ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ห้องเก็บของ " การสอน "

    ลำดับตอนที่ #6 : ลำดับตอนที่ 6

    • อัปเดตล่าสุด 14 พ.ค. 52


            กุบ กับ กุบ กับ กุบ กับ ครืดด.. เอี๊ยด   เสียงรถม้าจอดลงหน้า มหาเวทยาลัยเซนท์ โนเบิร์ก

            พรืดด ฟืดด ฮี่ ~ เสียงม้าปีศาจสีดำดวงตาสีแดงเยี่ยงสัตว์กินเนื้อ ปีกมังกรของมันมันขลับ ซึ่งบ่งบอกถึงการดูแลเป็นอย่างดี

     

    " ถึงแล้วครับนายน้อย " เสียงทุ้มๆของอาซาจิพ่อบ้านสุดจ๊าบประจำตัวของราชาปีศาจเอ่ยขึ้น ทำให้ผมสะดุ้งตื่นจากการหลับใหล

     

    " ฮะ.. ถึงแล้วหรอ ? "

     

    " คร้าบ~ ผม "อาซาจิตอบรับผมเสียงใส เหมือนอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ผมหันไปมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ซึ่งเป็นหญิงสาวผมยาวนั่นคือ อาจารย์ LoveU นั่นเอง

     

    " แม่ครับ  " ผมเอ่ยเรียกเขาเบาๆ

     

    " จ้ะ ลูก " แม่ตอบรับผมพลางยิ้มบางๆอย่างอ่อนโยนให้ ทำให้ผมโผเข้ากอดแล้วซุกแน่น

     

    " เป็นอะไรไปละ ลูกคนนี้ " แม่พูดพลางลูบหัวผมอย่างอ่อนโยน

     

    " ผม.... "

     

    " ผม.... "

     

    " ผมอะไรจ๊ะ " แม่ถามขึ้นทันที

     

    " ผมรักแม่ครับ \ ^0^ / "

     

    " น่ารักจริงนะเรา " แม่พูดแล้วหยิกแก้มผมทั้งสองข้างพร้อมส่ายไปมา

     

    " แอ้อ่มเอ๊บอ๊า ~ " ผมพูดไม่เป็นภาษาเพราะการกระทำของแม่แสนรักของตัวเอง

     

    " จ้าๆ " แม่ปล่อยมือออก แล้วมาลูบผมของผมแทน " อย่าสู้จนบ้าเลือดนะ แม่กลัวลูก^ ^ "

     

    " ผมจะพยายาม ครับ  " พอดูจบผมจึงออกจากรถม้าไป แล้วค่อยๆปิดประตู

     

    " ผมจะนำรางวัลชนะเลิศมาให้แม่ครับ " ผมพูดเบาๆ ก่อน โบกมือลาแม่ของตน น้ำตาคลอเบ้านิดๆ

     

    " หวานจังนะครับ นายน้อย ฮิฮิ " อาซาจิเริ่มแซวผม

     

    " ไปเลย ไปส่งเสด็จแม่ข้าเลย ไม่ต้องพล่ามมาก  " ผมแอบเคืองอาซาจินิดๆ แล้วชี้มือไปทางเส้นทางข้างหน้า

    " ครับๆ มีอะไรเรียกได้เสมอนะครับ  " อาซาจิพูดจบเขาขยับบังเหียนขึ้นแล้วตวัดลงทันทีม้าปีศาจกางปีกมังกรออกแล้วกระพือไปมาจนร่างของมันและรถมาลอยขึ้นไป ผมสังเกตเห็นคือ ... ด้านหลังรถม้ามีปีกมังกรขนาดใหญ่แผ่ออกมา  เมื่อเห็นอย่างนั้นผมเอามือตบหน้าผากตัวเองแล้วส่ายหน้าเบาๆภาวนาว่า ขออย่าให้แม่รู้ว่าแม่นั่งอยู่ในตัวปีศาจ ผมเงยหน้าขึ้นมองด้านหน้า

     

    " มหาเวทยาลัยเซนท์ โนเบิร์ก  หึ " ผมควงไม้เท้าหัวกะโหลกของผมด้วยมือเดียว ก่อนกระแทกด้ามท้ายลงที่พื้นก่อนเดินเข้าไปอย่างสบายอารมณ์

