ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SF/OS] NCT Red Thread ❤ All Couple

    ลำดับตอนที่ #3 : SF : If only (Haechan x Mark) Part I

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.01K
      33
      3 พ.ค. 61

    Title: If only (Part I)
    Pairing: Haechan x Mark
    Rate: PG-15
    Author: raining-sahara
    *Omegaverse

    ---------------------------------------------------------------------------------------------------




    ดงฮยอกเกลียดอะไรก็ตามที่กำหนดเพศรองขึ้นมาบนโลกนี้ เกลียดการฮีทของโอเมก้า เกลียดการที่อัลฟ่าตอบสนองต่อฟีโรโมนนั้น เกลียดที่โลกนี้มีการผูกพันธะ เกลียดใครก็ตามที่กำหนดให้อัลฟ่าคู่กับโอเมก้า เกลียดที่ตำนานโซลเมทเคยเกิดขึ้นจริง


    .. เกลียดโชคชะตาที่กำหนดให้ตัวเขาเองเป็นแค่เบต้าธรรมดาๆ


    "ชาติไหนจะเลิกนอยด์กับเรื่องไร้สาระพวกนี้เนี่ย นี่มันก็ยุคไหนแล้ว อัลฟ่าใช่ว่าจะต้องคู่กับโอเมก้าสักหน่อย .." กลิ่นหวานจางๆที่ลอยมาตามลม น้ำเสียงคุ้นหูพร้อมกับสัมผัสหนักๆที่บ่าทำให้ดงฮยอกรับรู้ได้ไม่ยากว่าคนที่เพิ่งนั่งลงข้างๆเขาคือใคร เขาได้แต่ฝืนหัวเราะในลำคอพลางก้มมองหน้าหนังสือในมือที่อ่านมานับครั้งไม่ถ้วนด้วยสายตาเลื่อนลอย


    "มันก็ใช่ .. แต่สักวันเขาก็ต้องเจอโอเมก้าของเขาใช่มั้ยล่ะ โซลเมทอะไรนั่น" เขาเอ่ยตอบกลับเพื่อนสนิทด้วยริมฝีปากแห้งผาก เสียงที่เอ่ยออกมาแหบแห้งจนแทบไม่ได้ยิน ก่อนจะละสายตาจากหนังสือที่อ่านอยู่ไปหยุดที่ชั้นเจ็ดของตึกทรงสูงที่มีใครคนที่เขาชอบอยู่ที่นั่น


    เพียงแค่มองหน้าต่างห้องกรรมการนักเรียนดงฮยอกก็รู้สึกปวดใจไปหมด ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกเหมือนน้ำตาจะไหลออกมาอยู่รอมร่อ ถ้าไม่ติดว่าเพื่อนสนิทตัวดีของเขาพูดอะไรที่ขัดอารมณ์ขึ้นมาเสียก่อน


    "ความเชื่อไร้สาระ โซลเมทมันมีแต่ในนิยายรักหวานแหววที่พวกผู้หญิงชอบอ่านทั้งนั้นแหละ นี่ญาติฉันที่เป็นเบต้าก็คบกับอัลฟ่านะ แต่งงานกันมีความสุขดีด้วย .. เออ ใช่ แต่นายคงต้องเทิร์นรับอะดงฮยอก อันที่ิจริงนายก็ตัวเล็กกว่าเขาอยู่แล้วเรื่องแค่นี้ไม่น่าใช่ปัญหา"


    ฟีลลิ่งที่ดราม่ามาร่วมชั่วโมงนี่ดับมอดเหมือนไฟที่โดนน้ำสาด


    .. อิหมวย อิเลว มาพูดเรื่องเทิร์นรับอะไรกันตอนนี้ ! แล้วก็ย้ำกันจังเรื่องขนาดตัวเนี่ย ส่วนสูงมันไม่มีผล ต้องให้ตะโกนอีกกี่รอบว่ามันไม่มีผลว้อย !


    "นายจะโดนฉันฆ่าหมกป่าเข้าให้สักวัน .. ใครเขาจะไปเคยคิดเรื่องอะไรแบบนั้นกับคนดีๆแบบนั้นวะ เอาให้เขาชายตามองฉันก่อนเหอะ จะโพสิชั่นไหนก็ได้ทั้งนั้นแหละ" เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงเหนื่อยใจ แต่ก็หมายความอย่างที่พูดจริงๆ


    ที่จริงดงฮยอกก็เป็นแค่ผู้ชายแมนๆคนนึงที่เคยคั่วผู้หญิงมาก่อน เรื่องเทิร์นรับอะไรนี่ไม่เคยอยู่ในหัวสักนิด .. แต่ถ้าอีกฝ่ายเป็นมาร์คลีคนนั้น เขาก็ไม่ขัดข้อง


