คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ทัณฑ์บนที่สอง :: เยี่ยมไข้
ทัณฑ์บนที่สอง :: เยี่ยมไข้
“เชี่ยเพ้นท์ ... คือกูพยายามมาสามวันแล้วแม่ง กับเรื่องยิ้มเหี้ยไรของมึงอะ ! มองหน้าแล้วแม่งทำไม่ได้จริงๆว่ะ” ไนท์เอ่ยปากพูดอย่างหงุดหงิด เมื่อคิดถึงเหตุการณ์สามวันที่ผ่านมา
เขาเองก็พยายามจะยิ้มให้อีกฝ่าย แต่สถานการณ์ไม่เห็นอำนวยสักครั้ง วันนั้นเขาหวังดี เลยซื้อนมมาให้ฝิ่น กะว่าพอมันมาเห็น มันก็คงรู้สึกดีที่เขาซื้อนมมาให้ แต่ก็นั่นแหละ ฝิ่นฉีกกล่องนมแล้วสาดนมใส่หน้าเขา พร้อมกับประโยคสั้นๆได้ใจความว่า ‘เชี่ยเอ๊ย กูไม่แดกนม !’
คราวที่สอง ฝิ่นบอกเขาว่ามาเล่นบอลสานสัมพันธ์กัน เผื่อจะได้สนิทกันมากขึ้น แต่เรื่องก็ไปจบตรงชกต่อยกันอย่างเอาเป็นเอาตาย เพราะไม่รู้ว่าใครกันแน่ที่ทำฟาวล์
คราวที่สาม เขาตั้งใจว่ารอบนี้ยังไงก็ต้องยิ้มให้ได้ ตอนเดินขึ้นบันได เขาเองก็หวังว่าพอหันไปมองหน้า เขาก็จะยิ้มให้ฝิ่น แต่กลับกลายเป็นว่า พอเขาเห็นหน้าแว่นๆของมัน เขาก็ตัดสินใจถีบมันตกบันไดไปเสียอย่างนั้น นอกจากนี้ มันยังทำให้ฝิ่นกระดูกแขนร้าว จนต้องไปนอนโรงบาล
มันก็ดีตรงที่ว่าเขาไม่ต้องตัวติดกันกับฝิ่นไปตลอดทั้งวัน แต่ดันโดนสั่งให้ไปเฝ้าฝิ่นที่โรงบาลทุกๆวันแทน
ไม่อย่างนั้น เขาคงไม่สามารถเปิดอกคุยอะไรแบบนี้กับเพ้นท์ได้หน้าตาเฉยหรอก
“คือ ... กูว่ามันต้องมีทางแหละน่า ... แค่ยิ้มแม่งทำง่ายๆเว้ย แค่เจอของที่ชอบแม่งก็ยิ้มได้แล้ว มึงก็แค่หาของที่แม่งชอบ แล้วเอาไปให้ แม่งง่ายจะตายชัก” เพ้นท์พยายามครุ่นคิดหาวิถีทาง ไนท์พยักหน้ารับน้อยๆ แต่ก็ยังอดค้านไม่ได้
“ของที่แม่งชอบ ... หาง่ายตายห่า เป็นศัตรูกันมาปีกว่ากูแม่งยังไม่รู้เลยเหอะ” ร่างสูงโอดครวญ เมื่อพยายามคิดว่าฝิ่นชอบอะไร แต่คิดหัวระเบิด ก็ยังคิดไม่ออกเสียที เป็นศัตรูกัน เขาก็รู้แต่ว่าอีกฝ่ายเกลียดอะไร กลัวอะไร ก็เท่านั้นเอง
“กูว่ามีคนนึงอะ รู้ชัวร์ว่าฝิ่นแม่งชอบอะไร” เพ้นท์โพล่งขึ้นมา ก่อนจะคิดว่าทำไมตนเองถึงเพิ่งนึกได้ อีกคนเมื่อเห็นดังนั้นก็ขมวดคิ้วแล้วเอ่ยถาม
“ใครวะ ?”
