานั้นชูเข็มโรงเรียนที่ฉันหาไม่เจอเมื่อเช้าและกุญแจบ้าน และฉันคว้ามันมา
“ขอบใจย่ะ”
แล้วฉันก็เดินไปเข้าแถว
“หยา คนเมื่อกี้ฟีนอลใช่มะ?”
“อืมใช่”
มีมี่เดินมาถามฉัน
“แล้วเค้ามาทำไมหละ”
เอาแล้วไงอีตานั้นหาเรื่องให้ฉันอีกแล้วU*U
“พอดีว่าฉันลืมของไว้ตรงม้านั่งที่สนามบาสเค้าเลยมาให้เฉยๆหนะ”
“อ๋อ”
เกือบแล้วมั้ยหละ
“แล้วเค้ารู้ได้ไงว่าเป็นของแก”
สตั้น3วิ แล้วเค้ารู้ได้ไงหละ คิดสิคิด -*- แถแป๊บ
“สงสัยเขาคงเห็นว่าฉันเอาไปว่างไว้ตรงนั้นมั้ง ^^’”
“อืมๆ”
“ชั่งมันเหอะเนอะๆ”
แล้วฉันก็ดันยัยนั้นให้ไปเข้าแถว
“นักเรียนทั้งหมดแถวตรง”
อาจารย์ศิริโฉม หัวหน้าฝ่ายปกครองสั่งให้นักเรียนเข้าแถวเคารพธงชาติและทำกิจกรรมหน้าเสาธง
หลังเคารพธงชาติเสร็จ
อาจารย์ก็ปล่อยแถวให้นักเรียนไปเรียนตามปกติ จริงๆนอกจากฉันจะเป็นเจ้าแม่นักกีฬาประจำโรงเรียนแล้ว ผลการเรียนของฉันก็ถึงว่าดีเลยเหมือนกันนะ ฉันเลยได้อยู่ห้องต้นๆ ห้องเรียนพิเศษที่พิเศษกว่าคนอื่น (มั้ง) แต่บ้างทีฉันก็โคตรจะเซ็งเลยแหละที่ต้องเรียนเยอะกว่าชาวบ้าน แต่ฉันก็โดดเรียนบ่อยนะ :P
“เอาหละนักเรียนชั่วโมงนี้เราจะเริ่มเรียนกันที่........”
12:00 น.
โอ้ย! เมื่อยจัง ต้องนั่งนิ่งๆเรียนสังคมฟังอาจารย์พูดนี้มันแบบ เอิ่ม~เป็นอะไรที่ ขยับตัวก็ไม่ได้ แค่จะหันไปยืมปากกา แล็กเชอร์เพื่อนก็โดนแกมองด้วยสายตาพิฆาต มีเสียงกระจุกกระจิกหน่อยก็บอกให้เงียบจะให้เงียบไปถึงไหนคะอาจารย์ ไปเรียนในป่าช้ากันเลยมะ! เงียบดี L
“หยาฉันกินข้าวด้วยสิ”
“เอาดิ”
ข้าวฟ่างเดินมาที่โต๊ะฉัน และมาขอนั่งกินข้าวกลางวันด้วยกัน
“ฉันด้วย”
“เชิญเลย”
และแยมอีกคน พวกเราเป็นเพื่อนรักและสนิทกันมาก เพราะรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ฉันรู้จักกับฟ่างตั้งแต่อนุบาลเราอยู่ห้องเดียวกันมาตลอด ส่วนแยมเราพึ่งมารู้จักกันตอนขึ้นม.1 ฉันเปิดห่อข้าวกล่องออก
“น่ากินอ่ะ แก~”
แยมมองด้วยสายตาแพรวพราว และอุทานขึ้นมา วันนี้อีตานั้นทำหมูทอดกระเทียมกับผัดผักมาก็น่ากินอย่างที่ยัยนั้นพูดนั้นแหละ
“ฟีนอลทำให้ใช่มะ”
“อืมมีคนเดียวนั้นแหละ”
ลองให้ฉันทำสิ หมายังไม่กินเลอะ
“เธอนี้ไม่ไหวเลย เป็นผู้หญิงซะเปล่าทำอาหารไม่เป็น”
