ตอนที่ 8 : [17] - LOST.CAT - #COUPSWON [#ลคคว]
l o s t c a t
#ลคคว
“เมี้ยว..เมี้ยว..”
ชเวซึงชอลหันซ้ายหันขวาเพื่อมองหาต้นตอของเสียงดังกล่าว ซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันเป็นเสียงของแมวอย่างแน่นอน และเสียงเล็กๆแถมยังร้องระงมขนาดนี้คงไม่ใช่แมวตัวใหญ่ ความน่าจะเป็นคือเสียงของลูกแมว แต่...แม่มันไปไหนล่ะทำไมปล่อยให้ลูกร้องระงมขนาดนี้
“เมี้ยวๆๆ”
ซึงชอลลองร้องเลียนแบบลูกแมวตอบกลับไป พลางเดินหาไปด้วย เขามองหาทุกซอกทุกมุมของสวนสาธารณะใกล้หมู่บ้านแต่ก็ยังไม่เจอ เขาค่อนข้างมั่นใจว่ามันอยู่แถวนี้แหละดังนั้นเขาจึงตัดสินใจนั่งและปิดเปลือกลงเพื่อฟังเสียงให้แน่ชัดว่ามันมาจากทางไหนกันแน่
“โอเค ทางขวา”
มือหนาแหวกดูตามพุ่มไม้และร้องเรียกเมี้ยวๆไปด้วย แม้จะมีสายตาหลายคู่ที่จ้องมองมาแต่เขาก็ไม่สนใจยังคงตั้งใจหาเจ้าลูกแมวน้อยอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งเจอ
“อ้า เจอแล้วเจ้าลูกเหมียวน้อย โห หนึ่ง สอง สาม สี่ตัวแน่ะ แม่แกไปไหนน่ะฮึ” เพียงแค่เขาก้มลงไปใกล้เจ้าลูกแมวน้อยทั้งสี่ก็พร้อมใจกันขู่ฟ่อป้องกันตัวเองจากบุคคลแปลกหน้า ซึ่งนั่นทำให้ซึงชอลหลุดขำออกมา
“ไม่ต้องขู่น่า ไม่ทำอะไรหรอก ถึงทำพวกแกก็ตัวแค่นี้จะสู้อะไรได้ฮึ” เขาผละจากลูกแมวเพื่อไปนั่งที่เก้าอี้ใกล้ๆบริเวณนั้น เป็นการรอให้แม่แมวกลับมา..มันอาจจะไปหาอะไรกินเพราะไม่อย่างนั้นมันเองก็คงไม่มีน้ำนมให้ลูกกินเหมือนกัน
ผ่านไปชั่วโมงแล้วชั่วโมงเล่า ฟ้าเริ่มมืดแต่ก็ไร้วี่แววของตัวแม่ และไม่ต้องพูดถึงตัวลูกที่ร้องระงมจนกระทั่งหลับแล้วตื่นมาร้องอีกรอบ...มันคงจะหิว
ซึงชอลกระวนกระวายใจ จริงๆแล้วเขาไม่ต้องสนใจก็ได้...แมวของใครก็ไม่รู้ไม่ใช่เรื่องของเขาเลยด้วยซ้ำ แต่ในที่สุดหลังจากชั่งใจอยู่นาน..เขาก็ตัดสินใจว่าจะพาลูกแมวกลับบ้าน เพราะตรงนี้ทั้งมดทั้งยุงสารพัด ถ้าหากปล่อยให้ลูกแมวอยู่ตามลำพังโดยไม่มีแม่แล้วพวกมันเป็นอะไรไปล่ะก็ เขาคงรู้สึกผิดอย่างมาก
