ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    PSYCHO HOTEL

    ลำดับตอนที่ #3 : PSYC HO HOTEL 2..............Highway song

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 133
      1
      16 พ.ค. 54

               PSYCHO HOTEL

    บทที่ 3 Highway song (Black Foot)

    : GTW

     

    โรงแรม......โรงแรมเห็นๆ

     

    นางแบบสาวพูดไปหัวเราะไปด้วยความดีใจ การขับรถมาเป็นระยะเวลานานทำให้เธอทั้งเหนื่อยทั้งหิว แถมน้ำมันยังจะหมดถังอีกต่างหาก การเห็นที่พักแบบไม่นึกไม่ฝันทำให้ดีใจจนบอกไม่ถูก ทุกคนในรถก็มีอาการเดียวกัน ไม่เว้นแม้แต่สาวนูผู้หลับไม่ยอมตื่นก็ยังละเมอดีใจกับเพื่อนๆด้วย

     

    รถเก๋งคันงานเลี้ยวปราดเข้าไปอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย

     

    ด้านหน้าของโรงแรมเป็นลานจอดรถกว้างขวาง มีรถจอดอยู่หลายสิบคัน แต่บรรยากาศกลับดูสงบเงียบอย่างประหลาด เงาจากอาคารใหญ่โตของโรงแรมดูมืดทะมึนคล้ายทำมุมกับแสงแดดผิดธรรมชาติพิกล แต่ไม่มีใครสนใจเรื่องพวกนี้มากนัก นาวแบบหลุดโลกพยายามหาบริเวณจอดรถที่ใกล้ทางเข้าหน้าโรงแรมให้มากที่สุด ซึ่งก็ไม่ลำบากมากนัก ยังพอมีที่ว่างอยู่หลายที่และในที่สุดก็ได้ที่จอดใต้ต้นสนใหญ่หน้าโรงแรมพอดี

    เทียนสีออกมาจากรถตั้งแต่รถยังไม่ดับเครื่องเสียด้วยซ้ำ การนั่งรถเป็นเวลานานทำให้เธอรู้สึกปวดเมื่อยล้าไปหมดทั้งตัว สาวลูกครึ่งแหงนหน้ามองป้ายชื่อขนาดใหญ่ของโรงแรมอย่างนึกทึ่งในใจ โรงแรมใหญ่โตโอ่อ่าไม่น่าจะมาตั้งอยู่ในเส้นทางโดดเดี่ยวห่างไกลจากความเจริญแบบนี้ มันไม่น่าเป็นไปได้

    ตัวโรงแรมทาสีขาวสะอาดตา ป้ายชื่อโรงแรม Psycho Hotel เป็นประกายแวววาวราวกับเป็นโลหะถูกรักษาดูแลขัดเจนขึ้นเงาผ่านการดูแลเป็นอย่างดี

    ลานจอดรถก็ดูสะอาดสะอ้านไม่มีเศษขยะหรือสิ่งของสกปรกปรากฏให้เห็นแม้แต่ชิ้นเดียว

    คนที่สองซึ่งเยื้องกายลงมาจากโรงคือสาวน้อยอรุสา มือยังกอดตุ๊กตาหมีสีขาวแนบแน่นแบบไม่มีวันที่เราจะพรากจากกัน นางแบบสาวหลงยุคหลังจากตรวจความเรียบร้อยก็ลงมาจากรถเป็นคนที่สาม ส่วนสาวนูยังคงหลับแบบคนไม่สนโลกภายนอกอยู่เบาะหลังรถ

    เทียนสีมองหน้าอสุราแล้วพยักหน้าบอกว่า

    นี่ยัยสา...ไปปลุกยัยนูให้ตื่นได้แล้ว

    อรุสาส่ายหน้าปฏิเสธทันทีโดยไม่มีอาการลังเลแม้แต่น้อย

    ไม่มีทางหรอกย่ะ....เธอก็รู้ ยัยนูเหมือนคนอื่นเขาที่ไหน ขืนไปปลุกให้เธอตื่นมีหวังโดนเตะก้านคอสลบแน่ ไม่เอาล่ะ ฉันไม่เสี่ยงเด็ดขาด