    "เลิกซึมได้แล้วเพื่อน ฉันก็บอกแล้วว่าให้บอกชอบตรงๆไปเลย แอบชอบมาตั้งปีกว่า มามัวอ้ำๆอึ้งๆแบบนี้ ถ้าฉันไปอ่อยเขาก่อนแล้วนายจะเสียใจ" เหรินจวิ้นลอยหน้าลอยตาพูดด้วยน้ำเสียงน่าหมั่นไส้ 


    .. นังหมวยนี่ ! คิดว่าตัวเองเป็นโอเมก้าแล้วจะยั่วใครเขาไปทั่วก็ได้หรอ


    มือคู่สวยของดงฮยอกเกือบจะฟาดลงบนหัวทุยๆของเพื่อนสนิทเสียแล้ว ถ้าไม่ติดว่าแรงสั่นจากกระเป๋ากางเกงกับเสียงริงโทนเพลงที่คุ้นเคยดังขึ้นเสียก่อน จึงต้องทำใจลดมือลงไปหยิบมือถือที่แผดเสียงดังขึ้นมากดรับสาย แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้พูดอะไร คนปลายสายก็ตะโกนขึ้นมาเสียก่อน


    "ดงฮยอกฮยองงงงงงงงงง !!" เสียงหวีดแหลมแสบแก้วหูดังขึ้นจนดงฮยอกต้องเลื่อนมือถือออกห่าง แม้จะไม่ได้ดูชื่อที่แสดงบนหน้าจอว่าใครคือคนที่โทรเข้ามา แต่ดงฮยอกก็มั่นใจว่าคนที่จะกรี๊ดใส่มือถือด้วยเสียงสูงระดับนี้นั้นมีเพียงแค่คนเดียวแน่นอน


    "ว่าไงเฉินเล่อ" เขาถามกลับไปด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แม้ในใจจะคิดแล้วว่าต้องไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ อันที่จริงอีกฝ่ายกับเขาไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น กับเหรินจวิ้นยังดูจะสนิทกว่าเสียอีก เพราะฉะนั้นเหตุผลที่เจ้าเด็กตัวขาวนี่จะโทรเข้าเครื่องเขานั้นจึงเป็นได้แค่สองกรณี


    กรณีแรกคือเรื่องเพื่อนสนิทตัวดีของเขา แต่ในเมื่อนังหมวยยังนั่งอยู่ข้างๆเขานี่ ดูเหมือนว่าก็คงจะเป็นกรณีที่สอง .. ซึ่งก็คือเรื่องคนที่เขาชอบ


    "มาที่หน้าห้องกรรมการนักเรียนตอนนี้เดี๋ยวนี้เลยพี่ ไม่รู้คนอื่นไปไหนกันหมด ผมดึงพี่มาร์คไม่อยู่แล---------" เพียงแค่ได้ยินชื่อของใครคนนั้นที่เขาชอบขาของดงฮยอกก็ออกวิ่งไปยังตึกเรียนทันทีโดยไม่ต้องรอให้ปลายสายพูดจบ มือถือเครื่องสวยถูกโยนกลับเข้าไปในกระเป๋ากางเกงตามเดิม ส่วนหนึ่งก็เพราะเขายังไม่อยากจะได้ยินข้อความหลังจากนั้น


    .. แน่นอนว่าเหรินจวิ้นก่นด่าไล่หลังจนหูแทบดับที่เขาคว้าข้อมืออีกฝ่ายให้วิ่งตามด้วยความเร็วในระดับที่ขาสั้นๆของมันไม่น่าวิ่งได้


    ถือว่าเป็นโชคดีของดงฮยอก .. อาจจะรวมถึงเหรินจวิ้น เฉินเล่อ และมาร์คด้วย ที่ลิฟต์ตึกค้างอยู่ที่ชั้นหนึ่งพอดี เขาจึงไม่ต้องเสียเวลาและแรงกายวิ่งขึ้นบันไดเจ็ดชั้นเพราะความรีบร้อน ซึ่งดูแล้วถ้าหากเลือกที่จะวิ่งขึ้นไปตามบันไดสูงๆพวกนี้ บางทีเขาอาจจะทรุดตายอยู่ที่แถวๆชั้นสี่ชั้นห้าไม่เกินกว่านั้น


    "นี่ดงฮยอก .. นายจะบอกกันได้หรือยังว่าที่อยู่ดีๆก็ลากฉันวิ่งเข้าตึกมานี่มันอะไรกันเนี่ย .." คนที่ดงฮยอกลากมาด้วยเอ่ยถามด้วยเสียงหวานปนหอบระหว่างที่กำลังนั่งทรุดด้วยความเหนื่อยอยู่ในลิฟต์


    "มาร์คลี .. เอ่อ ที่จริงเฉินเล่อโทรมา ไม่แน่ใจว่ามีเรื่องอะไรเพราะฉันฟังไม่จบ แต่ก็คงเดิมๆอะ" คนถูกถามตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเหนื่อยไม่แพ้กัน ที่จริงเขาไม่ใช่คนอ่อนแอบอบบางอะไร แต่ที่นั่งหอบอยู่ตรงนี้เป็นเพราะใจเอาแต่กังวลเรื่องคนที่เพิ่งกล่าวถึงในบทสนทนาต่างหาก


