ตอนที่ 14 : หน้าที่ 13 โดนแกล้งซะได้
หลังจากได้รับข้อความจากผู้ส่งสาส์นสีครามเรื่องระเบิดทำให้เกิดความตื่นตระหนกภายในวงในทำให้พวกเราเริ่มการประชุมการสืบสวนครั้งที่ 1 [คดีข่มขู่วางระเบิดจากผู้ส่งสาส์นสีคราม ]
“ข่มขู่วางระเบิดในย่านชุมชนขนาดใหญ่แถมยังโจมตีสำนักงานนักสืบให้เสื่อมเสียอีกด้วยครับ”คุณคุนิคิดะอธิบายสถานกาณ์คราวๆให้แก่ทุกคนที่มาประชุมฟัง
“เรื่องสถานการณ์สำนักงานนักสืบตกที่นั่งลำบากนะรู้แล้ว อธิบายเรื่องคดีวางระเบิดมาให้ละเอียดสิ” คุณหมดโยซาโนะที่เข้าร่วมการประชุมด้วยถามรายละเอียดสำคัญของเรื่องนี้
“นี่คือข้อความไหว้วานจากผู้ข่มขู่ที่ถูกทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุครับ มีเนื้อความว่า
เรียน ลำดับแรกต้องขอแสดงความยินดีที่กิจการรุ่งเรืองไปด้วยดี แต่ขออภัยที่กระทำการองอาจแต่ว่าข้าพเจ้าได้ทำการติดตั้งระเบิดแรงสูงไว้ในที่หนึ่งในโยโกฮาม่าแห่งนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วยเหตุนี้ด้วยลอดภัยของพลเมืองจึงขอว่าจ้างให้ค้นหาและเก็บกู้ระเบิดให้ได้โดยเร็วที่สุดกำหนดเวลาคือก่อนอาทิตย์ตกดินต้องขอรบกวนเป็นอย่างสูง ด้วยความเคารพ ผู้ส่งสาส์นสีคราม”
“คนที่เข้าข่ายอาชญากรรมล่ะ” ท่านประธานเอ่ยปากถามถึงบุคคลที่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง
“ตอนนี้ยังไม่ทราบครับ”
“ใช้แผนกดดันถ้าเราเก็บกู้ระเบิดไม่ได้ชื่อเสียของสำนักงานนักสืบก็จะแพร่กระจายไปทั่วทันทีงั้นเหรอ…สำนักงานนักสืบเราโดนโจมตีสักเท่าไหร่ก็ไม่สะทกสะท้านหรอกแต่ถ้ามาไม้นี้ล่ะก็งานเข้าแน่” คุณโยซาโนะพูดถึงผลเสียที่ต้องเกิดขึ้นกับทางเราแน่ๆถ้ากรณีทำไม่สำเร็จ
“เจ้าหน้าที่ธุรการเองก็พยายามตรวจสอบที่ที่ดูเข้าข่ายมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว…แต่ตัวเลือกมันมีมากเกินไป” คุณฮารุโนะเองที่พยายามหาที่ตั้งระเบิดก็พูดออกมาด้วยความกังวลใจ
“ครับ!” เคนจิคุงยกมือขึ้นมาขัดกลางวงสนทนาพร้อมหันไปถามคุณฮารุโนะ
“ยังติดต่อคุณรัมโปไม่ได้เหรอครับ”
“ดูเหมือจะติดคดีที่คิวชูอยู่นะคะ ฉันก็แจ้งไปแล้วว่าถ้าจับคนร้ายได้ให้รีบติดต่อกลับมาทันที”
