ตอนที่ 5 : ⒸⒽⓊⓃ ◇ EPISODE 02 {2/2}
│พี่ชุนใส่ใจ│


♥
│EP.02│
►บอกกล่าวเล็กน้อยก่อนกด Favorite◄ นิยายเรื่องนี้มีการเปิดตอนทิ้งในช่วงขึ้นตอนใหม่น้าา แต่ส่วนใหญ่ก็อัพเรื่อยๆมิได้ขาดจ้า อย่าเคืองนะก๊ะที่รัก <3 |
“ไม่ใช่ ไม่ใช่เลยเหอะ!” ผมรีบเบรคไอ้ก้าน ก่อนที่มันจะเยอะสิ่งไปมากกว่านี้
“ไม่ใช่ก็ตกลงดิ ตกลงดิ ตกลงเด้!” ไอ้ก้านท้าทายไม่เลิก ผม...ซึ่งตอนนั้นไม่รู้ซาตานที่ไหนดลใจ เลยกระแทกเสียงตอบไป
“เออ สัส ได้ ก็ได้ แค่อยู่ใกล้นะเว้ย ไม่มีจีบ! แล้วกูจะเริ่มทำเมื่อไหร่ กูจะให้สัญญาณมึง ถ้ากูยังไม่ให้ ก็ถือว่ายังไม่เริ่ม” ผมออกตัวไว้ก่อนตามประสาคนที่ไม่มีวันยอมจีบผู้หญิงที่เด็กกว่า เด็กขนาดนี้ กว่าจะได้กิน อดอยากปากแห้งเหี่ยวตายคาห้องพอดีอ่ะสิวะ!
“เอาตามมึงเลยครับเพื่อน อย่าให้รู้ว่าแอบจีบแล้วไม่บอกกูแล้วกัน” ไอ้ก้านอมยิ้มแบบน่าเอาส้นตีนยัดปาก
“กูไม่จีบ” ผมพูดหน้านิ่ง “แล้วก็เรื่องนี้นะ ห้ามให้ฝรั่งรู้เด็ดขาด เข้าใจป่ะ เด็กมันอยู่ของมันดีๆ กูไม่อยากทำร้ายจิตใจเด็ก”
ไอ้ก้านเห็นผมมั่นหน้าซะขนาดนั้น (จริงๆผมก็ไม่ได้มั่นหน้านะ ผมแค่หมายความตามที่ผมพูด) มันเลยรีบมาขัดแข้งขัดขาผม
“โถ่ ไอ้เสือชุน ระวังนะ ว่ามึงนั่นแหละ จะโดนเด็กทำร้ายจิตใจ!”
ใจผมนั้น อยากงัดประโยคเด็ดมาตีฝีปากกับไอ้ก้านใจแทบขาด ดีที่แม่ผมโทรศัพท์มาขัดจังหวะซะก่อน มันเลยรอดตัวไป ผมต้องปลีกตัวไปคุยกับแม่ รับโทรศัพท์ช้า เดี๋ยวหญิงแม่ท่านจะเคือง คราวก่อนผมรับช้าก็บ่นว่าทีกับสาวๆเห็นรับเร็ว ใช่สิ แม่ไม่สาวแล้วนี่ ผมล่ะเหนื่อยใจ
“ครับแม่”
(ชุน วันนี้อย่าลืมไปรับน้องฝรั่งมากินข้าวกับแม่นะ คราวก่อนแม่บอกให้ชวนน้องมากินข้าวที่บ้าน เราไปทำอะไร น้องเลยไม่ยอมมากิน) อยากถามแม่จังเลยว่ะ ว่าตกลงใครกันแน่เป็นลูกแม่ ผมหรือยัยเด็กนั่น
ผมไม่ได้ทำอะไรเลย! ยัยฝรั่งต่างหาก มาเห็นผมเปลือยท่อนบนอยู่ ก็ร้องหวีดว่าผิดผี ผมแค่ดุไปสองสามคำก็วิ่งแจ้นกลับบ้าน ไม่ยอมรอกินข้าวเย็นบ้านผมอีกต่อไป เห็นไหมว่าผมไม่ผิดซะหน่อย
“แม่ บ้านน้องมันก็มีข้าวกินนะ” ผมบอกเสียงเรียบๆ
(พูดแบบนี้แปลว่าเมื่อเช้าแม่ลืมบอกเราใช่ไหม) แม่ทำเสียงตกใจนิดๆ
“บอกไรอีกอ่ะ” ผมรู้สึกเหมือนจะต้องมีเหตุให้พัวพันกับยัยเด็กฝรั่งเข้าอีกแล้ว
