ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : part 2
ตอน เพื่อนใหม่ไม่เหมือนเพื่อนเก่า
ยามรุ่งอรุณ ณ คลินิก Dive to Blue ของหมอโรคจิตบีออซ บีออซตื่นก่อนซากิโตะตั้งแต่ตีห้ามาก็เปิดทำการทำงานแล้ว ซากิโตะยังหลับกรนเสียงดังไปถึงข้างนอก คนฟังก็รู้สึกได้ยินแล้วเดินต่อไป คงจะมีคนที่อยู่ใกล้คลินิกสักคนบ้างที่ถามคุณหมอบีออซเรื่องเสียงกรนของซากิโตะดังไปถึงที่คนนั้นอยู่
บีออซอ่านวรรณกรรมบ้าบอคอแตกไว้ช่วยซากิโตะเป็นประจำ บางครั้งก็ต้องมีส่วนร่วมความคิดเห็นให้ซากิโตะนำมันไปคิด คิดได้ดีเสียด้วยสิ เพราะซากิโตะมักถนัดกับนิสัยตน ทุกอย่างจะบ้าบอคอแตกเพราะซากิโตะนำไปคิด และบีออซก็รู้ว่า มันทำให้คนเราประสาทจะแ-กได้ง่าย
จุดบกพร่องมากมาย ในสายตาของหมอบีออซ แต่ก็ไม่ละหน้าที่ที่จะบอกให้ซากิโตะลืมแก้ไข เมื่อแก้ไขจุดบกพร่องเสร็จ ก็ยังคงขาดแนวเขียนอย่างเดิมไม่ได้ ซากิโตะไม่ได้มีประสบการณ์มากไปกว่าความคิดของตัวเอง หมอเองก็ไม่เก่งในด้านนี้เท่าไหร่ แต่เป็นคนที่สื่อสารแล้วใครๆก็เข้าใจมากกว่า
สิบเอ็ดนาฬิกา ซากิโตะเพิ่งตื่นขึ้น เมื่อคินนี้เล่นคอมพิวเตอร์จนดึกและฤทธิ์กาแฟที่ทำให้ซากิโตะนอนไม่หลับในช่วงก่อนเที่ยงคิน แต่เมื่อคินนี้คงนอนเลยเที่ยงคินเข้าถึงได้ตื่นซะหลังเช้า นี่มันใกล้จะเที่ยงเข้าไปแล้ว ซากิโตะขยี้ตาตัวเองแล้วหมอบีออซจะตักเตือนสักเล็กน้อย
"อย่าใช้มือขยี้ตา ซากิโตะต้องใช้ผ้าสะอาดๆ แล้วก็ใช้ผ้าชุบน้ำ จะได้ตื่นตัวได้ ไปล้างหน้าก่อนแล้วมารับประทานอาหารอร่อยๆกับพี่"
"โอเค ฉันยังงัวเงียอยู่ ฉันจะล้างหน้าให้มันหาย"
ซากิโตะกลับไปเข้าห้องน้ำ เปิดก๊อกน้ำแล้วน้ำไหลรินลงฝ่ามือ ใช้มือเช็ดใบหน้าที่คล้ำเสียไปกับสิว บางสิวเป็นหนองไปแล้ว แต่จิตใจของซากิโตะก็ยังไม่เคยป้องกันสิยเอง คิดว่าเป็นเพราะฮอร์โมนเพศโดยไม่คิดวิธีทำความสะอาดด้วยโฟมล้างหน้า และการกินอาหารมากทำให้ไขมันเพิ่มจนล้นออกมาเป็นสิวที่หน้า หลังจากที่สิวเป็นหนองก็มักจะหลุดด้วยการใช้มือปัดในบางเวลา ไม่ได้ช่วยอะไร มันคงทำให้สิวลุกลามและสิวเก่าก็ทิ้งลอยแผลเป็นเอาไว้
ถ้ามองซากิโตะไกลๆ ยังดูดีกว่าตอนมองใกล้ๆ ซากิโตะเสียบุคลิกไปกับสิวและรอยย่นบนหน้าผากใกล้กับคิ้วสองข้าง
สี่นาทีเสร็จ ซากิโตะออกจากห้องน้ำ แต่ว่าวันนี้ยังคงได้สวมเสื้อผ้าอย่างเก่า และเป็นคนที่ไม่ค่อยอาบน้ำเท่าไหร่ ถ้าวันไหนอาบน้ำก็มักอาบหลายครั้งในวันเดียวแล้วนุ่งเพียงผ้าเช็ดตัวตัวเดียว ในสายตาบีออซมองว่าซากิโตะมันคิดจะขี้เกียจไปอย่างนี้ตลอดดีหรือ
กริงก่อง
ออดหน้าประตูไพเราะเพราะพริ้ง บีออซได้ยินแล้วมองประตูแก้วประดับด้วยกระดิ่ง นักศึกษาสาวในชุดนักศึกษา ใบหน้าเธออวบกลมและกว้างใหญ่สมกับเป็นนักศึกษาที่เรียนสูง หน้าเหมือนชินจัง
นักศึกษาเห็นหน้าบีออซแล้วก้าวเข้าคลินิกไปพบกับบีออซที่ยังคงนั่งเก้าอี้ มีโต๊ะไม้มะฮอกกานีราคาแพงเป็นที่วางงานและนิตยสารหลายเล่ม และนักศึกษาสาวยิ้มแย้มให้หมอบีออซและพูดกล่าว
"ซากิโตะอยู่ไหมคะ อยู่ไหนเหรอคะ"
"อยู่ที่ห้องส่วนตัวน่ะโพเมโล่ กำลังหากรอบศีษะครอบหัว เตรียมตัวจะไปข้างนอกกับพี่"
"หนูกำลังมาจีบพี่ซากิโตะค่ะ แต่ไม่รู้ว่าซากิโตะมักจะว่างในเวลาไหน"
บีออซยิ้มเยาะโพเมโล่ที่ยืนหน้าแดงและตอบอย่างน่าตอบ
"ซากิโตะมันเป็นคนว่างงานมักจะว่างเกือบทุกเวลาแหละ แต่มันทำตัวขี้เกียจเกินไปหน่อยเท่านั้นเอง นานๆทีเขาแบ่งเวลาให้กับนิติศาสตร์นะ แต่เขามาใช้ชีวิตที่คลินิกซึ่งหนีพ่อแม่มา เพราะอาจจะทะเลาะเบาะแว้งกับคนที่บ้าน ก็จึงขออยู่คนเดียวไม่พบครอบครัว และอยากทำในสิ่งที่ชอบก็ยังไม่ได้ทำให้ดี ซากิโตะต้องการทั้งเงินและทำตามใจตนเอง"
