ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [yaoi] Can I Love You

    ลำดับตอนที่ #1 : หัวใจ

    • อัปเดตล่าสุด 11 พ.ย. 51


        รักคือสิ่งใดนะ ทุกครั้งที่ได้เฝ้ามองเจ้า เพียงแค่รอยยิ้มเล็กๆนั้นหัวใจข้าก็เป็นสุขนัก นั้นคือความรักที่เขาพูดกันหรือไม่

       ดวงตาสีทองจ้องมองสิ่งมีชีวิตที่แสนจะบอบบาง มนุษย์หากเพียงเอื้อมพระหัตถ์ไปคว้าร่างเล็กๆนั้นก็อาจสูญสลายไปได้ 

    ร่างขาวที่มีประกายสีฟ้าล้อมรอบอย่างบางเบา ใบหน้าหล่อเหลาประดับยิ้ม แล้วจะทำยังไงนะ 

    พระองค์ไม่เคยผูกมิตรกับมนุษย์เสียด้วยสิ 
    ตั้งแต่จำความได้ เมื่อครั้งถูกสร้างขึ้นมาด้วยพรแห่งพระบิดาเจ้า ก็ไม่เคยสักครั้งที่จะใกล้ชิดมนุษย์เท่าครั้งนี้

      ร่างขาวจัดจ้องมองเสื้อผ้าสีหม่นๆของพวกตัวจิ๋ว จากบนนี้มนุษย์ตัวน้อยยิ่งดูเล็กลงไปอีก บางทีอาจจะเริ่มทีกายแต่งกายกระมัง
     หัตถ์เรียวขาวจัดแตะที่ชุดทรงเพียงไม่นานมันก็เปลี่ยนเป็นเสื้อสีหม่นๆ ไม่ต่างจากพวกมนุษย์ตัวจ้อย

      " แค่นี้ข้าคงพอจะคล้ายๆบ้างละนะ "เสียงนุ่มหัวเราะเบา ดวงตาสีทองอ่อนแสงเพียงหลับพระเนตร 
    นัยน์ตาสีเข้มก็ปรากฏแทนที่สภาพภายนอกไม่ต่างจากคนธรรมดาที่หน้าตาดีไปนิดเท่านั้น 
    ชายหนุ่มแกล้งร้องดังๆ แสร้งทำทีว่าพลัดตกจากต้นไม้ 
    เสียงหนักเหมือนอะไรบางอย่างตกลงมาเรียกความสนใจจากเหล่าเด็กๆที่วิ่งเล่นบนเนินกว้างแทบจะทันที

      หนึ่งในจำนวนเด็กพวกนั้นมีเด็กคนหนึ่งที่ดูจะมากอาวุโสกว่าเดินนำมา ใต้ต้นไม้สูง ภาพที่สะท้อนในดวงตาสีน้ำผึ้งไหม้คือ 
    ชายแปลกหน้าผิวขาวหมดจด ใบหน้างดงามไม่ต่างจากเทพเจ้า
     เด็กหนุ่มยืนตลึงไปชั่วขณะเมื่อได้ยินเสียงโอดครวญจากปากแดงสดจึงรีบเดินเข้าไปใกล้

    " เจ็บ เจ็บ โอ้ย "  ซึบาสะขยับเข้าไปใกล้คนเจ็บ เอ่ยถามอย่างเป็นห่วง

    " ท่านเจ็บตรงไหนบ้าง แล้วตกลงมาได้ยังไงเนี่ย อะแย่แล้ว กระดูกจะหักหรือเปล่าก็ไม่รู้ "  
    ปากอิ่มๆที่ขบัยเคลื่อนไหวอยู่ตรงหน้า ดวงตากลมโตใสกระจ่างสีเข้ม เจ้าของผิวสีน้ำผึ้งที่เคยแอบมอง ใกล้กันแค่เพียงนี้เอง 

     " ข้าไม่รู้ แต่มันเจ็บมากๆเลย ช่วยข้าทีสิ  " คนรูปงามเอ่ยน้ำเสียงเจือความเจ็บปวด 
    หากแต่ดวงตาสีอ่อนกลับเป็นประกายระยับจนน่าแปลก ซึบาสะรีบหันไปบอกเด็กคนอื่น

    " ไปตามท่านโคอิจิเถอะ ข้าว่าคงเจ็บพอดูกระดูกอาจจะหักด้วย " เด็กน้อยผู้นั้นรับคำรีบวิ่งไปทันที
     เหล่าเด็กที่เหลือได้แต่มองอยู่ห่างๆด้วยความสงสัย 

