คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : ใบสมัครตัวละคร ใบที่หกกกก
A P P L I C A T I O N ,,
คู่ : โกคุเดระหัวปลาหมึก
“ฉันเป็นสายลับ หน้าที่คือตามไปสืบ
แต่ทำไมฉันกลับโดนตามสืบซะเองละ!!!!! ”
รูป 1 (รูปเดียวกัน แต่เผื่อเปิดรูปนี้ไม่ได้ค่ะ)
F I r s t
ชื่อ-สกุล : มิเอเล่ วิโอล่า (Miele Viola)
ความหมาย : น้ำผึ้งสีม่วง
S e c o n d
รูปร่างลักษณะ : สาวหุ่นเพรียวแต่หน้าอกแบนไปนิดแขนขาเรียวเล็ก หน้าเด็กพันปีเพราะกินน้ำผึ้งดั่งอาหาร แก้มเรื่อสีชมพูตลอดเวลาแสดงให้เห็นว่าเป็นคนสุขภาพแข็งแรงดี ดวงตาและเส้นผมสีแดงชมพูแบบขนมหวานที่ทำให้หน้าตาดูน่ากินน่าหลงใหล ซึ่งเธอมักจะรวบไว้เป็นหางม้าเวลาทำงานเสมอ
ส่วนสูง : 160 cm
น้ำหนัก : 45 kg
T h I r d
ลักษณะนิสัย :
ความสำเร็จที่บินได้ มิเอเล่ วิโอล่า สายลับแนวหน้าที่ขึ้นชื่อเรื่องความสำเร็จในหน้าที่ของแม่นางถือว่ายอดเยี่ยมด้วยสถิติความสำเร็จ 93% อีก 7% ไปบินเล่น ไม่ค่อยมีใครได้เห็นหน้าที่แท้จริงของสายลับคนนี้นัก เนื่องจากเจ้าตัวทำลายหลักฐานเกือบทั้งหมดและจะทำงานฉายเดี่ยวซะส่วนใหญ่ คนจึงสรุปกันเองว่าต้องเป็นสาวสุขุม รอบคอบ อ่อนโยน ซึ่งความจริงแล้ว...มันตรงข้ามหมดเลยนะสิ!!! เธอคือ สาวใจร้อน บ้าบิ่น ปากหมาจัด เธอมักจะทำอะไรโดยไม่วางแผน เมื่อเธอต้องรีดไถข้อมูลจากใครก็ตาม อาจจะต้องมีการใช้กำลังเพราะความใจร้อนของมิเอเล่แน่ พอเจอปัญหา เจ้าตัวก็จะจัดการโดยไม่สนใจอะไร ตามคอนเซปต์ ปัญหามีไว้พุ่งชน ทำให้ 7% ไปบินเล่นอย่างน่าเสียดาย
พฤติกรรมน่าสงสัย หัวหน้าของเธอก็ต้องการให้เก็บเป็นความลับเรื่องที่มิเอเล่เป็นสายลับ ซึ่งเธอก็ให้สัญญาไว้แล้วเพราะกลัวหัวหน้าจอมโหดจะดุเอา แต่จะทำได้หรือเปล่าเนี่ย เมื่อมีคนพูดเรื่องสายลับทีไร หญิงสาวจะต้องทำตัวลุกลี้ลุกลนแล้วปัดไปเรื่องอื่นแทนเสมอ พอปัดไปได้ แม่นางก็จะแอบถอนหายใจ(ไม่)เงียบ พฤติกรรมเช่นนี้จึงน่าสงสัยเอามากๆ พอโดนซักถามเข้าแบบหนักๆ เธอก็จะเริ่มเหงื่อตกและขอตัวไปที่นู่นที่นี่เพื่อหนีออกไป แต่เธอดันชอบไปผิดทางอย่างอ้างว่าจะไปห้องน้ำแต่ดันเดินไปเข้าร้านอาหาร เมื่อมีคนบอกว่าห้องน้ำไปอีกทาง เธอก็จะแก้ตัวพัลวันโดยที่ไม่ลืมตบท้ายด้วยการว่าคนนั้นๆว่ายุ่ง ซึ่งคนฟังก็ยิ่งสงสัยนะสิ!!