    ดงฮยอกแทบจะพุ่งตัวออกไปทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดแง้มออก ช่วงขายาววิ่งตรงไปหน้าห้องกรรมการนักเรียนอย่างเร็วที่สุดเท่าที่เขาจะวิ่งได้ มือเรียวสวยดึงเอาร่างของคนที่แทบจะไม่เหลือสติควบคุมตัวเองให้แยกออกมาจากใครอีกคน


    กลิ่นหวานๆของดอกส้มปะปนกับกลิ่นโทนอุ่นๆของซินนามอนที่ลอยคละคลุ้งไปทั่วบริเวณทำให้คนที่เพิ่งมาถึงเดาได้ไม่ยากว่าเกิดอะไรขึ้น .. แน่นอนว่ากับมาร์คลี คนที่โอเมก้าคนไหนๆก็ใฝ่ฝันอยากจะได้เป็นคู่ เหตุการณ์ประมาณนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกอย่างแน่นอน


    "พี่ลากพี่มาร์คออกไปเลย เดี๋ยวตรงนี้ผมจัดการเอง" รุ่นน้องตัวขาวเอ่ยปากพูดด้วยท่าทางเหนื่อยหอบในขณะที่พยายามจะกดใครอีกคนที่ดงฮยอกมองเห็นไม่ถนัดเอาไว้กับพื้น คนฟังได้แต่พยักหน้าน้อยๆ แล้วใช้แรงทั้งหมดที่มีในการลากคนในอ้อมแขนให้ออกห่างจากบริเวณ


    ดงฮยอกพยายามอย่างหนักที่จะจับอีกฝ่ายไว้ด้วยมือเดียว มืออีกข้างที่เหลือพยายามควานหาผ้าเช็ดหน้าสีเข้มในกระเป๋ากางเกง ก่อนจะกดลงไปบนจมูกของอัลฟ่าเพียงหนึ่งเดียวในที่นี้ เจ้าของผ้าเช็ดหน้าได้แต่หวังว่ากลิ่นน้ำหอมที่เขาฉีดเอาไว้จะช่วยทำให้อีกฝ่ายสงบสติลงบ้าง เพราะขืนคนตรงหน้ายังดิ้นไม่หยุดอยู่แบบนี้เขาเองก็เริ่มจนปัญญาที่จะดึงเอาไว้แล้วเหมือนกัน


    อย่าหาว่ากากอย่างงั้นอย่างงี้เลย .. แต่เบต้าแบบเขาจะเอาแรงจากไหนไปล็อคอัลฟ่าที่ตัวพอๆกัน (ที่จริงมาร์คก็สูงกว่าเขาด้วย) แถมยังอยู่ในสภาวะคุ้มคลั่งได้กันล่ะ


    "ดงฮยอก .. ?" โชคดีที่กลิ่นน้ำหอมของเขาดูเหมือนจะทำให้อีกฝ่ายได้สติขึ้นมาบ้าง มาร์คเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยดวงตากลมโตที่ฉายแววงุนงงออกมาเต็มเปี่ยม ใบหน้าซื่อๆของอีกฝ่ายทำให้เขานึกอยากจะดีดหน้าผากแรงๆสักครั้ง


    อยากจะตะโกนใส่หน้าเป็นรอบที่ร้อยว่าทำไมไม่หัดระวังตัวเองบ้าง ไม่รู้หรือยังไงว่ามีโอเมก้าจ้องจะทำแบบนี้อยู่เท่าไหร่ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกด้วย .. แต่พอเห็นสีหน้ารู้สึกผิดที่ตามมา เขาก็ได้แต่เบือนหน้าหนี รู้สึกกรามของตัวเองหนักขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ สุดท้ายก็ทำได้เพียงตอบออกไปสั้นๆ


    "รู้สึกดีขึ้นบ้างแล้วใช่มั้ย"


    และได้รับการพยักหน้าหงึกๆแทนคำตอบ ไม่มีคำพูดใดๆเล็ดรอดออกมาจากริมฝีปากนั้น


    ดูเหมือนทางฝั่งของโอเมก้าเจ้าปัญหาก็สงบลงแล้วเช่นกัน หลังจากที่เหรินจวิ้นเดินมาถึงและยัดเอายาระงับอาการฮีทเข้าปากอีกฝ่ายได้สำเร็จ กลิ่นฟีโรโมนหวานๆที่เริ่มจางลงทำให้ดงฮยอกถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก


    ขายาวๆสาวเข้าไปหาคนที่นอนอยู่กับพื้นด้วยความสงสัย มือจับเข้าที่ไหล่พลิกตัวอีกฝ่ายให้หันมาสบตาเขาด้วยแววตาแข็งๆ ยิ่งเห็นใบหน้าหวานสวยของโอเมก้าหนุ่มที่นอนอยู่ ดงฮยอกยิ่งรู้สึกเหมือนไฟลุกท่วมอยู่ในใจ


