ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [fic saint seiya] I think I hate you (Deathmask X Aphrodite)

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 2 :: การแก้แค้นของเดธมาสก์

    • อัปเดตล่าสุด 30 มี.ค. 55



      Ha.ha 

    ".. ฉันทำแบบนี้ แล้วมันจะไม่เป็นไรจริงๆหรอ" เสียงหวานคุ้นหูที่เดธมาสก์จำได้ดีเสียยิ่งกว่าใครดังแว่วเข้ามาในโสตประสาท ชายหนุ่มหันมองไปรอบๆกาย แต่ก็ไม่พบใครอยู่ในบริเวณนั้นเลยแม้แต่คนเดียว ร่างสูงคิดว่าบางทีเขาอาจจะสติเลอะเลือนจนได้ยินเสียงหลอนไปเองก็ได้




    "ไม่ต้องห่วงไปหรอกนะอะโฟรดิเต้ เรื่องนี้จะไม่มีทางถึงหูคนๆนั้นอย่างแน่นอน เชื่อใจกันได้เลย"


    "ขอบใจมากนะมู ฉันรักนายที่สุดเลย .." คำเรียกชื่ออีกฝ่ายในบทสนทนา ทำให้เดธมาสก์ไม่ต้องสงสัยว่าสองคนที่คุยกันอยู่เป็นใคร บทสนทนาที่ได้ยินทำให้คนฟังตีความได้ว่าทั้งสองกำลังพยายามทำอะไรหลบๆซ่อนๆกันอยู่ เมื่อคิดได้ดังนั้น ชายหนุ่มร่างสูงก็ขยี้หัวตัวเองอย่างอารมณ์เสีย แล้วตัดสินใจเดินเข้าไปแอบดูเหตุการณ์ระหว่างคนทั้งสอง มือหนาแหวกกิ่งไม้ที่ขวางตาออกไป แล้วมองตรงไปที่ร่างสองร่างที่ยืนอยู่


    ภาพที่ปรากฏแก่สายตา ทำเอาเซนต์ราศีกรกฏกำหมัดเข้าหากันแน่น อะโฟรดิเต้ดึงตัวร่างบางเข้าไปกอดแนบอก พร้อมกับกระซิบอะไรบางอย่างข้างหูอีกฝ่าย คำพูดนั้นทำให้ใบหน้าหวานๆของมูขึ้นสีระเรื่อ เมื่อได้เห็นดังนั้น เส้นความอดทนของเดธมาสก์ก็ขาดผึงในทันที


    กว่าที่ร่างสูงจะรู้ตัว ขาทั้งสองก็พาเขาไปหยุดยืนอยู่ตรงหน้าคู่อริตลอดกาลของเขาเสียแล้ว


    "นายทำแบบนี้ไปได้ยังไงกันอะโฟรดิเต้ ไม่รู้หรือยังไงว่ามูกับชากะเขารักกันอยู่ !!" เดธมาสก์ตวาดเสียงดังลั่น คนฟังทั้งสองผละออกจากกันแทบจะทันที สีหน้าของชายหนุ่มผมสีฟ้าดูตกใจเล็กน้อย นัยน์ตาคู่สวยไหววูบ แต่เพียงชั่วพริบตา สีหน้าตื่นตระหนกก็หายไปจากใบหน้าหวานเสียแล้ว กลับกลายเป็นสายตาเย่อหยิ่ง กับท่าทางถือดีที่ร่างสูงได้เห็นจนชินตา


    มูเดินเข้าไปเกาะแขนอะโฟรดิเต้ นัยน์ตาคู่หวานช้อนขึ้นมองใบหน้าของเดธมาสก์ด้วยแววตาสั่นๆ ชายหนุ่มร่างสูงเมื่อเห็นดังนั้นก็หันมาตวาดอีกคนด้วยความโมโห


    "นายเองก็ด้วยมู นายรักอยู่กับชากะไม่ใช่หรือยังไง แล้วทำไมถึงได้ทำตัวแบบนี้ ถ้าชากะรู้ขึ้นมาจะเสียใจแค่ไหน ที่นายมาเที่ยวร่านกับคนอื่นที่ไม่ใช่แฟนตัวเองแบบนี้ !!" เสียงทุ้มเอ่ยออกมาด้วยคำพูดที่ทำให้ชายหนุ่มผมชมพูน้ำตาแทบไหล มูก้มหน้าลงเพื่อซ่อนความเสียใจ


