ตอนที่ 1 : ⒸⒽⓊⓃ ◇ EPISODE 00 {1/1}
│พี่ชุนใส่ใจ│

♥
“ฝรั่ง จะเจ็ดโมงยี่สิบแล้วนะ ทำไมยังไม่ลงมาอีก เดี๋ยวก็ไปโรงเรียนสายหรอก!”
คุณแม่บังเกิดเกล้าตะโกนเรียกฉันมาจากชั้นสองของบ้าน ขณะที่ฉันกำลังจัดการกับผมสีน้ำตาลอ่อนยาวถึงเอวที่ยุ่งเหยิงพันกันน่ารำคาญ เมื่อคืนฉันไถไอจียันดึกไปหน่อย วันนี้นาฬิกาปลุกดังเลยไม่ได้ยิน ทั้งๆที่เป็นวันเปิดเทอมวันแรกของการขึ้นมัธยมปลายของฉันแท้ๆ
“กำลังค่ะแม่! แป็บนึง!”
“เร็วๆเลย!” แม่เร่งกลับมา
ฉันรีบหวีลวกๆจนผมถูกหวีกระชากขาดไปหลายเส้น แต่ช่างมัน ฉันไม่แคร์ ยูนิฟอร์มโรงเรียนนานาชาติซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านฉันมาก ถูกฉันสำรวจเป็นครั้งสุดท้าย
เสื้อเชิ้ตแขนสั้นคอปกสีขาวติดกระดุมเรียบร้อย มีโบว์สีกรมท่าลายสก็อตอยู่ที่คอเสื้อ กระโปรงเป็นแบบจีบรอบตัวลายสก็อตสีเดียวกับโบว์ที่คอฉันนี่แหละ ความยาวเหนือเข่า ฉันยัดชายเสื้อเข้าไปในกระโปรงอย่างลวกๆ ดึงถุงเท้าสีดำให้เท่ากันจากนั้นถึงรีบออกไปจากห้องนอนโดยยังทิ้งกองชุดนอนกับกองผ้าห่มหมอนที่ยังไม่ได้เก็บนับตั้งแต่ลุกจากเตียง
แม่ด่าฉันเละแน่ แต่ช่างเหอะ เดี๋ยวแม่ก็ให้พี่แม่บ้านมาเก็บอยู่แล้ว
“มาแล้วๆ แม่จะขับรถไปส่งฝรั่งใช่ไหม” ฉันถามแม่
“ไม่ วันนี้รถพ่อเสีย แม่ต้องไปออฟฟิศพร้อมพ่อ” แม่ฉันปฏิเสธแบบไร้เยื่อใยมาก
“เอ้า แล้วฝรั่งจะไปยังไง”
หมู่บ้านใหญ่ๆบางทีก็ไม่มีรถสาธารณะให้ใช้หรอกนะ เพราะเป็นหมู่บ้านอลังการที่คนอยู่อาศัยมีฐานะประมาณหนึ่ง ทุกบ้านจะมีรถอย่างน้อยก็หลังละสองคัน อาจจะมีรถกอล์ฟบริการไปส่งหน้าหมู่บ้านบ้าง แต่ฉันไม่อยากนั่งนี่ มันร้อนนนน แถมต้องไปหารถต่ออยู่ดีอ่ะ
“ไปกับชาสิ” แม่พูดถึงเพื่อนสนิทฉันซึ่งบ้านอยู่ห่างกันไม่กี่ซอย
“โอ๊ย ชาไปแล้วแน่เลย ฝรั่งไม่ได้บอกว่าจะติดรถบ้านมันไปอ่ะ”
รู้งี้บอกให้ชารอก็ดีอ่ะ ฉันทำได้แค่คิดในใจแบบเซ็งๆ
“ชาจะไปได้ไง พี่ชายเขายังอยู่หน้าบ้านเรา ไปๆ ไปกับเขานั่นน่ะ แม่ฝากเรากับเขาไว้แล้ว”