    "ปาร์คจีฮุน ? .. อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่านายตั้งใจจะทำอะไร จะไปไหนก็ไปซะ แต่อย่าให้ฉันรู้ว่ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกเป็นครั้งที่สอง" เสียงของดงฮยอกที่เอ่ยออกมานั้นฟังดูแข็งกร้าวกว่าปกติอยู่มาก เจ้าของชื่อในบทสนทนารีบพยักหน้ารับแล้ววิ่งหนีไปแทบจะทันทีที่เสียงของเขาหยุดลง 


    แม้ว่าทุกอย่างจะจบลงแล้ว มาร์คลีของเขาก็ยังคงปกติดี ไม่ได้พลาดไปผูกพันธะกับโอเมก้าคนไหน แต่ดงฮยอกก็ยังนึกโทษอะไรก็ตามที่ทำให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น


    นึกโทษที่บนโลกนี้มีเพศรอง โทษที่อีกฝ่ายเกิดเป็นอัลฟ่า โทษที่ตัวเองเกิดเป็นเบต้า โทษฟีโรโมนของโอเมก้า โทษฤดูผสมพันธุ์ ..


    .. โทษตัวเองที่ปกป้องคนที่ชอบจากเรื่องพวกนี้ไม่ได้เลย


    "ขอบใจนะที่ต้องให้มาช่วยอีกแล้ว แต่คราวหลังอย่าลำบากเลย .." เสียงโทนอบอุ่นของมาร์คลีดังขึ้นมาจากด้านหลัง พร้อมกับเสียงฝีเท้าที่เดินจากไป ในวินาทีนั้นคนฟังก็ได้ตระหนักถึงความจริง


    ไม่ใช่ว่าอัลฟ่ากับเบต้าจะคู่กันไม่ได้ .. แต่มาร์คลีก็แค่ไม่เลือกเขา


    ---------------------------------------------------------------------------------------------------


    ดงฮยอกไม่แน่ใจนักว่าการที่มือของตัวเองเย็นเฉียบไปหมดนั้นเป็นเพราะเครื่องปรับอากาศของห้องคณะกรรมการนักเรียนทำงานดีเกินไป ระบบไหลเวียนเลือดของเขาไม่ดี หรือเป็นเพราะประโยคที่กำลังได้ยินกันแน่ 


    "ขอโทษนะ แต่เรารับไว้ไม่ได้หรอก นายเอากลับไปเถอะ" น้ำเสียงทรงพลังแฝงความนุ่มนวลที่อีกฝ่ายเอ่ยออกมาเหมือนกับมีดที่กรีดลงไปกลางหัวใจของคนฟัง ดงฮยอกกัดริมฝีปากจนแทบห้อเลือด พลางมองถุงกระดาษที่อีกฝ่ายพยายามจะยัดเยียดกลับเข้ามาในมือเขาด้วยแววตาผิดหวัง


    "รับเอาไว้เถอะ ฉันตั้งใจซื้อมาฝาก" เขาพยายามปรับโทนเสียงของตัวเองให้สดใสเหมือนอย่างเคย แสร้งทำเหมือนว่าที่จริงแล้วในใจไม่ได้รู้สึกอะไรแม้ว่าที่จริงจะเจ็บจนชาหนึบไปหมด


    "เรารับไว้ไม่ได้จริงๆ ขอโทษที่ต้องปฏิเสธตรงๆนะ เราไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายจิตใจนายเลย แต่ว่าไม่ได้ก็คือไม่ได้ .." มาร์คเอ่ยตอบกลับด้วยน้ำเสียงเนิบช้าเหมือนน้ำเย็นชโลมใจ แต่ไม่ได้ทำให้คนฟังรู้สึกดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย ถึงอย่างนั้นก็ตาม ดงฮยอกก็ยังเลือกที่จะตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงร่าเริงราวกับคนที่ไม่ได้คิดอะไร


    "ก็เที่ยงนี้นายยังไม่ได้กินอะไรเลย .. มันก็แค่ขนมปังธรรมดาๆอย่าคิดมากดิ"


    สิ่งที่ใส่อยู่ในถุงกระดาษสีหวานใบนั้นมันไม่ใช่เพียงขนมปังอย่างที่พูดไป แต่มันรวมเอาความห่วงใย ความเอาใจใส่ ความคิดถึง หรือแม้แต่ความรักของดงฮยอกใส่ลงไปในนั้นด้วย ..


