ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Traveling | SF / OS [ JackJae ] #การเดินทางของแจ็คแจ

    ลำดับตอนที่ #19 : [OS] Fools | #JackJae

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.1K
      20
      3 เม.ย. 60


    Fools



     

     

    Line!

     

    You have a new message!

     

     

    ...

     

     

    W852 : ยองแจ

     

                        ว่างคุยมั๊ย

     

              ขอคุยด้วยหน่อยดิ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    Line!

     

    CYJ : คอลมาได้มั๊ย

     

    เล่นเกมอยู่ มือไม่ว่าง

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    Line!

     

    W852 : เฮ้ย งั้นไม่เป็นไร เอาไว้ก่อนก็ได้

     

     

     

     

     

     

     

    “...ไว้ ...ค่อย...คุย...กัน...เฮ้ย!”

     

    แจ็คสันสะดุ้งเฮือก หลังหน้าจอโทรศัพท์มือถือที่ควรจะเป็นโปรแกรมแชทยอดฮิต กลับมีหน้าแจ้งเตือนเบอร์โทรเข้าจากเพื่อนสนิทขึ้นมา

     

    เพื่อนสนิทจอมติดเกม ชเวยองแจไง จะใครล่ะ

     

    ฮัลโหล…”

     

    กว่าจะรู้ตัว มือก็เผลอกดรับและกรอกเสียงสั่นๆนั่นผ่านโทรศัพท์เข้าไปซะแล้ว

     

    พนันได้เลยว่าคนปลายสายจะต้องล้อเสียงติดอ่างของเขาแน่นอน

     

    [มาติดองติดอ่างอะไรของมึงน่ะ]

     

    นั่นไงล่ะ ทำไมทีซื้อหวยไม่ถูกแบบนี้บ้างนะ

     

    ปลายสายแซวเสียงติดอ่างของเขาแบบไม่ค่อยจริงจังเท่าไหร่นัก เสียงเกมออนไลน์และเสียงคลิกเมาส์รัวๆที่ดังลอดเข้ามาทำให้เขาเดาได้ไม่ยากว่าอีกฝ่ายคงกำลังสนุกกับเกมแค่ไหน

     

    แต่ถึงกับโทรกลับมาแบบนี้ ถือว่าผิดคาดไปเยอะเหมือนกันแฮะ

     

    [เอ๊า ไหนบอกมีอะไรจะคุยกับกูไง ทำไมเงียบอ่ะ]

     

    “…เอ่อ…”

     

    [ไม่ต้องมาเอ่อเลย รีบๆพูดมาเร็ว กูจะโดนตัวบอสแด กหัวแล้วเนี่ย]

     

    “…งั้นไว้เดี๋ยวค่อยคุยก็ได้ ให้มึงเล่นเกมก่อ…”

     

    [ไม่เป็นไร กูอยากรู้มากกว่าว่ามึงมีอะไรจะบอก เร็วๆๆ]

     

     

    อางานเข้าแล้วไงล่ะ หวังแจ็คสัน

     

     

    พัง! พัง! พัง!

     

    บอกเลยว่างานนี้มีแต่คำว่าพัง

     

    แผนการที่เขาอุตส่าห์อดหลับอดนอนคิดขึ้นมา ทำใจอยู่ตั้งนานกว่าจะกล้าเริ่มทำตามแผนนั่น ทั้งหมดพังเละแบบไม่เหลือชิ้นดีทันทีอีกฝ่ายตัดสินใจโทรกลับมาหาเขาแบบนี้

     

    ถ้าแค่พิมพ์บอก...มันก็คงจะดีกว่านี้

     

    อย่างน้อยคำพูดของคนเราในห้องแชท มันก็ไม่มีเสียงนี่นะ

     

    ...

     

     

    แต่ว่า ไอ้จะวางสายหนีไปแบบดื้อๆก็คงไม่เวิร์คสักเท่าไหร่ แจ็คสันรู้จักกับยองแจมานานพอที่จะรู้ว่าเขาไม่ควรดูถูกความขี้เสือ กของอีกฝ่าย

     

    ยิ่งเขาไปกระตุ้นอีกฝ่ายด้วยคำว่ามีอะไรจะบอกแบบนี้ด้วยแล้วน่ะนะ

     

     

    ไม่มีอะไรที่ชเวยองแจอยากรู้ แล้วจะไม่ได้รู้

     

    นั่นล่ะ คติประจำใจของคุณเขาล่ะ

     

     

