คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ หก
ตอนที่ ๖
หลังจากที่อี้ชิงขอฝ่าบาทเลี้ยงไก่วันต่อมาก็มีคนเข้ามาจัดการสร้างเล้าไก่และนำไก่ไข่มาให้เขาเลี้ยงถึงยี่สิบตัว
“ข้าไม่รู้ว่าฝ่าบาทต้องการประชดข้ารึเปล่า”
อี้ชิงว่าแล้วโปรยข้าวเปลือกให้ไก่ในเล้ากิน
“ประชดอะไรเพคะ”
ซื่อซื่อถามอย่างสงสัยก่อนที่อี้ชิงจะหันมามอง
“ก็ดูไก่พวกนี้สิ ตั้งยี่สิบตัวนะ”
“ฝ่าบาทคงอยากให้ท่านมีไข่ไว้กินเยอะๆมั้งเพคะ”
ซื่อซื่อว่าพรางยิ้มไปด้วยแต่อี้ชิงกลับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
“มันก็เยอะเกินไปนะสิ เฮ้อ มีเงินมันก็ดีแบบนี้สินะ ข้าอยากให้ท่านยายและน้องๆได้กินแบบนี้บ้างจัง”
ซื่อซื่อมองแผ่นหลังเล็กที่ดูเศร้าสร้อยอย่างสงสาร
“รอเวลาอีกสักพัก หากทุกอย่างดีขึ้นกว่านี้พวกเราค่อยออกไปตามหาท่านยายของท่านกันเพคะ”
อี้ชิงหันมามองอย่างไม่เชื่อกับสิ่งที่ได้
“จริงรึ?”
“จริงสิเพคะ หม่อมฉันว่าอีกไม่นานฮองเฮาจะได้ออกจากตำหนักเย็นแน่นอนเพคะ”
“ข้าออกจากที่นี้ได้ด้วยหรือ?”
“หากเรื่องที่พระสนมเมิ่งแท้งกระจ่างว่าท่านไม่ใช่ผู้กระทำผิดข้าว่าท่านจะได้รับอภัยโทษแล้วออกจากที่นี้แน่ๆเพคะ”
“กว่าจะถึงวันนั้น ข้าไม่แก่ก่อนหรอกหรือ”
อี้ชิงว่าแล้วถอนหายใจออกมาอีกครั้ง
“อาจจะเร็วกว่านั้นเพคะ อาจจะเกี่ยวกับคนที่วางยาใต้เท้าเหรินก็ได้”
ซื่อซื่อว่าเพราะเธอคิดว่าคนที่วางยาใต้เท้าเหรินอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการแท้งของพระสนมเมิ่ง
“เจ้าคิดแบบนั้นรึ”
“เพคะ เพราะทุกเรื่องเกี่ยวกับท่านทั้งหมด ทั้งอยากให้ท่านถูกปลดออกจากตำแหน่งและต้องการทำให้ท่านสิ้นพระชนน์อีก”
อี้ชิงพยักหน้าดูเหมือนว่ามีคนต้องการให้อี้หมิงต้องตายจริงๆนั้นแหละและก็ทำสำเร็จแล้วด้วยเพราะตอนนี้คนที่อยู่ในร่างนี้เป็นเขาอี้ชิงไม่ใช่อี้หมิง
“ถ้าเรื่องนี้คลี่คลายโดยเร็วก็ดีนะสิ”
อี้ชิงว่าเพราะถ้าเรื่องนี้คลี่คลายรู้ตัวคนผิดเขาก็จะได้กลับบ้านไปหาท่านยายและน้องๆที่บ้านสักทีไม่รู้ตอนนี้ทั้งสามจะเป็นอย่างไรบ้าง
“ปล่อยเรื่องนี้ให้ฝ่าบาททรงจัดการดีกว่าเพคะ ตอนนี้ท่านควรจะดูแลตัวเองให้แข็งแรงเพราะเราไม่รู้ว่าตอนนี้คนผู้นั้นจะทำอะไรท่านอีก”
“นั้นนะสินะ”
อี้ชิงพยักหน้าอย่างเห็นด้วยและเขาก็คิดเอาไว้ว่าอีกฝ่ายอาจจะเริ่มทำอะไรบางอย่างก็ได้เพราะตอนนี้ดูเหมือนจะมีข่าวลือว่าฝ่าบาทอาจจะอภัยโทษให้เขา
“ตอนนี้เหล่านางกำนัลกำลังคุยกันเรื่องข่าวลือกันเต็มไปหมดเลยพ่ะย่ะค่ะ”
อู๋หมิงพูดบอกเพราะตั้งแต่ฝ่าบาทมาที่ตำหนักเย็นและเรื่องที่ทรงจัดคนมาสร้างเล้าไก่ให้อีกทำให้เกิดข่าวลือมากมายว่าอี้หมิงอาจจะได้ออกจากตำหนักเย็นไม่ช้านี้แน่ๆ
“ข่าวลือที่ว่าฝ่าบาทจะอภัยโทษให้ข้านะหรือ”
อี้ชิงถามก่อนที่อู๋หมิงจะพยักหน้า
“พ่ะย่ะค่ะ ”
“และต่อจากนี้อาจจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นตามมาอีกแน่ๆ แล้วนางกำนัลที่ชื่อฉิงฉินนั้นเจอตัวนางรึยัง?”