    "ไม่เป็นไรจริงๆ เราฝากให้เฉินเล่อซื้อข้าวเที่ยงเผื่อแล้ว"


    .. เขารู้ว่ามาร์คลีรู้ อีกฝ่ายถึงได้เอาแต่ผลักไสไม่รับถุงใบนั้น


    และเขาก็หวังว่ามาร์คลีจะรู้เหมือนกัน ว่าเขาอยากให้อีกฝ่ายรับมันไปจริงๆ


    "เถอะน่า .. ถ้าไม่อยากกินก็ให้คนอื่นไป ฉันกลับละ ขอโทษที่รบกวน" ดงฮยอกพูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก่อนจะเดินกลับออกมาจากห้องกรรมการนักเรียนโดยที่มือยังคงว่างเปล่า ไม่ว่ามาร์คลีจะมีท่าทางแบบไหนตอนที่เขาไม่รับของคืนมา แต่เขาก็ไม่อยากสนใจมันอีกแล้ว


    เขาไม่เคยคาดหวังที่จะไปยืนข้างๆ ไม่เคยคาดหวังให้อีกฝ่ายตอบรับความรักกัน เขารู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยไม่เคยหวังอะไรที่มันเกินตัวแบบนั้น .. ดงฮยอกก็แค่อยากให้มาร์คลีรับความรู้สึกของเขาไปบ้าง แค่เพียงนิดเดียวก็พอ ให้เขาได้ยืนอยู่ข้างหลัง คอยช่วยเหลือคอยเป็นห่วงจากตรงนี้


    แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะอยากผลักเขาออกไปจากชีวิตเสียเหลือเกิน ..


    "ฉันไม่รู้นะว่านายกับเขาพูดอะไรกันบ้าง แต่ฉันไม่ชอบเวลานายเป็นแบบนี้เลยจริงๆ ยิ้มหน่อยสิดงดง !" เพื่อนสนิทตัวดีเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสดใสราวกับต้องการปลอบประโลม ดงฮยอกได้แต่ฝืนยิ้มตอบกลับไปเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเป็นกังวล


    สัมผัสเบาบางที่ไหล่กับกลิ่นสตรอเบอร์รี่โยเกิร์ตหวานๆที่ลอยเข้าจมูกทำให้ดงฮยอกมีความคิดแย่ๆผุดขึ้นมาในสมองอยู่แวบหนึ่ง ..


    .. ถ้าเขาเป็นโอเมก้าแบบเหรินจวิ้น อะไรๆมันอาจจะง่ายกว่านี้ก็ได้


    มือเรียวยาวหยิบเอาขวดน้ำหอมขนาดเหมาะมือออกมาจากกระเป๋าสะพาย หมุนเจ้าขวดสีใสที่บรรจุของเหลวที่เหลือเพียงก้นขวดไปมาด้วยแววตาครุ่นคิด


    "หมดขวดนี้แล้วฉันเปลี่ยนน้ำหอมดีมั้ย เอาแบบหวานฟุ้งๆไปเลย .." ดงฮยอกเอ่ยถามพลางมองขวดทรงสี่เหลี่ยมในมือด้วยแววตาเลื่อนลอย กลิ่นหวานสดชื่นตัดด้วยความขมจางๆยังคงติดอยู่ที่ปลายจมูกของดงฮยอก น้ำหอมกลิ่นนี้เป็นกลิ่นที่เขาชอบมาโดยตลอด แต่กำลังจะกลายเป็นกลิ่นที่เขาไม่ชอบเสียแล้ว


    "ทำไมอะ เห็นใช้มาตั้งนานนี่เบื่อแล้วหรอ .. แต่ฉันว่ากลิ่นแบล็กเบอร์รี่ก็เข้ากับนายมากๆแล้วนะ" คนฟังได้แต่นิ่งเงียบไปพักใหญ่ๆ ริมฝีปากเม้มเข้าหากันแน่น นัยน์ตาคู่สวยยังคงละออกไปจากขวดน้ำหอมในมือไม่ได้ 


    "ก็แค่อยากลองดู เผื่ออันอื่นมันจะดีกว่า .."


    แววตาของคนข้างตัวดูสับสนเล็กน้อย แต่ก็ปรับกลับมาเป็นปกติภายในเสี้ยววินาที เขาอาจจะคิดมากไปเองว่าเหรินจวิ้นจะจับสังเกตได้ แต่ประโยคที่อีกฝ่ายเอ่ยตอบกลับมาก็ทำให้คนฟังถอนหายใจอย่างโล่งอก


    "ถ้าอยากเปลี่ยนจริงๆก็แล้วแต่นายอะแหละ แต่อยากได้หวานฟุ้งๆแบบไหนอะ เดี๋ยวฉันช่วยเลือกเอาป้ะ" เพื่อนสนิทของเขายังเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงสบายๆราวกับไม่ได้มีความหมายลึกซึ้งอะไรเกินกว่านั้น รอยยิ้มหวานๆของอีกฝ่ายทำให้ดงฮยอกรู้สึกผิดเหลือเกิน


    เขารู้ว่าสิ่งที่เขาจะตอบออกไปนั้นไม่ดีเท่าไหร่นัก แต่เขาก็หยุดประโยคแฝงแววความอิจฉานั้นไม่ได้แล้ว


