ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Yaoi] ของขวัญ [HunHan Feat.KrisLay Chanbaek & Exo]

    ลำดับตอนที่ #12 : Gift 12 : เหตุผลพยางค์เดียว 100%

    • อัปเดตล่าสุด 12 มี.ค. 56


    19.30 p.m.

     

                คู่หูชานแบคกลับไปได้สักพักแล้ว

     

                อันที่จริงได้สองคนนี้มาก็ดีนะ เพราะพวกมันก็ไม่ได้นั่งเฉยๆซะทีเดียว แต่ยังช่วยเสิร์ฟ ช่วยล้าง ช่วยเก็บ ช่วยชง บลาๆๆๆ ช่วยมันทุกอย่างตั้งแต่เปิดร้านยันก่อนกลับนั่นแหละ

     

                ที่สำคัญคือช่วยเรียกลูกค้า หุๆ มีของสวยๆงามอยู่ในร้านใครๆก็ต้องอยากเข้ามาใช่มั๊ยล่า~

     

                แต่..!!!

     

                ถ้าไม่มี ประเด็นนี้ มันจะ ดีมาก

     

                ลู่หานขอย้ำ ดีมาก

     

     

     

                ...ย้อนไปสักประมาณ 1 ชั่วโมงก่อน...

     

                ขอบคุณที่มาใช้บริการนะครับคุณน้า

     

                ชานยอลในชุดผ้ากันเปื้อนสีขาวธรรมด๊า ธรรมดา แต่กลับดูดีมีออร่าอย่างประหลาดพูดพร้อมส่งรอยยิ้มพิมพ์ใจให้กับลูกค้าสาว (?) วัยน่าจะประมาณสามสิบต้นๆซึ่งมีท่าทีระริกระรี้ กระดี๊กระด๊าและดัดจริต (ออกความเห็นโดยบอยน แบคฮยอน) อย่างเห็นได้ชัด

     

                ว้ายย คุณน้าอะไรล่ะจ๊ะ พี่สาวจ้ะพี่สาว คิกๆ แล้วนี่น้องชานยอลสุดหล่อของคุณเจ้จะมาช่วยงานที่นี่อีกหรือเปล่าจ๊ะ

     

                ไม่หรอกครับ เพราะต่อไปนี้แฟนไอ้ยอลจะไม่ให้มันมาแล้วล่ะครับ

     

                เอ่อ

     

                สาบานได้ว่าปาร์ค ชานยอล ยังไม่ทันได้ขยับปากสักกะติ๊ดดด

     

                แน่ล่ะว่าไอ้เสียงหวานเกินผู้ชายนิดหน่อยที่เจ้าตัวจงใจดัดให้ดูเรียบร้อยนั้นจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากบยอนแบคที่ยืนเก็บโต๊ะตัวข้างๆอยู่นี่เอง

     

                อ้าว น้องชานยอลมีแฟนแล้วเหรอจ๊ะ แต่ไม่เป็นไร พี่สาวคนนี้ไม่แคร์ค่ะ! ว่าแต่ เบอร์น้องยอลนี่เบอร์อะไรเหรอจ๊ะ

     

                อย่าเสี่ยงเลยครับป้...เอ๊ย พี่สาว คือ...แฟนไอ้ยอลมันดุน่ะครับ

     

                ตาขวาของหญิงสาวกระตุกเล็กๆหลังจากได้ยินคำพูดที่เด็กหนุ่มตัวเล็ก ท่าทางยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมสักเท่าไหร่เกือบจะหลุดปากออกมา

     

                ไม่ต่างจากชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ ที่ตอนนี้ตาขวากระตุกซะถี่ยิบ อันที่จริงไม่ต้องกระตุกชานยอลก็พอจะรับรู้ได้ว่าถ้าแม่สาวนางนี้ยังไม่หยุด ร้านโลงศพแถวนี้มีหวังได้เฮแน่นอน

     

                เอ่อ...ครับ คือ ผมมีแฟนแล้วน่ะครับ แล้วก็...

     

                แหม มีแฟนแล้วก็เลิกได้ค่ะ พี่ไม่แคร์

     

                แต่ผมว่าถ้าพี่ยังไม่เลิกเนี่ย พี่มีสิทธิ์งานเข้านะครับ

     

                ทำไมล่ะคะน้องยอล แฟนน้องไม่ได้อยู่ที่นี่สักหน่อย นั่น นั่น ยังคงไม่รู้ตัวต่อไป

     

                เพราะว่า...