อี้ชิงถามต่อ
“เจอแล้วพ่ะย่ะค่ะ แต่. . .”
“แต่อะไรอีก”
ซื่อซื่อถามต่อด้วยความอยากรู้
“เจอเป็นศพอยู่ที่บ้านร้างแถวชายป่าห่างจากวังไม่ไกลนะสิ”
อู๋หมิงตอบ
“นางตายแล้ว”
“พ่ะย่ะค่ะ น่าจะโดนฆ่าปิดปาก”
“โธ่ ไม่น่าเลยยังสาวอยู่แท้ๆ”
ซื่อซื่อว่าอย่างเวทนา
“น่างสงสารจริงๆนั้นแหละ คนผู้นั้นช่างใจร้ายจริงๆ”
อี้ชิงว่าแล้วได้แต่ภาวนาในใจขอให้ดวงวิญญาณของฉิงฉินไปสู่สุขติ
“ดูท่าเรื่องนี้จะไม่ใช่เรื่องเล็กๆแล้วล่ะเพคะ ขนาดพานางกำนัลออกไปฆ่านอกวังได้คงจะไม่ใช่เพียงคนธรรมดาแล้วล่ะเพคะ”
“อื้ม พาออกไปฆ่าโดยที่ไม่มีใครรู้เห็นได้ขนาดนี้ต้องมีเส้นสายพอสมควรละ”
“อาจจะมีอำนาจพอๆกับท่านก็ได้นะเพคะ”
ซื่อซื่อว่าเพราะคนที่เธอสงสัยนั้นไม่ใช่ใครที่ไหนก็คือพระสนมเมิ่งแต่เพราะเธอไม่มีหลักฐานมากพอที่พูดออกไปได้
“อำนาจพอๆกับข้า พระสนมเมิ่ง”
“ชู่ว อย่างเสียงดังไปสิเพคะ”
ซื่อซื่อว่าก่อนที่อี้ชิงจะยกมือปิดปากแล้วมองไปรอบๆ
“เจ้าก็คิดแบบเดียวกับข้าใช่หรือไม่?”
อี้ชิงถามก่อนที่ซื่อซื่อและอู๋หมิงจะพยักหน้าเห็นด้วยกับสิ่งที่อี้ชิงพูด
“แต่. . .เจ้าบอกว่านางโดนวางยาจนแท้งลูกไม่ใช่หรือ ก็แปลว่าอาจจะมีอีก”
“อาจจะมีหรือไม่ก็ไม่มีเพคะ”
“เจ้าจะบอกข้าว่า. . .นางยอมกินยาพิษเพื่อให้แท้งลูกนะหรือ”
“หม่อมฉันก็ไม่อยากจะคิดแบบนั้นแต่. . .”
