ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ สาม
บทที่ ๓
ช่วงค่ำ ภายในตำหนักเย็น
ซื่อซื่อใช้ผ้าขาวบางเช็ดตามเนื้อตัวให้อี้หมิงที่นอนไม่ได้สติอยู่บนเตียงเพราะมีไข้ก่อนที่ซื่อซื่อจะหันไปมองร่างสูงใหญ่ในชุดมังกรที่นั่งอยู่ไม่ไกล
"หมอหลวงมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ"
ขันทีเดินเข้ามาบอกพร้อมกับร่างของหมอหลวงที่เดินตามเข้ามา
"ถวายพระพร ฝ่าบาท"
"ไม่ต้องมากพิธี ไปตรวจอาการฮองเฮาได้แล้ว"
"พ่ะย่ะค่ะ"
หมอหลวงชราโค้งให้แล้วเดินไปหยุดข้างเตียงก่อนที่ซื่อซื่อจะลุกมายืนข้างเตียงให้หมอหลวงตรวจอาการอีหมิงอย่างละเอียด
"เป็นอย่างไรบ้าง"
อี้ฝานถามหลังจากที่หมอหลวงลุกขึ้นยืน
"ส่วนไข้ไม่สูงมากนักไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ร่างกายของฮองเฮานั้นอ่อนแอมากพ่ะย่ะค่ะ หากยังเป็นแบบนี้อาจจะทำให้ฮองเฮาประชวรหนักได้พ่ะย่ะค่ะ"
หมอหลวงตอบ
"เข้าใจแล้ว"
"ข้าน้อยขอตัวไปเตรียมยาให้ฮองเฮาก่อน"
อี้ฝานพยักหน้าก่อนที่หมอหลวงจะเดินออกจากห้องไป
อี้ฝานมองคนที่นอนอยู่บนเตียงก่อนจะมองไปรอบๆห้องก่อนจะหันมามองเครื่องแต่งกายของซื่อซื่อและคนที่นอนอยู่บนเตียง
"ดูแลฮองเฮาให้ดี หากอาการไม่ดีขึ้นให้บอกข้า"
"เพคะ"
ซื่อซื่อเดินออกไปส่งอี้ฝานที่หน้าตำหนักก่อนจะเข้ามาดูอี้ชิงอีกครั้ง
"ฮองเฮายังไม่ฟื้นอีกหรือ"
อู๋หมิงขันทีคนสนิทถามขึ้นหลังจากที่ยกอ่างทองเหลืองเข้ามาให้ซื่อซื่อ
"ยังเลย"
ซื่อซื่อส่ายหน้าแล้วใช้ผ้าชุบน้ำมาซับหน้าผากให้อี้ชิง
"เจ้าว่าฝ่าบาทมองแปลกๆหรือไม่"
อู๋หมิงถามเพราะเมื่อสักครู่เขาแอบดูอยู่อี้ฝานเอาแต่มองไปที่ฮองเฮาและมองไปรอบห้องๆเหมือนกำลังหาอะไรอยู่
"อืม ข้าก็คิดแบบนั้น"
ซื่อซื่อตอบเพระาเธอก็คิดแบบนั้นเหมือนกันว่าฝ่าบาทมองมาที่เธอและมองสำรวจรอบห้องหรืออาจจะดูตั้งแต่เดินเข้ามาที่ตำหนักแล้วก็เป็นได้
"บางทีฝ่าบาทอาจจะสงสัยว่าทำไมที่แห่งนี้ถึงแบบนี้ เสื้อผ้าของพวกเราอีก"
อู๋หมิงต่อ
"สงสัยก็ดี หากฝ่าบาทลุกมาทำอะไรบ้างฮองเฮาจะได้ไม่ต้องมาทนอยู่ในสภาพแบบนี้อีก"
"นั้นสิ หึ ข้าละอยากรู้นักว่าหากฝ่าบาททรงลงมาดูจริงๆเจ้าพวกนั้นจะเป็นย่างไร"
"ข้าก็อยากให้คนพวกนั้นโดนลงโทษหนักๆให้เท่ากับที่ฮองเฮาต้องทนอยู่ในสภาพแบบนี้"
