คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : บทที่2/3 หลานรัก
“พ่อกับแม่คิดมากไปหรือเปล่าคะ ย่ารัศม์อาจจะพาพี่เขามาทานข้าวด้วยเฉย ๆ ก็ได้ พ่อบอกว่าพี่เขาเก่งเรื่องงานไม่ใช่เหรอคะ ย่ารัศมิ์อาจจะอยากอวดหลานก็ได้” หนึ่งนทีพูดตามมุมมองที่เธอคิด แต่ไหนแต่ไรย่าของเวหามักจะอวดเรื่องเวหาให้พ่อกับแม่เธอฟังอยู่บ่อย ๆ ตามประสาคนรักหลาน เธอก็ไม่ได้คิดใส่ใจที่จะเอามันมาคิดขุ่นข้องใจ เพราะเธอก็รักและเคารพเวหาเหมือนพี่ชายคนหนึ่ง เรื่องไหนที่พี่ทำแล้วน่ายินดีเธอก็ยินดีด้วยจากใจจริงอยู่แล้ว
“เดี๋ยวกลับบ้านไปก็ถามป้าเพ็ญเองแล้วกัน ว่าที่ย่ารัศมิ์คุยวันนี้เหมือนกับที่คุยกับย่ากับป้าเพ็ญเมื่อสามสิบกว่าปีที่แล้วหรือเปล่า” คุณทรงพลตอบบุตรสาวด้วยน้ำเสียงติดตลกยามที่คิดถึงเรื่องเมื่อหลายสิบปีที่ผ่านมาที่ครั้งหนึ่งคนที่บุตรสาวเรียกว่าย่ารัศม์ก็เคยทาบทามพี่สาวของเขาให้กับพ่อของเวหากับพสุธาเหมือนกัน หากทางนั้นไม่ทำสาวใช้ในบ้านตั้งท้องเสียก่อนรุ่งอรุณกับเหนือนทีคงจะได้เกี่ยวดองกันตั้งแต่ตอนนั้น
หนึ่งนทียู่หน้าเมื่อมารดาเองก็หัวเราะตามบิดาไปด้วย เธอเองก็เคยได้ยินเรื่องนี้คร่าว ๆ จากปากป้าเพ็ญอยู่เหมือนกัน แต่ไม่รู้ถึงเหตุผลว่าทำไมถึงยกเลิกไป และเธอก็ไม่คิดว่าย่ารัศม์จะเปลี่ยนใจจากเวหามาเป็นพสุธาโดยพลันขนาดนี้ เพราะวันนี้คนที่ย่ารัศมิ์นัดให้มาทานข้าวกับครอบครัวเธอคือยีงเป็นเวหา ส่วนพสุธาคงจะเป็นแค่เรื่องบังเอิญ แต่หากว่าท่านเปลี่ยนเป็นพสุธาจริง ๆ เธอก็จะไม่ยอมแต่งงานถ้าหากเราทั้งคู่ไม่ได้มีใจให้กันและไม่ได้ศึกษาใจกันแน่นอน จริงอยู่ที่เธอปลื้มเขาและมีความรู้สึกดี ๆ ให้เขา แต่เธอคิดว่ามันยังไม่ใช่ความรักที่เกิดจากความรู้สึกของใจจริง ๆ มันเป็นเพียงแค่อาการตื่นเต้นหรือ puppy love ในวัยมัธยมเท่านั้น แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในตอนนี้เธอเองก็ยังใจเต้นแรงและหน้าเห่อร้อนทุกครั้งที่เจอเขา อย่างเช่นวันนี้….
เสียงหัวเราะคุยเล่นกันสามคนพ่อแม่ลูกดังขึ้นช่างเป็นภาพความสุขที่หนึ่งนทีอยากจะกลับมาเห็นทุกครั้งที่ท้อกับการเรียนและการใช้ชีวิตเพียงคนเดียวที่เมืองใหญ่ มันช่างอบอุ่นหัวใจจนเธออยากเก็บช่วงเวลาเหล่านี้ไว้ให้ได้นานที่สุด เธออดทนเรียนให้จบทั้งปริญญาตรีและปริญญาโทที่กรุงเทพฯ อยู่หลายปีทั้ง ๆ ที่ในใจไม่อยากไปเรียนไกลบ้าน ไกลพ่อแม่เลยสักนิด แต่เพื่อนำใบปริญญามาเป็นของขวัญเชิดหน้าชูตาให้พ่อกับแม่เธอจึงอดทนจนมาถึงวันนี้ วันที่เธอจบการศึกษาระดับมหาบัณฑิตและจะกลับมาช่วยงานที่ไร่เต็มตัว
“ว้าย! พ่อ” เสียงอุทานของมารดาดังขึ้นทำให้หนึ่งนทีหลุดจากภวังค์ ไม่ทันได้ตั้งตัว ไม่ทันรับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เสียงโครมและแรงปะทะก็อัดเข้าเต็มเหนี่ยวขนรู้สึกว่ารถที่ตัวเองกำลังนั่งหมุนไปหลายตลบก่อนจะหยุดนิ่งลงพร้อมกับเศษกระจกที่แตกกระจายเกลื่อนพื้นและสภาพภายในที่พังยับเยินจนเธอไม่สามารถรวบรวมสติที่มีอยู่ตอนนี้มาแยกได้ว่าส่วนไหนคืออะไร แต่ภาพบิดากับมารดาที่มือเลือดอาบศีรษะและแน่นิ่งไปต่อหน้าต่อตาทำให้น้ำตาเม็ดร้อนไหลเอ่ออกมาโดยอัตโนมัติ
“พะ…พ่อ มะ…แม่” พยายามเอ่ยเรียกท่านทั้งสองแล้ว แต่ข้างในมันเจ็บจุกจนไม่สามารถเปล่งเสียงออกไปได้ มือเรียวเล็กพยายามที่จะเอื้อมไปหามารดาที่อยู่ใกล้ อีกนิดเดียวเท่านั้นที่มือของเธอจะแตะกับมือมารดา แต่ภาพตรงหน้ากลับดับวูบลงเหลือแต่ความมืดมิดเข้ามาปกคลุมแทนที่
ความคิดเห็น