“อะไรหลายๆอย่างทำให้พวกเราคิดแบบนั้นพ่ะย่ะค่ะ”
“แบบนั้นไม่ใจร้ายไปหน่อยหรือ เด็กน้อยตาดำๆที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยนะ”
“เรื่องนั้นพวกเรารู้พ่ะย่ะค่ะแต่ถ้าเพื่ออำนาจที่จะได้เป็นหนึ่งในวังหลังนี้ก็คงจะต้องยอมทำ”
อี้ชิงถอนหายใจออกมา
“ช่างน่ากลัวเสียจริงๆ อี้หมิงอยากจะมีลูกมากๆแต่ไม่มี แต่กลับอีกคนยอมที่จะฆ่าลูกตัวเองเพื่ออำนาจ”
อี้ชิงว่า
“ตอนนี้พวกเราไม่รู้ว่าพระสนมเมิ่งทำแบบนั้นจริงหรือไม่ แต่ถ้าทำจริงๆนางก็ชั่วร้ายไม่ต่างจากปีศาจเลยนะเพคะ”
“น่ากลัวกว่าปีศาจเสียอีก พอได้ยินแบบนี้แล้วข้าไม่สบายใจจริงๆ เราเข้าไปสวดมนต์ให้พวกเขากันดีกว่า”
อี้ชิงว่าแล้ววางของในมือลงแล้วเดินนำเข้าไปด้านในตามด้วยซื่อซื่อและอู๋หมิง
**********
ตำหนักเฟยอี้
สนมเมิ่งนั่งอยู่ที่ศาลาพร้อมกับปักผ้าไปด้วย
“เป็นอย่างไรบ้าง”
“ตอนนี้พระสนมเซียงกำลังตกเป็นผู้ต้องสงสัยอยู่พ่ะย่ะค่ะ”
สนมเมิ่งยิ้มออกมาอย่างพอใจ
“ดี ให้ทุกคนคิดว่าเป็นนางซะ”
“แต่ตอนนี้มีข่าวลือเรื่องฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะ”
“เรื่องอะไร”
“มีข่าวลือว่าฝ่าบาทอาจจะทำการอภัยโทษให้ฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะ”
สนมเมิ่งวางมือจากงานปักแล้วหันมาหาขันทีคนสนิททันที
“อภัยโทษให้ฮองเฮา?”
“พ่ะย่ะค่ะ เพราะฝ่าบาททรงเส็ดไปที่ตำหนักเย็นสองครั้งแล้ว และเมื่อวานก็ให้คนจัดหาเล้าไก่และไก่ไปให้ฮองเฮาที่ตำหนักเย็นด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
“ไก่?”
“พ่ะย่ะค่ะ ได้ยินมาว่าฮองเฮาทรงขอฝ่าบาทเรื่องเลี้ยงไก่แล้วฝ่าบาทก็ทรงจัดการให้พ่ะย่ะค่ะ”
ปึก!
สนมเมิ่งกำหมัดทุบโต๊ะด้วยความไม่พอใจ
“ข้าไม่ยอมหรอกนะ ข้าอุตส่าห์ยอมเสียลูกไปเพื่อให้อี้หมิงเข้าไปอยู่ในนั้น ข้าไม่ยอมในอี้หมิงออกมาอีกแน่ๆ”
“ใจเย็นก่อนพ่ะย่ะค่ะ มันก็เป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น ฝ่าบาททรงโปรดท่านมากและเสียใจมากกับเรื่องที่ต้องสูญเสียบุตรไปคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะอภัยโทษให้ฮองเฮา”