"ข้าว่าเจ้าไปเตรียมอาหารให้ฮองเฮาเถอะหากทรงฟื้นจะได้ทานอะไรรองท้อง"
อู๋หมิงพูดบอกก่อนที่ซื่อซื่อจะพยักหน้า
"งั้นข้าฝากเจ้าช่วยดูฮองเฮาหน่อย หากทรงไข้ขึ้นเจ้าก็รีบไปตามท่านหมอ"
"อืม"
ซื่อซื่อลุกเดินออกไปก่อนที่อู๋หมิงจะเดินมานั่งข้างเตียง
หลายชั่วยามต่อมา
อี้ชิงลืมตาตื่นขึ้นมาก่อนจะกวาดสายตามมองไปรอบๆอี้ชิงรู้สึกถึงความไม่สบายตัวเพราะตอนนี้ตัวเขาร้อนจากพิษไข้และความเจ็บน้อยๆที่บริเวณหน้าผากที่เกิดจากตอนเป็นลม
ก่อนที่สายตาของเขาจะหันไปเจอกับร่างของขันทีหนุ่มที่สัปหงกอยู่ข้างเตียง
อี้ชิงค่อยๆยันตัวขึ้นนั่งก่อนที่อู๋หมิงจะสะดุ้งตื่นอย่างตกใจ
"ฮองเฮา ท่านฟื้นแล้ว เป็นอย่างไรบ้างพ่ะย่ะค่ะ"
อู๋หมิงรีบเข้ามาประคองและจัดท่านั่งให้อี้ชิงนั่งสบายๆแล้วมองสำรวจอี้ชิงด้วยความเป็นห่วง
"เจ้า. . .เป็นใครหรือ?"
อี้ชิงถามก่อนที่อู๋หมิงจะทำหน้าแปลกใจกับคำถามของอี้ชิงและเขาก้พอได้ยินมาจากซื่อซื่อบ้างว่าตั้งแต่อี้ชิงตื่นมาก็พูดจาแปลกๆเหมือนกับว่าไม่อี้หมิงไม่ใช่อี้หมิง
"ข้าน้อยอู๋หมิงไงพ่ะย่ะค่ะ ขันทีอู๋"
อู๋หมิงตอบ
"ข้า. . .ขอโทษ. . ."
อี้ชิงส่ายหน้าอย่างรู้สึกผิดเพราะเขาไม่รู้จักคนตรงหน้าจริงๆและดูเหมือนว่าเขาจะออกจากร่างนี้ไม่ได้
"ขอโทษทำไมกันพ่ะย่ะค่ะ ฮองเฮาไม่ได้ทำอะไรผิดนะพ่ะย่ะค่ะ"
อู๋หมิงรีบพูดบอกเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของอี้ชิง
"ข้าไม่ใช่อี้หมิง"
"ฮองเฮา"
"ข้าไม่ใช่ฮองเฮาของพวกเจ้า ข้าไม่ใช่เขาข้าไม่ใช่อี้หมิง"
อี้ชิงพูดบอกอีกฝ่ายเสียงเศร้า
เขาจนปัญญาแล้วจริงๆเขาไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไปนับจากนี้ ยายและน้องๆของเขาจะเป็นอย่างไรบ้างเขาก็ม่อาจจะรู้ได้
"ทำไมท่านถึงพูดเช่นนั้นพ่ะย่ะค่ะ"
"ร่างกายนี้เป็นของอี้หมิง แต่ภายในไม่ใช่"
อี้ชิงพูดบอกพร้อมๆกับน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม
"ฮองเฮา"
"เจ้าอาจจะไม่เชื่อในสิ่งที่ข้าพูด แต่ว่า ข้าคืออี้ชิง จางอี้ชิงที่ตอนนี้อยู่ในร่างของอี้หมิงฮองเฮาของพวกเจ้า"
