ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    PSYCHO HOTEL

    ลำดับตอนที่ #7 : PSYC HO HOTEL7 ..............แอนู

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 86
      0
      9 มิ.ย. 54

    Psycho Hotel 7

    สาวนูดิ้นกระแด่วๆ เหมือนปลาถูกจับ มือแข็งแกร่งรวบต้นแขนจากด้านหลังราวกับจะรู้ว่าทำให้สาวนูไม่สามารถใช้ท่าสกายคิกอันลือลั่นของเธอได้อีกต่อไป

     

    ปล่อยฉันนะไอ้บ้า ปล่อยๆๆ

     

    พยายามดิ้นรมอย่างสิ้นหวังเพราะรู้ถึงพลังมหาศาลของร่างลึกลับผู้กำลังลากเธอเข้าไปในห้อง ซึ่งดูเหมือนจะยาวเหยียดเกินความเป็นจริง

    ถ้าไม่อยากตายเพราะพวกผีที่อยู่ข้างนอก อย่าเอะอะโวยวาย

    เสียงแหบพร่าแตกสนั่นราวกับเสียงของพวกนักร้องประเภท Death Metal ดังออกมาจากปากของร่างลึกลับ แม้จะดูหยาบกระด้างแต่กลับไม่มีแววมุ่งร้ายอย่างที่คิดไว้ในตอนแรก สาวหลับแหลกเริ่มตั้งสติแต่ก็ยังพยายามขืนตัวต่อต้านสุดฤทธิ์ ปากก็ร้องถามเสียงดังจนแสบแก้วหู

    นายเป็นใคร ต้องการอะไร ปล่อยฉันก่อนได้ไหม

    ปล่อยได้ ถ้าคุณจะฟังผมให้ดีๆ

    ก็ได้..ก็ได้

    สาวนูรีบพยักหน้ารับคำทันที มือแข็งแกร่งจึงปล่อยออกจากต้นแขน หันหน้ามาเผชิญ หญิงสาวจึงมีโอกาสพิจารณาคนลึกลับนั่นเต็มตา

    ร่างนั้นสวมหน้ากากโลหะแบบเดียวกับปีศาจอมอมตะเจสัน แห่งศุกร์ 13 ฝันหวาน แต่ในมือไม่ได้ถือดาบยาวอย่างเจสัน ไหล่สะพายเลื่อยไฟฟ้าแบบเดียวกับฆาตกรโรคจิตเลทเธอร์ เฟธ แห่งสิงหาสับ ใช้ล่าเหยื่อ  นิ้วมือข้างซ้ายสวมเล็บเหล็กคมกริบแบบเดียวกับของปีศาจเพี้ยนสยอง เฟรดดี้ ครูเกอร์ นิ้วเขมือบใช้ไม่มีผิด

    สาวนูมองแล้วส่ายหน้าบอกว่า

     

    ไม่ครีเอทเลยนะ เล่นเอาสองปีศาจกับหนึ่งโรคจิตมาผสมกันเป็นสไตล์ของตัวเองแบบนี้

    เธอไม่รู้อะไร

    เสียงแหบต่ำนั้นคัดค้านอย่างไม่เห็นด้วย สมัยนี้เขานิยมบูรณาการ ทำไมผมถึงจะทำบ้างไม่ได้ อีกอย่างมันง่ายดี

    แล้วต้องการอะไร

    สาวนูเริ่มถามเพราะรู้สึกว่าตัวลึกลับตัวนี้ไม่ได้มีเจตนาร้าย

    คุณฟังผมให้ดี.....คุณนู ตอนนี้คุณกำลังหลับอยู่ในห้องพัก นางแบบหลุดโลกเข้าห้องน้ำ อรุสาและเทียนสีลงไปข้างล่าง อีกสักหน่อยจะกลับขึ้นมา คุณลงไปกับพวกนั้นทานอาหารให้เรียบร้อยแล้วขอตัวขึ้นมาหลับต่อในห้องพัก...

    เดี๋ยวก่อน....

    สาวจอมหลับพลังแฝงร้องขัดคอขึ้นอย่างอดรนทนไม่ได้

    ตอนนี้ฉันอยู่ในห้องบ้าๆนี้ ซึ่งนอกห้องมีผีเดินสวนสนามเต็มไปหมด แล้วจะมาบอกว่าฉันหลับได้อย่างไร แล้วทำไมฉันต้องเชื่อแก เอ่อ...คุณด้วย ประโยคหลังสาวนูรีบเปลี่ยนสรรพนามเพราะเห็นว่าตัวประหลาดนี้ก็สุภาพกับเธอเช่นกัน

     

