ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    แจ๋วเมืองผู้ดี

    ลำดับตอนที่ #1 : เมื่อแววแจ๋วมาเยือน

    • อัปเดตล่าสุด 14 ส.ค. 49


    อือ....สบายจริงๆ
    แวนพลิกตัวบนที่นอนนุ่มๆ อุ่นๆท่ามกลางอากาศเย็นๆ ยามเช้าตรู่อย่างนี้ เป็นเวลาที่ไม่อยากจะตื่นจากนิทรารมณ์อันแสนสุขเลย แต่ เอ นั่นเสียงอะไรมาร้องอยู่เซ็งแซ่นะ จ้อกแจ้กจ้อกแจ้ก ราวกับมีใครมาตั้งวงสนทนากันแต่เช้าอย่างนั้นแหละ

    แวนลืมตาปรือๆขึ้นมองไปรอบๆ นี่มันไม่เช้าแล้วนี่นา แสงแดดส่องลำลอดจัดจ้า เข้ามาตามช่องผ้าม่านที่รูดไว้ไม่สนิท ทั่วทั้งห้องสว่างไสวไปหมด แล้วเสียงจ้อกแจ้กนั้นยังดังอยู่ อ๋อ เป็นเสียงนกน้อยๆมาคุยกันอยู่เซ็งแซ่นั่นเอง คงออกหากินกันยามเช้า แล้วทักทายสังสรรค์กันตามประสากระจิบกระจอก

    แวนสลัดผ้านวมออกจากร่างแล้วหย่อนขาลงจากเตียง เธอเหลือบมองกระจกแล้วยิ้มน้อยๆ ชมตัวเองอยู่ในใจ
    "ใครฟะ หน้าตาแก่จัง มายิ้มให้ฉันในกระจกทุกเช้าเลย ฮิๆๆๆ" หญิงสาวในกระจกหน้าตายู่ยี่ แต่พยายามทำสีหน้าทะเล้น ผมยาวๆยุ่งเหยิง อือ...ผมชักจะยาวไปหน่อย เพราะเสียดายเงินค่าตัดผม ก็เลยไม่ค่อยจะได้ตัดหรอก ใช้มัดๆรวบๆเอาแบบทรงหางม้านั่นแหละ ง่ายและประหยัดดี

    แวนหวนคิดถึงเมื่อครั้ง เธอเรียนปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยในเมืองไทย ตอนนั้น มหาวิทยาลัยมีหลักสูตรที่สร้างสรรค์มาก ในกระบวนวิชาที่ว่าด้วยการเรียนการสอนภาษาต่างประเทศ อาจารย์ถึงกับไปเชิญผู้เชี่ยวชาญมาจากสถาบันที่สอนบุคลิกการวางท่าทางให้กับบรรดานางงาม นางสาวไทยมาสอนนักศึกษา เพื่อที่เวลาออกไปสอนหน้าห้อง จะได้งามสง่าราวกับนางสาวไทย

    ตอนนั้น แวนไว้ผมยาวประบ่า แล้วใช้ที่คาดผมคาดไว้ทุกวัน เนื่องจากมันง่ายและกันผมยุ่งปรกหน้าปรกตาได้เป็นอย่างดี และเหมาะกับคนขี้เกียจเรื่องผมเรื่องหน้าอย่างแวนมากๆ

    วิทยากรผู้มีชื่อเสียงท่านนั้น เดินเข้ามาถามแวนในชั้นเรียนต่อหน้าเพื่อนๆว่า
    "ขอโทษนะคะ คุณเป็นดาราช่องเจ็ดสีหรือเปล่า"
    แวนยิ้มแป้นด้วยความงงๆ นึกในใจ...นี่ฉันสวยถึงขนาดนั้นเชียวหรือนี่...