    เทียนสีหันไปมองนางแบบหลุดโลกซึ่งก้าวตรงมาพอดี รายนั้นก็ส่ายหน้าอย่างรู้ทันโดยเทียนสียังไม่เอ่ยปากด้วยซ้ำ

    ไม่ต้องมองมาทางนี้เลย ฉันก็ไม่เอาด้วยหรอก

    แล้วจะปล่อยไว้แบบนี้เหรอ

    ไม่เป็นไรหรอกน่า เดี๋ยวเราเข้าไปติดต่อห้องพักเรียบร้อยค่อยกลับมารับยัยนู ท่าทางเราต้องพักที่นี่สักคืน เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว อีกอย่างรับรองว่าไม่มีใครหรือหนุ่มคนไหนทำอะไรเธอในตอนหลับได้หรอก

    พูดจบนางแบบย้อนยุคก็สะพายกระเป๋าถือประจำตัวก้าวฉับๆ ตรงไปยังประตูทางเข้าโรงแรมแบบไม่รอใคร เพราะทั้งเหนื่อยทั้งหิว อรุสามองหน้ามองหลัง ยิ้มหวานให้เทียนสีแล้วเผ่นตามไปอีกคน

    ให้มันได้อย่างนี้สิเพื่อนเรา

    สาวลูกครึ่งคนงามส่ายหน้าอย่างจนปัญญา แต่แล้วสายตามองไปเห็นขายหนุ่มอยู่ในชุดเหมือนพนักงานของโรงแรมกำลังเดินตรงเข้ามา ความคิดอันเฉียบแหลมก็เกิดขึ้นทันที

    ยินดีต้อนรับครับ คุณผู้หญิง

    เขายิ้มกว้างมาแต่ไกล เอาล่ะ... อย่างนั้นก็ยังมีคนเป็นๆปรากฏให้เห็นแล้ว เทียนสีนึกในใจ

    มีอะไรให้ช่วยถือไหมครับ ผมเป็นพนักงานต้อนรับดูแลที่นี่

    ไม่ต้องหรอกค่ะ

    เทียนสีตอบยิ้มๆพยายามทำสีหน้าให้เป็นธรรมชาติที่สุด

    พวกเราไม่ได้วางแผนตั้งใจมาพักที่นี่ ไม่ได้มีข้าวของมากมายอะไร ว่าแต่มีเรื่องหนึ่งจะวาน พอได้ไหม

    อะไรครับ

    ช่วยปลุกเพื่อนฉันให้ด้วย พอดีมีธุระด่วนจะตามเพื่อนไป จะรีบเข้าห้องน้ำด้วย ไม่มีเวลา

    ทำไมไม่ปลุกเองล่ะครับ

    อย่าถามมากได้ไหม เอางี้ก็แล้วกัน ให้ค่าปลุก หนึ่งร้อย

    พูดจบก็หยิบเงินในกระเปาถือราคาแพงส่งให้ หนุ่มน้อยทำตาวาวยิ้มกริ่มยื่นมือรับเงินทันที เงินหนึ่งร้อยกับการปลุกสาวๆ ให้ตื่นแบบนี้หาได้ง่ายที่ไหน

    ไม่ต้องห่วงครับ เดี๋ยวผมจัดการให้เอง

    ฝากด้วยก็แล้วกัน

    ว่าพลางเทียนสีก็รีบก้าวเดินเข้าไปในทางเข้าโรงแรมทันที

    พยักงานต้อนรับพับเงินใส่กระเปาเสื้อด้วยความรู้สึกดีใจกับลาภลอยได้มาแบบง่ายๆ หันไปมองประตูหลังรถซึ่งยังเปิดอ้าอยู่ เห็นหญิงสาวนั่งคอพับหลับแบบไม่รู้เรื่องก็นึกว่าเธอคงเหนื่อยกับการเดินทางมากเกินไป ก็ไม่เห็นยากอะไร

    นึกพลางเอื้อมมือไปเขย่าไหล่สาวนูเบาๆ ปากก็บอกด้วยเสียงค่อนข้างดังว่า

    คุณครับ ตื่นได้แล้ว เพื่อนคุณเขาไปกันหมดแล้ว

    สาวนูยังเฉย พนักงานต้อนรับหนุ่มเลยจับไหล่เขย่าหนักขึ้นอีก

    คุณครับตื่นได้แล้วครับ

    การสนองตอบคือเฉย.......

