ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Meitantei Kaldr

    ลำดับตอนที่ #3 : อันตรธาน (ภาคไขคดี)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 63
      0
      30 ส.ค. 54

    "ระหว่างรอผลการตรวจสอบ ฉันขอถามอะไรนายหน่อย เพราะอย่างไรก็ตามฉันก็รู้สึกว่ามันจะขาดผู้ต้องสงสัยไปในวิธีการของนาย" สารวัตรกล่าว "จากสภาพการตายที่ไร้บาดแผลและประวัติสุขภาพของผู้ตาย สาเหตุการตายน่าจะมาจากการได้รับสารพิษตามที่นายว่ามา พิจารณาจากสันนิษฐานเวลาการตายแล้ว หากนายเบ็นจามินถูกวางยาในระยะสั้นซึ่งมักจะออกฤทธิ์ภายในไม่กี่วินาทีถึงครึ่งชั่วโมงแล้วนายอลันไม่น่าจะเป็นคนร้าย เนื่องจากมีหลักฐานที่อยู่ชัดเจนในช่วงนั้น ส่วนการได้รับสารพิษในระยะยาวนั้นไม่น่าเป็นไปได้ เพราะผู้ตายมีสุขภาพดีและไม่มีลักษณะที่ส่อเค้าว่าได้รับสารพิษมาเป็นเวลานาน เช่น สีเล็บผิดปกติหรือมีแถบ และหากเชื่อปากคำของยามแล้วนางสาวดาเนียและนายคริสโตเฟอร์ก็ไม่ได้อยู่กับผู้ตาย ณ ช่วงเวลานั้น จึงไม่น่าจะลงมือฆาตรกรรมโดยตรงได้เช่นกัน ฉันจึงได้เพียงสรุปว่าผู้ตายกินยาฆ่าตัวตายเอง"

                    คาลด์จึงเดินไปสอบถามจากนางสาวดาเนีย

    "คุณดาเนียครับ มีนายเบ็นจามินปัญหาความเครียดอะไรไหมครับ"

    "ไม่มีค่ะ ไม่น่ามีเลยค่ะ"

    "ขอบคุณครับ"

    "นี่ไงครับสารวัตร เป็นไปอย่างที่คาด ผมพิสูจน์แล้วว่าข้อสันนิษฐานของสารวัตร (ที่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เสียทีเดียว) มีน้ำหนักน้อย ที่สารวัตรวิเคราะห์ข้างต้นนั้นถูกต้องมากเลยทีเดียว แต่อย่างที่ผมกล่าวแล้วว่ามีผู้ต้องสงสัยอยู่ จากที่สารวัตรกล่าวข้างต้นนั้นมีบางอย่างผิดไป"

    "ว่าอย่างไร"

    "หลายชั่วโมงครับ เวลาที่จะเกิดผลนั่นน่ะคือครึ่งชั่วโมงถึงหลายชั่วโมงทีเดียว คนร้ายคาดการณ์ได้เลยว่ามันจะสลัดเขาให้หลุดจากการเป็นผู้ต้องสงสัย เวลามันค่อนข้างผิดธรรมดาทีเดียว ทีนี้เรามาทวนเวลาการพบกับผู้ตายของแต่ละคนกันดีกว่า สารวัตรได้ตรวจสอบแน่ชัดจากกล้องวงจรปิดอีกครั้งหรือยังครับ"

    "เจมส์ ขอเอกสารการตรวจสอบกล้องวงจรปิดหน่อยสิ"

    "ครับ" จ่าเจมส์เดินเข้ามาพร้อมเอกสารการตรวจสอบบุคคลจากกล้องวงจรปิด

    "เป็นอย่างยามว่า ไม่มีขาดเกินแม้ประการเดียว มีแค่ 4 คนเข้ามาในบริเวณนี้ตั้งแต่ช่วงเก้าโมงถึงเวลาเกิดเหตุ นอกจากนายกับผู้ช่วย"

                    "แล้วช่วงเวลาสิบเอ็ดโมงจนถึงก่อนที่พวกเรามาพบศพล่ะครับ"

                    "ก็มีคุณดาเนียกับนายคริสต์ คุณดาเนียตั้งแต่เข้ามาหลังผู้ตายแล้วก็ทำนู่นทำนี่อยู่บริเวณนี้ โดยไม่ได้เฉียดไปใกล้ห้องเลย ยกเว้นตอนที่นายอลันออกมานั่นแหละที่หล่อนไปรับใบเพิ่มนัดจากผู้ตาย ซึ่งเป็นเวลาสิบเอ็ดนาฬิกาห้านาที"

                    "แล้วนายคริสต์?"