หญิงสาวที่เก็บอารมณ์ไม่เป็น เวลาดีใจก็ต้องแสดงอาการไว้พองาม เวลาโกรธก็ต้องท่อง 1-10 หรือนับลูกแกะ เวลากลัวก็ต้องอย่าแสดงให้คนอื่นรู้ ชอบอะไรก็ไม่ควรแสดงออกเกินงาม กิริยาเช่นนี้ มิเอเล่ทำไม่ได้แน่นอนค่ะ!!! ข้อแรกก็พอทำได้อยู่ แต่ข้อที่สองเธอก็ทำไม่ได้แน่นอน เธอจะแสดงให้เห็นว่าโกรธและว่าคนๆนั้นทันที นับลูกแพะลูกแกะ เธอไม่นับหรอก ถ้านับลูกหมาก็อาจจะนับนะ เวลากลัวเธอจะลุกลี้ลุกลนและแสดงให้เห้นได้ชัดว่ากลัวอะไรสักอย่าง
ขี้เขินเกินไป เวลาเธอคิดเธอมักเอานิ้วชี้ขึ้นมาแตะคางหรือบิดปอยผมและเวลาที่มองลูกหมาด้วยตาระยิบระยับ ซึ่งจะดูน่ารักน่ามองมาก จนใครๆก็ต้องอึ้ง ถ้าแค่มองก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ถ้าพูดประมาณว่า น่ารักหรือสวย เธอจะหลุดจากภวงค์และเขินขึ้นมาทันที ซึ่งเธอก็จะแสดงออกอย่างชัดเจนเลยว่าเขิน ทั้งหน้าและหูจะแดงยิ่งกว่าเดิมและแม่นางก็จะต้องว่าคนๆนั้นไปอีกสักชุด ทั้งๆที่เขาชมแท้ๆเลย
ที่ทำงานอีกที่คือตลาดมืด มิเอเล่เป็นที่รู้จักในสังคมตลาดมืด แต่ทุกคนจะรู้จักเธอในนามของนักข่าวเท่านั้น ด้วยฝีปากและความสามารถ ทำให้เธอได้ข้อมูลหลายอย่างที่จำเป็นต่องานบังหน้าและงานจริงๆของเธอ เวลาเข้าไปในตลาดมืดจะต้องมีแต่ผู้ชายมาขายขนมจีบรสชาติห่วยและคำหลอกลวงให้เธอเสมอ เนื่องจากหน้าตาของหญิงสาวดูน่ารักน่ามองและดูเด็กกว่าวัยที่จะมาเดินในตลาดแบบนี้ จึงน่าหลอกไปขายหรือน่าจีบเล่น แต่มิเอเล่ก็มองเป็นเรื่องธรรมดาจนไม่สนใจแล้ว บางครั้งเธอก็จะเข้าไปช่วยคนหมดหนทางที่เข้ามาหาของสำคัญแต่โดนปล้นหรือหลอก ไม่ว่าจะอันตรายแค่ไหน เธอก็จะเข้าไปช่วยยุ่งเสมอ เธอเคยเข้าไปช่วยคุณป้าคนหนึ่งขณะที่โดนปล้นโดยชายร่างกำยำกว่าสิบคน คุณป้ายื่นเงินให้เธอจำนวนหนึ่ง แต่เธอปฏิเสธ คุณป้าถามเธอว่า 'ทำไมทำอะไรบ้าบิ่นแบบนี้ละ ถ้าหนูเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไง' มิเอเล่ได้แต่ยิ้มแล้วตอบเพียงแค่ว่า 'เพราะหนูเป็นคนบ้าบิ่น ก็ต้องทำอะไรบ้าบิ่นสิคะ'
