ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Cartoon Inside

    ลำดับตอนที่ #7 : CARTOON INSIDE : GURU TALKS (3) / DEATH NOTE

    • อัปเดตล่าสุด 11 ก.ย. 49



    GURU TALKS (3) : DEATH NOTE 


    สำหรับบทความวิจารณ์การ์ตูนใน GURU TALKS ครั้งนี้เป็นผลงานของ
    นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ ซึ่งเป็นนักวิจารณ์การ์ตูนที่ผมชื่นชมเป็นอย่างมาก
    ทั้งนี้เพราะนอกจากผู้อ่านจะได้เห็นมุมมองทางจิตวิทยาที่คุณหมอนำมาใช้วิจารณ์ตัวละครแล้ว
    ยังได้ข้อคิด และข้อเตือนใจดีๆในการอ่านการ์ตูนอีกด้วย สำหรับผู้ที่สนใจงานวิจารณ์การ์ตูน
    เรื่องอื่นๆของคุณหมอ สามารถตามไปอ่านกันได้ที่เว็บของหนังสือพิมพ์มติชนสุดสัปดาห์ หรือ
    จะคลิกไปดูจากลิงค์ที่ผมให้ไว้ในตอนท้ายของบทความก็ได้ครับผม และขอย้ำอีกครั้งสำหรับ
    การเผยแพร่บทความทุกบทความใน GURU TALKS  ว่า ผมเพียงแค่อยากเผยแพร่ข้อมูลความรู้
    ด้านการ์ตูนเท่านั้น มิได้เจตนาละเมิดลิขสิทธิ์งานเขียนของผู้ใด ฉะนั้นหากมีผู้สนใจจะนำข้อเขียน
    เหล่านี้ไปใช้อ้างอิงในงานวิชาการ กรุณาเขียนอ้างอิงจากเว็บต้นฉบับ(มติชน)ดังที่ให้ไว้ด้วยครับผม

    การ์ตูนที่รัก

    นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

    DEATH NOTE

     



    ยางามิ ไลท์ นักเรียน ม.ปลาย เก็บสมุดโน้ตได้เล่มหนึ่ง เป็นสมุดโน้ตของยมทูตลุค กติกาการใช้สมุดโน้ตมีว่า

    1. คนที่ถูกเขียนชื่อลงในบันทึกนี้ต้องตาย

    2. ถ้าจำหน้าของคนที่เขียนชื่อไม่ได้ จะไม่มีผลอะไร จึงไม่มีผลต่อคนที่ชื่อหรือนามสกุลเดียวกัน

    3. หากเขียนสาเหตุการตายไว้หลังชื่อภายใน 40 วินาทีตามเวลาโลกมนุษย์ก็จะเป็นไปตามนั้น

    4. ถ้าไม่เขียนสาเหตุการตายก็จะเป็นการตายด้วยหัวใจวายทั้งหมด

    5. ถ้าเขียนสาเหตุการตายจะมีเวลาให้อีก 6 นาที 40 วินาทีเพื่อให้รายละเอียดสภาพการตาย

    ทีวีแพร่ภาพใบหน้าและชื่อของคนร้ายที่กำลังจับเด็กเป็นตัวประกัน ยางามิ ไลท์ จึงทดลองใช้บันทึก เขาเขียนชื่อคนร้ายนั้นลงไป มันตายใน 40 วินาที !

    วันรุ่งขึ้นไลท์ทดลองใช้บันทึกกับสิงห์มอเตอร์ไซค์ที่กำลังระรานหญิงสาว ครั้งนี้เขาเขียนชื่อและระบุว่าตายด้วยอุบัติเหตุ มันถูกรถบรรทุกทับตายเดี๋ยวนั้น !