    [เอ๊า ตกลงมึงจะพูดมั๊ยเนี่ย เปลืองค่าโทรศัพท์กูนะเว้ย]

     

    ทีมึงเอาเงินไปเติมตังค์ในเกม ไม่เห็นบ่นงี้บ้างเลย

     

    [แหน่ะ มีย้อนกูอีกไม่ต้องนอกเรื่องเลยครับเพื่อน เร็วๆ อยากรู้จนตัวสั่นแล้วเนี่ย]

     

    เชื่อหรือยังล่ะ ว่าความขี้เสือ กของชเวยองแจน่ะ ของจริง

     

    เออๆ แป๊บนึง ขอกูทำใจก่อน

     

     

    ตอบเพื่อนสนิทไปด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง แต่ใครจะรู้ ว่าในความเป็นจริงแล้ว หวังแจ็คสันกำลังนั่งหน้าเครียดอยู่บนเตียง มือที่จับโทรศัพท์แนบหูอยู่ตอนนี้น่ะ สั่นพอๆกันกับหัวใจที่กำลังเต้นตุบๆอยู่ในอกข้างซ้ายเลยล่ะ

     

    ก็แค่พูด

     

    แค่พูด

     

    มันจะอะไรนักหนาวะ

     

    ก็อุตส่าห์วางแผนมาแล้วไม่ใช่หรือไง

     

    ต้องทำได้ดิ

     

    อย่าป๊อดดิวะแจ็คสัน

     

     

    ก็แค่พูด...

     

     

    [เอ้าๆ ตกลงจะพูดไม่พูดเนี่ย ไม่งั้นกูจะวางแล้วนะ]

     

    แต่เหมือนแจ็คสันจะมัวแต่ทำใจนานเกินไปสักหน่อย อีกฝ่ายถึงได้ตอบกลับมาแบบนั้น

     

    “ก็ให้กูทำใจก่อนสิ มันเรื่องสำคัญนี่”

     

    [ทำใจห่ าอะไร น้านนาน]

     

     

     

     

    [...ทำอย่างกับว่าจะมาบอกชอบกูอย่างนั้นแหละ  ฮะๆ]

     

     

    “...”

     

    [...]

     

    “...”

     

    [...ฮัลโหล]

     

    “...”

     

    [นี่มึงยังอยู่ในสายป่ะเนี่ย...]

     

    “...”

     

    [ฮัลโหล...แจ็คส...]

     

     

     

     

    “...เออ...กูชอบมึง...”

     

     

    [...]

     

    “...”

     

    [ ...]

     

    “...”

     

    [...]

     

    “...จ...จริงๆแล้วคือ...”

     

     

     

    [...เออ กูก็ชอบมึง...]

     

     

     

     

     

    ความรู้สึกที่เสียงมันถูกกลืนหายไปในลำคอเป็นยังไง วันนี้แจ็คสันเพิ่งเคยสัมผัสเป็นครั้งแรก

     

    ริมฝีปากอ้าออกเหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง แต่กลับไม่มีคำพูดใดหลุดออกมาสักคำ

     

    นี่ถ้าไม่เกรงใจว่าโทรศัพท์ซื้อมาแพง ป่านนี้เจ้าเครื่องสี่เหลี่ยมคงได้หล่นไปนอนแอ้งแม้งอยู่ที่พื้นแล้วเป็นแน่แท้

     

    ม...เมื่อกี๊...

     

    ว่าไงนะ...

     

    แม่ งเอ๊ย

     

    อยากจะสบถออกมาดังๆหลังเจ้าหัวใจไม่รักดีดันเต้นรัวขึ้นมา เต้นแรงจนน่ากลัวว่าอีกฝ่ายจะไปได้ยินเข้าแบบนี้

     

    [หึ ถึงกับช็อคเลยเหรอ]

     

    ได้ยินเสียงปลายสายดังแว่วเข้ามาในหูพร้อมๆกับเสียงหัวเราะหึ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าที่จริงอีกฝ่ายพูดอะไรมากกว่านี้อีกมั๊ย เพราะตอนนี้สมองของเขามันแทบจะปิดการรับรู้ไปแล้วล่ะ

     

    เออ กูช็อคมาก

     

     

    แล้วก็...

     

     

    ดีใจ...มาก

     

    มีความสุข...มากๆ

     

    กู...

     

     

     

     

     

     

    [Happy April Fools’s day]

     

    [นี่ใช่มั๊ย เรื่องที่มึงอยากจะบอกกู]

     

     

     

     

     

     

     

    “...”

