ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฮองเฮาตำหนักเย็น krislay

    ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ หก

    • อัปเดตล่าสุด 18 ต.ค. 64


     

     

     

    ตอนที่ ๖

     

     

     

    หลังจากที่อี้ชิงขอฝ่าบาทเลี้ยงไก่วันต่อมาก็มีคนเข้ามาจัดการสร้างเล้าไก่และนำไก่ไข่มาให้เขาเลี้ยงถึงยี่สิบตัว

    “ข้าไม่รู้ว่าฝ่าบาทต้องการประชดข้ารึเปล่า”

    อี้ชิงว่าแล้วโปรยข้าวเปลือกให้ไก่ในเล้ากิน

    “ประชดอะไรเพคะ”

    ซื่อซื่อถามอย่างสงสัยก่อนที่อี้ชิงจะหันมามอง

    “ก็ดูไก่พวกนี้สิ  ตั้งยี่สิบตัวนะ”

    “ฝ่าบาทคงอยากให้ท่านมีไข่ไว้กินเยอะๆมั้งเพคะ”

    ซื่อซื่อว่าพรางยิ้มไปด้วยแต่อี้ชิงกลับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

    “มันก็เยอะเกินไปนะสิ เฮ้อ  มีเงินมันก็ดีแบบนี้สินะ  ข้าอยากให้ท่านยายและน้องๆได้กินแบบนี้บ้างจัง”

    ซื่อซื่อมองแผ่นหลังเล็กที่ดูเศร้าสร้อยอย่างสงสาร

    “รอเวลาอีกสักพัก หากทุกอย่างดีขึ้นกว่านี้พวกเราค่อยออกไปตามหาท่านยายของท่านกันเพคะ”

    อี้ชิงหันมามองอย่างไม่เชื่อกับสิ่งที่ได้

    “จริงรึ?”

    “จริงสิเพคะ  หม่อมฉันว่าอีกไม่นานฮองเฮาจะได้ออกจากตำหนักเย็นแน่นอนเพคะ”

    “ข้าออกจากที่นี้ได้ด้วยหรือ?”

    “หากเรื่องที่พระสนมเมิ่งแท้งกระจ่างว่าท่านไม่ใช่ผู้กระทำผิดข้าว่าท่านจะได้รับอภัยโทษแล้วออกจากที่นี้แน่ๆเพคะ”

    “กว่าจะถึงวันนั้น  ข้าไม่แก่ก่อนหรอกหรือ”

    อี้ชิงว่าแล้วถอนหายใจออกมาอีกครั้ง

    “อาจจะเร็วกว่านั้นเพคะ  อาจจะเกี่ยวกับคนที่วางยาใต้เท้าเหรินก็ได้”

    ซื่อซื่อว่าเพราะเธอคิดว่าคนที่วางยาใต้เท้าเหรินอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการแท้งของพระสนมเมิ่ง

    “เจ้าคิดแบบนั้นรึ”

    “เพคะ  เพราะทุกเรื่องเกี่ยวกับท่านทั้งหมด ทั้งอยากให้ท่านถูกปลดออกจากตำแหน่งและต้องการทำให้ท่านสิ้นพระชนน์อีก”

    อี้ชิงพยักหน้าดูเหมือนว่ามีคนต้องการให้อี้หมิงต้องตายจริงๆนั้นแหละและก็ทำสำเร็จแล้วด้วยเพราะตอนนี้คนที่อยู่ในร่างนี้เป็นเขาอี้ชิงไม่ใช่อี้หมิง

    “ถ้าเรื่องนี้คลี่คลายโดยเร็วก็ดีนะสิ”
    อี้ชิงว่าเพราะถ้าเรื่องนี้คลี่คลายรู้ตัวคนผิดเขาก็จะได้กลับบ้านไปหาท่านยายและน้องๆที่บ้านสักทีไม่รู้ตอนนี้ทั้งสามจะเป็นอย่างไรบ้าง

    “ปล่อยเรื่องนี้ให้ฝ่าบาททรงจัดการดีกว่าเพคะ  ตอนนี้ท่านควรจะดูแลตัวเองให้แข็งแรงเพราะเราไม่รู้ว่าตอนนี้คนผู้นั้นจะทำอะไรท่านอีก”

    “นั้นนะสินะ”