    ตอนแรกไลท์ตกใจในอำนาจของบันทึกยมทูต แต่แล้วเขาก็ปรับตัวได้และตั้งใจใช้บันทึกเปลี่ยนแปลงโลก นับจากนั้นเขาเริ่มศึกษาใบหน้าและชื่อของอาชญากรทั่วโลกจากเน็ต แล้วเขียนชื่ออาชญากรเหล่านั้นในเดธโน้ต ไม่ว่าพวกมันจะซ่อนอยู่ที่ใดในโลกหรืออยู่ในคุก พวกมันตายทั้งสิ้น

    "ชั้นจะเป็นพระเจ้าของโลกใหม่" ไลท์พูดกับลุค ยมทูตที่เป็นเจ้าของบันทึก

    "นึกแล้ว มนุษย์นี่มันน่าสนุกจริงๆ" ยมทูตลุคแสยะยิ้มรับ

    ไลท์ฆ่าคนชั่วทุกวัน เพียงสัปดาห์เดียวฆ่าไป 52 คน องค์กรตำรวจสากลเรียกประชุมตำรวจจากนานาชาติและตกลงเชิญ แอล นักสืบอิสระให้มาช่วยคลี่คลายคดี ผู้คนรู้แล้วว่ามีใครบางคนกำลังจำกัดคนชั่วให้หมดไปจากโลก หลายคนนิยมชมชอบสิ่งที่ใครคนนั้นทำ และตั้งชื่อให้ว่า "คิระ" ทีวีกำลังแพร่ภาพรายการสด เป็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งพร้อมป้ายชื่อ "ลินด์ แอล เทเลอร์" เสียงแอลท้าทายคิระกลางโทรทัศน์ที่ออกอากาศไปทั่วโลก แอลล้มลงหัวใจวายตายหน้าจอเดี๋ยวนั้น

    "ฟังให้ดีนะ คิระ ถ้าตอนนี้นายฆ่าลินด์ แอล เทเลอร์ ที่ออกโทรทัศน์อยู่ คนคนนั้นคือนักโทษที่ต้องโทษประหารในวันนี้เวลานี้ เป็นอาชญากรที่ตำรวจจับได้อย่างลับๆ ไม่มีการแพร่ข่าวทางทีวีหรืออินเตอร์เน็ต" เสียงแอลยังคงพูดอยู่ "แต่ชั้น ผู้ชื่อแอลมีอยู่จริง" พลันปรากฏอักษร L ตัวใหญ่บนหน้าจอ "เอ้า ! ลองฆ่าชั้นดูสิ !!"

    "มะ...หมอนี่" ไลท์หรือคิระตะลึง

    แล้วแอลก็ประกาศทันทีว่ารู้แล้วคิระอยู่ในแถบคันโต เพราะแอลได้สืบย้อนไปจนถึงการตายของคนร้ายที่จับเด็กเป็นตัวประกันซึ่งเป็นอาชญากรคนแรกที่ล้มลงตายอย่างไม่มีเหตุผล เขาจึงออกข่าวลวงว่าจะแพร่ภาพตนเองไปทั่วโลก แต่ที่แท้แล้วครั้งนี้เขาแพร่ภาพเพียงเขตคันโต คิระอยู่ในญี่ปุ่นแถบคันโตนี่เอง !

    "เอ้า ! ลองฆ่าชั้นเร็วสิ" แอล รุกต่อ "ว่าไง ทำไม่ได้หรือไง !"

    บัดนี้ทั้ง 2 รู้สมญาของกันและกัน ไม่รู้ชื่อจริง และไม่เห็นหน้ากัน

    "ดูท่าจะฆ่าชั้นไม่ได้ล่ะสิ ชั้นรู้เคล็ดแล้ว มีบางคนที่นายฆ่าไม่ได้เหมือนกัน"

    ใครจะพบใครก่อน

    หลังจากนี้จะเป็นรายละเอียดการสืบค้นของคนทั้งสอง จัดเป็นการ์ตูนประเภทไล่ล่าแต่มิใช่การไล่ล่าทางร่างกาย หากเป็นการไล่ล่าทางตรรกะ สำหรับคนที่ชอบอ่านนิยายสืบสวนสอบสวนแล้วคงจะชอบมากเป็นพิเศษ

