ตอนที่ 9 : ⒸⒽⓊⓃ ◇ EPISODE 04 {2/2}
│พี่ชุนใส่ใจ│


♥
│EP.04│
►บอกกล่าวเล็กน้อยก่อนกด Favorite◄ นิยายเรื่องนี้มีการเปิดตอนทิ้งในช่วงขึ้นตอนใหม่น้าา แต่ส่วนใหญ่ก็อัพเรื่อยๆมิได้ขาดจ้า อย่าเคืองนะก๊ะที่รัก <3 |
“แหม ดูมั่นใจจังเลยนะครับ” พี่ชุนแซวฉัน แถมยังทำหน้าเหมือนกับล้อเลียนอยู่กลายๆ คงจะไม่เชื่อในเสน่ห์วัยใสของฉันแน่นอน
“จะลองก็ได้นะคะ” ฉันเอาบันไดลิงไปเก็บที่ เสร็จปุ๊บก็เดินลอยหน้าลอยตากลับมาหาผู้ชายที่กำลังแย่งน้องชายเขากินขนมอยู่
“ก็มาดิค้าบบบ” คนอย่างเขานี่มัน...
“พอเลย เดี๋ยวก็ได้ทะเลาะกันจริงๆหรอก” ชารีบหยุดฉันกับพี่ชุนไว้ คงไม่อยากจะให้เกิดสงครามย่อมๆขึ้นในบ้านหลังนี้สักเท่าไหร่
Rrrrr
ใครบางคนโทรมาหาพี่ชุนผ่านโทรศัพท์เขา และเสียงโทรศัพท์นั้นที่ดังอยู่ในกระเป๋าของฉัน ก็เหมือนกับระฆังพักยกระหว่างฉันกับเขา ฉันหยิบโทรศัพท์ออกมายื่นให้พี่ชุน พี่ชุนรับไป เขาชี้มาที่ฉันเป็นทำนองว่าเขาจะฝากไว้ก่อน ฉันเลยแลบลิ้นใส่เหมือนไม่ได้สะทกสะท้านเลยสักนิด
“ฮัลโหล ว่าไง...คืนนี้หรอ ชัวร์อยู่แล้ว พวกมึงออก กูก็ออก จัดมาดิ...เมียหรอ ไม่มีเมียให้ต้องขออนุญาตโว้ย ฮ่าๆๆๆ”
ฉันได้ยินเสียงพี่ชุนคุยกับเพื่อนเขาแว่วๆ ก่อนที่ร่างสูงชะลูดนั่นจะเดินออกจากประตูบ้านเพื่อไปคุยโทรศัพท์กับพวกเพื่อนเขาต่อ ตอนนี้ฉันก็อยู่บ้าน ไม่มีความจำเป็นต้องใช้โทรศัพท์ เขาจะออกไปข้างนอก ก็ให้เขาเอาไปใช้เถอะ ถึงยังไงก็โทรศัพท์เขานี่ นี่ถ้าเขาไม่ปากมากใส่ครูฤทัย ฉันก็ไม่ต้องมาวุ่นวาย ใช้โทรศัพท์เครื่องเดียวกับเขาแบบนี้ คิดไปคิดมาฉันก็อดจะเบ้ปากไม่ได้ ปฏิกิริยาของฉัน บังเอิญไปเข้าตาเพื่อนสนิทที่กำลังจ้องกันอยู่พอดี ฉันเลยถามกลับไปเลย
“อะไร มาจ้องเราทำไมเนี่ย”
“นี่ ฝรั่งไม่รู้สึกบ้างหรอ ว่าพวกเพื่อนพี่ชุน เขาชอบแซวฝรั่งกับพี่ชุนมากเลยนะ” ชาถามฉันยิ้มๆ
“หมายถึงพวกพี่ก้านน่ะหรอ” ฉันเดินไปนั่งข้างๆชา ร่วมวงกินขนมจุกจิกกับเพื่อนไปด้วย ฉันมักจะระมัดระวังในการกินของแบบนี้นะ มันทำให้อ้วน ไม่อย่างงั้นฉันคงไม่เอวยี่สิบสี่อยู่ยงมาจนถึงตอนนี้หรอก การรักสวยรักงาม เป็นคุณสมบัติอันดับต้นๆของผู้หญิง มากพอๆกับเสน่ห์ปลายจวักนั่นแหละ
“ใช่”
“พวกพี่เขาก็แซวไปอย่างงั้นแหละ อาจจะอยากให้มีคนมาปราบพี่ชุน หรือไม่ ก็เห็นเรากับพี่ชุนเป็นคนใกล้ๆตัวกันไง” ฉันบอกอย่างไม่ใส่ใจเท่าไหร่นัก