    "เปล่าค่ะ ทำไมเหรอคะ"
    "ดิฉันเห็นคุณชอบคาดผมน่ะค่ะ เห็นดาราช่องเจ็ดสี เขาชอบใช้ที่คาดผมกันทุกคน ไม่ดีนะคะ เราเป็นผู้หญิง เราต้องหมั่นดูแลผมเผ้าตัวเราเองบ้าง"
    ฮ่าๆๆ ที่แท้คุณเธอจะว่าว่าแวนขี้เกียจนี่เอง สมัยนั้น ดาราช่องเจ็ดสีเขานิยมคาดผมกันมากๆ แต่แวนไม่ได้เลียนแบบเขาหรอกนะ ทำมาก่อนเสียด้วยซ้ำ เรียกว่าความขี้เกียจมันเข้ามาสิงเมื่อนานมากแล้ว

    เรื่องนี้ ยายของแวนเคยว่าไว้แล้ว
    "ไอ้แวนนี่มันเหมือนสาวโบราณ ไม่ค่อยอยากจะแต่งเนื้อแต่งตัว อยู่บ้านท่าไหน ก็ออกจากบ้านท่านั้นเลย"
    อิๆๆๆ ยายพูดราวกับยายไม่ใช่คนโบราณนะจ๊ะ แต่ว่าท่านคงเหนื่อยใจกับสารรูปของแวนเต็มทน


    แวนแง้มๆประตูห้องดู ว่าห้องน้ำที่อยู่ตรงข้ามว่างหรือเปล่า น่าจะว่างแล้วละ เพราะสายจนป่านนี้
    แวนเดินเข้าห้องน้ำ พลันอารมณ์เซ็งๆก็พลุ่งขึ้นมา

    ที่อ่างล้างหน้า คราบยาสีฟันที่เพื่อนร่วมบ้านแปรงฟัน บ้วนๆ ขากๆถุยๆเอาไว้ ขาวเขรอะเป็นดวง ชวนคลื่นเหียน มันกระจายไปทั่ว ไม่ว่าจะเป็นที่ก๊อกน้ำหรือบริเวณกระจกเหนืออ่างล้างหน้า
    แวนพอจะรู้ตัวคนที่มีพฤติกรรมแบบนี้ เธอเป็นเด็กสาว หน้าตาสะสวย ผมยาวสลวย คิ้วเข้ม ตาโต เริ่ดหรูดูดี แต่เมื่อได้มาอยู่ร่วมบ้านกับเธอ แวนได้แต่เหนื่อยใจ

    แวนมาเช่าบ้านร่วมกับนักเรียนไทยคนอื่นๆ ที่มาร่ำเรียนในเมืองผู้ดีแห่งนี้ ภายในบ้านเป็นหญิงสามคน ชายหนึ่งคน แต่ละคนก็ต่างแนว ต่างแบบ
    เมื่อตอนมาอยู่ใหม่ๆ แวนสังเกตดูว่า ทุกคนไม่มีใครอยากทำความสะอาดบ้านในบริเวณที่เป็นส่วนกลาง พวกเขาจะทำก็แต่ในเฉพาะห้องตัวเอง

    บริเวณส่วนกลางก็คือ ห้องกินข้าวซึ่งเป็นห้องนั่งเล่นด้วย ห้องครัว ห้องน้ำ และตามทางเดิน
    การทำความสะอาดก็ไม่ได้มีอะไรมาก เพียงแค่ดูดฝุ่นตามพื้น ถูห้องครัวซึ่งเป็นพื้นลามิเนต และดูดฝุ่นในห้องน้ำ ขัดอ่างอาบน้ำ โถส้วมและอ่างล้างหน้า

    แต่แวนก็สังเกตเห็นอีกนั่นแหละ ว่าแต่ละคน เขาจะรักความสะอาดมากๆ เรียกว่า คอยระวังสุขอนามัยในการกิน ไม่กินของค้างหลายวัน ล้างจานชามกันสะอาดเนี้ยบ แต่แปลก ของส่วนกลางกลับไม่มีใครยอมทำ

