คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : [SF] Yesterday EP 2 : Even though I smile | JackJae
สำหรับเพลงประกอบ EP นี้นะคะ
I wonder if you hurt like me BY 2AM
Enjoy Reading ค่ะ
**************************************************************************************************
I smile and smile...but only tears flow again
บรรยากาศยามบ่ายแก่ๆภายในออฟฟิศย่านใจกลางเมืองหลวงค่อนไปทางเงียบสงัด พนักงานแต่ละคนต่างจมอยู่กับงานกองพะเนิน บางส่วนทำงานไปเฉยๆเงียบๆ ในขณะที่บางส่วนจำเป็นต้องพึ่งเสียงเพลงจากหูฟังของตนเพื่อไล่อาการง่วงงุน
ยองแจเป็นหนึ่งในคนกลุ่มหลัง คนตัวเล็กขยับนิ้วมือไปพร้อมๆกับจังหวะเพลงอย่างไม่รู้ตัวขณะกำลังไล่สายตาอ่านทวนงานที่จะต้องส่งให้หัวหน้า บางครั้งก็มีเผลอโยกหัวตามบ้างหากเป็นเพลงบีทหนักๆจนต้องโยกตาม
“อารมณ์ดีเชียวนะยองแจ”
เหมือนได้ยินเสียงใครเรียกดังแว่วเข้ามา เจ้าของชื่อละสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ก่อนเงยหน้าขึ้นสบตารุ่นพี่ที่ทำงาน ยองแจตกใจ รีบถอดหูฟังออกจากหูทั้งสองข้างพลางเอ่ยขอโทษขอโพยรุ่นพี่ที่ตนไม่ได้ฟังประโยคเมื่อครู่
“พี่จินยอง ขอโทษฮะ เมื่อกี๊ผมไม่ได้ยินที่พี่พูดเลย สงสัยผมเปิดเพลงดังไปหน่อย”
“เฮ้ย ไม่เป็นไร ไม่ต้องขอโทษอะไรขนาดนั้นก็ได้ พี่แค่แซวเล่นเฉยๆว่าวันนี้ทำไมเราดูอารมณ์ดีจัง เห็นขยับตามเพลงทั้งหัวทั้งมือ”
คนถูกแซวยิ้มแห้งๆด้วยความอายที่ถูกจับได้ สงสัยว่าเขาจะเพลินกับเพลงมากไปหน่อยแฮะ ถึงขนาดพี่จินยองที่นั่งอยู่ฝั่งโน้นยังเดินมาแซว...งื้อออ ปล่อยไก่ไปขนาดไหนแล้วเนี่ย ชเว ยองแจ
“แหะๆ ผมอาจจะอินกับเพลงไปหน่อย...ว่าแต่ พี่จินยองมีอะไรหรือเปล่าฮะ”
“จริงๆแล้วพี่แค่จะเดินมาชงกาแฟน่ะ แต่เห็นเรากำลังอินๆเลยเข้ามาแซวซะหน่อย...เอ้อ จริงสิ! เย็นวันนี้พวกสาวโสดในออฟฟิศเราเขาจะจัดปาร์ตี้กันที่ผับแถวย่าน XXX น่ะ เขามาชวนพี่แล้วก็ให้มาถามยองแจด้วยว่าสนหรือเปล่า”
คนตัวเล็กลังเลเล็กน้อยหลังฟังคำชวนจากรุ่นพี่ แน่นอนว่าคำตอบแต่แรกในใจของเขาก็คือ ‘ไม่’ เพราะแต่ไหนแต่ไรเขาก็เป็นคนไม่ชอบเที่ยวกลางคืนตามร้านพวกนั้นอยู่แล้วด้วย ขืนไปคงทำให้เพื่อนๆพี่ๆหมดสนุกเปล่าๆ แต่ถึงขนาดพี่จินยองมาชวนแบบนี้ แล้วเขาปฎิเสธไป มันจะ...
