ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [รวม Short Fic]Super Junior+Dong Bang Shin Gi+SHINee....Yaoi

    ลำดับตอนที่ #1 : [SuJu] I'm your man...ผู้ชายของนาย(EunHae) 100%

    • อัปเดตล่าสุด 26 ก.ค. 52


     !?"ทงแฮเริ่มดิ้น พยายามจะออกจากอ้อมกอดแต่ผมไม่ยอม...ยอมกให้โง่สิครับ ! ^^

     

    Happy Ending Story

    -*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-

    Talk :

    b19365f39f.jpg
    อืมม เรื่องนี้อย่างที่บอกว่านานมากเเล้วเป็นฟิกอึนเฮเรื่องเเรกเลยน้า สำเนียงมันเลยแปลก แปร่งๆ - -* สนุกไม่สนุกก็บอกได้เลยค่ะ คอมเม้นท์ได้ตามอัธยาศัย อิอิ อ่า ขอบอกว่า มีแก้เนื้อหานิดหน่อยด้วย แหะๆ แต่ว่านิดหน่อยจริงๆนะคะ เจอกันเรื่องต่อไปน้า ^^


    จบแบบรวบรัด อาจไม่ดีเท่าที่ควรนะคะ...

    Title :: [SF] I'm your man ... ผู้ชายของนาย

    Couple :: EunHae

    Rate :: PG-13

    Author :: ตักตวงติ๊งต๊อง @ EunHaeLover Everland

    Note :: เคยลงในบอร์ดเก่าโน่นนนนแน่ะค่ะ นานมากกกกกกกกกกกกกกแล้วอ่า เหอๆ เกิดอารมณ์อยากลง กำลังแต่งเรื่องใหม่....ฟิกคั่นเวลา ..... อ่านแล้วรบกวนเม้นท์ด้วยนะคะ PLEASE~~~

     

    ~~!!~~

    "หวัดดีด๊อง"ผมเดินเข้าไปทักเพื่อนร่วมห้องที่จริงๆแล้วผมแอบชอบเค้าอยู่ แต่จะให้ผมทำยังไงได้ในเมื่อเราก็ไม่ได้สนิทกันมากมายแค่อยู่ห้องเดียวกันเฉยๆ

    "อ้าว!หวัดดีฮยอก"ทงแฮหันมายิ้มให้ผมอย่านคนอัธยาศัยดีแต่ผมจะแย่เอาน่ะสิครับ ใจจะละลายตายอยู่แล้ว เค้าไม่สงสารผมบ้างรึไงนะ?

    "จดหมายเยอะเหมือนเดิมเลยนะ"ผมส่งเสียงทักไปตามประสาคนนั่งติดกัน

    "อื้ม ขี้เกียจอ่านอ่ะ แต่สงสารเค้า..อุตส่าห์เขียนมา" ทงแฮยิ้มหยีจนตาปิด ในขณะที่ผมได้แต่ส่งยิ้มแหยๆกลับไป

    "ทิ้งไม่ได้หรอ?"ทงแฮหยุดอ่านจดหมายไปชั่วขณะหนึ่งแล้วหันมาคุยกับผมอย่างเต็มตัว

    "ได้ แต่ไม่ใช่ที่นี่..ฉันเอากลับไปทิ้งที่บ้านน่ะ"พูดจบก็หันกลับไปอ่านจดหมายตามเดิมทันที

    "อืม"ความจริงแล้วผมก็เป็นหนึ่งในหลายๆคนที่ส่งจดหมายหาทงแฮอ่ะแหละ ผมส่งให้เค้าทุกวันแต่ไม่เคยลงชื่อเลยมีเพียงคำว่า'รักนาย..ทงแฮ'กับกระดาษสีน้ำตาลแบบเดียวกันเท่านั้นที่แสดงให้เค้าได้รับรู้ว่าเป็นคนๆเดียวกันส่งมา ผมคิดว่ายังไงๆผมก็ไม่มีหวังอยู่แล้วลองทำซักหน่อยจะเป็นไร อีกอย่างจดหมายก็ต้องไปจบที่ถังขยะอย่างที่ทงแฮบอกอยู่ดี ถึงจะดูไม่มีความหมายแต่ผมก็อยากให้เค้ารับรู้ถึงความรู้สึกของผมบ้าง..ซักนิดก็ยังดี

