ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Au Fic KHR] Fraction of Nightmare

    ลำดับตอนที่ #4 : Introduction

    • อัปเดตล่าสุด 5 ม.ค. 56




    ‘The Fraction of nightmare’

     

    หมายเหตุ : ลูกใครที่บทน้อยในนี้ไม่ต้องเสียใจ....บทท่านในเรื่องเยอะกว่านี้เป็นเท่าตัวค่ะ!!!! แต่ไรท์อยากเก็บท่านไว้ไปปล่อยของในเรื่องค่ะ!
    หมายเหตุสอง : ความยาวสิบเก้าหน้าเวิร์ดค่ะ....



     



     

    บ้าเอ๊ยใครมันทำวะ…!”

    หากท่านเดินออกจากหมู่บ้านมนุษย์ทางตอนใต้ สู่เขตแดนทางเหนือ ทะลุผ่านป่าใหญ่อันเต็มไปด้วยพฤกษานานาพรรณแล้วไซร้ สิ่งที่ปรากฏให้เห็นหลังจากออกมาจากป่าได้คือประตูรั้วขนาดใหญ่สีดำสนิท ชนิดที่ว่ากระโดดให้สูงแค่ไหนก็ไม่ถึง ประตูรั้วนี้เป็นดังปราการและกรงขัง สิ่งที่อยู่หลังรั้วนี้เอาไว้ในคราเดียวกัน

    ใช่ นี่คือประตูเข้าสู่หมู่บ้านปีศาจ… ‘ซินเซอร์ริส…’

    ซินเซอร์ริส(Sinceris) เป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่ ใหญ่ถึงขนาดกินพื้นที่ภูเขาทางตอนเหนือทั้งหมด แถมยังแผ่อาณาเขตไปจนถึงทางตอนกลางและทางตะวันออกบางส่วนด้วย ด้วยพื้นที่ที่ใหญ่ขนาดนี้ทำให้ยอมรับได้ยากว่านี่เป็นเพียงแค่หมู่บ้าน น่าจะเรียกว่าเป็น เมืองมากกว่า แต่ก็เอาเถอะคนที่นี่ติดเรียกว่า หมู่บ้านมากกว่าอยู่ดี ที่นี่เป็นที่อยู่อาศัยของเหล่าปีศาจหลากหลายสายพันธุ์อาศัยรวมกันอย่างสงบสุข (โดยรวมน่ะนะ เพราะปีศาจบางจำพวกอย่างพวกออร์คกับก็อบลินยังคงทำตัวเป็นตัวป่วนตามสัน___ของมันอยู่) แต่อย่างน้อย ปีศาจที่นี่ก็ไม่เคยไปยุ่งวุ่นวายอะไรกับมนุษย์ที่อยู่หมู่บ้านทางตอนใต้เลยแม้แต่ครั้งเดียว

    แต่ดูท่าวันนี้จะเกิดอะไรบางอย่างขึ้นประตูหมู่บ้านถึงได้นอนราบกับพื้นยังกับถูกตอร์ปิโดยิง(ดูมันเปรียบเทียบ) แถมพื้นที่โดยรอบยังดูเละเทะเหมือนอ้วกถูกเหยียบ(ยี้) พูดง่ายๆคือ มันเละไม่มีชิ้นดี ต้นไม้ล้มระเนระนาด บ้านพักของเหล่าปีศาจหลายตนที่ตั้งอยู่ริมประตูถูกรื้อถอน แค่มองปราดเดียวก็รู้ว่าเพิ่งเกิดเหตุร้ายขึ้นอย่างแน่นอน

    และภาพนี้ทำให้ หล่อนปรี๊ดมาก

    ไอ้….ไอ้ไอ้พวกถั่วงอกเอ๊ย! กล้าดียังไงมาทำแบบนี้วะ!! อย่าให้เจอตัวนะ!! ไอ้พวกหอยขม!!!”

    เออ มันปรี๊ดจริง….

    ทุกสายตาในหมู่บ้านต่างจับจ้องไปยังหญิงสาวที่กำลังกรีดร้องเป็นบ้าเป็นหลังให้กับประตูสุดที่รักของหล่อนที่ถูกพังไม่มีชิ้นดี แต่ก็ยังไม่ลืมเว้นระยะห่างระหว่างตัวหล่อนประมาณสามเมตร เพราะกลัวเธอกัด(?) 

    หญิงสาวผู้นี้มีนามกรอันแสนหรูเลิศว่า ดิสคอร์เดีย โจคัสต้า

    หากจะให้บอกถึงรูปทรงองค์โฉมของเธอคนนี้ คงต้องขอบอกก่อนว่าเธอไม่ได้มีรูปร่างอรชรอ้อนแอ้นเหมือนหญิงสาวทั่วไปนัก ออกจะค่อนไปทางบึกบึน(?)และล่ำ(?) สมกับเผ่าพันธุ์ของเธอซึ่งเป็น ยักษ์แต่ก็ไม่ได้ล่ำเกินไปจนน่าเกลียด ในทางกลับกัน เธอเองก็ไม่ได้ผอมบางร่างเพรียวดังเช่นมนุษย์ผู้สวยงามหลายๆคน