     

    " ยินดีต้อนรับครับ ท่านไลย์ คูเปอร์ ผม ผ.อ.เช็นท์ โนเบิร์ก ครับ " เขายื่นมือออกมาทักทายผม

     

    " เซ็นท์ โนเบิร์ก ชื่อคนหรอ ? ไม่ใช่ชื่อมหาลัย หรอกหรอ  " ผมยิงคำถามไปซื่อๆ

     

    " ครับชื่อ ของผมเอง และเป็นชื่อของ มหาลัยด้วยครับ " เขาเอ่ยพลางยิ้มบางๆให้ผม แต่ผมก็เมินทันที

     

    " ผมขอเดินรอบๆครับ " ผมพูดออกไปแล้วเดินเล่นอย่างสบายอารมณ์

     

    ขณะนี้ได้เวลาแข่งขันของนักเรียนจากสถาบัน Quartz สถานที่การประลองคือ ทั่วมหาลัย เซนท์ โนเบิร์ก ค่ะ  สิ้นสุดเสียงเวทย์กระจายเสียงของผ.อ.ทางสถาบัน Quartz ผมจึงแสยะยิ้มออกมาทันใด

     

     

            เสียงเพลงค่อยๆดังขึ้นช้าๆ ดอกไม้บานสะพรั่งสวยงาม ผมค่อยๆเดินตามเสียงไป ทำให้ผมเห็นภาพ ที่เบี่ยงหน้าคือ หญิงผมสีน้ำเงินฟ้ายาวสลวยและพลิ้วไหวตามสายลม นั่นคือ โดโรธี่ร์ เมอคิวรี่ ผมเห็นเธอกำลังร่ายรำอยู่ท่ามกลางดอกไม้ ผมมองตามเธอเคลื่อนไหวแอบเคลิ้มในบางคราว ก่อนค่อยๆฟุบตัวลงและหลับตาช้าๆ

     

    " แฮ่ก แฮ่ก  " เสียงใครบางคนหอบหายใจถี่ๆวิ่งไปทางโดโรธีร์ ผมสีม่วงอมดำของเขาทำให้รู้มันทีว่าเป็น  เอลแซ็ค ซีสตริงค์

     

    " หลบไป ! " เอลแซ็ค ตะโกนลั่นเพื่อบอกอะไรกับโดโรธีร์

     

             ตูมมมมมมมมม! ตึกเรียนที่คั่นอยู่ระหว่างนั้นโดนอะไรบางอย่างซัดกระจายทำให้ควันจากเศษปูนฟุ้งโขมงขึ้น เมื่อควันหายไป ทำให้เห็นภาพร่างคล้ายสุนัขตัวใหญ่เมื่อควันจางไปทำให้ทุกคนประจักพบว่ามันคือสุนัขนรก เซอร์บิรัส แต่ทำไมมีหัวเดียวละ สงสัยวิวัฒนาการช่างกว้างไกลเพราะเจ้าตัวนี้มีเขาสีดำแดงขนปุกปุยสีขาวเทา ดวงตาสีแดงขอบทองมีปีกมังกรสีแดงดำ และมีหางเป็นงูถึงสองตัว

     

    " ตัวอะไรละนั่น " โดโรธีร์ เอ่ยอย่างตกใจ

     

    " นั่น ไลย์ คูเปอร์ " เอลแซ็คพูดแล้วมองมาทางปีศาจตัวนั้น

     

    " งั้นจัดการตัวนั้นก่อนแล้วเราทั้งสองค่อยมาเคลียร์กันนะ " โดโรธีร์เอ่ยก่อนเรียกธนูออกมา

    " คงจะดีนะครับ " เอลแซ็คควงดาบยาวของตัวเองออกมาถือไว้ ก่อนพุ่งออกไปและกระโดดสูงเหมือนมีอะไรช่วยเพราะคราวนี้สูงเป็นพิเศษ และนั้นเป็นเพราะโดโรธีร์ ที่ใช้ละอองน้ำในอากาศช่วยค้ำจุลตัวของ เอลแซ็ค

     