    แล้วช่วงนี้ที่โรงเรียนของผมเค้าก็ลือกันให้แซ่ดว่าทงแฮคบอยู่กับพี่อีทึกซึ่งเป็นรุ่นพี่พวกเรา 2 ปี ตอนแรกก็ว่าจะไม่เชื่อแต่เมื่อเห็นภาพที่พี่อีทึกมารับทงแฮที่ห้องทุกวันหลังเลิกเรียน ใจผมก็เลยเริ่มเชื่อคำลือเหล่านั้นเสียแล้วและนี่ทำให้ผมยิ่งเศร้าเพราะความหวังมันริบหรี่ลงทุกทีๆๆ

    "ฮยอก ตอนเที่ยงไปกินข้าวด้วยกันนะ"ผมพยักหน้ารับเบาๆ แต่ในใจผมกลัว...กลัวว่าจะปิดทงแฮได้อีกไม่นานและกลัวว่าถ้าหากทงแฮรู้ถึงความรู้สึกผมเค้าจะรู้สึกยังไง ผมคิดไปต่างๆนานา จนได้ยินเสียงเรียกที่เหมือนดังมาจากที่ไกลแสนไกล

    "ฮยอก ฮยอก ฮยอก ฮยอก ฮยอก!"ผมหลุดจากภวังค์แล้วหันกลับมามองหน้าทงแฮที่ขมวดคิ้วอยู่

    "นายเป็นอะไรรึเปล่า?"เอ่ยถามก่อนจะเลื่อนมือมาแตะลงบนแขนของผมแผ่วเบา

    "เอ่อ เปล่าหรอก ฉันไม่ได้เป็นอะไรแค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อยน่ะ..อย่าสนใจเลยนะ" ทงแฮทำหน้าเหมือนไม่ค่อยเชื่อผมเท่าไหร่ก่อนจะถามย้ำอีกครั้งว่า

    "นายไม่เป็นไรแน่นะ?"ผมพยักหน้ายืนยัน เมื่อเห็นผมยืนยันอย่างนั้นทงแฮจึงหันกลับไปทางเดิม


    พักเที่ยง..โรงอาหาร


    "นั่งไหนดีล่ะ?"ทงแฮหันมาถามผมซึ่งผมได้ตอบไปว่า

    "นั่งนั่นก็ได้"ผมชี้ไปที่โต๊ะตัวหนึ่งซึ่งผมกับฮันเกิง..เพื่อนสนิทจะมานั่งด้วยกันเป็นประจำ แต่ว่าวันนี้ฮันเกิงไม่ได้มาโรงเรียนเพราะต้องกลับไปเยี่ยมบ้านที่จีน อันเป็นประเพณีที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเลยทีเดียวและในการไปครั้งนี้ฮันเกิงไม่ได้ไปคนเดียวแต่เขาเอาลูกเขยกลับไปฝากพ่อกับแม่ด้วย ไม่ใช่ใครอื่นไกลหรอกครับ...เพื่อนสนิทของทงแฮน่ะเอง...ซีวอน

    "นายนั่งตรงนี้ประจำเลยนี่"พูดแล้วทงแฮก็หย่อนตัวลงบนเก้าอี้ ตอนแรกผมดีใจที่ดงแฮเหมือนจะใส่ใจผมแต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเพื่อนสนิทของทงแฮก็เป็นแฟนกะเพื่อนสนิทผมนี่นา รู้ที่นั่งแค่นี้จะไปแปลกอะไร ความดีใจเมื่อครู่มลายสิ้นไปกับอากาศธาตุทันที

    "อืม นายจะกินอะไรบ้าง? ฉันจะไปซื้อมาให้"ผมมองทงแฮทำท่าคิดอย่างเศร้าๆจนกระทั่งรายการอาหารหลุดออกมาจากปากเขานั่นแหละผมถึงเลิกมอง

    "งั้นนายนั่งรออยู่นี้นะ เดี๋ยวฉันมา"ผมบอกกับทงแฮก่อนเดินออกไปจากโต๊ะเพื่อไปจัดการหาอาหารเที่ยงมารับประทานกัน ไปต่อแถวซื้อได้ไม่เท่าไหร่ก็ได้เจ็บแปล๊บๆในใจอีกรอบเมื่อร่างสูงโปร่งของพี่อีทึกเดินลิ่วๆไปหา..ทงแฮ ซึ่งฝ่ายหลังก็ดูยินดีอยู่ไม่น้อยที่เห็นร่างสูงโปร่งมาหา ผมไม่รู้ว่าเค้าคุยอะไรกันรู้เพียงแต่ว่าทงแฮหน้าแดงอย่างเขินจัดและทั้งคู่ก็นั่งหยอกล้อกันไปมา จนผมต้องเบือนหน้าหนีอย่างขมขื่น...ให้ตายสิ ไปจู๋จี๋กันที่อื่นไม่ได้รึไง? ทำไมต้องมาทำให้เห็นนะ...ผมคิดอย่างเจ็บใจ