    เชื่อผมเถอะ ตอนนี้ไม่มีเวลาอธิบาย ถ้าคุณไม่เชื่อผม พวกคุณทั้งหมดจะไม่ได้กลับออกไปสู่โลกภายนอกอีกเลย  อย่าลืม ทานข้าวเสร็จรีบกลับมานอนหลับให้เร็วที่สุด ไม่งั้นจะช่วยคุณและเพื่อนของคุณไม่ได้

    ยังไม่ทันขาดคำผนังห้องด้านหนึ่งก็ระเบิดครืนออก ท่ามกลางลงฝุ่นละอองและเศษอิฐหินกระจัดกระจายเวียนว่อน ปรากฏร่างของคนสองคนก้าวตรงเข้ามาอย่างช้าๆ

    คนแรกสาวนูจำได้ดี คือหนุ่ม KTC ซึ่งประจำอยู่หน้าเคาน์เตอร์ห้องรับแขกของโรงแรมชั้นล่างนั่นเอง หญิงสาวหันไปมองแล้วยิ้มกว้างอย่างดีใจ ถึงอย่างไรก็เป็นหนุ่มหล่อ ไม่ใช่ ศุกร์ 13 สิงหาสยองสับเขมือบ อย่างตัวประหลาดแม้แต่น้อย

    แต่เธอต้องยิ้มค้าง

    หนุ่ม KTC ไม่ได้ยิ้มด้วย ไม่ใช่หนุ่มร่าเริงเหมือนที่รู้จัก ใบหน้าเย็นชาไร้ความรู้สึกราวกับรูปปั้นให้ความรู้ลึกเย็นยะเยียบอย่างน่าสะพรึงกลัว

    ส่วนคนที่ก้าวตามมาติดๆกลับเป็นสาวชุดดำที่ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนเลย ที่หน้าอกเสื้อติดคำว่า inn ซึ่งคงจะเป็นชื่อของเธอใบหน้าเย็นชาไร้ความรู้สึกน่ากลัวแบบเดียวกับหนุ่ม KTC ไม่มีผิด

     

    รีบหนีออกไปด้านประตูด้านซ้ายมือ

     

    เสียงของตัวประหลาดตะโกนก้องหู ทำให้หายตกตะลึง หันไปมองทางซ้ายมือก็พบว่ามีประตูอยู่บานหนึ่งจริงๆ

    ยังไม่ทันทำอะไรมือของหนุ่ม KTC ก็ยื่นคว้าตรงเข้ามา สาวนูรีบหลบวูบออกไปด้านข้างตามสัญชาตญาณ

    ตูม !!

    มือของหนุ่มน้อยพลาดเป้ากดกระแทกเข้าผนังปูนด้านหลังจนเป็นรูไหว่ด้วยกำลังมหาศาลแบบไม่น่าเป็นไปได้

    เล่นแรงขนาดนี้เลยหรือนี่

    สาวนูร้องเสียงหลงอย่างตกใจเมื่อเห็นร่องรอยหายนะของการโจมตี ถอยหลังกรูดออกไปทางประตูดังกล่าวอย่างรวดเร็ว แต่แล้วก็ใจหายวาบเข่าอ่อนด้วยความตกใจ

    สาวอินไม่รู้เคลื่อนตัวมาอยู่ด้านข้างตั้งแต่เมื่อไร ราวอาการเคลื่อนตัวของแมวขโมย มือทั้งสองยกขึ้นทำท่าเหมือนจะมาบีอคอ

    สกายคิกของสาวนูเริ่มทำงาน สลับเท้าเตะกราดออกไปสองครั้งราวประกายไฟ

    แต่คราวนี้ไร้ผล ความรู้สึกเหมือนเตะใส่ต้นไม้ทั้งแข็งแกร่งทั้งทนทานไม่สะดุ้งสะเทือนแม้แต่น้อย ร่างของสาวนูเสีนหลักตกลงมานอนไม่เป็นท่าอยู่บนพื้น

    มือขวาของสาวอินพุ่งวูบเข้ามาแล้ว

    แต่ก่อนมือมรณะจะมาถึง ใครคนหนึ่งก็พุ่งชนร่างของสาวอินเต็มแรงจนเกิดประกายไฟแตกวาบเหมือนการกระแทกกันของโลหะ ร่างสาวอินกระเด็นไปชนผนังจนผนังอิฐถล่มพังครืนลงมาทั้งแถบ เป็นตัวประหลาดนั่นเองที่เข้ามาขัดขวางทันเวลา  ในมือมีเลื่อยไฟฟ้ากำลังคำรามกระหึ่มกึกก้อง