“หะ” ฉันทำหน้าเงิบใส่แม่ นี่แม่กำลังพูดถึง พี่ ‘ชุน’ พี่ชายสุดสวาทขาดใจดิ้นของชามันอยู่หรอ พี่เขาคือผู้ชายคนสุดท้ายในโลกเลยนะ ที่ฉันอยากไปด้วยน่ะ! ช่างเป็นพี่ชายเพื่อนที่ไม่เหมือนในละครเอาซะเลย ทั้งแกล้งฉัน ทั้งล้อฉัน ทำตัวแย่บรมเลย ไม่มีอะไรดีสักอย่าง ฉันไม่อยากจะยุ่ง
“ไปเร็วฝรั่ง เจ็ดโมงครึ่งแล้วนะ”
“ค่ะๆๆ”
ฉันไม่มีทางเลือก แม้จะงง จับต้นชนปลายไม่ถูกก็ต้องออกมานอกบ้าน ผู้ชายที่กำลังคร่อมมอเตอร์ไซค์คันโตพลางเล่นโทรศัพท์ไปด้วยคือพี่ชุนจริงๆ เห็นหัวสีทองแว๊นๆนั่นแล้วน้ำตาฉันจะไหล T^T
อ้อ ไม่ใช่ว่าพี่เขาไม่หล่อหรอกนะ เขาหล่อมากกก
สมัยเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกัน ตอนฉันอยู่ม.หนึ่ง พวกพี่ชุนก็อยู่ม.หกกันแล้วใช่ไหมล่ะ ป็อบกันสุดๆไปเลย ถึงขนาดที่ว่า ชาหารายได้พิเศษด้วยการขายเบอร์ ขายรูปพี่ชายตัวเองกับรูปเพื่อนๆของพี่เขา อย่างพี่ ‘ก้าน’ กับพี่ ‘สิงหา’ จนได้เงินเป็นกอบเป็นกำ (ก็มีคนบ้าซื้อนี่หว่า) เรียกได้ว่าเป็นกลุ่มที่เหมือนคัดเลือกหน้ามาคบกันเลยล่ะ
ขอบอกตามตรง บ้านพี่ชุนเป็นบ้านที่มีรถยนต์อยู่สี่คัน คันหนึ่งของพี่ชุน คันหนึ่งของพี่เชอเอม คันหนึ่งของพ่อกับแม่พวกเขา และมีอีกคันที่น่าจะเป็นของชา น้องชายคนเล็กสุดในบ้านในอนาคต ฉันรู้เรื่องราวของบ้านนั้นดีขนาดนี้เพราะพ่อแม่เรารู้จักกัน สนิทกันอยู่สามบ้าน บ้านพี่สิงหา บ้านพี่ชุน บ้านของฉัน
ปัญหาคือเวลามารับฉันทีไรอ่ะ พี่ชุนจะเอามอไซค์มาตลอดแม้จะรู้ว่าฉันเกลียดการซ้อนท้ายมอไซค์เขา
เหตุผลข้อที่หนึ่ง คือเขาเหมือนแว๊น ฉันไม่อยากเป็นสก๊อย เหตุผลข้อที่สอง มอไซค์พี่ชุนมันเป็นแบบสโลปลงอ่ะ ที่คนซ้อนจะอยู่สูงกว่าที่คนขับ และมันทำให้เวลาฉันต้องซ้อน ตัวฉันต้องไหลไปติดกับแผ่นหลังกว้างๆนั่นอย่างไม่มีทางเลือก แถมขับรถเร็วจะตาย ฉันพยายามไม่กอดเขาหลายทีละนะ สุดท้ายกลัวก็ต้องกอด
เลวร้าย! เห็นไหมว่าเลวร้ายแค่ไหน!