อู๋หมิงนิ่งถึงแม้สิ่งที่อีกฝ่ายพูดมานั้นจะเป็นเรื่องเหลือเชื่อแต่อู๋หมิงก็คิดว่าอีกฝ่ายคงไม่ไม่ได้โกหกแน่ๆ เพราะแววตานั้นดูต่างจากของฮองเฮานายเหนือหัวของพวกเขาที่แววตานั้นจะเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและอ้างว้างส่วนคนตรงหน้านั้นมีแววตาเข้มแข็งถึงแม้จะดูเศร้าแต่ก็ไม่เหมือนกับฮองเฮาอี้หมิงเลย
"ท่านชื่ออี้ชิงอย่างนั้นหรือ"
อี้ชิงพยักหน้า
"ท่านพอจะเล่ารื่องราวของท่านให้ข้าฟังได้หรือไม่"
อู๋หมิงถามก่อนที่อี้ชิงจะค่อยๆเล่าถึงเรื่องราวตั้งแต่เล็กๆจนถึงเมื่อคืนก่อน
ก่อนที่เขาจะมาอยู่ที่ร้างนี้
"ทุกคนคิดว่าข้าป่วย ไม่มีใครเชื่อข้าเลย ข้าไม่รู้จะบอกพวกเขายังไงแล้ว"
อี้ชิงบอกก่อนจะยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม
"ข้าเข้าใจแล้ว อาจจะยากสักหน่อยที่จะให้พวกข้าเข้าใจว่าท่านไม่ใช่ฮองเฮาของพวกข้า แต่ได้โปรดขอเวลาอีกสักระยะ"
อู๋หมิงพูดบอกก่อนที่อี้ชิงจะพยักหน้า
"เจ้าเชื่อข้าหรือ"
อี้ชิงเงยหน้ามองอีกคนก่อนที่อู๋หมิงจะยิ้มออกมา
"ตอนแรกข้าไม่เชื่อ แต่ว่าสายตาของท่านมันบอก สายข้าของท่านกับฮองเฮานั้นแตกต่างกันมากนัก ท่านฟื้นขึ้นมาคงจะหิวแย่ ข้าจะไปบอกซื่อซื่อให้ไปอุ่นอาหารมาให้ท่านทานท่านจะได้ทานยา"
อู๋หมิงบอกก่อนที่อี้ชิงจะยิ้มออกมา
"ขอบใจเจ้ามาก"
"มิเป็นไรพ่ะย่ะค่ะ"
"พูดธรรมดากับข้าเถอะ"
อี้ชิงแย้งเพราะมันแปลกๆหากต้องใช้ราชาศัพท์คุยกันแบบนี้เพราะอี้ชิงก็เป็นเพียงสามัญชนธรรมดาๆเท่านั้น
"มิได้หรอกพ่ะย่ะค่ะ ถึงแม้ว่าท่านจะมิใช่ฮองเฮาแต่ร่างนี้คือฮองเฮา ยังไงท่านก็อยู่สูงกว่าเรามาก"
อู๋หมิงบอกก่อนที่อี้ชิงจะพยักหน้าเบาๆก่อนที่อู๋หมิงจะเดินออกจาห้องไป
อี้ชิงได้แต่ถอนหายใจออกมาดูท่าแล้วเขาจะต้องอยู่ในร่างนี้ไปอีกสักพักไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนที่เขาจะได้กลับบ้านไปหาย่ากับน้องๆ
หลังจากกินโจ๊กและยาที่ซื่อซื่อเอามาให้อี้ชิงก็หลับไปอีกครั้งเพราะฤทธิ์ยา
"หวังว่าอาการจะดีขึ้นในเร็ววันนะ"
ซื่อซื่อว่าพร้อมกับยกผ้าห่มขึ้นคลุมตัวอี้ชิงก่อนจะยกถาดออกมาด้านนอกก็เจออู๋หมิงยืนกวาดใบ้ไม้อยู่ที่ลานหน้าตำหนัก
"ฮองเฮาเป็นอย่างไรบ้าง"
"หลับไปแล้ว"
ซื่อซื่อตอบก่อนจะเดินไปที่ห้องครัวเล็กๆตามด้วยอู๋หมิง
"เฮ้อ แต่ข้าไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เจ้าพูดมาเลย"
ซื่อซื่อว่า