    อี้ชิงพยักหน้าอย่างเห็นด้วยและเขาก็คิดเอาไว้ว่าอีกฝ่ายอาจจะเริ่มทำอะไรบางอย่างก็ได้เพราะตอนนี้ดูเหมือนจะมีข่าวลือว่าฝ่าบาทอาจจะอภัยโทษให้เขา

    “ตอนนี้เหล่านางกำนัลกำลังคุยกันเรื่องข่าวลือกันเต็มไปหมดเลยพ่ะย่ะค่ะ”

    อู๋หมิงพูดบอกเพราะตั้งแต่ฝ่าบาทมาที่ตำหนักเย็นและเรื่องที่ทรงจัดคนมาสร้างเล้าไก่ให้อีกทำให้เกิดข่าวลือมากมายว่าอี้หมิงอาจจะได้ออกจากตำหนักเย็นไม่ช้านี้แน่ๆ

    “ข่าวลือที่ว่าฝ่าบาทจะอภัยโทษให้ข้านะหรือ”

    อี้ชิงถามก่อนที่อู๋หมิงจะพยักหน้า

    “พ่ะย่ะค่ะ  ”

    “และต่อจากนี้อาจจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นตามมาอีกแน่ๆ  แล้วนางกำนัลที่ชื่อฉิงฉินนั้นเจอตัวนางรึยัง?”
    อี้ชิงถามต่อ

    “เจอแล้วพ่ะย่ะค่ะ  แต่. . .”

    “แต่อะไรอีก”

    ซื่อซื่อถามต่อด้วยความอยากรู้

    “เจอเป็นศพอยู่ที่บ้านร้างแถวชายป่าห่างจากวังไม่ไกลนะสิ”

    อู๋หมิงตอบ

    “นางตายแล้ว”

    “พ่ะย่ะค่ะ  น่าจะโดนฆ่าปิดปาก”

    “โธ่ ไม่น่าเลยยังสาวอยู่แท้ๆ”

    ซื่อซื่อว่าอย่างเวทนา

    “น่างสงสารจริงๆนั้นแหละ  คนผู้นั้นช่างใจร้ายจริงๆ”

    อี้ชิงว่าแล้วได้แต่ภาวนาในใจขอให้ดวงวิญญาณของฉิงฉินไปสู่สุขติ

    “ดูท่าเรื่องนี้จะไม่ใช่เรื่องเล็กๆแล้วล่ะเพคะ  ขนาดพานางกำนัลออกไปฆ่านอกวังได้คงจะไม่ใช่เพียงคนธรรมดาแล้วล่ะเพคะ”
            “อื้ม  พาออกไปฆ่าโดยที่ไม่มีใครรู้เห็นได้ขนาดนี้ต้องมีเส้นสายพอสมควรละ”
            “อาจจะมีอำนาจพอๆกับท่านก็ได้นะเพคะ”

    ซื่อซื่อว่าเพราะคนที่เธอสงสัยนั้นไม่ใช่ใครที่ไหนก็คือพระสนมเมิ่งแต่เพราะเธอไม่มีหลักฐานมากพอที่พูดออกไปได้

    “อำนาจพอๆกับข้า  พระสนมเมิ่ง”

    “ชู่ว  อย่างเสียงดังไปสิเพคะ”

    ซื่อซื่อว่าก่อนที่อี้ชิงจะยกมือปิดปากแล้วมองไปรอบๆ

    “เจ้าก็คิดแบบเดียวกับข้าใช่หรือไม่?”

    อี้ชิงถามก่อนที่ซื่อซื่อและอู๋หมิงจะพยักหน้าเห็นด้วยกับสิ่งที่อี้ชิงพูด

    “แต่. . .เจ้าบอกว่านางโดนวางยาจนแท้งลูกไม่ใช่หรือ ก็แปลว่าอาจจะมีอีก”

    “อาจจะมีหรือไม่ก็ไม่มีเพคะ”

    “เจ้าจะบอกข้าว่า. . .นางยอมกินยาพิษเพื่อให้แท้งลูกนะหรือ”

    “หม่อมฉันก็ไม่อยากจะคิดแบบนั้นแต่. . .”