    โจคัสต้าหรือโจเป็นเจ้าของเรือนผมยาวสยายสีแดงเพลิง เฉกเช่นเดียวกับดวงตาที่มีสีแดงราวกับไฟลุกโหม ใบหน้าสวยค่อนไปในทางเคร่งขรึมนิดๆแต่มันก็ยังดูดีทั้งๆที่เป็นแบบนั้น รูปร่างสูงโปร่ง ผิวสีน้ำผึ้งของเธอจะไม่มีรอยตำหนิอะไรเลยหากมันไม่มี บาดแผลแซมอยู่บนเนื้อเนียนนั้นหลายจุดด้วยกัน โดยที่แผลตามร่างกายเหล่านี้บ่งบอกถึงลักษณะนิสัยใจร้อนบ้าระห่ำของเจ้าตัวได้เป็นอย่างดี อีกอย่าง โจดำรงตำแหน่งคนเฝ้าประตูของหมู่บ้าน ต้องมีเรื่องชกต่อยกับผู้บุกรุกเป็นธรรมดาดังนั้น แผลพวกนี้ถือว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ

    ไอ้พวกนั้นมันเป็นใคร!!” หญิงสาวเกศาเพลิงขมวดคิ้วแน่นก่อนจะหันไปตวาดลั่นใส่พวกปีศาจมุง (?)ที่มุงดูเธออยู่ บอกมา!”

    พ พวกไหน?”

    ก็ไอ้พวกที่ทำแบบนี้ไงเล่า!”

    ด้วยความกลัวว่าโจคัสต้าอาจจะกระโดดงับหัวเอาได้ เอลฟ์ตัวน้อยหนึ่งในฝูงปีศาจมุงก็ค่อยๆพูดเสียงตะกุกตะกัก

    พวกมันเป็นมนุษย์ครับ

    มนุษย์ ? มนุษย์เนี่ยนะ?? นี่แกจะบอกว่ามีมนุษย์บุกเข้ามางั้นเหรอ?”

    ใช่ครับ…”

    ในระหว่างที่ฉันไม่อยู่?”

    ครับหวา!”

    หมับ!!!

    ตอนนี้พวกมันอยู่ไหน!!”

    คอเสื้อของเอลฟ์น้อยถูกยักษ์สาวคว้าหมับแล้วกระชากอย่างแรง ตอนนี้เธอไม่สนอะไรแล้ว รู้แต่ว่าเธอโกรธมาก โกรธจนทนไม่ไหวแล้ว!! กล้าดียังไงมาบุกหมู่บ้านกันแบบนี้ ทำไมถึงไม่มีใครส่งข่าวไปบอกเธอเลย และที่สำคัญไอ้พวกมนุษย์ซากแฟ้บพวกนี้เปิดประตูดีๆไม่ได้รึไงฟะ! พังทำไม!! พังลูกรักตรูทำไม!! (หลังๆชักจะไม่ใช่)

    พ พวกมันบุกไปวิหารบาปแล้วครับ…!”

    วิหารบาปใช่มั้ย โอเค…” หญิงสาวปล่อยมือแล้วตั้งท่าวิ่งฝ่าฝูงชนตรงไปยังวิหารบาป แต่จู่ๆสองเท้าก็หยุดกึกเมื่อเธอคิดอะไรบางอย่างออกมาได้

    แล้ววิหารบาปนั่นอยู่ไหนละวะ!!!!!”

    ไม่มีสัญญาณตอบรับเพราะฝูงชนรอบตัวเธอต่างเงิบค่ะ

     

    หุ…”

    จู่ๆ ก็มีเสียงหัวเราะแหลมสูงเสียงหนึ่งดังขึ้นทำลายความเงียบ ไม่ปล่อยให้สงสัยนาน เจ้าของเสียงหัวเราะก็ได้ก้าวออกมาจากวงล้อม ก่อนจะหยุดอยู่ตรงหน้ายักษ์สาวผมแดงด้วยทวงท่าอันสง่างาม

    สวยมากๆนี่อาจเป็นคำเดียวที่ใช้บอกถึงลักษณะของเธอได้... ถึงจะไม่รู้ว่าเธอคือใคร แต่โจก็อดชื่นชมในใจไม่ได้เลยทีเดียว เธอมีเส้นผมยาวสลวยสีดำดุจท้องฟ้ายามราตรีล้อมกรอบใบหน้าสวยเด่น เข้ากับดวงตาสีเดียวกับเส้นผมที่ตัดกับริมฝีปากสีแดงน่าจุมพิตได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด นั่นยังไม่นับรูปร่างสง่างามราวกับนางพญาและผิวสีขาวหิมะของเธอ ทุกสิ่งล้วนถูกสร้างมาให้เธองดงามเกินใครแท้ๆ

    เธอเป็นใคร?”

    ซารีเอล ดาเรีย ลาติฟาห์ เธอคนนั้นยกยิ้มน้อยๆ น่าตลกจังนะคุณคนเฝ้าประตู ไม่รู้จริงๆเหรอว่าวิหารบาปอยู่ไหน?”

    เออน่าเธอรู้ก็ช่วยนำทางไปหน่อยสิ

    ได้แน่นอนอยู่แล้วเพราะฉันน่ะคือท่านซารีเอลที่แสนงดงามยิ่งกว่านางสวรรค์ชั้นฟ้าวิมานใดเชียวนะ เรื่องแค่นี้ทำไมจะทำไม่ได้ ฉันน่ะนะนอกจากจะสวยแล้วยังเปี่ยมล้นไปด้วยมันสมอง กิริยามารยาทที่แสนจะดูดี๊ดูดีมีชาติตระกูลอ้อแล้วก็….”