    ที่แท้แล้ว ยางามิ ไลท์ คือบุตรชายของหัวหน้าหน่วยสืบสวนกรมตำรวจญี่ปุ่น เป็นเด็ก ม.ปลาย หล่อนิ่งและมาดเนี้ยบ ส่วนแอลคือเด็กท่าทางเพี้ยนๆ แต่งกายเพี้ยนๆ คนหนึ่งและชอบนั่งชันเข่าบนเก้าอี้ จากโพลสำรวจความนิยมของแฟนมังงะล่าสุดพบว่าแอลได้คะแนนนำ เอฟบีไอส่งนักสืบสิบนายเข้ามาช่วยตำรวจญี่ปุ่นสืบสวน เมื่อไลท์ทราบเข้าก็จัดการสังหารนักสืบทั้งสิบตายหมดสิ้น ตามด้วยแฟนสาวของนักสืบรายหนึ่งที่ติดตามจนเกือบถึงตัวเขา หลังจากนั้น ไลท์ก็เริ่มฆ่าอาชญากรโทษเบาๆ เพื่อกลบเกลื่อนร่องรอยของตนเอง


     

    ร่องรอยของการฆ่าเอฟบีไอทำให้แอลสงสัยตัวลูกชายของหัวหน้าหน่วยสืบสวน เขาจึงขอให้หน่วยสืบสวนติดตั้งกล้องวงจรปิดตรวจสอบ ยางามิ ไลท์ แต่ด้วยความเป็นอัจฉริยะไลท์ก็ไม่เพลี่ยงพล้ำ นอกจากไม่เพลี่ยงพล้ำแล้วยังสามารถฆ่าอาชญากรอย่างต่อเนื่องเพื่อสรรค์สร้างโลกใหม่ที่ใฝ่ฝัน ถึงตอนนี้แอลเขยิบเข้าใกล้ไลท์อีกขั้นด้วยการสอบเอ็นทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัยเดียวกับไลท์ แล้วเปิดฉากแนะนำตัวก่อนทันที

    "ผมนี่แหละ แอล"

    แต่ทั้งสองก็ยังคงคว่ำกันไม่ลง การใช้ตรรกะกดดันกันและกันเข้มข้นขึ้นอีกระดับหนึ่ง โปรดติดตาม

    มีหลายประเด็นที่น่าคุยกันเกี่ยวกับเดธโน้ต เรื่องแรกคืออัตลักษณ์ของบุคคล ยมทูตหรือคิระเอาชีวิตคนด้วยชื่อและใบหน้า ไม่ได้เอาชีวิตคนด้วยชื่อและเสียงพูด ทำไมชื่อกับใบหน้าถึงสำคัญนัก

    ดังที่ทราบว่าชื่อเป็นอัตลักษณ์สมมติ คนคนหนึ่งเมื่อเกิดมามีทั้งชื่อเล่นชื่อจริง อีกทั้งสามารถเปลี่ยนแปลงไปได้เรื่อยๆ ไม่จบสิ้น ชื่อไหนที่ติดตัวคนคนนั้นมากกว่ากัน ในอดีตกาลชื่ออาจจะมิใช่อัตลักษณ์สมมติแต่เป็นอัตลักษณ์สัมบูรณ์ กล่าวคือ หากพูดถึง ลี้คิมฮวง คุณก็รู้ว่าเป็นใคร บางทียมทูตในอดีตคงทำงานเช่นนี้จริงๆ

    แต่สำหรับโลกดิจิตอลเช่นทุกวันนี้ ยมทูตควรระบุบุคคลด้วยอะไร ลองยื่นหนังสือเดินทางสักเล่มให้ยมทูต เขาจะเอาชีวิตถูกคนได้หรือไม่ เขาระบุบุคคลด้วยอะไร ชื่อ วันเกิด ใบหน้า ลายนิ้วมือ ม่านตา กลุ่มเลือด ลายพิมพ์ดีเอ็นเอ (DNA fingerprint) หรือข้อมูลพันธุกรรม (Genetic Information) เป็นไปได้หรือไม่ว่าการระบุตัวบุคคลในยุคปัจจุบันนั้นยุ่งยากเหลือเกิน ยมทูตลุคถึงได้เบื่อหน่ายงานที่ทำแล้วโยนโน้ตบุ๊คทิ้งให้เด็ก ม.ปลายคนหนึ่งเอาไปเล่นเป็นพระเจ้าได้ฉะนั้น (หากอ่านต่อไปจะพบว่าสมมติฐานนี้ผิด ยมทูตลุคก็มีเบื้องหลัง)