    คุณครับ ตื่นๆๆ....

    อะไรกัน หน้าตาก็น่ารัก แต่นอนขี้เซาขนาดนี้ คุณครับ ตื่นได้แล้ว..โว้ยประโยคหลังร้องสุดเสียง

    ฉับพลันนั้นเอง สาวนูพลันผวาขึ้นมานั่งตัวตรงเบิกตาโพลง  ก่อนจะก้าวฉับๆลงมาจากรถอย่างว่องไว ไม่มีอาการของคนง่วงเหงาหาวนอนเลยแม้แต่น้อย ก่อนพนักงานหนุ่มจะทันระวังตัว สาวนูก็กระโดดสปริงตัวลอยจากพื้นราวกับมีวิชาตัวเบา สลับเท้าเตะเปรี้ยงเข้าก้านคอคนปลุกเข้าให้อย่างจัง พนักงานหนุ่มลอยไปทั้งตัวหัวทิ่มโครมเข้ากับพุ่มไม้ สลบไปในทันทีด้วยการเตะอันเฉียบขาดของสาวนูผู้พลิ้วตัวลงมายืนย่อเข่าอย่างสวยงามราวกับลีลากังฟูสาว แต่สีหน้าท่าทางไม่รู้เรื่องอะไรเลยสักนิด

    เอ๋... เรามาทำอะไรอยู่ที่นี่

    พูดพลางค่อยยืดตัวตรงมองไปรอบๆ อย่างแปลกใจ เงยหน้าขึ้นมองป้ายโรงแรมครู่หนึ่งแล้วยิ้มอย่างนึกอะไรขึ้นมาได้ ก็นี่มันโรงแรมในความฝันเมื่อครู่นี่เอง ก่อนจะตื่นยังฝันว่าเพื่อนๆเดินเข้าไปในโรงแรมล่วงหน้าไปก่อนแล้ว

     

    นั่นเห็นขาพนักงานหนุ่มโผล่พ้นออกมาจากพุ่มไม้ก็นึกแปลกใจว่ากำลังทำอะไร ที่นี่เขามีวิธีการตัดกิ่งไม้ด้วยวิธีแปลกพิสดารขนาดนี้เชียวเหรอ

    โห...ทุ่มเทมาก ทุ่มเทมาก..

    สาวนูพูดเสียงดังอย่างชื่นชมกับความพยายามและเสียสละตัวเองตกแต่งพุ่มไม้ขนาดนั้น  มองครู่หนึ่งแล้วก็นึกได้ก็ช่างเถอะ ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเรา ว่าพลางเดินเข้าไปทางเข้าโรงแรมอย่างสบายใจ

     

       ---------

     

    ผ้า....ผ้าค่ะ........

    จันทร์ฟันฝันบอกกับแพรวดาวด้วยเสียงตะกุกตะกัก สีหน้าท่าทางเต็มไปด้วยความตื่นตกใจ แพรวดาววางถังน้ำยาฆ่าเชื้อและถัง แอลกอฮอล์ ลงข้างหลุมอย่างแปลกใจเช่นกัน มองหน้าสาวจันทร์ก็พอจะรู้ว่าเธอไม่ได้โกหก ไม่ว่าจะเล่าอะไรให้ฟังก็ตาม

    ผ้าเป็นอะไร แล้วตอนนี้ผ้าอยู่ที่ไหน อย่าบอกนะว่ามันวิ่งหนีไปแล้ว

    พยายามพูดให้เป็นเรื่องตลกจะได้ช่วยผ่อนคลายบรรยากาศ แต่อีกฝ่ายกลับบอกย้ำด้วยสีหน้าเคร่งเครียดจริงจังว่า