    “อะไรหลายๆอย่างทำให้พวกเราคิดแบบนั้นพ่ะย่ะค่ะ”
            “แบบนั้นไม่ใจร้ายไปหน่อยหรือ เด็กน้อยตาดำๆที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยนะ”

    “เรื่องนั้นพวกเรารู้พ่ะย่ะค่ะแต่ถ้าเพื่ออำนาจที่จะได้เป็นหนึ่งในวังหลังนี้ก็คงจะต้องยอมทำ”

    อี้ชิงถอนหายใจออกมา

    “ช่างน่ากลัวเสียจริงๆ อี้หมิงอยากจะมีลูกมากๆแต่ไม่มี แต่กลับอีกคนยอมที่จะฆ่าลูกตัวเองเพื่ออำนาจ”

    อี้ชิงว่า

    “ตอนนี้พวกเราไม่รู้ว่าพระสนมเมิ่งทำแบบนั้นจริงหรือไม่ แต่ถ้าทำจริงๆนางก็ชั่วร้ายไม่ต่างจากปีศาจเลยนะเพคะ”
            “น่ากลัวกว่าปีศาจเสียอีก พอได้ยินแบบนี้แล้วข้าไม่สบายใจจริงๆ  เราเข้าไปสวดมนต์ให้พวกเขากันดีกว่า”

    อี้ชิงว่าแล้ววางของในมือลงแล้วเดินนำเข้าไปด้านในตามด้วยซื่อซื่อและอู๋หมิง

     

     

     

    **********

     

     

    ตำหนักเฟยอี้

    สนมเมิ่งนั่งอยู่ที่ศาลาพร้อมกับปักผ้าไปด้วย

    “เป็นอย่างไรบ้าง”
            “ตอนนี้พระสนมเซียงกำลังตกเป็นผู้ต้องสงสัยอยู่พ่ะย่ะค่ะ”

    สนมเมิ่งยิ้มออกมาอย่างพอใจ

    “ดี ให้ทุกคนคิดว่าเป็นนางซะ”

    “แต่ตอนนี้มีข่าวลือเรื่องฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะ”

    “เรื่องอะไร”

    “มีข่าวลือว่าฝ่าบาทอาจจะทำการอภัยโทษให้ฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะ”

    สนมเมิ่งวางมือจากงานปักแล้วหันมาหาขันทีคนสนิททันที

    “อภัยโทษให้ฮองเฮา?”

    “พ่ะย่ะค่ะ เพราะฝ่าบาททรงเส็ดไปที่ตำหนักเย็นสองครั้งแล้ว  และเมื่อวานก็ให้คนจัดหาเล้าไก่และไก่ไปให้ฮองเฮาที่ตำหนักเย็นด้วยพ่ะย่ะค่ะ”

    “ไก่?”

    “พ่ะย่ะค่ะ ได้ยินมาว่าฮองเฮาทรงขอฝ่าบาทเรื่องเลี้ยงไก่แล้วฝ่าบาทก็ทรงจัดการให้พ่ะย่ะค่ะ”

    ปึก!

    สนมเมิ่งกำหมัดทุบโต๊ะด้วยความไม่พอใจ

    “ข้าไม่ยอมหรอกนะ  ข้าอุตส่าห์ยอมเสียลูกไปเพื่อให้อี้หมิงเข้าไปอยู่ในนั้น ข้าไม่ยอมในอี้หมิงออกมาอีกแน่ๆ”

    “ใจเย็นก่อนพ่ะย่ะค่ะ  มันก็เป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น ฝ่าบาททรงโปรดท่านมากและเสียใจมากกับเรื่องที่ต้องสูญเสียบุตรไปคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะอภัยโทษให้ฮองเฮา”

    “จะให้ข้าใจเย็นได้อย่างไร  ท่านก็น่าจะรู้ว่าถ้าเกิดมีข่าวลืออะไรขึ้นไม่นานก็จะเป็นเรื่องจริง”

    “กระหม่อมเข้าใจพ่ะย่ะค่ะ”
    “ข้าจะไม่ยอมให้ข่าวลือนั้นเป็นจริงแน่ๆ”

    “พ่ะย่ะค่ะ”

    “วันนี้ฝ่าบาทจะมาที่ตำหนักหรือไม่”

    “มาพ่ะย่ะค่ะ  เห็นบอกว่าจะมาทานอาหารเย็นที่นี้”

