คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Ep3:ไร่ชาจาง
มณฑลฮกเกี้ยน ประเทศจีน
เอาหล่ะครับ อย่างที่เราได้ทราบกันดี ผมถูกลักพาตัวมาประเทศจีน ใช่!! ถูกลักพาตัวมา ตอนนี้ผมมาอยู่ที่ไร่ชาจางแล้ว ขอบอกว่า ใหญ่โครต!! นี่ไม่ใช่ไร่ชาแล้ว ป่าชาชัดๆ
ผม พี่อี้ชิง แบคฮยอน คยองซู และเซฮุน ตอนนี้เรามาอยู่ภายในตัวบ้านกันแล้ว ทันทีที่เราไปถึง คุณน้าลี่อินก็ออกมาต้อนรับพวกเราทันที ผมจำคุณน้าลี่อินได้ ตอนที่ผมอยู่โรงพยาบาล คุณน้าลี่อินมาเยี่ยมผมทุกวันเลยหล่ะ
“เฉินลูก เป็นไงบ้าง ไม่ได้เจอกันตั้งห้าปี น่ารักขึ้นเยอะเลย”
“คุณน้าครับ แบบผมต้องหล่อสิ ชมว่าน่ารักผมก็เสียความมั่นใจแย่” ผมหล่อจริงนะ คาริสม่าสุดๆ ผู้ชายแมนๆ ซังนัมจาฝุดๆ
“จ้า หล่อก็หล่อ นั่นแบคฮยอน คยองซูและเซฮุนใช่ไหม มาเหนื่อยๆเข้ามานั่งพักก่อนนะลูก แม่จัดห้องไว้ให้ทุกคนแล้ว ซิ่วหมินจ๊ะ พาเด็กๆไปพักที แล้วก็อี้ชิง แม่มีเรื่องจะคุยกับลูกนะ” คุณน้าพูดจบก็เดินออกไปทันที พี่อี้ชิงก็เดินตามไปเงียบๆผมจึงละความสนใจจากทั้งสองไป เพราะยังไงแม่ลูกจะคุยกันคงไม่เกี่ยวอะไรกับผมอยู่แล้วแหละ
“เฉิน จำพี่ได้ไหม”
“จำได้สิครับพี่ซิวหมิน”
“นายน่ารักขึ้นเยอะเลยนะ ปีนี้อายุ18แล้วใช่ไหมเนี้ย น่ารักกว่าเมื่อห้าปีที่แล้วอีกนะ” ชมผมว่าน่ารักอีกแล้ว อย่างผมต้องหล่อสิ ผมหล่อ ได้ยินไหมว่าผมหล่อ!!
“พี่ซิ่วหมินอ่ะ เลิกชมผมว่านักเสียทีเถอะ”
“ห้าๆๆตอนนั้นนายอายุแค่13ปีเอง ยังสูงไม่ถึงเอวพี่เลยนะ นี่จะสูงเท่าพี่แล้วนะเนี้ย” พี่ซิ่วหมินพูดขึ้นพร้อมกับขยี้หัวผมซะจนเละไม่เป็นทรง
“คิกคิก นึกถึงเมื่อห้าปีมี่แล้วเลยนะครับ ผมจำไร่ชานี้ได้ดีเลยหล่ะ”
“………” ทันทีที่ผมพูดออกไป บรรยากาศก็ตกอยู่ในความเงียบ แม้แต่แบคฮยอน คยองซู และเซฮุนที่เงียบอยู่แล้วก็เงียบหนักเข้าไปอีก นี่ผมพูดอะไรผิดหรือเปล่านะ
“เออ เฉิน ฉันเหนื่อยมากเลยหว่ะ ง่วง รู้สึกจะเจ็ทแล็ค พี่ซิ่วหมินครับ พาพวกเราไปที่ห้องพักสักทีสิ”
“อ่อ นั่นสิ ตามพี่มาเลย”
พวกเค้าปิดบังอะไรผมอยู่กันแน่
ว้าววว สวยชะมัดเลย
ทันทีที่ผมเข้ามาถึงห้องของผม ผมก็เดินตรงไปที่ระเบียงทันที จากระเบียงผมมองเห็นไร่ชาได้เกือบทั้งไร่เลย~
“เฉิน ห้องแกโครตเจ๋งเลยอ่ะ”
แบคฮยอนที่เปิดประตูเข้ามาในห้องของผมโดยพละการวิ่งมาหาผมที่ยืนอยู่ตรงระเบียง ไอ้แบคเดินมายืนข้างผมพลางสูดอากาศที่สดชื่นไปด้วย แต่ผมมีเรื่องหนึ่งที่คาใจผมมากเลย