    ".. ไม่รู้สิ กลิ่นโยเกิร์ตหรือดอกส้มอะไรแบบนี้ดีมั้ย" 


    อ่า .. เขานี่มันบ้าบอจริงๆ


    ---------------------------------------------------------------------------------------------------


    หลังจากดงฮยอกเพิ่งตัดพ้อกับเหรินจวิ้นเรื่องจะเปลี่ยนน้ำหอมไปไม่พ้นสัปดาห์ เขาก็พบว่ามีคนเอากล่องสีขาวดีไซน์เรียบๆแบบที่เขาคุ้นเคยมาใส่ไว้ในล็อกเกอร์ ที่น่าตกใจกว่าการที่ใครสักคนยอมทุ่มทุนซื้อน้ำหอมแบรนด์แพงหูฉี่แบบนี้ให้เขา .. คือการที่ขวดน้ำหอมข้างในเขียนระบุว่าเป็นกลิ่นเดียวกับน้ำหอมที่เขาใช้อยู่ทุกวัน


    ตอนแรกเขาคิดว่าอาจจะเป็นเพื่อนสนิทตัวดีที่ซื้อมาเพราะมีไม่กี่คนหรอกที่สนิทจนรู้ว่าเขาใช้น้ำหอมอะไร แต่ว่าหมอนั่นก็ทำหน้าเหรอหราได้สมจริงมากๆ พลางปฏิเสธด้วยเหตุผลที่หนักแน่นเสียจนดงฮยอกต้องยอมเชื่อ


    "บ้าไปแล้วอีดงฮยอก นายคิดว่าคนอย่างฉันจะเป็นคนดีขนาดที่ยอมซื้อน้ำหอมราคาเท่าค่าขนมทั้งเดือนให้แค่เพราะเพื่อนอกหักหรอ .. ถึงซื้อให้ฉันก็ไม่มีทางซื้อขวดใหญ่ให้หรอกว้อย พูดจาเหมือนไม่รู้จักกันไปได้" เหรินจวิ้นพูดตอบกลับมาเสียยาวยืด ใบหน้าหวานคมนั้นดูไม่มีแววของการโกหกเลยแม้แต่น้อย


    นั่นแหละ นังหมวยว่ามาแบบนี้ .. ซึ่งก็จริงของมัน


    ".. เอาเถอะ ใครซื้อมาก็ช่าง แต่ดูเหมือนว่าโชคชะตาคงอยากจะให้ฉันมีกลิ่นแบล็กเบอร์รี่ติดตัวไปตลอดชีวิต" น้ำเสียงที่เอื้อนเอ่ยออกมาแฝงแววความเหนื่อยใจปนตัดพ้อ แต่ดงฮยอกก็รู้สึกตามที่พูดแบบนั้นจริงๆ 


    ในวินาทีที่เขาเห็นชื่อกลิ่นเป็นชื่อเดิมๆแบบที่เขาเคยใช้ .. วินาทีนั้นดงฮยอกก็ยอมรับแล้วว่าตัวเองงี่เง่าแค่ไหนตลอดหลายวันที่ผ่านมา


    "แล้วนายจะเอาไงต่อ .. หมายถึงเรื่องมาร์ค" โอเมก้าเจ้าของกลิ่นสตรอเบอร์รี่โยเกิร์ตเอ่ยถามออกมาด้วยน้ำเสียงกล้าๆกลัวๆ ดงฮยอกสัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายไม่กล้ามองหน้าเขาตรงๆตอนพูดเรื่องนี้เท่าไหร่ เพราะเหรินจวิ้นกลัวว่าเขาจะร้องไห้จนตายไปเสียก่อน เราเลยไม่ได้มีชื่อมาร์คในบทสนทนามาหลายวันเต็มๆแล้ว


    "ที่จริงเมื่อเช้า .. คือเฉินเล่อส่งข้อความมาว่าดูเหมือนมาร์คจะไม่ค่อยสบาย ฉันก็เลยแวะซื้อยามานิดหน่อย กำลังคิดว่าจะเลิกเรียนแล้วแวะเอาเข้าไปให้" เขาตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงแผ่วๆ หลังจากชั่งใจมาหลายตลบหลังจากได้รับข้อความ สุดท้ายดงฮยอกก็เลือกที่จะตัดสินใจแบบนี้


    ไม่แน่ใจนักว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ดีหรือเปล่า แต่ในเมื่อฟ้าอุตส่าห์ส่งคนในฝันมาตรงหน้าแล้ว เขาเองก็อยากจะลองดูอีกสักตั้ง ..