    “ดี ให้คนไปเตรียมของโปรดฝ่าบาทไว้”

    “พ่ะย่ะค่ะ”

    “เจ้าไปได้แล้ว”

    “พ่ะย่ะค่ะ”

    สนมเมิ่งโบกมือไล่ก่อนที่ขันทีคนสนิทจะโค้งให้แล้วเดินออกจากศาลาไป

     

    ช่วงค่ำ ตำหนักเฟยอี้

    “ฝ่าบาทเสด็จ”

    สนมเมิ่งที่ได้ยินเสียงก็รีบลุกจากเก้าอี้ออกไปรับอี้ฝานที่หน้าตำหนัก

    “ถวายพระพรเพคะฝ่าบาท”

    “ตามสบายเถอะ”

    อี้ฝานพูดบอกพร้อมรอยยิ้มก่อนที่สนมเมิ่งจะยิ้มให้แล้วเดินตามอี้ฝานมานั่งที่เก้าอี้ก่อนจะหันไปสั่งให้นางกำนัลยกสำรับอาหารมา

    “ชาดอกบัวเพคะ”

    สนมเมิ่งรินชาใส่แก้วให้ก่อนจะยกให้อี้ฝานดื่ม

    “ขอบใจเจ้ามาก”

    อี้ฝานรับแก้วชามายกดื่ม

    “เป็นอย่างไรบ้าง?”

    “สบายดีเพคะ ช่วงนี้มีเรื่องเคลียดหรือเพคะฝ่าบาทเลยไม่มาหาหม่อมฉันเลย”

    สนมเมิ่งถามอย่างน้อยใจก่อนที่อี้ฝานจะยื่นมือไปจับมือสนมเมิ่งเอาไว้

    “ข้าอยากมาหาเจ้าใจจะขาด  แต่งานช่วงนี้เยอะเหลือเกิน แถมตอนนี้ยังมีเรื่องการตายของใต้เท้าเหรินอีก”

    “ได้ความอย่างไรบ้างเพคะ”

    “ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ว่าใครเป็นคนทำ”

    “แต่หม่อมฉันได้ยินมาว่าเจอขวดยาพิษที่ตำหนักสนมเซียงหรือเพคะ”

    “ใช่ แต่ข้าก็ยังไม่คิดว่าเป็นสนมเซียง”

    “นั้นสิเพคะ  แต่ว่าสนมเซียงกับฮองเฮาไม่ค่อยจะถูกกันเท่าไร  อาจจะ. . .”

    “เรื่องนั้นข้ารู้ดี  แต่ตอนนี้ยังตัดสินไม่ได้ว่าสนมเซียงเป็นคนทำ”
    อี้ฝานว่าเพราะเขารู้ดีว่าอี้หมิงและสนมเซียงเวลาเจอกันมักจะทะลาะกันเสียส่วนใหญ่

    “เพคะ  พักเรื่องเครียดเอาไว้ก่อน  วันนี้หม่อมฉันให้คนเตรียมของโปรดฝ่าบาทเอาไว้ด้วยเพคะ”

    สนมเมิ่งยิ้มแล้วยกชามข้าวให้อี้ฝาน

    “เจ้าก็ทานเยอะๆ  ร่างกายจะได้แข็งแรง”
            “เพคะ”

     

     

     

    **********

     

     

     

    หลายวันต่อมา

    “ฮองเฮาเพคะ”

    ซื่อซื่อกับอู๋หมิงช่วยกันยกหีบใบเล็กเข้ามา

    “หีบอะไรนะ?”

    อี้ชิงถามแล้วลุกเดินมาดู

    “เป็นเสื้อผ้าชุดใหม่เพคะ”

    ซื่อซื่อตอบก่อนที่อี้ชิงจะเปิดหีบออกแล้วยกเสื้อผ้าที่ถูกตัดเย็บอย่างดีออกมาดู

    “ผ้าแบบนี้ข้าไม่เคยใส่เลย”

    อี้ชิงว่าก่อนที่ซื่อซื่อและอู๋หมิงจะยิ้มออกมา

    “ลองใส่ดูไหมพ่ะย่ะค่ะ”