    "อ้าว!หวัดดีฮยอก"พี่อีทึกทักขึ้นหลังจากที่ผมเดินถือถาดอาหารกลับมาถึงโต๊ะแล้ว

    "ครับ พี่อีทึก"ผมดันจานข้าวให้ทงแฮแล้วขยับออกมานั่งทิ้งระยะห่างจากคนทั้งคู่พอสมควร ผมนั่งกินข้าวไปเงียบๆ..เงียบซะจนทงแฮผิดสังเกต

    "นายเป็นอะไรอีกแล้วอ่ะฮยอก?"ผมส่ายหน้าปฏิเสธอย่างรวดเร็วพร้อมกับลุกขึ้นด้วยความเร็วพอกันทั้งๆที่ข้าวในจานยังพร่องไปไม่ถึงเสี้ยวด้วยซ้ำ...ทำไงได้ กินไม่ลงนี่นา...

    "ฉันไปก่อนนะ เจอกันที่ห้อง" ..ถ้ามีโอกาส..ผมเสริมในใจก่อนตั้งหน้าตั้งตาเดินออกจากโรงอาหารให้เร็วที่สุดโดยไม่หันกลับไปตามเสียงเรียกของทแฮแม้แต่ครั้งเดียว

    "เป็นอะไรของเค้านะ"ทงแฮอารมณ์เสียอยู่ไม่น้อย เขาสบถกับตัวเองตอนที่ผมไม่หันกลับมาตามเสียงเรียกที่ผมเคยขานรับเสมอ...ตั้งแต่เที่ยงนั้นมาผมก็พยายามหลบหน้าทงแฮ ผมย้ายไปนั่งหลังห้อง ตอนเรียนก็ตั้งใจมองแต่กระดานเพียงอย่างเดียว พักเที่ยงก็รีบลงไปกินข้าว ตอนเย็นก็รีบกลับบ้านและทงแฮเองก็ไม่เห็นจะเดือดร้อนอะไรเพราะทงแฮยังคงร่าเริงและมีพี่อีทึกมารับส่งทุกวันไม่เคยขาด ...ผมทำได้แค่เฝ้ามองห่างๆใช่มั้ย?


    "ฮยอก"ผมเงยหน้าขึ้นเมื่อรับรู้ได้ว่ามีคนมาเรียก แต่พอผมเห็นว่าเป็นทงแฮเท่านั้นแหละ ผมก็ทำท่าจะลุกหนีทันทีแต่คราวนี้ทงแฮไม่ปล่อยให้มันเป็นเช่นนั้น.เขาลากผมออกจากห้อง ลงจากตึก ผ่านตึกไปอีกหลายตึกจนกระทั่งมาหยุดที่...

     

    "นายพาฉันมาหลังโรงเรียนทำไมด๊อง?"ทงแฮไม่ตอบคำถามของผมแต่ก็ยอมปล่อยข้อมือผมแล้ว

    "นายหลบหน้าฉันทำไม?"เอาแล้วไง ผมจะตอบว่าไงดีล่ะ หากแต่ยังไม่ทันตอบเจ้าของคำถามก็รุกต่ออย่างไม่เว้นช่องว่างทันที

     

    "นายรังเกียจฉันงั้นเหรอ?"คำถามนี้เล่นเอาผมจุกเลยทีเดียว นี่ท่าทางที่ผมแสดงออกไปมันเหมือนรังเกียจทงแฮมากขนาดนั้นเลยหรอ??