ซากิโตะเตรียมตัวพร้อม เดินออกมาจากห้องส่วนตัว แล้วเห็นจิตแพทย์นั่งคุย มองหน้ากับนักศึกษาสาวที่ยืนอยู่ชิดโต๊ะ กิริยามารยาทของฝ่ายหญิงทำให้บีออซเริ่มขยับถอยหลังไปสักนิดแล้วจึงมองหน้าสนทนาได้ นักศึกษาหันไปมองเห็นซากิโตะเข้า เรื่องที่อยากจะพูดจะได้พูด
"พี่ซากิโตะคะ มีนักศึกษาติดตามพี่อยู่หลายคนเชียวนะ งานพี่ถึงจะไม่ได้เรื่อง แต่คนเป็นออทิสติคอย่างพี่กลับทำให้วงการตะลึงใหญ่เลยล่ะ วงการนักเขียนกำลังค้นพบคนหน้าใหม่ ที่ชื่นชอบในการเขียนงานออกแนวเฉพาะตัว แต่พี่ยังไม่ถึงขั้นสูงสุดของฝีมืออาชีพ ถ้างานพี่ดี พี่จะรักงานเขียนมากกว่านี้ และหนูจะชอบพี่มากกว่านี้"
"โพเมโล่นั่นเอง พี่ชอบงานเขียน เพราะเมื่อก่อนเคยลองวาดการ์ตูนเล่นๆส่งอินเตอร์เน็ท แต่เดี๋ยวนี้มันไม่เก่งไม่ได้พัฒนา พี่จึงไม่ยอมรับในคุณสมบัติด้านการ์ตูนของตัวเอง พี่เลยหันเหชีวิตมาทางนี้ กำลังศึกษาแนวทางที่ใช่ และก็ศึกษาอะไรที่ให้ข้อมูลต่างๆกับความคิด ถ่ายทอดออกมาเป็นงาน เพื่อความสุขของทุกคน เมื่ออยากให้ความสุขกับทุกคน พี่จึงขี้เกียจทำงานอยู่บ้าง ประสบการณ์มีนน้อยเกินไป ที่จะยอมรับงานที่ทำ แต่ว่าก็มีคนติดต่อจากโรงเรียนศิลปะลึกลับให้ใช้งานบ้างล่ะ ถ้าเป็นการเป็นงานแล้วพี่จึงได้เขียนงานส่ง เคยอ่านมาบ้างใช่ไหม"
"เรื่องของพี่บ้าบอคอแตกเกินกว่าที่เขาจะยอมรับพี่ให้เป็นนักเขียนอะ"
ซากิโตะรู้สึกหน้าแดงฉ่า เพราะซากิโตะทำงานแล้วมักชอบงานนั้นโดยไม่คำนึงถึงอะไร ไม่คำนึงถึงจุดสำคัญของงานที่ผู้อื่นเขาวิจารณ์
บีออซมองหน้าปัดนาฬิกาแล้วเงยหน้ามองโพเมโล่
"พี่และซากิโตะจะไปร้านอาหารแถวๆนี้น่ะ น้องอยากอยู่เฝ้าคลินิกให้พี่ไหม"
"ได้สิคะ เพราะคณะของหนูที่เรียนมา คือ แพทย์เหมือนพี่บีออซไง "
"ใกล้จะจบแล้วสินะ เก่งหนิ ว่าแต่ จะเข้าสายจิตแพทย์หรือเปล่า หรือแพทย์อื่นๆ"
"โทษค่ะ ....... หนูเป็น ทันตแพทย์ แต่หนูกับเพื่อนใหม่ๆของหนูสองคนตะช่วยเฝ้าให้ค่ะ"
ยังมีนักศึกษาสาวอีกสองคนที่ยินอยู่หน้าคลินิก กำลังคุยกันเรื่องส่วนตัว คนนึงก็คุยไปแล้วโทรศัพท์ไปด้วย อาจจะเป็นเรื่องเรียนที่ศึกษาอยู่ แล้วโพเมโล่ก็มาเปิดประตูแก้ว กระดิ่งประตูสั่นไหว มองหน้าสาวทั้งสองแล้วขยิบตาซ้ายเป็นเชิงชวนให้เข้ามาได้
สามสาวเดินสวนกับสองหนุ่ม สองหนุ่มเป็นคู่หูที่แตกต่าง แต่ร่างกายก็ดูไม่ค่อยต่างกัน เพียงแค่ทรงผมของหมอบีออซมันเป็นเด็กแนวเท่านั้นเอง
"ร้านริมทางหรือห้างสรรพสินค้าล่ะพี่บีออซ"
"ถ้าร้านริมทาง พี่จะกินข้าวมันไก่เป็นเพื่อน ถ้าจะกินเคเอฟซีก็เข้าห้าง"
"ผมอยากกินข้าวมันไก่อยู่นะ แต่กินเสร็จแล้วขอกินไอศกรีมต่อ"
"ได้เลย พี่จะพาไปร้านริมทางก่อนแล้วค่อยไปห้าง"
ทั้งสองเดินเคียงคู่กัน แต่อย่ามองว่าเป็นคู่รักกัน เดี๋ยวจะเอียน กินข้าวไม่ลง ความรู้สึกหล่นหาย
ริมถนนปลอดภัยสำหรับผู้คน เดี๋ยวนี้ประชากรโรงเรียนเพิ่มขึ้นเนื่องจากโรงเรียนรับสมัครไม่หยุดหย่อน ประชากรใช้รถยนต์กันมากมาย เวลาวิ่งบนถนนแล้วอาจจะเกิดอุบัติเหตุ ค่อนข้างอันตรายกับคนข้ามถนนโดยไม่ใช้สะพานลอย แต่สะพานลอยก็มีคนโชคไม่ดีเจอพวกเรียกค่าไถ่เมื่อยามปลอดคน
รถยนต์สิบล้อคันใหญ้วิ่งผ่านไปข้างหน้า ควันคาร์บอนมอนอกไซด์ก็ปล่อยให้ทั้งสองปิดจมูก บีออซขอบ่นอะไรสักหน่อยให้ซากิโตะฟัง
"แย่จริงๆ ควันดำแบบนี้ไม่นานคงถูกจราจรจับ ใช้น้ำมันอะไรกัน แล้วทำไมไม่รณรงค์กันปลูกต้นไม้กลางถนน จะได้บรรยากาศดีกว่านี้ ไม่ต้องให้ประชากรไม่สบาย"
"ผมก็เห็นด้วยล่ะพี่ แต่ทำไมถึงได้ปล่อยปะละเลยให้อยู่แบบนี้"
"มันคงไม่พอใจขี้หน้าซากิโตะล่ะมั้ง ประเทศถึงไม่ค่อยพัฒนาที่มีคนอย่างซากิโตะอยู่"
"มันเกี่ยวด้วยเหรอพี่"