    มันไม่ได้วิ่งหนีค่ะพี่ แต่มันเลื้อยหนีไปต่อหน้าต่อตาเลย

    งูหรือผ้าปูที่นอนกันแน่แพรวดาวถามพลางจ้องหน้าคู่สนทนาอย่างไม่แน่ใจ แต่ก็ไม่พบพิรุธของการโกหกคำโตเลยแม้แต่น้อย แต่จะให้เชื่ออย่างไรว่าผ้าเลื้อยหนีได้

    ผ้าปูที่นอนสิคะ...พูดไปก็คงไม่มีใครเชื่อ

    มันหายไปทางไหน

    สาวจันทร์ชี้มือไปด้านในของสุสาน ซึ่งมองเห็นป้ายบอกหลุมฝังศพเรียงราย มีรูปปั้นของบรรดาเทพชายหญิงในท่วงท่าต่างๆมองเห็นสลับป้ายบอกหลุมฝังศพอยู่เป็นระยะ บรรยากาศชวนให้ขนลุกพิกลทั้งที่ยังไม่มืดค่ำด้วยซ้ำ แพรวดาวพยายามยกมือป้องใบหน้ามองหาผ้าเจ้าปัญหาทั้งที่เริ่มรู้แล้วว่าไร้ความหวัง

    ที่นี่มีอะไรแปลกนะคะ พี่รู้สึกไหม

    สาวจันทร์ดึงแขนเสื้อแพรวดาวพลางกระซิบถามด้วยสีหน้าวิตกกังวล

    ก็...ไม่รู้สินะ วันๆ ฉันอยู่แต่กับเครื่องซักผ้า ตากผ้า รีดผ้า เท่านั้น แทบไม่ได้ยุ่งกับใครเลย

    ยกเว้น แม่บ้านปลายเดือนคนนั้น

    ใช่...

    เมื่อพูดถึงแม่บ้านปลายเดือน ทั้งสองก็พากันหัวเราะออกมาความเฉียบขาดเจ้าระเบียบของปลายเดือนเป็นที่เล่าลือเล่าอ้างรู้จักกันดีในหมู่พนักงานโรงแรม

    เอาไงคะพี่ เราจะลองเดินเข้าไปดูข้างในสุสานกันดีไหม

    สาวพนักงานดูแลลานจอดรถถามอย่างขอความเห็น แพรวดาวนิ่งคิดครู่หนึ่งพลางเงยหน้ามองท้องฟ้า ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะบ่ายคล้อยลงมาก อากาศเริ่มเย็นลง ใจหนึ่งก็อยากจะตามไปดูให้เห็นกับตาว่าเจ้าผ้าปู ที่นอนผีสิงผืนนั้นมันหายหัวไปไหน แต่อีกใจหนึ่งก็เกิดความรู้สึกหวาดกลัวและขนลุก กับการบุกรุกเข้ามาในอาณาเขตของคนตาย

    ผ้าปูที่นอนผืนเดียวหายไปผืนเดียว ปลายเดือนคงไม่ถึงกับจับฉันเข้าเครื่องซักผ้าหรอก   แพรวดาวเอ่ยอย่างตัดใจ

    และฉันก็ไม่อยากเข้าไปในสุสานในตอนนี้ด้วย เกิดเจอพวกซอมบี้เดินออกมาคุยด้วยจะทำไง ซอมบี้ยุคอัปเกรดนี้วิ่งเร็วเสียด้วย ไม่ได้เดิน เก้ๆกังๆเหมือนสมัยก่อนแล้ว

    หนูว่าซอมบี้เดินช้าๆกระเผลกๆอย่างสมัยก่อนก่อนดูเท่กว่านะคะ ว่างๆ หนูยังเคยพาเพื่อนเดินแบบนั้นเล่นๆกันเลย สนุกมากเลยล่ะค่ะ