                    "ไม่ได้เข้ามาส่วนนี้เลยจนเวลาเที่ยงสี่สิบห้า โดยเรียกผู้ตายที่หน้าห้องจากนั้นเดินออกไป แล้วกลับมาอีกทีตอนบ่ายโมง มาเรียกผู้ตายแล้วเดินออกไป จากนั้นกลับมาอีกครั้งตอนบ่ายโมงสิบห้าพร้อมนายอลันกับพวกนาย ไม่นานคุณดาเนียก็มา แล้วเรื่องราวก็เป็นอย่างที่นายรู้ คนร้ายทำอย่างไรถึงวางยานายเบ็นจามินได้โดยที่ไม่อยู่ในที่เกิดเหตุนะ"

    "อยู่สิครับ อยู่จนเราเห็นแจ้งแดงตลอดเลยทีเดียว อ่า! ผลจากแล็ปมาแล้ว ท่านคงไม่ว่าอะไรหากผมจะขอทราบผล แล้วถ้าตรงตามที่ผมคาดไว้ผมจะขอกล่าวข้อไขของผมต่อหน้าผู้ต้องสงสัยสามท่านนั้นด้วย"

    "ได้เลย ฉันรอคอยอย่างมั่นหมายมานานแล้วล่ะ นายนี่ต้องให้แน่นอนก่อนเสียทุกอย่างจริงๆ" สารวัตรพูดอย่างขัดใจ น้ำเสียงแกมประชดอยู่ในที

    "แน่นอนครับ" คาลด์กล่าว หัวเราะไปพลาง "ผมจะไม่สร้างทฤษฎีโดยไม่มีข้อมูล เพราะเราอาจเผลอทึกทักข้อเท็จจริงเพื่ออิงทฤษฎี หาใช่ทฤษฎีมีมาจากข้อเท็จจริง ท่านคงเข้าใจผมว่าความคิดเห็นอย่างไร้หลักฐานแน่ชัดเป็นศัตรูของเราอยู่"

    "อ่า จริงของนายแหละ ถ้าอย่างงั้นฉันจะเรียกทั้งสามคนนั้นมาแล้วนะ" สารวัตรกล่าว แล้วจึงให้พนักงานนำตัวคนทั้งสามพร้อมวาดิลที่ช่วยคาลด์สังเกตการณ์

     

    "ผมจะขอเริ่มกล่าวเหตุการณ์โดยสรุป มีใครคนหนึ่งวางยานายเบ็นจามิน เมื่อมั่นใจว่าเขาได้กินแล้วจึงจากไป จากสภาพที่เกิดเหตุนายเบ็นจามินมีเหงื่อออกและน่าจะไม่สบายตัวในช่วงนั้น สังเกตได้จากการปล่อยชายเสื้อ ถอดถุงเท้าและรองเท้า อาจจะมีอาการควบคุมตัวเองไม่ได้จึงทำของตกหล่น ส่วนโทรศัพท์มือถือวางอยู่บนโซฟานั้น บริเวณที่วางอยู่แถวกระเป๋ากางเกงเมื่อนอนลง คาดว่าผู้ตายได้นอนพักอยู่ระยะหนึ่ง ก่อนหน้าจะลุกมาเพื่อเตรียมบรรยายหรืออาจจะเรียกคนมาช่วย แต่ด้วยจิตหลอนหรืออาการเวียนหัวจากผลของยาจึงไม่คิดจะใช้โทรศัพท์ แต่เลือกเดินมาเปิดห้องซึ่งเป็นวิธีการที่ง่ายกว่าสำหรับเขาในเวลานั้น แต่ก็สายเกินไปเสียแล้ว เพราะระหว่างที่เขานอนพักอยู่นาฬิกาทรายทางเคมีก็เริ่มไหล เอนไซม์ที่ใช้ในกระบวนการเครบส์ไซเคิลถูกยับยั้ง เครบส์ไซเคิลเริ่มถูกขัดขวาง เมื่อกระบวนการเคมีในร่างกายเขายุ่งเหยิงนานเข้าเขาจึงถึงแก่ความตายในที่สุด"

    "แล้วคนร้ายล่ะคาลด์"

