ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Meitantei Kaldr

    ลำดับตอนที่ #1 : อันตรธาน (ภาคคดี)

    • อัปเดตล่าสุด 30 ส.ค. 54


    "ห๊าว หิวข้าวจัง" เจ้าหมาสีดำปนขาวนอนหาว หูตั้งคอยฟังเสียงคนนำเอาอาหารมาให้

    "เมื่อไหร่จะมาน๊า ~~~" มันพูดพลางเอาอุ้งเท้าเกาหลังหูอย่างสบายอารมณ์ ทันใดนั้นมันก็กระดิกหู นั่งนิ่ง

     

    "มาแล้ว วาดิลมากินข้าวมา" เด็กหนุ่มเจ้าของบ้านเปิดประตูรั้วเข้ามาหลังจากออกไปซื้ออาหารสุนัข เนื่องจากช่วงนี้งานยุ่งและอาหารสุนัขหมดพอดี

    +ฟรึบ ฟรึบ ฟรึบ ฟรึบ ฟรึบ ตุบ+

    "วาดิล! อย่ากระโจนสิ" เด็กหนุ่มบ่นอย่างระอากับนิสัยชอบกระโจนใส่ของเพื่อนหมาหน้าทะเล้นของตน

     

    "ก็มันหิวข้าวนี่นา คาลด์มาช้าไม่ทันใจอ่ะ" เจ้าหมาประท้วง

    "งั้นทำไมไม่ไปซื้อเองล่ะ"

    "ก็มันง่วงนี่นา"

    "ฮ่ะๆ นายนี่นะ" เด็กหนุ่มยอมแพ้ต่อการประท้วงของเจ้าหมาตัวแสบ แล้วหันไปเตรียมอาหารให้มัน

    ส่วนเจ้าหมานั้นเดินเข้าครัวไปยังถาดใส่น้ำดื่มของตน

     

    "เฮ้คาลด์ แล้วพรุ่งนี้ต้องออกไปไหนรึเปล่า" เด็กหนุ่มหน้ากวนเดินออกมาจากครัวพร้อมช้อนในมือ

    "อืม ต้องไปเป็นวิทยากรในการบรรยายเรื่องมาตรฐานนักสืบ และความร่วมมือกับภาครัฐน่ะวาดิล นายจะเอาอะไรรึเปล่าล่ะ"

    "เฮ้ย ไปด้วยดิ"

    "อ่าว นึกว่าอยากอยู่บ้านนอน สัมมนาเริ่มเก้าโมงเลยนะ นายจะไปด้วยเหรอ"

    "ไปดิไป"

    เมื่อเห็นเพื่อนทำหน้าตาอยากไปขนาดนั้น คาลด์จึงไม่ขัด 'สงสัยจะเบื่ออยู่บ้านล่ะนะ ฮ่ะๆ' คาลด์คิด

    "ถ้างั้นเดี๋ยวฉันไปโทรแจ้งทางผู้จัดก่อน ว่าจะมีผู้ติดตามไปด้วย นายก็กินไปก่อนนะ"

    "อืมๆ" วาดิลทานอาหารของตนต่ออย่างสบายใจ"

     

    +++++

     

                    "ตื่นๆ" 'เรียกยากจริงๆ' คาลด์คิด หลังจากพยายามปลุกเพื่อนเขาอยู่หลายสิบรอบ

                    "งืม งึม งึม งึม"

    "ไม่ตื่น เราไปก่อนละนะ ดูแลบ้านดีๆ ล่ะ"

    +ฟรึบ+ "เฮ้ย ขี้โกงนี่นา"

    "ก็นายไม่ตื่นสักที เอ้าอาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อย เดี๋ยวฉันไปเตรียมสคริปต์พูดเป็นรอบสุดท้ายก่อน"

     

                    ณ งานสัมมนา (คาลด์เริ่มบรรยายตอน 11.30 น. และจบการบรรยายเวลา 12.30 .)

     

                    "ด้วยเหตุนี้ เราจึงควรมีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนในการ..."