“คือ...ขอบคุณมากนะฮะที่ชวน แต่...ผมไม่ค่อยชอบเที่ยวอะไรแบบนี้เท่าไหร่น่ะฮะ กลัวจะไปทำให้เสียบรรยากาศเปล่าๆ...ขอโทษนะฮะพี่จินยอง แล้วก็ฝากขอโทษพวกพี่สาวด้วยที่ไม่ได้ไป”
“ไม่เป็นไรๆ ไม่ต้องขอโทษขอโพยขนาดนั้นก็ได้ พี่เข้าใจเราน่ะ...พี่ไปทำงานต่อละนะ”
จินยองพูดด้วยรอยยิ้มก่อนเดินจากไป ยองแจถอนใจเบาๆเพื่อไล่บางอย่างที่อยู่ดีๆก็เข้ามารบกวนจิตใจก่อนหันกลับไปจดจ่อกับงานอีกครั้งหนึ่ง
...ไอ้ไปผับน่ะ...สมัยเรียนก็เคยไปอยู่หรอก...
...แต่เพราะเมื่อก่อนเคยถูกห้ามไว้ไม่ให้ไปน่ะสิ...ถึงได้ติดนิสัยไม่ชอบไปเที่ยวแบบนี้ซะได้...
...ไม่เอาๆๆ ชเว ยองแจ...นี่เวลาทำงานนะ!...จะมาฟุ้งซ่านอะไรแบบนี้ไม่ได้!!...ทำงานๆๆๆๆ วู้ว...
걸음걸음 니 모습이 밟혀서
Step by step, i see you
일을 하다가도 나도 모르게 또 흐른다
So even as i work, tears flow without me knowing
ดึกแล้ว...แต่ยองแจก็ยังไม่ออกจากที่ทำงาน
เป็นเรื่องปกติไปซะแล้วที่เขามักจะออกจากออฟฟิศเป็นคนท้ายๆเสมอโดยให้ข้ออ้างกับบรรดาพี่ๆไปว่า เพราะอยู่บ้านคนเดียว รีบกลับไปก็ไม่รู้จะไปทำอะไร สู้อยู่ปั่นงานที่นี่ให้เสร็จดีกว่า
ก็ดีนะ...พอทำงานเสร็จ กว่าจะถึงบ้านก็มืดค่ำ กินอะไรนิดหน่อยแล้วก็สลบเลยเพราะความเหนื่อย จะได้ไม่มีเวลามานั่งคิดอะไรไร้สาระ
...เรื่องบางเรื่อง...ก็เป็นอะไรที่...ไม่หวนกลับไปคิดถึงเลยคงจะดีกว่า...
...จริงมั๊ย...
RRRrrr…
ยองแจละมือที่กำลังจัดเก็บพวกเอกสารใส่แฟ้มให้เรียบร้อยก่อนหันไปหยิบสมาร์ทโฟนเครื่องบางที่นอนสั่นอยู่บนโต๊ะทำงาน ชื่อที่ขึ้นอยู่บนหน้าจอทำให้คนตัวเล็กต้องอมยิ้มน้อยๆ
-เด็กยักษ์-
“ว่าไงยูคยอมมี่”
[วันนี้เสียงสดใสเชียว มีเรื่องไรดีๆเหรอพี่ยองแจ]
“สดใสอะไร เหนื่อยจะตายอยู่แล้วเนี่ย กลับไปสลบเหมือดชัวร์”
คนตัวเล็กว่าด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ เอียงคอไปด้านขวาเพื่อใช้หนีบโทรศัพท์มือถือระหว่างที่เขากำลังใช้มือทั้งสองข้างจัดการข้าวของบนโต๊ะให้เรียบร้อยก่อนกลับบ้าน
[นี่พี่ดูแลสุขภาพบ้างป่ะเนี่ย โหมงานมันก็ดี...แต่ดูแลสุขภาพบ้าง รู้มั๊ย]
“มาอีกละ ยูคยอมโหมดคุณแม่ขี้บ่น”
[ย่าห์ พี่ไม่ต้องมาแขวะผมเลยนะ จำไม่ได้หรือไงว่าใครเป็นคนหยอดข้าวต้มให้ตอนที่พี่ป่วยเมื่อเดือนที่แล้ว]
ยองแจหัวเราะเสียงใสเมื่อถูกรุ่นน้องตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงติดจะงอนๆ ก็แซะไปอย่างนั้นแหละน่า ใจจริงเขาก็รู้ว่าเด็กยักษ์นี่เป็นห่วงเขาขนาดไหน
ถึงยูคยอมจะเป็นแค่หลานรหัสสมัยอยู่มหาวิทยาลัย แต่ไม่รู้ทำไมเขาถึงรู้สึกถูกชะตากับเด็กคนนี้เป็นพิเศษ จะว่ารู้สึกสนิทใจตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอเลยก็ว่าได้ แต่แทนที่จะได้รุ่นน้องในโอวาท ยองแจกลับรู้สึกเหมือนตัวเองได้แม่มาเพิ่มอีกหนึ่งคนซะมากกว่า บ่นซะจนบางทียองแจต้องยอมทำตามเพราะตัดรำคาญ แต่หลายครั้งเขาก็รู้สึกขอบคุณรุ่นน้องคนนี้ที่ยังอยู่เคียงข้างกันมาตลอดแม้จะจบจากมหาวิทยาลัยมาหลายปีแล้วทั้งคู่ก็ตาม
แม้แต่ในช่วงเวลาที่ย่ำแย่ที่สุดช่วงหนึ่งในชีวิตของเขา...ก็มียูคยอมนี่แหละที่คอยเตือนสติ คอยบ่น คอยให้กำลังใจจนเขาผ่านมันมาได้...
