ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Pumpkin & Devil อภินิหาริย์เทพฟักทองและแฝดปีศาจ

    ลำดับตอนที่ #5 : บทที่5- เยี่ยมเยือน

    • อัปเดตล่าสุด 22 ก.ค. 53


    ณ บ้านของซุส
    ไวโอเลตกำลังง่วนอยู่กับสิ่งประดิษฐ์มากมายในกระเป๋าเป้ใบใหญ่อยู่ที่ห้องนั่งเล่น
    “นี่เธอน่ะ อย่าทำข้าวของเกะกะอย่างงี้สิ  ดูสิ บ้านเลอะเทอะหมดแล้ว” เรมัสเดินเข้ามาแล้วพูดด้วยท่าทางกวนประสาท
    “เกะกะนักนายก็ไปเดินที่อื่นสิ บ้านออกจะกว้างขวาง ทางที่ดีนายก็ไปไกลๆเลย นายทำให้ฉันเสียสมาธิ”   ไวโอเลตใช้คำพูดไล่เรมัสบ่งบอกถึงความรำคาญ
    “ไปก็ได้ แล้วมีอะไรก็อย่าขอร้องให้ช่วยแล้วกัน”   เรมัสพูดเยาะเย้ย
    “เรื่องนั้นคงไม่จำเป็น”   ไวโอเลตพูดพร้อมกับโชว์ปืนหนึ่งในจำนวนหลายกระบอกที่ตัวเองเช็ดอยู่
    “ทำอะไรอยู่น่ะไวโอเลต ให้ฉันช่วยไหม” โรมิวลัสเดินเข้ามาพร้อมกันกับที่เรมัสกำลังเดินออกไป
    “ไม่เป็นไรหรอก ใกล้เสร็จจะแล้ว ฉันแค่เอาอุปกรณ์พวกนี้มาเช็คสภาพเท่านั้น เผื่อฉุกเฉินจะได้หยิบใช้ได้เลย”   ไวโอเลตตอบ
    “แหม ทีกับโรมิวลัสพูดดีจังนะ ทีกับฉันไล่อย่างกับหมาเลย”        เรมัสพูดแสดงความน้อยใจแบบกวนๆ
    “ฮึ นายพูดเองนะว่านายเป็นหมา ฉันไม่ได้พูดสักคำ”      ไวโอเลตย้อน ทำให้เรมัสพูดไม่ออกแล้วเดินออกไป
    “ฉันเห็นเธอประดิษฐ์ของมาเยอะแยะแต่ก็ไม่ได้ใช้ แล้วจะเธอจะทำเพื่ออะไร”     โรมิวลัสพูดพร้อมกับหยิบสิ่งประดิษฐ์ชิ้นหนึ่งออกมาช่วยเช็ดทำความสะอาด
    “ไม่รู้เหมือนกัน อาจเป็นเพราะความชอบมั้ง แต่ฉันมีลางสังหรณ์ว่าจะต้องได้ใช้มันทั้งหมดแน่”   ไวโอเลตตอบ   โรมิวลัสทำหน้างงกับคำพูดที่ว่า “จะต้องได้ใช้มันทั้งหมดแน่”
    “โรมิวลัส เรมัส ไวโอเลต กินข้าวได้แล้ว !”      เสียงทริชตะโกนออกมาจากในครัว
    สมาชิกทั้งหมดก็มากินข้าวพร้อมกัน แต่แล้วก็มีคนมากดกริ่งหน้าบ้าน
    “ติ๊ง  ต่อง”   
    “ใครมาน่ะ เดี๋ยวผมไปดูให้นะครับ”    โรมิวลัสอาสาไปรับแขก
    เมื่อโรมิวลัสเดินไปที่ประตูหน้าบ้านก็เห็นชายใส่เสื้อคลุมยาวคนหนึ่งยืนก้มหน้าอยู่หน้าประตูรั้ว 
    “มาหาใครครับ” โรมัวลัสถาม