“แล้ว...” ชายิ้มแปลกๆมาให้ฉัน
“ยิ้มแบบนั้นคือ”
“ฝรั่งไม่คิดจะปราบพี่ชายเราจริงๆบ้างหรอ” นี่ชากำลังเอาคืนฉัน ที่ฉันชอบแซวเขากับคนโน้นคนนี้อยู่หรือเปล่าเนี่ย เพื่อนฉันคนนี้ เห็นเรียบร้อยก็อาจจะมีมุมเสือซ่อนเล็บไง ใครจะไปรู้
“พี่ชุนเขาไม่ให้ใครมาปราบเขาง่ายๆหรอกไหมชา ร้ายขนาดนั้น อีกอย่าง รสนิยมผู้ชายของเรา เราไม่ได้ชอบคนเจ้าชู้แบบพี่ชุนสักนิดเลยเหอะ” ชาเห็นฉันทำท่าขยาด เลยหัวเราะออกมาเบาๆ
“ไม่แซวแล้วก็ได้ เดี๋ยวเราจะไปนั่งดูซีรีส์ในห้องดูหนัง ไปกับเราไหม” ที่บ้านชาจะมีหนึ่งห้องที่จัดแต่งอย่างดีเป็นห้องเอาไว้ดูหนังฟังเพลง พักผ่อนหย่อนใจโดยเฉพาะ ทีวีในห้องนั้นน่ะใหญ่สุดๆ ต่ออินเตอร์เน็ตได้สบายๆ จะลิงค์เอาหนังจากในแอพพลิเคชั่นฮิตๆมาดูผ่านจอใหญ่ก็ได้ ที่ฉันรู้ละเอียดเพราะว่าที่บ้านฉัน คุณพ่อก็ทำห้องแบบนี้เอาไว้เหมือนกัน
“ไปสิ”
เราไม่มีการบ้าน (หรือมีแต่ฉันอาจจะไม่รู้) เลยขอใช้เวลาว่างนี้สนุกกับการดูหนัง ดูซีรีส์ ชื่นชมความบันเทิงให้เต็มที่จะดีที่สุด
ช่วงประมาณเกือบห้าทุ่ม ฉันเริ่มง่วงเลยเลิกดูซีรีส์มาราธอนกับชาแล้วกลับเข้าห้องพักของตัวเอง อากาศร้อนทำให้ฉันอาบน้ำอีกรอบและรีบทิ้งตัวลงนอนให้ไวที่สุด หกโมงเช้าพรุ่งนี้ฉันก็ต้องตื่นแล้ว เมื่อไหร่ชีวิตทรมานแห่งการตื่นไปเข้าแถวของฉันมันจะจบสิ้น...
เฮ้อ อีกสองปีเลยสินะ ฉันเพิ่งม.สี่เองนี่นา เห็นเขาว่าถ้าเรียนมหาลัยจะอยากกลับไปเรียนมัธยม ฉันก็ไม่รู้มันจริงไหมหรอกนะ ที่ฉันรู้ก็คือ ดูพี่ชุนกับพี่เชอเอมน้องสาวเขาสิ ชีวิตอิสระกันสุดๆเลย ไม่ต้องรีบไปเข้าแถวตอนเช้า ไม่มีกฎรีบกลับให้ถึงบ้านก่อนหกโมงเย็น ไม่มีเลย!
ที่สำคัญ จะไปเที่ยวทะเล ต่อให้ใส่บิกินี่ แม่ก็คงจะไม่บ่นฉันอีกแล้ว แฟชั่นกับฉัน เราเกิดมาเพื่อกันและกัน เรารักกันนะ แม่ไม่เห็นเข้าใจฉันบ้างเลย T^T
ความฟุ้งซ่าน คิดโน่นคิดนี่ไปเรื่อยเปื่อยทำให้ถึงตาฉันจะหลับ ร่างกายฉันก็ไม่หลับ ฉันนอนพลิกตัวอยู่ครู่ใหญ่กว่าจะผล็อยหลับไป ที่ร้ายกว่านั้น คือฉันดันตื่นขึ้นมาตอนตีสี่เพราะรู้สึกหิวน้ำ! การไม่ได้เอาน้ำเปล่าติดห้องไว้สักขวดเลยทำให้ฉันโทษตัวเองอย่างหนัก ต้องเดินลงไปชั้นล่างกลางดึกกลางดื่นแบบนี้ สำหรับคนขี้เกียจอย่างฉัน เป็นอะไรที่แย่มากๆ
แกร๊ก!