“แบค พวกพวกแกลักพาตัวฉันมาแถมเตรียมเสื้อผ้ากันซะดิยดีนี่ ว่างแผนล่วงหน้าใช่ปะ” ผมถามอย่างสงสัย คือ พวกมันสามตัวเก็บเสื้อผ้ากันซะดิบดี แถมน้าลี่อินยังเตรียมห้องพักไว้ถึงสามห้องเหมือนรู้ว่าผมกับพวกมันจะมางั้นแหละ
“แหม~ ก็กูไม่รู้จะทำไงนี่ พ่อของแกเองก็ต้องการแบบนี้”
“เฮ้อ กูไม่อยากแต่งงานเพราะธุรกิจ มึงเข้าใจกูนะ”
“….” ไอ้หมาแบคเงียบไปทันทีที่ผมพูดขึ้น มันคงรู้ดีว่าคำพูดนั้นผมจริงจังแค่ไหน เป็นอันรู้ดีภายในกลุ่มเรา เราจะพูดกูมึงใส่กันก็ต่อเมื่อเราพูดกันเล่นๆ หรือไม่ก็จริงจังสุดๆ
“แต่พวกมึงมาอยู่ที่นี่กับกูก็ดีเหมือนกัน กูจะได้ไม่เหงา” ผมพูดแค่นั้น ก่อนจะเดินออกมาและทิ้งมันไว้ที่ตรงนั้นคนเดียว ผมจะทำไงดี พี่อี้ชิงไม่ใช่คนไม่ดี แถมพี่เค้ายังสุภาพและดูใจดีอีกต่างหาก แต่ปัญหาคือผมไม่ได้รักพี่อี้ชิงแถมพี่อี้ชิงยังเป็นผู้ชาย!
ทางด้านอี้ชิงและคุณนายจาง
“อีชิง แม่ได้รับโทรศัพท์จากน้าซอฮยอน”
“เอ่อ….คุณน้าว่าไงบ้างครับ”
“จะว่ายังไงได้หล่ะ ก็ดุเราเสียยกใหญ่ ไปอุ้มน้องมาแบบนั้นได้ยังไง”
“ผมแค่คิดว่ามันคงดี ที่น้องจะมาอยู่ที่นี่”
“ดีกับตัวเรา หรือดีกับตัวน้องหล่ะ?” คำพูดของคุณนายจางทำให้อี้ชิงถึงกับเงียบไป เค้าเองก็รู้ดี ว่าสิ่งที่เค้าทำมันคือการเห็นแก่ตัว แต่ ณ เวลานั้น คงไม่มีทางไหนจะดีไปกว่าการทำแบบนี้อีกแล้ว ก็ได้แต่หวัง ว่าอะไรมันจะดีขึ้นกว่าเดิม…
“อ่าว ลงมาแล้วหรอลูก ห้องพักเป็นไงบ้าง”
“สวยมากเลยครับ มองเห็นไร่ชาด้วย ขอบคุณนะครับ”
“เออ.. เฉิน เมื่อห้าปีที่แล้ว หนูถูกรถชนใช่ไหม”
“ใช่ครับ ผมจำได้ว่าผมกำลังวิ่งข้ามถนนแล้วไม่ทันมองเลยถูกรถชน”
“น้าต้องขอโทษด้วยนะ อยู่ในเขตไร่ของน้าแท้ๆ แต่น้ากับดูแลเฉินไม่ดี”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมต่างหากที่เอาแต่วิ่งเล่นจนไม่ดูทาง หมอบอกว่าหัวของผมกระแทกพื้นแรงมาก โชคดีนะครับที่ความจำไม่เสื่อม”
“อื้มดีแล้วหล่ะ” น้าลี่อินพูดขึ้นพร้อมกับลูบหัวผมไปด้วย มือของน้าลี่อินยังอบอุ่นเหมือนเดิมเลย
“เออ คุณน้าครับ ผมขออนุญาติออกไปเดินเล่นได้ไหมครับ ไม่ได้มาตั้งห้าปี ผมคิดถึงที่นี่จังเลย”
“ได้ ตามสบายเลย คิดซะว่าเป็นบ้านตัวเองเลยนะ” ผมกล่าวลาน้าอี้ชิงและออกมาเดินเล่นไปเรื่อยๆ ไม่ได้มาตั้งห้าปี แต่กลับไม่เปลี่ยนไปเลยแฮะ ไร่ชานี้ ผมจำได้ว่าเมื่อห้าปีที่แล้ว ผมเคยมาเล่นที่นี่กับพวกแบคฮยอนและคยองซู ตอนนั้นเจ้าเซฮุนก็อยู่ด้วย แต่หายเฮดไปไหนก็ไม่รู้ ไม่ยอมเล่นกับพวกผมเลย
“ออกมายืนตากลมแบบนี้ไม่หนาวหรอ”
เสียงนุ่มน่าฟังที่ดังขึ้นทำให้ผมหลุดออกจากโลกส่วนตัวทันที เป็นเสียงของพี่อี้ชิงนี่เอง