“ได้ข้อมูลจากคนขับรถเพิ่มไหม” ท่านประธานถามถึงคนขับรถที่มีส่วนเอี่ยวกับคดีครั้งนี้
“บอกว่าไม่รู้อะไรเกี่ยวกับระเบิดเลยครับ เขาไม่มีความกล้าพอจะระเบิดเมืองโยโกฮาม่าหรอกครับ”
“ทุกคนฟังทางนี้” ท่านประธานที่เข้าใจทุกอย่างแล้วจึงเอ่ยขึ้น
“คดีในคราวนี้เป็นการเล่นงานสำนักงานนักสืบบุโซด้วยวิธีการต่ำช้าอย่างการจู่โจมด้วยข่าวสาร เป้าหมายการสอบสวนมีสองอย่างคือหาตัวผู้ส่งสาส์นสีครามที่เป็นต้นเหตุและเก็บกู้ระเบิดโดยให้ความสำคัญกับระเบิดที่มีกำหนดเวลาก่อนถ้าหาระเบิดไม่ทันแล้วปล่อยให้ผู้คนล้มตายไปพวกเราก็ไม่สมควรใช้ชื่อสำนักงานนักสืบอีกต่อไป!! คิดซะว่านี่คือการต่อสู้ที่เดิมพันด้วยศักดิ์ศรีและการคงอยู่ของสำนักงานนักสืบบุโซ”
ตู๊ด….ตู๊ด…
“คิดว่านี่มันกี่โมงกี่ยามหา! ไอ้เจ้าแว่นบ้า?” เสียงปลายสายพูดขึ้นด้วยความหงุดหงิด
“คนที่ยังนอนขี้เซาตอนเก้าโมงเช้ามันมีแค่แกนั้นแหละ…พอจะหาตัวผู้ส่งสาส์นสีครามที่เป็นคนส่งคำไหว้วานมาหาเราได้ไหม” คุนิคิดะพูดเข้าประเด็นกับพ่อค้าข่าวคนสนิทของเขา
“ที่โทรมาหาฉันไม่ใช่เพราะมีเรื่องอื่นอยากให้ทำหรอกเหรอ”
“รู้ไปหมดทุกเรื่องเลยนะ”
“รู้แค่เรื่องที่รู้เท่านั้นแหละ”โรคุโซพ่นลมหายใจตอบเขา
“อยากให้ช่วยแกะรอยวัสดุผลิตระเบิดหน่อยเดี๋ยวส่งบัญชีทางเรือไปให้”
“ระเบิด? กิจการรุ่งเรืองกันดีจริงนะ”
“เลิกพูดเล่นแล้วไปทำงานได้แล้ว”
“หา?”
“นี่เป็นงานช่วยชีวิตคน แกที่เอาแต่ทำเรื่องผิดกฎหมาย นานๆทีก็หัดทำประโยชน์ให้สังคมซะบ้าง”
“ทำมาเป็นสั่งสอนเป็นพ่อฉันรึไง”เขาว่าด้วยความหงุดหงิดใจเล็กน้อก่อนจะตัดสายทิ้งไปเลย
“….ไม่ใช่….ฉันเป็นพ่อแกไม่ได้หรอก…” คุนิคิดะยืนมองท่าเรือพูดออกมาด้วยความรู้สึกบางอย่างที่แอบเก็บซ่อนเอาไว้
“คุณคุนิคิดะ?....” ฉันเดินมาหยุดข้างๆเขาและส่งเยงเรียกอีกฝ่าย
เขายืนคุยโทรศัพท์กับคุณทากุจิ โรคุโซเมื่อกี้ทำให้ฉันได้ยินบทสนทนาบ้างเล็กน้อยแต่พอเขายก หูโทรศัพท์ลงสีหน้าเขากลับ…ดูอ่อนไหวไปชั่วขณะ ไม่บ่อยครั้งที่จะเห็นเขาแสดงด้านอ่อนแอ แบบนี้ออกมาเวลาที่ไม่ได้อยู่ต่อหน้าผู้คนนั้นเพราะพอเขาเห็นฉันสีหน้าเขาก็กลับไปเป็น แบบเดิมที่สีหน้าเคร่งครึมและทำตัวเข้มแข็งต่อหน้าฉัน
“หืม มีอะไร?”