             เคร้ง ! เคร้ง ! เอลแซ็คฟาดฟันดาบไปที่ดวงตาของปีศาจร้าย แต่มันกลับใช้เขาปกป้องตัวเองและสะบัดร่างของเอลแซ็คไปอีกฟากของสวนดอกไม้กลีบละใบไม้กระจุยไปด้วย แต่ เอลแซ็คลุกขึ้นมาทันใดก่อนหยิบดาบขึ้นแล้ววิ่งตรงเข้ามาอีก ส่วนโดโรธีร์ง้างธนูออกและเล็งมาที่ดวงตาของปีศาจร้ายนั่นอีกที

             ฟ้าววววววว ธนูถูกยิงออกไป และพุ่งตรงไปที่ดวงตาขวาของมัน

             ซ๊าสสสสส งูด้านหลังพุ่งเข้ามาแล้วบัดลูกธนูออกไป แล้วร้องขู่ไปมา

     

    " ฮึบ ! " เอลแซ็คเริ่มเล็งที่เท้าของปีศาจร้ายอย่างไม่ลังเล แต่กลับโดนตอบโต้โดยการตะปบ จนสลบไป

     

    " วารีพร่ำพราง ฝนจงร่วงหล่น " ทันใดฝนค่อยๆเทลงมา เจ้าปีศาจร้ายเกิดอาการคลั่งทันที เพราะมันจะรู้สึกเครียด หรือโมโหง่ายเมื่อเจอสภาพอากาศที่เหนอะหนะ ทำให้ตัวของมันหนักไปด้วยน้ำ

     

    " อัสนีพิฆาต " เมื่อโดโรธีร์พูดจบสายฟ้าก็ฟาดลงมาที่ตัวปีศาจร้าย ด้วยน้ำที่เป็นสื่อนำไฟฟ้าอยู่แล้ว สายฟ้าจึงมีอานุภาพยิ่งขึ้น

     

             ก๊าซซซซซซซซซซซซ ส์ ปีศาจร้องคำรามอย่างปวดร้าว ก่อนที่มันจะล้มลงไป เหมือนทุกอย่างจะสงบลง เอลแซ็คค่อยๆลุกขึ้นมาแล้วกุมขมับตนเองอย่างมึนงง

     

    " เกิดอะไรขึ้น..ครับเนีย " เอลแซ็คเอ่ยขึ้นมาอย่างมึนงง

     

    " หวังว่าคงไม่ตื่นขึ้นมาอีกนะคะ " โดโรธีร์ พูดพลางเอาแขนเช็ดหน้าผากตัวเองแอบมีถอนหายใจเล็กๆ

     

    " อากาศ สดชื่นขึ้นทันควันเลยนะครับ " เอลแซ็คจัดการรักษาตัวเองแบบลวกๆ ก่อนเงยหน้ามองท้องฟ้าสดใส

     

              ครืนนนนนนนน ! เงาบางอย่างเลื่อนตัวเข้ามาบดบังเงาของทั้งสอง เอลแซ็ค และ โดโรธีร์เงยขึ้นไปมองทันที  แต่ยังเห็นไม่ชัดนัก เจ้าตัวนั้นกระพือปีกสีดำสวยของมันลงมาสู่พื้นดิน แสงอาทิตย์ที่ส่องถึงทำให้รู้ว่า มันคือมังกรสีดำสนิทสีของเกล็ดมันวาววับยามต้องแสงอาทิตย์ ดวงตาสีแดงดุร้ายเช่นด้วยกับเซอร์บิรัส ปีศาจร้ายตัวก่อนที่ทำให้ทั้งสองเกือบ แย่ไปตามๆกัน

     

    " นะ.. นั่นตัวอะไร " โดโรธีร์ กล่าวตะกุกตะกักกับสิ่งที่เห็นตรงหน้าคือสัตว์ที่หายากขึ้นทุกวันๆ นั่นคือ " มังกรสีดำสนิท " ที่ไม่ค่อยพบเจอในโลกมนุษย์ และปีศาจง่ายๆ

     

    " หวังว่าคงเป็นมิตรนะ " เอลแซ็คค่อยๆก้าวเข้าไปหามังกรตัวนั้น แต่รู้สึกว่ามันจะไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย มันพ่นไฟใส่ เอลแซ็คทันทีอย่างไม่ใยดี