ร่างหนาเดินไปขอซื้อลังกระดาษและถุงมือยางอย่างหนามาจากร้านขายของก่อนกลับมายังจุดที่ลูกแมวทั้งสี่อยู่อีกครั้ง คราวนี้เขาอาศัยความรวดเร็วใช้มือที่ใส่ถุงมือยางเตรียมพร้อมเรียบร้อยจับเจ้าลูกแมวอุ้มมาใส่ลังทีละตัวจนครบ แม้ว่าจะได้ยินเสียงโวยวายของพวกมันดังลั่นแต่เขาก็ต้องทำต่อเพื่อความปลอดภัยของพวกมันเอง
ซึงชอลเดินหอบลังกระดาษบรรจุลูกแมวกลับบ้านอย่างว่องไว และไม่พาลูกแมวออกมาทันทีเพราะเขาต้องเตรียมที่นอนให้พวกมันเสียก่อน เขาปูผ้านวมผืนเล็กซึ่งเป็นของเขาเมื่อตอนเด็กใส่ในตะกร้าใบใหญ่ก่อนอุ้มลูกแมวมาไว้ในตะกร้าจนครบ และเมื่อนึกได้ว่าลูกแมวกำลังหิวเขาก็ต้องเดินไปค้นตู้เย็น โชคดีที่มีนมกล่องเหลืออยู่...เขาจัดการแตะๆและลองนำไปป้ายปากลูกแมวเพื่อให้เกิดความคุ้นเคยก่อน ซึ่งต่อมาพวกมันก็กินนมเป็น
เขานั่งมองภาพลูกแมวทั้งสี่ ซึ่งมีสีเดียวกันทุกตัวคือสีเทาอย่างกลุ้มๆ....ไอ่ตัวเขาก็เคยเลี้ยงหมาเลี้ยงแมวกับเขาที่ไหนกันล่ะ อยู่ดีๆได้ลูกแมวมาตั้งสี่ตัวแบบนี้....หนักใจเลย พรุ่งนี้เขาต้องกลับไปที่สวนนั้นเผื่อตัวแม่มันกลับมาเขาจะได้พามาบ้านด้วยอีกตัว (ถ้ามันจะยอมให้จับแต่โดยดีน่ะนะ)
เขาพาลูกแมวที่อิ่มแปล้กลับเข้าไปนอนในตะกร้า เก็บกวาดบ้านอีกเล็กน้อยก่อนเปิดแลปท็อปเพื่อหาข้อมูลการเลี้ยงลูกแมว และเขาก็ไปเจอเข้ากับเว็บไซต์ประกาศหาสัตว์หายจึงกดเข้าไปดูด้วยความรวดเร็ว
มีแมวหายหลายตัว และเป็นแมวที่ท้องอยู่ก็ไม่น้อยเลยด้วย...แล้วเขาจะรู้ได้ยังไงว่าเป็นแมวตัวไหนที่เขาตามหา
“เออ..ลูกแมวสีเทานี่เนาะ แม่มันก็น่าจะสีเทาเหมือนกัน แมวสีเทาๆๆๆ อ้า เจอแล้ว” ใบหน้าหล่อส่อเค้าแววยุ่งยากอีกครั้งเมื่อยังเหลือช้อยส์ให้เขาเลือกอีกสามตัว
“ไม่มั้ง ตัวนี้บ้านอยู่ไกลไป ตัวนี้ก็ไม่น่าใช่ ..งั้นน่าจะตัวนี้แหละมั้ง” เขาหันไปมองลูกแมวทั้งสี่ที่หลับปุ๋ยอยู่ในตะกร้าและหันกลับมามองหน้าจอแล็ปท็อปก่อนตัดสินใจว่าจะลองติดต่อเจ้าของแมวตัวนี้ดู
....ชอนวอนอู....
ว่าแต่ชื่อคุ้นๆแฮะ เหมือนเคยรู้จักกันมาก่อน
รึเปล่า...?
ตรู๊ด.. ตรู๊ด... ตรู๊ด...
((สวัสดีครับ))
“เอ่อ สวัสดีครับ คุณชอนวอนอูใช่มั้ยครับ?”
((ครับ คุณ?))