"ไม่เกี่ยว แต่อยากให้คิดดีดี ก็เรามีส่วนที่ทำเรื่องไม่ดี ก็อาจจะพบแต่สิ่งไม่ดีใช่เปล่า ซากิโตะเคยเป็นคนแบบไหนล่ะ ก่อนจะหันเหชีวิตไปทางหนึ่ง"
"ใช่ เมื่อก่อนโง่ แต่ตอนนี้ฉลาด"
"มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเอาตัวเองให้รอดสักหน่อย มันขึ้นอยู่กับจิตใจแก มีส่วนที่ทำให้ชีวิตแกเจออะไรไม่คาดคิด อย่าคิดว่าเอาแต่ความสบายใส่ตัว ใครชอบคนเห็นแก่ตัว และคนขยันแข็งแกร่งมักจะมีชีวิตที่ประสบความสำเร็จ พูดไปแล้วเหมือนซากิโตะจะรู้มากอยู่แล้ว ซากิโตะก็ยังเป็นคนแบบเดิมๆ "
"ผมจะไม่เป็นอะไรหรอกพี่ ผมมีสิ่งหนึงที่อยากปกป้อง และมองโลกในแง่กึ่งจะดีว่า ผมไม่เป็นอะไรง่ายๆหรอกพี่ พี่สามารถเชื่อใจผมได้ ไม่อยากให้เป็นห่วง เดี๋ยวพี่จะไม่ยุ่งกับผม"
ถึงร้านข้าวมันไก่ หน้าร้านมีโต๊ะและเก้าอี้พลาสติกเรียงราย เกือบจะเที่ยงนี้คนเริ่มมาเข้าร้านเรื่อยๆ ซากิโตะท้องร้องออกมาเมื่อเห็นคนกำลังรับประทานอาหาร ซึ่งตนเองไมได้กินข้าวเช้ามาเลยยิ่งทำให้อยากจะกินข้าวมากขึ้น บีออซเดินไปหาโต๊ะ เตรียมที่นั่งให้ซากิโตะแล้ว
อาเฮียเจ้าของร้านเป็นคนทำอาหารอร่อย จึงมีคนมาเข้าเยอะ โดยเฉพาะตอนเช้าจะเยอะกว่าที่คิด ซากิโตะเคยได้ยินมาจากครอบตรัวว่า ข้าวมันไก่เขากินกันตอนเช้า เขาไม่กินกันในเวลาอื่น จริงๆอย่างที่ครอบครัวบอก
"ข้าวมันไก่สองที่มาแล้วครับ รับแกงจืดด้วยครับ" เจ้าของร้านทำหน้าที่อย่างดี
บีออซและซากิโตะรับประทานอย่างเต็มที่ ทั้งไก่ ข้าว เลือด ตับ แตงกวา แต่บีออซสังเกตเห็นว่าซากิโตะไม่ได้กินผักชีที่โรยหน้าไว้แต่แรก จึงใช้ส้อมจิ้มผักชีไปกินเสียเอง
"พี่บีออซ ผมมีเรื่องอะไรจะเล่าให้พี่ฟังหน่อย"
"หืม" หมอได้ยิน กำลังรับฟังคู่หู
"เพื่อนเก่าและเพื่อนใหม่ของผมอะ ไม่เหมือนกัน บางพวกของผมเองที่เป็นแกงค์ซ่าส์ทำให้เห็นถึงความแตกต่าง ผมอยากจะถามว่า เพื่อนเก่าของผมอะ ในสายตาพี่จะรู้สึกอย่างไร"
"มันก็ไม่ดีใช่มั้ย ที่ชอบมาตอแยไม่เหมือนห่วงตัวเรา แล้วไม่มีเหตุผลเรื่องเงิน และคำแนะนำต่างๆล้วนไม่ใช่สิ่งซากิโตะต้องการ"
"ผมกลับมาคิดได้แล้ว ผมไม่ได้ฃอบมัน ยิ่งเพื่อนใหม่ผมมันยิ่งบอกความจริง ยิ่งไม่อยากให้มีเพื่อนเก่าคนนี้เลยก็ดี มันเอาแต่ห่วงบางอย่าง ผู้หญิงหรือไงไม่รุ้อะที่มันห่วง แต่มันไม่ได้ห่วงผมเลยสักกะนิด ทำยังไงถึงจะไม่ต้องให้มันมารังควาญ ผมว่ามันคงจะคิดได้ถ้าให้คนอื่นที่เห็นใจผมพูดให้มัน มันอาจจะยอมรับฟังคนอื่นมากกว่าผม มันปริ้นปร้อนแล้วโกหกมาก่อน ทำไมไม่ยอมเป็นคนที่ยอมรับความแตกต่าง ผมยังไม่เข้าใจความคิดมัน ถ้าใครคิดว่าเดี๋ยวนี้ยังสนิทกับมัน ยังชอบมันก็บ้าแล้ว ผมมาคิดทีหลังว่า มันเองก็ไม่ชอบเราจริงๆ ตูก็ไม่ชอบมัน แล้วหวังเหรอว่าจะมาสนิทกับคนอย่างตู เชอะ คนอย่างซากิโตะมันหนังเหนียวไม่ได้ตายง่ายๆหรอก ซากิโตะมั่นใจเลย"
"มันก็แกล้งมาทีว่า แกมันไม่มีเพื่อน แล้วมันก็ทำตัวเป็นเพื่อนหลอกๆงั้นใช่มั้ย แล้วเมื่อไหร่มันมีใครมาพัวพันกับมันเรื่องแก มันจะไม่เคยคิดจะยอมรับคนอย่างแกได้เลย"
"มันไม่ยอมรับน่ะสิ เงินที่มันเอาไปนะ ไม่รู้ว่ามันใช้จริงหรือเปล่า ผมสันนิษฐานช้าไปหน่อยว่า มันเอาเงินไปซื้อบุหรี่ มันเคยบอกว่า อะไร อะไร คนสูบบุหรั่ต้องปากดำ ..... สังเกตอยู่แล้ว เรามันปากดำก่อนมันอีกทั้งๆที่ไม่ได้ลอง มันเองเป็นคนลองบุหรี่ใช่ไหมเนี่ย ไม่เคยเห็น แต่เพื่อนใหม่ผมชอบเปิดเผยเสียจนผมต้องไปกับเพื่อนใหม่ด้วย ชีวิตใหม่กับบุหรี่ แล้วเพื่อนเก่าอะนะ มันบอกว่าไรรุ้ไหม บอกว่า กลัวที่เราจะสูบ ไม่เข้าใจมัน มันเป็นคนไม่ยุติธรรมเอง ที่ไม่ชอบเรา มันจึงไม่มีทางยอมรับเราง่ายๆ "
"แล้วทำไมถึงไม่เจอเพื่อนใหม่ๆที่เขาไปกันได้กับซากิโตะล่ะ?"