     

                เพราะผมเนี่ยแหละ แฟนไอ้ยอล มีอะไรมั๊ยครับ...ป้า ^^+”

     

    วิ้ววว~

     

                [พยากรณ์อากาศด่วน! ขณะนี้ พายุหิมะความรุนแรงระดับ MAX ได้เข้ากระชั้นชิดร้านกาแฟแห่งหนึ่งในกรุงโซล ส่งผลให้อุณหภูมิภายในร้านลดลงต่ำกว่า -20 องศา ผู้ไม่เกี่ยวข้อง กรุณาอพยพด่วนค่ะ พยากรณ์อากาศด่วนพิเศษ by เจ้ชม]

     

                โอเค...กลับเข้าสู่สถานการณ์จริงกันต่อ

     

                ณ จุดนี้เราคงไม่ต้องบรรยายต่อว่าคุณป้..เอ๊ย คุณพี่สาววัยสามสิบคนนั้นจะทำเยี่ยงไรนอกจากถอยทัพออกจากร้านไปอย่างสงบเสงี่ยม ประหนึ่งปากไม่เคยใช้พูดมาก่อน

     

                เป็นอันว่าพายุหิมะลูกนี้ได้พัดผ่านร้าน coffee & Tea Time ไปโดยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ

     

                ทว่า...

     

                เรากำลังเข้าสู่ยุคสงครามเย็นกันเจ้าค่ะ!

     

                ง่า แบคฮยอน ฉันไม่ได้เข้าหาคุณคนนั้นจริงๆนะ

     

                ... ไม่มีสัญญาณตอบรับ

     

                จริงนะเว้ย

     

                ... ยังคงไม่มีสัญญาณตอบรับ

     

                เฮ้ยยยย หายงอนสักทีเด้ ก็บอกว่าไม่มีอะไรก็ไม่มีไงวะ มึงก็เก็นว่าผู้หญิงคนนั้นเค้าเข้ามาหากูก่อน ถามพี่ลู่หานก็ได้ พี่ลู่หานก็เห็น ใช่มั๊ยฮะ

     

                แน่ล่ะว่าถ้าไม่ยอมฟัง คนอารมณ์ร้อนอย่างชานยอลก็ไม่ทน

     

                ...แต่ทำไมเอ๊งต้องโบ้ยมาให้ฉันว้าาาา... <<< ลู่หาน

     

    ปิ๊งๆ << สายตาอ้อนวอนของชานยอล

     

    ชิ้งงง <<สายตาเชือดเฉือนของแบคฮยอน

     

                ...งานเข้าแล้วตรู...

     

                เอ่อ...เออ ใช่ แกก็เห็นนี่หว่าแบค คนทั้งร้านก็เห็น มินซอก จงแด แม้แต่อี้ชิงยังเห็นอ่ะ

     

                ...เห็น...หรือเปล่าวะ ไอ้เราก็ไม่ได้สังเกตสักเท่าไหร่ ช่วงเย็น คนก็เยอะ แค่เสิร์ฟกาแฟ เสิร์ฟเค้กยังจะไม่ทัน จะเอาอะไรมาสนใจฟระ

     

                พี่จะไปรู้สึกอะไรล่ะ!! พี่มินซอก ไอ้จงแดก็ดูแลพี่อย่างดี อย่างกับเทพบุตรจุติมาเกิด ริ้นไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอม...

     

                ส่วนพี่...!!” หลังจากระบายความอัดอั้นใส่คู่รักง้องแง้งเสร็จ แม่คุณก็หันมาจ้องลู่หานซะตาเขียว แหม่! กาแฟเกือบหก ทำไม ก็ตกใจอ่ะ

     

                ...พี่ลู่หาน!! ไอ้เซฮุนท่าทางมันหงิมจะตาย เรียบร้อย แถมยังเทคแคร์พี่ดีทุกอย่าง! ขนาดเมามันยังช่วยหิ้วพี่กลับบ้าน! ทีผมล่ะ ผมเนี่ยแหละต้องเป็นฝ่ายลากมัน และ...โอ๊ยยย แบคอยากตายยย ฮืออออ T^T”

     

                เฮ้ยยยยยย ไอ้หมา ใจเย้นนนนน

     

                หลังจากพูดจบ แบคฮยอนก็รีบพุ่งแหลนออกไปหน้าร้าน ซึ่งได้ข่าวว่ามันคือถนนใหญ่ที่มีรถขวักไขว่ไม่น้อย แล้วนี่ยิ่งเป็นช่วงชั่วโมงเร่งด่วน...ร้อนถึงชานยอล ต้องรีบวิ่งไปฉุดไม่ให้คนตัวเล็กได้ตายสมใจอยากเสียก่อน

     

                พร้อมกับถือโอกาสปรับความเข้าใจกันอยู่หน้าร้าน สักพักเล็กๆ (?) ถึงได้เดินเข้ามาพร้อมด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ต่างกับเมื่อครู่แบบหน้ามือเป็นหลัง...ปิ๊บ... <<คำหยาบคาย ไม่เหมาะสมแก่เยาวชน (ปล. ช้าไปมั๊ย หลุดมาเยอะแล้วเถอะย่ะ)

     

                อ้าว คืนดีกันแล้วเหรอ เมื่อกี๊เห็นทะเลาะกันซะเสี่ยงดัง พี่นึกว่าจะฆ่ากันในร้านซะแล้ว

     

                ง่ะ ซ้อชิงก็เว่อร์ไป ผมไม่ได้เป็นคนโมโหร้ายขนาดนั้นสักหน่อย เนอะยอลเนอะ

     

                ช่ายยยยยยยยย

     

                และนี่...คือความคิดของทุกคนในร้าน ซึ่งตรงกันโดยมิได้นัดหมาย!!