“ชเวซึงชอลครับ พอดีผมเห็นประกาศแมวหายของคุณในเว็บไซต์”
((คุณเจอปารีสหรอครับ!?)) เอ่อ เดี๋ยวนะแมวชื่อปารีสเนี่ย????
“เอ่อคือว่าไม่ครับ แต่ผมคิดว่าผมเจอลูกของมัน คือผมก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ว่าจะใช่ไหมแต่ผมคิดว่าใช่นะ ลูกแมวมันสีเทาหมดทุกตัวเลย”
((ไม่เจอปารีสหรอครับ...?)) น้ำเสียงหงอยๆของปลายสายทำให้ซึงชอลร้อนรนขึ้นมาเล็กน้อย
“คือวันนี้ผมไปนั่งเฝ้าลูกแมวตลอดทั้งบ่ายเลยครับแต่ยังไม่เห็นตัวแม่มัน ก็เลยพาลูกแมวกลับมาบ้านก่อนแล้วผมเห็นว่าบ้านคุณไม่ไกลจากบ้านผมเท่าไหร่ มันอาจจะเป็นลูกของแมวคุณก็ได้ พรุ่งนี้ผมก็จะไปดูอีกทีครับเผื่อตัวแม่มันกลับมา”
((จริงหรอครับ? คุณไปเจอที่ไหนครับผมจะไปดูด้วยพรุ่งนี้ผมว่างพอดี))
“สวนสาธารณะน่ะครับ พรุ่งนี้สักกี่โมงดีครับ?”
((เช้าเลยก็ได้ครับ พรุ่งนี้ผมว่างทั้งวัน ...เอ่อ คุณจะตื่นหรือยัง?))
“สบายมากครับ งั้นพรุ่งนี้เจอกันครับถ้าคุณไปถึงก่อนโทรมาหาผมก็ได้”
((โอเคครับ เดี๋ยวผมขอไปดูลูกแมวด้วยได้มั้ยครับ?))
“ได้เลยครับผม”
((ขอบคุณมากครับ เอ่อ ว่าแต่คุณเคยเรียนที่ xxx รึเปล่าครับ?))
“ใช่ครับ คุณก็เหมือนกันเหรอ?”
((ใช่ครับ ถ้าเข้าใจไม่ผิด...เราน่าจะเคยเรียนห้องเดียวกันนะ))
“ผมก็ว่าชื่อคุณคุ้นๆ”
((เดี๋ยวเจอกันแล้วอาจจะจำกันได้ก็ได้ครับ เจอกันพรุ่งนี้นะ))
“โอเค สวัสดีครับ”
ท่าทางว่าจะเคยเจอกันมาก่อนจริงๆด้วยแฮะ
ปลายสายวางสายไปแล้ว ซึงชอลจึงมานั่งคิดอยู่เงียบๆคนเดียว..วอนอูท่าทางจะรักแมวมากแล้วแมวก็คงจะไฮโซเสียด้วยฟังจากชื่อแล้ว...แม่ชื่อปารีส พ่อมันจะชื่ออะไรกันล่ะเนี่ย สงสัยลูกๆพวกนี้ก็คงต้องตั้งชื่อแนวเดียวกันด้วยสินะ
หลังจากเดินไปดูความเรียบร้อยของแมวอีกครั้งก็ได้เวลานอนของซึงชอล ไม่ต้องห่วงว่าแมวจะหิว เพราะเขาเทนมและน้ำสะอาดเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว
LostCat
วันรุ่งขึ้น
ซึงชอลไปรอวอนอูที่สวนสาธารณะตั้งแต่เช้าโดยไม่ได้หอบลูกแมวมาด้วยเพราะเกรงว่าจะไม่สะดวก รออยู่ไม่นานอีกฝ่ายก็มา..ซึงชอลกะพริบตาถี่ๆเมื่อเห็นผิวขาวนั่น ไหนจะชุดยีนส์เอี๊ยมขาสั้นนั่นอีก...ไม่ได้เผื่อใจมาก่อนว่าอีกฝ่ายจะน่ารัก....ทั้งที่เคยเรียนห้องเดียวกันแท้ๆแต่โตมาแล้วน่ารักขนาดนี้เลยเหรอ...