     

    " เหวอ ~ " เอลแซ็คตีลังกาหลบออกมาอย่างรวดเร็ว

     

              ฟืด ฟืด..  กรู๊วซซซซซซซซซซซซ ! เจ้ามังกรตัวนั้นส่ายหน้าคล้ายๆกับจามออกมาสองทีก่อนพ่นไฟสีแดงดำมาทางโดโรธีร์และเอลแซ็ค

     

    " ว๊ายยย " โดโรธีร์ร้องออกมาด้วยความตกใน ก่อนที่เอลแซ็คจะพาเธอหลบไป ดอกไม้ที่โดนไฟเผาไหม้เป็นรอยไหม้แนวยาว และไปโดน เซอร์บิรัส สุนัขร้ายเฝ้าประตูนรกตัวเดิม

     

    " ไม่เป็นไรนะ " เอลแซ็คถามคู่ต่อสู้ของตัวเอง นั่นคือโดโรธีร์ เบาๆ

     

    " ไม่เป็นไรหรอก  " โดโรธีร์จัดการตัวเองให้เรียบร้อยแล้วลุกขึ้นมา

     

               ก๊าซซซซซซ และแล้ว สุนัขร้ายก็ตื่นจากการหลับใหลอีกครั้ง มันค่อยๆยืนขึ้นแต่เนื่องจากบาดเจ็บจึงไม่มีแรงอาละวาด

     

    " มันจะคลั่งไหมนั่น " เอลแซ็คเดินถอยหลังช้าๆ

     

    " อะ.. โอ๊ยยย " ผมร้องขึ้นจากหลับไปจนเหมือนตาย เพราะ เอลแซ็ตเดินมาเหยียบมือผม

     

    " เฮ้ย " เอลแซ็คชักเท้ากลับทันที พร้อมกับโดโรธีร์ หันขวับมามอง

     

    " เจ็บนะครับเนีย " ผมลุกขึ้นนั่งลูบมือตัวเอง

     

    " ถ้าไลย์อยู่นี่ แล้วเจ้าหมานั่นคือใคร  " เอลแซ็คชี้ไปทางเซอร์บิรัสที่ลืมตามองเขาอย่างเคียดแค้น

     

    " นั่นก็ไลย์ครับ " ผมบอกไปตามตรง

     

    " เธอมือสองคน ไม่สิ เธอแยกร่าง ?? " โดโรธีร์เริ่มยิงคำถามตามมา

     

    " ไว้จบการประลองแล้วผมจะบอกครับ " ผมมองทั้งสองก่อนเดินออกมาช้าๆ พลางหยิบไม้เท้ามาด้วย ผมใช้ปลายไม้ชี้ไปทางเอลแซ็ค

     

                ทันใดไฟสีดำพุ่งตรงมาทาเอลแซ็คทันที โดยที่อีกฝ่ายไม่ได้ตั้งตัว ทำให้เสียหลักการตั้งตัว และโดโรธีร์ใช้เวทย์ลมซัดเอลแซ็คออกไปห่างจากวิถีเพลิงได้ จึงโดนแค่เฉียดๆ ผมจึงมองไปที่เซอร์บิรัสก่อนมองไปที่ทั้งสอง เหมือนมันจะรู้ดีจึงเข้าโจมตีทั้งสองทันที มันแยกโดโรธีร์ออกจากเอลแซ็ต โดยการคำรามจนเกิดเป็นคลื่นเสียง ร่างของโดโรธีร์ กระเด็นไปได้ซักระยะ โดโรธีร์จึงร่ายเวทย์อีกครั้งซึ่งเป็นเวทย์กักกันโล่ใสๆล้อมเซอร์บิรัสไว้อย่างแน่นหนา

     

             กรรชชชชช กรรชชช เซอร์บิรัสพยายามพังสิ่งที่กักตัวเองอย่างคลุ้มคลั่ง ผมมองเจ้าปีศาจตัวนั้นอย่างละอา ก่อนค่อยๆเดินวาดวงแหวนเวทย์ขนาดใหญ่ที่ต้องใช้เวลามากพอสมควร

     

