ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พนักงานเลี้ยงเด็ก(โข่ง)

    ลำดับตอนที่ #2 : แสวงหา

    • อัปเดตล่าสุด 7 พ.ย. 64


     

    - 1-

    แสวงหา

     

    กรุณาส่งข้อมูลแนบรูปถ่ายให้ครบถ้วน หากสงสัยตรงไหนสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลมาได้ที่ Masterwe33@gmail.com 

    ***หมายเหตุ  กรณีที่ล่วงเลยเวลางาน มีการจ่ายค่าล่วงเวลาให้ 200 บาท / ชั่วโมง

     

    หลังจากที่นั่งหางานในเว็บมาร่วมชั่วโมงเขาก็เลื่อนไปเจองานงานหนึ่งที่ค่อนข้างน่าสนใจ  เป็นงานเลี้ยงเด็กที่รับทั้งเพศชายและเพศหญิงแบบไม่จำกัดวุฒิการศึกษา  แต่มันก็มีบางส่วนที่ค่อนข้างน่าแปลกใจในบรรทัดที่ผู้จ้างระบุเอาไว้ว่า หากผ่าน 3 เดือนแรกไปเงินเดือนที่ได้หลังบรรจุจะสูงกว่าช่วงทดลองเป็นเท่าตัว  เมื่อลองเทียบอาชีพกับการทำงานที่ทำเพียงแค่เลี้ยงเด็กคนหนึ่งหรืออาจจะสองคน ทำไมคนว่าจ้างถึงให้ยอดเงินที่สูงขนาดนี้  และถ้าเอาไปเปรียบกับเงินเดือนที่ตนเคยได้จากงานเก่า ก็เท่ากับว่าเขาทำงานสามเดือนรวมโอทีเสียด้วยซ้ำไป

    หากถามว่าทำไมถึงต้องมาหางานใหม่ก็คงต้องเล่าย้อนไปเมื่อหนึ่งเดือนที่ผ่านมา  ตัวเขามีชื่อว่า อคิราห์ หงส์สกุล  ชื่อเล่นว่า อิมเมจ  คงสงสัยกันใช่ไหมล่ะว่าทำไมถึงได้ชื่อนี้มา  ในตอนที่ตนยังเป็นแค่เด็กน้อยตัวเล็ก ๆ ก็เคยเกิดความสงสัยขึ้นมาเช่นกัน  กระทั่งวันหนึ่งเก็บซ่อนมันเอาไว้ไม่ได้อีกต่อไปจึงได้เอ่ยถามมารดาถึงที่มาของชื่อตัวเอง  แต่คำตอบที่ได้กลับมาคือ เพราะมันเป็นชื่อที่บิดาตั้งให้

    คุณวันนาเคยบอกกับเขาว่า บิดาเจ้าของสเปิร์มซึ่งทำให้มีอิมเมจในวันนี้เป็นชาวต่างชาติ ที่เข้ามาเที่ยวและหาทำเลทำธุรกิจในเมืองไทย  แต่ถึงจะได้ฟังมาแบบนั้นตนยังก็ไม่รู้อยู่ดีว่าบิดาเป็นใคร  ชื่ออะไร  หน้าตาเป็นอย่างไร  เพราะตั้งแต่จำความได้ก็มีแค่แม่เพียงคนเดียวมาตลอด

    Rrrrrrrrrr

     “ครับแม่” เสียงหวานระรื่นหูเอ่ยตอบรับทันทีที่เสียงกึกกักจากปลายสายดังขึ้น พลางแย้มยิ้มเล็ก ๆ ที่ปากบางด้วยความดีใจ

    (เป็นยังไงบ้างลูก)

    “ก็ดีครับ แม่ล่ะ”

    (สบายดี แล้วนี่มีเงินใช้หรือเปล่าเรา)

    “พอมีอยู่ครับ แม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะ”  เขาเงียบไปชั่วครู่แล้วเอ่ยปากถามต่อ พร้อมกับมองออกไปนอกระเบียงที่แดดส่องแสงจ้า  “แล้วที่ร้านเป็นยังไงบ้างครับ”

    (ที่ร้านก็ดี ลูกค้าเยอะมาก นี่แม่ก็เพิ่งจะได้พักกินข้าวเอง)

    “ครับดีแล้ว ดูแลสุขภาพด้วยนะ ยืนนาน ๆ ระวังปวดหลังล่ะ”