[แต่เห็นพี่ยิ้ม พี่หัวเราะได้แบบนี้ผมก็ค่อยสบายใจหน่อย ถึงผมจะโดนแซะก็เหอะ...แต่นี่ก็...ดีกว่าเมื่อก่อนเยอะ]
“...”
[ผมเป็นห่วงพี่จริงๆนะ...อย่ากลับไปเป็นแบบนั้นอีกนะผมขอร้อง สภาพพี่เหมือนจะตายเลยตอนนั้นรู้เปล่า]
“...พูดแบบนี้ เดี๋ยวแฟนก็หึงเอาหรอกนะเด็กยักษ์”
[ผมยอมเป็นห่วงพี่เป็นคนที่สี่รองจากพ่อ แม่ แล้วก็แฟนผมเลยอ่ะ...อันที่จริงไม่ต้องเป็นห่วงยัยนั่นก็ได้เพราะถึกจะตาย ฮ่าฮ่าฮ่า...โอ๊ยยยย พี่ยองแจ...ผมถูกดึงหูอ่ะ! โอ๊ยยยย ผมวางก่อนนะพี่ บายครับ]
ยองแจแทบกลั้นขำไม่ไหวหลังได้ยินเสียงโวยวายดังลอดมาตามสายโทรศัพท์ เขาจัดการเก็บข้าวของให้เรียบร้อยและเดินไปยังลานจอดรถเพื่อกลับบ้านสักที
ถนนช่วงสามถึงสี่ทุ่มรถราไม่ค่อยมากเหมือนช่วงหัวค่ำ และนั่นถือเป็นเรื่องดีสำหรับคนที่ขับรถไม่ค่อยแข็งอย่างยองแจ จริงๆใบขับขี่ก็ได้มาตั้งนานแล้วล่ะ แค่ช่วงก่อนหน้านี้เขาไม่ค่อยได้ขับรถ มันก็ต้องมีไม่ชิน มีลืมๆกันไปบ้างแหละน่ะ
มือข้างหนึ่งกดเปิดเพลงจากเครื่องเล่นภายในรถ เสียงเพลงฮิปฮอปบีทหนักๆดังออกมาตามลำโพง บางเพลงแร็พเร็วเสียจนยองแจฟังไม่ทันด้วยซ้ำ ถึงจะเป็นภาษาเกาหลี ภาษาบ้านเกิดเขาก็ตามทีเถอะ
노래를 불러도
Even when i sing
거리를 걸어도
Even when i walk the streets
온통 니 생각 뿐인데
I’m filled with thoughts of you
‘เฮียยย เพลงไรของเฮียเนี่ย ฟังละอย่างปวดหัวอ่ะ’
‘ฮิปฮอปไง เราไม่ชอบฮิปฮอปเหรอ’
‘ก็...ไม่ใช่แนวเท่าไหร่อ่ะ แจชอบฟังเพลงช้าๆ เพลง pop ทั่วๆไปมากกว่า... เฮียชอบเหรอ’
‘ช่ายยย เนี่ยแนวเฮียเลย SWAG!’