     

    [ไม่ต้องมาทำเป็นช็อกเลยสัด โดนเล่นกลับนิดนึงถึงกับช็อกไปเลยหรือไง ฮ่าฮ่าฮ่า]

     

    “...”

     

    [มุกนี้น่ะ มันเชยจะตายไป รู้หรือเปล่า ไปหัดมาใหม่นะครับน้องแจ็คสัน]

     

    “...”

     

    [ฮัลโหล...? แจ็คสัน..?]

     

    “..อ...เอ้อ นั่นสิ...มึงนี่ก็นะ เล่นเอากูช็อกไปเลย ฮะๆ”

     

    [...]

     

    “งั้น...กูไม่กวนแล้วละกัน ตั้งใจจะแค่โทรมากวนตีนมึงเล่นเนี่ยล่ะ...”

     

    ได้ยินเสียงก่นด่าจากคนปลายสายดังแว่วเข้ามาเรื่อยๆ พอจับใจความได้บ้างว่าอีกฝ่ายคงกำลังก่นด่าที่เขาไปกวนประสาทใส่เจ้าตัว

     

    ตลกดี

     

    ความรู้สึกเหมือนเสียงของอีกฝ่ายค่อยๆห่างออกไปเรื่อยๆแบบนี้ ก่อนหน้านี้แค่ไม่กี่วินาที แจ็คสันก็เพิ่งมีความรู้สึกแบบไปนั้นแท้ๆ

     

    แต่มันกลับต่างกันโดยสิ้นเชิง

     

    ก่อนหน้านี้เขายิ้มกว้างมากแค่ไหน ให้หารลงไปด้วยสิบ

     

    ก่อนหน้านี้ใจเขาเคยเต้นแรงแค่ไหน ตอนนี้ เขากลับรู้สึกหัวใจของเขากำลังค่อยๆเต้นช้าลงไปเรื่อยๆ

     

     

     

    “เออ...ไว้เจอกันพรุ่งนี้...”

     

    สายตัดไปแล้ว

     

    ป่านนี้ชเว ยองแจคงกำลังนั่งตีป้อมในเกมมันส์เลยล่ะ

     

    ไอ้เรื่องโกหกเมื่อครู่ คงเป็นเหมือนแค่ลมผ่านหู เป็นแค่เรื่องขำๆสำหรับหมอนั่นงั้นสินะ

     

    หึ

     

    เจ็บดีจัง

     

    ทั้งที่จริงๆแล้ว นั่นก็เป็นความตั้งใจแรกของเขาเหมือนกันแท้ๆ

     

     

    เขาตั้งใจอยู่แล้ว...ว่าจะให้มันเป็นแค่เรื่องโกหก

     

    ความรู้สึกของเขานั่นล่ะ

     

    เพราะเป็นคนคิดอะไรก็แสดงออกไปเสียหมด แต่กับเรื่องนี้...คงเป็นเรื่องแรกและเรื่องเดียวในชีวิตเลยล่ะมั้ง ที่เขารู้สึก...แต่แสดงออกไปไม่ได้

     

    มันก็...อึดอัดนะ

     

    เพราะงั้น แค่คิดว่าอย่างน้อย ถ้าได้บอกไปสักครั้ง

     

    อย่างน้อย ถ้าบอกไปแล้ว ความสัมพันธ์ของเรายังเป็นเหมือนเดิม

     

     

    กะอีแค่ให้ความรู้สึกของเขามันกลายเป็นเรื่องโกหกน่ะ...มันไม่เป็นไรหรอก

     

     

    แด่ความรู้สึกของผม

     

    "Happy April Fools’ Day”

     

     

     

    ==Jackson’s part ends==

     

    (ช้าก่อน! อย่าเพิ่งกดปิดนะจ๊ะ เลื่อนลงไปๆ)

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “แม่ งเอ๊ย”

     

    ริมฝีปากสบถคำหยาบคายออกมาเป็นรอบที่สิบ หลังเจ้าตัวพาเพื่อนในทีมแพ้และเพิ่งโดนเตะออกจากกลุ่มมาแบบหมาดๆ

     

    เออ! ได้!

     

    กูไม่เล่นแล้วก็ได้! แม่ งเอ๊ย!