“ไม่หนาวหรอกครับ อากาศกำลังดีเลย” ผมหันไปยิ้มให้พี่อี้ชิงน้อยๆและหันไปสนใจไร่ชาตรงหน้าต่อ ที่ไร่ชานี้ทำให้ผมนึกถึงความทรงจำเก่าๆ
“นาย ชอบไร่ชานี้ไหม”
“ชอบสิครับ เมื่อห้าปีที่แล้วผมมาเล่นที่นี่ ผมยังจำมันได้ดีเลย”
ฟึบ~
ขณะที่ผมกำลังนึกถึงความหลัง ผมก็รู้สึได้ถึงมือหนึ่งที่เอื่มมาจับมือผมไว้
“ถ้าชอบก็มาอยู่ที่นี่สิ”
“ตอนนี้ผมก็มาอยู่แล้วไงครับ พี่ลักพาตัวผมมา”
“พี่หมายถึงอยู่ที่นี่กับพี่ ตลอดไป”
สายตาที่จริงจังปนเว้าวอนของพี่อี้ชิงทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ มือของพี่อี้ชิงที่กุมมือผมไว้มันอบอุ่นอย่างน่าประหลาด สายตาที่หวานเชื่อมคู่นี้เหมือนกำลังสะกดผมจนผมเองไม่อาจละสายตาได้ ทำไมหัวใจของผมถึงเต้นแรงขนาดนี้?
ไม่จริงน่า….. นายแค่ตกใจเพราะไม่เคยถูกผู้ชายจับมือ
“เออ พี่อี้ชิงครับ ผมก็เคยมาไร่ชานี้ แต่ทำไมผมไม่เคยเจอพี่เลยหล่ะ” ผมพูดขึ้นเพื่อทำลายบรรยากาศแปลกๆนี่ อะไรกันนะ ความรู้สึกแปลกเมื่อกี้นี้
“พี่ก็อยู่ที่นี่นั่นแหละ”
“พี่น่าจะออกมาเล่นกับผมนะครับ จะได้สนิทกันไว้”
“……”
“พ่อแม่ของเรานี่ก็ร้ายจังเลยนะครับ ไปทำสัญญาแบบนั้นกันตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ บ้าไปแล้ว เราเป็นผู้ชายทั้งคู่ จะมาแต่งงานกันได้ไง”
“ผู้ชายต้องคู่กับผู้หญิงเท่านั้นหรอ”
น้ำเสียงที่สั่นไหวแปลกๆทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะต้องหันไปมอง สายตาของพี่อี้ชิง มันดูว่างเปล่าจนน่าประหลาด
“แน่นอนสิครับ ผู้ชายกับผู้ชาย มันไม่เหมาะสมกันเลยสักนิด” ผมตอบกลับไปอย่างมั่นใจ ผู้ชายหน่ะ เกิดมาเพื่อผู้หญิงเท่านั้น
“แต่สำหรับพี่นะ ถ้าเมื่อไหร่ที่พี่เจอคนที่ใช่ จะสวยหรือว่าไม่สวย”
“……”
“จะเป็นผู้หญิงหรือว่าผู้ชาย”
“……”
“ถ้าเป็นคนที่ใช่แล้ว พี่ก็จะคว้าเค้าเอาไว้ให้ได้”
“…..”
“เพราะเราไม่รู้หรอกนะ ว่าชีวิตเราจะได้เจอคนที่หัวใจมันบอกว่าใช่สักกี่ครั้ง ถ้ามัวแต่สนใจเรื่องความเหมาะสม แล้วเมื่อไหร่จะได้ทำตามหัวใจจริงๆของตัวเองสักที”
“…แล้วถ้าสมมุติว่าพี่มีแฟนเป็นผู้ชายจริงๆ พี่ไม่กลัวคนอื่นเค้านินทาหรอ”
“ความรักมันเป็นเรื่องของคนสองคนที่มีหัวใจตรงกัน จำเป็นต้องให้คนอื่นมาตัดสินด้วยหรอ ทำไมนายต้องฟังเสียงของคนอื่น จนลืมฟังเสียงหัวใจตัวเอง”
“…..” คำพูดของพี่อี้ชิงทำให้ผมเงียบไป นั่นสินะ ทำไมผมไม่ฟังเสียงหัวใจตัวเอง
หัวใจเอ๋ย ที่นายเต้นแรงขนาดนี้ นายกำลังจะบอกอะไรกับฉันงั้นหรอ ฉันไม่เข้าใจมันเลยสักนิด
ความคิดเห็น