    อี้ชิงส่ายหน้า

    “เก็บเอาไว้ดีกว่า อยู่ที่นี้ก็ไม่ได้ไปไหน ใส่เสื้อผ้าดีๆไปก็เท่านั้น เสียดาย”

    อี้ชิงบอกแล้วพับชุดเก็บลงหีบเหมือนเดิม

    “ทำไมละเพคะ  เสื้อผ้าพวกนี้เป็นของฮองเฮานะเพคะ”
            “ข้ารู้ว่านี้เป็นของข้า แต่พวกท่านก็รู้ข้าถูกกักให้อยู่แต่ที่นี้ออกไปไหนก็ไม่ได้  แล้วก็ไม่มีใครมาที่นี้อยู่แล้วใส่ไปก็ไม่มีคนดู  ข้าเสียดายผ้าพวกนี้ต้องแพงมากแน่ๆ”

    อี้ชิงว่าเพราะเขาไม่กล้าที่จะใส่เสื้อผ้าพวกนี้ดีเกินกว่าที่เขาจะใส่

    “โธ่ ใส่ให้พวกหม่อมฉันดูก็ได้นิเพคะ”

    ซื่อซื่อว่าก่อนที่อี้ชิงจะหัวเราะออกมา

    “ไม่เอาหรอก  ถ้าหากข้าได้ออกจากที่นี้เมื่อใด  ค่อยใส่ก็แล้วกัน”

    อี้ชิงว่า

    “ถ้าไม่ได้ออกไปล่ะพ่ะย่ะค่ะ”

    “พูดอะไรของเจ้ากัน”

    ซื่อซื่อหันไปว่าอู๋หมิงพร้อมกับตีอีกคนเบาๆ

    “ข้าก็แค่พูดเผื่อเอาไว้”

    “ก็ไม่ควรพูดหรือไม่”

    “ขอประทานอภัยพ่ะย่ะค่ะ”

    “ไม่เป็นไร  ที่จริงข้าก็คิดเอาไว้อยู่แล้วว่าอีกไม่นานตำแหน่งฮองเฮาของข้าอาจจะถูกถอดออกจริงๆและข้าอาจจะต้องอยู่ที่นี้ไปจนตายก็ได้”

    อี้ชิงว่าเพราะเขาคิดเอาไว้อยู่แล้วเรื่องที่อี้หมิงถูกใส่ร้ายนั้นอาจจะยากที่จะหาความจริงและตำแหน่งฮองเฮาจะปล่อยว่างไม่ได้บางทีถ้าหากมีสนมคนใดตั้งท้องและประสูติโอรสสนมคนนั้นอาจจะได้เป็นฮองเฮาคนต่อไปก็ได้และคนที่อี้ชิงคิดเอาไว้คือสนมเมิ่ง

    “ข้าคิดว่าเรื่องที่อี้หมิงถูกใส่ร้ายอาจจะหาความกระจ่างยากแล้วละ  ขนาดเรื่องแค่นี้ยังเป็นเรื่องราวใหญ่โตขนาดนี้ข้าไม่รู้จะเริ่มจัดการเรื่องนี้อย่างไรดี”

    อี้ชิงฝืนยิ้มออกมาอย่างเศร้าสร้อยทำเอาซื่อซื่อและอู๋หมิงถึงกับสงสารก่อนที่ซื่อซื่อจะคุกเข่านั่งลงตรงหน้าอี้ชิงและกุมมืออี้ชิงเอาไว้

    “ข้าเชื่อว่าอีกไม่นานทุกอย่างจะต้องกระจ่างเพคะ”

    “ตอนนี้ท่านต้องดูแลตัวเองดีๆ เพราะตอนนี้เราไม่รู้ว่าคนที่จ้องจะทำร้ายท่านเป็นใคร  กระหม่อมคิดว่าอีกไม่นานคนผู้นั้นต้องลงมืออะไรสักอย่างเพื่อกำจัดท่าน”

    อี้ชิงพยักหน้า

    “ข้าก็กลัวแบบนั้น  แต่ข้าคิดว่าถ้าเราอยู่ที่นี้จะปลอดภัยมากกว่า”
    อี้ชิงว่า

    “ปลอดภัยก็จริง  แต่ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นพวกเราก็แย่เพคะ”

    “ใช่พ่ะย่ะค่ะ  ที่นี้อยู่ลึกและไม่ค่อยมีใครผ่าน ขนาดเวรยามยังนานๆมาที”