“พี่ชุนมาที่นี่ทำไมอ่ะ” ฉันถาม ร่างสูงหน้าออกคมช้อนสายตาขึ้นจากโทรศัพท์มามองฉันแบบกวนๆ
“มารับหมาไปเดินเล่นมั้งครับ ก็มารับน้องเด่นฤดีไปส่งที่โรงเรียนไงครับ มาๆ ขึ้นรถ”
“โอ๊ย! อย่ามาเรียกชื่อจริงเค้านะเว้ย!”
ฉันขึ้นวะเว้ยอย่างโมโห ชื่อเด่นฤดีเป็นชื่อที่อาจารย์ดูดวงชื่อดังตั้งให้ฉันตอนเล็กๆ เพราะแม่เอาดวงฉันไปดูแล้วบอกว่าฉันจะไม่มีสามี ถ้าไม่ใช้ชื่อนี้ แม่ก็กลัวฉันจะไม่ได้แต่งงาน เลยให้ฉันใช้ชื่อบ้าๆที่ดูแสนโบราณสุดๆนี่มาตลอดสิบหกปีโดยห้ามไม่ให้เปลี่ยน
แล้วมันก็กลายมาเป็นชื่อที่พี่ชุนใช้ตอกย้ำฉันยังไงล่ะ! ไม่เห็นจะมีเลยแฟนอ่ะ มีแต่อีพี่ชุนมาล้อเช้าล้อเย็น!
“จะเรียก จะทำไมครับ”
“พี่ชุน!”
“หน้าหงิกเดี๋ยวก็ขี้เหร่หรอก จริงๆก็ไม่ได้สวยอยู่แล้วนะเนี่ย” พี่ชุนทำหน้ากวนประสาทฉัน ฉันเม้มปากแน่น ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ (อย่างเจ็บใจ) ใส่ ผู้หญิงกับเรื่องหน้าตามันสำคัญนะ มาพูดวิจารณ์หน้าตาคนอื่นได้ไง ทีตัวเองแว๊นจะตายฉันยังไม่พูด
“...”
“อ่ะๆ ทำมาเบะ ล้อเล่น สวยจะตาย ที่สุดในซอยแล้ว จะไปได้ยัง สายอย่ามาโทษพี่นะเว้ย” พี่ชุนเห็นฉันโกรธจริงเลยทำมาเป็นเปลี่ยนเรื่อง ซึ่งก็ไม่ได้ว่าจะทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นเลยสักนิด
“ชาอยู่ไหน” ฉันถามถึงเพื่อนสนิทฉัน
“แล้วเราเห็นชาอยู่ตรงนี้ไหมอ่ะ” พี่ชุนถามกลับ
“พี่ชุน!” ฉันเสียงแข็งใส่เขาเป็นรอบที่สอง
“มันไปแต่เช้าแล้ว ติดรถไอ้สิงไป เพื่อนพี่มันจะไปมหาลัยพอดี ตอนแรกพี่ก็จะไปส่งเองนี่แหละ แต่พี่ว่าจะหยุดเรียนเลยไม่ไป ว่าจะนอนอยู่บ้าน” คำอธิบายของพี่ชุนไม่ได้ช่วยให้อะไรหลายๆอย่างกระจ่างไปมากกว่าเดิม เผลอๆ สับสนกว่าเดิมอีก
“แล้วทำไมพี่ชุนถึงต้องเสนอตัวมาส่งฝรั่งด้วย”
“ใคร ใครเสนอตัว นี่ไม่ได้เสนอตัวเลยนะ เอาจริง แม่ฝรั่งไปขอหรอก พี่รักแม่ฝรั่งไง เลยมารับเราแทนที่จะนอน แล้วไง จะสัมภาษณ์พี่ถึงพรุ่งนี้เลยใช่ไหม โตไปอยากเป็นนักข่าวหรือไง จะได้เอาเสื่อมาปูนอนรอฟังตรงนี้ทั้งวัน” ฉันล่ะเกลี๊ยดเกลียดปากยื่นๆยาวๆของเขามากๆ
“เออๆ ไปก็ได้ มีทางเลือกอื่นตายละนี่” ฉันกระแทกแดกดัน พี่ชุนเลยหยิบหมวกกันน็อคใบหนึ่งมาส่งให้ฉัน ส่วนอีกใบก็ใส่ให้ตัวเอง ฉันค่อยๆขึ้นไปซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์พี่ชุนอย่างระมัดระวัง ตอนฉันกำลังวุ่นวายอยู่กับสายหมวกกันน็อคที่ปลายคางตัวเอง พี่ชุนก็ไม่มีถามเลยว่าฉันพร้อมไหน ตัวเองพร้อมเสร็จ สตาร์ทรถเหยียบคันเร่งออกไปเลย
“กรี้ด!” ฉันร้องอย่างตกใจ
หมับ!