"ผมไม่แน่ใจเหมือนกัน ว่ามันต้องการให้ผมลองบุหรี่กับเขาหรือความจริงแล้วผมไม่จำเป็นต้องลอง ถ้าไม่จำเป็นล่ะก็ มันก็ไม่คบกับคนอย่างผม ผมหาคนยอมรับยากอยู่ด้วย"
"สูบมากหรือเปล่า แล้วอาการดีขึ้นหรือจะแย่ลง"
"ผมคิดว่า....มันยังเหมือนเดิม ไม่ค่อยได้ประโยขน์ และตัวเองก็ยังไม่เป็นอะไรเลย"
บีออซรับฟังอย่างดีมาตลอด เรื่องราวต่างๆก็อยากให้ซากิโตะแค่ทำใจกับชีวิตเท่านั้น บีออซหันหน้าไปทางอื่น เห็นคนอื่นกำลังกินข้าวมันไก่อย่างเอร็ดอร่อย แต่พอกินเสร็จแล้วคนคนนั้นก็หยิบหนังสือหนาๆเล่มหนึ่งมาอ่าน แล้วคนอื่นที่ห่างออกไปนั้นมีคนสูบบุหรี่ด้วย
"ซากิโตะ คนเรามันไม่ได้คิดอะไรมากเลย ก็ยังอยู่เป็นปกติได้ ซากิโตะจะคิดมากเกินไปก็เพลาๆเถอะ"
อาเฮียมาเช็คดูโต๊ะบีออซกับซากิโตะ เก็บเงินจากบีออซเสร็จก็ไปเก็บเงินที่โต๊ะอื่นๆ
"วันนี้ข้าวมันไก่อร่อยดีนะ" บีออซอารมณ์ดีบอกซากิโตะ
"สำหรับผมกินที่ไหนมันก็อร่อย เคยอยากเปรียบเทียบรสชาติของแต่ละร้านด้วยล่ะ เหอๆ "
มือถือของบีออซดังขึ้นขัดจังหวะ บีออซล้วงกระเป๋ารับ แล้วเดินออกห่างจากซากิโตะไป ไม่นานนักซากิโตะเองก็ได้ยินโทรศัพท์ของตัวเอง แล้วกดรับด้วยเช่นกัน
"ฮัลโหลครับ ซากิโตะสปิริคครับ ว่าไงนะครับ อยากให้เขียนเรื่องฮาร์ฟจีซัสต่อภาคสองหรอครับ เออผมไม่มีประสบการณ์มากมาย ผมเขียนแค่ห้าบทจบแล้วจริงๆครับ ผมขอแค่นั้นจริงๆ แต่ว่าถ้างานอื่นๆ ผมจะลองพิจารณาก่อนครับ เอ่อ คุณช่วยบอกแนวงานหน่อยครับ ว่าผมจะถนัดหรือเปล่า ครับ ครับ ขอบคุณครับ"
ซากิโตะหันกลับมามองบีออซ บีออซก็เพิ่งโทรศัพท์เสร็จ แล้วหันมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียดบอกไม่ถูก
"ลูกค้าของพี่ไม่ได้รับการรักษาเลยไปที่อื่น บางคนกลับรู้สึกหายดีแล้วเลิกบริการจากพี่"
"เหลือผมคนนึงที่พี่ยังคุยอยู่ด้วย พี่ภูมิใจเถอะ"
"กับซากิโตะ มันไม่ได้ภูมิใจหรอกเฟ้ย ไป ไปกินไอศกรีมกัน"
ชีวิตมันมีค่า หาความสุขได้ ชีวิตจึงมีความหมาย
แล้วชีวิตไม่ได้เกิดมาด้อยไปทุกอย่าง
มันอยู่ที่การกำหนดชีวิต เราเอง ไม่ใช่ดวงดาวกำหนด
======================================
ตอน ต้องขอโทษคืนไป ที่ทะเลาะกัน
"ซากิโตะ"
"อ๊ะ" ซากิโตะขานรับ "อะไรหรอพี่บีออซ"
"สูบบุหรี่เนี่ย ถ้าไม่พร่ำเพื่อ แสดงว่าคงมีเรื่องกลุ้มใจใช่ไหม"
"ผมทะเลาะกับพี่มา แต่พี่มันก็กล้าโต้ตอบผม ใครจะรู้ว่า พี่ตัวเองแท้ๆยังต้องมีเรื่องทะเลาะกัน ผมคิดมากเลยล่ะว่า มันน่ะ ไม่ได้กลัวผมเลยสักกะนิดเดียว"
"เราเป็นน้องเขาเราได้ขอโทษเขาไหม"
"ผมยังไม่ขอโทษเขาที่ผมยั่วด้วยสำเนียงที่พูดให้มันฟังแล้วรู้สึกไม่ชอบ แล้วมันกลับท้าทายผม เป็นครั้งแรกที่ผมตะลุมบอนกับพี่ตัวเอง ผมนี่รู้สึกแปลกใจมานานแล้วล่ะ ว่าพี่ถูกสะกดจิต เขาเป็นอะไรของเขาถึงได้ทำแบบนั้น เพื่อนเก่าผมใช่ไหมนะที่ยังพัวพันกับชีวิตผมอยู่ พี่ผมเลยถูกมันสะกดจิต"
"แล้วจากนั้น ก็ไม่ได้โกรธอะไรกับพี่ตัวเองใช่ไหม แต่กลัวปัญหาจะเกิดตามมา ถึงได้หนีมาอยู่กับหมอ"
"ฟังแล้วใจหาย หนีมาอยู่กับหมอ ไม่ได้หมายความว่าเป็นคนไข้หนิ แต่เอาเถอะ ผมพยายามทำใจยอมรับโลกที่เปรียบดั่งนรกขุมลึกๆใบนึงให้ได้ จะให้สลับตัวให้พี่เรียนนิติศาสตร์แทนก็ไม่ได้ เบื่อเซ็ง แล้วผมก็ไม่สามารถเป็นคนที่ทำงานทำการอะไรสักอย่างได้ ไม่มีวิธีให้ทางบ้านเลี้ยงเราไปตลอดชีวิต แล้วการศึกษาก็ไม่ได้ใส่ใจมัน อนาคตกำลังจะไม่มี"
"ซากิโตะ อืม ซากิโตะเคยยอมรับกับการอาศัยอยู่กับบ้านไหม"
"กำลังยอมรับ สักวันจะกลับไปหา แต่พี่ผมมันก็เหมือนเดิมล่ะ เพื่อนเก่าก็ไม่ชอบ พี่ก็ไม่ชอบ ไอ้สองตัวนี่มันโคตรเห็นแก่ตัวชะมัด แบบว่าไม่ยอมรับความแตกต่างบ้างหรือไง และพี่ชายผมเริ่มแผลงฤทธิ์อะ กำลังเก็บตัวอยู่ ผมไม่โกรธอะไรพี่ เพียงแค่ต้องการอะไรสักอย่างที่ทำให้ผมจะไม่โกรธ ผมอยากให้เรื่องมันจบไป ไม่ต้องมาหนีกับปัญหาชีวิตอีก"