                    'คาลด์บรรยายจบสักที แต่เก่งจริงๆ เลยนะ บรรยายปากเปล่าแบบนี้ ทั้งๆ ที่ก็เตรียมสคริปต์ไว้แท้ๆ ทำไมต้องมาท่องจำให้มันยุ่งยากก็ไม่รู้ เอามาอ่านก็หมดเรื่อง'

                   

                    "ขอโทษนะครับ ทางเราดำเนินการคลาดเคลื่อนสายไปครึ่งชั่วโมง คุณคาลด์เลยได้ทานข้าวช้า" ผู้ดำเนินรายการกล่าวขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่

                    "พูดได้ดีมากเลยครับคุณคาลด์" ชายร่างท้วมเจ้าของยศพลเอกเดินเข้ามาหาคาลด์ พร้อมกับกล่าวและจับมืออย่างชื่นชม

                    "ทางรัฐหวังว่าจะได้คนมีความสามารถอย่างคุณมาร่วมงานบ่อยๆ เหมือนเช่นเคยนะครับ"

                    "ขอบคุณมากครับพลเอกโรเจอร์ วีลเลอร์ (Roger Wheeler-)"

                    "คราวหน้าก็ขอรบกวนมาบรรยายในงานเราด้วยนะครับ" หัวหน้าผู้จัดงานสัมมนาอื่นกล่าวชักชวน

    "ครับ" คาลด์ตอบรับด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

     

    'เฮ้อ เจ้าคาลด์ คุยกับคนนู้นคนนี้อยู่ได้ ไม่มากินข้าวซะที แง่ง หิวแล้วนะเฟร้ย'

    "ว่าไงวาดิลยิ้มแป้นเลย"

    "โมโหเฟร้ย ไม่มากินซะทีคุยอยู่ได้"

    "อ้าว ก็กินไปก่อนดิ"

     

    +++++

     

    คาลด์และวาดิลเดินมายังห้องรับรอง พร้อมกับผู้ดำเนินรายการ

                    "แย่แล้วครับ คุณเบ็นจามิน มาราวเดอร์ (Benjamin Marauder-ช) ไม่ออกมาจากห้อง เรียกแล้วก็ไม่ตอบครับ" พนักงานคริสโตเฟอร์ โนลัน (Christopher Nolan-ช) กล่าว  กับผู้ดำเนินรายการอลัน โฮเวิร์ด (Alan Howard-ช)

                    "มีอะไรกันเหรอคะ" เลขาของคุณเบ็นจามิน ชื่อนางสาวดาเนียถาม (Dania Mayer-ญ)

                    "คุณเบ็นจามิน อยู่ในห้อง เงียบเลยครับ ใกล้ถึงเวลาแล้ว ผมเลยมาเรียกครับ" พนักงานกล่าว

    "ท่านเบ็นจามิน บอกว่าให้ฉันมาเรียกท่านที่ห้องก่อนรอบที่ท่านต้องออกไปพูดสักสิบห้านาทีนี่แหละค่ะ"

    "เหรอครับ แต่เขาเงียบมากเลยนะครับ ถ้าอย่างงั้นผมขออนุญาตเปิดห้องเข้าไปแล้วนะครับ" ผู้ดำเนินรายการกล่าว พร้อมตะโกนบอกให้ดังไปถึงข้างใน

    "เปิดดูเถอะครับ" คาลด์กล่าว จากนั้นผู้ดำเนินรายงานจึงใช้กุญแจสำรองเปิดห้องเข้าไป

    "กรี๊ดดดดดดดด"