ทำไงดี...
ซึงชอลส่งยิ้มกลับไปกลบความประหม่าของตัวเอง เขาเป็นพวกแพ้คนผิวขาวพอเจอแบบนี้รู้สึกได้เลยว่าในสมองของเขามันว่างเปล่าไปหมด
“คุณซึงชอลใช่มั้ยครับ?”
“ครับ แต่ไม่ต้องพูดสุภาพหรอก เขินยังไงก็ไม่รู้”
“โอเค ถ้างั้นเรียกว่าซึงชอลนะ นายก็เรียกฉันว่าวอนอูแล้วกัน”
พวกเขาจับมือทักทายกันเล็กน้อยซึ่งทำให้สมองของซึงชอลยิ่งขาวโพลนเข้าไปใหญ่ ...มือนุ่มไหนจะกลิ่นหอมๆที่ไม่ใช่กลิ่นน้ำหอมนี่อีก... เขาอาจจะเป็นลมได้เลยนะเนี่ย
ทำไงดี...
“เอ่อ คือฉันเจอลูกแมวตรงพุ่มไม้พุ่มนั้นน่ะ” เขาจึงแก้เก้อด้วยการชี้ไปยังพุ่มไม้พุ่มเดิมที่เขาเจอลูกแมวเมื่อวานนี้ ก่อนออกเดินนำไปและตามมาด้วยสีหน้าผิดหวังของวอนอูที่ไม่พบอะไรที่บ่งบอกเลยว่าแมวของเขากลับมาที่นี่
“นั่งก่อนไหม?”
วอนอูพยักหน้าแล้วทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตัวเดียวกับที่ซึงชอลนั่งเมื่อวานก่อน
“ฉันยังมีหวังจะได้เจอแมวไหมเนี่ย?”
“มีสิ เดี๋ยวมันก็มา คิดว่านะ ปกติมันชอบออกไปเล่นนอกบ้านหรอ?” อีกฝ่ายส่ายหัวเป็นการปฏิเสธ
“ไม่เลย ปกติมันจะติดบ้านมากแต่วันนั้นตะกุยประตูอยากจะออกจากบ้านท่าเดียว ฉันก็ไม่นึกว่ามันจะวิ่งเตลิดออกไปไกลจนวิ่งตามไม่ทันไม่รู้ว่ามันไปทางไหน”
อยากจะจับมือให้กำลังใจจัง...อยากจับมือนุ่มๆอีก
“งั้น...เราจะนั่งรอตรงนี้หรือว่าจะแวะไปดูลูกแมวที่บ้านฉันดี เผื่อฉันทำอะไรให้ทานด้วย” อยู่ดีๆมือบางของวอนอูก็ยกขึ้นมาเป็นสัญญาณให้ซึงชอลหยุดพูด
“ชู่ว แปปนึงนะฉันได้ยินเสียงแมว” ดังนั้นซึงชอลจึงเงี่ยหูฟังและเขาเองก็ได้ยินเช่นเดียวกัน แต่มันดังมาจากที่ไกลๆ
“แมวนายรึเปล่า?”
“ฉันว่าใช่นะ...ปารีส เมี้ยวๆๆ ปารีส”
เพียงแค่วอนอูส่งเสียงเรียกออกไป เสียงแมวตัวนั้นก็ดังขึ้นราวกับตอบรับและส่งผลให้วอนอูเรียกดังขึ้นและถี่ขึ้นอีก จนในที่สุดเจ้าแมวแม่ลูกอ่อนก็ปรากฏให้เห็นในคลองสายตา มันวิ่งเหยาะๆเข้ามาและคลอเคลียที่ขาเรียวของวอนอูแต่ยังคงร้องเสียงดังไม่หยุดราวกับจะฟ้องว่ามันหาลูกไม่เจอ
มือบางช้อนตัวปารีสขึ้นอุ้มแล้วหอมซ้ำๆก่อนกอดไว้แน่น
...อิจฉาได้ไหมล่ะ...