‘…’
‘อะไร ทำไมทำหน้างั้นอ่ะ เฮียไม่เท่ห์หรือไง’
‘อย่าพยายามเลยเฮีย แจว่ามันไม่เข้าอ่ะ’
‘ใจร้ายว่ะตัวเล็ก...เอางี้ เรามาสลับกันฟังเพลงละกัน โอเคป่ะ วันนี้ขอเฮียฟังเพลงแบบที่เฮียชอบก่อน ละวันต่อไปก็ตาแจ สลับกันไปแบบนี้ดีมะ’
‘อืมมม ก็ได้ สัญญานะ’
‘ด้วยเกียรติของลูกเสือสามัญเลยเอ้า’
‘บ้า ลูกเสือไรของเฮียเนี่ย ฮ่าฮ่าฮ่า’
เรื่องตลกร้ายก็คือ...กลับเป็นเขาซะเองที่ชอบเพลงแนวโปรดของอีกคนไปแบบไม่รู้ตัว...
...ขนาด ในวันนี้...วันที่คนข้างๆจะไม่อยู่เหมือนเคย...ซีดีแผ่นเดิมก็ยังคงถูกเปิด ซ้ำไปแบบนั้น...ฟังซ้ำจนบางเพลงยองแจแทบจะแร็พตามทันแล้วล่ะ...
...ตลกร้ายดีมั๊ยล่ะ...ฮะฮะ...
ทวาน์โฮมหลังขนาดกลางๆคือจุดหมายปลายทางของวันนี้ ยองแจเลี้ยวรถเข้าไปจอดในบ้านตามความเคยชิน คิดๆไปแล้วก็ตลกดี เมื่อสองเดือนก่อน ตอนจะถอยรถเข้าบ้าน เขายังขับเฉี่ยวกระถางต้นไม้ล้มเป็นสิบๆใบอยู่เลย
อาหารจานเดียวแบบง่ายๆถูกทำขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อนเจ้าตัวจะพาตัวเองมานั่งทานที่โต๊ะญี่ปุ่นเล็กๆหน้าโทรทัศน์ มือเล็กเอื้อมหยิบรีโมทก่อนกดเปิดเพื่อไล่ความเงียบภายในบ้าน
ข่าวการบ้านการเมืองลอยผ่านเข้าหูซ้ายก่อนทะลุออกหูขวาอย่างรวดเร็ว แต่ไหนแต่ไรแล้วยองแจเป็นคนไม่ชอบดูข่าวสักเท่าไหร่ ที่ทุกวันนี้ยังพอทันกระแสสังคมบ้างนี่ต้องขอบคุณแอพพลิเคชั่นอย่างเฟซบุ๊คและทวิตเตอร์ ไม่อย่างนั้นเขาคงถูกหาว่าเป็นพวกหลังเขาแหงๆ
รายการเพลงที่มาต่อหลังจากข่าวต้นชั่วโมงจบไปทำให้เขาค่อยรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย ยังไงซะฟังเพลงก็ยังดีกว่าฟังข่าวล่ะนะ
하루종일 니 생각만 하다가
As i think only of you all day
한 가닥 눈물이 멋대로 주르륵 흐른다
A single stream of tear flows on its own
...โอเค...เขาชักไม่แน่ใจแล้วว่าฟังเพลงกับฟังข่าวอันไหนมันดีกว่ากัน...
เพลงที่เปิดเป็นเพลงบัลลาดสไตล์ที่เขาชอบมันก็ดีอยู่หรอก แต่ความหมายนี่สิ...
...ให้ตายเถอะ...
'ยองแจอา สนใจเฮียบ้างดิ'
'...'
'...ยองแจอาาาา นี่เราเล่นเกมส์มาเป็นชั่วโมงแล้วนะ...'
'ยองแจจจจจจ'
'อื้ออ เฮียอย่าเพิ่งกวนดิ อีกนิดจะชนะแล้ว...อีกนิดนึง...'
'เราพูดกับเฮียแบบนี้มาตั้งแต่ชั่วโมงที่แล้วละนะ'
'...น่า...อีกนิดนึง ก็แจทิ้งทีมไม่ได้นี่หว่า..'
'ทิ้งทีมไม่ได้ เลยมาเทเฮียแทนใช่มั๊ย เอ๊ออ...ก็ให้มันรู้ไป...'
'...ง่า เฮียอย่างอนดิ...'
'...'
'...เฮียยยย...'
'...'
'...โอเคๆ เเจเลิกเล่นก็ได้...'
'...'
'...ห้าโมงละนี่...เฮียอยากกินไรมั๊ย เดี๋ยวแจลงไปซื้อให้'
'...'