ฉันแขนสองข้างคว้าลำตัวคนตรงหน้าไว้อัตโนมัติ เชื่อไหมขนาดพี่ชุนใส่หมวกกันน็อคเต็มใบ ฉันยังรู้เลยว่าเขาแอบหัวเราะ ไอ้พี่บ้านี่ จงใจแกล้งฉัน แกล้งฉันอยู่ได้ รำคาญจริงๆ อย่าให้ฉันมีช่องทางบ้างนะ!
@โรงเรียนนานาชาติ DS
เอี๊ยด!
เสียงล้อยางบดถนนดังแสบแก้วหูตอนที่รถมอเตอร์ไซค์ราคาแพงของพี่ชุนมาจอดตรงฟุตปาธตรงข้ามประตูรั้วโรงเรียน แรงจอดที่ไม่เสถียรทำให้ตัวฉันกระแทกกับแผ่นหลังกว้างหนึ่งครั้งจังๆจนหน้าร้อนวูบ
พี่ชุนถอดหมวกกันน็อคออก ทางด้านฉัน ก็ลงมาจากมอเตอร์ไซค์ด้วยขาสั่นๆ จะไม่สั่นได้ไง พี่ชุนเล่นขับปาดซ้ายปาดขวา แซงหน้ารถบรรทุก โดนบีบแตรด่าตั้งหลายรอบ ฉันรู้แหละว่าเขากะระยะได้ แต่เขาก็ไม่ควรขับรถให้มันทุเรศขนาดนี้ วินมอเตอร์ไซค์ยังปลอดภัยกว่าเขาอีกมั้ง!
ไม่อยากเชื่อว่าฉันยังมีชีวิตแบกหน้าสวยๆของฉันมาถึงโรงเรียนได้
“ไงเรา กลัวหรอ” พี่ชุนขำกร๊าก
“ตลกนักหรือไง!” ฉันโมโหเขาจนตัวสั่นกว่าเดิม พยายามเอามือแกะสายตรงหมวกกันน็อค หากด้วยความที่ยังหลอนอยู่ เลยแกะมันไม่ออกซะที พี่ชุนที่ยังขำเลยเอื้อมมือมาดึงแขนฉันแล้วยื่นมือมาแกะสายหมวกกันน็อคที่ใต้คางฉันให้ เขาถอดออกไปคืนให้ด้วย
ฉันลูบผมที่ยุ่งเหยิงคงตัวเอง ไม่แน่ใจว่าดีหรือยังก็เอาหน้าไปส่องกับกระจกรถมอไซค์ของพี่ชุน คนเป็นเจ้าของรถเลยยิ่งขำไม่หยุด
“ขำไรนักหนา ทีหลังนะ ฝรั่งจะฟ้องแม่ ว่ามากับพี่ชุนอ่ะ เหมือนมาเสี่ยงตายอย่างกับนั่งบนมอไซค์วิบาก อย่าหวังเลยว่าคราวหน้าฝรั่งจะมาอีก ถ้าแม่มาส่งไม่ได้ ฝรั่งยอมหยุดเรียนย่ะ!” ฉันบ่นเขายาวเหยียดแล้วกระชับสายเป้ที่สะพายอยู่
“ฮ่าๆๆ แหม ฝรั่ง เพราะพี่หรอกนะ เราเลยมาเข้าแถวทัน ถ้าพี่ขับช้าๆอ่ะ มาไม่ทันหรอก ไม่มีโควตาให้มายืนด่าพี่อย่างงี้ด้วย จริงป่ะ” เขาเลิกคิ้วแล้วเสยผมสีทองนั่นขึ้นไป เด็กผู้หญิงที่เดินผ่านมองเขาจนเหลียวหลัง ฉันล่ะอยากเอาน้ำมนต์ไปพรมให้เธอจริงๆ กลัวจะโดนมนต์แว๊นครอบงำ