    อย่ามัวแต่คุย มาช่วยถือถังนี่ที แพรวดาวส่งถังแอลกอฮอล์ให้สาวจันทร์ พอดีหางตามองเห็นเงาดำแปลกๆ หลบวูบไปหลังป้ายหลุมศพเลยชะงักและจ้องมองอย่างแปลกใจและไม่แน่ใจ จันทร์พันฝันเห็นแล้วก็ต้องพลอยหันไปมองด้วย

    อะไรคะพี่

    สาวลานจอดรถกระซิบถามเสียงลั่นๆ เพราะใจยังคิดถึงซอมบี้อยู่ไม่สร่าง

    ไม่มีไรหรอก

    แพรวดาวทำเสียงให้เป็นปกติทั้งที่ใจคอเริ่มเต้นไม่เป็นส่ำ ความจริงนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่หญิงสาวรู้สึกว่ามีใครหรืออะไรบางอย่างหรือบางคนคอยติดตามการเคลื่อนไหวของเธออยู่แทบตลอดเวลา แม้แต่ในโรงแรมก็ตาม

     

    วูบนั้น หญิงสาวรู้สึกคิดถึงบ้านโบตั๋นขึ้นมาทันที

    นี่ถ้าไม่ใช่เพราะอนาคตของบ้านโบตั๋น บางทีแพรวดาวอาจไม่ต้องมาทำงานหนักอยู่ที่นี่ก็เป็นได้

    คิดอะไรอยู่คะพี่

    สาวจันทร์ดึงแขนเสื้ออีกครั้ง  หญิงสาวยิ้มและส่ายหน้าบอกตัดบท

    ไม่มีอะไร แค่คิดถึงบ้านนิดหน่อยเท่านั้น กลับกันเถอะ

    ว่าแล้วสองสาวก็พากันเก็บอุปกรณ์เดินกลับไปยังด้านหลังของโรงแรมซึ่งยังคงมีผ้าปูที่นอนพลิ้วปลิวไสวเล่นลมดุขาวสะอาดกระจ่างตาราวภาพฝันอันแสดงถึงฝีมือการซักผ้าตากผ้าระดับปรมาจารย์ของสาวแพรวดาวแห่งบ้านโบตั๋น ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของตำนานการซักผ้าอันลือลั่นสะท้านภพ

    เงาดำทะมึนเคลื่อนออกมาจากหลังป้ายหลุมศพ ยืนจ้องมองแน่นิ่งครู่หนึ่งก่อนหลบหายวูบไปกับเงาป้ายหินขณะหมู่เมฆเคลื่อนเข้าบดบังแสงอาทิตย์พอดี

    ประตูทางเข้าด้านหลังของโรงแรมปลายเดือน สาวหัวหน้าแม่บ้านจอมเฮี้ยบยืนรออยู่ด้วยสีหน้าเย็นเฉียบ พอเห็นสองสาวเดินตรงเข้ามาก็กอดอกถามด้วยเสียงห้วนๆว่า

    จัดการผ้าผืนนั้นเรียบร้อยหรือยัง

    สองสาวมองหน้ากัน แต่คนชิงตอบก่อนเป็นสาวจันทร์พันฝันผู้ปราดเปรียวว่องไว

    ไม่ต้องห่วงค่ะ คุณปลายฝัน จัดการเรียบร้อย ไม่เหลือซาก หายไปต่อหน้าต่อตา

    พูดอะไรของเธอ.....

    ปลายเดือนจ้องหน้าสาวจันทร์เขม็ง เธอหมายความว่าอะไรกัน หายไปต่อหน้าต่อตา

    อ้าว....ก็คุณปลายฟ้าให้คุณแพรวดาวจัดการผ้าปูที่นอนผืนนั้นไม่ใช่หรือคะ ก็จัดการแล้ว

    หัวหน้าแม่บ้านหันมามองแพรวดาวบ้าง จ้องหน้าเหมือนถามด้วยสายตา

    ค่ะ

    แพรวดาวตอบสั้นๆ

    ค่ะ..อะไรกัน พวกเธอสองคนเป็นอะไรไป ท่าทางมีเลศนัยชอบกล รับมาซะดีๆ  ว่าทำไม เกิดอะไรขึ้น เกิดยังไง แบบไหน