    “มาหาเจ้าของบ้านหลังนี้”   ชายคนนั้นก้มหน้าตอบด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว
    “อ่อ.....คุณเป็นใครครับ?”     โรมิวลัสรู้สึกไม่ปลอดภัยจึงถอยหลังมา1ก้าวแล้วถาม
    “ฉันน่ะเหรอ?”     ชายคนนั้นเงยหน้าพร้อมกับเปิดหมวกที่คลุมศีรษะไว้    ทำเอาโรมิวลัสตกใจ
    “นี่แก...มาที่นี่ได้ไง พ่อฉันไปปราบแกอยู่ไม่ใช่เหรอ”    โรมิวลัสตกใจที่เห็นหน้าชาไทร์ที่พ่อตัวเองกำลังไปปราบมาปรากฎตัวอยู่ตรงหน้า
    “เจ้า2คนนั้นน่ะเหรอ ฮ่าๆ ป่านนี้คงตายไปแล้ว”    ชาไทร์ตอบด้วยน้ำเสียงสะใจ
    “หมะ...หมายความว่าไง ไม่จริง พ่อ...กับคุณอา...ไม่จริง แกโกหก”     โรมิวลัสไม่เชื่อกับสิ่งที่ชาไทร์พูด
    “ฮ่าๆ ยอมรับซะเถอะ เจ้าปีศาจน้อย ถ้าเจ้า2คนนั้นยังอยู่ ข้าคงไม่มายืนอยู่ตรงนี้หรอก จริงมั้ย”     ชาไทร์พูด
    “ใครมาเหรอโรมิวลัส?   ห๊า! แกมาที่นี่ได้ไง พ่อกับคุณอาโพไซดอนตามไปฆ่าแกอยู่ไม่ใช่เหรอ”     เรมัสเดินออกมาเพื่อดูว่าใครมากันแน่เพราะโรมิวลัสออกมานานแล้ว เมื่อเห็นแขกที่มาก็ต้องตกใจ
    “ที่ฉันมาวันนี้ฉันจะมากำจัดตัวเสี้ยนหนามให้สิ้นซาก เพื่อที่จะให้ราชาโพรมิเธียสเป็นใหญ่ใน4โลก”   ชาไทร์พูดด้วยความภาคภูมิใจ
    “จงรักภักดีนักนะแกงั้นเอานี่ไปกินมื้อเย็น”      เรมัสใช้ปืนที่พกอยู่ยิงไปที่ชาไทร์อย่างรวดเร็ว แต่ชาไทร์ก็หลบได้
    “ของพวกนั้นทำอะไรข้าไม่ได้หรอก เจ้าปีศาจตัวกระจ้อย”       ชาไทร์เยาะเย้ย
    “งั้นเอานี่ไปแทนแล้วกัน แก!”            ไวโอเลตออกมาพร้อมกับทริช แล้วใช้ปืนที่ตัวเองประดิษฐ์ขึ้นยิงไปที่ชาไทร์ และคราวนี้กระสุนก็โดนตัวชาไทร์ แต่ก็แค่ถากไปนิดเดียว
    “ฝีมือไม่เลวนี่แม่สาวน้อย...สมแล้วที่ถูกเลี้ยงดูโดยโพไซดอน”      ชาไทร์ชม
    “พ่อเธอน่ะเป็นปีศาจที่เก่งนะ แต่ก็โง่ไปหน่อยที่ทรยศเพื่อนพ้องตัวเองจนตัวเองต้องตาย”     ชาไทร์พูดย้อนอดีต
    “พ่อฉันกับคุณอาซุสทำในสิ่งที่ถูกต้อง พวกเขาพยายามที่จะขัดขวางความเลวของพวกแกไง”   ไวโอเลตพูดพร้อมด้วยยกปืนขึ้นเล็งไปที่ชาไทร์
    ทันใดนั้นชาไทร์เข้าไปจับตัวทริชมาเพื่อเป็นตัวประกันอย่างรวดเร็วปานสายฟ้า
    “แม่ /คุณอา !”   ทั้งสามพูดพร้อมกัน