    "คนอย่างนายไม่มีสิทธิ์มาว่ามูแบบนั้น !!" อะโฟรดิเต้เมื่อได้ยินอีกฝ่ายพูดกับคนข้างตัวของตนเองแบบนั้นก็สวนกลับไปในทันที มือข้างที่ว่างอยู่ก็ยกขึ้นกระชากคอเสื้อของร่างสูงอย่างไม่พอใจ ก่อนจะดึงมืออีกข้างที่มูเกาะอยู่ขึ้นมาหวังจะชกคนตรงหน้าไปสักสองสามหมัด แต่แขนของมูที่รั้งเอาไว้ ก็ทำให้อะโฟรดิเต้ต้องคลายมือที่กำแน่นออกจากกันทันที


    นัยน์ตาสองคู่สบประสานกันอย่างไม่มีใครยอมใคร ก่อนจะตามมาด้วยสงครามประสาทที่ทำให้มูอยากวิ่งหนีออกจากตรงนั้นให้เร็วที่สุด แต่ทว่ามือของคนข้างกายกลับรั้งเอวเขาเอาไว้ไม่ให้ไปไหน มูถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายเมื่อเห็นว่าทั้งสองฝ่ายดูจะไม่ยอมจบกับเรื่องนี้ง่ายๆ ก่อนจะคิดได้ว่าตัวเองควรพูดอะไรขึ้นมาบ้าง เพื่อให้ทั้งคู่หยุดเสียที


    "คือว่าฉันกับอะโฟรดิเต้ ..." เสียงหวานเอ่ยออกมาได้เพียงแค่นั้น ริมฝีปากของมูก็ถูกปิดทับด้วยมือของชายหนุ่มผมฟ้า อะโฟรดิเต้เชิดใบหน้าขึ้น ก่อนจะเอ่ยปากพูดด้วยน้ำเสียงถือดี


    "แล้วเรื่องนี้มันเกี่ยวกับนายยังไงหรอเดธมาสก์ .. อ๋อ นายคงจะอยากทำตัวเป็นพ่อพระที่แสนดี ช่วยเหลือคนอื่นไปทั่วเพื่อยกฐานะของตัวเองให้สูงขึ้นมาสินะ เสียใจด้วยที่ฉันไม่เห็นว่าคนอย่างนายจะมีค่าอะไรมากไปกว่าเศษขยะชิ้นหนึ่งที่ถูกทิ้งเอาไว้ริมทางเลย" ชายหนุ่มร่างบางเอ่ยออกมาพร้อมกับสายตาจิกกัด 
    คนฟังแทบจะถลาเข้าไปชกหน้าอีกฝ่ายด้วยความโมโห ถ้าเกิดว่ามือข้างหนึ่งของมูไม่ห้ามเขาเอาไว้เสียก่อน


    "ถึงมันไม่เกี่ยวกับฉัน มันก็เกี่ยวกับชากะ .. ฉันคงไม่ยอมให้คนที่ไม่สนใจใครนอกจากตัวเองอย่างนาย มาแย่งมูไปจากคนดีๆแบบนั้นหรอก แค่ว่าความรักคืออะไร นายยังไม่เข้าใจด้วยซ้ำไป" ร่างสูงตอบกลับมาด้วยคำพูดรุนแรงไม่แพ้กัน ก่อนจะมองตรงไปที่ร่างบางอย่างไม่กลัวเกรง


    เพียงเสี้ยววินาที เดธมาสก์รู้สึกว่าใบหน้าหวานๆนั้นหมองลง นัยน์ตาสีฟ้าที่เคยมองมาที่เขาราวกับเกลียดชังกันนักหนา กลับมองมาด้วยแววตาเศร้าโศเสียใจ แม้แต่ท่าทีที่อวดดี ก็หายไปหมดสิ้น


    เขาคิดว่าเขาอาจจะตาฝาด ..


    "เดธมาสก์ ทำไมนายไปว่าอะโฟรดิเต้เขาแบบนั้นล่ะ ไม่รู้เลยหรือไงว่าอะโฟรดิเต้น่ะ .." มูทำท่าจะอธิบาย หวังจะให้ทั้งสองใจเย็นลง แต่อะโฟรดิเต้กลับมองค้อนมาเป็นเชิงห้าม ร่างบางจึงต้องปิดปากเงียบในทันที


    "ฉันจะบอกอะไรนายไว้อย่างนึงนะ เพื่อให้คนที่ฉันรักยังอยู่ข้างๆฉันแล้ว ต่อให้เป็นชากะหรือใครหน้าไหน ฉันก็ไม่สนใจทั้งนั้น !!" เสียงหวานเอ่ยด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว แล้วมองตรงมาที่เดธมาสก์ด้วยแววตาจริงจังเกินกว่าครั้งไหนๆ ร่างสูงเมื่อได้ยินคำประกาศกร้าวดังนั้นก็ถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะเอ่ยถามกลับไป


    "ต่อให้ต้องทำลายชีวิตทั้งชีวิตของคนบางคน นายก็จะทำอย่างนั้นหรอ ?"