    "ทำไมนายต้องรังเกียจฉัน? ฉันทำอะไรผิด?"ผมกำลังจะอธิบายแต่ทงแฮไม่เปิดโอกาสเลยแล้วผมก็ยิ่งทำอะไรไม่ถูกเพราะทงแฮกำลังร้องไห้..น้ำตาสายบางๆกำลังไหลรินออกจากดวงตาที่เคยสดใสแต่บัดนี้กลับหม่นหมองไม่ขาดสาย ที่ผมทำได้ตอนนี้คงกอดปลอบ..แค่นั้นล่ะมั้ง

    "ฉันไม่ได้รังเกียจนายเลยนะ ฉันแค่..."ระหว่างหาคำพูดดีๆมาอธิบายให้ร่างบางในอ้อมกอดฟัง ทงแฮก็พูดแทรกอีกจนได้

     

    "นายไม่รักฉันแล้วหรอ?"เมื่อประโยคนี้หลุดออกจากปากทงแฮผมแทบหยุดหายใจค่อยๆคลายอ้อมกอดออกแล้วถอยออกมาห่างพอสมควร จากการกระทำของผมก็ยิ่งทำให้ดงแฮร้องไห้หนักเข้าไปใหญ่ ผมไม่รู้จะทำยังไงดี ผมตกใจ

    "เอ่อ ฝนจะตกแล้วนะ ฉันกลับบ้านก่อนล่ะ นายเองก็กลับบ้านได้แล้วนะ"ผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่เลวมากเมื่อทิ้งให้ทงแฮนั่งร้องไห้แปะอยู่ตรงนั้น....คนเดียว หลังจากผมกลับถึงบ้านได้ไม่นานสายฝนก็เทกระหน่ำลงมาอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ผมนั่งมองดูสายฝนไหลลงมาตามหน้าต่าง ในใจก็คิดว่าทงแฮจะกลับถึงบ้านรึยัง?แล้วจะยังร้องไห้อยู่รึป่าว?ใครจะเป็นคนคอยปลอบ?แต่คำถามสุดท้ายแทบไม่ต้องคิดก็ได้คำตอบแล้ว..พี่อีทึกไง...ไอ่ไก่โง่เอ๊ย ผมนั่งอยู่ตรงนั้นเนิ่นนานจนกระทั่งได้ยินเสียงมือถือดังขึ้น ผมจึงจำต้องละสายตาจากหน้าต่างบานนั้นเพื่อมาพบกับเบอร์แปลก สุดท้ายผมก็ตัดสินใจรับ

    "ฮยอกแจพูดครับ"
    ..ฮยอกหรอ?..น้ำเสียงทางปลายสายดูจะร้อนใจอยู่ไม่น้อย
    "ครับ ใครครับ?"
    ..พี่เอง อีทึก..
    "อ่อครับ มีอะไรรึป่าวครับ?"
    ..ทงแฮอยู่กับนายรึป่าว?..คราวนี้เป็นผมที่เริ่มร้อนใจขึ้นมาบ้าง
    "เปล่าครับ ทำไมหรอครับ?"ผมพยายามบังคับเสียงไม่ให้สั่นเหมือนกับใจของผม ขอให้อย่าเป็นอย่างที่ผมคิดเลยนะครับ
    ..ทงแฮยังไม่กลับบ้านเลย พี่มารอตั้งนานแล้ว ตอนเย็นเห็นว่าจะไปคุยกับนายแล้วให้พี่กลับบ้านก่อน แต่จนป่านนี้ยังไม่กลับเลย นายพอจะรู้บ้างมั้ยว่าทงแฮไปไหน?..ไม่ใช่แค่เพียง "พอรู้" แต่ผม "รู้ดี" เลยแหละ เพราะผมเป็นคนทิ้งเค้ามาเองนี่ ฝนยังคงตกลงมาอย่างต่อเนื่องอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ผมกดตัดสายโทรศัพท์ทันทีแล้วเริ่มต้นวิ่งอย่างเอาเป็นเอาตาย ไม่สนใจที่จะหยิบแม้กระทั่งร่มในตอนนั้นทงแฮสำคัญกว่าอะไรทั้งหมด ผมจะเป็นยังไงก็ช่างเถอะ ไม่สำคัญ

    เมื่อวิ่งมาถึงหลังโรงเรียน ผมแทบทรุดเพราะเห็นทงแฮนอนหมดสติอยู่บนพื้นท่ามกลางสายฝน ไม่รอให้ช้ากว่านั้นทงแฮถูกผมอุ้มมาไว้แนบอกแล้วย้ายเข้าไปอยู่ในอาคารเรียนทันที