    ก็....คุณแพรวดาวเป็นคนซักผ้ารีดผ้า หนูเป็นคนดูแลลานจอดรถ ไม่รู้ว่าทำไม เกิดไร ยังไง แบบไหนค่ะ

    สาวจันทร์รายงานเสียงแจ๋ว ปลายเดือนตาวาวเป็นแม่เสือสาวทันที ยกมือขวาชี้ไปทางด้านในของโรงแรมบอกเสียงดังและเฉียบขาดว่า

    ยัยจันทร์กั้งโกบ..ไม่ต้องมาทำปากดี หน้าที่ของตัวเองมีไม่ทำ มายุ่งเรื่องของชาวบ้าน ไปดูแลลานจอดรถ ดูแลรถลูกค้าด้วย เมื่อครู่มีลูกค้ามาใหม่สี่คน กับรถยนต์หนึ่งคัน ไปดูแลอย่าให้มีปัญหา เดี๋ยวนี้ !”

    ประโยคหลังเสียงดังเป็นพิเศษสาวจันทร์ตกใจจนรีบยื่นถังแอลกอฮอล์ขนาดใหญ่ให้ปลายเดือนถือไว้แล้วรีบบอกปากคอสั่นว่า

    ค่ะๆๆ หนูจะไปเดี๋ยวนี้ล่ะพี่ ฝากถังนี้ด้วยนะคะ จะรีบไปทำงาน

    ว่าแล้วก็พลิ้วกายออกไปอย่างรวดเร็วราวกับเป็นฟ่านไป่หนิง ดาราหนังยุทธจักรผู้โด่งดัง ทิ้งสาวเจ้าแพรวดาวรับบทหนักต่อไป

    แพรวดาวฝืนยิ้มหวานให้ปลายเดือนเป็นการเอาใจ แต่หัวหน้าแม่บ้านยังตีหน้าดุ พูดเสียงเข้มว่า

    ส่วนเธอ... แพรวดาวไปเก็บผ้าที่ตากให้เรียบร้อย เย็นนี้เข้าห้องครัวไปช่วยแม่ครัวพ่อครัวทำงาน เย็นนี้จะมีงานเลี้ยง เลยต้องให้เธอไปช่วยที่นั้น อ้อ....อย่าเผลอเอาผักผลไม้ไปซักในเครื่องซักผ้าล่ะ ได้ข่าวว่าเธอเป็นโรคซักผ้ารีดผ้า paranoid ไม่ใช่เหรอ ระวังด้วย

    ค่ะ..คุณปลายเดือน ฝากนี่ด้วยนะคะ

    ว่าพลางรีบส่งถังน้ำยาฆ่าเชื้อโรคให้ปลายเดือนถือ เพราะเห็นว่ามืออีกข้างยังว่างอยู่ แล้วรีบเดินออกมาอย่างรวดเร็วก่อนจะโดนบ่นโดนว่ามากกว่านี้

     

    “PSYCHO HOTEL…..ยินดีต้อนรับครับ

    เสียงของหนุ่มรูปหล่อในชุดสีขาวสะอาดตาหลังเคาน์เตอร์บริเวณห้องโถงรับแขกของโรงแรมดังขึ้นพร้อมรอยยิ้มนุ่มนวลชวนฝัน ทำให้เทียนสี อรุสา และนางแบบยุตแรกของโลกจ้องมองปากอ้าตาค้างทันที

    ต้องการห้องพักแบบไหนครับ เตียงคู่ เตียงเดี่ยว เตียงสองชั้น เตียงสนาม เตียงคนไข้ เรามีทุกรูปแบบครับ

    ยอดมากเลย นางแบบสาวกระซิบกับเทียนสี ตาเป็นประกายวาววาม

    เห็นไหม ดูดีจังเลย ฉันว่าพวกเรามาถูกที่แล้ว

     

    ใช่ๆๆๆๆๆๆๆ......