     

     

    คอมพิวเตอร์ถูกปิดลงแทบจะพร้อมๆกันกับร่างเล็กที่ทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ มือข้างหนึ่งยกขึ้นก่ายหน้าผาก คิ้วเรียวขมวดมุ่นราวกับมีเรื่องให้ต้องคิดหนักอยู่ในหัว

     

    เออ อันที่จริงมันก็มีนั่นแหละ

     

    ยอมรับว่า สองชั่วโมงที่ผ่านมา เขาแทบไม่มีสมาธิเล่นเกมเลยสักนิด เล่นห่วยจนโดนเตะออกจากกลุ่มอย่างที่เห็นนั่นล่ะ

     

     

     

    [...เออ...กูชอบมึง...]

     

     

     

    “พ่อมึงเหอะ”

     

    คำหยาบคายหลุดออกจากริมฝีปากเป็นรอบที่ล้าน...เอาเป็นว่ายองแจขี้เกียจจะนับมันแล้ว...

     

    “เฮ้อ...”

     

    พอๆกันกับเสียงถอนหายใจนั่นล่ะ

     

    “คิดว่าเป็นวันเมษาหน้าโง่แล้วมึงจะโกหกอะไรก็ได้อย่างงั้นเหรอ หวังแจ็คสัน”

     

    ริมฝีปากพึมพำออกมาเบาๆอย่างเหนื่อยใจต่อเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้

     

     

    เขาว่ากันว่า ในคำโกหกมักจะมีความจริงซ่อนอยู่ในนั้นเสมอ

     

    มันน่าตลกดีนะ ทั้งๆที่เป็นวันโกหก แต่คนเรากลับพูดความจริงกันในวันนี้มากกว่าคำโกหกเสียอีก

     

    อย่างน้อยๆก็เขาคนนึงนั่นล่ะ

     

     

    “คิดว่าโกหกเป็นคนเดียวหรือไง ไอ้บ้าเอ๊ย”

     

     

    ถ้าแจ็คสันสามารถโกหกได้แบบสบายๆว่าชอบเขา

     

    กะอีแค่ทำให้ความรู้สึกของตัวเองกลายเป็นแค่เรื่องโจ๊กขำๆน่ะ ยองแจก็ทำได้อยู่แล้วล่ะ

     

     

    เดิมที ยองแจไม่มีความคิดจะบอกเรื่องความรู้สึกบ้าๆนี่ให้ใครรู้อยู่แล้ว

     

    พวกที่เอาแต่พูดๆกันว่าถ้าไม่บอก โอกาสของคุณจะเท่ากับศูนย์ทันทีน่ะ...คนพวกนั้นคงไม่รู้หรอกมั้ง ว่าความรู้สึกเวลาโอกาสของเรามันถูกติดลบให้น้อยซะยิ่งกว่าศูนย์น่ะ มันเป็นยังไง

     

    มันอาจจะไม่มีอะไรยืนยันว่าคุณจะได้คนรักกลับมาหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆคือคุณอาจจะต้องเสียเพื่อนที่ดีที่สุดคนหนึ่งไป

     

    แน่นอน คนป๊อดๆอย่างยองแจน่ะ ไม่มีทางทำอะไรแบบนั้นหรอก

     

    มันเสี่ยงเกินไป

     

    แล้วในเมื่อเป็นแบบนี้มันก็ไม่ได้แย่อะไรสักเท่าไหร่

     

    มันก็...โอเคแหละนะ

     

     

    “พรุ่งนี้เจอแน่ หวังแจ็คสัน เวลาจะโกหกอะไร หัดมีศิลปะบ้างเหอะ”

     

    คนตัวเล็กพึมพำกับตัวเองเป็นประโยคสุดท้าย พร้อมๆกับหมอนหนุนใบโตที่ลอยไปกระแทกเจ้าตุ๊กตาเต่าเซนิกาเมะจนหล่นลงมาจากหัวเตียง ก่อนเจ้าตัวจะปัดความคิดฟุ้งซ่านในหัวทิ้งไปและได้ฤกษ์ลงไปทานข้าวเย็นข้างล่างสักที

     

     

    Behind every lie, there’s always a truth.

     

    แด่ความป๊อดของคนสองคน

     

    Happy April Fools’ Day.

     

    Fin.

    #การเดินทางของแจ็คแจ

    #AprilFoolsDay


    อนึ่ง หมาจิ้งจอก มักถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของความเจ้าเล่ห์ ในความเชื่อของชาวเอเชียตะวันออก

    April Fools' Day ย้อนหลังกันสักสองสามวันนะคะ 5555

    Enjoy Reading ค่ะ ^^




     

     

    ? themy butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×