“ฝรั่งด่าพี่อ่ะ เพราะพี่กวนตี....” ฉันยังไม่ทันพูดจบ ฝ่ายเขาก็พูดแทรก
“อ่ะๆๆ พูดดีๆนะ พูดไม่ดีตีก้นนะเว้ย” พี่ชุนทำท่าจะคว้าชายกระโปรงฉัน ดีฉันกระโดดหลบทัน
“เรื่อง!”
“ฮ่าๆๆ” พี่ชุนขำอีกแล้ว
“ไปเรียนแล้วนะ คุยกับพี่ไปก็ยิ่งประสาทจะกิน!” ฉันสะบัดหน้าหนีแล้วเดินไปรอข้ามฝั่งไปยังรั้วโรงเรียน พี่ชุนเลยเรียก
“ฝรั่ง”
“อะไรอีก” ฉันเหลียวไปมอง เห็นเขาใส่หมวกกันน็อคอยู่ คงจะไปแล้วมั้ง ขายาวนั่นสตาร์ทมอไซค์ พี่ชุนใช้มือเปิดหมวกกันน็อคขึ้นเพื่อบอกจุดประสงค์ของเขา
“เย็นนี้แม่พี่ชวนมากินข้าวที่บ้านนะ มาด้วยล่ะ”
ฉันยังไม่ตอบรับ เขาก็ปิดหน้าหมวกลงแล้วขับรถไปเฉยเลย อะไร! ยังไม่ได้ไปบอกว่าจะไปเลยนะ!
โดนมัดมือชกไม่ได้ทำให้ฉันอารมณ์ดีขึ้นเลย ฉันก้าวเข้าไปในโรงเรียนอย่างอารมณ์เสีย
“ฝรั่ง!” เสียงใสของยัย ‘โมเม’ เพื่อนร่วมห้องมาพร้อมกับการเกาะแขนออเซาะที่ร้อยวันพันปีไม่เคยจะทำ
“มีไรหรอแก” ฉันถามยิ้มๆ ทั้งๆที่ในใจฉันภาวนาให้ยัยนี่เลิกเกาะแกะฉันซะ ทำมาเป็นสนิท หวังผลแหงๆ
“เมื่อเช้าใครมาส่งหรอ”
แหมมมมม สตรอว์เบอร์รีก็มายกสวน ตาไม่บอดก็ต้องเห็นอยู่แล้วไหม ว่าเป็นพี่ชายของชา
“พี่ชุนอ่ะ ทำไมหรอ” ฉันทำเป็นใสซื่อไม่ทันเกม
“พี่ชายชาน่ะหรอ” ยัยนั่นทำตาโตได้น่าต๊บน่าตบ
“ใช่ๆ” ฉันอมยิ้ม “เนี่ย ก็บอกไปแล้วนะว่าไม่ต้องมาส่ง ตื๊อจะมาอยู่นั่นแหละ”
ฉันแกล้งทำเป็นตอหลดตอแหลเพื่อดูปฏิกิริยาของโมเม แล้วก็ได้ผล ยัยนั่นแอบเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่ลึกๆคล้ายกับอยากตบฉัน เธอต้องแอบชอบพี่ชุนแน่ๆ แต่เสียใจ พี่ชุนเขาชอบแบบเด็กมหาลัยใส่กระโปรงสั้นๆ เสื้อรัดๆโน่นย่ะ เขาไม่แลเด็กกะโปโลอย่างฉันหรือหล่อนหรอก
แต่เรื่องอะไรจะพูดให้ตัวเองดูเสียภาษีกันล่ะ ฉันหมั่นไส้ยัยนี่ที่เป็นได้แค่วอนนาบี ขอแกล้งหน่อยเถอะ