     

    สาวเจ้าเทียนสีรีบเห็นด้วยทันที จ้องมองด้วยสายตาเป็นประกายเช่นกัน ส่วนอรุสาพูดอะไรไม่ออก ได้แต่ปากอ้าตาค้างกอดตุ๊กตาหมีตัวแข็งเป็นหุ่นปั้นไปแล้ว ชายหนุ่มไม่เคยโดนสาวสวยรุมมองแบบนี้มาก่อนเลยหน้าตาแดงด้วยความขวยเขิน

    ผมคงหล่อมากเกินไปใช่ไหมครับ เอ่อ....ขอโทษด้วยนะครับ ที่เกิดมาหล่อเกินพิกัดไปหน่อย อย่ามัวแต่ตะลึงเลยครับ กรุณาบอกมาว่าจะพักห้องแบบไหน

    สามสาวเยื้องกายย้ายร่างมาใกล้ทันที ชายหนุ่มรู้สึกขนลุกซู่ไปทั้งตัว

    ดูดีมากๆๆเลย

    นางแบบสาวยังพล่ามต่อไปชะโงกหน้ามามองใกล้ๆจนชายหนุ่มได้กลิ่นหอมชื่นกายชื่นใจเป็นที่สุดราวหลุดหลงไปอยู่ในดงมวลหมูพฤกษานานาพันธุ์

    ใช่แล้ว...ตรงสเป๊คเป๊ะเลย

    เทียนสียื่นมือตรงมา

    อย่านะครับ ได้โปรด..

    อีตาบ้า... นางแบบสาวตวาดแว๊ด ทำเอาชายหนุ่มสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจและไม่เข้าใจ มองหน้าพวกสาวๆ สลับกันไปมาอยู่เช่นนั้น

    ฉันหมายถึงป้ายชื่อนี้ต่างหาก

    ว่าพลางนางแบบสาวก็เอานิ้วชี้จิ้มป้ายชื่อซึ่งติดบริเวณหน้าอกด้านซ้ายซึ่งมีชื่อเขียนว่า KTHc อย่างแรง

    พวกเราเป็นพวกสะสมป้ายชื่อ เทียนสีอธิบายขึ้นบ้าง

     งานอดิเรกแบบนี้กำลังเป็นที่นิยมในเมืองนอก ฉันเลยนำมาเผยแพร่ในประเทศไทย ตอนนี้หลายๆคนเลยมีงานอดิเรกสะสมป้ายชื่อกันใหญ่ มีเงินทุนหมุนเวียนไม่รู้กี่ร้อยกี่พันล้าน

    กรรม.....

    หนุ่ม KIH บ่นพึมพำกับตัวเองรู้สึกว่าหัวใจพองโตเมื่อครู่คล้ายเป็นถุงลมถูกปล่อยลมออกมาจนหมดสิ้นรู้อย่างนี้ไม่มาทำงานที่นี่เสียดีกว่า แต่นึกไปนึกมาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองมาสมัครตั้งแต่ตอนไหน รู้สึกเหมือนถูกมัดมือชกอย่างไรบอกไม่ถูก

    ฉันว่าน่าจะเป็นสองห้องนะ อรุสาออกความเห็นบ้าง

    ฉันกับตุ๊กตาจ๋าจะได้นอนกันสะดวกๆ

    นี่อรุสา เมื่อไรเธอจะทิ้งตุ๊กตานี่เสียที

    นางแบบสาวถามอย่างขัดตาขัดใจ อรุสาค้อนขวับหนึ่งทีพลางบอกอย่างเด็ดเดี่ยว

    ไม่มีวันเสียล่ะ ที่ฉันจะทิ้งตุ๊กตาจ๋าของฉัน มันน่ารักออกจะตาย ตัวฟูๆขนนุ่มๆตัวหอมๆ ชื่นใจ