"ซากิโตะต้องการอะไร"
"กราบบาทาข้าพเจ้าซะ และข้าพเจ้าจะยกโทษให้ ไม่ว่า ลืมเรื่องทะเลาะ และเรื่องความรัก กราบมาซะดีดี งามๆล่ะ จะได้ภูมืใจ ไม่โกรธแค้นเคือง"
บีออซขำไปชั่วขณะกับความคิดของซากิโตะ
"ลืมๆมันไปเถอะ หมอไม่รู้จะทำไง"
"อืม ผมขอโทษละกัน"
"ไชโย ไชโย เท่ากับว่า ซากิโตะขอโทษพี่ตัวเองได้แล้ว ไชโย ซากิโตะสำนึกแล้ว"
"อ้าว วางหมากอย่างดีเลยเหรอหมอ"
===================================
ยามรุ่งอรุณ ณ คลินิก Dive to Blue ของหมอโรคจิตบีออซ บีออซตื่นก่อนซากิโตะตั้งแต่ตีห้ามาก็เปิดทำการทำงานแล้ว ซากิโตะยังหลับกรนเสียงดังไปถึงข้างนอก คนฟังก็รู้สึกได้ยินแล้วเดินต่อไป คงจะมีคนที่อยู่ใกล้คลินิกสักคนบ้างที่ถามคุณหมอบีออซเรื่องเสียงกรนของซากิโตะดังไปถึงที่คนนั้นอยู่
บีออซอ่านวรรณกรรมบ้าบอคอแตกไว้ช่วยซากิโตะเป็นประจำ บางครั้งก็ต้องมีส่วนร่วมความคิดเห็นให้ซากิโตะนำมันไปคิด คิดได้ดีเสียด้วยสิ เพราะซากิโตะมักถนัดกับนิสัยตน ทุกอย่างจะบ้าบอคอแตกเพราะซากิโตะนำไปคิด และบีออซก็รู้ว่า มันทำให้คนเราประสาทจะแ-กได้ง่าย
จุดบกพร่องมากมาย ในสายตาของหมอบีออซ แต่ก็ไม่ละหน้าที่ที่จะบอกให้ซากิโตะลืมแก้ไข เมื่อแก้ไขจุดบกพร่องเสร็จ ก็ยังคงขาดแนวเขียนอย่างเดิมไม่ได้ ซากิโตะไม่ได้มีประสบการณ์มากไปกว่าความคิดของตัวเอง หมอเองก็ไม่เก่งในด้านนี้เท่าไหร่ แต่เป็นคนที่สื่อสารแล้วใครๆก็เข้าใจมากกว่า
สิบเอ็ดนาฬิกา ซากิโตะเพิ่งตื่นขึ้น เมื่อคินนี้เล่นคอมพิวเตอร์จนดึกและฤทธิ์กาแฟที่ทำให้ซากิโตะนอนไม่หลับในช่วงก่อนเที่ยงคิน แต่เมื่อคินนี้คงนอนเลยเที่ยงคินเข้าถึงได้ตื่นซะหลังเช้า นี่มันใกล้จะเที่ยงเข้าไปแล้ว ซากิโตะขยี้ตาตัวเองแล้วหมอบีออซจะตักเตือนสักเล็กน้อย
"อย่าใช้มือขยี้ตา ซากิโตะต้องใช้ผ้าสะอาดๆ แล้วก็ใช้ผ้าชุบน้ำ จะได้ตื่นตัวได้ ไปล้างหน้าก่อนแล้วมารับประทานอาหารอร่อยๆกับพี่"
"โอเค ฉันยังงัวเงียอยู่ ฉันจะล้างหน้าให้มันหาย"
ซากิโตะกลับไปเข้าห้องน้ำ เปิดก๊อกน้ำแล้วน้ำไหลรินลงฝ่ามือ ใช้มือเช็ดใบหน้าที่คล้ำเสียไปกับสิว บางสิวเป็นหนองไปแล้ว แต่จิตใจของซากิโตะก็ยังไม่เคยป้องกันสิยเอง คิดว่าเป็นเพราะฮอร์โมนเพศโดยไม่คิดวิธีทำความสะอาดด้วยโฟมล้างหน้า และการกินอาหารมากทำให้ไขมันเพิ่มจนล้นออกมาเป็นสิวที่หน้า หลังจากที่สิวเป็นหนองก็มักจะหลุดด้วยการใช้มือปัดในบางเวลา ไม่ได้ช่วยอะไร มันคงทำให้สิวลุกลามและสิวเก่าก็ทิ้งลอยแผลเป็นเอาไว้
ถ้ามองซากิโตะไกลๆ ยังดูดีกว่าตอนมองใกล้ๆ ซากิโตะเสียบุคลิกไปกับสิวและรอยย่นบนหน้าผากใกล้กับคิ้วสองข้าง
สี่นาทีเสร็จ ซากิโตะออกจากห้องน้ำ แต่ว่าวันนี้ยังคงได้สวมเสื้อผ้าอย่างเก่า และเป็นคนที่ไม่ค่อยอาบน้ำเท่าไหร่ ถ้าวันไหนอาบน้ำก็มักอาบหลายครั้งในวันเดียวแล้วนุ่งเพียงผ้าเช็ดตัวตัวเดียว ในสายตาบีออซมองว่าซากิโตะมันคิดจะขี้เกียจไปอย่างนี้ตลอดดีหรือ
กริงก่อง
ออดหน้าประตูไพเราะเพราะพริ้ง บีออซได้ยินแล้วมองประตูแก้วประดับด้วยกระดิ่ง นักศึกษาสาวในชุดนักศึกษา ใบหน้าเธออวบกลมและกว้างใหญ่สมกับเป็นนักศึกษาที่เรียนสูง หน้าเหมือนชินจัง
นักศึกษาเห็นหน้าบีออซแล้วก้าวเข้าคลินิกไปพบกับบีออซที่ยังคงนั่งเก้าอี้ มีโต๊ะไม้มะฮอกกานีราคาแพงเป็นที่วางงานและนิตยสารหลายเล่ม และนักศึกษาสาวยิ้มแย้มให้หมอบีออซและพูดกล่าว
"ซากิโตะอยู่ไหมคะ อยู่ไหนเหรอคะ"
"อยู่ที่ห้องส่วนตัวน่ะโพเมโล่ กำลังหากรอบศีษะครอบหัว เตรียมตัวจะไปข้างนอกกับพี่"
"หนูกำลังมาจีบพี่ซากิโตะค่ะ แต่ไม่รู้ว่าซากิโตะมักจะว่างในเวลาไหน"
บีออซยิ้มเยาะโพเมโล่ที่ยืนหน้าแดงและตอบอย่างน่าตอบ