“จะให้ข้าใจเย็นได้อย่างไร ท่านก็น่าจะรู้ว่าถ้าเกิดมีข่าวลืออะไรขึ้นไม่นานก็จะเป็นเรื่องจริง”
“กระหม่อมเข้าใจพ่ะย่ะค่ะ”
“ข้าจะไม่ยอมให้ข่าวลือนั้นเป็นจริงแน่ๆ”
“พ่ะย่ะค่ะ”
“วันนี้ฝ่าบาทจะมาที่ตำหนักหรือไม่”
“มาพ่ะย่ะค่ะ เห็นบอกว่าจะมาทานอาหารเย็นที่นี้”
“ดี ให้คนไปเตรียมของโปรดฝ่าบาทไว้”
“พ่ะย่ะค่ะ”
“เจ้าไปได้แล้ว”
“พ่ะย่ะค่ะ”
สนมเมิ่งโบกมือไล่ก่อนที่ขันทีคนสนิทจะโค้งให้แล้วเดินออกจากศาลาไป
ช่วงค่ำ ตำหนักเฟยอี้
“ฝ่าบาทเสด็จ”
สนมเมิ่งที่ได้ยินเสียงก็รีบลุกจากเก้าอี้ออกไปรับอี้ฝานที่หน้าตำหนัก
“ถวายพระพรเพคะฝ่าบาท”
“ตามสบายเถอะ”
อี้ฝานพูดบอกพร้อมรอยยิ้มก่อนที่สนมเมิ่งจะยิ้มให้แล้วเดินตามอี้ฝานมานั่งที่เก้าอี้ก่อนจะหันไปสั่งให้นางกำนัลยกสำรับอาหารมา
“ชาดอกบัวเพคะ”
สนมเมิ่งรินชาใส่แก้วให้ก่อนจะยกให้อี้ฝานดื่ม
“ขอบใจเจ้ามาก”
อี้ฝานรับแก้วชามายกดื่ม
“เป็นอย่างไรบ้าง?”
“สบายดีเพคะ ช่วงนี้มีเรื่องเคลียดหรือเพคะฝ่าบาทเลยไม่มาหาหม่อมฉันเลย”
สนมเมิ่งถามอย่างน้อยใจก่อนที่อี้ฝานจะยื่นมือไปจับมือสนมเมิ่งเอาไว้
“ข้าอยากมาหาเจ้าใจจะขาด แต่งานช่วงนี้เยอะเหลือเกิน แถมตอนนี้ยังมีเรื่องการตายของใต้เท้าเหรินอีก”
“ได้ความอย่างไรบ้างเพคะ”
“ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ว่าใครเป็นคนทำ”
“แต่หม่อมฉันได้ยินมาว่าเจอขวดยาพิษที่ตำหนักสนมเซียงหรือเพคะ”
“ใช่ แต่ข้าก็ยังไม่คิดว่าเป็นสนมเซียง”
“นั้นสิเพคะ แต่ว่าสนมเซียงกับฮองเฮาไม่ค่อยจะถูกกันเท่าไร อาจจะ. . .”
“เรื่องนั้นข้ารู้ดี แต่ตอนนี้ยังตัดสินไม่ได้ว่าสนมเซียงเป็นคนทำ”
อี้ฝานว่าเพราะเขารู้ดีว่าอี้หมิงและสนมเซียงเวลาเจอกันมักจะทะลาะกันเสียส่วนใหญ่
“เพคะ พักเรื่องเครียดเอาไว้ก่อน วันนี้หม่อมฉันให้คนเตรียมของโปรดฝ่าบาทเอาไว้ด้วยเพคะ”
สนมเมิ่งยิ้มแล้วยกชามข้าวให้อี้ฝาน
“เจ้าก็ทานเยอะๆ ร่างกายจะได้แข็งแรง”
“เพคะ”
**********
หลายวันต่อมา
“ฮองเฮาเพคะ”
ซื่อซื่อกับอู๋หมิงช่วยกันยกหีบใบเล็กเข้ามา
“หีบอะไรนะ?”