    ร่างบางนิ่งไปพักหนึ่งหลังจากได้ยินประโยคนั้น นัยน์ตาสีฟ้าคู่สวยหันไปมองมูด้วยแววตาที่เดธมาสก์ไม่เข้าใจความหมาย ชายหนุ่มราศีมีนมีสีหน้าลำบากใจอย่างเห็นได้ชัดกับคำพูดที่ได้ยิน แต่ก็ยังคงตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงจริงจังเหมือนเช่นเคย


    "ถ้าเพื่อให้คนที่ฉันรักยังอยู่ข้างๆฉันแล้ว ต่อให้ถูกตราหน้าว่าเลวแค่ไหน ฉันก็ยังจะทำ .." อะโฟรดิเต้เอ่ยแล้วดึงตัวมูให้เข้ามาชิด ก่อนจะหันไปยิ้มให้มูด้วยรอยยิ้มที่หวานหยาดเยิ้ม ท่าทางของชายหนุ่มผมฟ้าที่แสดงออกว่าชอบอีกฝ่ายอย่างชัดเจน ทำให้คนมองอยากจะเข้าไปกระชากทั้งสองให้แยกออกจากกัน


    คำพูดที่เอื้อนเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงถือดี ท่าทีที่ไม่ใส่ใจใครของอะโฟรดิเต้ยังคงดังก้องซ้ำไปซ้ำมาอยู่ในโสตประสาทของร่างสูง ความโกรธที่เพียรพยายามระงับเอาไว้ในจิตใจพลุ่งพล่านขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ ยิ่งเห็นสายตาดูถูกที่มองตรงมา ยิ่งอยากจะบดขยี้อีกฝ่ายให้แหลกคามือ


    ".. เพื่อความรักของมูกับชากะแล้ว ต่อให้ฉันถูกตราหน้าว่าเลวแค่ไหน ฉันก็จะทำเหมือนกัน ระวังตัวเอาไว้ให้ดีล่ะ พิซเซส อะโฟรดิเต้" ร่างสูงทิ้งท้ายเอาไว้แค่นั้น ก่อนจะเดินจากไปพร้อมกับสีหน้าตื่นตระหนกของเซนต์ราศีมีน


    แม้จะผ่านมานานร่วมสามชั่วโมงแล้ว ร่างบางก็ยังไม่สามารถทำใจให้สงบกับคำขู่ของเดธมาสก์ได้เลย นัยน์ตาโกรธแค้นที่มองมา กับน้ำเสียงจริงจังที่อะโฟรดิเต้แทบไม่เคยได้ยินจากปากของคนที่เฮฮาตลอดเวลาอย่างเดธมาสก์ ทำให้ชายหนุ่มหน้าหวานรู้ว่าผู้ชายคนนั้นเอาจริงกับสิ่งที่พูดออกมาแค่ไหน


    อะโฟรดิเต้รู้สึกกลัวจับใจ ยิ่งไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะทำอะไรกับตนแล้ว ยิ่งทำให้ต้องคิดมากขึ้นเป็นทวีคูณ แม้ว่ามูจะเดินเข้ามาปลอบแล้วพยายามคะยั้นคะยอให้เขาออกไปเดินเล่นนอกปราสาท เผื่อว่าดอกกุหลาบสวยๆจะทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง แต่เขาก็ปฏิเสธไป เพราะไม่กล้าออกไปข้างนอก แม้ว่านั่นจะเป็นแค่การเดินเล่นในสวนหลังปราสาทตัวเองก็ตาม


    "ถ้าท่านอาเธน่าช่วยให้รอดพ้นคืนนี้ไปได้ จะเอากุหลาบร้อยดอกไปเซ่นถึงที่เลย .." ร่างบางเอ่ยพึมพำกับตัวเองเบาๆ ถึงแม้ว่าจะรู้ดีว่าคำขอนั้น เทพีอาเธน่าไม่มีทางได้ยินแน่ หรือถึงได้ยิน ก็คงไม่สามารถช่วยอะไรเขาได้อยู่ดี หลังจากที่ภาวนากับเทพีอาเธน่าไปได้เพียงชั่วครู่ ชายหนุ่มก็รู้สึกได้ถึงสัมผัสแปลกๆ


    มาแล้วอย่างนั้นหรอ ..