“เป็นอะไรรึป่าวคะ ดูคุณ…”
“ไม่มีอะไรหรอก…ว่าเรื่องงานต่อสิ”
“อ่า…คือฉันจะมาบอกว่าตั้งแต่เราเข้าประชุมเมื่อเช้าคุณดาไซก็หายไปตั้งแต่ตอนนั้นน่ะค่ะ แล้วเราต้องออกไปทำงานกันอีก…”
“ไอ้…เจ้า…บ้า…นั้น!!!!!”
พอฉันอธิบายเสร็จคุณคุนิคิดะที่พึ่งจะนึกถึงเจ้าคนที่หายไปได้ก็เดือดดาดกำหมัดแน่นเพราะยิ่งสถานการณ์วุ่นวายกันเกือบตายแต่เจ้าคนบางคนกลับหายตัวไปไหนไม่รู้
“อัตสึโกะ…”
“คะ!?”
“ไปกัน….ฉันพอจะรู้สถานที่แล้วล่ะ”
ร้านคาเฟ่ ชั้น1 ใต้สำนักงานนักสืบบุโซ
“อ่า…เห็นแล้วล่ะค่ะ…” ฉันมองลอดผ่านกระจกร้านเห็นคุณดาไซอย่างที่ว่าจริงๆแถมยังอยู่กับคุณซาซากิอีก
เดทงั้นเหรอ…
“ไอ้เจ้าบ้านั่น งานการไม่ทำแต่มาเที่ยวกับผู้หญิง…ไปกัน อัตสึโกะ!!!”คุณคุนิคิดะว่าอย่างหัวเสียและจับข้อมือฉันลากเข้าไปแบบเงียบๆ
“จะดีเหรอคะ ข้างบนพวกสำนักงานนักสืบกำลังวุ่นเรื่องเหตุขู่วางระเบิดกันแถมท่านคุนิคิดะเองก็ดูยุ่งมากๆเลย”เสียงคุณซาซากิพูดถามคนในสำนักงานด้วยความเป็นห่วง
“คุนิคิดะคุงเขาเป็นพวกบ้างานล่ะน้า….ได้ข่าวว่าใช้เวลาสองชั่วโมงก่อนนอนทบทวนและเขียนแก้สมุดพกทุกวันเชียวนะ”
“อ๊ะ..” คุณซาซากิที่สังเกตเห็นฉันกับคุณคุนิคิดะอยู่ข้างหลังคุณดาไซของโต๊ะอีกตัวถัดไปฉันได้แต่ก้มหน้าพลางขออนุญาตเธอส่วนคุณคุนิคิดะกำลังมองคุณดาไซที่นินทาตัวเองอยู่ด้วยหน้านิ่ง
“สงสัยแม้แต่ในสมองก็ยังเลี้ยงแต่มดงานไว้----……” ยังไม่ทันจะพูดจบคุณคุนิคิดะปล่อยหมัดตรงไปที่หัวคุณดาไซอย่างรวดเร็ว
“อ้าว…คุนิคิดะคุงอยู่ด้วยเหรอ?” คุณดาไซถึงกับพูดเสียงสั่นๆ
“โดดประชุมในช่วงสถานการณ์ฉุกเฉินแบบนี้มาออกเดทยามบ่ายหาพระแสงอะไรอยู่หา!”
