คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : บทที่3/3 โลกที่โหดร้าย (เพิ่มเนื้อหา)
“กูก็ไม่ได้เป็นคนดีอย่างที่มึงคิดหรอกเมฆ ใครจะเหมาะสมกับใครมันขึ้นอยู่กับน้องมึง ไม่ใช่กู!” พสุธาสวนขึ้น ซึ่งสีหน้าและแววตาของเขาในตอนนี้บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าไม่พอใจและอึดอัดกับเรื่องที่อีกฝ่ายชวนคุยมากแค่ไหน
“อย่างน้อยมึงก็เคยเป็นเพื่อนกู และกูคิดว่ากูก็รู้จักมึงดี” เมธายังคงตั้งใจแน่วแน่ แม้จะรู้ว่าการยกเอาเรื่องนี้มาพูดในสถาณการณ์ที่ทุกคนกำลังโศกเศร้าเสียใจกับการจากไปของผู้กุมบังเหียนใหญ่ของไร่เหนือนทีเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะไม่ควรก็ตาม แต่นี่จะเป็นหนทางเดียวที่จะตัดหนึ่งนทีออกจากกระดานหมากรุกที่เขาวางไว้ได้ ก่อนที่คนอื่น ๆ จะไหวตัวทัน
“สิบปีอะไร ๆ มันก็เปลี่ยน อย่างกูกับมึงยังไม่ได้เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมเลย” พสุธาตอบส่ง ๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เพื่อบอกกลาย ๆ ว่าทุกอย่างมันจบไปแล้วและเขาไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องคุยเรื่องนี้กับมัน
“แววตามึงมันฟ้องดิน” แม้จะได้ยินประโยคที่เมธาว่าตามหลังมาแต่เขาก็ไม่ได้หยุดให้ความสนใจและเลือกที่จะก้าวออกจากร้านไป
นับเป็นคืนที่สามแล้วที่หนึ่งนทีพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล อาการทางกายดีขึ้นแล้วแต่อาการทางใจยังน่าเป็นห่วง แม้จะเริ่มมีสติรับรู้ได้มากกว่าวันแรกแต่ก็ยังคงนิ่งเงียบและเหม่อลอยไม่ต่างจากเดิม เดิมทีหนึ่งนทีต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลสองสัปดาห์แต่คุณเพ็ญพักตร์ที่เห็นท่าทีนิ่งซึมของหลานแล้วก็อดสงสารไม่ได้จึงเข้าไปคุยกับแพทย์เจ้าของไข้เพื่อที่จะขอพาหลานไปร่วมสวดพระอภิธรรมบิดามารดาสักคืน หรืออย่างน้อยที่สุดก็ขอกลับก่อนวันฌาปนกิจเพื่อให้หลานได้ส่งพ่อแม่ครั้งสุดท้าย แพทย์เจ้าของไข้จึงขอให้ดูอาการเบื้องต้นสักสามคืนก่อนหากไม่เป็นอะไรมากแล้วก็สามารถกลับบ้านได้แล้วค่อยมาตามนัดในสัปดาห์ต่อ ๆ ไป
“นอนไม่หลับเหรอ” ไม่รู้ว่านมแจ่มออกไปตั้งแต่ตอนไหนและไม่รู้ว่าคนมาใหม่ที่กำลังยืนกอดอกมองกันเข้ามาตั้งแต่เมื่อไร แต่น้ำเสียงที่เจ้าตัวเอ่ยทักขึ้นก็ดังพอที่จะทำให้คนที่กำลังนั่งเหม่อมองม่านเมฆสีอึมครึมที่ปกคลุมท้องฟ้าแทบจะมองไม่เห็นแสงจันทร์หลุดจากภวังค์