    จนกระทั่ง แอ๋ม เพื่อนร่วมบ้านคนหนึ่งมาปรารภกับแวน
    "พี่แวน แอ๋มเหนื่อยจริงๆ บ้านนี้ไม่มีใครยอมทำความสะอาดเลย ห้องน้ำเขาก็ปล่อยกันเขรอะ"
    "อือ พี่ก็เห็นอยู่เหมือนกันนะ แต่พี่ก็ช่วยทำนะคะ"
    "สองคนนั้นน่ะ" แอ๋มหมายถึง เจี๊ยบกับโก้ "แอ๋มแทบไม่เคยเห็นเขาทำอะไรเลย ห้องข้างล่างเขาก็ไม่เคยดูดฝุ่น ห้องน้ำก็ไม่เห็นขัด ได้แต่ใช้"
    "แล้วแอ๋มจะเอาไงดีล่ะ จัดเวรดีไหม" แวนเสนอ
    "ไม่เอา แอ๋มไม่อยากให้ถึงขนาดนั้น โตๆกันแล้ว ไม่เห็นน่าจะต้องมีเวร เขาน่าจะรู้จักคิดทำด้วยตัวเอง" อือ ที่แอ๋มพูดก็ถูก แวนก็เลยไม่รู้จะเสนออะไรอีก

    วันหนึ่ง แอ๋มก็ไปพูดกับโก้และเจี๊ยบให้สองคนนั่น ช่วยขัดอ่างอาบน้ำและอ่างล้างหน้าบ้างเวลาเห็นมันเริ่มสกปรก เจี๊ยบสาวสวยที่ชอบถ่มถุยยาสีฟันไว้เลอะเทอะ ก็โต้กลับมาเสียงแข็งๆว่า
    "เราก็ทำนะ ที่ไม่ทำเพราะยังไม่เห็นว่ามันจะสกปรกตรงไหน"

    คำตอบที่ได้รับ ทำให้แอ๋มหน้าบูด เธอแอบมาบ่นกับแวนว่า
    "สองคนนั้น มาตรฐานเขาต่างกับแอ๋ม แอ๋มเห็นว่าสกปรกแล้ว แต่เขากลับเห็นว่ามันยังไม่สกปรก"

    แวนจึงเริ่มรู้สึกว่า สองสาวนี้ท่าจะมีปัญหากัน
    เนื่องจากแวนเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ทีหลัง เธอจึงไม่ทราบความกินแหนงแคลงใจของใครภายในบ้าน

    แรกๆที่แวนย้ายเข้ามา ก็ดูเขารักใคร่ กลมเกลียว คุยกัน หัวเราะเฮฮาดี จนบางที แวนรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นส่วนเกิน เพราะดูเขาก็ไม่ค่อยมาพูดคุยทักทายเธอผู้มาใหม่เท่าไหร่นัก แถมไม่ค่อยเอื้อเฟื้อ

    อย่างพื้นที่ส่วนกลาง เช่นตู้คัพบอร์ดที่ใช้เก็บของภายในบ้าน ภายในครัว พวกเขาก็เลือกเอาทำเลดีๆไปหมด เหลือตู้มุมสุดที่อยู่ใต้อ่างล้างจานให้แวน ด้วยความที่มันติดอ่างล้างจาน จึงทำให้ต้องล้วงมือเข้าไปหยิบ ไม่ค่อยสะดวกนัก แต่แวนก็คิดเสียว่า ช่างมัน ในเมื่อมันก็มีพื้นที่อยู่เท่านี้ มันก็คงต้องมีคนเสียสละได้พื้นที่ตรงนี้ และคนๆนั้นก็คือเธอ ซึ่งก็ไม่ได้จะเต็มใจเสียสละนักหรอก แต่เมื่อมาทีหลังก็ต้องทำใจ คนเราก็ต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเองเป็นธรรมดา ถือเสียว่า เราไม่มีสิทธิ์เลือก ได้อย่างไรก็อย่างนั้น

    และในฐานะคนมาใหม่ มาทีหลัง ดูเหมือนเขาจะจัดระเบียบสังคมบางอย่างภายในบ้านไว้แล้ว ดังนั้น เมื่อแวนเข้าไปทีหลัง บางครั้ง จึงเหมือนถูกพวกเขาคอยจับจ้องพฤติกรรม แล้วก็คอยบอกว่า อย่างนั้นไม่ได้นะคะ อย่างนี้ไม่ได้นะคะ พี่ต้องทำแบบนี้...แบบนั้น