“หรอ ว่าแต่ฝรั่งรู้ไหม ว่าพี่ชุนเขามีแฟนหรือยังอ่ะ” ความหน้าด้านของยัยโมเมยังไม่ลดละ จนอยากจะถามว่าพ่อแม่ส่งมาเรียนหรือมาทำอะไรกันแน่
“มีแล้วมั้ง ไม่ได้ถามเหมือนกันอ่ะ”
“แอบๆถามให้หน่อยสิ แล้วเราจะเลี้ยงขนมอร่อยๆเลย”
เห็นว่าเข้าทางชาไม่ได้เลยมาเข้าทางฉันสินะ เพราะชาโดนขอให้เป็นพ่อสื่อจนเบื่อตอนพี่ชุนอยู่ที่นี่ ช่วงนี้เลยเดินหนีผู้หญิงทุกคนที่พยายามฝากของให้พี่ชุน ทำให้กลายเป็นว่าฉันนี่แหละ มาเป็นเหยื่อรายที่สอง เนื่องจากสนิทกับบ้านนั้น
“เลี้ยงจริงหรอ” ถึงจะหมั่นไส้ยัยนี่ ก็เป็นคนละเรื่องกับที่ยัยโมเมจะเลี้ยงขนมฉันนี่นา
“จริงสิ อยากกินอะไรจะพาไปเลี้ยงให้หมดเลย นอกจากนี้อ่ะนะ ถ้าเกิดวันไหนพี่ชุนมาแล้วแกพาเราให้ได้มีโอกาสเจอพี่ชุนเพื่อทำความรู้จักกันอ่ะ แกอยากได้อะไรบอกมาเลย เราจัดให้ได้หมด” ยัยโมเมบ้านรวยมาก เลยทำตัวเป็นแม่บุญทุ่มใส่ฉัน หารู้ไม่ว่าฉันรวยกว่าเธออีกมั้ง แต่ไม่เป็นไร ฉันชอบของฟรีที่ราคาแพง อิอิ
“เอาสิ” ฉันตกลง เพราะเรื่องเอาพี่ชุนมาขายเพื่อนที่ถนัดมาก แต่ต้องไม่ให้พี่ชุนรู้นะ
เพราะพี่ชุนจะโกรธหรอ? ไม่หรอก เพราะเขาจะขอส่วนแบ่งต่างหาก! อะไรในชีวิตของผู้ชายคนนั้น ไม่สนุกเท่าการได้แกล้งฉันหรอก
“จริงนะ”
“จริง เดี๋ยวโทรบอกเลย”
ฉันหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรไปหาพี่ชุน รออยู่สักครู่ใหญ่ เขาก็รับสาย เสียงลมซ่าๆทำให้รู้ว่าเขายังขับรถอยู่ ฉันกลัวเขาจะมีอุบัติเหตุ เลยกดตัดสายไปดื้อๆ โมเมทำหน้าเจื่อนตอนฉันลดโทรศัพท์ลง
“พี่ชุนไม่รับหรอ”
“สงสัยขับรถอยู่ ไว้โทรหาตอนเที่ยงนะ ตอนนี้ไปเตรียมตัวเข้าแถวได้แล้วแหละ”
“โอเค”
CHUN PART
ผมมาถึงมหาลัยตอนแปดโมงกว่า เอามอไซค์ไปจอดไว้ในลานจอดรถเสร็จก็เดินลิ่วไปที่โรงอาหารเพื่อจะไปหาอะไรกิน เมื่อเช้ายัยฝรั่งโทรมา พอผมรับดันตัดสาย จะให้โทรไปจี้ๆตอนนี้ก็คงไม่รับ น่าจะเรียนแล้วแหละ ไว้ค่อยโทรหาอีกทีตอนเที่ยงแล้วกัน