(พอดีว่าพ่อแม่ของน้องฝรั่งเขาไม่อยู่ ไปสัมมนาที่ต่างประเทศ คืนนี้น้องอยู่บ้านคนเดียว เด็กผู้หญิงนะ สวยด้วย อยู่บ้านคนเดียวอันตราย เดี๋ยวใครมันรู้แกว ปีนบ้านน้องขึ้นมาจะทำยังไง)
“แล้วทำไมแม่ไม่บอกชุนให้เร็วกว่านี้ล่ะ” ผมบ่นแม่ออกไปก่อนจะรู้ตัว หัวเสียอย่างไร้เหตุผล
(ก็แม่ลืมไง แม่ลืม งั้นวันนี้ถ้าไปรับชา รับหนูฝรั่งมาด้วยเลยนะ พาน้องกลับไปเอาเสื้อผ้าที่บ้านด้วยล่ะ น้องน่าจะมาอยู่กับเราหลายวัน)
เหมือนโชคชะตาแม่งเล่นตลกกับความสัมพันธ์ของผมกับฝรั่งเลยว่ะ บทไอ้ก้านจะเสนอเรื่องทฤษฎียี่สิบเอ็ดวันอะไรของมันขึ้นมา สถานการณ์ก็เอื้ออำนวยให้ได้ใกล้ชิดกันในทันที
“ก็ได้ ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวชุนจัดการให้”
(จ้า ขอบใจน้า) แม่ผมเสียงดูระรื่นชอบกล
“แม่” ผมเรียกแม่ไว้
(จ๋า)
“แม่กับคุณน้า คงไม่ได้คิดเรื่องที่จะจับคู่ให้ผมกับฝรั่งใช่ไหม”
บ้านคนมีเงินจะมีทำเนียมแบบหนึ่งที่น้ำเน่าคล้ายละครไทยอย่างน่าประหลาด ติดตรงมันคือเรื่องจริงที่ผมเห็นอยู่บ่อยๆ นั่นก็คือการปล่อยให้ลูกชายลูกสาวตน ที่อยู่ในฐานะระดับเดียวกัน ได้เรียนรู้กัน เพราะถ้าเกิดในอนาคตชอบกัน จับพลัดจับผลูได้แต่งงานกันจริงๆ ก็เข้าตำราเรือล่มในหนอง ทองจะไปไหน ผมเห็นหลายๆบ้านที่เป็นเพื่อนกับพวกแม่ๆก็ชอบทำแบบนี้
เนื่องจากฝ่ายแม่ผู้ชายก็อยากให้ลูกชายได้ผู้หญิงดีๆที่ตนเองถูกชะตา นิยมชมชอบมาเป็นสะใภ้ ฝ่ายแม่ผู้หญิงก็กลัวลูกสาวไปได้ผู้ชายที่ไม่คู่ควร ปล่อยให้ลูกชอบกับลูกเพื่อนที่จบเมืองนอกมา หรือมีอาชีพการงานดีๆส่งเสริมลูกสาวและครอบครัวย่อมดีกว่าผู้ชายไร้หัวนอนปลายเท้าเป็นไหนๆ แต่ไม่ได้ถึงกับคลุมถุงชนหรอกนะ เรียกว่าให้เด็กได้รู้จักกัน ชอบไม่ชอบก็คืออีกเรื่องหนึ่ง
แม่ของฝรั่งเป็นเพื่อนกับแม่ผม เธอมีลูกสาวสุดที่รักอยู่เพียงคนเดียว แม่ผมเองก็ชอบฝรั่งมากๆ ไอ้ชาน้องชายผม ก็ดูจะเป็นเพื๊อนเป็นเพื่อนกับฝรั่ง แม่เลยไม่ได้ค่อยหวังกับชาเท่าไหร่ กลายมาเป็นผม ที่แม่ชอบพูดอ้อมโน่นอ้อมนี่ หาสถานการณ์ให้ผมได้ไปอยู่ใกล้เด็กคนนั้นอยู่เรื่อยๆ ให้ไปรับที่โรงเรียนบ้าง ให้ไปส่งที่โรงเรียนบ้าง ให้ไปกินข้าวบ้านน้องบ้าง ให้น้องมากินข้าวบ้านผมบ้าง...
