[kagerou project ]ถ้าผมบ้าเพราะคิโดะ..ผมก็ยอม
ผมทำคิโดะโกรธอีกแล้ว เอาจริงๆ ผมไม่อยากโดนเธอโกรธเลย ผมต้องพูดออกไปให้ได้...ความรู้สึกของผมนะ....
ผู้เข้าชมรวม
983
ผู้เข้าชมเดือนนี้
6
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
วันนี้ฝนตกหนักมาตั้งแต่เช้า อากาศหนาวเข้ามาถึงข้างในอพาร์ตเม้นเล็กๆ เสียงฝนตกหนักจากข้างนอกยังไม่สามารถกลบเสียงทะเลาะกันของวัยรุ่นที่นั่งกันอยู่ข้างในได้ “พี่ โรคจิต!!!” เสียงเด็กสาววัยรุ่นตะโกนดังไปทั่วห้อง จนทุกคนในห้องต้องหยุดทำกิจกรรมเพื่อหันมามอง “โมะโมะ อย่ากล่าวกันยังงี้สิ ชั้นไม่ได้โรคจิตขนาดนั้นนะ”เด็กหนุ่มเสื้อแจ้กเก็ตแดงตอบกลับอย่างเบื่อหน่าย ภาพที่ทุกคนเห็นตอนนี้ คือ พี่น้องวัยรุ่นสองคนกำลังทะเลาะกันอย่างเผ็ดร้อน
“ก็เห็นๆกันอยู่ ว่าพี่แอบเข้าห้องหนู แล้วยังเห็นอีกว่ากำลังเปิดตู้เสื้อผ้าหนูด้วย พี่เป็นพวกโรคจิตอยู่แล้ว ต้องแอบทำอะไรแน่ๆ” เด็กสาวผมสีส้มตะโกนลั่นห้อง
“พอๆๆๆ โมะโมะหยุดโวยวายได้แล้ว ชินทาโร่นายไปทำอะไรในห้องพวกเรากันแน่“ เสียงเย็นชาจากเด็กสาวผมสีเขียว
“ก็บอกไปแล้วว่า ชั้นไปหาเสื้อของชั้น เสื้อมันหายไป” ชินทาโร่ตอบเสียงเซ็งๆ
“ไม่เชื่อ!!!!! ทำไมไม่ไปถามหัวหน้าละว่าหายไปไหน!!” เสียงโมโมะดังขึ้นกว่าเดิม
“โมโมะ!!! ค่อยไปทะเลาะกันทีหลังได้มั้ย” คิโดะผู้ซึ่งเป็นหัวหน้าเริ่มปวดหัว
มารีกับเซโตะคงจะกลับไปดูสมุดภาพกวางต่อ ฮิบิยะคงจะหันไปอ่านการ์ตูนต่อ เอเนะคงแวบหายไปในโทรศัพท์ โคโนฮะก็คงจะกินต่อ ถ้าไม่มีเสียงหัวเราะของใครบางคน....
“คิก คิก คิก เอ๋ มองผมกันทำไมหรอ” เด็กหนุ่มผู้มีตาคล้ายแมวทำหน้าตาเหล่อหลา
คิโดะหายตัวไปด้วยพลังของเธอ แล้วกลับมาอีกครั้งพร้อมเสื้อแจ็กเก้ตสีแดงตัวหนึ่งในมือ ดูจากหน้าเย็นชาจนเกือบฆ่าคนได้ด้วยสายตาของเธอก็รู้ว่าตอนนี้เธอกำลังมีอารมณ์บูดสุดๆ เธอยื่นเสื้อให้ชินทาโร่แล้วหันมามองคาโนะ
“คาโนะ นายเป็นคนเอาไปแอบไว้ในห้องสินะ” คิโดะกำมือแน่น
“ผมไม่ได้ทำนะ จริ-” บทสนทนาและคดีก็จบทันทีด้วยหนึ่งหมั
Kano’s side
-ผ่านไป 1 ชม.-
ฝนเริ่มหยุดตก อีกเดี๋ยวอากาศก็คงจะสดใส บรรยากาศเริ่มกลับไปเป็นเหมือนเดิม มารีกับเซโตะกำลังสนุกกับการ์ดรูปสัตว์ ฮิบิยะกำลังนั่งเล่นตุ๊กตาฮิโยริ เอเนะกำลังดูโคโนฮะกินบาร์บาคิว ยกเว้นแต่ผมซึ่งตอนนี้โดนคิโดะจ้องอย่างไม่ละสายตา ถ้าเธอไม่จ้องผมด้วยสายตาพิฆาต ผมคงจะดีใจแทบตายที่คิโดะจ้องผม
”เน้ คิโดะหยุดจ้องผมได้แล้ว มันอึดอัดนะ” ผมโอดครวญ มันอึดอัดจริงๆนะ ผมไม่ชอบเลยจริงๆที่คิโดะจ้องผมแบบเป็นตัวปัญหา ทำให้เธอปวดหัวตลอด ซึ่งมันไม่จริงเลย (?)