    "คนอย่างคิระไม่มีอยู่จริงๆ แต่เป็นการพิพากษาของพระเจ้า" แอลในท่านั่งชันเข่ารำพึง "แค่ ลินด์ แอล เทเลอร์ ยังพอรับได้ เรื่องที่ฆ่าอาชญากร แต่ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องฆ่าเอฟบีไอนี่นา รึว่านั่นเป็นเพราะบังอาจเคลือบแคลงใจการตัดสินของพระเจ้า ไม่ยอมให้ใครพูดว่าพระเจ้าใจคอโลเลจนมนุษย์ไม่อาจเข้าใจ พระเจ้าจะฆ่าคนยังต้องรู้ชื่อรู้หน้าด้วยรึ

    นี่ไม่ใช่การพิพากษาของพระเจ้าหรอก แต่เป็นคนที่มีความคิดเป็นเด็ก คิดว่าตนเองเป็นพระเจ้าพิพากษาคนอื่นได้"

    ต่อข้อสันนิษฐานว่าที่แท้แล้วคิระเป็นแค่เด็ก เมื่อแอลยั่วยุไลท์ให้สันนิษฐานความเป็นไปได้ของคิระ ไลท์บอกว่า

    "คิระเป็นเด็กฐานะดี ดูจากความคิดที่ว่าจะฆ่าอาชญากรเพื่อลดจำนวนและเชือดไก่ให้ลิงดูไปพร้อมๆ กันเพื่อให้โลกนี้ดีขึ้น ก็น่าจะเป็นแค่เด็กประถมปลายไปจนถึง ม.ปลาย..." อ่านแล้วคิดถึงวิธีแก้สถานการณ์ภาคใต้

    "ถ้าเป็นเด็กกว่านี้ก็คงจะกลัวความสามารถนี้จนไม่กล้าใช้หรือแค่ฆ่าคนที่อยู่ใกล้ตัว" ความจริงคือเด็กต่ำกว่าสิบขวบยังไม่เข้าใจเรื่องความตายอย่างที่ควรจะเป็น

    "แต่ถ้าเป็นคนอายุเยอะกว่านี้ก็จะใช้เพื่อประโยชน์ของตัวเอง ถ้าจะใช้ความสามารถนี้เพื่อให้เป็นคนเด่นคนดังหรือเพื่อความร่ำรวยก็มีวิธีให้คิดได้" คล้ายๆ จะพูดถึงคุณก็รู้ว่าใครในสถานการณ์ภาคใต้อีกหน

    ขณะที่เขียนต้นฉบับนี้ วางตลาดถึงเล่ม 5 ปรากฏคิระหมายเลข 2 ขึ้นแล้ว คิระหมายเลข 2 สามารถฆ่าคนโดยไม่ต้องรู้ชื่อ !

    คำพูดสั้นๆ ของหัวหน้าหน่วยสืบสวนซึ่งเป็นบิดาของ ยางามิ ไลท์ อาจจะเป็นคำพูดที่บรรยายเนื้อหาของเดธโน้ตได้ดีที่สุด

    "สิ่งที่เลวจริงๆ ก็คือความสามารถที่ฆ่าคนได้"




    ที่มา

    บทความนี้ลงใน มติชนสุดสัปดาห์ วันที่ 07 ตุลาคม พ.ศ. 2548 ปีที่ 25 ฉบับที่ 1312 หน้า 90

    สืบค้นจาก

    http://www.matichon.co.th/weekly/weekly.php?page=1&srctxt=การ์ตูนที่รัก&selday=&allpage=4&search=no&srctag=&srcday=



    che ery

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×