    "สารวัตรกังวลกับคนร้ายเสียเหลือเกิน เราจับเขาได้แน่แล้วล่ะครับ"

    "ผมไม่เห็นว่าใครจะเข้าไปวางยาคุณเบ็นจามิน ได้เลยครับคุณคาลด์ เราต่างไม่ได้อยู่กับเขาในเวลาก่อนเกิดเหตุด้วยกันทั้งนั้น" นายคริสต์กล่าว

    "ไม่เลยครับคุณคริสต์ อย่างที่ผมเคยบอกท่านสารวัตรไปบ้างก่อนหน้านี้ว่าก่อนจะถึงแก่ความตายนั้นกินเวลาอยู่ หรือกล่าวถึงกระบวนการอย่างคร่าวๆ อีกก็ดี ผมจะขอแก้เวลาที่ผู้ต้องสงสัยกระทำการได้คือครึ่งชั่วโมงถึงสามชั่วโมงก่อนถึงแก่ความตาย อย่างไรก็ดีหลังจากได้รับยาเข้าไปในร่างกายแล้ว จะมีอาการทันทีอยู่บ้าง แน่นอนช่วงที่นายเบ็นจามินพบกับคุณอลันและคุณดาเนียจึงเป็นไปได้ จากการที่ผู้ตายขอพักหลังจากที่ได้คุยกับคุณ คุณอลันผมขอกล่าวว่าคุณเป็นคนวางยาผู้ตายอย่างไม่ต้องสงสัย"

    "ผมไม่ได้ทำ คุณมีหลักฐานหรือเปล่า" นายอลันพูดด้วยน้ำเสียงตื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด ทั้งยังสั่นมากขึ้นกว่าที่ตัวสั่นเทามานานแล้ว การระงับความร้อนใจของเขาคงใกล้ถึงขีดสุดเป็นแน่

    "มีสิครับ ผมจะขอเริ่มด้วยการซักถามคุณเพิ่มเติมสักสองสามข้อ ผู้ตายเข้าไปในห้องพักพร้อมแก้วน้ำใช่หรือไม่"

    "ใช่"

    "แล้วแก้วไปไหน"

    "ผมเก็บไปให้" นายอลันพูดอย่างโกหกเสียมิได้ เพราะโอกาสที่เหตุการณ์จะติดอยู่ในกล้องวงจรปิดนั้นมีมาก

    "ผมคาดว่าคุณคงแอบซ่อนเก็บมันไปกับแก้วอื่นๆ โดยนำไปคืนพนักงานหรือจุดคืนภาชนะ"

    "คุณหามันเจอหรือถึงได้กล่าวเช่นนี้ หากผมนำไปคืนพนักงานก็นำไปคืนอย่างแก้วธรรมดา"

    "ใช่มันธรรมดาหมดแล้วด้วยการล้างตอนเที่ยงนี้"

    "ถ้าเช่นนั้นก็ไม่มีหลักฐานมาปรักปรำผม" นายอลันพูดด้วยน้ำเสียงเรียบขึ้น อาการสั่นเทาคลายลง

    "มีการตรวจพบว่าการตายเกิดจาก 1080 คุณรู้จักมันหรือไม่" นายอลันกลับหน้าซีดใหม่ ส่วนอีกสองคนออกอาการงงงวย

    "ถ้าจะให้พูดให้ครบถ้วนก็คือสารประกอบ 1080 หรือ Sodium fluoroacetate, Sodium monofluoroacetate,  furatol, ratbane 1080 แล้วแต่คุณจะเรียก"

    "แต่ผมก็ไม่เห็นว่ามันเกี่ยวข้องกับผมตรงไหน"

    "ถ้าผมบอกว่าเราเห็นตลับคอนแทกส์เลนส์ที่จมอยู่ในตู้ปลาล่ะ มันเข้ากับของคุณเลยทีเดียว ที่มีแต่ฝานั่นน่ะ"

    "ผมเผลอทำหลุดมือหายไประหว่างอยู่ในห้องนั้น ผมขอคุณเบ็นจามินใส่คอนแทกส์เลนส์ในนั้น แล้วมันตกไปไหนไม่รู้ ขอบคุณคุณละกันที่หาเจอ พวกคุณตำรวจคงไม่ว่าอะไรนะครับ ผมไม่ค่อยมีเวลา ผมจะขอไปเป็นผู้ดำเนินราย..."