เมื่อเท้าฉันเหยียบชั้นสอง ฉันก็ได้ยินเสียงกุกกักที่หน้าประตูบ้านพอดี ใจหนึ่ง ฉันคิดว่าจะเป็นขโมยหรือเปล่า ส่วนอีกใจ ฉันคิดว่าไม่ใช่ขโมยที่ไหนหรอก เป็นลูกชายคนโตของบ้านนี้ ที่โผล่หัวไป (ปาร์) ตี้ ตั้งแต่สี่ทุ่ม จนจิตสำนึก เพิ่งเรียกร้องให้กลับมาที่บ้านได้แล้ว
“...”
ซึ่งก็จริง!
คนที่ยืนโงนเงนอยู่ตรงประตู ไม่ว่าจะมองยังไงก็เป็นพี่ชุนแน่นอน ฉันเห็นสภาพเขาที่ปิดประตูบ้านอย่างยากลำบาก ในฐานะคนที่ต้องมาอาศัยอยู่บ้านเขา พึ่งคุณแม่ของเขา ฉันปล่อยผ่านไปไม่ได้
“นี่ พี่ ไหวหรือเปล่าเนี่ย” ฉันถามคนตัวสูง พี่ชุนหันกลับมามองฉัน...
ตานี่เยิ้มจนฉันทำตัวไม่ถูก...
ประสาท เมาไง! เขาเมา! เวลาปกติเขาจะมามองฉันตาเชื่อมปรอยขนาดนี้ได้ไงล่ะ!
“เป็นห่วงหรอ” เขาเอนศีรษะพิงประตูพลางถามฉัน ฉันไม่อยากต่อความยาวกับคนเมา เลยทำแค่ถามกลับเขาด้วยคำถาม
“ขึ้นห้องไหวไหมล่ะ ไม่ไหวจะได้ช่วย”
พี่ชุนส่ายหน้า เขารวบตัวฉันเข้าไปใกล้ ใกล้มากๆเกินความจำเป็นด้วยซ้ำ! เสียงทุ้มลึกกระซิบเกือบชิดแก้มฉัน
“ไม่ไหว ช่วยหน่อย”
ตอนนั้นฉันรู้สึกช็อกมากถึงมากที่สุด เพราะพี่ชุนไม่ได้อาศัยแรงของฉันในการช่วยเขาพยุงตัวหรอก เขากำลังกอดฉันอยู่ต่างหาก!
“...”
ฉันตัวแข็งทื่อ นี่เป็นครั้งแรกที่อยู่ใกล้ผู้ชายคนอื่นขนาดนี้นอกจากคุณพ่อ ขนาดมืดๆนะ ฉันเห็นหน้าพี่ชุนใกล้จนจะนับรูขุมขนเขาได้อยู่แล้ว ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น เขาหล่อมากเหมือนกันนะ เล่นเอาใจฉันสั่นเลย
ไม่เคยสังเกตเลยว่าพี่ชายเพื่อนสนิทจะอะไรขนาดนี้ ปากว่ามือถึงอันดับหนึ่งชนิดที่มงลงกบาล!
“ว่าไง ไม่ช่วยแล้วหรอ” ทำไมเขาต้องมาทำเสียงแผ่วๆ อยู่ใกล้ๆฉันด้วยล่ะเนี่ย
“เออ ก็ช่วยไง แต่ไม่ต้องกอดเอวก็ได้ป่ะ” ฉันขืนตัวจากพี่ชุน ซึ่งเวลาเมา เขาแรงเยอะกว่าปกติอีกหลายเท่าตัว
“ไม่ได้ ไม่งั้นพี่ก็ล้มน่ะสิ” เขาตอบง่ายๆ ยังคงจ้องหน้าฉันเหมือนเดิม
“ก็ได้ๆ งั้นก็เดินสิ จะยืนอยู่แบบนี้แล้วจะพาไปได้ไง” ฉันแกล้งทำตัวเป็นปกติ เหมือนไม่ได้กลัว ไม่ได้หวั่นไหวอะไรกับสิ่งที่เขากำลังทำอยู่ทั้งสิ้น ตรงกันข้ามกับความเป็นจริง
“...”