    "อ่าว เขาเป็นอะไรอะ ไม่กี่วันก่อนยังเห็นดีๆอยู่เลย" ดงฮยอกนึกขอบคุณที่เหรินจวิ้นไม่ได้ด่าหรือหงุดหงิดใส่ที่เขาโลเลอย่างที่ใครคนอื่นอาจจะทำ เพื่อนสนิทของเขาคนนี้ยังไงก็เป็นคนที่เข้าใจเขามาตลอดเสมอ


    "เห็นเฉินเล่อบ่นๆว่าพักไม่พอหรืออะไรสักอย่าง ทั้งที่ช่วงนี้กรรมการนักเรียนก็ไม่ได้มีงานอะไรต้องทำนะ .. แต่ฉันก็ไม่ได้ถามเพิ่ม สุดท้ายเลยไม่แน่ใจว่าเป็นอะไรกันแน่" เขาไม่แน่ใจนักว่าน้ำเสียงที่เปล่งออกมาหรือสีหน้าของเขาในตอนนี้ดูเป็นยังไง เหรินจวิ้นถึงได้ดูลุกลี้ลุกลนที่จะปลอบใจเขาขนาดนี้


    "อย่าเพิ่งกังวลไปเลย ถ้าเขายังมาโรงเรียนได้ ก็คงไม่มีอะไรน่าห่วงขนาดนั้นหรอกน่า .. เชื่อฉันเหอะ"


    แต่ถึงแม้ว่าเพื่อนสนิทจะพูดถึงขนาดนั้นแล้ว แต่ดงฮยอกก็ไม่มีสติรับรู้ใดๆตลอดคาบเช้า ..


    สมองของเขาเอาแต่ครุ่นคิดเรื่องของมาร์คลี เขาไม่แน่ใจนักว่าในเวลานี้คนๆนั้นจะยังนั่งอยู่ในห้องเรียนที่ถัดไปจากเขาสองห้องหรือว่าจะนอนซมอยู่ที่เตียงห้องพยาบาลกันแน่ .. แต่จากความเห็นของเขาแล้ว คนดื้อด้านอย่างมาร์คลีไม่มีทางที่จะยอมรับว่าตัวเองป่วยแล้วลงไปนอนที่ห้องพยาบาลแน่ๆ


    แม้ว่าบนกระดานจะเต็มไปด้วยตัวอักษรมากมายแต่สมองของเขากลับตีความไม่ได้ เสียงบรรยายของอาจารย์นั้นไม่เข้าหูดงฮยอกสักนิด สิ่งเดียวที่เขาสนใจในเวลานี้คือเข็มนาฬิกาที่กำลังหมุนไปอย่างเชื่องช้า .. และหวังให้มันหยุดลงที่เลขสิบสองเสียที


    เป็นเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง แต่ดงฮยอกกลับรู้สึกยาวนานเหมือนครึ่งวัน เขารีบวิ่งออกจากห้องทันทีที่บอกทำความเคารพอาจารย์เสร็จเรียบร้อย ไม่ลืมที่จะคว้าเอาถุงพลาสติกใบใหญ่ที่บรรจุยาหลากหลายชนิดไปด้วย เป็นเพราะเขาไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายเป็นอะไรกันแน่ เลยถามเภสัชกรร้านขายยาว่าการพักผ่อนไม่พอแบบที่รุ่นน้องตัวขาวบอกมานั้นสามารถก่อให้เกิดโรคอะไรได้บ้าง และสุดท้ายก็จบที่การซื้อเอายาสามัญประจำบ้านเกือบทุกแขนงติดกลับมา


    ขายาวๆของดงฮยอกสาวเท้าไปหยุดลงที่หน้าห้องเรียนของอีกฝ่ายอย่างรีบร้อน แต่ภาพที่ปรากฏแก่สายตาก็ทำให้ขาของเขาแข็งจนขยับไม่ออก


    ถ้าเขาย้อนเวลากลับไปได้ เขาคงเลือกที่จะเมินข้อความที่เฉินเล่อส่งมาทิ้งไป เลือกที่จะไม่ไปร้านขายยา หรือแม้แต่เลือกที่จะไม่เดินมาที่ห้องๆนี้ในเวลาพักเที่ยง


    ร่างโปร่งของใครคนที่เขาชอบกำลังพิงเข้ากับใครอีกคนที่ดงฮยอกไม่เคยเห็น กลิ่นไม้โอ๊คจางๆที่ลอยกระทบจมูกก็ทำให้เดาได้ว่าคนๆนั้นคงจะเป็นอัลฟ่า ศีรษะทุยๆที่เขาคุ้นตาทิ้งลงไปพิงที่ไหล่ของคนข้างตัว แม้จะเห็นหน้าได้ไม่ชัดนัก แต่เขาก็ค่อนข้างมั่นใจว่าใบหน้าภายใต้กลุ่มผมยุ่งที่ตกลงมาปรกหน้าปรกตาไปหมดนั้น คือมาร์คลีจริงแท้แน่นอน 


    .. และสิ่งที่ทิ่มแทงใจดงฮยอกได้มากกว่านั้น คือการที่ชายหนุ่มร่างสูงคนนั้นยกมือขึ้นขยี้ลงบนกลุ่มผมสีน้ำตาลอ่อน ด้วยแววตาและรอยยิ้มที่แสนอ่อนโยนเกินกว่าเพื่อนธรรมดา