ทุกอย่างอยู่ในสายตาผู้ใหญ่ ไม่มีอะไรน่าเกลียด อย่างที่ผมบอก ก็คืออยากให้เด็กทำความรู้จักกัน ยังไงฝรั่งก็เด็กเกินกว่าที่ผมจะทำไปแตะต้องได้
ถามว่าผมเต็มใจทำไหม ก็ไม่ได้ถึงขนาดสบายอกสบายใจที่ได้ทำ
ถามว่าผมอึดอัดใจไม่ ก็ไม่ได้อึดอัดใจอะไรเลยเหมือนกัน
(แหม ชุนก็ น้องยังเด็กนะ) แม่ผมว่าเสียงสูงเชียว -____-
เอาเหอะ แกล้งไม่รู้ดีกว่า
“เอาเป็นว่าผมเข้าใจแล้ว งั้นแค่นี้ก่อนนะแม่”
(จ้ะ ส่งข้อความบอกน้องซะนะ) แม่เตือน (ชาก็จะได้รู้ว่าแม่ไม่ได้ไปรับวันนี้)
“ครับ”
ผมวางสายจากมารดาบังเกิดเกล้า จัดการส่งข้อความบอกน้องชายเรียบร้อยเสร็จสรรพในหนึ่งนาที ชายังไม่อ่าน น่าจะเรียนอยู่ เดี๋ยวก็คงอ่าน ตอนแรกก็จะบอกแค่ชานั่นแหละ คิดว่าเดี๋ยวน้องผมก็คงบอกฝรั่งต่อเอง ทว่าสุดท้ายก็ดันเปลี่ยนใจ ส่งข้อความไปหาเธอสั้นๆ...
ส่งเสร็จก็ยิ้มนิดๆ เดินกลับไปนั่งรวมกับพวกไอ้สิงเช่นเดิม ถ้าฝรั่งเห็นข้อความของผม เธอต้องสะดุ้งโหยงแน่นอน
FARANG PART
ครืด...
โทรศัพท์ในมือที่ฉันแอบเอามากดแอพแชตคุยกับ ‘เอส’ หนุ่มหล่อที่เรียนอยู่คนละห้องในคาบวิชาภาษาอังกฤษแสนน่าเบื่อ สั่นไหวไม่หยุดอันเนื่องมาจากมีข้อความของคนอื่นแทรกเข้ามา ฉันกดออกจากแอพแชตเอส ไปดูข้อความใหม่ แล้วก็ตกใจจนช็อกกับสิ่งที่ได้เห็น
CHUN >> คืนนี้นอนบ้านพี่นะ แม่เรายกเราให้พี่แล้ว
อีพี่ชุนมันส่งข้อความบ้าอะไรของมันมาวะเนี่ย นี่แม่ฉันยกฉันให้พี่จริงๆหรอ ฉันไม่อยากจะเชื่อสายตา!