             พรืบบ ! เจ้ามังกรดำกางปีกขึ้นก่อนบินขึ้นไปพร้อมใช้หางตวัดเอาตัวเอลแซ็คขึ้นมาบนอากาศ อย่างไม่รู้ตัว

     

    " ต้องล้มเจ้านี่ให้ได้ถึงจะได้ลงไปใช่ไหม  " เอลแซ็คพูดเบาๆกับตนเองก่อนค่อยๆปีนและเกาะไปตามเกร็ดสีดำของมังกร

     

             กร๊าซซซซซซซ เจ้ามังกรตัวนั้นเริ่มพ่นไฟออกมา ไฟสีดำแผดเผาต้นหญ้าและดอกไม้เป็นหย่อมๆ มันเริ่มรู้สึกถึงบางอย่างที่อยู่บนกายตัวเองก่อนกระพือปีกบินให้สูงขึ้น และทิ้งดิ่งลงมา แต่เอลแซ็คเกาะเหนียวเป็นพิเศษ จึงเกาะไว้แน่นกันตัวเองตกลงไปตายก่อนจะคว้าชัยชนะมา ทำให้มังกรเริ่มหงุดหงิดบินอย่างเร็วไปตามมุมตึก ซอกตึก ฉวัดเฉวียนไปมา

     

    " เสร็จละ " ผมพูดออกมาอย่างดีใจ ผมเปิดตาขวาของตนเองออก ดวงตาสีแดงขอบทองด้วยอักขระแดงฉาดกว่าทุกที แสงสีดำเปล่งประกายขึ้นจากใต้เท้าก่อนแผ่เป็นวงกว้าง มังกรที่บินอยู่เบื้องบนค่อยๆหายไปทำให้เอลแซ็คตกลงมาอย่างไม่ตั้งใจ แสงดีดำแปลเปลี่ยนเป็นเปลวเพลิง

     

    " อึก.. " โดโรธีร์เร่งร่างเวทย์ป้องกันตัวเองทันที เซอร์บิรัสตรงหน้าเธอก็ค่อยๆหายไป ทันใดเกิดแสงสีขาวสว่างวาบทั่วมหาลัยเซนท์ โนเบิร์ก และเมื่อแสงค่อยๆหายไป โดโรธีร์ใช้มือปล้องดูภาพเบื้องหน้าแต่ไม่เห็นอะไร

     

    " หาอะไรหรอครับ ? " ผมแตะไหล่โดโรธีร์ เบาๆและเงียบๆ ทำให้เธอสะดุ้งโหยง แล้วใช้มือตวาดกลับมาปัดมือผมออกพร้อมหันหน้ามาทางผม เธอมองผมเหมือนกับว่า นี่หรอ ไลย์ คูเปอร์ คู่แข่งของเธอ เพราะตอนนี้ผมมีเขาสีแดงดำ ผมสีขาวเหมือนขนของเซอร์บิรัส มีปีกของมังกรสีดำตัวนั้น เล็บงอกยาวและแหลมคม หางซึ่งเป็นงูขู่ ฟ่อๆไปมา

     

    " เป็นอะไรไป ? ตกใจหรอ ? " ผมพูดก่อนใช้ดวงตาสีแดงขอบสีทองจับจ้องโดโรธีร์

     

    " ฉันว่าเรามาสู้กันก่อนฟ้าจะมืดเถอะ .. " เธอพูดก่อนชักดาบเรียวยาวและเบาเหมือนอากาศออกมา ไม่พูดพล่ามมากนักก็พุ่งดาบเข้าหาผมทันที ผมถอยหลังหลบดาบอย่างคล่องแคล่วก่อนใช้มือเปล่าจับดาบไว้แล้วกระชากเข้ามาใกล้ก่อนใช้เล็บตวัดไปที่ผมของโดโรธีร์ ทำให้ผมของเธอสั้นลงระดับบ่า

     

    " แหว่งเลย " ผมพูดล้อเลียนเธอแล้วยิ้มบางๆอย่างชั่วช้า

     