    อ เอ่อนี่เธอ…”

    คุณเธอคะ สรุปวิหารบาปอยู่ไหนคะ! << เสียงในใจโจ

    อย่าพูดขัด!!!” ไม่ทันที่โจจะอ้าปากพูด นิ้วชี้เรียวงามของฝ่ายตรงข้ามก็ถูกชี้เข้าที่หน้าของเธอเต็มๆ ชนิดที่ว่าถ้าไม่ถอยหลังหนีต้องโดนจิ้มเข้าเต็มหน้าผากแน่ๆ ซารีเอลพ่นลมหายใจเบาๆก่อนจะพูดต่อ ต่อนะท่านซารีเอลน่ะสวยงามอลังการยิ่งกว่าอะโฟรไดต์บวกกับไซคี แม้กระทั่งเฮเลนแห่งทรอยยังพ่ายแพ้เลยนะ แบบนี้ยังจะมีใครสวยกว่าอีกเหรอ? โฮะๆๆๆ โอ๊ยบนโลกนี้ไม่มีใครงดงามกว่าฉันแล้วล่ะ โฮะๆๆๆๆ

     

    ล แล้ววิหารบาปอยู่ไหนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน

     

     

    ขณะเดียวกัน

    วิหารบาป

    นักบวชสาวจ้องมองเหล่ามนุษย์ผู้ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ดวงตาสีแทนซาไนท์คู่งามหรี่ลงเล็กน้อยขณะที่มองไปยังเหล่ามนุษย์ที่พากันส่งเสียงเอะอะโดยไม่มีความเกรงใจ

    ไอ้พวกปีศาจ!!!”

    ข้าจะถอนรากถอนโคนพวกแกให้หมดเลย!! ไปตายซะ!!”

    ในนี้มีปีศาจอยู่ใช่มั้ย ลากคอมันออกมา!!!”

    ความจริง เอสเธอริน่า ไลล่า เมนาสเชห์ นักบวชสาวเพียงคนเดียวที่ประจำการอยู่ที่วิหารบาปแห่งนี้พอจะคาดการณ์ออกว่าเกิดอะไรขึ้น จากเนื้อความในเสียงตะโกนของพวกมนุษย์พวกนี้ทำให้เธอรู้ได้ว่าพวกมนุษย์ยังเหมือนเดิมยังทำตัวเกะกะระรานพวกปีศาจเหมือนเดิม ทั้งๆที่พวกปีศาจอย่างเธอแค่อยู่เฉยๆในหมู่บ้านของตัวเองก็หาเรื่องมาบุกทำลายหมู่บ้านปีศาจได้เรื่อยๆ แล้วก็เมื่อกี้เธอได้ยินเสียงอะไรบางอย่างพังพอจะรู้เลยว่าพวกนี้พังประตูหมู่บ้านเข้ามาแหงๆ

    ทำอะไรติงต๊องจริงๆเลย แล้วคนเฝ้าประตูมัวทำอะไรอยู่??...

    ต้องการอะไรจากที่นี่งั้นเหรอคะ…?”

    เสียงตะโกนโหวกเหวกเงียบลงทันทีเมื่อเอสเธอร์ก้าวออกมาจากตัววิหาร เธอโปรยยิ้มอ่อนหวานให้กับผู้รุกรานอย่างไม่กลัวเกรง น่าแปลกที่ทั้งใบหน้าและรอยยิ้มนั้นสะกดทุกคนในที่นี้ได้อยู่หมัดราวกับเธอมีเสน่ห์อะไรบางอย่างที่ทำให้ทุกคนตะลึงงันได้

    หรือว่าต้องการทำลาย เพียงเพราะว่าที่นี่ชื่อว่าวิหาร บาป’ ?”

    เสียงระรื่นหูนั้นราวกับเวทย์มนต์ที่ตรึงทุกคนหยุดนิ่งไว้กับที่ คำพูดของเธอแทงใจทุกคนเต็มๆ แม้น้ำเสียงจะเรียบนิ่ง แต่กลับเย็นเฉียบไม่ต่างจากน้ำในธารน้ำแข็ง

    ถ้าเป็นเช่นนั้น พวกคุณจะบอกว่าพวกคุณไม่มีบาปเหรอคะ?”

    นังปีศาจ!! อย่ามาพูดดีไปหน่อยเลย!!” ผู้ชายวัยกลางคนที่ดูเหมือนจะเป็นผู้นำของกลุ่มคนเหล่านี้ตะโกนขึ้นมา เมื่อมีคนเริ่ม เหล่าชายฉกรรจ์ที่เหลือก็พลอยตะโกนคำที่มีเนื้อหาไม่ต่างกันนี้ตามๆกันมา

    ใช่!!ใช่!!!”

    ฆ่ามันเลยดีกว่า ท่านดิเอซ เราต้องฆ่าปีศาจทุกตัวในนี้ให้หมดลืมไปแล้วรึไง?!”