    (จ้า)

    “ เดี๋ยวอาทิตย์หน้าผมจะไปหา”

    (หืม อาทิตย์หน้าหรือ)

    “ครับ พอดีคิดถึงคุณวันนามาก ๆ  ก็กะว่าจะกลับไปกอดให้หายคิดถึงซะหน่อย”

    (ให้จริงเถอะพ่อคุณ...ไม่ใช่ว่าเหงาแล้วอ้างว่าคิดถึงหรอกนะ)

    “แม่อะ” เมื่อได้ยินเสียงสูง ๆ กับความขบขันที่ส่งผ่านโทรศัพท์มือถือออกมา อคิราห์ก็ได้แต่พูดกระเง้ากระงอดกลับไป  ไม่รู้เพราะสิ่งใดมารดาถึงได้รู้เท่าทันตนได้ตลอด ราวกับว่าคนเป็นแม่เข้ามานั่งอยู่ในหัวสมองของเขาเสียอย่างไรอย่างนั้น  แต่ก็นะ..ส่วนหนึ่งก็เพราะเหงาจริง ๆ นั่นแหละ ถึงได้อยากกลับไปสูดอากาศดี ๆ ที่บ้านบ้าง  อีกอย่างที่นั่นก็มีครอบครัวของเขาอยู่  ไม่ต้องมานั่งหง่อยเหงากินข้าวคนเดียว  ดูหนังคนเดียวอยู่แบบนี้หรอก

    (ถ้าอย่างนั้นแม่วางแล้วนะ)

    “ครับ”

    สายสนทนาถูกตัดไปแล้วแต่ชายหนุ่มยังคงนั่งมองมือถืออยู่ตรงที่เดิม  เหตุจากที่เขากำลังลังเลว่าจะลองสมัครงานเลี้ยงเด็กดีไหม  เพราะงานมันก็ดูไม่ได้หนักหนาสาหัสอะไร  แถมถ้าตนผ่านช่วงทดลองงานไปได้ ค่าตอบแทนที่กลับมาก็มากมายมหาศาล  เมื่อคิดว่าต้องแลกกับความวุ่นวายที่มากหน่อยก็ถือว่ามันคุ้มค่าที่จะแลก

    และเหมือนเขาจะลืมบอกไปหรือเปล่านะว่าตอนนี้ตนกำลังตกงานอยู่  มันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ในทุก ๆ บริษัท  ซึ่งจะโละคนเก่าที่มีผลงานไม่โดดเด่นหรือการทำงานไม่พัฒนาออก เพื่อรับพนักงานเป็นเด็กใหม่ที่เพิ่งจบเข้ามาแทน เพราะคิดว่าเด็กรุ่นใหม่มักมีความมุมานะและกระตือรือร้นตลอดเวลา  แต่จะมีใครบ้างที่หันความสนใจมาให้พนักงานเก่าที่โดนไล่ออก  โดยการจากลาในครั้งนี้มันเป็นการออกที่ไม่ได้เกิดจากความสมัครใจของตัวพนักงาน  แต่เป็นการจ่ายค่าชดเชยที่เท่ากับเงินเดือนแค่สองเดือนรวมกัน  พร้อมกับเฉดหัวส่งออกมาจากบริษัท 

    บางคนร้องไห้ฟูมฟายเพราะไม่ทราบว่าถูกคัดออกด้วยสาเหตุอะไร  ทั้งที่ในเวลาทำงานก็ทำมันอย่างเต็มที่  และไม่ได้มีข้อผิดพลาดมากมายจนไม่สามารถแก้ไขได้  อย่างเช่นตัวเขาเองก็เหมือนกัน  ไม่รู้ทำไมถึงคัดออกทั้งที่ตนเพิ่งจะเข้ามาทำงานได้แค่ปีเดียว  หากถามในมุมมองของเขา การรับเด็กใหม่เข้ามาก็ไม่ได้แย่  แต่ก็ควรถามความสมัครใจของตนสักหน่อยว่ายินดีที่จะออกไปหรือไม่  ไม่ใช่ตื่นเช้ามาแต่งตัวไปทำงานด้วยอารมณ์ที่สุนทรีย์  แต่พอไปถึงกลับเจอเอกสารไล่ออกพร้อมกับของที่ถูกเก็บกองเอาไว้ข้างโต๊ะประจำตำแหน่ง  และพนักงานหน้าใหม่ที่นั่งยิ้มหน้าระรื่น พลางหมุนเก้าอี้ไปมาอย่างเหมือนเยาะเย้ย