    เซนต์ราศีมีนรู้สึกได้ถึงพลังคอสโม่ที่คุ้นเคยจากด้านหน้าปราสาท จิตสังหารที่แผ่ซ่านออกมาจากความโกรธแค้น ทำให้อะโฟรดิเต้สามารถรับรู้ตัวตนของบุคคลที่กำลังจะเข้ามาในปราสาท โดยไม่ต้องเดินออกไปดูว่าเป็นใคร


    จะมีใครที่มีความต้องการฆ่าเขามากไปกว่าผู้ชายคนนั้น .. แคนเซอร์ เดธมาสก์


    มือบางกำเข้าหากันแน่นทันทีที่สัมผัสได้ถึงพลังคอสโม่ของคนที่มาใหม่ ใบหน้าหวานซีดลงเล็กน้อย ร่างบางรู้สึกว่าขาอ่อนแรงราวกับจะยืนไม่อยู่ เขายกมือขึ้นมาปาดเหงื่อที่ไหลลงมาตามใบหน้าออกอย่างลวกๆ แล้วสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะทำใจดีสู้เสือเดินตรงไปหน้าปราสาทในทันที


    "ว่ายังไงล่ะ ถ่อขึ้นมาถึงปราสาทปลาคู่ได้แล้วหรอ ปล่อยให้ฉันรอนานเลยนะเนี่ย ก็แน่ล่ะ คนที่อยู่วิหารล่างๆอย่างนาย กว่าจะเดินขึ้นมาถึงนี่ก็คงลำบากน่าดู ช่วยไม่ได้ล่ะนะ ก็นายมันคนชั้นล่าง เอ้ย นายอยู่วิหารล่างๆนี่เนอะ .." อะโฟรดิเต้เอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยทันทีที่เห็นคนที่เดินเข้ามา ริมฝีปาบางกระตุกยิ้มมุมปากอย่างผู้ชนะ แม้ว่าในใจจะไม่ได้รู้สึกแบบนั้นก็ตาม


    "หึ .. ปากเก่งให้ได้ตลอดเถอะนายน่ะ" เดธมาสก์สวนกลับมาด้วยสีหน้าเรียบเฉยแบบที่ร่างบางไม่เคยเห็น แววตาสนุกสนานกลับว่างเปล่า มีแต่จิตสังหารที่แผ่ออกมาเท่านั้นที่จะบ่งบอกความรู้สึกของเขาได้ เซนต์ราศีมีนพยายามฝืนยิ้มเมื่อเห็นท่าทีที่แปลกไปของเดธมาสก์ อะโฟรดิเต้อยากจะวิ่งหนี แต่ขากลับไม่มีเรี่ยวแรงมากพอที่จะก้าวเดินด้วยซ้ำไป


    "นะ .. นายจะทำอะไรฉัน" เสียงหวานเริ่มพูดอย่างตะกุกตะกัก ใบหน้าหวานซีดเซียวจนไร้สี เดธมาสก์ไม่ตอบอะไร ทำเพียงเดินตรงเข้าไปหาร่างบาง อะโฟรดิเต้พยายามเดินก้าวถอยหลังเพื่อให้พ้นจากชายหนุ่มร่างสูง แต่ขาที่ไร้เรี่ยวแรง ก็ทำให้ร่างบางสะดุดล้มลงกับพื้นจนได้


    ร่างสูงยกยิ้มอย่างพอใจเมื่อเห็นใบหน้าตื่นตระหนกของอีกฝ่าย พิซเซส อะโฟรดิเต้ที่แสนเย่อหยิ่ง ในตอนนี้กลับกลายเป็นเพียงลูกไก่ในกำมือที่เขาจะทำอะไรก็ได้ ใบหน้าหวานฉายแววความกลัวออกมาอย่างเห็นได้ชัด


    "ปล่อยฉันไปเถอะนะ .. นะเดธมาสก์" ชายหนุ่มผมสีฟ้าพยายามอ้อนวอนด้วยเสียงหวาน นัยน์ตาสีฟ้าสวยมองช้อนขึ้นอย่างขอความเห็นใจ แต่ทว่าการร้องขอของร่างบางกลับไม่ได้มีผลอะไรเลยกับร่างสูง เดธมาสก์ยังคงมองตรงมาด้วยสายตาอาฆาตแค้นเหมือนอย่างเคย


    "ทำอะไรไว้ก็ต้องชดใช้ .. ฉันจะทำให้นายได้รู้สึกถึงความเจ็บปวดทรมาณจนนายไม่อยากจะมีชีวิตอยู่เลยล่ะ"
    

    ===================================================

    จบไปอีกตอนด้วยความทุลักทุเล .. แอบสงสารตี้นิดนึง 55'

    อ่านแล้วก็ช่วยๆกันเม้นด้วยนะครับ > <'

    ** 30/3/55 เข้ามาแก้ฟอร์แมทครับ _ _''



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×