"ซากิโตะมันเป็นคนว่างงานมักจะว่างเกือบทุกเวลาแหละ แต่มันทำตัวขี้เกียจเกินไปหน่อยเท่านั้นเอง นานๆทีเขาแบ่งเวลาให้กับนิติศาสตร์นะ แต่เขามาใช้ชีวิตที่คลินิกซึ่งหนีพ่อแม่มา เพราะอาจจะทะเลาะเบาะแว้งกับคนที่บ้าน ก็จึงขออยู่คนเดียวไม่พบครอบครัว และอยากทำในสิ่งที่ชอบก็ยังไม่ได้ทำให้ดี ซากิโตะต้องการทั้งเงินและทำตามใจตนเอง"
ซากิโตะเตรียมตัวพร้อม เดินออกมาจากห้องส่วนตัว แล้วเห็นจิตแพทย์นั่งคุย มองหน้ากับนักศึกษาสาวที่ยืนอยู่ชิดโต๊ะ กิริยามารยาทของฝ่ายหญิงทำให้บีออซเริ่มขยับถอยหลังไปสักนิดแล้วจึงมองหน้าสนทนาได้ นักศึกษาหันไปมองเห็นซากิโตะเข้า เรื่องที่อยากจะพูดจะได้พูด
"พี่ซากิโตะคะ มีนักศึกษาติดตามพี่อยู่หลายคนเชียวนะ งานพี่ถึงจะไม่ได้เรื่อง แต่คนเป็นออทิสติคอย่างพี่กลับทำให้วงการตะลึงใหญ่เลยล่ะ วงการนักเขียนกำลังค้นพบคนหน้าใหม่ ที่ชื่นชอบในการเขียนงานออกแนวเฉพาะตัว แต่พี่ยังไม่ถึงขั้นสูงสุดของฝีมืออาชีพ ถ้างานพี่ดี พี่จะรักงานเขียนมากกว่านี้ และหนูจะชอบพี่มากกว่านี้"
"โพเมโล่นั่นเอง พี่ชอบงานเขียน เพราะเมื่อก่อนเคยลองวาดการ์ตูนเล่นๆส่งอินเตอร์เน็ท แต่เดี๋ยวนี้มันไม่เก่งไม่ได้พัฒนา พี่จึงไม่ยอมรับในคุณสมบัติด้านการ์ตูนของตัวเอง พี่เลยหันเหชีวิตมาทางนี้ กำลังศึกษาแนวทางที่ใช่ และก็ศึกษาอะไรที่ให้ข้อมูลต่างๆกับความคิด ถ่ายทอดออกมาเป็นงาน เพื่อความสุขของทุกคน เมื่ออยากให้ความสุขกับทุกคน พี่จึงขี้เกียจทำงานอยู่บ้าง ประสบการณ์มีนน้อยเกินไป ที่จะยอมรับงานที่ทำ แต่ว่าก็มีคนติดต่อจากโรงเรียนศิลปะลึกลับให้ใช้งานบ้างล่ะ ถ้าเป็นการเป็นงานแล้วพี่จึงได้เขียนงานส่ง เคยอ่านมาบ้างใช่ไหม"
"เรื่องของพี่บ้าบอคอแตกเกินกว่าที่เขาจะยอมรับพี่ให้เป็นนักเขียนอะ"
ซากิโตะรู้สึกหน้าแดงฉ่า เพราะซากิโตะทำงานแล้วมักชอบงานนั้นโดยไม่คำนึงถึงอะไร ไม่คำนึงถึงจุดสำคัญของงานที่ผู้อื่นเขาวิจารณ์
บีออซมองหน้าปัดนาฬิกาแล้วเงยหน้ามองโพเมโล่
"พี่และซากิโตะจะไปร้านอาหารแถวๆนี้น่ะ น้องอยากอยู่เฝ้าคลินิกให้พี่ไหม"
"ได้สิคะ เพราะคณะของหนูที่เรียนมา คือ แพทย์เหมือนพี่บีออซไง "
"ใกล้จะจบแล้วสินะ เก่งหนิ ว่าแต่ จะเข้าสายจิตแพทย์หรือเปล่า หรือแพทย์อื่นๆ"
"โทษค่ะ ....... หนูเป็น ทันตแพทย์ แต่หนูกับเพื่อนใหม่ๆของหนูสองคนตะช่วยเฝ้าให้ค่ะ"
ยังมีนักศึกษาสาวอีกสองคนที่ยินอยู่หน้าคลินิก กำลังคุยกันเรื่องส่วนตัว คนนึงก็คุยไปแล้วโทรศัพท์ไปด้วย อาจจะเป็นเรื่องเรียนที่ศึกษาอยู่ แล้วโพเมโล่ก็มาเปิดประตูแก้ว กระดิ่งประตูสั่นไหว มองหน้าสาวทั้งสองแล้วขยิบตาซ้ายเป็นเชิงชวนให้เข้ามาได้
สามสาวเดินสวนกับสองหนุ่ม สองหนุ่มเป็นคู่หูที่แตกต่าง แต่ร่างกายก็ดูไม่ค่อยต่างกัน เพียงแค่ทรงผมของหมอบีออซมันเป็นเด็กแนวเท่านั้นเอง
"ร้านริมทางหรือห้างสรรพสินค้าล่ะพี่บีออซ"
"ถ้าร้านริมทาง พี่จะกินข้าวมันไก่เป็นเพื่อน ถ้าจะกินเคเอฟซีก็เข้าห้าง"
"ผมอยากกินข้าวมันไก่อยู่นะ แต่กินเสร็จแล้วขอกินไอศกรีมต่อ"
"ได้เลย พี่จะพาไปร้านริมทางก่อนแล้วค่อยไปห้าง"
ทั้งสองเดินเคียงคู่กัน แต่อย่ามองว่าเป็นคู่รักกัน เดี๋ยวจะเอียน กินข้าวไม่ลง ความรู้สึกหล่นหาย
ริมถนนปลอดภัยสำหรับผู้คน เดี๋ยวนี้ประชากรโรงเรียนเพิ่มขึ้นเนื่องจากโรงเรียนรับสมัครไม่หยุดหย่อน ประชากรใช้รถยนต์กันมากมาย เวลาวิ่งบนถนนแล้วอาจจะเกิดอุบัติเหตุ ค่อนข้างอันตรายกับคนข้ามถนนโดยไม่ใช้สะพานลอย แต่สะพานลอยก็มีคนโชคไม่ดีเจอพวกเรียกค่าไถ่เมื่อยามปลอดคน
รถยนต์สิบล้อคันใหญ้วิ่งผ่านไปข้างหน้า ควันคาร์บอนมอนอกไซด์ก็ปล่อยให้ทั้งสองปิดจมูก บีออซขอบ่นอะไรสักหน่อยให้ซากิโตะฟัง
"แย่จริงๆ ควันดำแบบนี้ไม่นานคงถูกจราจรจับ ใช้น้ำมันอะไรกัน แล้วทำไมไม่รณรงค์กันปลูกต้นไม้กลางถนน จะได้บรรยากาศดีกว่านี้ ไม่ต้องให้ประชากรไม่สบาย"
"ผมก็เห็นด้วยล่ะพี่ แต่ทำไมถึงได้ปล่อยปะละเลยให้อยู่แบบนี้"