ชอบวิ่งเข้าไปยุ่งเรื่องชาวบ้าน มิเอเล่มีชีวิตที่โดดเดี่ยว เธอเสียพี่สาวไป ไม่มีใครอาสาจะช่วยเหลือเธอเลย เธอไม่ต้องการให้ใครเป็นแบบเธอ เมื่อมีคนต้องการความช่วยเหลือ ไม่ต้องการก็จะทำอยู่ดี ไม่ว่าเรื่องนั้นจะเรื่องใหญ่แค่นั้น เธอจะใจร้อนวิ่งเข้าช่วยเสมอ ไม่ว่าจะคนโดนปล้น โดนหลอก สามีทะเลาะกับภรรยา(?) เด็กทะเลาะกัน เธอจะจัดการหมด แม้จะโดนตอกกลับมาว่า 'ยุ่ง' มิเอเล่ผู้นี้ก็ไม่สนใจและพุ่งเข้าไป 'ยุ่ง' อยู่ดี
มุมน่ารักที่ต้องขุดออกมา หญิงสาวมีมุมน่ารักอยู่มาก แต่เพราะความใจร้อน บ้าบิ่นแล้วยังปากร้าย ทำให้ความน่ารักของมิเอเล่โดนกลบไปหมด อาจพบได้บางครั้งตอนที่เธอเจอลูกหมาหรือเผลอทำท่าน่ารักๆ แต่เมื่อเธอผูกพันกับใครสักคน เธอจะเอาใจใส่คนๆนั้นแบบเงียบๆโดยที่แม่นางไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ เธอกล้าว่าคนๆนั้นเมื่อหากเขาทำอะไรที่ผลีผลามหรืออันตราย เธอพร้อมจะเสียสละตัวเองเพื่อคนๆนั้นได้
ความผูกพันคิอความเจ็บปวด เธอขาดความอบอุ่นมาตั้งแต่เด็ก คนที่เอาใจใส่เธอก็มีแต่พี่สาวที่เสียชีวิตไปแล้ว ดังนั้นเธอจึงกลัวความผูกพันพอกับการแยกจาก กลัวว่าหากเสียคนที่ผูกพันไปแล้ว..เธอจะเจ็บเป็นครั้งที่สาม...ฉะนั้นไม่ผูกพันกับใครอีกดีกว่า
ชอบ : ชามิ้นต์ใส่น้ำผึ้ง, หมา, น้ำผึ้ง, การทำงาน, พี่สาว
เกลียด : การโดนเรียกด้วยนามสกุลเก่า, ส้ม (เคยแกะส้มแล้วน้ำส้มพุ่งเข้าตา), พ่อแม่, ขุนนาง, งานฝีมือ
กลัว : ถูกหัวหน้าดุ, ถูกเผยความลับ, ความผูกพัน, การแยกจาก
งานอดิเรก : วาดรูป, จิบชามินต์ใส่น้ำผึ้ง, นั่งบิดปอยผมพลางคิดเรื่องต่างๆ(?)