     

                ...ไม่โมโหร้ายบ้านแกสิ ไอ้บ้า!!!...

     

                เออใช่ เมื่อกี๊ที่แบคบอกว่าจงแดเป็นคนดีอะไรนั่นน่ะ...

     

                ทำไมต้องอะไรนั่นน่ะด้วยล่ะพี่ นี่พี่ไม่คิดจะใส่ใจเลยใช่มั๊ยว่าผมทำดีอะไรบ้างเนี่ย

     

                โอ๊ย อย่าขัดเค้าสิจงแดง่ะ เค้ากำลังถามเรื่องสำคัญสุดๆกับแบคอยู่นะ ง่ะ ออกไปเลย ไม่ต้องมาอ้อน ไว้ไปทำที่บ้านนู่นไป๊

     

                ...เอ่อ...

     

                ชวนคิดนะเว้ยเฮ้ยมินซอก!!

     

                นั่นแหละๆ แล้วคนที่เป็นแฟนลู่หานอ่ะ...คนที่ชื่อ...อะไรเซๆนะ

     

                ฮะ...คนบ้าอะไรชื่อเซ เซอะไรวะ เซตกท่อหรือไง (แป้ก) บ้า แล้วเราไปมีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่ บ้าป่าวๆ ไม่ใช่แล้วม้างงงง

     

                กำลังจะอ้าปากแย้งว่ามาจากไหน ไม่เคยรู้จักชื่อเซๆอะไรนี่เลยสักนิด

     

                ...แต่...

     

                เซฮุนเหรอฮะ

     

                ...เอ่อ...รู้สึกว่า...จะรู้จักดีเลยล่ะ -_-;; แต่...แต่คงไม่ใช่ม้างงง หมอนั่นไม่ใช่แฟนเราสักหน่อย เนอะๆ <<ยังคงพยายามเข้าข้างตัวเอง

     

                อื้อ นั่นล่ะ หมอนั่นใช่คนที่ตัวสูงๆหน่อย ขาวๆ ขาวเว่อร์ๆ หล่อๆ แล้วก็...น่านิ่งๆใช่มะ

     

                ไม่จริ๊งงงงงงงง ไอ้เทวดาบ้านั่นไม่เห็นจะสูงเลย (เหรอ) ขาวนี่ผมก็ขาวกว่า (จริ๊งงงง่ะ) เรื่องหล่อนี่ผมก็กินขาด (เอ่อ) แถมหน้าก็..นิ่งยังไง วันๆเอาแต่ซน กวนประสาทได้ตลอด เอาแต่ใจ แล้วก็...

     

                ใช่เลยพี่ ทำไมเหรอฮะ

     

                นั่นสิ...ทำไม

     

                เอ่อ...ทำไม ตาขวามันกระตุก ถี๊ ถี่เนอะ ว่ามะ

     

                ลู่หานนนนนนน ไหนนายบอกว่าไอ้หนุ่มหน้ามน (?) ที่มาส่งนายเมื่อเช้าเป็นแค่เพื่อนไง กิ๊วๆ เขินเหรอจ๊ะน้องลู่ ฮิ้วววว”

     

                -O-!!!!!

     

                “ฮะ พี่ลู่หานมีแฟนแล้วเหรอครับ ทำไมไม่เห็นบอกกันบ้างเลยอ่ะ” <<อี้ชิง

     

                “โห่ ซ้อชิงนี่ตกข่าวเป็นบ้า สองคนนี้เค้าอยู่กิน ร่วมหอกันแล้วนะ กร๊ากกกกก” << แบคฮยอน

     

                “อ๊ากกกกก น้องลู่ไวไฟ วี๊ดวิ้ววว” << มินซอก

     

                ดะ...เดี๋ยวๆ ลู่หานกำลังเบลอ อึ้ง ทึ่ง เอ๋อ เดี๋ยว ขอรีอัพใหม่ดิ๊ งง!

     

     

              ลู่หานนนนนนน ไหนนายบอกว่าไอ้หนุ่มหน้ามน (?) ที่มาส่งนายเมื่อเช้าเป็นแค่เพื่อนไง กิ๊วๆ เขินเหรอจ๊ะน้องลู่ ฮิ้วววว”

     

     

              “โห่ ซ้อชิงนี่ตกข่าวเป็นบ้า สองคนนี้เค้าอยู่กิน ร่วมหอกันแล้วนะ กร๊ากกกกก”

     

     

                อ๋อออออออออ

     

                อย่างนี้นี่เอง อืมๆ

     

     

     

                เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยย

     

                มันไม่ใช่อย่างง้านนนนนนนนนนนนน ทุกคน กลับมาก๊อนนนนนนนน TT

     

                “โอ๊ะโอ ได้เวลาแล้วนี่นายอล รีบกลับกันดีหว่าเนอะ เดี๋ยวคุณป๊ะป๋าจะโกรธ เน้อออ บ๊ายบายครับทุกคน พี่ลู่หาน เพราะเค้ารักตัวดอกจึงหยอกเล่นนะจ๊ะ จุ๊บ >3<

     

                “ไอ้...”