    ห้องนอนของแวนเป็นห้องเล็กๆ เล็กกว่าคนอื่น เป็นห้องขนาดแค่ราวๆ 16 ตารางเมตร เธอจึงไม่มีที่เก็บกระเป๋าเดินทางใบใหญ่สองใบ ก่อนหน้าจะย้ายเข้ามา แวนเคยเอ่ยถามเจี๊ยบ สาวสวยประจำบ้าน เพราะเธออยู่ในห้องขนาดใหญ่ แต่เธอก็ยังเอาของบางส่วนออกมาไว้นอกห้อง ซึ่งเป็นบริเวณหน้าห้องของทุกคน แวนจึงถามเธอว่า
    "เจี๊ยบคะ ถ้าพี่จะขอที่ตรงนี้ไว้เก็บกระเป๋าเดินทางได้ไหมคะ พี่ไม่มีที่ไว้จริงๆ"
    "ทำไมพี่ไม่เอาไปเก็บในโรงเก็บของล่ะคะ" เจี๊ยบหน้าหงิก
    โรงเก็บของเป็นโรงเรือนที่อยู่นอกบ้าน มีแต่ความอับชื้นและแมลงเต็มไปหมด แถมมีหนูด้วย
    "พี่กลัวหนูมันมากัดกระเป๋าพี่ขาดน่ะค่ะ แล้วมันก็อับๆชื้นๆด้วย"
    "พี่เอากระเป๋ามาเมื่อไหร่ แล้วเจี๊ยบจะย้ายให้แล้วกัน" เธอตอบแบบหน้าบึ้งๆ แวนนึกในใจ แล้วถ้าฉันย้ายของเข้ามา ตอนเธอไม่อยู่บ้านล่ะ จะให้ฉันไปวางไว้ที่ไหน แต่ก็ขี้เกียจจะต่อปากต่อคำ เป็นอันบอกกันให้รับรู้ไว้แล้ว

    เมื่อเธอได้รับฟังปัญหาจากแอ๋ม จึงรู้ว่าแอ๋มก็ไม่ได้มีความสุขกับโก้และเจี๊ยบนัก เธอบอกแวนว่า
    "เจี๊ยบน่ะแหละพี่ ที่ใช้ห้องน้ำแบบซกมก กระจุยกระจายมาก เส้นผม เส้นขนร่วง ไม่เคยจะเก็บ บ้วนยาสีฟันไว้เลอะเทอะ บางทีมีเสลดทั้งเปียกทั้งแห้ง ที่แอ๋มรู้เพราะเคยเข้าห้องน้ำต่อจากเขา ก็เจอแจ็คพ็อตเลย เนี่ย เรื่องผมเรื่องขนอีก ร่วงกันกระจายตามห้องน้ำ บางทีอาบน้ำเสร็จแล้ว ขนก็ค้างอยู่ในอ่าง แอ๋มพอจะรู้แล้วละ ว่าขนของใครเป็นแบบไหน"
    แอ๋มพูดแบบติดตลก เธอแต่งงานแล้ว จึงกล้าพูดอะไรเปิดเผยในเรื่องแบบนี้ให้แวนฟัง
    "เหอๆๆ แอ๋มนี่ นอกจากมาทำวิจัยเรื่องเรียนแล้ว ยังมาเป็นนักวิจัยเส้นขนที่นี่ด้วยเรอะ" แวนแหย่เธอ
    "ก็มันเห็นกันจะๆน่ะพี่ แล้วก็ลองเทียบดูกับเส้นผมบนหัวด้วย" ว่าแล้วแอ๋มก็นั่งบรรยายลักษณะเส้นขนของแต่ละคนให้แวนฟัง แวนก็นั่งฟังไปขำไป
    แล้วก็รู้สึกว่า แอ๋มนี่เป็นคนละเอียดละออมากจริงๆ เข้าห้องน้ำคราวต่อไป เห็นจะต้องระวังให้ดีซะแล้ว
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×