อี้ชิงถามแล้วลุกเดินมาดู
“เป็นเสื้อผ้าชุดใหม่เพคะ”
ซื่อซื่อตอบก่อนที่อี้ชิงจะเปิดหีบออกแล้วยกเสื้อผ้าที่ถูกตัดเย็บอย่างดีออกมาดู
“ผ้าแบบนี้ข้าไม่เคยใส่เลย”
อี้ชิงว่าก่อนที่ซื่อซื่อและอู๋หมิงจะยิ้มออกมา
“ลองใส่ดูไหมพ่ะย่ะค่ะ”
อี้ชิงส่ายหน้า
“เก็บเอาไว้ดีกว่า อยู่ที่นี้ก็ไม่ได้ไปไหน ใส่เสื้อผ้าดีๆไปก็เท่านั้น เสียดาย”
อี้ชิงบอกแล้วพับชุดเก็บลงหีบเหมือนเดิม
“ทำไมละเพคะ เสื้อผ้าพวกนี้เป็นของฮองเฮานะเพคะ”
“ข้ารู้ว่านี้เป็นของข้า แต่พวกท่านก็รู้ข้าถูกกักให้อยู่แต่ที่นี้ออกไปไหนก็ไม่ได้ แล้วก็ไม่มีใครมาที่นี้อยู่แล้วใส่ไปก็ไม่มีคนดู ข้าเสียดายผ้าพวกนี้ต้องแพงมากแน่ๆ”
อี้ชิงว่าเพราะเขาไม่กล้าที่จะใส่เสื้อผ้าพวกนี้ดีเกินกว่าที่เขาจะใส่
“โธ่ ใส่ให้พวกหม่อมฉันดูก็ได้นิเพคะ”
ซื่อซื่อว่าก่อนที่อี้ชิงจะหัวเราะออกมา
“ไม่เอาหรอก ถ้าหากข้าได้ออกจากที่นี้เมื่อใด ค่อยใส่ก็แล้วกัน”
อี้ชิงว่า
“ถ้าไม่ได้ออกไปล่ะพ่ะย่ะค่ะ”
“พูดอะไรของเจ้ากัน”
ซื่อซื่อหันไปว่าอู๋หมิงพร้อมกับตีอีกคนเบาๆ
“ข้าก็แค่พูดเผื่อเอาไว้”
“ก็ไม่ควรพูดหรือไม่”
“ขอประทานอภัยพ่ะย่ะค่ะ”
“ไม่เป็นไร ที่จริงข้าก็คิดเอาไว้อยู่แล้วว่าอีกไม่นานตำแหน่งฮองเฮาของข้าอาจจะถูกถอดออกจริงๆและข้าอาจจะต้องอยู่ที่นี้ไปจนตายก็ได้”
อี้ชิงว่าเพราะเขาคิดเอาไว้อยู่แล้วเรื่องที่อี้หมิงถูกใส่ร้ายนั้นอาจจะยากที่จะหาความจริงและตำแหน่งฮองเฮาจะปล่อยว่างไม่ได้บางทีถ้าหากมีสนมคนใดตั้งท้องและประสูติโอรสสนมคนนั้นอาจจะได้เป็นฮองเฮาคนต่อไปก็ได้และคนที่อี้ชิงคิดเอาไว้คือสนมเมิ่ง
“ข้าคิดว่าเรื่องที่อี้หมิงถูกใส่ร้ายอาจจะหาความกระจ่างยากแล้วละ ขนาดเรื่องแค่นี้ยังเป็นเรื่องราวใหญ่โตขนาดนี้ข้าไม่รู้จะเริ่มจัดการเรื่องนี้อย่างไรดี”
อี้ชิงฝืนยิ้มออกมาอย่างเศร้าสร้อยทำเอาซื่อซื่อและอู๋หมิงถึงกับสงสารก่อนที่ซื่อซื่อจะคุกเข่านั่งลงตรงหน้าอี้ชิงและกุมมืออี้ชิงเอาไว้
“ข้าเชื่อว่าอีกไม่นานทุกอย่างจะต้องกระจ่างเพคะ”
“ตอนนี้ท่านต้องดูแลตัวเองดีๆ เพราะตอนนี้เราไม่รู้ว่าคนที่จ้องจะทำร้ายท่านเป็นใคร กระหม่อมคิดว่าอีกไม่นานคนผู้นั้นต้องลงมืออะไรสักอย่างเพื่อกำจัดท่าน”
อี้ชิงพยักหน้า
“ข้าก็กลัวแบบนั้น แต่ข้าคิดว่าถ้าเราอยู่ที่นี้จะปลอดภัยมากกว่า”
อี้ชิงว่า
“ปลอดภัยก็จริง แต่ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นพวกเราก็แย่เพคะ”
“ใช่พ่ะย่ะค่ะ ที่นี้อยู่ลึกและไม่ค่อยมีใครผ่าน ขนาดเวรยามยังนานๆมาที”
“เฮ้อ อย่างไรก็ไม่ดีสินะ”