“เบลล์” คำตอบสั้นๆได้ใจความจากเพื่อนสนิททำเอาไนท์ยิ้มกว้าง ร่างสูงรีบดึงแขนเพื่อนซี้ไปห้องสมุด เพื่อไปตามหาหญิงสาวเจ้าของชื่อทันที
“เบลล์ๆ เรากวนอะไรหน่อยดิ ...” ไนท์เอ่ยด้วยน้ำเสียงร้อนรน ทำเอาคนถูกเรียกหันมามองอย่างงุนงง
“หืม ... อะไรหรอ?” เบลล์เอ่ยถามด้วยเสียงหวาน
“เอ่อคือ ... แบบว่า ... ฝิ่นชอบอะไรหรอ ?” ไนท์พูดพลางเกาหัวตัวเองแก้เขิน อยู่ดีๆให้เขาเข้ามาคุยกับเบลล์ เขาเองก็เขินจนแทบม้วนเหมือนกัน
ยิ่งรอยยิ้มหวานๆนั้น ก็ทำให้เขาละลายลงตรงนี้ได้ทุกเมื่อแล้ว
“ฝิ่นหรอคะ ... อืม ฝิ่นชอบขนมหวาน ... ชอบคอมพิวเตอร์ ... ชอบเล่นเกม ...” เบลล์พยายามนั่งไล่สิ่งที่แฟนของตัวเองชอบ ก่อนจะเอ่ยปากถามคนตรงหน้า
“ว่าแต่ไนท์อยากรู้ไปทำไมอะ ?”
“คือ ... คือ ...” คนถูกถามอ้ำอึ้งพูดไม่ออก คนที่มาด้วยจึงตอบให้แทน
“อ่อ คือว่าไนท์มันจะหาของไปเยี่ยมฝิ่นเพื่อขอโทษที่มันผลักฝิ่นตกบันได มันก็ไม่รู้จะซื้ออะไรให้ดีไง กลัวซื้อไปแล้วมันไม่ชอบ อย่างวันนั้น ไนท์มันซื้อนมไปให้ โดนสาดหน้ากลับมาทันทีเลยอะ” เพ้นท์ตอบด้วยน้ำเสียงที่คิดว่าเป็นธรรมชาติที่สุด เพื่อไม่ให้คนที่คุยด้วยสงสัย เบลล์แม้แต่ติดใจอยู่เล็กๆ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะเหตุผลที่เพ้นท์อ้างมานั่นก็สมเหตุสมผลอยู่
“ฮะๆ ฝิ่นไม่ชอบให้ใครให้นมอะ มันเหมือนไปดูถูกกันว่าเตี้ย ฝิ่นบอกอย่างนั้นนะ ... คราวหลังไนท์ก็อย่าเอาไปให้อีกแล้วกัน ... ส่วนเรื่องของเยี่ยมไข้ ...” เบลล์กลอกตาไปมาอย่างครุ่นคิด พลางพยายามคิดหาของที่เหมาะสมที่สุดเพื่อไปเยี่ยมไข้
“อ๋อ ... เราว่าถ้าเอาดอกทานตะวันไปเยี่ยม ฝิ่นจะดีใจมากนะ ...”
“ดอกไม้เนี่ยนะ !?” คนฟังทั้งสองอุทานอย่างตกใจ เพราะคาดไม่ถึงว่าคนอย่างฝิ่นจะชอบดอกไม้มากขนาดนั้น แต่การพยักหน้ายืนยันของเบลล์ก็ทำให้ทั้งสองต้องเชื่อแม้ว่าในใจจะต่อต้านแค่ไหนก็ตาม
“อื้อ ฝิ่นน่ะชอบดอกทานตะวันมากเลยนะ ถ้าไนท์ซื้อไปให้ ฝิ่นต้องดีใจมากแน่ๆ”
“โอเค ขอบคุณมากๆนะเบลล์ วันหลังจะมาใช้บริการใหม่ ... ไปกันไนท์” เพ้นท์เมื่อได้คำตอบ ก็ฉุดแขนเพื่อนรักไปยังร้านขายดอกไม้หน้าโรงเรียนทันที โดยไม่สนใจว่าไนท์จะทำสีหน้าเสียดายเช่นไร
“มึงจะรีบอะไรนักหนาวะ นานๆแม่งจะได้คุยกับเบลล์ที !”