ประวัติ : มิเอเล่เป็นลูกสาวขุนนาง แต่ด้วยคำสัญญาของพ่อแม่ที่มีต่อใครสักคนในหน่วยสายลับที่จะส่งลูกไปทำงานเป็นสายลับแทนที่จะเป็นขุนนางอย่างพวกตน มิเอเล่ได้รับการเลี้ยงดูแบบไม่ค่อยได้รับความเอาใจใส่นักเพราะพี่สาวของตนนั้นถูกมองว่าเป็นอัจฉริยะเลยได้รับการเลี้ยงดูที่ดีกว่า เธอเกลียดทุกคนในครอบครัวยกเว้นแต่พี่สาวที่แสนดีของตน ไม่ว่าจะพยายามเกลียดแค่ไหน เธอก็เกลียดพี่สาวไม่ลงอยู่ดี
เมื่ออายุของมิเอเล่ใกล้ครบกำหนดที่จะส่งตัวไปเป็นสายลับ เธอตัดสินใจทำสิ่งที่บ้าบิ่นที่สุดในชีวิตของเธอ..นั่นคือ...การแยกออกจากครอบครัว เธอคิดแล้วว่าหากเป็นสายลับเธอต้องปิดบังข้อมูลของตนเพื่อจะได้ปฏิบัติหน้าที่ได้ดี ดังนั้นครอบครัวเป็นสิ่งหนึ่งที่จะรู้การเคลื่อนไหวของเธอตลอด ในตอนแรกมิเอเล่เพียงแค่คิดเล่นๆและเสนอพ่อแม่ไปแบบไม่คิดว่าคำตอบของพวกท่านจะทำร้ายจิตใจเธอเสมอมา 'เป็นความคิดที่ดี ลูกอยากให้แยกออกจากครอบครัวแบบไหนละ' เธอได้แต่อึ้งกับคำตอบของทั้งสอง เธอตอบอย่างรวดเร็วทันที 'เอาเป็นการแหกกฎข้อสำคัญของการเป็นขุนนางก็ได้ค่ะ จะได้ดูสมจริงดี' เธอรู้ดีว่าขอลงโทษของการแหกกฎแบบนั้นคือ การถูกขับไล่ออกจากวงศ์ตระกูล แต่เธอก็ยังเสนอไปด้วยความเจ็บปวด
คืนนั้นเธอร้องไห้อยู่ในห้องของตนที่จะได้อยู่เป็นคืนสุดท้าย ขณะที่เธอนั่งร้องไห้อยู่ก็มีคนเดินเข้ามา นั่นคือพี่สาวเธอนั่นเอง ทั้งที่พ่อกับแม่ออกคำสั่งว่าห้ามใครพบมิเอเล่ แต่พี่สาวของเธอเดินตรงมาปลอบเธอ 'เธออย่าไปเลยนะ มิเอเล่ ไปบอกท่านพ่อท่านแม่ตอนนี้ยังทันนะ' มิเอเล่ได้แต่ยิ้มแห้งให้พี่สาว 'หนูจะบ้าบิ่นให้ถึงที่สุดค่ะอย่างที่พี่เคยบอกไงค่ะ..แถมมันก็ดีกับพี่ด้วย พี่อย่าห้ามหนูเลย' การที่เธอออกจากตระกูลจะทำให้พี่สาวเธอได้รับการเลี้ยงดูที่มากขึ้น 'พี่ห้ามเธอไม่ได้จริงๆสินะ พี่จะส่งเงินไปให้ ส่งที่อยู่มาให้พี่ด้วยละ เดี๋ยวทุกอย่างจะต้องดีแน่...พี่สัญญา'
มิเอเล่มีความสุขดีขึ้นจริง เธอเปลี่ยนนามสกุล เธอมีบ้านใหม่ที่เล็กแต่อบอุ่นอยู่ในอพาทเม้นต์ เธอสนุกในการทำงานทั้งงานนักข่าวหนังสือพิมพ์และสายลับ เธอตัดขาดออกจากครอบครัวเรียบร้อย ถึงแผลใจของเธอจะยังไม่หายดีก็ตาม เธอติดต่อพี่บางครั้ง พี่สาวของเธอได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี แต่กลับมีโรคป่วยกำเริบขึ้น ไม่กี่ปีต่อมาพี่สาวของเธออาการหนักมากขึ้น มิเอเล่มีโอกาสไปคุยกับพี่สาวเป็นครั้งสุดท้าย เธอร้องไห้เป็นครั้งแรกหลังจากคืนนั้นมา 'อย่าร้องสิ..พี่บอกแล้วว่า...ทุกอย่างจะดีขึ้นแน่..มิเอเล่....' นั่นเป็นคำพูดสุดท้ายของพี่สาวเธอ มิเอเล่หนีออกมาจากห้องนั้นทันที ไม่มีใครรู้ว่าเธอมา แผลใจที่พี่สาวเธอพยายามเติมเต็มกลับเปิดออกมาอีกครั้ง......ผ่านไปหลายปีที่ มิเอเล่ วิโอล่าทำใจได้แผลสมานตัวอย่างรวดเร็ว แต่มันยังพร้อมจะเปิดอีกเสมอ....เมื่อถึงเวลา