     " อีกเดียวท่านอาจารย์ของข้าก็มาแล้วอย่ากลัวไปเลยนะ อาจารย์ของข้าเป็นหมอที่เก่งมากรับรองท่านต้องหายเจ็บแน่ๆ " 
    ซึบาสะพยุงคนเจ็บขึ้นนั่ง น่าแปลกนัก คนผู้นี้มีใบหน้างดงามเหมือนไม่ใช่คนธรรมดาแต่การแต่งกายแบบนี้ 
    เขาคงเจอปัญหา บางทีทางบ้านอาจเกิดปัญหา อะ หรือจะเป็นพวกขุนนางที่ถูกปลด น่าสงสารจริงนะ

     " อะ " เหมือนนึกได้ ซึบาสะหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นซับใบหน้าเบาๆ

    " ท่านคงมาอยู่ใหม่สินะ ยินดีที่ได้รู้จักข้า อิมาอิ ซึบาสะ " เมื่อได้ยิ้มบางๆกลับมาซึบาสะก็แน่ใจว่าคนแปลกหน้าท่าจะเจ็บไม่น้อย
     อย่างนี้พักแผนชวนคุยไว้ก่อนดีกว่านะ

    "อาจารย์มาแล้ว " ทันทีที่เห็นชายผ้าสีเขียวซึบาสะก็แน่ใจว่าต้องเป็นท่านอาจารย์แน่ เด็กน้อยโบกมือไหวๆเป็นสัณญาณ

      " เป็นอย่างไรบ้าง เจ้ารู้สึกเจ็บตรงไหนบ้าง " เสียงสอบถามอาการแต่ไม่ร้อนรนของผู้ที่ถูกเรียก ท่านอาจารย์ 
    โคอิจิตรวจอาการอย่างรวดเร็ว เท่าทีดูกับคำบอกเล่าของเจ้าตัว คงไม่เจ็บมากหรอกมัง แต่ทำไมทำท่าซะเกินจริงขนาดนี้ละ ?

        ท่านหมอจ้องมองดวงตาสีเข้มจัดเป็นประกายอย่างสงสัยแต่ก็ไม่ได้เอ่ออะไร เพียงแต่เรียกให้ผู้ติดตามช่วยกันหามชายหนุ่มเข้าหมู่บ้านเท่านั้น

     ****

       ผ่านไปกว่าหนึ่งสัปดาห์ คนแปลกหน้าคนนั้นกลายเป็นที่รู้จักของใครไปทั่ว เพียงเดินผ่านใครต่อใครก็ถามกันว่า

     " ทากิซาว่าเป็นยังไงบ้างซึบาสะ " ซึบาสะยิ้มมุมปากก้มหน้าลงต่ำก่อนเงยหน้าตอบยิ้มๆว่า

     " เขาเดินได้แล้วละ ข้าว่าวันนี้ก็จะปล่อยตัวกลับแล้ว "  เฮ้ยทำไมนะใครต่อใครถึงได้ชอบเจ้านั้นนัก 
    แค่คุยกันไม่กี่วันทำไมเหมือนรู้จักกันมานานนะ

        ไม่ว่าเจ้านั้นจะทำอะไรก็ดูจะรู้ใจเขาไปเสียหมด เหมือนอ่านใจคนได้อย่างนั้นแหละ หรือเพราะหน้าตาดีหน่อยใครๆเลยชอบกันนะ 
    นั้นสิ นั้นสิ เจ้านั้นหน้าตาดีจริงๆ  แก้มนวลแดงเรื่อนิดพอนึกถึงใบหน้าของคนไข้ที่ต้องดูแลมาตลอดช่วงหนึ่งอาทิตย์

       น่าหมั้นใส้นัก เจ้านั้นที่บอกว่าตัวเองชื่อทากิซาว่าเวลาอยู่กันสองต่อสองทำไมก็ไม่รู้ไอ้ท่าทีสุภาพยิ้มๆนั้นหายไปไหนหมดนะ เวลาอยู่กับเขาชอบก่อกวนอยู่เรื่อย ให้ยาก็ไม่ยอมกิน กว่าจะกล่อมได้เล่นเอาเบื่อเลย ยิ่งคิดก็พานให้ไม่อยากไปเจอตะหงิดๆ ที่ไม่อยากเจอเพราะเบื่อกับนิสัยงอแงเหมือนเด็กๆหรือเพราะเวลาอยู่ใกล้เจ้านั้นแล้วหัวใจมันเต้นไม่เป็นจังหวะทุกทีกันแน่นะ 
    ซึบาสะไม่อาจแน่ใจได้เลย

    ไม่นานก็ถึงบ้านของท่านอาจารย์


       ซึบาสะเดินถือห่อสมุนไพรไปให้โคอิจิ ภายในห้องปรุงยา ท่านหมอรูปงามนั่งบดส่วนผสมอย่างตั่งใจ
     ใบหน้าเรียวได้รูปผิวสีน้ำผึ้งไม่ต่างจากคนเป็นศิลษ์ โคอิจิปรายตามองร่างบอบบาง 
    มือเรียวจัดแจงเก็บของที่ถือมาอย่างคล่องแคล้ว