"มันยากที่จะเชื่อ แต่เจ้าอยู่กับฮองเฮามานานเจ้าก็น่าจะดูออกว่าฮองเฮาไม่เหมือนเดิม"
ซื่อซือเงียบ เพราะเธอรู้จักฮองเฮาดีกว่าใครและเป็นอย่างที่อู๋หมิงบอกเพราะตอนที่เธอเฝ้าอี้ชิงกินข้าวเธอก็สังเกตุอีกฝ่ายอยู่เงียบๆ
"ใช่ ข้ารู้ดี ข้ารู้ว่าคนตรงหน้าพวกเราตอนนี้ไม่ใช่ฮองเฮา"
"แล้วพวกเราจะทำอย่างไรต่อไปดี"
"ก็ต้องดูแลฮองเฮาให้ดี สวรรค์ แล้วตอนนี้ฮองเฮาของพวกเราท่านไปอยู่ที่ไหนกัน"
"ฝ่าบาทจะรู้ไหม ว่าคนที่อยู่ในร่างฮองเฮาตอนนี้ไม่ใช่ฮองเฮาคนก่อนแล้ว"
อู๋หมิงก่อนที่ซื่อซื่อจะส่ายหน้า
"ไม่น่าจะรู้หรอก เจ้าก็รู้ว่าฝ่าบาทมาหาฮองเฮานับครั้งได้จะแยกได้อย่างไรกัน"
ซื่อซื่อว่าก่อนที่อู๋หมิงจะพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
"ข้าจะไปซักผ้าก่อนเจ้าก็ดูฮองเฮาด้วยละกัน"
"ได้"
*************
หลายวันต่อมา
อาการป่วยของอี้ชิงดีขึ้นมากจนตอนนี้อี้ชิงออกมาเดินเล่นข้างนอกได้แล้วแต่ซื่อซื่อก็ให้อี้ชิงออกมาเดินเล่นสักพักแล้วพากลับเข้าห้องเพราะอากาศที่หนาวเย็นซื่อซื่อกลัวอี้ชิงจะล้มป่วยลงไปอีก
"แย่แล้วๆ"
อู๋หมิงที่วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาทำให้ซื่อซื่อและอี้ชิงหันไปมองอย่างตกใจปนสงสัย
"เกิดเรื่องอะไรขึ้นเจ้าถึงวิ่งหน้าตื่นแบบนี้"
"ฮองเฮาท่านออกไปดูเถอะพ่ะย่ะค่ะ"
อี้ชิงขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจแต่ก็ยอมเดินออกไปดูที่หน้าตำหนักตามที่อู๋หมิงพูดบอก
"นี้มันอะไรกัน"
ซื่อซื่อพึมพำออกมาอย่างตกใจ
"ถวายพระพรฮองเฮา"
เหล่านางกำนัลและขันทีโค้งให้อี้ชิง
"พวกเราได้รับคำสั่งจากฝ่าบาทให้มาวัดตัวฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะ"
อี้ชิงมองทุกคนก่อนจะมองชุดที่ตัวเองใส่อยู่
จากที่อี้ชิงได้ฟังเรื่องราวบางอย่างจากอู๋หมิงและซื่อซื่อก็พอเดาได้ว่าฮองเฮาอี้หมิงคงเป็นไม่เป็นที่ชอบใจของใครหลายๆคนอาจจะทั้งวังหลวงแห่งนี้ก็ได้แต่เพราะว่าตำแหน่งฮองเฮาเลยทำให้ใครทำอะไรอี้หมิงไม่ได้แล้วพอตอนนี้เมื่ออี้หมิงเหมือนจะหมดอำนาจทุกคนถึงได้ทำแบบนี้ไม่สนใจปล่อยให้อี้หมิงอยู่ภายในตำหนักเย็นแห่งนี้อย่างโดดเดี่ยว
"ข้าขอปฏิเสธ"
อี้ชิงพูดบอกทำให้หลายๆคนต่างตกใจ
"ฮองเฮาเพคะ"
ซื่อซื่อกระซิบเรียกเพราะคำตอบของอี้ชิง
"แต่...ฝ่าบาท..."