                    "ใช่ครับ" คาลด์พูดแทรกขึ้นมา "คุณไม่มีเวลาจริงๆ แต่คุณคงลืมไปนะครับว่าเราตรวจสอบได้ เราพบร่องรอยสารเดียวกันนี้ที่ตัวตลับและฝาของตลับด้วย แล้วคุณคงเถียงไม่ได้นะครับว่าสารนั้นจะไม่เกิดปฏิกิริยากับดวงตาของคุณ เพราะคุณได้บอกเองว่าคุณได้ใส่คอนแทกส์เลนส์ในตอนนั้น ในตอนที่อยู่ในห้องนี้กับผู้ตาย"

                    "คุณไม่น่าทำอย่างนี้เลยคุณอลัน" นางสาวดาเนียกล่าวพร้อมร้องไห้เสียใจ

                    นายอลันทรุดลงด้วยความเศร้าอย่างหมดท่า กำลังขาที่สั่นมานานถึงคราวล้ม "ผมไม่น่ากล่าวอ้างแบบนั้นเลย พลาดไปแล้วแท้ๆ ถ้าเพียงแต่ผมบอกว่าผมทำตกโดยบังเอิญล่ะก็"

                    "ไม่หรอกครับ ผมรับรองให้แล้วไงว่าเป็นเพราะคุณไม่มีเวลา...ล้างสารเคมีจากส่วนฝาที่อยู่กับคุณ ซึ่งเป็นอุปกณ์ที่คุณใช้บรรจุสารเคมีพกไปมา ดังนั้นยังไงซะเราก็จะพบร่องรอยสารเคมีเดียวกันจากส่วนฝาและจากน้ำในตู้ปลา โดยที่ฝาของคุณยังแห้ง คุณจึงอ้างไม่ได้ด้วยว่ามันตกลงไปในตู้ปลาโดยน้ำนั้นมีสารนี้อยู่ก่อนแล้ว แน่นอนคุณฉลาดมากที่ใช้น้ำและปลากำจัดสารนี้ให้ ซึ่งร่องรอยต่างๆ จะหายไปภายในไม่กี่วันด้วยปฏิกิริยาพิเศษของสารนี้ ส่วนที่คุณไม่ได้ทิ้งฝาไว้ด้วยนั้นคงเป็นเพราะมันเด่นเกินไปที่จะจำได้ว่าเป็นของใคร และจะเป็นที่สะดุดตาน่าสงสัย จึงปลอดภัยกว่าที่จะกำจัดความเชื่อมโยงด้วยวิธีการดังกล่าว พยานยืนยันที่อยู่ของคุณหนาแน่น แต่มันจะดีกว่าหากคุณกำจัดหลักฐานเสียแต่เนิ่นๆ คุณกังวลมากไปและคุณคงรู้แล้วหลังจากที่พบศพว่าโอกาสปลีกตัวหลังจากนั้นแม้เพียงเล็กน้อยเป็นไปไม่ได้ ผู้ช่วยของผมน่ะมืออาชีพอยู่ ส่วนที่ศพนั้นคุณเพียงต้องการเวลาไม่กี่วันเช่นกัน สารนั้นก็จะถูกกระบวนการทางร่างกายเปลี่ยนเป็นสารอื่นที่ไม่ใช่สารพิษซะหมด หลักฐานทุกอย่างจะอันตรธานไปจริงๆ เหลือทิ้งเพียงข้อสงสัยไว้เท่านั้น แต่คุณอย่าหวังว่าผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริงจะมองไม่ออก เราคาดเดาได้จากสภาพการตาย น้ำลาย สีเล็บ การบิดเบี้ยวของกล้ามเนื้อ ผนวกกับวิธีการและความยากง่ายให้ได้มาซึ่งสารพิษ การพกพา การใช้สารพิษกับเหยื่อ และการกำจัดสารนั้น ชี้จำเพาะกลุ่มสารพิษหรือชนิดของสารพิษได้"

                    "แล้วทำไมเขาไม่ทิ้งฝาไว้ที่นี่ด้วยละ ในกรณีนั้นเราอาจกล่าวได้ว่าผู้ตายฆ่าตัวตายเอง" สารวัตรซัก