     

                อาศัยเซ้นส์และความไวส่วนตัว แบคฮยอนจึงสามารถไหล แหละ และลากชานยอลออกจากร้านได้ทันเวลาก่อนที่ลู่หานจะเริ่มองค์ลง อันที่จริงต้องบอกว่า...เฉียดฉิว...

     

     

     

                ...เรื่องมันก็เป็นเช่นนี้แล...

     

                ไอ้หมานะไอ้หมา ไว้เจอเมื่อไหร่พ่อจะฆ่าซะให้เข็ด แง่มๆ

    .

    .

    .

    .

    .

    TBC. 50%

    Writer Talk

    กลับมาแล้วจ้า หลังจากที่หายไปแสนนาน อิๆ

    โผล่มาให้ก่อนแค่ 50 เปอร์ เพราะตอนนี้ชมแบบ...โคตรอึน แต่งไม่ค่อยออก แต่ไม่ทิ้งแน่นอนค่า สัญญาๆ

    แล้วก็ต้องเอาเวลาไปส่ององค์ชายอีกัก อิๆ -.,- (เธอดูได้ดีเลย์มาก!) กะบอสแจจ๋า แอร๊ยยย (อันนี้ก็โคตรรรจะดีเลย์)

    แล้วเค้าจะรีบกลับมานะเตง อย่าเพิ่งทิ้งเค้าน้า ขอบคุณทุกวิว ทุกเม้น และทุกคนที่แอด fav นะค้า บ๊ายบายยย~




    (ต่อจ้า)


     

                “แล้วนี่พี่ลู่หานจะกลับบ้านยังไงล่ะครับ

     

                เจ้าของร้านหน้าสวยเอ่ยถามขึ้นหลังจากจัดเก็บบรรดาโต๊ะเก้าอี้ไปได้สักครึ่งหนึ่ง เรียกให้คิ้วของลู่หานขมวดเข้าหากันเล็กน้อยอย่างใช้ความคิด

     

                นั่นสิๆ เมื่อเช้าลู่หานก็ไม่ได้เอาจักรยานมาใช่มะ เพราะมีพ่อหนุ่มหน้ามนคนนั้นขี่มาส่ง สวี่วี้วี่กันเชี๊ยะ อ๊ากกกกกกก ลู่หาน ฉันพูดเล่น!!! ฮือออ จงแดช่วยเค้าด้วยยยยย TOT”

     

                ซาลาเปาขี้แซวรีบวิ่งแจ้นไปหลบหลังแฟนหนุ่มอายุน้อยทันทีที่ลู่หานเริ่มวิ่งไล่ โทษฐานเล่นไม่เลิก แซวตั้งกะเช้ายันเย็น ยิ่งไอ้หมามันหลุดปากยิ่งแซวหนัก

     

                สมน้ำหน้า พี่อยากไปแกล้งพี่ลู่หานเองนี่

     

                จงแดอย่าพูดอย่างงั้นดิ๊ งือออ เตงต้องเข้าข้างเค้าดิเตงงง~”

     

                ว่าไปก็หยิกแก้มคนรักซะยืดย้วยอย่างออดอ้อน (?)...ถ้ามันเรียกว่าอ้อนนะ นั่นแหละ ปล่อยคู่รัก
    งุ้งงิ้งเค้าไปเถอะ

     

                เล่นเป็นเด็กๆไปได้นะครับ พี่มินซอก พี่น่ะ 24 แล้วไม่ใช่เหรอ อายุก็เท่าพี่ลู่หาน ผมไม่เห็นว่าพี่ลู่หานจะทำอะไรติงต๊องแบบพี่เลย

     

                นี่!!! จางอี้ชิง นี่พี่โกรธแล้วนะ มาให้ลงโทษซะดีๆ ฮึ่ยยยย

     

                ไม่รู้เป็นเพราะความยาวของขาหรือน้ำหนักตัว (โอ้ววว แรว๊งส์!!! ซอรี่นะมินซอกชี คิๆ) ทำให้เปาน้อยมินซอกไม่สามารถไล่ตามคุณเจ้าของร้านได้ทัน และลงท้ายด้วยการยืนหอบและทรุดลงไปนั่งกับพื้นอย่างเหนื่อยหอบ

     

                งือออ จำไว้เลยนะอี้ชิงงง

     

                หัวเราะกันคอหายยกร้านกับท่าทางไม่สมอายุของมินซอกได้สักพัก คุณอี้ชิงก็หันมาถามคำถามเดิมกับพนักงานรุ่นพี่อีกครั้ง

     

                เออว่ะ แล้วจะกลับยังไงกันล่ะเนี่ย

     

                จักรยานก็ยังอยู่ที่อพาร์ทเม้นต์ ฮึ่ยยย เพราะไอ้เทวดาบ้านั่นแท้ๆ แล้วจะกลับยังไงกันล่ะวะเนี่ยยย

     

                เอาเหอะ เดินกลับก็ได้ ไม่ตายหรอกวุ้ย!