    “ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฉันจะให้พวกแกเลือก ว่าจะให้ยัยนี่ตายหรือว่าจะส่งแม่สาวน้อยนั่นมา”    ชาไทร์เสนอทางเลือก
    “ไม่นะ ไวโอเลต ไม่ต้องห่วงอา ฆ่ามันซะ”      ทริชร้องบอกไวโอเลต
    “ถ้าทำอย่างนั้นคุณอาก็พลอยโดนไปด้วย ไม่ ฉันทำไม่ได้”    ไวโอเลตปฏิเสธ
    “โรมิวลัสทำไงดี แม่เรา....”   เรมัส ปรึกษากับโรมิวลัสเบาๆ   โรมิวลัสส่ายหน้าอย่างหมดหวังด้วยสีหน้าเป็นกังวล
    “ก็ได้ ถ้าแกชนะพวกเราสามคนได้ฉันจะยอมไปกับแก”     ไวโอเลตตัดสินใจ
    “ไวโอเลต!”   ทุกคนตะโกนออกมาด้วยความตกใจในการตัดสินใจของไวโอเลต
    “นี่เธอจะบ้าหรือไง ทำไมต้องเอาฉันไปเกี่ยวด้วย เอาโรมิวลัสไปคนเดียวเหอะ”   เรมัสพูดแหมือนจะเห็นแก่ตัว
    “ฮ่า ฮ่า ก็ได้ ฉันจะรับคำท้า”     ชาไทร์พูดพร้อมกับปล่อยมือจากตัวทริช แล้วใช้พลังปีศาจมัดตัวทริชไว้ก่อน
    และแล้วโรมิวลัส เรมัส และไวโอเลต ก็ต่อสู้กับชาไทร์   ถึงแม้ว่าจะเป็นสามรุมหนึ่งซาไทร์ก็ไม่ได้เสียเปรียบ และก็สู้กันอยู่นาน จนโรมิวลัสและเรมัสหันมาใช้พลังปีศาจแทนปืน ไวโอเลตใช้ความคล่องแคล่วของตัวเองอ้อมไปข้างหลังชาไทร์ขณะที่ชาไทร์กำลังสู้กับสองพี่น้องฝาแฝดอยู่ ไวโอเลตใช้ปืนยิงไปที่ชาไทร์ คราวนี้โดนที่ตัวอย่างจัง จนชาไทร์ล้มลง
    “เก่งมากไวโอเลต”    โรมิวลัสชมไวโอเลต
    “ฉันว่าฟลุคต่างหากมั้ง”       เรมัสพูดดูถูก
    “นี่ นายน่ะ ไม่อยากช่วยก็หุบปากไปเลย” ไวโอเลตพูดต่อว่าเรมัส
    ทั้งสามจึงไปช่วยแก้มัดให้ทริช  
    “ขอบใจจ๊ะ จริงๆแล้ว ไวโอเลตไม่น่าไปท้ามันอย่างนั่นนะโอกาสที่จะชนะมันยากมากเลยนะ” ทริชตักเตือน
    “หนูรู้ค่ะ แต่ถ้าหนูไม่ทำแบบนั้นคุณอาก็ไม่มีทางรอดเลย ถ้าหนูทำแบบนี้เปอร์เซ็นที่คุณอาจะรอดก็มีสูงกว่าที่มันจะฆ่าคุณอาโดยพวกเราไม่ได้ทำอะไรเลยนะคะ”   ไวโอเลตอธิบาย
    แต่แล้ว ขณะที่ทั้งสามคุยกัน ชาไทร์ก็ฟื้นขึ้นมา แล้วปล่อยพลังใส่เรมัส ที่ยืนอยู่หลังสุด ทริชเห็นเข้าจึงวิ่งมารับไว้เอง จนได้รับบาดเจ็บสาหัส
    “แม่/คุณอา !” ทั้งสามคนเห็นดังนั้นจึงโกรธมากจึงเข้าไปต่อสู้กับชาไทร์อีกครั้ง
    “แก! ...ทำร้ายแม่ฉันแกต้องตาย” เรมัสโมโห