“อ๋อ เสียดายว่างั้น ? งั้นถ้าเจ๊อสรพิษนั่นไปถึงที่โรงพยาบาลก่อนมึง มึงจะทำยังไงล่ะ” ชายหนุ่มกระตุกยิ้ม คนฟังเมื่อได้ยินฉายาของอาจารย์ฝ่ายปกครองก็รู้สึกร้อนๆหนาวๆขึ้นมาทันที จึงจำใจเดินตามเพื่อนรักเข้าร้านโดยไม่บ่นอะไรอีก
“ขอโทษนะครับ มีดอกทานตะวันไหมครับ ?”
“อ่า ... ขอโทษด้วยนะคะ แต่ร้านเราไม่ได้รับดอกทานตะวันมาขาย ขอโทษจริงๆนะคะ ลองเดินไปร้านอื่นดูสิคะ อยู่ใกล้แค่นี้เอง” พนักงานสาวเอ่ยขอโทษขอโพย เพ้นท์ยิ้มบางๆแล้วกล่าวขอบคุณ ก่อนจะเดินไปร้านที่ห่างออกไปราวๆสามช่วงตึก
ชายหนุ่มเดินเข้าร้าน ก่อนจะเอ่ยปากถามด้วยประโยคเดิม
“ขอโทษนะครับ มีดอกทานตะวันไหมครับ ?”
“ขอโทษนะคะ แต่ร้านเราไม่มีดอกทานตะวันจริงๆค่ะ ลองเดินไปร้านอื่นดูนะคะ” พนักงานขายตอบกลับมาด้วยประโยคคล้ายๆกับร้านแรก เพ้นท์พยักหน้าน้อยๆ แล้วตัดสินใจเดินหาร้านต่อไป
กว่าครึ่งค่อนชั่วโมง ที่เพ้นท์และไนท์ได้มาเดินหาซื้อดอกทานตะวัน แต่ทว่ากลับไม่มีร้านไหนขายเลยแม้แต่น้อย ไนท์โอดครวญด้วยความเบื่อเต็มทน
“แม่งถามร้านไหนๆแม่งก็ไม่มี แล้วงี้กูจะไปหาที่ไหนวะแม่ง ... เดินมาเป็นกิโลแล้วสัดเอ๊ย ปวดขาตายชัก ...”
“เอ่อน่า ดูอีกสักร้านสองร้านเป็นไรวะมึง ...” เพ้นท์พูดอย่างมีความหวัง แต่คนที่ขี้เกียจเดินหาของไร้สาระอย่างไนท์กลับไม่ได้รู้สึกดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย เพ้นท์จึงต้องยอมตัดความหวังตัวเองทิ้งไป
“ร้านสุดท้าย กูสัญญา ...”