    " หนอย...  " เธอกัดฟันพูดเบาๆ แล้วดึงดาบออกจากมือของผมก่อนแกว่งกวัดไปมาโดนที่ไหล่ซ้ายของผม เลือดสีแดงดำค่อยๆไหลออกมาช้าๆ ผมมองเลือดที่ไหลออกมาก่อนที่มันจะผสานเข้าหากันโดยเป็นเกร็ดมังกรสีดำผสานจนหายสนิทเกร็ดนั้นหายไปช้าๆจนเป็นเนื้อหนังดังเดิม ผมลูบเขาบนหัวตนเองเบาๆ

     

    " มังกรทมิฬคำราม ! " ผมพูดก่อนพ่นไฟสีดำออกมาแผดเผาคู่ต่อสู่เบื้องหน้า สิ้นสุดเปลวเพลิงพบว่าโดโรธีร์หายไปแล้ว

     

             ฉึก ฉึก  เสียงอากาศถูกแหวกออก ที่ปีกของผมเริ่มแหว่งออก ทำให้ผมเอะใจเล็กน้องแล้วหันหลังกลับมาดู

             ฉึก ! เสียงมันเกิดขึ้นอีกครั้ง ผมรู้สึกเจ็บปวดที่ดวงตาซ้ายทันที ผมจึงเอามือแตะที่ดวงตาของตนเองพบว่าถูกสิ่งของมีคมแทงเข้ามาผมจึงกุมตาไว้แล้วมองรอบๆ แต่ไม่พบอะไร

              ฉึก ฉึก ฉึก แผลเปิดมากขึ้นโดยไม่รู้สาเหตุมีเพียงว่าทุกครั้งที่มีเสียงแหวกอากาศ แผลเหล่านี้จะเกิดกับตัวผม ผมปล่อยให้เลือดไหลออกมาโดยไม่ให้ร่างกายรักษาแผลเอง ผมเพ่งเล็งไปตามที่ต่างๆในสวนดอกไม้แห่งนี้

     

    " อ่า... " ผมร้องเบาๆในลำคอก่อนพุ่งตรงไปข้างหน้าทันที ก่อนผมกระสวกกรงเล็บไปท่ามกลางความว่างเปล่า แต่ของเหลวสีแดงไหลออกมาช้าๆ และร่างของโดโรธีร์ก็ค่อยๆปรากฏขึ้นมา

     

    " ระ.. รู้ได้ไง " เธอพูดออกมาเบาๆ

     

    " ดูที่ดาบเธอซิ " ผมพูดให้โดโรธีร์มองที่ดาบของตัวเอง ซึ่งมันมีเลือดของผมอาบอยู่เพียงเล็กน้อย

     

    " จมูกผมน่ะได้กลิ่นแน่นอนครับ แต่หลับไปก่อนเถอะฝันดี "

     

    " ฝะ.. ฝันดี ? " เธอพูดอย่ามึนงงเพราะเวลานี้ประมาณบ่ายๆ ผมจับหน้าของเธอมามองด้วงตาผม

     

    " อย่ากลัวไปเลยครับ " สายตาของโดโรธีร์มองมาที่ดวงตาของผมก่อนที่เธอจะกลายเป็นหินในเวลาไม่กี่นาที ผมผละออกมาก่อนเดินไปในอาคารตามกลิ่นของเอลแซ็ค

     

                  พรืบ ! ผมเดินเข้ามาไม่เท่าไหร่มีดสั้นเล่มเล็กดูเหมือนจะสกัดผมไม่ให้เข้าไป ผมจึงย่างก้าวเข้าไปอีก พบกับกับดักมากมาย ซึ่งผมก็โดนมันบ้างไม่กี่อันผมมองไปด้านหน้าเห็นประตูบานใหญ่อยู่จึงรีบเปิดเข้าไปดู พบว่าเอลแซ็คกำลังยืนมองออกไปทางกระจกใสที่ทำไว้ชมวิวอยู่

     

    " สวัสดีครับ คุณไลย์ เราสู้กันอีกรอบแล้วนะครับ " เอลแซ็คพูดทักขึ้น

     

    " สู้อีกรอบหรอ เปล่านี่ครับ  "

     

    " ก็ตอนที่ผมสู้กับเจ้าหมาบ้านั่นไงครับ "เอลแซ็คค่อยๆหันมาทางผมช้าๆ

     