    หึ…” หลังจากได้ยินคำพูดของเหล่าลูกน้อง ผู้เป็นหัวหน้าก็หยิบมีดขึ้นมา ดวงตาวาวโรจน์ไปด้วยความประสงค์ร้าย ถึงจะเป็นผู้หญิง แต่ก็เป็นปีศาจ ปล่อยไว้ไม่ได้หรอกนะ!”

    คิดว่าจะทำได้งั้นเหรอคะ?”

     

    ฉับ!!

    อึก….!!”

    ตุบ

    สิ้นเสียง ฉับ!!’ ปริศนาที่ไม่รู้มาจากไหน ร่างหนาก็ล้มลงไปที่พื้นราวกับตุ๊กตาหุ่นเชิดที่ถูกตัดสายท่ามกลางความตกตะลึงของทุกคน ยกเว้นเอสเธอร์ที่พอจะรู้ว่าคนๆนั้นเป็นอะไร

    นังปีศาจ! แกทำอะไรท่านดิเอซ!!”

    ไม่ใช่ฉันหรอกค่ะ

    ฉับ!!

    ฉับ!!

    เสียงเหมือนกรรไกรตัดอะไรบางอย่างยังดังต่อเนื่อง เมื่อสิ้นเสียงนั้น เหล่าชายฉกรรจ์ก็เริ่มทรุดลงไปนอนกับพื้น คนที่ยังรอดอยู่ก็ได้แต่อึ้งว่ามันเกิดอะไรขึ้น?? ใครทำ??

     

    “…คุณกระจกบอกว่ารบกวนบาซิลิกส์ตอนนอนต้องประหารจุดรวมสายตาเปลี่ยนไปเป็นที่เด็กสาวคนนึงที่มายืนอยู่หลังพวกเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆในมือเธอมีกรรไกรสีเงินที่แผ่กลิ่นอายสังหารออกมา ไม่รู้กฎหมายกันเลยรึไง มาตราที่สิบสอง บรรทัดที่สามร้อยหกสิบเก้า วรรคที่สิบ คำที่สองน่ะ!

    ฉับ!!!

    กรรไกรถูกง้างออกแล้วตัดฉับในทันที พร้อมๆกับร่างๆหนึ่งที่ล้มลงพื้นเพราะถูกเธอตัดชีวิต คนที่เหลือเริ่มแตกตื่นทั้งๆที่เมื่อกี้ยังปากกล้า แต่เมื่อเจอของจริงเข้า ขาก็สั่นพั่บๆ

    เด็กสาวผู้ใช้กรรไกรไม่ได้มีรูปลักษณ์น่ากลัวอะไรนัก เธอมีเส้นผมสีพีชเปล่งประกายที่รวบมัดเป็นทวินเทล ประดับมงกุฎอยู่บนหัว อีกทั้งใบหน้านั้นยังน่ารักมากแต่กลับเห็นได้ไม่ชัด เพราะเจ้าตัวดันใส่แว่นกันแดดเอาไว้ มือข้างหนึ่งถือกรรไกร ส่วนอีกข้างหนึ่งถือหมอนข้างลายริXXคุมะ รุ่นลิมิเต็ดเอ็ดดิชั่นของแท้จากญี่ปุ่นอยู่ ช่างเป็นผู้หญิงที่ดูแล้วไม่น่ากลัวเลยสักนิด!!!...

    ยังมากวนคุณกระจกอีกเหรอ…” เธอพูดเสียงต่ำ คุณกระจกบอกว่าต้องสั่งสอนอีกหน่อย…”

    ว้ากกกกกกกกกก

     

    ด้วยความกลัวตาย เหล่าคนที่ยังรอดอยู่พากันเผ่นราบ แต่ใช่ว่าวิ่งหนีไปจะรอด เพราะที่หน้าประตูวิหารบาปนั้นมีหญิงสาวหุ่นสะบึม(?)ผมสีชมพูอ่อนอีกคนยืนอยู่ในมือของเธอไม่มีอาวุธอะไร

    แต่อย่าวางใจ….

    ปึ้ก!!!

    อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

    เท้าในรองเท้าส้นสูงสีแดงยันเข้าไปเต็มๆจุดยุทธศาสตร์ของชายหนุ่มที่วิ่งมาใกล้ ตามด้วยเตะผ่าหมากอีกรอบ!! เธอไม่สนร่างที่กองอยู่บนพื้นเพราะฝีมือเธอเท่าไหร่นัก รองเท้าส้นสูงคู่งามถูกเจ้าของใช้มันเป็นอุปกรณ์ในการระดมเตะผ่าหมาก(?)หมู่คนที่วิ่งหนีตายมาก็ยังไม่รอด เจอความตายอย่างเมามันส์ เห็นได้ชัดจากแววตาสีครามคู่งามที่เปล่งประกายเมื่อเห็นสีหน้าเจ็บปวดสุดชีวิตของบุรุษเหล่านั้น

    อย่ามาทำสำออยนะพวกแก! ไปตายซะ!!!”

    ปั้ก!!!

    ว่าจบ ชีแกก็ เหยียบซากศพ(?) ที่นอนอยู่แทบปลายเท้าแล้วก้าวข้ามไปอย่างไม่ไยดี

    นี่แหละ คูอิล เวอร์เฟรเวนด์หญิงสาวซาดิสต์ (?)ที่เซ็กซี่ที่สุดในหมู่บ้านปีศาจ ใครๆต่างหลงใหลเธอแม้มองหน้าอกเพียงครั้งเดียว !