F o u r t h
เพิ่มเติม : มิเอเล่พกกระเป๋าสะพายหนังสีน้ำตาลใบน้อย(?)ไปไหนมาไหนด้วยเสมอ ภายในกระเป๋าใบน้อย(?)จะใส่สมุดวาดรูป สมุดจดข่าว สมุดจดสายลับ ปากกา ถุงหิ้วสีฟ้า กระเป๋าเงิน น้ำผึ้งและน้ำดื่ม ชื่อ-นามสกุลเก่าคือ มิเอเล่ บลัดดี้ (Miele Bloody) ความหมายคือ น้ำผึ้งสีเลือด
อาวุธ : ปืนสั้นสองกระบอกที่สลักตัวย่อ MB ไว้ที่ด้านข้างกระบอก เธอจะใช้ปืนทั้งสองกระบอกพร้อมกัน ความสามารถในการยิงปืนของหญิงสาวถือว่าเป็นอันดับต้นๆของประเทศ เธอมักจะเก็บไว้ในถุงหิ้วสีฟ้าที่อยู่ในกระเป๋าสะพายอีกที
โค้ดเนม : Bitter Honey น้ำผึ้งที่มีรสหวานน่าลิ้มลอง แต่ถ้าคุณกล้าลิ้มลองน้ำผึ้งหยดนี้....คุณคิดผิดมหันต์ เพราะคุณจะได้รับแต่ความขมขืนกลับมา
F I f t h
(ออริคุณได้รับจดหมายนัดสถานที่สัมภาษณ์โดยการให้เดาใจว่าผู้สัมภาษณ์จะไปปรากฏตัวที่ใด ซึ่งวันสัมภาษณ์เป็นวันที่ฝนตกอย่างเหนือความคาดหมายของใครหลายคน และเมื่อออริคุณกลับมาก็พบกับผู้สัมภาษณ์ตัวดีนั่งสลอนอยู่ในห้องตน)
เสียงหยาดฝนกระทบกับบานหน้าต่างดังแว่วมาอย่างไม่ขาดสาย หญิงสาวที่นั่งอ่านหนังสืออยู่กลางห้องเงยหน้าขึ้นมามองสายฝนที่ตกโปรยปรายอยู่ด้านนอกเล็กน้อยก่อนจะหันไปดูนาฬิกาติดผนังราวกับว่ากำลังรอคอยใครบางคนอยู่... และในวินาทีนั้นเอง เสียงเปิดประตูก็ดังขึ้น หญิงสาวภายในห้องค่อยๆคลี่ยิ้มหวานก่อนจะเอ่ยขึ้น “โอ้...ยินดีต้อนรับกลับค่ะ คุณบลัดดี้ ปล่อยให้แขกรอเก้อแบบนี้เป็นมารยาทที่ไม่เหมาะสมเอาเสียเลยนะคะ” ว่าจบหญิงสาวก็มองพินิจพิเคราะห์ร่างเบื้องหน้า
"จะโทษฉันก็ไม่ได้ ในเมื่อคุณไม่ได้บอกสถานที่ไว้" หญิงสาวบ่นพลางบีบน้ำออกจากเสื้อที่เปียกปอน เมื่อเช้าเธอรีบร้อนวิ่งออกจากห้องโดยที่ไม่ได้ดูข่าวว่าวันนี้ฝนจะตกหนัก เธอถอดรองเท้าผ้าใบคู่เก่งก่อนจะเดินมานั่งกอดอกพร้อมกับบ่นเบาๆ "คุณปล่อยให้ฉันวิ่งไปทั่วเมือง ในขณะที่คุณนั่งอ่านหนังสือเนี่ยนะ"
“งั้นเพื่อไม่ให้เสียเวลาไปมากกว่านี้ ดิฉันขอเริ่มเลยนะคะ” หญิงสาวว่าพลางปิดหนังสือในมือลงแล้วนำมันกลับเข้าที่ดังเดิมก่อนจะกลับมานั่งเผชิญหน้ากับมิเอเล่ “ดิฉันชื่อ เฟลอร์ ค่ะ คราวนี้ขอให้คุณบลัดดี้ลองแนะนำตัวในแบบที่เป็นตัวของตัวเองดูหน่อยสิคะ ถึงฉันจะมีข้อมูลของคุณอย่างละเอียดแล้วก็เถอะ”