“อิจฉาที่คนเขามาเดทกันละสิ”
“อึก! ไม่ได้อิจฉาเฟ้ย!” คุณคุนิคิดะปฏิเสธพลางเหงื่อตก
อิจฉาสินะคะ…ฉันคิดในใจอย่างขำๆกับท่าทีของเขา
“เหอะ ที่จริงฉันก็กำลังเดินกับยัยหนูนี่เองเหมือนกัน”เขาพูดประชดก่อนจะจับมือฉันชูขึ้นให้อีกฝ่ายเห็น
“หะ…คะ!? คุณคุนิคิดะ!!!!” ฉันตกใจเลยหันไปพูดกระซิบกับเขาเสียงเบา แต่เขาก็เพียงส่งสายตาเชือดเฉียนมา
“เห…….” คุณดาไซมองเราสองคนสลับไปมาพลางยิ้มมองเราแปลกๆ
ทำไมสายตาเขาที่จ้องมาน่ากลัวจังเลย
“เดทเวลางานเนี่ยนะ!? คนอย่างคุนิคิดะคุงนะเหรอ!? หืมมมมมม”
“แล้วจะทำไม? ตอนนี้เวลาพักถ้าหมดนี้เราก็ไปทำงานกันต่อมันก็แค่นั้น ใช่ไหม ยัยหนู?”
“อ่ะ คือ….” ฉันอ้ำอึ้งตอบไม่ถูก
“จริงเหรอคะ ที่ท่านคุนิคิดะกำลังเดทอยู่” คุณซาซากิที่เงียบมานานเอ่ยถามขึ้นและมองมาทางฉัน
อะไรกันแล้ว…ทั้งที่คุณเองก็มาเดทกับคุณดาไซแท้ๆ…
“ใช่ค่ะ พวกเรามาเดทกัน” ฉันทำหน้าไม่พอใจตอบเสียงหนักแน่นกลับไปทำเอาคุณดาไซกับคุณคุนิคิดะอึ้งกับคำตอบของฉัน ส่วนฉันเองที่พึ่งรู้สึกตัวก็เขินจนหน้าแดงหนัก
เฮือก!!!! แย่แล้ว ทำอะไรของเราไปเนี่ย
“จริงเหรอ อัตสึโกะจัง” คุณดาไซจับข้อมือฉันแล้วเอาหน้ามาใกล้แววตาที่เขาถามฉันแสดงถึงความจริงจังในคำถามนั้นเป็นอย่างมาก
“จะ…จริงสิคะ ขนาดคุณเองยังมาเดทกับคุณซาซากิเลยนี่” ฉันบอกปัดและถอยห่างออกมาจากเขา
“ก็เธอเป็นเหยื่อที่เกือบถูกคนร้ายฆ่ามานะ การคุ้มครองความปลอดภัยและคอยเอาใจใส่เธอต่างหากที่เป็นหน้าที่สำคัญเร่งด่วนของคนที่สำนักงานนักสืบควรทำ” เหมือนเขาจะเน้นว่าตอนท้ายเป็นพิเศษและมองมาทางพวกเราสองคนประดุจว่าการที่เรามาทำอะไรแบบนี้มันเป็นการไม่สมควรยิ่งกว่า
“ให้คนเหลาะแหละที่เอาแต่ล่องลอยไปวันๆแบบแกเนี่ยนะมาทำ? อีกอย่างคนสวยระดับเธอก็น่าจะมีแฟนอยู่แล้วเถอะ”
“พอถามเขาก็ตอบว่าพึ่งเลิกกับแฟนเก่าไปเมื่อไม่นานมานี้เอง….เพราะงั้นคุนิคิดะคุงทางสะดวกนะเออ”
“ฟังนะดาไซฉันเดทกับยัยหนูนี่อยู่นะเฟ้ย อีกอย่างที่ฉันมาที่นี่ก็เพราะมาอธิบายสถานการณ์ให้นายที่โดดการประชุมตอนเช้านั้นแหละ”
ฉันก็แค่ขออ้างเถอะค่ะ คุณคุนิคิดะ!!!! ใครก็ดูออกว่าคุณแอบสนใจเธอ
“แค่สถานการณ์นะรู้หรอกน่า….เป้าหมายของผู้ส่งสาส์นสีครามที่วางระเบิดก็คือบดขยี้สำนักงานนักสืบไงล่ะ”
“เอ่อคือ…เรื่องพวกนี้ให้ฉันที่เป็นคนนอกมาฟังจะดีเหรอคะ”
คุณซาซากิที่นั่งมาตั้งแต่แรกพูดขัดขึ้นเพราะกลัวว่าเนื้อความที่ทุกคนจะว่าต่อไปนี้อาจเป็นเฉพาะทางหรือความลับเกินไปจนคนนอกแบบเธอไม่ควรมารู้ก็เป็นได้
“เป็นสิคะ…”ฉันพูดเสียงเบาพร้อมรอยยิ้มเจื่อนๆให้เธอ
“คุณซาซากิเป็นผู้เกี่ยวข้องนะไม่มีปัญหาหรอก” คุณดาไซพูดแทรกฉันและบอกว่าไม่จำเป็นที่เธอต้องคิดมาก
“เอ๋….”