แยมบอกฉัน
“เอาน่าๆ ขืนให้หยาทำบ้านไฟไหม้พอดี”
จริง! ก็อย่าที่บอกแหละฉันทำอะไรก็ไม่เรียบร้อยออกมาไม่ดีซะอย่าง
“นี้ก็ม.6 เทอมสองแล้วนะ พวกแกคิดรึยังว่าจะไปต่อที่ไหน”
เอาจริงๆก็~…ยังไม่ได้คิดอ่ะ
“ฉันอยากไปต่อมหาลัยดังๆอ่ะ”
“ส่วนฉันอยากอยู่ใกล้แม่มากกว่าว่ะ”
แยมกับฟ่างคุยกันเรื่องเรียนต่อ
“แกอ่ะหยาจะไปไหน ฉันว่าแกเรียนเก่งออก ลองไปสอบชิงทุนไปต่อต่างประเทศมั้ยหละ ภาษาอังกฤษแกก็เก่งจะตาย”
ฉันยังช่วยเหลือตัวเองไม่ค่อยได้เลย แล้วต้องไปอยู่ลำพังคนเดียวในต่างประเทศตั้งไกล มีหวังอดตายแน่
“ว่าไงหละ”
“ไม่รู้เหมือนกันอ่ะ คงเอาที่ไทยหละมั้ง ไม่ค่อยอยากไปไหนไกล แกก็รู้ฉันดูแลตัวเองไม่ได้”
“แกก็น่าจะลองนะ ถ้าโตไปแม่แกไม่อยู่ อีตาฟีนอลก็ไม่อยู่แกจะทำยังไงหละ”
“ฉันก็คงต้องหาคนดีๆมาดูแลฉันหละมั้ง 555+”
“มันไม่ตลกนะหยา มันชีวิตแกเลยนะโว้ย”
สอึกเลยแหะ หน้าตาฟ่างแลดูจริงจังมาก ใช่สิมาคิดๆดูแล้วถ้าฉันโตไป ไม่มีทั้งแม่ทั้งฟีนอลแล้วใครจะดูแลฉันหละ แล้วอีกอย่างคิดที่จะมีแฟนมัน หาคนดีๆก็ไม่ได้ง่ายๆนะ ประชากรชายดีเดี๋ยวนี้ยิ่งลดลงเรื่อยๆ บางก็เป็นสาวประเภทสอง บางก็ชั่วจริง และน่ากลัวสุดก็หันมากินกันเองนี้หละสิ -*- จะหาเจอมั้ยนะคนคนนั้นอ่ะ
“นางสาวมาหยารัศมี อยู่รึเปล่าจ๊ะ”
อาจารย์นิมินตรา อาจารย์ประจำชั้นฉันเองแหละ แล้วเรียกชื่อฉันทำไมเนี่ย เรียกชื่อจริงซะด้วย แม่ก็นะตั้งชื่อฉันซะแบบเอิ่ม~
“คะ อาจารย์”
“ทานข้าวเสร็จไปพบครูที่ห้องด้วย”
“คะ”
“แกไปก่อเรื่องอะไรมารึเปล่าเนี่ย”
“เปล่าหนิ”
“แล้วอาจารย์จะเรียกแกไปทำไมว่ะ”
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่ะ”
“อ้าว กรรม -*-“
ใช่ กรรมของแท้เลย ฉันออกจะเป็นเด็กดีมาตลอด (มั้ง! แค่โดดเรียนสี่ชั่วโมงต่ออาทิตย์เอง -3-)
“งั้นฉันไปพบอาจารย์เลยดีกว่า”
“แต่แกยังกินข้าวไม่หมดนะ”
“พอดีฉันอิ่มแล้วอ่ะ ไม่เป็นไรหรอก”
“อือๆ งั้นแกไปเหอะ”
ฉันรีบเก็บของเก็บข้าวกล่อง แล้วไปพบอาจารย์ที่ห้อง
ครืด~
“อ้าวมาแล้วหรอ ครูนึกว่าเธอจะทานข้าวช้ากว่านี้ซะอีก”