    " หึๆ หรอครับ " ผมก้าวเข้าไปในห้องช้าๆก่อนปิดประตู ทันทีเมื่อเดินเข้ามาลูกดอกเจ็ดอันพุ่งมาทางผม ผมจึงเบี่ยงตัวหลบแต่ปีกมังกรเจ้ากรรมไม่หลบด้วยลูกดอกจึงโดนปีกของผม ผมรีบดึงมันออก เอลแซ็คที่ไม่รอช้าวิ่งเข้ามาตวัดมีดสั้นคู่ใส่ผมทันที ผมใช้มือกันไว้แต่เขาก็ชักมีดออกไปอย่างรวดเร็วก่อนตีลังกากลับหลังไปตั้งหลัก แล้ววิ่งพุ่งตรงเข้ามาอย่างเร็ว ผมจึงกากเล็บมังกรแสนคมของผมออกมาจับไปที่ใบมีดที่พุ่งตรงมาหา ทันทีที่จับได้ใบมีดก็ละลายกลายเป็นเหล็กเหลว ผมตวัดของเหลวร้อนๆในมือไปทางเอลแซ็ค

     

    " อึก... " เอลแซ็คกระโดดหลบอย่างชำนาญ ผมจึงกางปีกบินไล่ตามไปทันที

     

    " เบียคโกะ " ผมพูดเบาๆ ดาบนับพันเล่มล่วงหล่นจากฟากฟ้าทะลุหลังคาทันที


             กึก กึก โครม ! เสียงดังจากการพังทลายของดาบเล่มสีขาวบริสุทธิ์

     

    " อะไรกัน " เอลแซ็คบ่นเปรยพร้อมหลบดาบไปด้วย ผมมองเอลแซ็คที่หลบดาบอย่างกระวนกระวายผมจึงหยิบดาบเล่มใกล้ๆขึ้นมาแล้วค่อยๆเดินไปหาเอลแซ็ค

     

    " ฟ่ออ.. ฟ่อ " เสียงงูที่หางของผมร้องไปมา ผมชักรู้สึกรำคาญมันเสียแล้ว

    " เงียบเด้ " ผมหันไปทะเลาะกับหาง - -""

    " ย๊าคซ์ " เอลแซ็คควงดาบคู่ของตัวเองออกมาแล้วใช้ดาบของผมที่ปักอยู่โดยรอบเป็นเครื่องทุ่นแรงในการกระโดด ดาบฟันลงมาจากด้านบน ทำให้ผมล้มลงผมจึงรีบนำดาบยกขึ้นกัน เอลแซ็คก็ยิ่งกดตัวลงมาจนผมต้องถือดาบสองมือทันทีงูทั้งสองเริ่มซนเสียแล้วมันเลื่อยและยกคอมาเผชิญกับหน้าของเอลแซ็ค มันแยกเขี้ยวออกอย่างน่ากลัวพร้อมตอบโต้ทุกเมื่อถ้าผมอนุญาตมัน

     

    " แฉ่~ " เสียงงูขู่เบาๆ พิษของมันหยดลงบนดาบของเอลแซ็ตทันทีเมื่อพิษนั่นโดนเนื้อเหล็กมีฟองออกมาจากเนื้อเหล็กอย่างน่ากลัว หากถูกฉกแม้แต่ปีศาจคงไม่รอด

     

    " อึก.. " ผมรวบรวมกำลังแล้วดันเอลแซ็คออกไป งูทั้งสองของผมทำหน้าที่อย่างดีมันฉกเอลแซ็คเข้าให้

     

    " โอ๊ย " เอลแซ็คร้องตกใจและเจ็บด้วยเขารีบฉีกเสื้อของตัวเองออกมามัดไว้ที่ต้นแขนเพื่อกันพิษเข้าสู่ร่างกายไวขึ้น แต่ผมกับรู้สึกว่ามือของผมชาขึ้นเล็กน้อย

     

    " ทำไมเหมือนกับไม่มีแรง " ผมพูดอุบอิบกับตัวเอง

     

    " ลองดูซิ พิษของงูหรือพิษที่มนุษย์สร้างขึ้นมา พิษอะไรจะส่งผลเร็วกว่ากัน " เอลแซ็คพูด แล้วลุกขึ้นยืนอย่างเก้ๆกังๆ มือของผมเริ่มไร้ความรู้สึกแต่ผมยังคงสามารถกำดาบไว้ได้อยู่