    แต่ทว่าถึงจะเป็นแบบนั้นชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไป  ก็แค่ต้องปาดน้ำตาขนของออกมาแล้วเดินหน้าหางานใหม่ที่ดีกว่าเก่า  แต่มันก็น้อยนักที่จะโชคดีแบบนั้น เพราะบางคนตกงานไปเป็นปีก็ยังไม่มีงานให้ทำถมเถไป

    “ลองดูก็ได้วะ”

    ชายหนุ่มลังเลอยู่ชั่วครู่ก็ตัดสินใจได้ว่าเขาจะลองยื่นเรื่องไปสมัครดู  หากได้ก็ถือเป็นโชคดี  หากไม่ได้ก็ต้องเดินหน้ากันต่อไปเรื่อย ๆ  อย่าได้คิดจะท้อถอยแล้วจมปลักอยู่กับที่ให้คนเหยียบซ้ำไปซ้ำมาอยู่แบบนี้

    “ ถึงคุณ...Masterwe33

    สวัสดีครับคุณ Masterwe33  ผมสนใจสมัครงานพี่เลี้ยงเด็กที่คุณลงข้อมูลเอาไว้ในเว็บหางาน และก็อยากจะสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมอีกสักเล็กน้อย

    ข้อมูลขอสมัครงานครับ

    - แนบไฟล์รูป

    - แนบไฟล์รูป

    - แนบไฟล์รูป

    เรื่องคุณสมบัติผมคิดว่าผมอาจจะโอเคในระดับหนึ่ง  แต่เรื่องประสบการณ์ขอพูดตรง ๆ นะครับ  ผมไม่ได้ทำอาชีพนี้โดยตรงแต่ก็เคยเลี้ยงน้องชายมาตั้งแต่น้องตัวเล็ก ๆ  เรื่องที่พักผมไม่รู้ว่าสถานที่ทำงานอยู่ที่ไหน เลยไม่แน่ใจว่าจะสะดวกในการเดินทางหรือไม่ แต่ถ้าจะพักที่นั่นผมก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร

    **ขอสอบถามเพิ่มเติมครับ

    - อยากทราบว่าต้องเลี้ยงเด็กกี่คนเพราะจากที่ผมดูในรายละเอียดเงินเดือนค่อนข้างสูง

    - ผู้ชายหรือผู้หญิงครับ

    ข้อความถูกส่งออกไปพร้อมกับข้อมูลและเอกสารบางส่วน  เป็นรูปถ่ายที่กำกับชื่อและเน้นย้ำว่าใช้เพื่อการสมัครงานเป็นที่เรียบร้อย  สิ่งที่ต้องทำหลังจากนี้ก็คือต้องรอข้อความตอบกลับจากอีกฝั่งที่ยังไม่รู้ว่าจะมีหรือไม่ก็เท่านั้น  

    “เฮ้อ!” ด้วยความเบื่อหน่ายและเงียบเหงาชายหนุ่มจึงถอนหายใจออกมา  ก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ที่รกรุงรังไม่เป็นระเบียบ  เห็นดังนั้นจึงคิดได้ว่าระหว่างนี้เขาอาจจะต้องหาอะไรทำแก้เบื่อไปก่อน  เพราะถ้าให้มานั่งรอลุ้นข้อความตอบกลับจากผู้จ้างทั้งวันเขาคงทำมันไม่ได้แน่ ๆ  “เก็บห้องแล้วกัน”

    เจ้าของห้องเช่าราคาถูกเดินไปมาก่อนจะหยุดลงที่โต๊ะทำงาน  แล้วกดปลดล็อกหน้าจอโน๊ตบุ๊คที่เปิดค้างไว้  เพื่อเปิดเพลงขึ้นมาเป็นเพื่อนไม่ให้บรรยากาศในห้องมันเงียบเหงาจนเกินไป

    ไม่อยากบอกเลยว่าสภาพในห้องตอนนี้มันเน่าแค่ไหน  ทว่าเมื่อกวาดตามองผ้าที่มันล้นออกมานอกตะกร้า ฝุ่นที่เริ่มจับบนโต๊ะทำงานหรือชั้นวางทีวีก็จำใจต้องถอนหายใจออกมาแรง ๆ  เพราะรู้สึกเหน็ดเหนื่อยเหลือเกินทั้งที่ยังไม่ได้ลงมือทำ