    หลังจากสถานการณ์สงบลงแล้ว เซนต์ซินไฮน์ วาเลนไฮม์ เด็กสาวมือกรรไกรก็หลับปุ๋ยคาหมอนข้างลาย ริXXคุมะอย่างไม่สนใจไยดีอะไรทั้งสิ้น ปอยผมสีเข้มระใบหน้าอ่อนวัย ทำให้เธอดูราวกับนางฟ้าน้อยๆที่กำลังหลับใหลเลยทีเดียว คูอิลที่กำลังจะเดินมาหาเอสเธอร์มองเซนต์ซินนิดหน่อยก่อนจะเดินเลี่ยงไปทางอื่น

    วุ่นหน่อยนะ

    เล็กน้อยค่ะ

     

    ตึก! ตึก!

    เฮ้ย!! มีใครบาดเจ็บตรงไหนมั้ย!?”

    โจคัสต้าที่วิ่งไปหอบไปมาถึงวิหารบาปในที่สุด พร้อมๆกับซารีเอลที่ทำเพียงแค่เดินชิลๆ(?)แบบสวยๆ(?) เอสเธอร์คลี่ยิ้มให้ก่อนจะพูดเบาๆ

    ไม่ค่ะ ขอบคุณที่ห่วงนะคะ

    โอยเหนื่อยเว้ย…!” ทันทีที่ได้ยินคำพูดจากปากของนักบวชแล้ว โจแทบจะลงไปนอนด้วยความโล่งอก

     

     

    ตามสูตรคนเฝ้าประตูมาตอนจบ…”

    มันจะไม่โล่งอกเพราะประโยคนี้ละเฟ้ย!!!

    ว่าไงนะ…”

    คูอิลไม่แม้แต่จะเกรงกลัวยักษ์อย่างโจคัสต้า ซ้ำยังพูดต่อไปเรื่อยๆโดยมีซารีเอลเป็นลูกคู่

    หูหนวกรึไง?”

    ไม่สวยแถมยังหูหนวกด้วย แย่จริงๆเลย สู้ท่านซารีเอลผู้นี้ก็ไม่ได้…”

     

    อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก << เสียงในใจโจ(อีกรอบ)

     

    คุณโจคัสต้าเขาคงมีธุระมั้งคะ เลยอยู่เฝ้าประตูในช่วงนั้นไม่ได้…” เอสเธอริน่าพูดพร้อมรอยยิ้มหวานที่โจคิดว่ามันเหมือนนางฟ้ามาโปรดสุดๆ ทำให้โจทรุดตัวลงนั่งได้อย่างสบายใจบวกกับคูอิลและซารีเอลที่เริ่มเปลี่ยนไปเม้าท์เรื่องอื่นกันแล้ว บรรยากาศทั้งหมดสงบสุขดี  

     

    …..แน่เหรอ?

     

    กึกๆๆๆๆ….

    “!!!”

    กึกๆๆๆๆๆๆ…..

    กล้วยทอดเอ๊ย!!!”

    เสียงของแม่มดผมดำที่จู่ๆก็ตะโกนลั่นทำลายความสงบทำเอาทุกคนหันไปมองหน้าต้นเสียงแบบงงๆ แต่เมื่อเห็น บางสิ่งที่ทำให้ซารีเอลร้องลั่นก็พากันอึ้งไปตามๆกัน

    แท่นบูชาตรงกลางวิหารกำลังสั่นเหมือนมีคนใช้มือเขย่าจากใต้โต๊ะอย่างแรง! ทั้งๆที่ทุกคนแน่ใจว่าในวิหารบาปตอนนี้มีเพียงแค่พวกตน แล้วใครกันละ…? ใครกันที่อยู่ใต้โต๊ะนั่น!

    “….!!”

    “…..!!!”

    ทุกชีวิตที่อยู่ ณ ที่นั้นพากันมองหน้ากันไปมาด้วยใบหน้าที่ซีดเผือด แม้แต่เซนต์ซินที่กำลังหลับฝันดีก็ตื่นขึ้นมาดูภาพตรงหน้าด้วยสีหน้าตื่นตกใจ มีเพียงคนเดียวในที่นั้นที่ดูไม่ตกใจสักเท่าไหร่ นั่นคือเอสเธอร์ร่างบางเจ้าของเรือนผมสีสวยก้าวไปยังแท่นบูชาอย่างช้าๆ ก่อนจะก้มลงเลิกผ้าปูโต๊ะขึ้นช้าๆ

     

    แต่นแต๊นนนนนนนน…. (ซาวด์เอฟเฟ็คต์ทุเรศมาก)

     

    ผีชัวร์! ร ริน เบียว โท ฉะ!!!”

    ยัยยักษ์หัวแดงเอ๊ย! หุบปาก!!”

    คุณกระจกลุ้นจังเลย…”

    ถ้ามันเป็นหนูจะทำยังไง ยี้ โสโครก!”