    " เอายาพิษอาบไว้ที่มีดทุกเล่มเลยหรอ ? เหอะ.. " ผมพูดเบาๆก่อนจะพุ่งตรงไปหาเอลแซ็คเพื่อไม่ให้เสียเวลามากนัก

     

    " อีกสักครู่คุณคงรู้สึกหนักอึ้งไปทั่วร่างแล้ว " ผมตวัดดาบออกไปเพื่อให้เอลแซ้คกระโดดหลบ

     

    " เพลงดาบจิ้งจอกทมิฬ กรงเล็บสัตว์ป่า ! " ฟาดฟันดาบเป็นชุดรวมแล้ว18ดาบ ซึ่งเอลแซ็คคงหลบอย่างสบายๆถ้าเขาไม่โดนพิษเสียก่อนนะ

     

    " แฮ่ก แฮ่ก " เอลแซ็คเริ่มหอบถี่ขึ้น

     

    เคร้ง !ดาบของเอลแซ็คกระทบกับพื้นที่ยังไม่เสียหายมากนักตรงบริเวณจุดชมวิวที่เขายืนก่อนเริ่มต่อสู่ เขาค่อยๆคุกเข่าลง

     

    " มันเกิดอะไรกับร่างกายฉัน " เขาสบถเบาๆ

     

    " มันจบแล้วครับ  " ผมยิ้มที่มุมปากก่อน ปลดร่างปีศาจของตัวเองออกแต่ผมยังคงเป็นสีเทาอยู่

     

    " ยังหรอกน่า.. " เอลแซ็คพูดตอบโต้และกุมแผลที่โดนงูฉกของตัวเองในสภาพสะบักสบอม ผมค่อยๆเดินไปหาเอลแซ็คอย่างช้าๆจนถึงตัวของเขาผมจับหน้าของเขาขึ้นมามองใบหน้าของผม

     

    " มันจบแล้วครับ .. เพราะผมคือราชาลูกครึ่งพันธุ์ผสม " ผมยิ้มเหยียดนิดๆก่อนปล่อยให้ร่างของเอลแซ็คกลายเป็นหินไปอย่างทรมาน จากนั้นผมทรุดลงทันที

     

    " เหอะ... แต่ราชาอย่างผมคงไม่ได้เรื่อง  "ผมค่อยๆหลับตาลงรอคอยคนมารับ

     

    ประกาศ ! การแข่งขันประลองเวทย์ของสถาบัน Quartz จบลงแล้วค่ะ  เวทย์เสียงของผอ.ดังขึ้นและหมดลงไป

     

    " นอนอยู่นี้เองหรอ ไอ้ดื้อ " ชายผมสีทองเดินเข้ามาในซากห้อง(เรียน)

     

    " แล้วไง " ผมยังคงรู้สึกตัวอยู่

     

    " กลับบ้าน " เขาเดินมาหาผมก่อนประคองร่างผมขึ้น

     

    " ไม่ต้องจุ้นเลยเดินไหวน่า " ผมพูดไม่ขาดคำเขาปล่อยร่างผมทันที ร่างผมแทบทรุดลงอย่างเห็นได้ชัดโชคดีที่เขาประคองทันไม่งั้นไปนอนกองที่พื้นอีกรอบแน่ๆ

     

    " ดื้อจริงๆ - -** " เขาพูดเบาๆ

     

    " ดื้อแล้วไง " ผมหันหน้าหนีเขา

     

    " ถึงจะดื้อแต่ก็รักไง 55+ " เสี่ยวชะมัด

     

    " เอาเถอะ " ผมพูดเลี่ยงๆ

     

    " เอาไงกับคนที่กลายเป็นหิน " เขาถามผมแล้วมองรูปปั้นหิน เอลแซ็ค

     

    " เอาไปอาบแสงจันทร์เดี๋ยวก็เป็นเหมือนเดิม  " ผมพูดแบบเหนื่อยสุดๆ

     

    " กลับบ้านหรือไม่กลับหรือจะอยู่นี่ " ผมถามเขาทันที

     

    " กลับเซ่ะ " เขาพูดสองคำสุดทายแล้วอุ้มผมออกไป

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×