“เด่นฤดี! เล่นโทรศัพท์ในห้องเรียนหรอ!” คงเพราะฉันเอาแต่จับจ้องข้อความนั่นนานไปหน่อย เลยไม่เห็นว่าคุณครูประจำวิชากำลังก้าวฉับๆมาทางนี้ เธอคว้าเอาโทรศัพท์ไปจากมือของฉันด้วยความเกรี้ยวกราด
“เอ่อ ครูคะ...” ฉันอยากจะหาคำพูดมาอธิบาย เพื่อไม่ให้คุณครูฤทัยยึดโทรศัพท์
“หยุด ไม่ต้องมาพูด เย็นนี้ถ้าผู้ปกครองมารับ ก็ให้พาผู้ปกครองไปหาฉันที่ห้องพักครู แล้วเธอถึงจะได้คืน”
ฉันอ้าปากค้าง ชา เพื่อนสนิทของฉันมองมาด้วยความเห็นใจ
นี่ฉันโดนยึดโทรศัพท์ไปแล้วจริงๆหรอเนี่ย ไม่อยากจะเชื่อเลย พักกลางวันฉันจะมีชีวิตอยู่ต่อไปยังไง ทั้งหมดเป็นเพราะไอ้บ้าพี่ชุนคนเดียวเลยอ่ะ ฮือออ
เลิกเรียนวันเดียวกัน
ฉันเดินหน้าหงิกไปโรงอาหารพร้อมกับเพื่อนหนุ่มทั้งสองคน ได้แก่ชาและมีนา พวกนั้นจะรอคนมารับ ระหว่างรอเลยจะไปหาขนมกินเล่นและไม่อยากกินแพงๆที่คาเฟ่ เลยชวนฉันไปด้วย ทั้งสองคนพยายามชวนฉันคุยเรื่องอื่นที่ไม่ทำให้ฉันนึกปวดร้าวเนื่องจากโทรศัพท์ที่โดนครูฤทัยยึดไป ถึงจะเป็นอย่างงั้น ฉันก็ไม่อาจที่จะหายเซ็งได้
“เอาน่า เดี๋ยวไปคุยคงได้คืนแหละ คุณแม่ฝรั่งน่าจะมารับเหมือนทุกที” ชาปลอบใจฉันโดยยังไม่รู้อะไร
“วันนี้ฉันต้องกลับเองอ่ะดิ”
“ทำไมล่ะ ปกติเห็นไม่แม่ก็พ่อเธอสลับกันมารับตลอด” มีนาถามอย่างแปลกใจ
“ก็พ่อแม่ฉันไปสัมมนาที่ต่างประเทศ ฉันก็เลยไม่มีผู้ปกครองในช่วงสองสามวันนี้” ฉันถอนหายใจเฮือก “แกว่าครูฤทัยจะยึดโทรศัพท์ฉันไปอีกหลายวันเลยไหม”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่ชายฉันมา ก็ให้พี่ชายฉันไปคุยกับครูให้ก็ได้” มีนาพูดถึงพี่สิงหาขึ้นมา ถ้าเป็นทุกทีฉันคงกระดี๊กระด๊าจนแทบกระโดด ซึ่งไม่ใช่กับหนนี้ ที่ไม่มีอารมณ์จะทำแบบนั้นเลย
“ชา เอาโทรศัพท์มายืมหน่อย” ฉันแบมือขอโทรศัพท์จากเพื่อนซี้
“ได้สิ” ชาไม่ได้ถามอะไรฉันมาก คงจะไม่รู้ว่าฉันจะเอาไปโทรด่าพี่ชายเขา ก็ดี ฉันก็ไม่อยากบอกว่าจะทำแบบนั้นเหมือนกัน
“งั้นไปจองที่กันก่อนเลยนะ เดี๋ยวฉันตามไป” ฉันบอกทั้งคู่
“ได้ งั้นไว้เจอกันนะ”
“จ้ะ”
ฉันเดินเลี่ยงมานั่งตรงเก้าอี้ยาวติดกับผนังซึ่งไม่ใช่ที่นั่งกินข้าว เป็นแค่ที่นั่งเล่นของเด็กมัธยมทั่วไป มือก็กดหาเบอร์พี่ชุนจากเครื่องของชายิกๆ เจอปุ๊บก็กดโทรปั๊บเลย พี่ชุนคงจะนึกว่าเป็นน้องชายสุดที่รักโทรหา เลยรับโทรศัพท์ไวมาก