“ไอ้ชุน” ไอ้สิงหาที่ซื้อข้าวมาและกำลังหาที่นั่งโคตรแปลกใจที่เห็นผม
“เออ ทำไม กูเอง”
“มึงมาทำอะไร” ไอ้สิงทำงง
“ห่า กูก็มาเรียนไหมล่ะ ถามซะกูดูเหี้ยเลย” ผมด่าเพื่อน ไอ้สิงหาโต๊ะได้เลยเอาจานข้าวไปวาง มันนั่งลงผมเลยนั่งด้วยเหมือนกัน
“ก็ตอนแรกมึงบอกวันนี้จะไม่มา ถ้ากูมาให้แวะเอาน้องมึงไปทิ้งไว้ที่โรงเรียนหน่อย กูว่ากูไม่ได้เข้าใจผิดนะ” ไอ้สิงทวนเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเช้า
“กูแวะไปส่งฝรั่งมา ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เลยเลยมาเรียน” ผมตอบ
“แน่ะ น้องชายแท้ๆไม่ไปส่ง แต่ไปส่งเพื่อนน้อง มึงคิดไรกับฝรั่งป่ะ” ไอ้สิงยิ้มล้อเลียน
“แล้วมึงคิดอะไรกับน้องชายกูป่ะ” ผมถามกลับหน้านิ่ง ไอ้สิงเงิบไปสองวินาที จากนั้นก็รีบปฏิเสธจนลนลาน
“บ้า เปล่า กูเปล่าคิด กูจะไปคิดอย่างงั้นได้ยังไง”
“เออ กูก็ไม่ได้คิดไรกับฝรั่ง แม่น้องไปขอให้กูไปส่ง เพราะรถพ่อเขาเสีย แล้วแม่ต้องรีบไปส่งพ่อที่ออฟฟิศ มีประชุม”
Rrrrrrr
โทรศัพท์ผมดังขั้นจังหวะการคุยกับไอ้สิง ยัยฝรั่งโทรมาอีกแล้ว
“ฮัลโหล โทรมาทำไม เมื่อเช้าพี่รับก็ตัดสาย” ผมบ่น
(ก็พี่ขับรถอยู่ เดี๋ยวรถคว่ำตายเป็นความผิดฝรั่งทำไง) เสียงเล็กว่า ผมอดอมยิ้มไม่ได้
“เป็นห่วงหรือไง”
(ห่วงดิ)
พอน้องตอบมาตรงๆ ผมก็เกิดรู้สึกแปลกๆขึ้นมาในทันใด...
เด็กมันอ่อยกูป่ะวะ...
ไม่ดิ ไม่เอาน่าไอ้ชุน! มึงจะไปคลำไม่มีหางแล้วเอาใครที่ไหนก็ได้ ใครที่อายุยี่สิบ ไม่ใช่เด็กอายุสิบหก ต่อให้น้องเขาจะขาวชวนคิดก็ตาม!
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ฮือออ พึ่งมาอ่าน ไรท์แต่งดีมากๆ เค้าชอบพี่ชุนอะ5555555555555เดี๋ยวเป็นสก๊อยซ้อนท้ายพี่เองค่าาาา
งื้อออออ
อ้าวจบละ อีพี่ชุนแอบหื่นนี่หว่า55555
น่ารักกก