“วิชาที่คุณซาซากิสอนที่มหาวิทยาลัยรู้สึกจะเป็น….”
“จิตวิทยาสังคมค่ะ”
“งั้นก็ดีเลย ขอฟังความเห็นของคุณเกี่ยวกับคดีนี้หน่อยได้ไหม” คุณดาไซเลยถามความเห็นจากเธอทำให้คุณซาซากิพยักหน้าและไม่ได้ตอบปฏิเสธอะไรลองใช้ความคิดดู
“ก็สงสัยมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะคะ ว่าคนที่ใช้ชื่อผู้ส่งสาส์นสีครามนั่นนะมีความเกี่ยวข้องอะไรกับราชาสีครามให้เหตุก่อการร้ายสีครามหรือเปล่าคะ”
“คิดแบบนั้นจริงๆด้วยสินะครับ”
“ไม่แน่อาจจะเป็นตัวราชาสีครามเองเลยก็ได้นะคะถึงข่าวจะบอกถูกตำรวจต้อนจนมุมจนระเบิด ตัวตายไปแต่ที่จริงเขาอาจจะแกล้งตายแล้วมีชีวิตอยู่ก็ได้นะคะ…ราชาสีครามที่เป็นอดีตข้าราชการนั้นวางระเบิดในที่ทำการต่างๆของรัฐพร้อมออกสื่อป่าวประกาศเป้าหมายของเขามีเพียงฆาตกรที่รอดจากความผิดเพราะความผิดพลาดในการสอบสวน พวกสมาชิกสภาที่มีเอี่ยว เกี่ยวข้องกับการคอรัปชั่นในการเมืองระหว่างประเทศไม่ก็อาชญากรรมตัวเป้งที่จัดการไม่ได้ทั้งนั้น”
คุณซาซากิที่นั่งอธิบายเรื่องราวให้เราฟังอยู่…อยู่ๆคุณคุนิคิดะที่นั่งกุมมือฉันอยู่อีกฝั่งกลับกุมแรงขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุสายตาเขาเหลือบมองคุณซาซากิที่กำลังพูดอธิบายอยู่แววตาเขาแฝงไป ด้วยความจริงจังในแววตานั้น
“แต่ถ้าราชาสีครามยังมีชีวิตอยู่จริงทำไมถึงมาโจมตีสำนักงานนักสืบแบบนี้ด้วยละคะ” ฉันถามคุณซาซากิกลับ
“เรื่องนั้นเองฉันก็ไม่ทราบ…”
“ก็นะ…คนที่ต้อนราชาสีครามให้จนมุมก็คือคุนิคิดะคุงที่เป็นคนเจอที่ซ่อนนี่ งั้นเหรอเนี่ย คนที่เขาแค้นคือคุนิคิดะคุงนี่เอง” คุณดาไซพูดตอบให้พวกเราหายสงสัยกันถึงจะเป็นการพูดเล่นพูดหัวก็ตามเถอะ
“การตายของผู้ก่อการร้ายคนนั้นเป็นผลสรุปหลังผ่านการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุโดยสารวัตรทหารมาแล้วไม่มีทางผิดแน่”
“ยังไงก็เถอะจนกว่าจะรู้ตัวจริงของอีกฝ่ายก็ระวังตัวไว้ดีกว่านะต้องพาคุณซาซากิไปไว้ในที่ปลอดภัยด้วย”
“เรื่องนั้นฉันไม่อนุญาต ดาไซ!”