                    "ที่คุณอลันไม่ทิ้งมันไว้เพราะรู้ว่าผู้ตายมีสายตาปกติซึ่งพิสูจน์ได้โดยง่าย จะทำให้สงสัยเสียเปล่าๆ นอกจากนี้ประเด็นหลักคือเรื่องรอยนิ้วมือที่ยังไม่ได้กำจัด เขาจึงโบ้ยให้มันเป็นของผู้ตายโดยกล่าวว่าผู้ตายฆ่าตัวตายเองไม่ได้ ทั้งนี้สาเหตุจูงใจการฆ่าตัวตายของผู้ตายก็น้อยเสียด้วย เขาไม่มีเวลาจะเช็ดลายนิ้วมือของเขาในห้องนี้นั่นเอง ซึ่งรอยนั้นหลีกเลี่ยงได้ยากตอนเปิดฝา เขาจึงต้องนำมันออกไป"

                    "ผมว่ามันเป็นวิธีการที่รอบคอบแล้วแท้ๆ" นายอลันกล่าวอย่างหมดแรง

                    "ไม่มีอาชญกรรมใดที่สมบูรณ์แบบ วิธีการที่แปลกจะเป็นที่สงสัยได้ง่าย ส่วนวิธีการที่ธรรมมดาที่สุดนั้นวางหลาอยู่ในแฟ้มอาชญกรรม ผมเพิ่งบรรยายไปเมื่อครู่ คุณคงได้ฟังอยู่"

    "ผมได้ฟังแน่ครับ ข้อความนั้นทำให้ผมกังวลอยู่จนถึงตอนนี้ทีเดียว แต่ผมไม่เสียใจล่ะครับที่ทำมันลงไป"

    "เพราะอะไรคุณถึงต้องฆ่าผู้ตายล่ะครับ"

    "การแบลคเมลนี่แหละครับ เขาแบลคเมลเรื่องที่ผมชอบพอกับหญิงสาวคนหนึ่ง แต่ผมเป็นคนมีครอบครัวแล้ว คุณก็คงทราบ เรื่องผู้หญิงน่ะผมตัดใจได้แล้วโดยไม่ขอบอกใครทั้งนั้นว่าคือใคร แต่ผมทำไปเพื่อปลดปล่อยพันธนาการเท่านั้น"

    "พันธนาการของคุณหมดไป แล้วจะเกิดขึ้นใหม่ในคุก" สารวัตรพูด ขณะที่นางดาเนียได้แต่นั่งร้องไห้อยู่นั่นเอง

    "ไม่มีใครปลดจากพันธนาการเก่า เพื่อไปหาพันธนาการใหม่หรอกครับ ท่านสารวัตร" คาลด์กล่าว

    "แล้ว แล้วใครจะดำเนินรายการต่อล่ะครับเนี่ย" นายคริสต์กล่าวอย่างสับสน

    'นายไปมะวาดิล' คาลด์ส่งสายตา ทำเอาคู่หูของเขาสะดุ้งกับหน้าที่ที่ถูกเขาแกล้งโยนมาให้

    "สารวัตรคงไม่ขัดข้องนะครับ ถ้าเราจะขอให้คุณอลันดำเนินรายการครั้งสุดท้ายต่อให้เสร็จสมบูรณ์" คาลด์กล่าว

    "ได้ แต่ทางตำรวจขอคุมอยู่ไม่ไกลละกัน"

     

    จึงเป็นอันว่าตกลงกันได้ วาดิลจึงรอดตัวไปอย่างหวุดหวิด? จากนั้นงานก็ดำเนินต่อไปจนจบลงได้ด้วยดี สักพักนักข่าวก็รู้ถึงเหตุที่เกิดขึ้น อีกไม่นานมันก็คงเป็นข่าวหน้าหนึ่งของวันพรุ่งนี้

     

    ...ระหว่างกลับบ้าน...

    "นี่คาลด์ นายว่ามันคุ้มเหรอที่นายอลันทำอย่างนั้น"

    "มันไม่มีคำว่าคุ้มหรอกครับสำหรับอาชญกรรมน่ะ แต่เขาคงคิดว่าเขาได้ทำอะไรให้คนที่เขารักก็ได้ เขาว่ากันว่าเรื่องความรักน่ะ ยากที่จะพูดว่าอะไรถูกผิด นั่นทำให้คนสับสนทีเดียวล่ะ อย่างไรซะเด็กๆ ก็ไม่เข้าใจหรอกขับรถไปเถอะวาดิล"

    "นายเด็กกว่าฉันอีกนะ" วาดิลพูดเสียงไม่พอใจ พร้อมทำน่าแง่งใส่คาลด์ "เออ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคนที่เขารักล่ะ แล้วผู้หญิงคนนั้นเป็นใครเรายังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ"

    "ก็ใครซะล่ะที่พันธนาการหมดไป"

    "??"