รู้เลยทำไมถึงให้ทานข้าวเสร็จก่อน ก็ครูแกกำลังจกส้มตำเข้าปากอยู่อ่ะ ฉันไม่เข้าใจจริงๆ ติดป้ายไว้ทนโท้ ‘ห้ามนักเรียนนำอาหารหรือเครื่องดื่มเข้ามารับประทานในห้อง’ จริงอยู่ที่ห้ามนักเรียน แต่ฉันก็เข้าใจนะว่าตึกเราห้องทุกห้องเป็นห้องแอร์ถ้าเอาขนมเข้ามากินก็จะส่งกลิ่นเหม็นได้ แล้วทำไมพวกอาจารย์ถึงเอาส้มตำมากินในห้องพักครูที่ติดแอร์2ตัวด้วยก็ไม่รู้ อีกฎนี้น่าจะเพิ่มไปว่า ‘ห้ามอาจารย์และนักเรียนนำอาหารหรือเครื่องดื่มเข้ามารับประทานในห้อง’ อย่าลืมสิคะว่าห้องพักครูก็ติดแอร์นะ แล้วเจ้าส้มตำก็กลิ่นแรงอยู่ -..- แล้วอาจารย์แกก็ไปนั่งที่โต๊ะตัวเอง หลังจากไปยืนรุมจกส้มตำที่โต๊ะส่วนกลางของห้องพักครูมา
“เชิญนั่งจ๊ะ”
อาจารย์แกให้ฉันนั่งตรงเก้าอี้อีฝั่งกับแก
“วันนี้ที่ครูเรียกเธอมาเพราะครูมีโอกาสดีที่จะมอบให้”
“คะ”
“พอดีว่ามหาวิทยาลัยชื่อดังในเมกาฯ เขาให้โควตากับนักเรียนโรงเรียนเราหนึ่งคน เพื่อไปเรียนต่อที่นั้น แล้วครูเห็นว่าเธอเป็นเด็กดี ขยันและเรียนเก่ง ถึงแม้จะมีโดดเรียนไปบ้างก็เหอะนะ แต่ครูก็อยากให้เธอรับโอกาสนี้ไป”
“ทำไมครูไม่ลองถามเอส ไม่ก็แบร์หละคะ เขาสองคนก็เก่งมากหนิคะ”
“เอสเขาได้โควต้าจากมหาลัยที่อังกฤษแล้วหละจ๊ะ แล้วเค้าก็อยากกลับไปอยู่กับครอบครัวเขาที่นั้นด้วย ส่วนแบร์เธอมีปัญหาสุขภาพเลยไม่อยากอยู่ไกลจากพ่อแม่หนะ”
หนูก็อยากจะบอกเหมือนกันนะคะว่าหนูก็มีปัญหาด้านการดูแลตัวเองไม่ได้อ่ะ T^T
“แต่~”
“แต่อะไรจ๊ะ”
“เปล่าคะ”
“งั้นก็ลองไปถามแม่เธอก่อนก็ได้นะ แต่รีบๆนะ โอกาสแบบนี้หาไม่ได้ที่ไหนนะ”
“คะ ถ้าไม่มีอะไรแล้วหนูขอตัวนะคะ”
“จ๊ะ”
แล้วฉันก็ลุกออกจากห้องนั้นมา
บนห้องเรียนม.6/1
“เป็นไงแก อาจารย์ว่าอะไรมั้ย”
“ก็แค่ให้โควต้าไปเรียนต่อที่เมกาฯ”
“จริงดิ!”
“จริง UU”
“แล้วทำไมทำหน้ายังงั้นหละ”
“ก็ฉันบอกแกแล้วไงว่าฉันดูแลตัวเองไม่ได้ ไปอยู่นู้นมีหวังอดตายแน่”
“แกก็ลองหัดดิ มันเป็นประโยชน์ต่อตัวแกนะ”
“ฉันจะลองดูก็ได้ UU”
“จารย์มาๆ”
ฟึบ!
โอ้โห้เร็วจริง พอบอกอาจารย์มาเท่านั้นแหละ นั่งโต๊ะกันเร็วเชียว เมื่อกี้พวกผู้ชายยังนั่งเล่นการ์ดอยู่เลย นี้มันม.อะไรกันแล้วเนี่ย มานั่งเลยเป็นเด็กอยู่ได้ นี้แหละเด็กไทย
ครืด~
“นักเรียนทั้งหมดทำความเคารพ”
หัวหน้าห้องสั่ง
“สา-หวัด-ดี-คะ/ครับ”
“เรามาเรียนกันต่อเปิดไปที่หน้า......”
ความคิดเห็น