“หมายความว่าไง?”คุณดาไซขมวดคิ้วและมองหน้าคุณคุนิคิดะ อีกฝ่ายหันมาและกำคอเสื้ออีกฝ่ายก่อนจะตะโกนลั่น
“ทำมาเป็นอ้างว่เพื่อความปลอดภัยของเจ้าตัว!แล้วเอาผู้หญิงไปกกไว้ในห้องตัวเอง แล้วทำเรื่องอย่างว่าอย่างโน้นอย่างงี้วันแล้ววันเล่าหัดละอายตัวเองซะบ้าง!!!.....”
“ไม่ได้ทำอย่างที่นายมโนสักหน่อย”
คำที่คุณดาไซพูดขึ้นมาทำเอาคุณคุนิคิดะที่พึ่งเดือดจัดถึงกับมองหน้าเอ๋อไปชั่วขณะ ทางฉันเองก็หน้าเอ๋อไม่ต่างกัน
“ก็บอกแล้วไงวันแรกที่เธอมาค้างฉันก็ไปนอนอีกห้องไม่ได้แตะต้องแม้แต่ปลายเล็บเลยก็รู้นะว่าคุนิคิดะคุงกับอัตสึโกะจังเข้าใจผิดกันเห็นน่าสนุกดีก็เลยปล่อยไว้แบบนั้น” คุณดาไซว่าด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย ส่วนคุณคุนิคิดะที่หน้าเอ๋อรับประทานไปนั้นถึงกับสั่นคอเสื้ออีกฝ่ายเบาๆไปมาแทนก่อนจะระเบิดเสียงออกมา
“อ้ากกกกก อ้ากกก อ้ากกกกกกกกก”
ส่วนฉันที่ได้ยินก็แอบโล่งใจไปเปราะนึง…เอ๊ะ…เราจะโล่งใจไปทำไม ในขณะที่กำลังงงกับความรู้สึกตัวเองจังหวะเดียวกับสายตาก็เผลอไปสบตากับคุณดาไซที่มองมาทางนี้พร้อมรอยยิ้มขี้เล่นของเขา เขาดูสนุกมากเลยกับการแกล้งฉันและคุณคุนิคิดะ
“คุนิคิดะคุงดูจะสนใจคุณซาซากิมากเลยน่า แล้วคุณซาซากิชอบผู้ชายแบบไหนเหรอ?” คุณดาไซเปิดประเด็นถามตรงๆกับหญิงสาวตรงหน้า
“บะ…แบบไหนเหรอคะ? การที่ฉันจะมีสเป็คผู้ชายในใจมันอาจไม่เจียมตัวอยู่บ้าง…คือว่า…เป็นผู้ชายที่ยึดมั่นในอุดมคติและทุ่มเทให้กับมัน ฉันคิดว่ามันวิเศษมากเลยค่ะ”
เมื่อได้ยินคำตอบจากคุณซาซากิอย่างงั้นคุณคุนิคิดะที่โวยวายไม่ยอมหยุดถึงกลับนิ่งไปชั่วขณะเลย
“นั้นมันคุนิคิดะคุงชัดๆเลยนี่ งั้นเชิญทั้งคู่มานั่งคุยกันเลย เดี๋ยวฉันจะไปหาอัตสึโกะจังเอง”
จะบอกว่าให้นั่งสลับคู่กันเรอะ!?