"กรุณาอย่าเรียกฉันด้วยนามสกุลเก่า...แหม รู้ขนาดนามสกุลเก่าฉัน ฉันจะต้องพูดอะไรอีกละ" มิเอเล่ยิ้มเย็น แววตาเธอวาวโรจน์ก่อนจะกลับมาเป็นแววตาแบบคนใจร้อนเช่นเดิม "ฉันชื่อ มิเอเล่ วิโอล่า มีอาชีพเป็นนักข่าวหนังสือพิมพ์ ในเมื่อคุณมีข้อมูลฉันเยอะ..ฉันก็คงไม่ต้องบอกนะว่าฉันทำอะไรอีก..."
“นี่คือตัวคุณสินะคะ...งั้นคำถามที่สอง คำถามนี้มีไว้เพื่อวิเคราะห์พวกคุณให้ลึกลงไปนอกจากที่เห็นภายนอกนะคะ” เฟลอร์กล่าวพลางเว้นช่วงไว้เล็กน้อยแล้วจึงกล่าวต่อ “ดิฉันขอถามคุณว่า...อะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับคุณคะ ?”
หญิงสาวบิดปอยผมก่อนจะมองฝนที่ตกหนักมาตั้งแต่เช้าผ่านหน้าต่าง "ก็คงเป็น....หน้าที่..มั้ง" เธอหันมายิ้มให้หญิงสาวผู้สัมภาษณ์ตัวแสบที่ทำให้เธอวิ่งไปทั่วเมือง "การวิ่งไปทั่วเมืองท่ามกลางฝนเพื่อตามหาคุณก็เป็นหน้าที่ ฉันยินดีทำม้ากมาก"
“หืม...เป็นคำตอบที่น่าสนใจทีเดียวนะคะ” เฟลอร์ยังคงยิ้มให้ผู้ถูกสัมภาษณ์ของหล่อนอย่างเป็นมิตร “ต่อไปดิฉันขอถามคุณว่า อะไรคือสิ่งที่คุณกำลังโหยหามากที่สุด... มันอาจดูคล้ายกับคำถามข้อแรก แต่สำหรับใครบางคนแล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดก็ไม่ใช่สิ่งที่คุณโหยหาที่สุด เพราะบางครั้งสิ่งที่สำคัญที่สุดก็เป็นผลต่อเนื่องจากภาระและหน้าที่ที่พึงปฏิบัติ”
"สำหรับฉันหรอ..." มิเอเล่มองฝนที่ไม่มีทีท่าจะหยุดอีกครั้ง 'กำลังตอกย้ำฉันสินะ' เธอคิดอย่างน้อยใจ "คนที่จะยืนอยู่ข้างเรา...ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ซึ่งมันไม่มีคนอย่างนั้นอยู่บนโลกนี้...ที่จะทำอย่างนั้นกับฉันอีกแล้ว" หญิงสาวสบตากับผู้สัมภาษณ์ด้วยความมั่นใจแต่นัยตาแสดงให้เห็นถึงความเจ็บปวดในอดีตที่ยังอยู่ในจิตใจของเธอเสมอมา "คุณจะถามให้หมดไส้หมดพุงเลยมั้ยเนี่ย"
“นี่คือสิ่งที่ใจคุณต้องการจริงๆถูกมั๊ยคะ...เอาเถอะ นั่นเป็นคำถามสุดท้ายแล้วละค่ะ ขอบคุณที่สละเวลามาให้นะคะ” เฟลอร์โค้งให้อีกฝ่ายน้อยๆ ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง แต่ดูเหมือนว่าเธอจะลืมอะไรบางอย่างไป เธอจึงชะงักฝีเท้าแล้วหันกลับมาหามิเอเล่ “อันนี้ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของการสัมภาษณ์หรอกนะคะ...ดิฉันแค่อยากให้คุณลองคิดดูว่า หลังจากฝนหยุดตกแล้วคุณจะได้เห็นอะไร คุณอาจจะเคยได้ยินสำนวนที่ว่า ‘ฟ้าหลังฝนย่อมงดงามเสมอ’ แต่คุณเห็นด้วยแน่รึเปล่า...ลองไปคิดดูนะคะ” หญิงสาวว่าจบแล้วหายตัวไปในทันที โดยไม่รอให้สายฝนด้านนอกหยุดตกเสียก่อน...