พี่ชุนไม่พูดอะไรแล้ว เขายังกอดตัวฉัน และปล่อยให้ฉันช่วยพาเขาไปจนถึงห้องนอนของเขา เราทำเสียงให้เบาที่สุด เหตุผลก็คือ พี่ชุนไม่อยากโดนแม่เขาด่า ส่วนฉัน ก็ไม่อยากให้แม่เขามองฉันไม่ดีแน่ๆ เล่นกอดกันใกล้ขนาดนี้ นี่ถ้าฉันไม่ไว้ใจพี่ชุนในระดับหนึ่ง ฆ่าฉันให้ตาย ฉันก็ไม่มีวันประคองผู้ชายคนไหน (นอกจากคุณพ่อฉัน) แบบนี้หรอก
เพื่อนสนิทฉันอย่างน้องชายเขา ยังไม่เคยใกล้ชิดกันขนาดนี้เลยเหอะ
“พี่ชุน กุญแจห้องล่ะ” ฉันถามเขา เมื่อเอื้อมมือไปบิดลูกบิดประตูห้องเขาและพบว่ามันล็อกอยู่
“อ๋อ แป็บนึงนะ”
ตึง!
ฉันสะดุ้งเมื่อเขาเอามือข้างหนึ่งเท้าลงไปบนประตูห้องเขาจนเกิดเสียงดัง ดีนะ ที่ไม่มีใครเปิดประตูออกมาดู ที่สำคัญ ทำไมเขาต้องวาดแขนผ่านตัวฉันไปด้วย นี่ไม่ต่างอะไรกับการที่เขามายืนคร่อมฉันไว้จากข้างหลังที่หน้าประตูห้องเขาเลยนะ
เฮงซวย เฮงซวย เฮงซวยที่สุด!
นี่มันใกล้จะเป็นสถานการณ์ที่ยากจะอธิบายเข้าไปทุกทีแล้วนะยะ!
“พี่ชุน เร็วๆได้ไหม” ฉันเรียกเขาเสียงเข้ม
“เออ แป็บนึง หาอยู่ไง” เสียงแหบพร่าก็ดังอยู่ข้างหลัง เขาก้มหน้าลงกับท้ายทอยของฉัน ทำให้ลมหายใจของเขาเป่ารดลงไปเต็มๆ บ้าแล้ว ฉันต้องบ้าแน่ๆ!
“นี่ ยังไม่เจออีกหรอ”
กุญแจห้องน่ะ สำคัญไม่ใช่หรือไง ทำไมไม่เก็บไว้ให้ดีๆ ที่ยิ่งกว่านั้นก็คือ ถ้ารู้ว่าจะประคองสติไม่ได้ขนาดนี้ จะล็อกประตูห้องทำซากอะไร ก็เปิดๆไว้ก็ได้ ใครจะไปเอาอะไรในห้องเขาไม่ทราบ! โอ๊ย ยิ่งคิด ยิ่งมีแต่เรื่องหงุดหงิดเต็มไปหมด
“เจอแล้ว” เสียงของเขาทำให้ฉันโล่งใจ
“ไหน เอามาสิ” ฉันแบมือขอ เพราะให้ฉันเป็นคนไข ยังก็ต้องเร็วกว่าแน่ๆ
“อือ”
พี่ชุนวางอะไรบางอย่างลงบนมือฉัน และจับมือฉันเอาไว้ไม่ยอมปล่อย ฉันเริ่มรู้สึกว่ามันไม่น่าใช่กุญแจ เดาเอาจากสัมผัสที่วางอยู่ ฉันเลยดึงมือออกจากมือเขาที่รุ่มร่าม เพื่อดูว่าเขาส่งอะไรให้ฉันกันแน่ นั่นทำให้ฉันแทบกรี้ดกับสิ่งที่เห็น
มันคือถุงยางอนามัย!!
หน้าฉันเห่อร้อนวูบแทบระเบิด นี่เขาไม่รู้ตัวใช่ไหม ว่าเขาทำบัดซบอะไรลงไป!
“พี่ชุน ส่งอะไรมาให้ฝรั่งเนี่ย บ้าป่ะเนี่ย!” ฉันส่งเสียงด่าเขา เกือบหลุดเสียงดังมากกว่านี้ ดีนะ หรี่เสียงลงมาทัน
“แล้วขออะไร”
“ขอกุญแจห้องเว้ย! บอกไปแล้วว่าขอกุญแจห้อง!” ฉันเน้นเสียง พี่ชุนเลยพยักหน้า เขาหาอีกรอบจนเจอกุญแจเจ้าปัญหาจนได้ มือหนาชูพวงกุญแจขึ้นมาพลางยิ้มทะเล้นมาให้ฉัน
“นี่ไง เจอจริงๆแล้ว”
หมับ!