    แต่ถึงอย่างนั้นความเหนื่อยก็แพ้ความตั้งใจที่จะทำไป  โดยสิ่งแรกที่อคิราห์เลือกทำคือการนำผ้าลงไปซัก  ระหว่างนั้นก็ขึ้นมาปัด กวาด เช็ด ถู พื้นห้องและทุกจุดที่มีฝุ่นจับ เวลาล่วงเลยไปกว่าหนึ่งชั่วโมงในที่สุดชายหนุ่มก็จัดการห้องที่สกปรกให้ดูสะอาดตาขึ้นมาได้บ้าง  เห็นแบบนั้นเขาจึงเดินลงไปเอาผ้าที่ซักไว้ขึ้นมาตากที่ระเบียง  เป็นระเบียงแคบ ๆ ที่ยืนได้ไม่กี่คนเพราะมีราวตากผ้ากินพื้นที่ไปแล้วเกินครึ่ง หากแต่มันก็เป็นเพราะทางหอพักทำขนาดให้มันเล็กด้วยจึงใช้สอยอะไรไม่ได้มาก  

    กว่าจะทำทุกอย่างเรียบร้อยก็ปาไปหกโมงเย็นแล้ว  เป็นอะไรที่อคิราห์รู้สึกเหนื่อยเป็นบ้า  เขาทิ้งตัวลงบนที่นอนทั้งที่เหงื่อซก  ในใจก็บ่นอุบอิบว่าตนมีอุปนิสัยที่สกปรกขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่

    โครก!!!

    ทันใดนั้นเองก็มีเสียงประท้วงออกมา  เป็นเรื่องปกติที่เมื่อใช้แรงเยอะร่างกายก็ต้องส่งสัญญาณบางอย่างออกมาเพื่อประท้วง เลยเป็นสาเหตุให้ชายหนุ่มรีบดีดตัวลุกขึ้นเดินไปปิดแอร์ ปิดไฟ ล็อกห้อง แล้วลงลิฟต์มาที่ชั้นล่าง  เขาเดินเตาะแตะออกไปตามทางเท้าที่เป็นพื้นที่สาธารณะ  โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะไปยังร้านสะดวกซื้อซึ่งอยู่ห่างจากหอพักไปไม่ไกลมาก 

    ระหว่างที่เดินก็คิดกับตัวเองไปต่าง ๆ นานา  แต่สิ่งหนึ่งที่อคิราห์รู้สึกกลัวที่สุดก็คงเป็นความคิดที่ว่า...หากคุณวันนารู้ว่าเขาใช้ชีวิตด้วยอาหารแช่แข็งแล้วล่ะก็ ไม่อยากจะนึกเลยว่าหูที่เคยได้ยินทุกอย่างแจ่มแจ้งนี่จะอื้ออึงไปกี่วัน

    ถึงแม้ว่ามันจะไม่ดีต่อสุขภาพแต่ก็ไม่มีตัวเลือกให้เขาได้เลือกมากนัก ในวันที่ท้องร้องจนแสบไปหมด กับความรู้สึกเหน็ดเหนื่อยจนอยากจะกลับไปนอนพักที่ห้องไว ๆ เพราะแบบนั้นอคิราห์จึงรีบจ้ำอ้าวเข้าไปเลือกซื้อข้าวผัดกะเพรา 1 กล่อง  น้ำอัดลม 1 ขวด  กับขนมอีกนิดหน่อยด้วยความเร่งรีบ  

    เมื่อจ่ายเงินเสร็จสรรพก็เดินกลับมากินที่ห้องเช่าของตัวเอง  กินเสร็จก็อาบน้ำอาบท่าขึ้นมานอนแผ่หลาอยู่บนเตียง  พลางเลื่อนหน้าจอมือถือดูนู้นดูนี่ไปเรื่อย  ทั้งที่ก่อนหน้านั้นดวงตาแทบจะปิดอยู่รอมร่อ  เมื่อรู้สึกเซ็งเพราะไม่มีอะไรให้ดูเขาจึงเข้าไปเช็กอีเมล แล้วเห็นว่ายังไม่มีการตอบกลับจากผู้ว่าจ้างงาน 