     " เจ้าไปดูหมอนั้นหน่อยแล้วกัน ข้าขี้เกียจฟังเสียงเจ้านั้นบ่นถึงเจ้า "
    ซึบาสะหน้างอไม่อยากไปนิ

    " ทำไมข้าต้องไปดูด้วยละ ท่านอาจารย์ เค้าก็หายดีแล้วไม่จำเป็นต้องดูแลอะไรแล้วนิ " โคอิจิแอบยิ้มแต่ก็ทำเสียงขรึมเอ่ออธิบาย

    " ตอนนี้เขาเป็นคนไข้ของข้า เจ้าก็ต้องดูแลถูกไหม "  รอยยิ้มล้อเลียนของท่านอาจารย์มันบอกว่า
     ที่จริงเจ้าก็อยากจะดูแลไม่ใช้หรือคนไข้หน้าตาดีจนเค้ากล่าวถึงกันทั่วหมู่บ้านนะ 
    ซึบาสะอดหน้าแดงไม่ได้ ทำไมมองข้าแบบนั้น ไม่ได้คิดอะไรด้วยซะหน่อยกับทากิซาว่านะ

    " ขะ ข้าจะไปดูให้ก็แล้วกัน "  ซึบาสะตัดบท วันนี้จะยอมไปดูให้สักครั้งหรอกก็แค่เจ้านั้นเป็นคนไข้คนแรกที่ข้าได้ร่วมรักษาเท่านั้น 
    ซึบาสะก้าวเท้ายาวๆ ผิวแก้มแดงเรื่อ

        ห้องด้านในคนตัวขาวกำลังนั่งอิงกับหัวเตียง  อยู่ที่นี้มาหนึ่งอาทิตย์เต็มๆได้ใกล้ชิดคนตัวบางนั้น ได้เห็นความห่วงใย รอยยิ้มที่มจากดวงตาคมหวาน ทากิซาว่าเอามือทาบหัวใจที่เต้นระรั่วเพียงนึกถึงเจ้าของนามซึบาสะ

     ทำไมหัวใจถึงเต้นขนาดนี้นะ ข้าคงบ้าไปแล้วหรือเจ้ากำลังทำข้าเป็นบ้านะ ซึบาสะ


       เสียงบานประตูดังเสียดสีกัน ใครคนหนึ่งที่คิดถึงก็เดินเข้ามา ทากิซาว่าอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นทาบหัวใจ 
    ปากบางขมุมขมิบพึมพัมเบา 
    " คิดถึงก็เดินมาอย่างนี้จะทำให้ข้าหัวใจหยุดเต้นเอานะ " แต่ว่าหัวใจของข้าก็ไม่จำเป็นต้องเต้นเหมือนมนุษย์ทั่วไปอยู่แล้วนี้น่า ?

       ซึบาสะที่หน้าบูดบึ้งกระแทกถาดใส่ยาสมุนไพรลงกับโต๊ะ
    "เอาดื่มเสียสิ เจ้าเดินได้แล้วไม่ต้องให้ข้าเเดินไปป้อนใช้ไหม"
    แม้จะหน้าบึ้งแต่มือบางก็พลักถ้วยยาไปใกล้ๆ

      ทากิซาว่ายิ้มกว้าง เดินมาหยิบยาแสนขนเข้าปากทันทีรู้ดีว่าคนพูดไม่ได้เจตนาให้โกรธเคืองก็แค่อารมณ์ไม่ดี  ดวงตาสีเข้มยังคงแย้มยิ้มเหมือนทุกที ตั่งแต่ครั้งแรกที่เจอกันก็ว่าได้ ทำไมนะ ทำไม ทำยังไงกันถึงมีดวงตาที่เปร่งประกายรอยยิ้มขนาดนั้นได้น่ะ ซึบาสะได้แต่สงสัย 

     " ข้าควรเดินออกกำลังกายมากใช้หรือไม่ ซึบาสะไปเดินเล่นเป็นเพื่อนข้าได้ไหม " สีหน้าคนถูกชวนบึงตึงแต่ก็ยอมเดินออกไปด้วย ทากิซาว่ายิ้มอย่างเป็นสุข จะเป็นไรไหมหนอที่ข้าจะอยู่แบบนี้ไปอีกสักพัก หมายถึงสักพักใหญ่ๆนะ อยากอยู่ข้างกายเจ้าแบบนี้ตลอดไปเหลือเกิน


      to be con

     


     

       
      

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×