    "ฮยอก..ฮยอก"ฟังจากเสียงหวานที่เปล่งออกมาจากริมฝีปากบางก็รู้ว่าเจ้าตัวกำลังเพ้อเพราะพิษไข้

     

    "ฉันอยู่นี่แล้วทงแฮ ฉันอยู่นี่"อ้อมกอดของผมถูกกระชับให้แน่นขึ้นอีกเพื่อให้ความอบอุ่นแก่ร่างบางที่เริ่มเพ้อหนักขึ้น ผิวที่สัมผัสกันมันทำให้ผมเศร้าจนน้ำตาไหลออกมา..ไข้สูงจนน่ากลัว

    "นายอย่าทิ้งฉันไปนะ อยู่กับฉัน"ทงแฮเพ้อดุจรับรู้ได้ว่ากำลังอยู่ในอ้อมกอดของใคร ผมซุกใบหน้าเปื้อนน้ำตาลงกับกลุ่มผมนุ่มก่อนจะร้องเพลง You are the one เบาๆ เวลาล่วงเลยไปจนถึงเช้า ผมค่อยๆช้อนตัวทงแฮขึ้นมาอุ้มแล้วพากลับบ้านของผมอย่างรวดเร็วเพราะถึงตอนนี้ไข้จะลดแล้วแต่ก็ควรจะเปลี่ยนเสื้อผ้า เช็ดตัว ถ้าเผื่อเป็นหนักกว่าเก่าขึ้นมาจะยิ่งแย่เอา

    หลังจากมาถึงบ้าน จัดการเช็ดตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ทงแฮเรียบร้อยแล้วผมก็เหลือบไปเห็นมิสคอลจากหน้าจอมือถือถึง 50 กว่าสาย..ไม่ใช่ใครอื่นไกล พี่อีทึกนั่นเอง คงจะเป็นห่วงทงแฮมากสินะ ทันความคิดโทรศัพท์ของผมดังขึ้นทันที

    "ครับ พี่อีทึก"
    ..นายเจอทงแฮมั้ย?..
    "ครับ ตอนนี้ทงแฮอยู่กับผม"
    ..อืม ถ้างั้นก็แล้วไปเถอะ พี่ฝากดูแลน้องพี่ด้วยนะ..พูดจบก็ตัดสายไปเสียดื้อๆ ทิ้งให้ผมงงอยู่กับคำว่า 'น้องพี่' อยู่อย่างนั้น จนกระทั่งนึกขึ้นได้ว่าต้องไปซื้อยามาให้ทงแฮกิน ผมถึงได้เลิกงง(ชั่วคราว)แล้วรีบออกไปซื้อยา กลับมาถึงผมก็เห็นดงแฮลุกขึ้นมานั่งได้แล้ว

    "ลุกขึ้นได้แล้วหรอด๊อง?"ทงแฮหันมามองผมช้าๆ..ช้าจิงๆ และเมื่อเห็นว่าเป็นผมน้ำตาก็หลั่งไหลออกมาอีกครั้ง ใจของผมแทบสลายเมื่อเห็นน้ำตาของเค้า ผมไม่รอช้าที่จะเข้าไปกอดทงแฮเอาไว้ ทงแฮกอดผมตอบแน่นและร้องไห้อยู่นานกว่าจะผละออกมาสบตากับผม

    "นายไม่รักฉันแล้วหรอ?"คำถามนี้อีกแล้ว..คำถามที่เมื่อวานผมเลือกไม่ตอบแล้วหนีมา แต่คราวนี้ผมจะไม่ปล่อยให้มันเป็นอย่างงั้นอีกแล้ว เป็นไงเป็นกัน..ผมจะบอกความในใจกับทงแฮ

     

    "นายรู้ได้ยังไงว่าฉันรักนาย?"ทงแฮยื่นมือมาจับมือผมแล้วบีบเบาๆ

    "นายคือเจ้าของจดหมายพวกนี้ใช่มั้ย?"จดหมายทั้งหมดของผมที่ตอนนี้ชื้นไปด้วยฝนอยู่ในมือดงแฮ ผมอึ้งไป

     

    "ไหนนายบอกว่านายทิ้งจดหมายไง?"นี่พวกเราเล่นเกม 20 คำถามกันอยู่รึไงนะ..มีแต่คนถามไม่มีคนตอบ

    "มันก็ใช่ แต่ของนายฉันไม่ได้ทิ้งนี่นา"ทงแฮก้มหน้าลงนิดๆ ผมแอบเห็นหูเขาแดงด้วยล่ะ

     