    ประจวบเหมาะกับที่เข็มของนาฬิกาเลื่อนไปจนถึงเลขสิบ อคิราห์จึงได้ปิดโทรศัพท์ลงแล้ววางมันเอาไว้ข้างหมอนที่ตัวเองใช้หนุนนอน  ส่วนเรื่องงานถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นอะไร  เพราะเดี๋ยวเขาก็จะหางานอื่นต่อไปเรื่อย ๆ   

    ด้วยวุฒิภาวะและอายุที่ปาเข้าไป 25 ปีแล้ว มันจึงเป็นเหตุผลที่เขารู้สึกว่าตนไม่ใช่เด็ก ๆ ที่จะต้องมานั่งรอคอยเวลาให้โอกาสเข้ามาหาเพียงอย่างเดียว  ถ้ามันไม่ได้จริง ๆ ก็ต้องเดินหน้าหาใหม่  คิดไปคิดมาก็เริ่มรู้สึกง่วงงุน  ผ่านไปไม่กี่นาทีเปลือกตาสีอ่อนก็ปิดลง  ก่อนจะหลับใหลและจมดิ่งสู่ห้วงนิทรา มิวายเอ่ยปลอบขวัญตนเองไม่ให้เสียใจถ้าพลาดพลั้งโอกาสจากงานนี้ไป “ยังไงก็ได้อยู่แล้วน่า อย่าไปคิดมากเลยอิม นอนได้แล้ว”

    “อืม...ควร นอน ได้ แล้ว...งืม ๆ ” 

    คร่อก!!

     

    ติ๊ง!!!

    Email คุณมีแจ้งเตือนจาก...Masterwe33

     

     

    TBC.

    Talk : สวัสดีค่ะ ขออนุญาตมาแจ้งเตือนว่าไรท์จะทำการรีไรท์เรื่องนี้ใหม่ หลังจากที่บอกมาตลอดว่าจะรีนางไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง  ทั้งนี้ทั้งนั้นไรท์จะขอบอกว่าไรท์ได้ทำการเปลี่ยนภาษาที่ใช้ในการบรรยาย(คุณรี้ดอาจจะรู้อยู่แล้วอิอิ) ให้เป็นมุมมองที่ไรท์คิดว่าตัวเองถนัดพอสมควร จริง ๆ ก็อยากจะลองในมุมมองเดิมนะแต่ดูเหมือนมันจะไปไม่รอด ฮือออ สุดท้ายนี้ไรท์อยากแจ้งแค่ว่า จะมีเนื้อหาบางอย่างที่ถูกเปลี่ยนไปจากเดิมเล็กน้อย ซึ่งตัวไรท์เองก็ยังบอกไม่ได้เพราะพล็อตแตก ไม่ใช่แตกจากเดิมนะคะหมายถึงมันแตกเพิ่มขึ้นมาใหม่ ฮะ ๆ  แต่ก็ยังคงมีเนื้อความเดิมอยู่แบบเยอะมาก อาจจะทั้งหมดแต่จะมีบางสิ่งเปลี่ยนไป  พวกใจความหลักหรือปมหลัก ๆ อะไรพวกนี้ แล้วก็พวกน้ำที่เยอะ ๆ ซึ่งไรท์จะตัดมันออกไป  ใครที่เคยอ่านไปแล้วก็มาเริ่มต้นกันใหม่ค่ะ ฝากบอกคนเก่าด้วยว่า วันนี้ไรท์นำทุกความคิดเห็น ทุกคำติชมของพวกคุณมาปรับใช้และแก้ไขแล้วนะ เรามาเริ่มกันอีกครั้งหนึ่งเถอะ!! 

    ส่วนใครที่ยังไม่เคยอ่านก็ขอฝากเนื้อฝากตัว ฝากหัวใจและผลงานอื่น ๆ ของไรท์ด้วยนะ คือตัวไรท์น่ะมีพล็อตเยอะมากเลยแต่ทำไม่ทันค่ะ แต่งไม่ทัน  แต่ถ้าตอนไหนไรท์เก่งกว่านี้ก็จะเอาให้สุด ๆ ไปเลย แบบเปิดทีสิบเรื่องแต่งจบเรื่องเดียว  อะหยอกเล่น หยอกเล่น ฮ่า ๆ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×