     

     

     

    20.30 p.m.

     

    วิ้วววว~

     

                เสียงลมหวีดหวิวและอุณหภูมิที่ไม่รู้จะต่ำหาอะไร ทำให้ลู่หานแทบจะยอมแพ้กับการเดินกลับไปยังอพาร์ทเม้นต์ซึ่งอยู่ห่างออกไปเกือบกิโล

     

                พี่แน่ใจนะว่าจะไม่ให้ผมไปส่ง

     

                เออน่า นายไปส่งอี้ชิงแล้วก็รีบกลับบ้านไปนอนกกกันได้ละ ใกล้แค่นี้เอง เดินไม่ถึง 5 นาทีพี่ก็ถึงห้องแล้วล่ะ

     

                สาบานได้ว่าทั้งหมดนี้มีความจริงจากใจอยู่เพียงประโยคเดียว ที่ว่าให้รีบกลับนั่นแหละ

     

                อากาศหนาวจังอ่ะจงแด รีบกลับกันเหอะ ป่ะๆ บ๊ายบายนะเสี่ยวลู่

     

                โบกมือฉีกยิ้มให้เพื่อนร่วมงานที่ค่อยๆขับรถหายไปในความมืด ทันทีที่พ้นสายตา ลู่หานก็รีบชักมือกลับมาซุกอยู่ในกระเป๋าเสื้ออุ่นๆทันที งือออ หนาวววว

     

                (กระเป๋าเสื้อคือกระเป๋าที่มันจะอยู่ตรงท้องอ่ะค่ะ ไม่รู้เราเรียกถูกมั๊ย ไม่ใช่กระเป๋าเล็กๆตรงอกนะ : ไรท์ชม)

     

                ถ้ามีจักรยานก็คงจะดีหรอก คงได้กลับถึงบ้านไม่เกิน 5 นาทีอย่างที่บอกทุกคนไว้...

     

    กริ๊ง กริ๊ง

     

                เสียงกริ่งจักรยานเหมือนเป็นคำตอบให้ลู่หาน

     

                แทบไม่รู้ตัวว่าไอ้เทวดาบ้าตามที่ตนเรียกมาปั่นจักรยานอยู่ข้างๆเมื่อไหร่จนกระทั่งมันกดกริ่ง

     

                ไง รอนานป่ะ

     

                นาย...ฮ่วย ใครสั่งใครสอนให้มากดกริ่งใกล้เนี่ยฮะ ตกใจหมด

     

                ลู่หานว่าพลางเดินจ้ำเอาๆออกจากตรงนั้นโดยด่วน พยายามหลอกตัวเองว่าอยากให้ถึงห้องเร็วๆ คิดถึงบะหมี่ร้อนๆ...

     

                โอเค ความจริงคือ...ไอ้หัวใจไม่รักดีมันเจือกทำงานผิดปกติอีกแล้วอ่ะดิ!!

     

    ตึกตักๆๆๆ

     

                ...ใจเย็นลูกใจเย็น...โอ๊ยยย เอ็งจะเต้นแรงทำด๋อยไรวะ...

     

                ...โอเค...บางทีเราอาจเดินมากจนเหนื่อย...ใช่ๆๆๆ...

     

                อ้าว! จะเดินไปไหนน่ะ ฉันอุตส่าห์มารับนะ!!!!”

     

                เซฮุนตะโกนไล่หลังพร้อมกับปั่นจักรยานตามมาช้าๆ ไม่เร่งรีบ ไม่ใช่อะไรหรอก คือ ถ้าปั่นเร็วๆแล้วลมมันจะตีหน้า เย็นน่ะเย็น

     

                ใครขอ

     

                ปากนายนี่มัน...ให้ตาย ตามใจ! คนเค้าอุตส่าห์ฝ่าลมหนาวออกมารับ รู้งี้นอนซุกผ้าห่มอยู่ที่ห้องยังดีซะกว่าเลย

     

                คนมีน้ำใจบ่นอุบด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ พลางปั่นจักรยานทิ้งห่างไปเรื่อยๆ ปล่อยให้คนที่เดินด๊อกแด๊กๆอยู่เงยหน้าขึ้นมองพลางชั่งน้ำหนักความคุ้มค่า

     

                หนาว + เหนื่อย= เดินหนาว ดีไม่ดีกว่าจะถึงห้องอาจแข็งตาย

     

                            กับ

     

                เสียหน้านิดนึง + ใจเต้นนิดหน่อย = กลับบ้านสบาย

     