'...ย่าห์! เฮียอ่ะ! เลิกทำตัวขี้งอนแบบสาวใสๆวัยสิบแปดได้มั๊ยเนี่ย อายุก็ปาไปครึ่งห้าสิบละนะ!...ย่าห์ หวัง แจ็คสัน!'
'มาหาว่าเฮียเด็ก เรานั่นแหละ เอาแต่เล่นเกมส์ ไม่สนเฮียเลย'
'ก็เลิกเล่นเเล้วไง...'
'ง้อก่อน'
'ง้อไรอ่ะ'
'...ก็ทำเฮียงอน เราก็ต้องง้อดิ'
'ง้อไงอ่ะ ง้อทีไรแจเสียเปรียบเฮียทุกทีเลย ไม่เอาด้วยหรอก...เฮ้ย! เฮีย!...งื้อ'
ตลกดีที่เรื่องบางเรื่องที่ทำให้ยิ้มได้ในวันนั้น กลับทำให้คนที่นึกถึงมันน้ำตาไหลได้ในวันนี้
เพราะงี้ไง ถึงไม่อยากกลับไปนึกถึงอีก
เพราะทุกครั้งที่คิดถึง สิ่งที่ตามมาคือน้ำตา
น้ำตาเป็นสัญลักษณ์ของคนอ่อนแอ...ยองแจไม่อยากเป็นคนอ่อนแอ
...ไม่เอาอีกแล้ว...
แค่คิดย้อนไปตอนนั้น...ตอนที่เขาเหมือนคนบ้า ไม่กิน ไม่นอน แค่นั่งเฉยๆน้ำตามันก็พาลจะไหลออกมา
ตอนนั้นแค่คิดว่า...ตัวของเขาเอง เขาจะเศร้า จะร้องไห้ จะทรมานตัวเองยังไงมันก็เรื่องของเขา คนอื่นไม่เกี่ยว ไม่ได้มาลำบากด้วยสักหน่อย...
'พี่คิดถึงพ่อแม่บ้างมั๊ย! คิดถึงคนรอบตัวพี่บ้างมั๊ย! คิดบ้างมั๊ยว่าเขาเป็นห่วงพี่ขนาดไหน!!'
'พี่อาจจะคิดว่า ไม่เป็นไร เรื่องของพี่ ให้ตายเถอะ พี่ยองแจ! ปริญญาสองใบที่พี่ได้มามันไม่ช่วยให้พี่คิดได้บ้างเลยใช่มั๊ย!'
'คิดถึงคนข้างหลัง คนที่เป็นห่วงพี่ด้วย พี่ทรมานแค่ไหน เศร้าแค่ไหน ให้รู้ไว้เลยว่าคนพวกนั้นเขาเจ็บมากกว่าที่พี่เป็นอยู่สองเท่า'
'...รักตัวเองบ้างเถอะนะ พี่ยองแจ...ถือซะว่าผมขอ...'
คำพูดเตือนสติของยูคยอมในวันนั้นทำให้เขาคิดได้
มันก็จริง
เขาเศร้า เขาทรมาน...แต่ไม่เคยคิดเลยว่าคนอื่นที่มองมา เค้าเป็นห่วงขนาดไหน...
แทนที่จะเอาเวลามาเศร้า...เอาเวลามาทำอะไรที่เป็นประโยชน์ แล้วทำเป็นลืมๆเรื่องพวกนั้นไปยังดีซะกว่า
เก็บเรื่องพวกนี้ไว้ให้ลึกที่สุด
พยายามไม่นึกถึง
พยายามทำงานอย่างหนักจนตัวเองเหนื่อย...เหนื่อยเกินกว่าจะเอาเวลามาคิดถึงเรื่องไร้สาระแบบนี้
พยายามยิ้มให้กว้างที่สุดเท่าที่จะทำได้...เพื่อให้คนอื่นสบายใจ
ยิ้ม...ร่าเริง...ทำตัวปกติทุกอย่าง
พยายาม...มีความสุข...
...พยายามแล้ว...
...แต่ทุกครั้งที่เผลอ...
...ทุกครั้งที่ปล่อยให้ตัวเองใจลอย...
เรื่องราวเก่าๆ กลับวิ่งวนเข้ามาในหัว เหมือนฉายหนังซ้ำไปซ้ำมา
คนที่คิดว่าลืมไปเเล้ว...เรื่องที่คิดว่าทำใจกับมันได้แล้ว...กลับย้อนมาทิ่มแทงได้ทุกครั้งที่เผลอหวนนึกถึง
ยิ่งเหมือนตอกย้ำตัวเองอยู่ทุกวัน
...ลืมไม่ได้...