"มันคงไม่พอใจขี้หน้าซากิโตะล่ะมั้ง ประเทศถึงไม่ค่อยพัฒนาที่มีคนอย่างซากิโตะอยู่"
"มันเกี่ยวด้วยเหรอพี่"
"ไม่เกี่ยว แต่อยากให้คิดดีดี ก็เรามีส่วนที่ทำเรื่องไม่ดี ก็อาจจะพบแต่สิ่งไม่ดีใช่เปล่า ซากิโตะเคยเป็นคนแบบไหนล่ะ ก่อนจะหันเหชีวิตไปทางหนึ่ง"
"ใช่ เมื่อก่อนโง่ แต่ตอนนี้ฉลาด"
"มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเอาตัวเองให้รอดสักหน่อย มันขึ้นอยู่กับจิตใจแก มีส่วนที่ทำให้ชีวิตแกเจออะไรไม่คาดคิด อย่าคิดว่าเอาแต่ความสบายใส่ตัว ใครชอบคนเห็นแก่ตัว และคนขยันแข็งแกร่งมักจะมีชีวิตที่ประสบความสำเร็จ พูดไปแล้วเหมือนซากิโตะจะรู้มากอยู่แล้ว ซากิโตะก็ยังเป็นคนแบบเดิมๆ "
"ผมจะไม่เป็นอะไรหรอกพี่ ผมมีสิ่งหนึงที่อยากปกป้อง และมองโลกในแง่กึ่งจะดีว่า ผมไม่เป็นอะไรง่ายๆหรอกพี่ พี่สามารถเชื่อใจผมได้ ไม่อยากให้เป็นห่วง เดี๋ยวพี่จะไม่ยุ่งกับผม"
ถึงร้านข้าวมันไก่ หน้าร้านมีโต๊ะและเก้าอี้พลาสติกเรียงราย เกือบจะเที่ยงนี้คนเริ่มมาเข้าร้านเรื่อยๆ ซากิโตะท้องร้องออกมาเมื่อเห็นคนกำลังรับประทานอาหาร ซึ่งตนเองไมได้กินข้าวเช้ามาเลยยิ่งทำให้อยากจะกินข้าวมากขึ้น บีออซเดินไปหาโต๊ะ เตรียมที่นั่งให้ซากิโตะแล้ว
อาเฮียเจ้าของร้านเป็นคนทำอาหารอร่อย จึงมีคนมาเข้าเยอะ โดยเฉพาะตอนเช้าจะเยอะกว่าที่คิด ซากิโตะเคยได้ยินมาจากครอบตรัวว่า ข้าวมันไก่เขากินกันตอนเช้า เขาไม่กินกันในเวลาอื่น จริงๆอย่างที่ครอบครัวบอก
"ข้าวมันไก่สองที่มาแล้วครับ รับแกงจืดด้วยครับ" เจ้าของร้านทำหน้าที่อย่างดี
บีออซและซากิโตะรับประทานอย่างเต็มที่ ทั้งไก่ ข้าว เลือด ตับ แตงกวา แต่บีออซสังเกตเห็นว่าซากิโตะไม่ได้กินผักชีที่โรยหน้าไว้แต่แรก จึงใช้ส้อมจิ้มผักชีไปกินเสียเอง
"พี่บีออซ ผมมีเรื่องอะไรจะเล่าให้พี่ฟังหน่อย"
"หืม" หมอได้ยิน กำลังรับฟังคู่หู
"เพื่อนเก่าและเพื่อนใหม่ของผมอะ ไม่เหมือนกัน บางพวกของผมเองที่เป็นแกงค์ซ่าส์ทำให้เห็นถึงความแตกต่าง ผมอยากจะถามว่า เพื่อนเก่าของผมอะ ในสายตาพี่จะรู้สึกอย่างไร"
"มันก็ไม่ดีใช่มั้ย ที่ชอบมาตอแยไม่เหมือนห่วงตัวเรา แล้วไม่มีเหตุผลเรื่องเงิน และคำแนะนำต่างๆล้วนไม่ใช่สิ่งซากิโตะต้องการ"
"ผมกลับมาคิดได้แล้ว ผมไม่ได้ฃอบมัน ยิ่งเพื่อนใหม่ผมมันยิ่งบอกความจริง ยิ่งไม่อยากให้มีเพื่อนเก่าคนนี้เลยก็ดี มันเอาแต่ห่วงบางอย่าง ผู้หญิงหรือไงไม่รุ้อะที่มันห่วง แต่มันไม่ได้ห่วงผมเลยสักกะนิด ทำยังไงถึงจะไม่ต้องให้มันมารังควาญ ผมว่ามันคงจะคิดได้ถ้าให้คนอื่นที่เห็นใจผมพูดให้มัน มันอาจจะยอมรับฟังคนอื่นมากกว่าผม มันปริ้นปร้อนแล้วโกหกมาก่อน ทำไมไม่ยอมเป็นคนที่ยอมรับความแตกต่าง ผมยังไม่เข้าใจความคิดมัน ถ้าใครคิดว่าเดี๋ยวนี้ยังสนิทกับมัน ยังชอบมันก็บ้าแล้ว ผมมาคิดทีหลังว่า มันเองก็ไม่ชอบเราจริงๆ ตูก็ไม่ชอบมัน แล้วหวังเหรอว่าจะมาสนิทกับคนอย่างตู เชอะ คนอย่างซากิโตะมันหนังเหนียวไม่ได้ตายง่ายๆหรอก ซากิโตะมั่นใจเลย"
"มันก็แกล้งมาทีว่า แกมันไม่มีเพื่อน แล้วมันก็ทำตัวเป็นเพื่อนหลอกๆงั้นใช่มั้ย แล้วเมื่อไหร่มันมีใครมาพัวพันกับมันเรื่องแก มันจะไม่เคยคิดจะยอมรับคนอย่างแกได้เลย"
"มันไม่ยอมรับน่ะสิ เงินที่มันเอาไปนะ ไม่รู้ว่ามันใช้จริงหรือเปล่า ผมสันนิษฐานช้าไปหน่อยว่า มันเอาเงินไปซื้อบุหรี่ มันเคยบอกว่า อะไร อะไร คนสูบบุหรั่ต้องปากดำ ..... สังเกตอยู่แล้ว เรามันปากดำก่อนมันอีกทั้งๆที่ไม่ได้ลอง มันเองเป็นคนลองบุหรี่ใช่ไหมเนี่ย ไม่เคยเห็น แต่เพื่อนใหม่ผมชอบเปิดเผยเสียจนผมต้องไปกับเพื่อนใหม่ด้วย ชีวิตใหม่กับบุหรี่ แล้วเพื่อนเก่าอะนะ มันบอกว่าไรรุ้ไหม บอกว่า กลัวที่เราจะสูบ ไม่เข้าใจมัน มันเป็นคนไม่ยุติธรรมเอง ที่ไม่ชอบเรา มันจึงไม่มีทางยอมรับเราง่ายๆ "
"แล้วทำไมถึงไม่เจอเพื่อนใหม่ๆที่เขาไปกันได้กับซากิโตะล่ะ?"