                            อะไรจะดีกว่ากันน้า

     

                หนาว + เหนื่อย = เดินหนาว ดีไม่ดีกว่าจะถึงห้องอาจแข็งตาย < เสียหน้านิดนึง + ใจเต้นนิดหน่อย = กลับบ้านสบาย

     

                แต๊ง!!! <<< เสียงความคิดในหัวลู่หาน

     

                เฮ้ย!!! นี่!!!! โอ เซฮุน!!!! ไอ้เทวดาบ้า!!!!! หยุดก่อนสิเว้ยยยยย

     

                วิ่งตามขาแทบหลุด ในที่สุดเซฮุนก็ยอมเลี้ยวจักรยานกลับมาหาลู่หานที่นั่งหอบแฮกอยู่บนพื้นถนน นาทีนี้ไม่สนแล้วครับ กูเหนื่อย

     

                อยากกลับด้วยกันแล้วซิ

     

                ...ยังคง still self ต่อไป ไม่พูด ไม่ตอบ กลัวเสียเซลฟ์

     

                ...งั้นก็...กลับบ้านดีๆแล้วกันนะ บ๋ายบาย~”

     

                ย่า!!!!!!!”

     

                ...อะไร?

     

                พา...พา เอ่อ พาฉัน...พาฉันกลับด้วยดิ

     

                อะไรนะ ไม่ได้ยินเลยอ่ะ สงสัยช่วงนี้ขี้หูเยอะ ขอดังๆอีกทีดิ๊

     

                 พูดจบแล้วยังมิวายแกล้งยื่นหูเข้าไปใกล้ๆ ช่างเป็นอะไรที่กวนส้นทีนสำหรับเสี่ยวลู่ยิ่งนัก

     

                พาฉันกลับไปด้วยสิเว้ย!!!! ได้ยินหรือยังเล่า!!”

     

                อูย ได้ยินแล้วน่า ตะโกนมาทำไมเนี่ย

     

                สมน้ำหน้า แบร่ :P”

     

                แลบลิ้นปลิ้นตาใส่เสร็จก็รีบขึ้นซ้อนจักรยานทันที รออะไรอีกเล่า ไปสิ!”

     

                ขอร้องดินั่น นั่น ยังกวนไม่เลิกนะไอ้นี่

     

                นี่ นายจะกวนประสาทฉันไปถึงไหน หิวข้าวไส้จะขาดอยู่แล้วนะเว้ย หนาวก็หนาว ไปได้แล้วไป ไอ้เทวดาบ้า โรคจิต

     

                ด่าจบก็ตั้งท่า วางเท้าไว้บนที่วางพร้อมกับ เผลอวางมือไว้บนเอวของคนด้านหน้าอย่างลืมตัว ลืมไปซะสนิท มัวแต่นั่งชมนกชมไม้ จนกระทั่งไอ้คนขี่มันเอามือข้างหนึ่งมากุมไว้เนี่ยแหละ

     

    ตึกตักๆ

     

                นี่! ทำ...ทำอะไรของนาย จับแฮนด์ดิ เดี๋ยวก็ได้คว่ำตายกันทั้งคู่

     

                ทำไมนายชอบพูดแต่เรื่องตายๆฮะลู่หาน ปากไม่เป็นมงคลเอาซะเลยว่าไปก็แอบกระชับมือของตนให้แน่นยิ่งขึ้น

     

    ตึกตักๆๆ

     

                เงียบไปเลย! เออ! อยากจับก็จับไป ฉัน ไม่ แคร์

     

                ปากน่ะไม่แคร์ แต่ใจอ่ะ แคร์เต็มๆ แอร๊กกกกก

     

                คงต้องขอบคุณคนออกแบบจักรยานที่สร้างให้คนขับหันหลังให้คนซ้อน ไม่อย่างนั้น...

     

                ...ไม่อย่างนั้น...

     

                ...ไม่อย่างนั้นเซฮุนคงจะได้เห็นแก้มที่เริ่มแดงงเหมือนลูกตำลึงสุกของลู่หานแหงๆ...

     

                ...เอ๊ะ จะว่าไปมันน่าขอบคุณหรือด่าดีนะ พลาดช็อตเด็ดๆซะแล้วล่ะจ้ะฮุนจ๋า 555...