“เดี๋ยวเถอะดาไซ…ยะ..อย่าพูดเองเออเองสิวะ!” คุณคุนิคิดะถึงกับพูดลนลานทำอะไรไม่ถูก
“คุนิคิดะคุงเข้าใจง่ายง๊าย”
นั้นสิคะ…ดูออกง่ายมากเลยค่ะ…ฉันที่นั่งเงียบมองเหตุการณ์อยู่ได้แต่บ่นในใจและพยายามกลั้นขำกับสถานการณ์ตรงหน้าถึงจะบอกว่าโดนแกล้งทั้งคู่ก็เถอะแต่คุณคุนิคิดะโดนมากกว่าฉันอีก
“ก็อาจจะเพี้ยนไปหน่อย…แต่ก็อย่างที่เห็นเขาเป็นผู้ชายที่ดีที่อยู่เพื่ออุดมคติเลยล่ะแต่เพราะงั้นมาตรฐานผู้หญิงในอุดมคติเลยพลอยสูงไปด้วยละนะ ลองอ่านดูไหม?” คุณดาไซหยิบสมุดพกของคุณคุนิคิดะให้คุณซาซากิอ่านดูตามที่บอก เธอรับมาแบบงงๆแต่ก็ยอมอ่านตามที่ว่า
“เฮือก! แก…ตั้งแต่ตอนไหน! คืนมานะ!!” คุณคุนิคิดะที่ยังไม่หายบ้าบอถึงกับงงที่สมุดตนไปอยู่นั้นและพยายามจะแย่งคืนมาจากคุณซาซากิแต่ก็โดนคุณดาไซขัดขวางไว้
“ท่านคุนิคิดะ…” คุณซาซากิที่อ่านไปได้สักพักเรียกชื่อเขาออกมา
“ครับ!?”
“แบบนี้ไม่ไหวนะคะ”เพียงแค่นั้นคุณคุนิคิดะถึงก้มหน้าจ๋อยไปเลย
“คุณคุนิคิดะไม่เป็นไรนะคะ” ฉันได้แต่ตบบ่าเขาให้ทำใจ
ครืน…ครืน…
เสียงโทรศัพท์ของฉันดังขึ้นมาแบบไม่ทันตั้งตัวพอเปิดดูก็รู้ว่าเป็นข้อความจากคุณฮารุโนะที่ส่งมาบอกว่าติดต่อุณรัมโปได้แล้วเขาบอกว่างงานเลยจะช่วยคดีทางเราให้ ฉันจึงรีบลุกขึ้นบอกกับทุกคนให้รีบเตรียมตัวทำงาน
“ติดต่อคุณรัมโปได้แล้วค่ะ”
“งั้นรีบโทรไปเลย” คุณคุนิคิดะบอกกับฉัน ฉันจึงรีบกดโทรออกไปโดยเร็วที่สุดและรอให้อีกฝ่ายรับสายให้เร็วขึ้นหน่อยจะเป็นการดีมาก
[“ว่าไง อัตสึโกะ ได้ยินเรื่องแล้วน่า” ] เสียงคุณรัมโปดังออกมาจากโทรศัพท์
“คุณรัมโป!” ฉันยิ้มออกมาด้วยความดีใจพร้อมกับเปิดเสียงลำโพงโทรศัพท์วางไว้กลางโต๊ะให้ทุกคนได้คุยปรึกษากัน
“คุณรัมโป รู้ที่อยู่ของระเบิดแล้วสินะครับ!”
[“อุตสาห์ไขคดีเสร็จแล้วว่าจะไปทัวร์คิวชูกินออนเซ็นซะหน่อย…ไม่ไหวเลยน้าทุกคนพอไม่มีผมก็สืบสวนเรื่องราวกันไม่ได้เรื่องได้ราวเลย”] คุณรัมโปต่อว่าพวกเราเล็กน้อย
“พวกเรามีเวลาแค่ถึงพระอาทิตย์ตกดินครับ บอกสถานที่มาทีครับ” คุณดาไซที่เข้าโหมดจริงจังเร่งถามสถานที่กับอีกฝ่าย
ห้างสรรพสินค้าโรงเรียน หรือจะเป็นสถานี? ไม่ว่าที่ไหนก็ทำให้มีคนตายหลักร้อยขึ้นไปทั้งนั้น…. ฉันกังวลกับคำตอบจึงเริ่มคิดฟุ้งซ่านไปทั่วแล้ว
[“ร้านขายอุปกรณ์ตกปลา”]
“เอ๊ะ!?”