...พยายามแค่ไหนก็ทำไม่ได้...
...ยังเจ็บทุกครั้งที่เผลอนึกถึง...
...เหมือนถูกมีดเล่มใหญ่ กรีดซ้ำไปซ้ำมาอยู่ทุกวันจนกลายเป็นแผลเหวอะหวะ...
ถึงจะทำแผลในใจทุกครั้งด้วยคำว่า 'ไม่เป็นไร' ทำตัวเหมือนใส่หน้ากากยิ้มทุกครั้งที่ออกไปพบเจอผู้คน...แต่ทุกครั้งที่ต้องอยู่คนเดียว แผลที่ว่ากลับถูกซ้ำจนช้ำอีกทุกครั้ง
...อ่อนแอ...จนบางครั้งก็แอบสงสัย...
...ใครอีกคน...จะรู้สึกแบบเดียวกันบ้างมั๊ย...
너도 나처럼 이렇게 아픈지
I wonder if you hurt like me
...ยังเจ็บ...ทุกครั้งที่นึกถึง...เหมือนกันมั๊ย...
너도 나처럼 눈물 나는지
I wonder if you cry like me
...ยังรัก...เหมือนกันบ้างหรือเปล่า...
너도 하루종일 이렇게 추억에 사는지 꼭 나처럼
I wonder if you live all day in memories like me
หรือมีแค่เขา...ที่ยังบ้าไปเองอยู่คนเดียว...
“เฮีย...”
...ขอแค่วันนี้...
...ขออ่อนแอ...อีกสักครั้ง...
“...แจ...รักเฮีย...นะ...”
...ก่อนจะต้องกลับไปใส่หน้ากาก...และบอกกับทุกคน...ว่าเขาเข้มแข็งพอ....
웃는 모습만 보여주니까
Because i show my smiles,
내가 행복한 줄만 아나 봐
They think i am happy
어떻게 웃어 내가 어떻게 웃어 니가 없는데
But how can i smile, how can i smile without you
웃어도 웃어도 눈물이 또 흘러
I smile and i smile but tears flow again
Yesterday EP 2 : Even though I smile - Fin
7/5/2016
21:39
Continue reading in EP 3
Cr.เพลง : I wonder if you hurt like me By 2AM
Cr. เนื้อเพลง
เนื้อภาษาเกาหลี : http://www.pingbook.com/music/lyrics.php?id=2460&song_id=17763
คำแปลภาษาอังกฤษ : http://www.kpoplyrics.net/2am-i-wonder-if-you-hurt-like-me-lyrics-english-romanized.html
Let's Talk
คลอด ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่าสำหรับ EP 2 ขอบอกก่อนเลยว่าแต่งค่อนข้างยาก หัวไม่ค่อยไปเลยค่ะ ฮือ ต้องขอโทษไว้ตรงนี้ด้วยนะคะถ้าเขียนแล้วไม่ม่าเท่าตอนพี่แจ็ค สุดฝีมือแล้วค่า TT
ตอนต่อไปจะเป็นตอนสุดท้ายแล้วสำหรับ SF ชุดนี้ ฝากติดตามด้วยนะคะ ^^
ขอแอบบ่นนิดนึงนะคะ ว่าด้วยเรื่อง รูปภาพประกอบของตอนนี้
คือ หารูปยากมากเลยง่ะ บอกเลย ทำไมในเครื่องเราถึงมีแต่รูปยองแจยิ้มซะโลกสดใส คือถึงชื่อตอนมันจะเป็น Smile ก็เถอะ เเต่มันไม่ใช่มั๊ยแกร๊ TT
ก็เลยได้มาเป็นรูปนี้แหละค่ะ คิดว่าคงพอไปกันได้อยู่ ฮ่าฮ่า
ขอบคุณทุกคนที่แวะเวียนเข้ามาอ่าน เข้ามาเม้นต์ กด Fav นะคะ รักทุกคนจริงๆค่ะ ไว้เจอกันตอนหน้าค่า ^^
Pupu
Edit ขยายตัวอักษรเป็น 18 ให้อ่านง่ายขึ้นค่ะ
5/13/16 02.43 am
ความคิดเห็น