“ดีจัง ท่าทางว่าลูกแมวพวกนั้นจะเป็นของปารีสจริงๆด้วย ขอไปที่บ้านนายได้ไหม?”
...ด้วยความยินดีอย่างยิ่ง...
“เชิญเลยตามมาทางนี้เลย”
ซึงชอลนำทางวอนอูไปที่บ้านของตัวเอง เมื่อไปถึงวอนอูจึงปล่อยให้ปารีสลงเดินบนพื้นและมันก็ทำจมูกฟุดฟิดพลางร้องเสียงดังประสานกับเสียงลูกแมวด้านในทันที
“ใช่แน่ๆเลยเนี่ย” พวกเขามองหน้ากันแล้วยิ้มเมื่อทันทีที่เปิดประตูเจ้าปารีสก็พุ่งเข้าไปหาลูกของตัวเองและเลียแต่ละตัวไม่ยอมหยุด มันทิ้งตัวลงนอนปล่อยให้ลูกๆดูดนมแทบจะทันที
“น่าดีใจจังเลย ถ้าไม่ได้นายฉันก็ไม่รู้จะได้เจอกับปารีสแล้วก็เด็กๆพวกนี้รึเปล่า ขอบคุณมากจริงๆ” มือบางคว้ามือหนาของซึงชอลไปจับแล้วเขย่าเบาๆแต่กลับสร้างความประหม่าให้ซึงชอลจนแก้มของเขาเริ่มแดงขึ้นมา เมื่อเห็นว่าแก้มอีกฝ่ายแดงจัดขนาดนั้นวอนอูจึงรู้สึกตัว เขาปล่อยมือซึงชอลออกก่อนเลี่ยงไปถูจมูกตัวเองเบาๆแทน
“เอ่อ...แม่ชื่อปารีสแล้วพ่อมันล่ะชื่ออะไร?” ดังนั้นซึงชอลจึงตัดสินใจเปลี่ยนหัวข้อสนทนาเสียเอง
“ชื่อไคโรน่ะ”
“ชอบเดินทางหรอ?”
“ไม่เชิงหรอก แต่ชอบอ่านหนังสือประวัติศาสตร์ คือมันก็ไม่น่าจะเกี่ยวแต่ฉันชอบตั้งชื่อสัตว์เลี้ยงเป็นชื่อเมืองหลวงน่ะ” ร่างหนาพยักหน้าเบาๆ
“งั้นสี่ตัวน้อยนี้จะตั้งว่าไงดี?”
“อืม...ยังคิดไม่ออกเลย ช่วยฉันตั้งหน่อยสิ” ซึงชอลยิ้มและไม่ปฏิเสธข้อเสนอนั้น
“ตั้งให้แล้วใช้ด้วยนะ เอาเป็นเมลเบิร์น เบอร์ลิน ลอนดอน แล้วก็เอเธนส์แล้วกัน เท่เลย”
“โห นายตั้งชื่อได้ถูกใจฉันมากเลยนะเนี่ย ชอบๆ”
“ดีใจนะที่ชอบ ก็หวังว่านายจะแยกพวกมันออกน่ะนะเหมือนกันยังกับแกะ” พวกเขาหัวเราะให้กันเมื่อเห็นว่าสิ่งที่ซึงชอลพูดนั้นค่อนข้างจะจริง...เอาไว้โตกว่านี้คงจะแยกออกแหละน่า
“เอ้อ..ยังไม่ได้ทานอะไรใช่ไหม? เดี๋ยวฉันทำอะไรให้ทานดีไหม?” วอนอูยิ้มแล้วพยักหน้าเบาๆ หลังจากเจอปารีสเขาก็สบายใจและรู้สึกหิวขึ้นมาทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาไม่หิวอะไรเลยแท้ๆ
“ไข่กระทะ ทานได้ไหมหรือว่าจะเอาอย่างอื่น?”