    รีบหนีไปทางประตูนั่นเร็ว

    เสียงกำชับอย่างเร่งร้อน  นั่นสาวอินกำลังลุกขึ้นมาจากเศษซากปรักหักพังราวกับมนุษย์หุ่นยนต์ที่ไม่รู้จักความเจ็บปวด สาวนูรวบรวมกำลังที่เหลือพุ่งตัวเข้าไปในประตูบานนั้นทันทีโดยมีมือของสาวอินคว้าเฉียดข้อเท้าไปเพียงนิดเดียว

     

    ++++++

     

    แสงไฟสว่างจนแสบตาสาวนูรู้สึกเหมือนมีอะไรมาจับข้อเท้าไว้แน่น  จึงพยายามเหวี่ยงซ้ายป่ายขวาด้วยความตกใจ แต่แล้วก็เริ่มได้สติทีละน้อย เธอยังนอนอยู่ในห้องพักของโรงแรม สงสัยนอนเพลินแล้วหลับไปกับฝันร้ายอันน่าสะพรึงกลัว ขยับตัวจะลุกขึ้นแต่แล้วก็พบว่าบริเวณข้อเท้าตนเองมีผ้าผูกมัดแน่น

    ใครมาทำบ้าๆแบบนี้

    เริ่มโวยวายเสียงดัง มองหาตัวการซึ่งก็ไม่ต้องหาไม่ยากเพราะเทียนสีและอรุสายืนมองอยู่ริมประตูอย่างระมัดระวังตัว

     

    พวกเธอมามัดฉันไว้ทำไม

    พอได้สติก็เริมต่อว่าเพื่อนทันที เทียนสีสาวลูกครึ่งยกมือห้ามก่อนบอกว่า

    ใจเย็นๆ ก็เธอเล่นสกายคิกคนปลุกเธอเสมอนี่นา ไม่มัดไว้แบบนี้พวกฉันก็แย่ล่ะสิ

    สกายคิกค๊อกแค๊กอะไรไม่เห็นรู้เรื่อง มาแก้มัดฉันก่อน

    แน่ใจนะว่าเธอตื่นแล้ว

    อรุสาถาม ยังกอดตุ๊กตาไว้แน่น พร้อมจะกดปุ่มยิงไฟฟ้าออกไปได้ถูกเมื่อ

     

    ยัยสา..เธอจะฆ่าเพื่อนหรือไง  สาวนูขู่ฟ่อ อรุสายิ้มกวนๆ หันหน้าไปมองสาวเทียนสีอย่างขอความเห็น ฝ่ายนั้นพยักหน้า อรุสาจึงหันมามองแล้วบอกยิ้มๆตามไตล์ของเธอ

    ยัยนู..มือของเธอสองข้างก็ว่างไม่ใช่เหรอ ไม่ได้มัดมือไว้สักหน่อย แก้มัดเองสิ

    เออ..จริงแฮะ

    สาวนูเพิ่งนึกออกมาได้ ก็มือว่างอยู่ทั้งสองข้างไม่ได้ถูกมัดสักหน่อย ทำไมจะแก้มัดผ้าเช็ดตัวซึ่งมัดข้อเท้าไว้ไม่ได้ ความรู้สึกช้าจริงๆ

    เทียนสีเอียงหน้าไปกระซิบกับอรุสาเบาๆว่า

    ดีนะ ที่ยัยคนนี้ ไม่ตื่นขึ้นมาแล้วสกายคิก ตามด้วยกระโดดตบ ไม่งั้นคงต้องมัดมือมัดเท้า

    แค่นี้ก็แย่อยู่แล้ว

    อรุสาหัวเราะคิก

    เทียนลองนึกภาพดู วันยัยนูแต่งงาน เช้าขึ้นมาพบว่าเจ้าบ่าวนอนสลบตากลับกลิ้งโค่โร่อยู่บนพื้น เพราะถูกเตะก้านคอ เป็นอย่างนี้ทุกเช้า ใครจะไปทน

    แล้วหนุ่มๆหล่อๆ ทั้งหลายก็ทิ้งยัยนูไป ไม่งั้นตายแน่ สาวลูกครึ่งเสริม แล้วพากันหัวเราะชอบใจ

    พวกเธอนินทาอะไรฉัน

    สาวนูยังอุดส่าห์ได้ยิน เธอลุกจากเตียงได้แล้ว หันมองซ้ายมองขวาแล้วหันมาถาม

    เรามากันกี่คนนี่

    จะบ้าเหรอยายนู เทียนสีเป็นคนตอบมองหน้าอีกฝ่ายอย่างไม่เข้าใจว่ากำลังพยายามบอกอะไรกันแน่