    เธอมันเพี้ยนจริงๆ

    แล้วตกลงใครจะนอนคู่กับใคร เทียนสีจ้องหน้าสองสาวขอความเห็น

    ขณะปรึกษาหารือกันอยู่นั้นสาวนูก็โผล่มาพอดี ทันใดนั้นเอง ทั้งเทียนสี อรุสา และนางแบบยุคแรกก็ถอยไปรวมกลุ่มกันโดยอัตโนมัติ  ปล่อยให้สาวนูถูกแยกกลุ่มอย่างน่าสงสาร พูดออกมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมายว่า

    เรานอนกันสามคน นัยนูไปนอนคนเดียว

    สาวนูขบกรามกรอด มองหน้าเพื่อนรักทั้งสามไปมาหลายรอบ ก่อนเค้นเสียงว่า

    พอฉันตื่นพวกเธอก็รังเกียจฉันขนาดนี้เลยเหรอ

    เปล่านะ

    เทียนสีรับโบกไม้โบกมืออธิบาย

    เราอยากให้เธอนอนสบายต่างหาก คิดดูว่าพวกเราสามคนเสียสละขนาดไหน ไปแออัดกันอยู่ห้องเดียวกันให้เธอสบายคนเดียว

    ไม่รู้ล่ะ

    สาวนูยิ้มแค่นๆ บอกว่าต้องมีใครคนหนึ่งนอนเป็นเพื่อนฉัน

    คล้ายๆจะเห็นว่าหนุ่น KTH จะยกมือแวบๆ แต่ไม่มีใครสนใจ เทียนสีมองหน้า

    นางแบบสาวกระซิบเบาๆว่า เธอ นางแบบสาวฟังแล้วส่ายหน้าหันไปมองอรุสา แต่อรุสาส่ายหน้าหันไปมองตุ๊กตาหมีในอ้อมแขน ก่อนหันไปมองเทียนสี

    งั้นไม่ต้องเกี่ยงกัน เราจะนอนด้วยกันสี่คนนี่ล่ะ มีใครข้องใจไหม สาวนูประกาศเสียงดัง สามสาวรีบตอบเสียงแจ๋วพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมายอีกครั้ง

    ไม่มีจ้า.....

     *****

    มีปัญหาอะไรไหม

    ปลายเดือนถามหนุ่ม KTH ผู้นั่งหลังเคาน์เตอร์ด้วยสีหน้าท่าทางสุดเซ็ง ป้ายชื่อถูกถอดเก็บเอาไว้แล้ว

    ไม่มีครับ คุณปลายเดือน

    แล้วทำไมไม่ติดป้ายชื่อ

    สายตาคมกริบจ้องมองเขม็งจนหนุ่ม KTH  เริ่มเย็นหลังวาบ ไม่ตอบว่าอะไรแต่ค่อยๆหยิบป้ายชื่อจากลิ้นชักมาติดบนอกเสื้ออย่างสงบเสงี่ยม

    อย่าให้เจออีกนะ

    ครับ...ว่าแต่..

    ว่าแต่อะไร มีอะไรก็บอกมา อย่ามัวแต่อ้ำอึ้ง

    คุณปลายเดือนถือถังอะไรทำไมครับ ตั้งสองถัง

    หัวหน้าแม่บ้านก้มลงมองมือทั้งสองข้างของตัวเอง เห็นว่าสองมือหิ้วถังบรรจุแอลกอฮอล์และถังน้ำยาฆ่าเชื้อโรคอยู่จริงๆ จึงหันมาบอกกับชายหนุ่มด้วยสีหน้าสงบเรียบเฉย

    ออกกำลังกาย ไม่มีอะไร

    ว่าแล้วก็เดินออกจากห้องรับแขกของโรงแรมอย่างไม่รีบร้อน เดินมาจากถึงด้านหลังบริเวณห้องเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาด ค่อยวางถังในมือลงแล้วปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด ยิ้มดุๆ มุมปากสักครู่ใหญ่  ก่อนหลับตากรีดร้องออกมาสุดเสียง

     

    ยัยแพรวดาว ยัยจันทร์พันฝัน กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด.....................!!!!!!!!”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×