"ผมไม่แน่ใจเหมือนกัน ว่ามันต้องการให้ผมลองบุหรี่กับเขาหรือความจริงแล้วผมไม่จำเป็นต้องลอง ถ้าไม่จำเป็นล่ะก็ มันก็ไม่คบกับคนอย่างผม ผมหาคนยอมรับยากอยู่ด้วย"
"สูบมากหรือเปล่า แล้วอาการดีขึ้นหรือจะแย่ลง"
"ผมคิดว่า....มันยังเหมือนเดิม ไม่ค่อยได้ประโยขน์ และตัวเองก็ยังไม่เป็นอะไรเลย"
บีออซรับฟังอย่างดีมาตลอด เรื่องราวต่างๆก็อยากให้ซากิโตะแค่ทำใจกับชีวิตเท่านั้น บีออซหันหน้าไปทางอื่น เห็นคนอื่นกำลังกินข้าวมันไก่อย่างเอร็ดอร่อย แต่พอกินเสร็จแล้วคนคนนั้นก็หยิบหนังสือหนาๆเล่มหนึ่งมาอ่าน แล้วคนอื่นที่ห่างออกไปนั้นมีคนสูบบุหรี่ด้วย
"ซากิโตะ คนเรามันไม่ได้คิดอะไรมากเลย ก็ยังอยู่เป็นปกติได้ ซากิโตะจะคิดมากเกินไปก็เพลาๆเถอะ"
อาเฮียมาเช็คดูโต๊ะบีออซกับซากิโตะ เก็บเงินจากบีออซเสร็จก็ไปเก็บเงินที่โต๊ะอื่นๆ
"วันนี้ข้าวมันไก่อร่อยดีนะ" บีออซอารมณ์ดีบอกซากิโตะ
"สำหรับผมกินที่ไหนมันก็อร่อย เคยอยากเปรียบเทียบรสชาติของแต่ละร้านด้วยล่ะ เหอๆ "
มือถือของบีออซดังขึ้นขัดจังหวะ บีออซล้วงกระเป๋ารับ แล้วเดินออกห่างจากซากิโตะไป ไม่นานนักซากิโตะเองก็ได้ยินโทรศัพท์ของตัวเอง แล้วกดรับด้วยเช่นกัน
"ฮัลโหลครับ ซากิโตะสปิริคครับ ว่าไงนะครับ อยากให้เขียนเรื่องฮาร์ฟจีซัสต่อภาคสองหรอครับ เออผมไม่มีประสบการณ์มากมาย ผมเขียนแค่ห้าบทจบแล้วจริงๆครับ ผมขอแค่นั้นจริงๆ แต่ว่าถ้างานอื่นๆ ผมจะลองพิจารณาก่อนครับ เอ่อ คุณช่วยบอกแนวงานหน่อยครับ ว่าผมจะถนัดหรือเปล่า ครับ ครับ ขอบคุณครับ"
ซากิโตะหันกลับมามองบีออซ บีออซก็เพิ่งโทรศัพท์เสร็จ แล้วหันมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียดบอกไม่ถูก
"ลูกค้าของพี่ไม่ได้รับการรักษาเลยไปที่อื่น บางคนกลับรู้สึกหายดีแล้วเลิกบริการจากพี่"
"เหลือผมคนนึงที่พี่ยังคุยอยู่ด้วย พี่ภูมิใจเถอะ"
"กับซากิโตะ มันไม่ได้ภูมิใจหรอกเฟ้ย ไป ไปกินไอศกรีมกัน"
ชีวิตมันมีค่า หาความสุขได้ ชีวิตจึงมีความหมาย
แล้วชีวิตไม่ได้เกิดมาด้อยไปทุกอย่าง
มันอยู่ที่การกำหนดชีวิต เราเอง ไม่ใช่ดวงดาวกำหนด
======================================
ตอน ต้องขอโทษคืนไป ที่ทะเลาะกัน
"ซากิโตะ"
"อ๊ะ" ซากิโตะขานรับ "อะไรหรอพี่บีออซ"
"สูบบุหรี่เนี่ย ถ้าไม่พร่ำเพื่อ แสดงว่าคงมีเรื่องกลุ้มใจใช่ไหม"
"ผมทะเลาะกับพี่มา แต่พี่มันก็กล้าโต้ตอบผม ใครจะรู้ว่า พี่ตัวเองแท้ๆยังต้องมีเรื่องทะเลาะกัน ผมคิดมากเลยล่ะว่า มันน่ะ ไม่ได้กลัวผมเลยสักกะนิดเดียว"
"เราเป็นน้องเขาเราได้ขอโทษเขาไหม"
"ผมยังไม่ขอโทษเขาที่ผมยั่วด้วยสำเนียงที่พูดให้มันฟังแล้วรู้สึกไม่ชอบ แล้วมันกลับท้าทายผม เป็นครั้งแรกที่ผมตะลุมบอนกับพี่ตัวเอง ผมนี่รู้สึกแปลกใจมานานแล้วล่ะ ว่าพี่ถูกสะกดจิต เขาเป็นอะไรของเขาถึงได้ทำแบบนั้น เพื่อนเก่าผมใช่ไหมนะที่ยังพัวพันกับชีวิตผมอยู่ พี่ผมเลยถูกมันสะกดจิต"
"แล้วจากนั้น ก็ไม่ได้โกรธอะไรกับพี่ตัวเองใช่ไหม แต่กลัวปัญหาจะเกิดตามมา ถึงได้หนีมาอยู่กับหมอ"
"ฟังแล้วใจหาย หนีมาอยู่กับหมอ ไม่ได้หมายความว่าเป็นคนไข้หนิ แต่เอาเถอะ ผมพยายามทำใจยอมรับโลกที่เปรียบดั่งนรกขุมลึกๆใบนึงให้ได้ จะให้สลับตัวให้พี่เรียนนิติศาสตร์แทนก็ไม่ได้ เบื่อเซ็ง แล้วผมก็ไม่สามารถเป็นคนที่ทำงานทำการอะไรสักอย่างได้ ไม่มีวิธีให้ทางบ้านเลี้ยงเราไปตลอดชีวิต แล้วการศึกษาก็ไม่ได้ใส่ใจมัน อนาคตกำลังจะไม่มี"
"ซากิโตะ อืม ซากิโตะเคยยอมรับกับการอาศัยอยู่กับบ้านไหม"
"กำลังยอมรับ สักวันจะกลับไปหา แต่พี่ผมมันก็เหมือนเดิมล่ะ เพื่อนเก่าก็ไม่ชอบ พี่ก็ไม่ชอบ ไอ้สองตัวนี่มันโคตรเห็นแก่ตัวชะมัด แบบว่าไม่ยอมรับความแตกต่างบ้างหรือไง และพี่ชายผมเริ่มแผลงฤทธิ์อะ กำลังเก็บตัวอยู่ ผมไม่โกรธอะไรพี่ เพียงแค่ต้องการอะไรสักอย่างที่ทำให้ผมจะไม่โกรธ ผมอยากให้เรื่องมันจบไป ไม่ต้องมาหนีกับปัญหาชีวิตอีก"
"ซากิโตะต้องการอะไร"
"กราบบาทาข้าพเจ้าซะ และข้าพเจ้าจะยกโทษให้ ไม่ว่า ลืมเรื่องทะเลาะ และเรื่องความรัก กราบมาซะดีดี งามๆล่ะ จะได้ภูมืใจ ไม่โกรธแค้นเคือง"
บีออซขำไปชั่วขณะกับความคิดของซากิโตะ
"ลืมๆมันไปเถอะ หมอไม่รู้จะทำไง"
"อืม ผมขอโทษละกัน"
"ไชโย ไชโย เท่ากับว่า ซากิโตะขอโทษพี่ตัวเองได้แล้ว ไชโย ซากิโตะสำนึกแล้ว"
"อ้าว วางหมากอย่างดีเลยเหรอหมอ"
===================================
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น