    พวกเรามากันสี่คน นับเลขไม่เป็นหรือไง

    สี่คน....อีกคนหายไปไหน

    ใครหายไป

    อรุสารีบยกมือบอกทันทีว่า

    ฉันไม่ได้หายไปไหนนะ ฉันอยู่นี่ ไม่เชื่อถามยัยเทียนดูก็ได้

    ฉันก็ไม่ได้หายไป สาวนูประกาศ ฉันยังอยู่ที่นี่ ไม่ต้องถามใครทั้งนั้น เพราะฉันรู้ว่าฉันไม่ได้หายไปไหน

    อ้าว..แล้วใครหายไปล่ะ อรุสามองซ้ายขวา

    พวกเธอเป็นอะไรกัน เทียนสีส่ายหน้าอย่างเซ็งจิตกับอาการโก๊ะของเพื่อน

    ตอนนี้ใครรู้ว่ายัยนางแบบอยู่ไหน

    ยัยนั่นไปเข้าห้องน้ำไง อรุสาเป็นคนบอกอย่างมั่นใจ

     ก่อนพวกเราจะลงไปข้างล่าง ใครๆก็รู้ว่ายัยนางแบบเข้าห้องน้ำ

    แล้วเข้านานขนาดนี้นะ

    เทียนสีพูดแล้วหันไปมองประตูห้องน้ำ เริ่มรู้สึกว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากล เข้าห้องน้ำนานขนาดนี้มันไม่ธรรมดา ทุกคนในห้องเริ่มมองตามและรู้สึกถึงความผิดปกตินั้น

    ห้องน้ำกินคน อรุสากระซิบเสียงสั่น

    บ้าน่า..

    เทียนสีหันไปดุแล้วก้าวเท้าไปหาประตูห้องน้ำอย่างช้าๆ และไม่ไว้ใจ ก่อนยกมือเคาะประตูแรงๆ พร้อมกับตะโกนเรียกเสียงดัง

    ยัยนางแบบ อยู่ในนั้นหรือเปล่า

    ไม่มีเสียงตอบรับ

    ลองขยับลูกบิดดู ปรากฏว่าไม่ได้ล็อค เทียนสีนิ่งอยู่สักพักก่อนตัดสินใจเปิดประตูโดยแรง

    ในห้องไม่มีร่องรอยของนางแบบยุคแรกของโลกเลย

    ฉันนึกแล้วเชียว....ห้องน้ำกินคน

    อรุสาร้องเสียงดัง ทำท่าเหมือนจะร้องไห้ ก็เพื่อนหายไปทั้งคนใครจะเฉยอยู่ได้ เทียนสีกับสาวน฿พากันตรวจดูอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นในอ่างอาบน้ำ โถชักโครก หลังกระจกติดผนังในอ่างล้างหน้า ก็ไม่พบวี่แววของสาวนางแบบแม้แต่น้อย

    สาวนูตรวจดูพื้นห้องน้ำ พบว่ามันแห้งสนิทเหมือนไม่เคยมีการใช้งานมานาน

    เป็นไปได้ไหมว่า ยัยนางแบบออกไปข้างนอก ตอนที่พวกเธออยู่ข้างล่าง และฉันกำลังหลับอยู่

    สาวนูขอความเห็นของเทียนสี คนถูกถามนิ่งคิดครู่หนึ่งแล้วส่ายหน้าบอกว่า

    เป็นไปได้ยาก.....อย่าลืมสิว่าชุดพฤกษาพันธุ์ของยัยนั่นยังคงวางอยู่บนเตียงเลย เธอคว้าผ้าเช็ดตัวไปผืนเดียวเข้าห้องน้ำ แล้วคิดหรือว่ายัยนั่นจะกล้าเดินออกไปนอกห้องทั้งที่นุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียว

     

    มันก็ไม่แน่ ยัยนั่นยิ่งบ้าๆอยู่ด้วย

    ถ้างั้น..

    เทียนสีหันไปมองเพื่อน

    พวกเรารีบลงไปห้องงานเลี้ยง เผื่อว่ายัยนางแบบจะเดินแบบชุดอาบน้ำของเธอจริงๆ

    ไม่อยากนึกภาพเลย

    อรุสาบ่น

    งานเลี้ยงแบบนั้น ยัยนางแบบจะกล้านุ่งผ้าเช็ดตัวไปงาน คงพิลึกน่าดู แค่นึกก็ใจสั่นแล้ว ว่าแต่พวกเราจะอาบน้ำกันก่อนไหมนี่

     

    ไม่มีทาง


    ทั้งสาวนูและเทียนสีตอบพร้อมกัน อรสาพยักหน้าอย่างเข้าใจ บ่นกับตัวเองและกับตุ๊กตาหมีในอ้อมแขนว่า

    ฉันนึกแล้วเชียว..พวกเธอกลัวห้องน้ำกินคน

     

    ++++

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×