ฉันถึงกับอึ้งคำตอบร้านขายอุกปรณ์ตกปลาเนี่ยนะ…
[“ระเบิดอยู่ที่ร้านขายอุปกรณ์ตกปลาในเขตเนกิชิ”]
“อย่างงี้นี่เอง เข้าใจล่ะ สมกับเป็นคุณรัมโป”
“หือ?” พวกเราที่ยังไม่รู้เรื่องอะไรถึงกับงงคำพูดคุณดาไซที่อยู่ๆก็เอ่ยขึ้นมา แต่ก็ยังไม่ได้ถามอะไรมากมายอีกคุณคุนิคิดะก็รีบแจ้งกับฝ่ายสารวัตรทหารโดยเร็วและพาพวกเราทั้งสามขับรถออกไปตามสถานที่อย่างที่ว่า
“แต่ทำไมถึงเป็นร้านขายอุปกรณ์ตกปลาล่ะคะ” ฉันถามคุณดาไซ
“มีแผนที่ไหม?” คุณดาไซถามคุณคุนิคิดะ
“อยู่หลังเบาะ” ฉันที่นั่งอยู่ข้างหลังพอดีเลยเป็นคนหาตามทั้งคู่คุยกัน
“เปิดไปหน้า 97” คุณดาไซบอกหมายเลขหน้ากับฉัน ฉันจึงรีบเปิดไปตามที่ว่าก่อนจะตกใจกับแผนที่ที่แสดงภาพออกมา
“เป้าหมายของคนร้ายคือนิคมอุตสาหกรรมปิโตรเลียมไงล่ะ”
“งี้นี่เอง ทำไมถึงนึกไม่ถึงกันนะ” คุณคุนิคิดะว่าอย่างหัวเสีย
“ที่โยโกฮาม่าเป็นเมืองท่าชั้นนำของญี่ปุ่นมีถังเก็บน้ำมันดิบและแก๊สธรรมชาติขนาดใหญ่ตั้งเรียงกันอยู่เยอะถ้าเกิดเหตุระเบิดใกล้ๆ ตรงนั้น…แล้วไฟลามไปโดนขึ้นมาพื้นที่ท่าเรือทั้งหมดได้กลายเป็นทะเลเพลิงแน่นอน แต่การจะแทรกซึมเข้าไปในเขตอุตสาหกรรมน้ำมันได้มันต้องผ่านด่านปลอดภัยก่อน วิธีการที่ง่ายที่สุดเลยเป็นการ…บรรทุกระเบิดไว้ในรถแล้วเอาไปจอดใกล้เขตอุตสาหกรรมนั่นไงล่ะ”
“หรือก็คือถ้าคิดจากอนุภาคระเบิดในระดับที่รถสามารถบรรทุกได้ที่ที่เข้าเงื่อนไขก็คือร้านขายอุปกรณ์ตกปลานั้นสินะ”
“ฮึ ถูกต้อง” คุณดาไซว่าชมคุณคุนิคิดะที่มองสถานการณ์ออก
ก่อนจะถูกขัดด้วยปลายสายจากเสียงโทรศัพท์ของเจ้าหน้าที่ที่ทำการกู้ระเบิดโทรมาบอกสถานกาณ์กับคุณดาไซ เวลาเหลืออีกไม่มากแล้วชะตากรรมของเมืองเองก็ไม่รู้จะเป็นร้ายดียังไง
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