“ไข่กระทะก็ได้ไม่ได้ทานนานแล้ว ให้ฉันช่วยไหม?” ถึงแม้จะถามแต่วอนอูก็ลุกเดินเข้าไปช่วยซึงชอลเสียแล้ว มือบางหยิบจับทุกอย่างอย่างคล่องแคล่วเสียจนซึงชอลนึกชื่นชม
“ทำกับข้าวบ่อยหรอ?” วอนอูพยักหน้าพลางตอกไข่ ..จะว่าไปพวกเขาไว้ใจกันเร็วไปหน่อยไหมนะไม่ได้เจอกันตั้งหลายปี? แต่ช่างมันเถอะ..ไหนๆก็ไหนๆแล้วคงเป็นบุพเพอาละวาดมั้งไม่งั้นคงไม่มาเจอกันง่ายๆหรอก
หลังจากมื้อเช้าผ่านไปพวกเขาก็นั่งคุยรื้อฟื้นความทรงจำกันอีกพักใหญ่ วอนอูจึงขอตัวกลับเพราะตัวเขาเองก็เกรงใจซึงชอลไม่น้อยที่ต้องมาฝากท้องทั้งมื้อเช้ามื้อกลางวันแถมยังได้รับการช่วยเหลือเรื่องแมวอีก
“แล้วเราจะได้เจอกันอีกรึเปล่า?” วอนอูอมยิ้มเมื่อได้ยินคำถามนั้น เขาขยับสายเอี๊ยมเล็กน้อยก่อนก้มลงอุ้มลังที่ใส่แมวไว้ขึ้น
“แวะไปบ้านฉันสิ พวกลูกแมวคงคิดถึงคนตั้งชื่อให้มันเหมือนกัน”
“แต่ฉันไม่รู้...” จะรู้ได้ยังไงว่าบ้านอีกฝ่ายอยู่ที่ไหน
“อืมนั่นสินะ งั้นรบกวนอีกเรื่องได้ไหม ไปส่งฉันที่บ้านหน่อยแมวหนักน่ะแบกไม่ไหวหรอก”
เท่านั้นวอนอูก็ได้รับรอยยิ้มกว้างจากซึงชอลกลับมาแทนคำว่าตกลง..
The End.
#ลคคว
แปลชื่อเป็นไทยคงต้องใช้ชื่อว่า ลูกแมวสื่อรัก 555555555555
แต่งเองยังตลกเอง ซึงชอลคนตลกกับวอนอูคนไฮโซว
ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความสนใจและคอมเม้นท์นะคะ
เม้นท์ติชมได้ตลอด เม้นท์ด่าก็ได้แต่อย่าแรงเป็นคนอ่อนไหว
บอกรักก็ได้นะไม่ว่ากัน ลั่นๆ 55555555
พบกันใหม่โอกาสหน้าค่ะ
ปล.ขอบคุณสำหรับธีมสวยๆค่ะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

44 ความคิดเห็น
-
#43 yuri_wonwoo (จากตอนที่ 8)วันที่ 25 ตุลาคม 2559 / 10:37เขินวอนอูตอนคว้ามือซึงชอลไปจีบอ่ะ ถ้าเราเป็นซึงชอลเราจะหน้าแดงหูแดงจัวแดงขนาดไหนกันนะ 555#430
-
#42 yuri_wonwoo (จากตอนที่ 8)วันที่ 25 ตุลาคม 2559 / 10:36เราแพ้วอนอูอ่ะ ทั้งตัวขาว มือนุ่ม กลิ่นหอมอีก อยากเก็บเธอมาดอมดม#420
-
#41 yuri_wonwoo (จากตอนที่ 8)วันที่ 25 ตุลาคม 2559 / 10:35งื้อออออออออ ซึงชอลนี่ใจดีจังเลยน้า ถ้าเป็นคนอื่นคงแค่อาจจะให้นมแล้วก็ออกมา แต่นี่เอากลับไปเลี้ยงที่บ้านเลย ใจดีจริงๆ#410