ไม่มีเสียงตอบรับจากคนตัวเล็กบนเตียง มีเพียงแค่ใบหน้าหวานซีดที่มีแผลถลอกและบวมช้ำบางจุดพยักหน้าตอบรับคำถามช้า ๆ
“เฮียไม่รู้จะไปหาดอกสดจากไหน เทียนหอมน่าจะพอแก้ขัดได้” ว่าแล้วก็หยิบกล่องเทียนหอมที่เพิ่งแวะซื้อมาออกจากถุง จัดการจุดและวางไว้บนโต๊ะใกล้ ๆ กับเตียงคนป่วย
“ถ้าหลับไปแล้วไม่ต้องตื่นก็คงจะดีเนอะ” หนึ่งนทีมองไปยังแสงเทียนที่ไหวพลิ้วก่อนที่ริมฝีปากแห้งผากจะเอ่ยประโยคหนึ่งออกมา หลายวันที่ผ่านมานี้นอกจากความรู้สึกหว่าเว้ในใจหนึ่งนทีก็ไม่สามารถสัมผัสความรู้สึกอื่นใดได้อีก โชคชะตาช่างเล่นตลกจะให้หล่อนรอดมาทำไมหากเลือกที่จะพรากพ่อกับแม่ไป คอยตั้งคำถามกับตัวเองซ้ำ ๆ ชีวิตที่ไม่เหลือใคร ไม่เหลือแม้แต่แรงบันดาลใจให้อยากอยู่ต่อ แล้วหล่อนจะอยากมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่ออะไร
“ยังมีคนที่รักน้องสาวเฮียและรอน้องสาวเฮียกลับบ้านอีกเยอะเลยนะ แม้แต่เจ้าไขตุ๋นสามสี่วันมานี้ก็ไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้เลยมันก็คงจะรอเจ้าของมันเหมือนกัน” เมธาเดินเข้าไปวางฝ่ามือลงบนศีรษะของลูกพี่ลูกน้องที่ผูกพันไม่ต่างจากน้องสาวพร้อมกับออกแรงลูบอย่างปลอบประโลมแต่นั่นกลับทำให้น้ำตาเม็ดร้อนที่เพิ่งแห้งไปเอ่อคลอและหยดลงมาอีกครั้ง
“อาพลอาหนิงคงไม่สบายใจถ้ารู้ว่าหนึ่งเป็นแบบนี้ ท่านคงไม่ได้อยากให้หนึ่งตามท่านไปแต่เฮียว่าท่านอยากให้หนึ่งใช้ชีวิตแทนท่านทั้งสองมากกว่า”
“ตอนนี้หนึ่งกำลังเสียใจจิตใจเลยอ่อนไหวไปบ้าง แต่เฮียเชื่อว่าหนึ่งจะสู้กับมันและผ่านมันไปได้ วันนี้ร้องไห้เสียใจให้เต็มที่แต่พรุ่งนี้สัญญากับเฮียได้ไหมว่าจะไม่ร้องไห้ให้พ่อกับแม่เห็น” เมธายังว่าต่อก่อนจะดึงคนที่เริ่มร้องไห้สะอึกสะอื้นอีกครั้งเข้ามากอดปลอบ แววตาอ่อนโยนใที่ใช้มองน้องเมื่อครู่กลับกลายเป็นแข็งกร้าวราวกับไฟสุมในอก แม้ไม่มีหลักฐานยืนยันว่าเป็นการฆาตกรรมแต่เขาก็ยังไม่ปักใจเชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุ ไม่แน่อาจจะมีคนรู้ว่าบิดาของหนึ่งนทีจะเปลี่ยนมือและดันหลังลูกสาวขึ้นมาทำงานต่อพวกมันเลยรีบจัดการเสียแต่ต้นแบบนี้ ซึ่งพวกมันที่เขาคิดในหัวตอนนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเครือญาติกันเองที่จะได้ผลประโยชน์หากอาพลเป็นอะไรไป แม้จะชัดเจนกันมาแต่ต้นว่าไม่นับญาติแต่ก็ไม่คิดว่าจะอำมหิตถึงขั้นฆ่าแกงกันเหมือนผักเหมือนปลาแบบนี้
ความคิดเห็น