    นายเบ็นจามินนอนหงายแน่นิ่งอยู่ในห้องใกล้โตะกระจก ชายเสื้อเชิ๊ตสีฟ้าที่สวมใส่อยู่หลุดออกนอกกางเกงบางส่วน กระดุมเม็ดบนปลดอยู่ มีเหงื่อตามร่างกาย มีแผลที่มุมปาก ส่วนแขน ข้อมือ และเล็บมือในส่วนที่พ้นจากปลายแขนเสื้อโดยเบื้องต้นนั้นดูปกติดีและไร้บาดแผล ผู้ตายไม่ได้สวมรองเท้าและถุงเท้า สวมนาฬิกาบอกเวลาปัจจุบัน กระเป๋าข้างขวาของผู้ตายตุง มีปากกาด้ามหนึ่งตกอยู่ไม่ไกลนัก บนโต๊ะมีสมุดฉีกของโรงแรมวางแนวอย่างไม่เป็นระเบียบเท่าไรนัก นอกจากนั้นก็มีแจกันเล็กประดับอยู่ มีดอกไม้ปลอมปักอยู่ ไม่มีน้ำในแจกัน มีตู้กระจกเลี้ยงปลาทองประดับด้วยไม้น้ำ มีเครื่องพ่นฟองน้ำ กับสิ่งที่คาดว่าเป็นส่วนตลับคอนแทกส์เลนส์จมอยู่ และมีอุปกรณ์เครื่องเขียนอื่นเรียงรายตามที่ของมันอยู่บ้าง อีกมุมห้องซึ่งห่างออกไปมีโซฟา โดยมีโทรศัพท์มือถือวางอยู่บนโซฟาบริเวณปลายหนึ่งในสามของโซฟา บนผนังเหนือโซฟาแขวนนาฬิกาบอกเวลาปัจจุบันเช่นกัน ความที่เป็นห้องรับรองจึงไม่มีสิ่งของใดๆ มากมายนัก ตัวห้องปราศจากหน้าต่าง ประตูนั้นล็อกอยู่ โดยประตูล็อกได้จากด้านในเมื่อปิดห้องแล้วหรือด้วยกุญแจเท่านั้น

     

    "ทุกคนอย่าเข้ามานะครับ" คาลด์กล่าว จากนั้นเขาเดินไปตรวจชีพจรของนายเบ็นจามิน

    "คุณเบ็นจามินตายแล้วครับ วาดิลช่วยผมแจ้งสารวัตรแอบเบอร์ไลน์ (Fred Abberline-) หน่อยครับว่าเกิดเหตุการตายขึ้นที่นี่"

     

    เลขาของผู้ตายยกมือปิดปากพร้อมสีหน้าสลดใจ พนักงานทำหน้าตกใจพร้อมทั้งมองผู้ดำเนินรายการเหมือนจะถามเขาว่าจะให้ดำเนินการอย่างไร ส่วนผู้ดำเนินรายการสีหน้าบ่งถึงความเคร่งเครียดได้เป็นอย่างดี

     

     

    "ขอให้ทุกคนรออยู่ที่นี่สักพักนะครับ"

     

    ความเงียบเข้าปกคลุมบริเวณนั้นสักพัก สารวัตรมาถึงในเวลาไม่นานนัก

     

    "สวัสดีครับสารวัตรแอบเบอร์ไลน์"

    ...สารวัตรและพนักงานชัตรสูตรทำงาน...

    "เวลาเสียชีวิตภายในหนึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา บาดแผลภายนอกมีเฉพาะที่มุมปากเท่านั้น มีร่องรอยการต่อสู้จากลักษณะของผู้ตาย แต่ไม่พบอาวุธสังหาร"

    "แล้วเรื่องทรัพย์สินของผู้ตายล่ะครับ กระเป๋าตังค์ของผู้ตายเหมือนมีอะไรสูญหายหรือเปล่าครับ"

    "ทรัพย์สินของผู้ตายดูเหมือนจะอยู่ครบถ้วนดี ตามที่สอบถามเพิ่มเติมจากคุณเลขา"

     

     "เราเจองานเข้าแล้วสิวาดิล" คาลด์กระซิบบอกวาดิล

     

    "แย่แล้วครับคุณอลัน จะถึงคิวบรรยายต่อไปแล้วครับ จะให้ทำอย่างไรครับ" คริสโตเฟอร์กล่าวเสียงกระวนกระวาย

    "เอาไงดี ขอให้คนต่อไปขึ้นบรรยายละกัน เดี๋ยวผมขอตัวไปนัดหมายเขา และขึ้นไปดำเนินงานบนเวทีก่อนนะครับคุณคาลด์" ผู้ดำเนินรายการกล่าวอย่างตื่นๆ สังเกตได้ว่าเขาสั่นเล็กน้อยอย่างร้อนใจมาสักระยะแล้ว เห็นทีคงต้องให้ไปรับหน้าดำเนินการก่อน

    "ได้ครับ แต่ขอให้วาดิลตามไปด้วยละกัน"