“ร้านสุดท้ายก็ร้านสุดท้าย ... มึงห้ามผิดคำพูดนะเว้ย” ไนท์พูดแล้วผลักประตูเข้าไปในร้าน แต่ก็ต้องเดินออกมาด้วยสีหน้าหมดหวัง เพราะคำพูดสั้นๆของพนักงานในร้าน
“ขอโทษจริงๆนะคะ แต่ร้านเราไม่มีดอกไม้เหลือแล้วค่ะ”
“เอาไงมึง ? ตะกร้าแบรนด์สักตะกร้า ? หรือจะไปหาซื้อขนมไปเยี่ยม ...” เพ้นท์เสนอความเห็น ไนท์ส่ายหน้าไปมาแล้วทิ้งตัวลงนั่งหน้าร้านด้วยความเหนื่อยอ่อน
“กูก็ไม่รู้ว่ะ ...” ไนท์พูดแล้วฟุบหน้าลงกับเข่า พอดีกับที่เสียงหนึ่งดังขึ้น
... ทำไมน่ารักขนาดนั้น เธอหลุดจากฝันมาหรือไง ~
“เฮ้ยๆ โทรศัพท์มึงอะ” เพ้นท์สะกิดเรียกคนข้างตัว คนถูกสะกิดอึ้งไปเล็กน้อย ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมาดู
“เช็ด ! เบลล์โทรมาเว้ยมึง ! เบลล์โทรมา !” คนที่นั่งซึมเมื่อครู่ร่าเริงอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะกดรับโทรศัพท์ด้วยความดีใจสุดชีวิต แล้วพยายามดัดเสียงให้หล่อที่สุดกรอกลงโทรศัพท์ไป
“สวัสดีครับ ไนท์พูดสายครับ” ชายหนุ่มเอ่ยอย่างสุภาพผิดกับนิสัย คนที่นั่งข้างๆหันไปมองด้วยสีหน้าพะอืดพะอมกับคำพูดที่ไม่เคยออกมาจากปากเพื่อนสนิท
“ตอนนี้ไนท์หาซื้อดอกทานตะวันได้หรือยังคะ ...” เสียงหวานจากปลายสายเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
“ยังเลยครับ ไม่มีร้านไหนขายเลย เรายังไม่รู้ว่าจะไปหาต่อที่ไหนแล้วเนี่ย” ไนท์แกล้งทำเสียงน่าสงสาร ทั้งที่ในใจจริงๆก็ไม่ได้ท้อแท้ใจกับการหาดอกทานตะวันขนาดนั้นหรอก เขาแค่ขี้เกียจเดินมากกว่า เสียงของเบลล์เงียบไปสักพัก ก่อนที่หญิงสาวจะเอ่ยถาม
“แล้วตอนนี้ไนท์อยู่ไหนคะ ?”
“เอ่อ ... อยู่หน้าร้าน บิวตี้ ฟลอริสท์ครับ ที่ป้ายหน้าร้านเป็นสีเขียวๆอะครับ” ไนท์หันหน้าไปมองร้านแล้วตอบหญิงสาวตามความจริงไป เบลล์พูดกลับมาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“งั้นไนท์ยื่นโทรศัพท์ไปให้พนักงานร้านคุยทีนะคะ” ชายหนุ่มแม้จะไม่ค่อยเข้าใจ แต่ก็ยอมทำตามที่หญิงสาวพูดแต่โดยดี คนในร้านรับโทรศัพท์ไปคุยเพียงไม่กี่คำ ก็ยื่นโทรศัพท์ที่วางสายแล้วกลับมา พร้อมกับคำพูดที่คนฟังทั้งสองไม่ค่อยเข้าใจความหมายเท่าไหร่นัก
“รอสักครู่นะคะ”
พนักงานสาวหายไปหลังร้าน ก่อนจะเดินออกมาพร้อมกับดอกทานตะวันดอกโตผูกโบว์สีขาว แล้วยื่นดอกไม้นั้นให้กับไนท์ที่ยังคงยืนอึ้งอยู่
“สามร้อยบาทค่ะ”
“คะ .. ครับๆ” ไนท์ยืนอึ้งไปพักหนึ่ง แล้วยื่นเงินให้กับพนักงานในร้าน ก่อนจะรับดอกทานตะวันมาถือด้วยความระมัดระวัง
“ไหนแม่งบอกว่าดอกไม้หมดแล้ว ... ทำไมเบลล์ซื้อได้วะ ?”
“นั่นสิ กูก็งงเหมือนกัน ... แต่ก็ช่างแม่ง รีบไปเหอะ เดี๋ยวไม่ทันว่ะ !” ไนท์พูดอย่างกระตือรือร้น แล้วรีบคว้าแขนเพ้นท์ขึ้นรถแท็กซี่ ทันทีที่มองนาฬิกา แล้วบอกจุดหมายปลายทางแก่คนขับแท็กซี่อย่างรีบร้อน
“ไปโรงบาลภัทรปวงชนครับ อย่างเร็วที่สุดเลยนะครับ ผมรีบมาก”
อีกเพียงสิบห้านาที ... เขากำลังจะไปเยี่ยมฝิ่นไม่ทันเวลาที่อาจารย์เจ๊นั่นกำหนดมา ...