    เขาไม่แน่ใจนักว่ามือของเขาอ่อนแรงลงจนถุงยาในมือร่วงลงพื้นตั้งแต่ตอนไหน แม้ว่าหูของเขาจะไม่ได้ยิน แต่เขาก็พอจะเดาได้ว่าเสียงกระทบพื้นที่ดังขึ้นคงจะเรียกสติของคนที่กำลังหลับอยู่ให้ตื่นขึ้น


    มาร์คมองตรงมาที่เขาด้วยแววตางัวเงียแบบคนเพิ่งตื่น ใครอีกคนที่เขาไม่รู้แม้แต่ชื่อก็กำลังมองมาที่เขาเช่นกัน น้ำตาของดงฮยอกไม่ได้ไหลออกมา แต่หัวใจของเขานั้นเจ็บจนชาไปหมด


    ถ้านี่คือสิ่งที่เขาได้รับเป็นการตอบแทนความรักที่เขาให้อีกฝ่ายไป พระเจ้าก็ช่างใจร้ายเหลือเกิน ..


    .. ดงฮยอกรู้สึกพ่ายแพ้อย่างเต็มรูปแบบก็วันนี้


    สุดท้ายแล้วในค่ำวันนั้น ดงฮยอกก็ได้แต่พาร่างพังๆของตัวเองไปจบลงที่ร้านอาหารที่มีบริการแอลกอฮอล์ โดยมีเหรินจวิ้นที่ยืนกรานว่ายังไงก็จะตามมาเก็บศพเขาให้ได้ หลังจากที่เขาเอ่ยบอกอีกฝ่ายไปว่าคืนนี้จะเมา เอาให้วูบ


    .. เขาได้แต่หวังว่ามันจะพอลบภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกลางวันออกไปได้บ้างสักนิดก็ยังดี


    "ดงฮยอก พอได้แล้ว นายกินเยอะกว่านี้ไม่ได้แล้วนะ !" แม้ว่าเสียงของคนที่มาด้วยจะดังราวกับกำลังตะโกนใส่หน้าเขา แต่กลับหยุดการกระทำของคนฟังไม่ได้ มือเรียวยาวยังคงรินเครื่องดื่มมึนเมาใส่แก้ว แล้วยกกระดกหมดในทีเดียว


    ภาพมาร์คลีกำลังพิงใครคนอื่นกำลังถูกกรอในหัวซ้ำๆ เขาไม่รู้ว่าคนๆนั้นเป็นใครกันแน่ แต่จากสีหน้าแววตาแล้ว ดูยังไงก็ไม่ใช่เพื่อนทั่วไปอย่างแน่นอน


    .. เพื่อนกันไม่น่าลูบหัวกันด้วยท่าทางอ่อนโยนแบบนั้นหรอก


    ในเวลานี้ เขาคิดอะไรไม่ออกจริงๆ .. นอกจากคิดว่าสองคนนั้นอาจจะเป็นแฟนกัน


    เขาไม่เคยหวังให้อีกฝ่ายรับรักเขาก็จริง แต่เขาก็ไม่เคยเตรียมใจเอาไว้เลยว่ามาร์คจะรับรักคนอื่น ..


    สายตาของดงฮยอกพร่ามัวด้วยหยาดน้ำตา ในขณะที่พยายามเค้นเสียงสั่นๆให้เล็ดรอดออกมาจากริมฝีปาก


    "เหรินจวิ้น .. ฉันว่าจะตัดใจแล้วแหละ"


    ---------------------------------------------------------------------------------------------------

    เพิ่งเคยลองเขียนแนวโอเมก้าเวิร์สเป็นครั้งแรกเลยค่ะ ที่จริงข้อมูลบางเรื่องก็ยังไม่แน่นมากเท่าไหร่ ถ้าหากว่ามีอะไรที่ดูแปลกๆหรือขัดๆก็สามารถท้วงติงได้ อาจจะไม่ได้ปรับแก้ในเรื่องนี้ แต่จะนำไปปรับใช้ในเรื่องหน้า
    ผู้แต่งขอออกตัวไว้ก่อนว่าจบแฮปปี้แน่นอนค่ะ ที่จริงแล้วเรื่องนี้ไม่ใช่ฟิคดราม่าอะไรเลย
    ส่วนเรื่องโพสิชั่นถึงตอนนี้จะอ่านแล้วดูงงๆไปบ้าง แต่ก็ขอยืนยันว่าโพสิชั่นนี้จริงๆ
    ยังไงก็รอติดตามกันในพาร์ทหน้านะคะ

    หนึ่งคอมเมนต์เพื่อเป็นกำลังใจเล็กๆของผู้แต่งนะคะ หรือจะตามไปสครีมฟิคที่แท็ก #ด้ายแดงอซท ก็ได้ค่ะ


    S
    N
    A
    P
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×