(ว่าไง พี่กำลังจะโทรบอกพอดีเลย วันนี้พี่ไปรับนะ)
“พี่ส่งข้อความอะไรมาน่ะ หา!” ฉันแว๊ดใส่เขา ยิ่งรู้จักก็ยิ่งน่าโมโห คนอะไร
(อ้าว เด่นฤดีเองหรอครับ พี่ก็นึกว่าใคร) เสียงเยาะเย้ยดังมาจากปลายสาย ทำให้ฉันอยากกระทืบเท้าเร่าๆเหมือนกลับไปเป็นเด็กห้าขวบ
“พี่ชุน เพราะพี่ชุนส่งข้อความมาตอนฝรั่งกำลังเรียนอยู่อ่ะ ฝรั่งโดนยึดโทรศัพท์ไปเลย ครูฤทัยบอกว่าต้องให้ผู้ปกครองมารับคืนถึงจะคืนให้ พ่อแม่ฝรั่งไม่อยู่ตั้งหลายวันใครจะไปรับคืน พี่ชุนเห็นไหมว่าพี่ชุนทำให้ฝรั่งเดือดร้อน!” ฉันร่ายยาวมากเพื่อคลายความอัดแน่นในจิตใจ ไม่ยอมบอกเขาด้วยว่าฉันมัวแต่คุยกับผู้ชายอยู่ก่อนแล้วในคาบของครูฤทัย ข้อความเขาเป็นแค่ชนวนอันเล็กน้อยเท่านั้น
(มายาวเชียวเว้ย เออๆ ก็เดี๋ยวพี่จะเป็นผู้ปกครองให้เอง โอเคไหม แม่พี่ให้รับเรามาค้างที่บ้าน จะได้ไม่ต้องนอนคนเดียวในช่วงสองสามวันที่แม่เราไม่อยู่)
อ้อ ที่แท้นี่ก็คือเรื่องจริงของข้อความสองแง่สองง่ามนั่นสินะ
“งั้นก็น่าจะส่งข้อความมาบอกดีๆก็ได้ ไม่ใช่ส่งข้อความแบบนั้นมา”
(ทำไม เห็นแล้วใจสั่นหรือไง) พี่ชุนล้อเลียน นี่ถ้าอยู่ตรงหน้า ฉันจะล้วงคออ้วกโชว์จริงๆ
“มือสั่นมากกว่า อยากจะทุบพี่” ฉันทำเสียงเย็นชาใส่
(อยู่ไกลๆล่ะปากเก่งจัง อยู่ใกล้ๆปากเก่งกับพี่แบบนี้มั่งสิ) เสียงแหบพร่านั่นทำให้ฉันโคตรคิดลึก ฉันต้องเปลี่ยนเรื่อง
“ไม่รู้แหละ แล้วนี่ถ้าบอกว่าพี่เป็นผู้ปกครองแล้วครูฤทัยจะเชื่อน้ำหน้าพี่ไหมล่ะ ตอนเรียนอยู่ก็ทำตัวดีจะแย่แล้ว” พี่ชุนนี่ติดท็อปเด็กเกเรประจำรุ่นเลยนะ ตอนเขาเรียนอยู่ที่นี่ ครูทั้งโรงเรียนไม่มีใครไม่รู้จักชุนณกิจเลยสักคน ฉันมั่นใจเลยว่าถึงเขาจะจบไปสองสามปีแล้ว ครูฤทัยก็น่าจะยังจำพี่ชุนได้แม่น
(ไม่เชื่อว่าเป็นผู้ปกครองแล้วเราจะเป็นอะไรกันได้อีกครับ ผัวแก่กับเมียเด็กหรือไง)


นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

อิพี่ชุนอ่ะ ชอบพูดอะไรให้เขินตลอดเลยฮืออออ
แต่ชอบอ่ะ 5555
ผัวแก่กับเมียเด็ก อีพี่ชุนว่าตัวเองก็ได้หรือ....
มันส์หยดเรยคู่นี้ปะทะคารมกันแบบแทบจะเอาตีนเหยียบหน้า555