อี้ชิงว่าพร้อมกับถอนหายใจออกมาเบาๆ
“อย่าทรงคิดมากไปเลยเพคะ ช่วงนี้อาจจะยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ได้นะเพคะ”
“ใช่พ่ะย่ะค่ะ ฝั่งนู้นอาจจะยังไม่กล้าทำอะไรเพราะเรื่องการตายของใต้เท้าเหรินยังไม่กระจ่าง สนมเซียงก็ดูเหมือนจะไม่ยอมด้วยพ่ะย่ะค่ะเพราะสนมเซียงก็เหมือนจะถูกใส่ร้ายตอนนี้คดีเลยยังไม่ค่อยได้ความเท่าไร”
อู๋หมิงว่า
“ถ้าหากเป็นคนที่สั่งเป็นคนๆเดียวกับที่พวกเราคิดก็คงจะยากหน่อย”
“ใช่เพคะ”
“คิดแล้วก็ปวดหัว ปะเราไปดูแปลงผักกับไก่ของเราดีกว่าว่าวันนี้จะได้ไข่กี่ฟองกัน”
อี้ชิงว่าแล้วลุกขึ้นยื่นก่อนจะเดินนำซื่อซื่อและอู๋หมิงไปที่แปลงผักข้างตำหนัก
“บางที่ข้าก็สงสารอี้ชิงนะ”
ซื่อซื่อว่าแล้วมองแผ่นหลังเล็กที่เดินนำหน้าไปที่แปลงผัก
“ใช่ แต่ข้าก็ดีใจที่ได้เห็นฮองเฮาอยู่ตรงนี้ถึงแม้ภายในจะไม่ใช่ฮองเฮาอี้หมิงก็เถอะ”
“นั้นนะสินะ ถ้าหากไม่มีวิญญาณของอี้ชิงมาอยู่ละก็ตอนนี้ฮองเฮาคงไม่อยู่กับพวกเราแล้ว”
อู๋หมิงพยักหน้าเบาๆ
“พวกท่านมาดูนี้สิ วันนี้ไก่ออกไข่เสียเยอะเลย”
อี้ชิงหันมาร้องเรียกพร้อมรอยยิ้มก่อนที่ซื่อซื่อและอู๋หมิงจะเดินตามไปช่วยอี้ชิงเก็บไข่ไก่
“ข้าว่าจะเก็บเอากินส่วนหนึ่งแล้วส่วนที่เหลือท่านช่วยเอาไปให้ห้องเครื่องใช้ทำอาหารนะ”
อี้ชิงว่า
“เพคะ”
“งั้นกระหม่อมจะไปรดน้ำแปลงผักนะพ่ะย่ะค่ะ”
“อื้ม ฝากด้วยนะ”
อี้ชิงยิ้มให้ก่อนที่อู๋หมิงจะเดินไปรดน้ำแปลงผักส่วนอี้ชิงกับซื่อซื่อก็หิ้วตระกร้าเข้าไปเก็บไข่ไก่ในเล้าไก่
เวลาเดียวกัน หน้าตำหนักเย็น
อี้ฝานยืนมองดูทั้งสามที่พูดคุยกันอยู่ที่แปลงผักและอี้ฝานก็มองดูอี้หมิงที่กำลังเข้าไปในเล้าไก่และเก็บไข่ไก่อยู่อย่างไม่เชื่อสายตา
“นั้น. . .อี้หมิงใช่ไหม?”
“พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท”
“ข้าไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะได้เห็นอี้หมิงทำอะไรแบบนี้”
“หม่อมฉันก็ด้วยพ่ะย่ะค่ะ ตั้งแต่ทรงประชวรหนักแล้วหายฮองเฮาก็เหมือนไม่ใช่ฮองเฮาองค์เดิมเลยพ่ะย่ะค่ะ”
“ใช่ ตั้งแต่วันนั้นที่อี้หมิงหนีออกจากตำหนัก”
อี้ฝานมองอี้หมิงนิ่งอย่างใช่ความคิด ว่าเกิดอะไรขึ้นทำให้อี้หมิงคนที่หยิ่งยโสคนนั้นถึงได้กลายเป็นแบบนี้เปลี่ยนเป็นคนละคนราวกับคนที่อยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้ไม่ใช่อี้หมิง
“เจ้าแน่ใจหรือว่าที่อี้หมิงเป็นแบบนี้เพราะเกิดจากอาการป่วย”
“หมอหลวงที่ทำการรักษาได้บอกแบบนั้นพ่ะย่ะค่ะ”
“ป่วยจนทำให้เปลี่ยนไปเป็นคนละคนแบบนี้ได้เชียวรึ?”