เมื่อถึงที่หมายปลายทาง ไนท์ยัดธนบัตรสีแดงใส่มือคนขับ พร้อมกับบอกว่าไม่ต้องทอน ร่างสูงรีบเดินไปที่ลิฟต์แล้วกดขึ้นไปยังชั้นสิบเอ็ด
“รีบร้อนอะไรนักหนาวะมึง ...” เพ้นท์ที่เห็นอาการแบบนั้นของเพื่อนสนิทก็ตกใจไม่น้อย ในเวลานี้ไนท์ลนลานราวกับเพิ่งหนีความผิดมา แต่เมื่อได้ยินคำตอบของเพื่อนรัก ก็สามารถเข้าใจเหตุผลได้ในทันที
“ไม่รีบก็เหี้ยแล้ว อีกสองนาที กูจะไปไม่ทัน ...”
ปัง !
ร่างสูงถีบประตูห้องพักผู้ป่วยเสียงดัง คนที่อยู่บนเตียงหันมามองตามเสียงอย่างงุนงง ไนท์ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อพบว่าในห้องนั้นไม่มีอาจารย์ฝ่ายปกครองสุดโหดนั่งอยู่
คนที่ร้อนรนอยู่เมื่อครู่ใจเย็นลงอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะค่อยๆเดินเข้าไปหาบุคคลที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคู่อริช้าๆ
“นั่นใครน่ะ ?” ฝิ่นพูดขึ้นมา พลางพยายามหรี่ตามองว่าคนที่เพิ่งก้าวเข้ามาคือใคร เนื่องจากเวลานี้เขาไม่ได้สวมแว่นอยู่ มือบางควานหาแว่นตาของตนบนโต๊ะข้างเตียง แต่กลับกลายเป็นว่าเขาทำแว่นหล่นจากโต๊ะเสียอย่างนั้น
“ไม่ต้อง เดี๋ยวกูเก็บให้” ไนท์พูดแล้วดันตัวของคนที่กำลังจะตะกายลงจากเตียงมาเก็บแว่นให้กลับไปนอนที่เดิม ฝิ่นขยับกลับไปนั่งบนเตียงอย่างว่าง่าย มือบางรับแว่นตาจากร่างสูงมาสวมใส่
ภาพเบลอๆตรงหน้าถูกปรับให้ชัดขึ้น ร่างบางดูตื่นเต้นไม่น้อยเมื่อเห็นสิ่งของในมือของร่างสูง
“ดอกทานตะวันนั่น ??”
“อ่อ นี่หรอ ... กูเอามาให้มึง ...” ไนท์ตอบห้วนๆแล้วยื่นดอกไม้สีเหลืองสดใสในมือให้
เมื่อได้ดอกไม้มาไว้กับตัวแล้ว ฝิ่นแทบจะลืมว่าคนตรงหน้าเคยเป็นศัตรูกับเขามาก่อน ใบหน้าหวานยิ้มออกมาอย่างดีใจ แล้วเอ่ยขอบคุณคนตรงหน้าไปหลายครั้ง
ไนท์เองที่พยายามปั้นหน้านิ่ง ก็เผลอยิ้มกับท่าทางน่ารักๆของคนที่ถือดอกไม้อยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
... แล้วนั่นก็เป็นครั้งแรกที่ไนท์รู้สึกว่าท้องฟ้าวันนั้นสดใสขึ้นกว่าเดิม
=============================================================
มาต่อแบบเมาๆ เปลี่ยนตัวหนังสือเป็นสีเทา มันช่วยให้อ่านง่ายขึ้นไหมครับ ??
ุ่ถ้ามันโอเค คราวหน้าผมก็จะได้ใช้สีนี้แหละ U U
ความคิดเห็น