     

    นักบวชสาวเลิกผ้าปูโต๊ะขึ้น ก่อนจะขมวดคิ้วบางๆให้กับภาพที่ปรากฏตรงหน้า แน่นอนว่าสีหน้าของแต่ละคนที่เห็นความจริงที่ปรากฎ(?)ไม่ได้ต่างกันนัก

    ภาพที่ปรากฏต่อหน้าทุกคนคือ…‘เด็กสาวสองคนที่ขดตัวกลมอยู่ใต้แท่นบูชานั้น

    คนแรกเป็นเด็กสาวผมสั้นสีทองเปล่งประกายเข้ากับดวงตาสีอำพันกลมโต บนหัวมีหมวกสีชมพูเหมือนชุดที่ใส่อยู่สวมไว้ ส่วนอีกคนเป็นเด็กสาวผมสีน้ำตาลแดงเช่นเดียวกับดวงตา ทั้งสองคนมองหน้าผู้ที่มาเปิดผ้าปูโต๊ะตาแป๋วก่อนจะหันไปกระซิบอะไรบางอย่าง(ที่ได้ยินกันถ้วนหน้า)กันสองคน

     

    เพลนจัง ทำไงดี ซ่อนเงินดีแล้วใช่มั้ย?”

    ไม่เชื่อมือเค้าเหรอ!”

    แต่ถ้าพี่สาวนักบวชรู้ว่าเรามาขโมยเงินทำบุญละก็แย่แน่เลยนะ!”

    ไม่มีใครรู้หรอก เชื่อเค้าสิเทลลีลี่!”

     

    รู้กันหมดแล้วค่ะหนูๆ

     

    เฮ้ย! พวกเธอเป็นใคร! อย่ามายุ่งตรงนี้น่า นี่มันที่ของผู้ใหญ่!”

    หลังจากรู้ว่าไม่ใช่ผี โจคัสต้าก็กลับมาโวยวายเหมือนเดิม พลางเอามือฟาดโต๊ะทีนึงเพื่อทำให้ตัวเองดูสถุลเท่ยิ่งขึ้นแต่การกระทำนั้นกลับทำให้

    ท เทลลีกลัว!! ฮึก….เทลลีกลัว….อย่าเข้ามานะ….! ฮือออออ

    ทำให้เธอกลายเป็นคนรังแกเด็กซะงั้น!

    ดวงตาสีน้ำตาลแดงกลมโตมีน้ำตาปริ่มไม่นานมันก็ไหลพรากออกมา ร่างเล็กสั่นระริกๆ ริมฝีปากสีชมพูเม้มเข้หากันหน่อยๆ ก่อนที่เด็กสาวจะปล่อยโฮออกมา!

    ชิบลอสแล้วไงจอร์จ!! (?)

    เฮ้ยเธอฉัน เอ่อขอโทษ…”

    “…ฮึกฮือ!!!!!!!!!!!!!!!!!!”

    ย หยุดร้องไห้เถอะนะ เดี๋ยวซื้ออมยิ้มให้กินก็ได้หยุดเถอะน่า

    จริงนะ…” การหลอกเด็ก (?)ของโจได้ผลเด็กสาวใช้ดวงตากลมโตมองหญิงผมแดงอย่างตื่นเต้น อย่าหลอกกันนะ! สัญญานะ!”

    อืม…”

    แล้วดิสคอร์เดีย โจคัสต้าก็เข้าสู่สถานะสงบเสงี่ยม

     

     

    คุณกระจกฝากถามว่า ทำอะไรน่ะ?”

    อีกด้านหนึ่ง เซนต์ซินที่ไม่มีอารมณ์นอนอีกต่อไป(?) เอ่ยถามเด็กสาวผมทองสั้นที่เดินไปเดินมาในวิหารด้วยน้ำเสียงงัวเงียพลางใช้มือข้างที่ไม่ได้กอดริXXคุมะขยี้ตาเบาๆ ผู้ถูกถามหันมาเอียงคอยิ้มให้จนหมวกบนหัวแทบร่วง

    รอลูกค้าแหละ!”

    ลูกค้า?”

    วันนี้เค้านัดลูกค้าบริษัทเค้าที่นี่แหละ เดี๋ยวก็คงจะมาแล้ว!” เพลนนาทอเรี่ยม ดี หรือเด็กสาวผมสีทองฉีกยิ้มให้เซนต์ซิน แต่ไหนๆขอมาถึงแล้ว เลยขอจิ๊กเงินทำบุญหน่อยละกัน อย่าบอกเอสซี่นะ!”

    เอ่อ คุณกระจกไม่อยากบอกหรอกนะว่าคุณนักบวชเขายืนจ้องอยู่ข้างหลังน่ะ << ในใจเซนต์ซิน

    แต่บาซิลิกส์สาวไม่อยากจะพูดทำลายความมั่นใจของเพลน ได้แต่ควักDSสีม่วงวิ้งขึ้นมาเล่นเกม คาวบอยปะทะเอเลี่ยน Sagaต่ออย่างเมามันส์ไม่สนใจใครทั้งสิ้น (มันจะมีไอ้ saga ห้อยท้ายทำไมวะ?)

     

    หลังจากแน่ใจว่าตัวเองได้อมยิ้มแน่นอน รีซันเทลลี ฮาฟิเควียร์ เดล มาร์คูตินก็ผละออกจากโจคัสต้าผู้สงบเสงี่ยม (หาชมยาก!)ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส เทลลีลากตัวเองในชุดกระโปรงสีสันสดใสไปหาเพลนที่ยืนรอลูกค้า ก่อนจะใช้นิ้วเล็กๆจิ้มเอวเพื่อนสาวสุดซี้เบาๆ

    เพลนจัง

    อะไรเหรอ เทลลีลี่?”