“อาจจะเป็นไปได้พ่ะย่ะค่ะ เพราะฮองเฮาทรงเสียพระทัยมากจนอาจจะทำให้สติเลอะเลือนก็ได้พ่ะย่ะค่ะ”
“แล้วที่เจ้าเห็นตอนนี้เหมือนคนสติไม่ดีหรือไม่”
อี้ฝานถามทำเอาเหล่านางกำนัลเหล่าขันทีที่ติดตามมาด้วยถึงกับพูดไปไม่ออกเพราะมองยังไงฮองเฮาอี้หมิงก็ปกติดีดูไม่ออกว่าตอนนี้กลายเป็นคนสติไม่ดี
“เอาเถอะ ถ้าอี้หมิงยังไม่ได้สร้างความเดือนร้อนอะไรอีกก็ปล่อยให้อี้หมิงอยู่แบบนี้ไป”
อี้ฝานพูดแล้วหันตัวเดินกลับตำหนักโดยที่ไม่รู้ว่าสนมเมิ่งได้แอบดูอี้ฝานอยู่ไกลๆ
“ข่าวลือนั้นดูท่าแล้วจะเป็นจริงเสียแล้วละ”
สนมเมิ่งว่าแล้วกำหมัดแน่น
“อาจจะเพียงแค่มาตรวจสอบดูก้ได้พ่ะย่ะค่ะ”
“หึ ตรวจสอบอันใด ฮองเฮานั้นมาอยู่ที่ตำหนักเย็นเป็นนานฝ่าบาทยังไม่เคยมาหา ท่านคิดว่ามันจะไม่มีอะไรได้อย่างไรกัน”
“พระสนมอาจจะกังวลมากเกินไปพ่ะย่ะค่ะ”
“กังวลมากเกินไป? ท่านไม่ให้กังวลได้อย่างไรทั้งๆที่มันใกล้จะตายอยู่แล้วแต่จู่ๆฝ่าบาทก็หันกลับมาสนใจมันตำแหน่งฮองเฮาที่ใกล้จะเป็นของข้าตอนนี้ก็อาจจะไม่ใช่แล้ว ท่านก็รู้ว่าองค์ไทเฮาทรงรักมันขนาดไหนขนาดที่ข้าใส่ความมันว่าทำให้ข้าแท้งมันยังไม่ถูกปลดออกจากตำแหน่ง”
“เรื่องนั้นกระหม่อมทราบดี แต่พระสนมควรจะใจเย็นๆรอให้เรื่องของใต้เท้าเหรินเงียบก่อนค่อยจัดการยังไม่สาย”
“ท่านคิดแบบนั้นหรือ ข้าว่าหากรอให้เรื่องใต้เท้าเหรินเงียบมันคงได้กลับมาออกมาเป็นฮองเฮาดังเดิม ข้าจะไม่รอแล้ว ข้าจะให้มันตายๆไปซะแค่มันตายทุกอย่างก็จะจบ”
“แต่ว่า. . .”
“ไม่มีแต่ใดๆทั้งนั้น หึ ทางเดียวที่ทุกอย่างจะจบคือให้อี้หมิงตาย ตำแหน่งฮองเฮาก็จะเป็นของข้า”
สนมเมิ่งว่าก่อนจะหมุนตัวเดินกลับตำหนักตามก้วยนางกำนัลและขันทีผู้ติดตาม
*************************************
ดีใจที่ยังมีคนมาอ่านอยู่ขอบคุณมากๆนะคะ
ไว้เจอกันตอนหน้าค่า<3
ความคิดเห็น