    "วาดิลคอยดูด้วยนะ เช่น อย่าให้เขาเข้าห้องน้ำ นอกจากโถปัสสาวะ อะไรแบบนี้ เพราะเราต้องสงสัยทุกคนในที่นี้ไว้ก่อน เราต้องป้องกันบุคคลต้องสงสัยกำจัดสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการฆาตรกรรม" คาลด์กระซิบ

     

    "สารวัตรครับ ผมว่ามีความเป็นไปได้ที่อาจจะเป็นการตายเพราะ... ช่วยตรวจสอบให้ด้วยได้ไหมครับ"

    "ได้ครับ เป็นไปได้ ถ้างั้นทางเราก็ขอกักตัวพวกคุณที่มาพบเหตุการณ์ไว้ก่อนสักพักนะครับ ส่วนคุณพิธีกรและคุณวาดิลก็ไปกับจ่าเจมส์ (James McWilliam-) เพื่อดำเนินงานต่อก่อนละกัน แล้วขอให้กลับมาตรงนี้ด้วยนะครับ"

     

    เวลา 13.30 น.

                   

                    "ขอโทษนะครับแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน คุณเบ็นจามินมาบรรยายไม่ได้ เราจะขอต่อกันด้วยหัวข้อต่อไป เป็นเรื่องที่น่าสนใจมากเกี่ยวกับเรื่อง... ขอเชิญคุณ... ขึ้นมาบรรยายครับ" ผู้ร่วมงานปรบมือต้อนรับวิทยากรรอบถัดไป

     

                    "ผมขอให้ตรวจสอบสิ่งของของทุกท่านและเก็บทุกสิ่งนอกจากเสื้อผ้าไว้สักพักด้วยนะครับ ท่านสารวัตร" คาลด์กล่าว

                   

                    คาลด์:

    หลังจากไปสอบถามบุคคลเข้าออกจากพนักงานเฝ้ายาม ปรากฏว่าบริเวณนี้ ในช่วงเช้ามีผู้ผ่านไปมาแค่หกคนเท่านั้น ไม่รวมผมกับวาดิลก็เป็นสี่คน คือกลุ่มคนที่เข้ามาพร้อมเรา ส่วนแม่บ้านเข้ามาทำความสะอาดก่อนเวลาจัดงาน ซึ่งนายเบ็นจามินยังมาไม่ถึง และยามก็มีหน้าที่ยืนอยู่จุดประจำโดยไม่ได้เดินเข้ามาในส่วนนี้ นายเบ็นจามินเข้ามาช่วงเช้าเก้านาฬิกาพร้อมกับเลขาของเขา เนื่องจากมาตั้งแต่รอบเช้าจึงเข้ามาพักที่ห้องรับรองก่อน จากนั้นสักประมาณสิบห้านาทีคือเก้านาฬิกาสิบห้า นายเบ็นจามินเดินออกจากส่วนห้องรับรองพร้อมเลขา จากนั้นเวลาสิบเอ็ดนาฬิกานายเบ็นจามินเข้ามาอีกรอบพร้อมผู้ดำเนินรายการอลัน ซึ่งตอนนั้นผมเห็นเขาสองคนพอดี นายเบ็นจามินกำลังถือแก้วน้ำโค๊กเดินไปพลางคุยไปพลางกับนายอลันอย่างยิ้มแย้ม ส่วนอีกฝ่ายดูนิ่งเงียบมากกว่า และคอยดูแลรับรองนายเบ็นจามินไปยังห้องรับรอง สักห้านาทีต่อมาเลขาของเขาก็ตามเข้าไปยังส่วนรับรอง ตามคำให้การของยามนายอลันเข้าไปคุยกับนายเบ็นจามินสองคน ส่วนเลขานั้นรออยู่ส่วนรับรองกลาง จากนั้นสิบห้านาที นายอลันเดินออกมาจากห้องของนายเบ็นจามิน