"ข้ารู้สึกดีใจที่ฝ่าบาททรงห่วงใย แต่ข้าชินที่จะใส่ชุดพวกนี้เสียแล้วสิ อีกอย่างข้าคงไม่ได้ออกไปจากที่นี้จะใส่ชุดสวยๆพวกนั้นไปทำไมกัน พวกเจ้ากลับไปเถอะ"
เหล่านางกำนัลและขันทีมีสีหน้าลำบาคใจเพราะที่พวกเขามาก็เพราะคำสั่งจากฮองเต้
"กลับไปเถอะ ไม่ต้องห่วงถ้าเกิดอะไรขึ้นข้ารับผิดชอบเอง พวกเจ้ากลับไปเถอะ"
อี้ชิงบอกอีกครั้งก่อนที่เหล่านางกำนัลและขันทีจะโค้งและเดินจากไป
"ฮองเฮา ทำไมปฏิเสธไปละเพคะ"
ซื่อซื่อถามหลังจากเดิน
"นานเท่าไรแล้วที่พวกเราต้องใส่ชุดแบบนี้ไม่ว่าร้อนหรือหนาว ข้าไม่เห็นถึงความจำเป็นที่เราจะต้องใส่ชุดสวยๆพวกนั้นอยู่ที่นี้เลย"
อี้ชิงบอกแล้วเดินไปนั่งเล่นที่โต๊ะไม้เก่าๆตรงลานหน้าตำหนัก
"แต่. . .หากฝ่าบาททรงกริ้ว"
"ไม่หรอก ก็พวกเจ้าบอกเองนิว่าฝ่าบาทไม่สนใจอะไรข้าอยู่แล้ว"
"มันก็ใช่พ่ะย่ะค่ะ"
"ช่างเรื่องนั้นเถอะ ที่ตรงนั้น พวกเจ้าว่าถ้าเราปลูกผักเอาไว้กินจะดีหรือไม่"
อี้ชิงเปลี่ยนเรื่องแล้วชี้ไปตรงมุมข้างกำแพงที่เป็นพื้นดินเก่าๆดูท่าจะเคยเป็นแปลงดอกไม้มาก่อนแต่ไม่ได้รับการดูแลเท่าที่ควรทำให้กลายเป็นเพียงพื้นดินเปล่า
"ท่านอยากปลูกผักหรือ"
อี้ชิงพยักหน้า
"แต่ตอนนี้ท่านป่วยอยู่ หากท่านหายดีกว่านี้ท่านอยากปลูกอะไรพวกข้าจะช่วย"
ซื่อซื่อบอกก่อนที่อี้ชิงจะพยักหน้า
"เข้าไปข้างในกันเถอะเพคะ อากาศยังเย็นอยู่เดี๋ยวจะประชวรอีก"
อี้ชิงพยักหน้าก่อนจะลุกเดินเข้าไปในตำหนักตามด้วยซื่อซื่อและอู๋หมิง
เวลาเดียวกัน ณ ห้องหนังสือ
หลังจากเข้าประชุมในช่วงเช้ากับเหล่าขุนนางอี้ฝานก็มาอ่านฎีกาต่างๆต่อที่ห้องหนังสือ
"ฝ่าบาท คนของฝ่ายตัดเย็บมาขอเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ"
"ให้เข้ามาได้"
ขันทีจูโค้งให้ก่อนที่จะเดินออกไปไม่นานคนของฝ่ายตัดเย็บก็เดินเข้ามา
"ถวายพระพรฝ่าบาท"
นางกำนัลวัยกลางคนจะคุกเข่าลงคำนับ
"ลุกขึ้นเถอะ "
"ขอบพระทัยเพคะ"
"มีเรื่องอะไร"
อี้ฝานเงยหน้าจากฎีกาที่อ่านอยู่เมื่อนางกำนัลไม่ยอมพูดอะไรออกมานางดูมีสีห้าที่กังวลเมื่อคิดถงเรื่องที่จะต้องมารายงาน
"เมื่อช่วงสายหม่อมฉันได้ไปที่ตำหนักเย็นเพื่อตัดชุดให้ฮองเฮาตามที่ฝ่าบาทมีรับสั่งแต่. . ."
"แต่อะไร"
"ฮองเฮาทรงปฏิเสธเพคะ"
"ปฏิเสธ?"
"เพคะ ทรงบอกว่าชินกับการใส่ชุดที่ใส่อยู่แล้วก็ยังบอกอีกว่าเพราะต้องอยู่แต่ที่ตำหนักเย็นไม่รู้จะใส่ชุดสวยๆไปเพื่ออะไรเพคะ"
อี้ฝานถอนหายใจออกมา
อี้หมิงยังไงก็คืออี้หมิงคงอยากให้เขายกเลิกการกักบริเวณจึงได้ประชดประชันเขามาแบบนี้
"บอกเพียงแค่นั้น"
"ใช่เพคะ"
"ข้าจะจัดการเรื่องนี้เอง เจ้าไปเถอะ"
นางกำนัลโค้งลาก่อนจะเดินออกจากห้องไป
"ฝ่าบาทจะทรงไปไหนหรือพ่ะย่ะค่ะ"
ขันทีจูถามเมื่อเห็นอี้ฝานลุกขึ้นยืน
"ไปตำหนักเย็น"
"พ่ะย่ะค่ะ"
ขันทีจูรับคำก่อนจะเดินตามอี้ฝานออกไป
***********************
มาต่อแล้วนะคะ
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต่างๆมากๆเลย
จะพยายามมาต่อให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้นะคะ
เอนจอยรีดดริ้งนะคะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น