ฉันคว้าพวงกุญแจนั่นมา รีบไขห้องให้เขาด้วยความเร็วแสง พอเข้ามาในห้องได้ พี่ชุนก็เอามือเขาปิดประตู ซึ่งห้องพี่ชุนก็จะเป็นแบบล็อกอัตโนมัติ เวลาที่ประตูถูกปิดลง ฉันจึงได้ยินเสียงชัดเจนว่าห้องมันล็อก ถึงอย่างงั้น ภาระหนักอึ้งที่กอดฉันอยู่ ก็ทำให้ฉันหนีไปไหนไม่ได้
รีบๆพาเขาไปโยนใส่เตียงแล้วออกจากห้องเขาไปซะทีดีกว่า รู้สึกไม่ปลอดภัย
ตุบ!
ในที่สุดพี่ชุนก็มาถึงเตียงของเขาซะที ฉันเองก็อยากกลับห้องไปนอนต่อจะแย่ น้ำก็ยังไม่ได้หยิบมาเลย ช่างเหอะ ไม่หิวน้ำแล้ว! หมดอารมณ์จะกิน! เมื่อเห็นพี่ชุนนอนหมดสภาพอยู่บนเตียง ฉันก็รู้สึกว่าภารกิจเสร็จสิ้น คิดจะหันหลังเดินออกไปจากห้องนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะเขาดึงแขนฉันลงไป จนตัวฉันไปหล่นอยู่บนตัวเขา
“เฮ้ย พี่ทำอะไรเนี่ย!”
“ฝรั่งนี่ยิ่งโตก็ยิ่งสวยนะเนี่ย” ฉันอึ้งไปที่ได้ยิน ปกติเขาไม่เคยชมฉัน จะถากถางฉันซะเป็นส่วนใหญ่
“...” ฉันจึงไม่ได้ตอบโต้อะไรเลยตอนที่เขาใช้มือเกลี่ยเส้นผมของฉันไปทัดไว้ที่ใบหูให้อย่างอ่อนโยนขนาดนั้น นอกจากผู้หญิงที่เขากุ๊กกิ๊กอยู่กับน้องสาวเขา ฉันไม่เคยเห็นพี่ชุนทำแบบนี้ให้ใครเลย
นี่มัน...หมายความว่ายังไงเนี่ย
“ทำไมเงียบ ไม่ด่าแล้วหรอ” เขาถาม ถึงหน้าเขาจะดูเหมือนคนเมาเพราะมันแดงก่ำ หากฉันก็รู้สึกได้ ว่าเขายังพอรู้ตัว ว่าเขาทำอะไรอยู่นะ
“ก็...ก็สวยตั้งนานแล้ว เพิ่งเห็นหรือไงล่ะ” เอาคำตอบแบบนี้ไปแล้วกัน ฉันไม่รู้จะตอบยังไง
แย่ที่สุด ตอบแบบหลงตัวเองตามปกติ แต่อินเนอร์ดันไม่ได้ ไม่มั่นหน้าแบบที่ผ่านๆมา ใครก็ได้ เอาฉันออกไปจากตรงนี้ทีได้ไหม
พรึ่บ!
เขาพลิกตัวฉันไปนอนใต้ร่างเขาซะเฉยๆ
“ก็ไม่ได้เพิ่งเห็นหรอก ต้องบอกว่าเห็นนานแล้ว แต่เพิ่งจะสนใจ” ฉันใจคอไม่ดีเลยพอได้ยินคำว่าสนใจของเขา
“...สนใจอะไร” ฉันพยายามทำหน้านิ่งตอนถามกลับแล้วนะ เขาน่ะสิ ไม่ตอบฉันเลย และคำถามต่อมาของเขา ก็ยิ่งทำให้ฉันแทบจะดับสิ้นลมหายใจ ตายสนิท
“มีแฟนจริงๆหรือยัง?”






นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ท่าพี่มันล่อแหลมมากใจเราแทบหล่นวูบ แต่พอพี่พูดมาแบบนั้นเราก็ได้จากโลกนี้ไปแล้ว.....(เดี๋ยวก่อน!!)
เขินมากค่ะแม่
หยึ่ย เขิน ;///; ตื่นเต้นจนขนลุกหมดแล้ว
เมาแล้วอ่อย หรือแกล้งเมาเพื่ออ่อยกันแน่