ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ใจไม่ลืมรัก (มีEbookแล้วจ้า)

    ลำดับตอนที่ #10 : บทที่4/1 ตัดสินใจ

    • อัปเดตล่าสุด 16 พ.ค. 64


    บทที่๔ ตัดสินใจ

                “แล้วเรื่องอาการป่วยแม่มลจะไม่บอกลูกมันจริง ๆ เหรอ” น้ำเสียงของนางอำพรเริ่มอ่อนลง ก่อนเข้ามาหาคนป่วยในห้องนี้นางได้เข้าไปสอบถามอาการของอรมลกับแพทย์เจ้าของไข้มาแล้วจึงได้รู้ว่าอรมลป่วยเป็นโรคมะเร็งลำไส้ระยะที่สามแล้ว แน่นอนว่าเจ้าตัวรู้อยู่แล้วเพราะมีประวัติการรักษาอยู่และคาดว่าอรรัมภายังไม่รู้เรื่องนี้

                “ไม่ล่ะ ฉันรู้ว่าอ้อนมันรักฉัน ฉันไม่อยากให้ลูกมันเอาเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แค่นี้ไปคิดให้หนักหัว” คนป่วยที่รู้อาการของตัวเองดีเอ่ยปัด

                “มะเร็งลำไส้ระยะที่สามน่ะเหรอเรื่องเล็ก ฉันว่าแม่มลบอกลูกมันเถอะ จะได้รีบผ่าตัดรีบรักษาให้หาย ถ้าปล่อยไว้แล้วเป็นหนักกว่านี้จะแย่เอา ถ้าแม่มลไม่บอกฉันจะบอกเอง” นางอำพรว่าขึ้นเสียงดัง

                “พี่พรก็รู้ว่าค่าผ่าตัดมันถูก ๆ เสียที่ไหน ฉันสร้างหนี้สร้างสินให้ลูกมันเยอะแล้ว ไม่อยากจะเพิ่มภาระให้มันอีก เอาไว้ให้อะไร ๆ ดีขึ้นกว่านี้สักหน่อย ฉันจะบอกกับลูกมันเองนะพี่พร ฉันขอล่ะ” สองมือหยาบกร้านกำมือของคนตรงหน้าอย่างวอนขอ

                “แม่มลก็รู้ว่าอ้อนมันรักแม่มล” นางอำพรว่าอย่างอ่อนใจ

                “ก็เพราะลูกมันรักฉันไง ฉันถึงต้องทำแบบนี้” รู้ว่าอรรัมภารักนาง รู้ว่ายังไงบุตรสาวก็หาค่าผ่าตัดมาให้ท่านได้แน่ๆ เพราะแบบนี้ไงนางถึงไม่อยากบอกอาการป่วยกับลูกและนางละอายแก่ใจเหลือเกิน

                เสียงคนคุยกันในห้องยังคงระดับความดังไม่ต่างจากเดิม แต่สองหูของสาวเจ้ากับอื้ออึงฟังไม่ได้ความ กระบอกตาสองข้างร้อนผ่าว แข้งขาสองข้างอ่อนแรงลงจนต้องหาที่พักพิง มือเรียวอันสั่นเทายกขึ้นมาปิดเสียงสะอื้น อยากจะเข้าไปหาท่านเสียตอนนี้แต่ใจเจ้ากรรมก็ยังไม่กล้าพอ จึงได้แต่เดินเหม่อกลับมายังรถยนต์คันโปรดของตัวเอง แผ่นหลังบอบบางพิงกับเบาะนั่ง สายตายังเหม่อมองออกไปเบื้องหน้าอย่างเหมอลอย

                “มะ…ไม่จริง” ใบหน้าหวานส่ายไปมาช้า ๆ คำพูดของมารดากับคู่สนทนาที่เป็นใครไปไม่ได้นอกจากป้าอำพรยังคงดังก้องในหัว ประโยคที่ท่านบอกว่าไม่ใช่แม่แท้ๆของหล่อน ประโยคที่ป้าพรพูดถึงโรคที่ท่านเป็นอยู่นั้นยังตีวนไปมาอยู่ภายในหัว

                “ฮึก” ร่างบอบบางฟุบหน้าลงกับพวงมาลัยรถ พร้อมกับปล่อยเสียงสะอื้นที่อัดอั้นอยู่ในอกออกมา

                “อ้อน” เสียงเรียกจากคนข้างนอกพร้อมกับเสียงเคาะกระจกรถดังขึ้น เรียกให้คนที่ฟุบหน้าร้องไห้กับพวงมาลัยรถเงยหน้าขึ้นมามอง

    มือเรียวปาดน้ำตาออกจากใบหน้าก่อนจะลดกระจกลงมาหาคนข้างนอก

                “แกมาทำอะไรที่นี่ ไม่สบายเหรอ” เพราะจะจมูกและพวงแก้มของเพื่อนสาวที่ขึ้นสีแดงระเรื่อจึงคิดไปเองว่าเพื่อนสาวอาจจะไม่สบาย ส่วนหล่อนนั้นออกไปซื้อกาแฟร้านประจำมา เห็นรถยนต์ก็จำได้ว่าเป็นของเพื่อนสาว เห็นติดเครื่องไว้แต่ไม่ขับออกไปเสียทีจึงเดินเข้ามาถาม

                “เปล่ามาหาแม่น่ะ แม่แอดมิทเมื่อวาน” คลี่ยิ้มชืดๆบอกเพื่อนไป

                “อ้าวเหรอ! แม่เป็นไรอะ” ดาริกาพลั้งปากถามออกไปไม่ทันคิด

                “ไม่สบายนิดหน่อยน่ะตามประสาคนวัยทอง” เป็นอีกครั้งที่ฝืนคลี่ยิ้มให้คนตรงหน้า ดาริกาเองก็ได้แต่รับและก่นด่าตัวเองในใจที่เสียมารยาทพลั้งปากถามออกไปแบบนั้นถึงจะเป็นเพื่อนสนิทก็ไม่ควร

     

    อัพให้อ่านทุกวันนะคะ เวลา 19.00 น. ค่ะ

    ฝากพี่เจตน์กับหนูอ้อนด้วยน้าา

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×