    “เฮ้อ อย่างไรก็ไม่ดีสินะ”

    อี้ชิงว่าพร้อมกับถอนหายใจออกมาเบาๆ

    “อย่าทรงคิดมากไปเลยเพคะ  ช่วงนี้อาจจะยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ได้นะเพคะ”

    “ใช่พ่ะย่ะค่ะ ฝั่งนู้นอาจจะยังไม่กล้าทำอะไรเพราะเรื่องการตายของใต้เท้าเหรินยังไม่กระจ่าง  สนมเซียงก็ดูเหมือนจะไม่ยอมด้วยพ่ะย่ะค่ะเพราะสนมเซียงก็เหมือนจะถูกใส่ร้ายตอนนี้คดีเลยยังไม่ค่อยได้ความเท่าไร”

    อู๋หมิงว่า

    “ถ้าหากเป็นคนที่สั่งเป็นคนๆเดียวกับที่พวกเราคิดก็คงจะยากหน่อย”

    “ใช่เพคะ”

    “คิดแล้วก็ปวดหัว  ปะเราไปดูแปลงผักกับไก่ของเราดีกว่าว่าวันนี้จะได้ไข่กี่ฟองกัน”

    อี้ชิงว่าแล้วลุกขึ้นยื่นก่อนจะเดินนำซื่อซื่อและอู๋หมิงไปที่แปลงผักข้างตำหนัก

    “บางที่ข้าก็สงสารอี้ชิงนะ”

    ซื่อซื่อว่าแล้วมองแผ่นหลังเล็กที่เดินนำหน้าไปที่แปลงผัก

    “ใช่ แต่ข้าก็ดีใจที่ได้เห็นฮองเฮาอยู่ตรงนี้ถึงแม้ภายในจะไม่ใช่ฮองเฮาอี้หมิงก็เถอะ”

    “นั้นนะสินะ ถ้าหากไม่มีวิญญาณของอี้ชิงมาอยู่ละก็ตอนนี้ฮองเฮาคงไม่อยู่กับพวกเราแล้ว”

    อู๋หมิงพยักหน้าเบาๆ

    “พวกท่านมาดูนี้สิ  วันนี้ไก่ออกไข่เสียเยอะเลย”

    อี้ชิงหันมาร้องเรียกพร้อมรอยยิ้มก่อนที่ซื่อซื่อและอู๋หมิงจะเดินตามไปช่วยอี้ชิงเก็บไข่ไก่

    “ข้าว่าจะเก็บเอากินส่วนหนึ่งแล้วส่วนที่เหลือท่านช่วยเอาไปให้ห้องเครื่องใช้ทำอาหารนะ”

    อี้ชิงว่า

    “เพคะ”

    “งั้นกระหม่อมจะไปรดน้ำแปลงผักนะพ่ะย่ะค่ะ”

    “อื้ม  ฝากด้วยนะ”

    อี้ชิงยิ้มให้ก่อนที่อู๋หมิงจะเดินไปรดน้ำแปลงผักส่วนอี้ชิงกับซื่อซื่อก็หิ้วตระกร้าเข้าไปเก็บไข่ไก่ในเล้าไก่

    เวลาเดียวกัน หน้าตำหนักเย็น

    อี้ฝานยืนมองดูทั้งสามที่พูดคุยกันอยู่ที่แปลงผักและอี้ฝานก็มองดูอี้หมิงที่กำลังเข้าไปในเล้าไก่และเก็บไข่ไก่อยู่อย่างไม่เชื่อสายตา

    “นั้น. . .อี้หมิงใช่ไหม?”