     

     

                นี่เซฮุน แวะจอดที่ร้านตรงนั้นหน่อยดิ ลู่หานว่าพลางชี้ไปที่ร้านอาหารรถเข็นเล็กๆข้างทาง

     

                หืม? ทำไมเหรอ

     

                ฉันเริ่มเบื่อบะหมี่แล้วอ่ะ ขี้เกียจทำด้วย กินเนี่ยแหละ จอดๆๆ

     

                เมื่อเจ้าของรถ (จักรยาน) สั่ง สารถีอย่างเซฮุนจะทำยังไงได้นอกจากทำตาม ร่างสูงจอดจักรยานไว้ข้างทางใกล้ๆกับร้าน ในขณะที่ลู่หานแจ้นไปอยู่หน้ารถเข็นเรียบร้อย

     

                ป้าครับ เอาต๊อกโบกี 2 ที่นะครับ

     

                สั่งเสร็จก็จัดแจงนั่งที่นั่งเตรียมกินกันตรงนั้นนั่นแหละ รอไม่นาน ต๊อกโบกีหน้าตาหน้าทานก็วางอยู่ตรงหน้า ยั่วน้ำลายคนหิวไส้แทบขาดอย่างลู่หานไม่น้อย

     

                แล้วมามัวพร่ำเพ้ออะไร...กินดิ๊

     

                “อะไรน่ะ”

     

                “หืม???”

     

                “ไอ้ที่นายกินอยู่นั่นแหละ”

     

                “อืมมม อ๊อกโออี...แฮ่มๆ เค้าเรียกว่าต๊อกโบกี กินดิ ฉันสั่งเผื่อด้วยนะ”

     

                ลู่หานพยัดเพยิดไปที่จานใส่อาหารหน้าตาน่าทานให้เซฮุน แต่เทวดาหนุ่มยังคงมองอาหารจานนั้นด้วยท่าทางไม่ไว้ใจสักเท่าไหร่ ซะจนคนนั่งกินอยู่ข้างๆชักจะรำคาญ

     

                “เอ้า ทำไมไม่กิน อุตส่าห์สั่งเผื่อนะเว้ยยย”

     

                “...”

     

                “ไม่หิวหรือไง”

     

                “หิว”

     

                “ก็กินเด้!! ฮ่วย”

     

                ว่าจบก็จัดการคีบอาหารที่ว่าไปจ่อปากเทวดาหนุ่ม ที่หดคอหนีตามสัญชาตญาณ ดวงตาคมแอบเหลือบมองอาหารตรงหน้าอย่างหวาดๆ

     

                “กินดูดิ อร่อยนะขอบอก”

     

                “จริงอ่ะ”

     

                “เออ! กินดิ กินๆๆ เอ้า อ้ามมมม”

     

                ไม่รู้เพราะว่าท้องมันหิวหรือเพราะหน้าหวานๆที่ลอยเข้ามาใกล้เรื่อยๆกันแน่หนอ ถึงทำให้เซฮุนกลั้นใจงับต๊อกโบกีชิ้นนั้นเข้าปากไป

     

                ทันทีที่ได้ลิ้มรส คิ้วเรียวที่ขมวดมุ่นก็ค่อยๆคลายออก เริ่มปรากฎรอยยิ้มบางๆที่มุมปาก ก่อนจะหายไปอย่างรวดเร็ว

     

                “เอ้อ..ก....ก็อร่อยดีนี่”

     

                “”ใช่ป่ะล่ะ อะโด่ แค่นี้ทำป๊อด รีบๆกินไปเลยไป”

     

                พูดจบก็รีบกลับไปสวาปามอาหารของตนต่ออย่างไม่สนใจคนหรือสถานการณ์รอบข้างสักนิด ง่า ก็ท้องมันหิวนี่นา

     

                ด้วยเหตุนี้ อาลู่จึงไม่ได้สังเกตถึงคนข้างๆ ที่ตาแทบไม่ได้จ้องไปที่อาหาร

     

                แต่กลับมองคนข้างๆด้วยสายตาที่ยากจะอ่านออก

     

                            ...สับสน...

     

                            คงจะใช่ล่ะมั้ง

     

                “เอาล่ะ กินเสร็จแล้ว เรากล...”

     

                คนเพ่งจะกินเสร็จหมาดๆรีบหันไปเร่งคนข้างๆให้รีบกลับ อากาศหนาวจะตาย กินอิ่มก็ต้องรีบกลับสิ หรืออยากแข็งเป็นหมูแช่แข็ง หืม???

     

                แต่มัน....ผิดพลาด!!!...ผิดพลาดย่างแรง!!!

     

                เพราะทันทีที่หันไป ดวงตาโตๆของเจ้าของฉายากวางน้อยก็สบเข้ากับดวงตาคมๆที่จ้องมาตั้งแต่ก่อนหน้าเข้าอย่างจัง

     

    ตึกตักๆๆๆ

                .

                ..ม...มัน...

     

                “เอ้า ไอ้หนู! จะจีบกันก็ไปจีบต่อที่บ้านไป๊ ป้าจะปิดร้านแล้ว”

     

                เสียงของบุคคลที่สามช่วยเรียกสติของทั้งคู่ให้กลับคืนมา ลู่หานทำหน้าเอ๋อเหรอหรา วางตัวแทบไม่ถูก รีบจ่ายตังค์ค่าอาหารให้คุณป้าเจ้าของร้าน ก่อนจะรีบแจ้นออกมาทันที

     

                ...ม...เมื่อกี๊มัน...

     

                ...เกือบ...เกือบไปแล้วมั๊ยล่ะไอ้ลู่เอ๊ย...