    "แล้วนายรู้ได้ยังไงว่าเป็นจดหมายของฉัน?"ทงแฮเงยหน้ามายิ้มให้ผมบางๆ

    "ลายมือไง เรานั่งติดกันมาตั้งนาน คิดว่าฉันไม่เคยเห็นลายมือนายรึไงนะ?"ทงแฮเอ่ยอย่างขำๆ ท่าทางผมจะซื่อบื้ออ่ะแหละครับ..ลืมเรื่องนี้สนิทเลย..ปล่อยไก่ตัวเบ้อเร่อ 55 ผมค่อยๆดึงทงแฮมากอดไว้อีกรอบ

     

    "นายยังรักฉันอยู่รึเปล่า?"คราวนี้ผมเป็นฝ่ายยิ้มบ้าง อ้อมกอดถูกกระชับให้แน่นขึ้น..เนิ่นนาน นานซะจนอีกคนเริ่มทนไม่ไหว

    "ตกลงว่ารักหรือไม่รัก ฮะ

     

    "รักสิ อี ฮยอกแจรัก อี ทงแฮที่สุดเลยครับผม!"เลือดถูกสูบฉีดขึ้นมาที่ใบหน้าของทงแฮทันที

    "ฉันก็รักนาย..อี ฮยอกแจ คนซื่อบื้อ 55+"ผมอึ้งครับ ชะงักไปจนทงแฮรู้สึกได้

     

    "ทำไม..ไม่เชื่อรึไง?"ผมพยักหน้าตอบเบาๆ ถึงแม้พฤติกรรมกับคำพูดจะไม่ขัดแย้งกันแต่มันขัดแย้งกับข่าวลือครับ

    "ทำไมไม่เชื่อล่ะ หืมม?"ผมกำลังสับสนอย่างรุนแรงเลยครับ ตกลงยังไงกันแน่เนี่ย...คนหล่อ งง

     

    "ก็นายกับพี่อีทึกคบกันไม่ใช่หรอ?"เท่านั้นแหละครับ ทงแฮเขกหัวผมอย่างแรงทันที

    "จะบ้ารึไง เราเป็นลูกพี่ลูกน้องกันต่างหากเล่า นายก็ไปเชื่อคำลือบ้าๆนั่นได้นะ"ทงแฮส่ายหัวอย่างเอือมๆ ส่วนผมก็อึ้งอีกแหละครับ ชีวิตนี้มีแค่อึ้งจริงๆ

     

    "ก็วันนั้นที่โรงอาหาร..."ผมพูดไปแค่นี้ดูเหมือนดงแฮจะเข้าใจทุกอย่างในทันใด

    "ที่พี่เค้ามาคุยกับฉันตอนนายไปซื้อข้าวน่ะหรอ?..พี่เค้าล้อฉันเรื่องมากินข้าวกับนาย ฉันก็เลย..ก็เลยเขินจนหน้าแดง นี่นายเข้าใจผิดใช่มั้ยเลยทำท่าแบบนั้น?"ผมพยักหน้าอ่อยๆยอมรับ

    "555+ นายหึงฉันหรอเนี่ย?"ผมหอมแก้มทงแฮอย่างหมั่นเขี้ยวเต็มที่

     

    "ก็รักนายนี่นา หึงก็เป็นเรื่องธรรมดาไม่ใช่หรอ?"ทงแฮพยักหน้ายิ้มๆ ผมหมั่นเขี้ยวอีกรอบก็เลยดึงมาจูบซะเลย

    "คบกับฉันนะ?"ทงแฮหัวเราะลั่นบ้านอย่างกับคนที่ไม่เคยไม่สบายมาก่อน

     

    "นึกว่าจะไม่พูดแล้วซะอีก"ผมพองลมอย่างงอนๆจนทงแฮต้องตามง้อ

    "โอ๋ๆๆๆ คบสิคบ แค่พูดเล่นเองนะ อย่างอนเลย"ผมพยักหน้าก่อนจะหอมแก้มนิ่มอีกครั้ง

     

    "ย้ายมาอยู่ด้วยกันเลยได้รึป่าวด๊อง?"ทงแฮยิ้มกว้างจนเห็นฟันเกือบทั้งปาก

    "ครับผม"...ในที่สุด รักครั้งแรกของผมก็สมหวังซะที...เห้อ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×