    การต่อสู้ดำเนินไปอีกครั้ง จนโรมิวลัสและเรมัสทนไม่ไหวจึงใช้พลังปีศาจแทนการใช้ปืน ไวโอเลตเห็นว่าถ้าสู้แบบนี้คงไม่มีทางชนะแน่ เธอจึงใช้จังหวะที่ชาไทร์สู้กับทั้งสองคน แล้วใช้พลังปีศาจกระโดดขึ้นไปบนฟ้าแล้วโอนพลังปีศาจใส่ปืนจากนั้นก็ยิงไปที่ชาไทร์จนชาไทร์ได้รับบาดเจ็บสาหัส
    “พวกเจ้า......บังอาจมาทำร้ายข้า...สัวันข้าจะมาเอาคืน”   ชาไทร์เอามือกุมแผลแล้วเหาะหนีไป
    “จบแล้วเหรอ อย่าลืมมาเอาเร็วๆล่ะ ฉันไม่ชอบเก็บไว้นาน!”    เรมัสตะโกนไล่หลังไป
    แล้วทั้งสามก็วิ่งมาที่ทริชซึ่งนอนบาดเจ็บอยู่ โรมิวลัสประคองแม่ขึ้นมาไว้บนตัก
    “แม่....เป็นไงบ้างครับ”    โรมิวลัสพูดกับแม่
    “แม่ต้องไม่เป็นไรนะครับผมจะพาแม่ไปหาหมอ” เรมัสกุมมือแม่ไว้แน่น
    “คุณอาไม่เป็นไรนะคะ หนูจะให้ยาคุณอาต้องหาย”      ไวโอเลตพูดพร้อมทั้งค้นยาในกระเป๋า
    “ไม่...ไม่ต้องหรอก....อาคงไม่รอดแล้ว.......ปล่อยอาไว้เถอะ”   ทริชปลงชีวิต
    “ไม่ แม่ต้องไม่ตาย แม่ต้องอยู่ต่อไปนะครับ”        เรมัสพูดทั้งน้ำตา
    “ใช่ แม่ต้องไม่ตาย”      โรมิวลัสกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
    “โรมิวลัส........ เรมัส.........ดูแลน้องให้ดีๆนะ......อย่าทำให้น้องเสียใจล่ะ......ทำเพื่อแม่ได้ไหม”   ทริชฝากคำขอร้องครั้งสุดท้ายให้กับลูกชายทั้งสอง   “จากนี้ลูกก็มีอยู่ด้วยกันสามคน จงรักกัน อย่าแตกแยกกันล่ะ แม่จะไปอยู่กับพ่อ ไม่ต้องห่วงแม่”
    หลังจากที่ทริชพูดจบ ก็หมดลมหายใจไปอย่างสงบ ทิ้งไว้แต่ความโศกเศร้าที่เข้ามาเยือนทั้งสามคน
    “แม่/คุณอา !!...........”
    จากนั้นไวโอเลตกับล้มลงหมดแรงเพราะเธอได้ใช้พลังปีศาจในการต่อสู้กับชาไทร์
    “ไวโอเลต!” เรมัสวิ่งเข้ามาประคองไวโอเลตไว้
    “ฉันไม่เป็นไร สงสัยคงเป็นเพราะใช้พลังปีศาจไปเมื่อกี้ ฉันถึงเป็นแบบนี้”     ไวโอเลตพูด
    “ไม่เป็นไรได้ไง   ดูเธอสิ เป็นถึงขนาดนี้ยังจะมาปากเก่งอีก”       เรมัสตักเตือน
    “จากนี้ไปเราทั้งสาม จะแก้แค้นแทนพ่อกับแม่พวกเราให้ได้   และจะสานต่อเจตนารมณ์ของพวกท่านเอง”    ไวโอเลตพูดอย่างหนักแน่นทั้งที่ยังหมดแรงอยู่ โดยที่โรมิวลัสและเรมัสก็พร้อมที่จะเห็นด้วย
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×