     

                “นี่! กะจะทิ้งกันเลยหรือไงฮะ”

     

                “ม...ไม่ใช่นะ อ่ะ...เอ่อ นายนั่นแหละ!!! รีบๆมาเลย ฉันล่ะอยากกลับห้องจะตายอยู่แล้ว!!!

     

                ตามสไตล์นางเอก (?) เมื่อหาวิธีแก้เขินไม่ได้ก็ต้องอาศัยวีนเข้าว่า

     

                ไม่นาน จักรยานคันน้อยก็เริ่มเคลื่อนที่ไปข้างหน้าเหมือนอย่างเคย

     

                จะแตกต่างก็ตรงที่...ไม่มีมือเล็กๆของคนซ้อนวางอยู่บนเอวของคนขี่อีกแล้ว...

     

    .

     

    .

     

    .

     

    .

     

    .

     

                ...แหงล่ะ...แค่นี้ก็เขินจะตายห่ า ถ้าจะให้กอดเอวคงได้สลายกลายเป็นไอแหง...

     

     

     

     

     

     

                            เอ๊ะๆๆๆ เขิน...เขินงั้นเหรอ!!!!

     

                ไม่จริงน่า!!!!!

     

                เรา...เรา

     

                เป็นอะไรไปน่ะ นั่งเงียบเชียว

     

                สารถีสุดหล่อทักขึ้นเมื่อเห็นว่าคนข้างหลังนั่งเงียบไปซะนาน จนนึกว่าทำปากหล่นไว้ที่ร้านเมื่อกี๊

     

                ปะ...เปล่า...ไม่มีอะไรหรอกน่า รีบๆขี่ไปเลยไป

     

               

     

                ...บางที...ไอ้ เหตุผลพยางค์เดียวที่ว่า คงจะเริ่มก่อตัว โดยที่อาลู่ของเราไม่รู้ตัวเลยสักนิดก็ได้เนอะ...^O^

     

               

    .

     

    .

     

    .

     

    .

     

    .

     

    TBC.

    Writer Talk

     

    กลับมาแล้วจ้าาาา แฮ่ๆ หายไปนานพอสมควรเนอะ อิๆ

    ตอนนี้ขออนุญาติเปลี่ยนชื่อตอน เนื่องจากแต่งไปแต่งมาชักจะออกทะเลไปทุกที ประเด็นตามชื่อตอนเลยสั่นแค่กระจึ๋งนึง 555 เลยขอเปลี่ยนชื่อนะค้าา

    เอาล่ะสิพี่ลู่ เริ่มรู้สึกตัวว่ารักน้องฮุนสักทีเท้อออออ อย่าว่าแต่รีดเดอร์เลย ไรท์ชมก็เบื่อ แม่ ง เมื่อไหร่จะรักกันสักที เค้าอยากแต่งเลิฟซีน แอร๊ยยยยย เขินจุงเบยยยย >///<

     

    โอเค มาเม้าท์นอกเรื่องมั่ง อันนี้รีดจะข้ามก็ได้นะ คือชมอยากเล่า 55 Rooftop Prince สนุกมากกกกกกกกกก แบบ จบโดนใจ ซึ้งโคตร อยากมีแฟนแบบองค์ชายอีกัก แต่ขอหน้าตาน่าร้ากกกกแบบขันทีโด ชีซาน แล้วก็ขอฉลาดๆแบบคุณซง มานโบ เอ๊ะ จะว่าไปเท่ๆ เข้มๆแบบคุณอู ยงซุล ก็ดีนะ 555 ไปใหญ่ละสมองเรา คือตอนแรกๆอ่ะ ฮามาก ฮาน้ำตาจะไหล แบบ...ขนาดน้องชายดูด้วยยังฮา 555 แต่หลังๆนี่แบบ ฮืออออ ไม่ไหวนะจ๊ะที่รัก โ คตรรรรจะเศร้า กลายป็นดราม่าน้ำตาไหลซะนี่ โดยเฉพาะตอนสุดท้ายอ่ะ ที่ปาร์คกลับมาโชซอนแล้วคิดึงปาร์คฮาอ่ะ ฮือออออออออ น้ำหูน้ำตาไหล แงงงงงง

                ชอบเรื่องนี้มากเลย เยี่ยม!!!! ยกนิ้วให้เลยจ้า

                ปล. จุ๊บเยอะจริงนะยะตาปาร์ค เชอะ!!!!

     

    กลับมาเรื่องฟิคมั่ง โม้ซะยาว 555 ยังไงก็ขอบคุณทุกๆคนที่ยังติดตามนะคะ แม้ว่าชมจะอัพช้าบ้างไรบ้างแฮ่ๆ แต่เค้าไม่ทิ้งนะเตง ไม่ต้องห่วง อิๆ

     

    ไปละจ้า มีความสุขกับปิดเทอมนะจ๊ะทุกคน ยู้ฮู บ๊ายบายจ้าาาาา ^O^

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×