    จากนั้นผมจึงไปสอบถามเลขาดาเนีย ซึ่งคำให้การได้ความเพิ่มว่าเธอเดินตามเข้าไปยังส่วนรับรองหลังจากนั้นประมาณห้านาที ซึ่งตรงกับปากคำของยาม จากนั้นเธอรอเจ้านายอยู่หน้าห้อง ซึ่งก็ไม่มีอะไรผิดปกติ นอกจากเสียงพูดคุยธรรมดาเรื่องอะไรไม่ทราบ ไม่นานนักนายอลันก็ออกมา ส่วนนายเบ็นจามินเดินตามมาที่ประตูและยื่นกระดาษโน๊ตที่เขียนวันนัดพบ ซึ่งเป็นเวลาอีกสามวัน เวลาสิบเอ็ดนาฬิกา เพื่อให้เลขาบันทึกลงในตารางเวลาของเขา จากนั้นเขาก็กลับเข้าห้องและล็อกห้องไป บอกว่าขอพักสักหน่อย ให้มาเรียกเขาก่อนรอบที่เขาต้องออกไปพูดสักสิบห้านาที คือบ่ายโมงสิบห้า (ตามกำหนดการการบรรยายใหม่ที่ช้าไปคือบ่ายโมงครึ่ง) เว้นแต่เขาจะออกมาสั่งอะไรเพิ่มเติม ให้รอเขาอยู่แถวนี้ตลอดเวลา

    คำให้การในส่วนนี้ค่อนข้างเชื่อถือได้เลยทีเดียว เพราะหลายๆ คนให้การเหมือนกันหมด แต่หลังจากนั้น ต่างก็บอกว่าไม่มีใครได้เจอนายเบ็นจามิน เขาก็คงอยู่ในห้องอย่างสงบสุขดี นายอลันอยู่ในห้องจัดงานตลอด มีแขกเป็นพยานทุกช่วงเวลา เพราะเขาเป็นที่รู้จักและเป็นพิธีกรจึงถูกดึงตัวไว้พูดคุยเสมอ เลขาเฝ้าอยู่บริเวณส่วนรับรอง แต่ยามก็ไม่เห็นว่าได้เข้าไปพบนายเบ็นจามินอีก ส่วนนายคริสโตเฟอร์ไม่ได้มาเกี่ยวข้องตั้งแต่แรก จึงไม่มีใครแถวนี้รู้ว่าทำงานอยู่ส่วนไหน เจ้าตัวบอกว่าทำงานอยู่ส่วนงานอื่น  มาอยู่แถวนี้ราวเที่ยงครึ่ง จากนั้นจึงได้รับหน้าที่มาเรียกผู้บรรยายถัดไป ซึ่งคือนายเบ็นจามินนั่นเอง

    สันนิษฐานเวลาการตายจากทางตำรวจคือภายในหนึ่งชั่วโมงที่ผ่านมาหรือราวเที่ยงครึ่ง ทำให้นายอลันพ้นจากการเป็นผู้ต้องสงสัย แต่หากฟังจากปากคำของยามแล้วนางสาวดาเนียและนายคริสโตเฟอร์ก็ไม่ได้อยู่กับผู้ตาย ณ ช่วงเวลานั้นเช่นกัน ตำรวจจึงสับสนกับผู้ต้องสงสัยในคดีนี้ อีกทั้งไม่พบวัตถุที่ใช้ในการฆาตรกรรม อย่างไรก็ตามทางตำรวจพบร่องรอยช้ำบริเวณลำตัว

    จากการที่ผมสอบถามเลขาของผู้ตายเกี่ยวกับบาดแผลบริเวณปากและร่องรอยช้ำบริเวณลำตัวนั้น เกิดจากเหตุวิวาทเมื่อวานของผู้ตายกับผู้มีส่วนเสียหายกับการสืบสวนของเขาผู้หนึ่ง ซึ่งไปหาเขาที่ทำงานในกรณีที่เขาแบลคเมล (ตามคำให้การของเลขา) จึงเกิดการต่อยตีกัน แต่ก็เพียงเล็กน้อยคนละสามสี่หมัดเท่านั้น ทั้งนี้เป็นที่รู้กันในวงการว่าผู้ตายเป็นนักสืบที่เรียกว่า พอจะมีฝีมือบ้าง และรู้จักแสวงหาประโยชน์ในทางไม่บริสุทธิ์นักจากข้อมูลที่เขาได้มา

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×