"อะ...ไปเร็วชะมัด ฝนตกอยู่แท้ๆ" มิเอเล่ลุกไปหยิบถ้วยชาก่อนจะเทน้ำชาจากกาข้างๆตัวใส่ถ้วย กลิ่นชามิ้นต์ทำให้จิตใจเธอสงบลงได้บ้าง เมื่อจิบชาไปได้สักพัก เธอก็ไปนั่งตรงที่เดิม "...ฟ้าหลังฝนย่อมงดงามเสมอ....หรอ" เธอคิ้วขมวดพลางเอานิ้วชี้ขึ้นมาแตะคาง "เราไม่ได้ฟังคำแบบนี้..มานานแค่ไหนแล้วนะ" เธอบิดขี้เกียจแล้วฮัมเพลงเบาๆขณะที่มือบิดปอยผม "น่าจะตั้งแต่...ตอนนั้นแล้วมั้ง"
S I x t h
สวัสดีค่ะท่านผู้ปกครองที่รักยิ่ง ก่อนอื่นขอเชิญท่านแนะนำตัวเองหน่อยค่ะ
ตอบ : ริวค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ //โค้งงามๆ
โอเคค่ะ ไม่ทราบว่าไปเจอฟิคนี้ได้ที่ไหนหรอคะ ? (อย่าตอบว่าไหดองของไรท์นะคะ 55555 5)
ตอบ : กด KHR แล้วเลื่อนมาเรื่อยๆค่ะ ว่างมากประมาณนั้น
อย่างนี้นี่เอง...(//พยักหน้าหงึกหงัก?) แล้วที่ตัดสินใจสมัครนี่...แสดงว่ายอมมอบตัวลูกสาวให้อยู่ในความดูแลของไรท์แล้วใช่มั๊ยคะ ? ไรท์อาจเปลี่ยนแปลงบางส่วน แต่ไรท์ไม่จับนางไปหักแขนหักขาแน่นอนค่ะ(?)
ตอบ : เอาไปผ่าให้มนุษย์ต่างดาวดูก็ให้ค่ะ จะเปลี่ยนยังไงก็ได้ค่ะ
ถ้าสมมติว่า...ลูกสาวไม่ติด จะรับกลับหรือให้ไรท์หาบทให้คะ ?
ตอบ : หาบทดีกว่าค่ะ แม่นางจะได้มีอะไรทำ
รับทราบเจ้าค่ะ ! มีอะไรจะมาบ่นไรท์มั๊ยคะ ? พูดได้เลยค่ะ ไม่หักคะแนนแน่นอน XD
ตอบ : ตอนนี้ยังไม่มีค่ะ..แต่ถ้าอัพช้าจะบ่นแน่ค่ะ
สุดท้ายนี้ก็ขอขอบคุณที่สละเวลามาสมัครนะคะ ขอให้โชคดีค่ะ
ตอบ : ขอบคุณเช่นกันค่ะ ขอให้อัพนิยายเร็วๆนะค่ะ //โค้งงามๆอีกที
◊ SQWEEZ
ความคิดเห็น