    "นายอลันไม่ได้ทำไปเพื่อไม่ให้ตกอยู่ใต้การแบลคเมลอย่างเดียวหรอก ผู้หญิงคนนั้นน่ะคือคุณดาเนียนั่นเอง นายดูได้จากสีหน้า แววตาและการแสดงออกของพวกเขาทั้งสองคน ผนวกกับการยอมสารภาพอย่างรวดเร็วหลังจากเธอปล่อยโฮออกมา แม้จะต้องจนต่อหลักฐานอย่างแน่นอนก็ตาม แต่จริงๆ เขาอาจจะไหลไปได้อีกนิดหน่อย อย่างไรซะพวกเขาอาจตัดเยื่อไยเหลือเพียงเพื่อนที่ดีต่อกันก็ได้ ทว่าคนจำพวกที่มองโลกในแง่ร้ายอาจคิดว่าร้ายพวกเขา แล้วเรื่องมันก็จะมีปัญหา ทั้งครอบครัวของนายอลัน และทางคุณดาเนีย พวกที่ทราบเรื่องคดีครั้งนี้หากรู้ถึงจุดนี้อาจคิดไปแล้วว่าพวกเขาทั้งสองเป็นชู้กัน เห็นไหมล่ะนั่นน่ะง่ายเลยที่จะทำการแบลคเมล ภาพจับมือหรือยิ้มแย้มพูดคุยกันนิดหน่อยล้วนต้องสงสัยทั้งนั้น ปัญหาครอบครัวแตกแยกก็คงอยู่ไม่ไกล อย่างไรก็ตามตำรวจคงไม่ขยายผลประเด็นนี้ให้นักข่าวมากนัก จากที่ฉันคุยกับสารวัตรไว้นะเห็นจะรับรองข้อนี้ได้"

     

    หลังจากกลับถึงบ้าน แล้วกินข้าวเย็นกันเสร็จ วาดิลจึงนอนหลับเพราะเหนื่อยจากการที่คาลด์ใช้ให้ช่วยไปทำนู่นทำนี่ขณะเกิดเหตุ ส่วนคาลด์นั่นอยู่ข้างๆ

    "แล้วนายล่ะวาดิลปลดจากพันธนาการเก่า แล้วได้อิสระอย่างที่นายคาดหวังหรือเปล่า หรือเพียงแต่เจอพันธนาการใหม่อยู่ที่นี่เท่านั้น" คาลด์กล่าวพลางลูบหัวเจ้าหมาสีดำปนขาวที่นอนเอาหัวหนุนอยู่บนตักเขา เสียงราบเรียบแฝงด้วยความสงสัยผ่านหน้าต่างออกไปทาบลอยกับท่วงทำนองของสายลมที่ไร้คำตอบ

     

    วันรุ่งขึ้นข่าวทุกฉบับต่างพาดหัวเรื่องคดี ณ งานสัมมนาของกลุ่มนักสืบ โดยสาเหตุการฆาตรกรรมเป็นความขัดแย้งเรื่องการแบลคเมลของนายเบ็นจามินกับนายอลันเกี่ยวกับผู้หญิงที่ไม่ทราบว่าเป็นใคร แม้นายอลันจะปฏิเสธว่าจริงๆ แล้วไม่เป็นความจริงแต่โดนใส่ร้ายแบลคเมลจึงแค้นผู้ตาย แต่นักข่าวคงพยายามสืบเรื่องนี้กันต่ออีกหลายเดือนทีเดียว แน่นอนสำนักงานนักสืบคาลด์ได้รับจดหมายหลายฉบับและโทรศัพท์หลายสายให้ช่วยสืบเรื่องนี้เพื่อบอกทางสำนักข่าวผู้จ้างก่อนเป็นรายแรก พร้อมเสนอเงินก้อนโตแต่ได้รับการปฏิเสธไปทั้งหมด ด้วยเหตุผลที่ว่า 'งานนี้ไม่น่าสนใจ' แต่เป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันเป็นที่สนใจของชาวบ้านซะจริงๆ แล้วเสียงนินทากาเลก็ยังกระจายต่อไป...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×