    ได้ยินเสียงอะไรแปลกๆรึเปล่า?...งื้อ น่ากลัว…”

    ไม่นะ…?”   

    แง้ว…”

     

    ก๊อกๆ

    เสียงเคาะแผ่วๆบนแผ่นไม้สีเข้มอันเป็นประตูของวิหารบาปดังขึ้นขัดจังหวะสาวๆทั้งเจ็ดคนที่กำลังอยู่ในอากัปกิริยาผ่อนคลาย เอสเธอร์ก้าวไปเปิดประตูบานหนักออก พบว่าผู้มาเยือนคนใหม่นั้นเป็น ตุ๊กตา

    เธอผู้นั้นมีผิวพรรณเนียนขาวไม่ต่างจากไข่มุกชั้นดี มีเส้นผมสีเขียวประกายทองน่าสัมผัสและดวงตาสีเขียวมรกตน่าหลงใหล

    มีธุระอะไรที่นี่เหรอคะ?”

    “…” ร่างบางไม่ตอบ แต่ค่อยๆก้าวข้ามธรณีประตูเข้ามาในวิหารท่ามกลางสายตางุนงงของทุกคน

    แมรี่ไม่ใช่เหรอนั่น? มีอะไรรึไง?” ซารีเอลเอียงคอมอง เลอ แมริโพซ่า อินโซล่าร์หรือแมรี่ด้วยสายตาสงสัย เพราะโดยปกติแล้ววูดูสาวผู้เย็นชาคนนี้ไม่ค่อยออกมาจากที่พักนักหรอก การที่เห็นเธอยืนอยู่ตรงนี้จึงทำให้แม่มดผมดำคิดว่ามันต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นแน่ๆ

    เอาข่าวมาแจ้ง…”

    ข่าว?” คูอิลกล่าว ข่าวอะไร??”

     

    ผู้บุกรุก…”

    คำพูดของโจที่เงียบมานานแทนคำตอบของแมรี่ได้ดี ร่างของผู้เฝ้าประตูยืนนิ่งอยู่ตรงขอบหน้าต่างวิหาร ตาจ้องเขม็งไปที่ภาพตรงหน้า ก่อนจะสบถคำด่ามากมายออกมาเบาๆ

    คุณกระจกถามว่า เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”

    พวกมนุษย์มันส่งกำลังเสริมมาตอนนี้ใกล้จะถึงหน้าประตูหมู่บ้านแล้วละ…” หญิงสาวผมแดงกำหมัดแน่น ฉันจะไปอัดพวกมัน…!”

    เดี๋ยวค่ะ…” เอสเธอร์รั้ง “…กำลังเสริมที่ถูกส่งมาไม่ใช่น้อยๆแน่นอนค่ะ คุณคนเดียวจะไหวเหรอคะ คุณโจ?”

    ก็ยังดีกว่าฉันไม่ทำอะไรเลย ไม่ไหวค่อยว่ากันอีกที

    ตูม!!!

    เสียงกรีดร้องของพวกชาวบ้านดังขึ้นสลับกับเสียงระเบิด จู่ๆพวกมนุษย์ที่เหล่าปีศาจตายใจแล้วว่าไม่มีกำลังเสริม กลับยกพวกมาบุกโจมตีหมู่บ้านเป็นรอบที่สองโดยไม่ทันให้ตั้งตัว!

    บัดซบเหอะ! ไอ้พวกนี้มันไม่ยอมจบดีๆใช่มั้ย!” ซารีเอลตะโกนลั่นด้วยความหัวเสีย ก่อนจะผลักโจที่ขวางทางออกแล้วตรงไปที่ประตูวิหาร

    เธอจะทำอะไร

    ไปอัดไอ้พวกมนุษย์!!”

    ไม่ว่าเปล่า เธอถีบประตูวิหารให้เปิดออกแล้วเดินตรงดิ่งไปยังจุดที่ถูกบุกรุกทันที…!

    นั่นมันหน้าที่ของฉันนะ! …นี่!!!ยัยเปี๊ยกพวกนั้นน่ะ ถอยไป! ไม่ใช่เรื่องของเด็ก!”

    เทลลีเทลลีอยากไปช่วยแต่เทลลีก็กลัวอะ….”

    คำก็เด็ก สองคำก็เด็ก เพลนนีนี่จะแสดงให้ดูว่าเค้าไม่ใช่เด็ก!”

    โธ่เอ๊ยยยย ที่พวกเธอจะไปมันสนามรบนะยัยบ้า!”

     

     ไปกันเทลลี!”

    เพลนจังต้องปกป้องเทลลีนะเทลลีกลัว

    ได้เลย! เค้าจะไปตีๆๆๆพวกมนุษย์ทุกคนเลย! เพราะพวกมันมาบุกแบบนี้เนี่ยแหละทำให้ลูกค้าเค้าไม่มา!”

    นั่นสิๆ

    ฟังกันหน่อยสิโว้ย!!!”