    “พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท”
            “ข้าไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะได้เห็นอี้หมิงทำอะไรแบบนี้”

    “หม่อมฉันก็ด้วยพ่ะย่ะค่ะ ตั้งแต่ทรงประชวรหนักแล้วหายฮองเฮาก็เหมือนไม่ใช่ฮองเฮาองค์เดิมเลยพ่ะย่ะค่ะ”

    “ใช่ ตั้งแต่วันนั้นที่อี้หมิงหนีออกจากตำหนัก”

    อี้ฝานมองอี้หมิงนิ่งอย่างใช่ความคิด ว่าเกิดอะไรขึ้นทำให้อี้หมิงคนที่หยิ่งยโสคนนั้นถึงได้กลายเป็นแบบนี้เปลี่ยนเป็นคนละคนราวกับคนที่อยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้ไม่ใช่อี้หมิง

    “เจ้าแน่ใจหรือว่าที่อี้หมิงเป็นแบบนี้เพราะเกิดจากอาการป่วย”

    “หมอหลวงที่ทำการรักษาได้บอกแบบนั้นพ่ะย่ะค่ะ”

    “ป่วยจนทำให้เปลี่ยนไปเป็นคนละคนแบบนี้ได้เชียวรึ?”

    “อาจจะเป็นไปได้พ่ะย่ะค่ะ  เพราะฮองเฮาทรงเสียพระทัยมากจนอาจจะทำให้สติเลอะเลือนก็ได้พ่ะย่ะค่ะ”

    “แล้วที่เจ้าเห็นตอนนี้เหมือนคนสติไม่ดีหรือไม่”

    อี้ฝานถามทำเอาเหล่านางกำนัลเหล่าขันทีที่ติดตามมาด้วยถึงกับพูดไปไม่ออกเพราะมองยังไงฮองเฮาอี้หมิงก็ปกติดีดูไม่ออกว่าตอนนี้กลายเป็นคนสติไม่ดี

    “เอาเถอะ  ถ้าอี้หมิงยังไม่ได้สร้างความเดือนร้อนอะไรอีกก็ปล่อยให้อี้หมิงอยู่แบบนี้ไป”

    อี้ฝานพูดแล้วหันตัวเดินกลับตำหนักโดยที่ไม่รู้ว่าสนมเมิ่งได้แอบดูอี้ฝานอยู่ไกลๆ

    “ข่าวลือนั้นดูท่าแล้วจะเป็นจริงเสียแล้วละ”

    สนมเมิ่งว่าแล้วกำหมัดแน่น

    “อาจจะเพียงแค่มาตรวจสอบดูก้ได้พ่ะย่ะค่ะ”
            “หึ ตรวจสอบอันใด  ฮองเฮานั้นมาอยู่ที่ตำหนักเย็นเป็นนานฝ่าบาทยังไม่เคยมาหา  ท่านคิดว่ามันจะไม่มีอะไรได้อย่างไรกัน”

    “พระสนมอาจจะกังวลมากเกินไปพ่ะย่ะค่ะ”

    “กังวลมากเกินไป?  ท่านไม่ให้กังวลได้อย่างไรทั้งๆที่มันใกล้จะตายอยู่แล้วแต่จู่ๆฝ่าบาทก็หันกลับมาสนใจมันตำแหน่งฮองเฮาที่ใกล้จะเป็นของข้าตอนนี้ก็อาจจะไม่ใช่แล้ว  ท่านก็รู้ว่าองค์ไทเฮาทรงรักมันขนาดไหนขนาดที่ข้าใส่ความมันว่าทำให้ข้าแท้งมันยังไม่ถูกปลดออกจากตำแหน่ง”

    “เรื่องนั้นกระหม่อมทราบดี  แต่พระสนมควรจะใจเย็นๆรอให้เรื่องของใต้เท้าเหรินเงียบก่อนค่อยจัดการยังไม่สาย”

    “ท่านคิดแบบนั้นหรือ  ข้าว่าหากรอให้เรื่องใต้เท้าเหรินเงียบมันคงได้กลับมาออกมาเป็นฮองเฮาดังเดิม  ข้าจะไม่รอแล้ว  ข้าจะให้มันตายๆไปซะแค่มันตายทุกอย่างก็จะจบ”

    “แต่ว่า. . .”

    “ไม่มีแต่ใดๆทั้งนั้น หึ ทางเดียวที่ทุกอย่างจะจบคือให้อี้หมิงตาย ตำแหน่งฮองเฮาก็จะเป็นของข้า”

    สนมเมิ่งว่าก่อนจะหมุนตัวเดินกลับตำหนักตามก้วยนางกำนัลและขันทีผู้ติดตาม

     

     

     

     

     

    *************************************

    ดีใจที่ยังมีคนมาอ่านอยู่ขอบคุณมากๆนะคะ

    ไว้เจอกันตอนหน้าค่า<3

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×