     

    หึ…” ดวงหน้าสวยของซารีเอลหันกลับมามองโจคัสต้าพลางคลี่ยิ้ม พวกมนุษย์พวกนี้ควรจะรู้ซะบ้าง ว่าใคร เริ่ดที่สุดในปฐพี…”

    ว่าแล้วชีแกก็เดินสวย(?) ตรงไปเลยทิ้งโจเงิบอยู่ตรงนั้น

     

    คุณกระจกบอกว่าต้องพิพากษาคนก่อกวนความสงบตามมาตราที่ห้าสิบสาม บรรทัดที่เจ็ด วรรคที่หก คำที่สิบแปด…” ไม่ทันได้เงิบนาน เซนต์ซินก็เดินลากตุ๊กตาอุลXXแมนผ่านโจไปโดยไม่สนใจไยดี

     

    พวกมนุษย์ควรได้รับการสั่งสอนซะบ้างค่ะ…” แม้แต่เอสเธอร์เองก็ยังเดินถือคทาทองคำประจำกายเดินออกมาจากวิหารด้วย

     

    “…”

    วูดูสาวเดินผ่านโจไปแบบเงียบๆ ในมือของเธอปรากฏเส้นเอ็นคมกริบขึ้นมา

    แม้แต่แมรี่ก็เอาจริงงั้นเหรอ?

     

    คิดจะมาตอนจบอีกรึไง?” คนสุดท้ายที่เดินออกมาคือคูอิลที่ถูกรองเท้าส้นสูงพร้อมรบ ถ้าไม่ไปตั้งแต่ตอนนี้ จะเอาเวลาที่ไหนมาเสียใจละ…?”

    “…”

    อีกอย่าง พวกมันพังประตูเธอไม่ใช่เหรอ?”

     

    “………ประตู!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”

     

    รีบอร์นนนนนนนนนนนนนนน (?) ปกป้องประตูแบบสู้ตาย!!! <<???

     

    ตลอดเวลาเกือบสิบปีที่ผ่านมาปีศาจไม่เคยระรานมนุษย์ก่อนแม้แต่เวลาที่มีมนุษย์รุกรานก็ทำเพียงแค่ป้องกันตัวเล็กๆน้อยๆ

    แต่มันได้เวลาปฎิวัติแล้วละ!

     

     

    ……………………………………………………………………………………………………

    …………………………………………………………………………………………..

    ………………………………………………………………

     

     

    ……….

    …..

    .

     

    คุณกระจกบอกว่าเราชนะแล้วละ…”

    ร่างมนุษย์คนสุดท้ายร่วงลงสู่พื้นพร้อมๆกับเสียงกรรไกรที่ตัดฉับ ดวงตาสีพีชใต้แว่นกันแดดกวาดมองซากมนุษย์ที่ม้วยมรณาหลากหลายรูปแบบปะปนกันตั้งแต่คทาฟาดหัว โดนหนังสือตบกบาลแยก สำลักความเงิบตาย(?) ไปจนถึงโดนตัดชีวิต

    รู้รึยังยะว่าใครเริ่ดสุด! ห๊ะ!! ท่านซารีเอลยังไงละ! พูดเซ่!!!” ซารีเอลกำลังกระซากคอมนุษย์นายหนึ่งที่นอนพะงาบๆ จะตายแหล่มิตายแหล่พร้อมกับตะโกนใส่หน้าด้วยสุรเสียงอันดัง

    มันเป็นใบ้มั้ง ?” คูอิลปัดผมที่ปรกหน้าแบบเชิดๆ แต่ซารีเอลหาได้สนไม่ ยังคงตะโกนใส่หน้าชายผู้โชคร้ายอย่างเมามันส์

     

    คนนอนตายเต็มไปหมดเลย! เทลลีกลัว!!!”

    วันนี้ลูกค้าเยอะจัง! เค้าชอบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ

    “…ฉันว่านี่เป็นเรื่องที่สมควรโดนแล้ว…”

    คนบาปน่ะ ตะโกนว่าไม่บาปมันก็ยิ่งบาปนะคะ…”

     

     

    ฝันร้ายอึก….”

    มนุษย์นายนึงที่นอนจมกองเลือดอยู่ไม่ห่างพูดเสียงแผ่ว พลางเงยหน้าขึ้นมามองหญิงสาวแปดคนที่ทำร้ายพวตนด้วยสีหน้าตื่นกลัว

    นี่ข้ากำลังฝันร้ายแน่ๆ!”

     

    คำพูดนั้นเรียกรอยยิ้มกระตุกที่มุมปากของโจได้เป็นอย่างดี ยักษ์สาวเดินตรงไปหาผู้ที่พูดประโยคนั้น ก่อนจะเอ่ยออกมา

     

    งั้นจำไปบอกพวกเดียวกับแกด้วยนะ ว่าหลังจากนี้พวกเราจะเอาคืนบ้างแล้วละ…”

     

    พวกเราจะจัดฝันร้ายให้ตามที่พวกแกขอคูอิลเสริม เพราะพวกเราคือเศษเสี้ยวแห่งฝันร้ายไงละ!”

     

    +++

    หลังๆเกรียนมากบัดซบค่ะ….

    สัญญาว่าตอนหน้าจะดีกว่านี้ ไรท์อยากเก็บมุขบางมุก ฉากบางอย่างไปปล่อยในเรื่องมากกว่าค่ะ ฮาว์

    ฝากด้วยนะคะ ชะลาลาฮาฮ่า!


    THE★ FARRY

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×