ผลก็คือ คิโดะหยุดจ้องผมแล้ว แต่แผ่รังสีตึงเครียดให้แทนจนผมเสียวสันหลัง ฮิบิยะกับเซโตะส่งสายตาบอกผมประมาณ ‘ทำให้คิโดะหยุดแผ่รังสีเดี๋ยวนี้’ มันยากนะจะบอกให้ เฮ้อ ช่วยไม่ได้
“คิโดะ เราไปเดินเล่นกันมั้ย ฝนหยุดตกแล้ว” ผมใช้พลังของผมให้มีใบหน้ายิ้มแย้ม
“ทำไมชั้นต้องไปเดินเล่นกับคนหลอกลวงที่ชอบสร้างปัญหา เล่นไม่เข้าเรื่อง ทำให้ชั้นปวดหัวจะเป็นไมเกรนอย่างนายด้วย” คิโดะตอบผมกลับอย่างไม่ใยดีหัวใจของผม
.....เจ็บชะมัด บอกสรรพคุณข้อเสียมาหมดเลย ปกติคงจะล้อคิโดะว่าคิโดะสนใจผมขนาดนั้น แต่ตอนนี้ผมล้อไม่ออกแล้วสิ.....ยังไงผมก็ต้องทำให้เธอหายโมโหก่อน ผมไม่อยากโดนคิโดะเกลียดจริงๆนะ
“เอาน่า ไปเดินเล่นกัน จะได้สงบอารมณ์หน่อย” ผมอยากไปเดินกับเธอจริงๆนะ แต่ก็ได้แค่เก็บไว้...
“ก็ได้ ไปก็ไป แต่ต้องกลับมาเร็วๆนะ ชั้นต้องทำมื้อเย็น” หัวใจผมชื้นขึ้นมานิดๆอย่างน้อยคิโดะก็ยอมไปเดินกับผม
ตอนนี้ผมกับคืโดะกำลังเดินกันอยู่ข้างถนน พระอาทิตย์ใกล้ตกดิน ท้องฟ้าเป็นสีส้มแดง อากาศค่อนข้างชื้น หนาวนิดหน่อย มีหยดน้ำติดตามใบไม้ข้างทาง คิโดะมองไปตามร้านข้างทางที่เปิดไฟสีส้มบ้างขาวบ้าง ท่าทางของคิโดะน่ารักจริงๆ...นี้ ผมเป็นไรเนี่ย หยุดๆๆๆ....
“นี้....หยุดมองชั้นได้แล้ว...มันแปลกๆไงไม่รู้ เดี๋ยวนายเป็นอะไรหรือปล่าวเห็นเหม่อบ่อยๆ” สงสัยผมจะมองเธอนานไปหน่อย คิโดะจับได้เลย ผมค่อนข้างเขินนะพอเธอจับได้ว่าเดี๋ยวชอบเหม่อเวลาเจอคิโดะบ่อยๆ ผมรีบใส่หน้ากากเพื่อบังหน้าของผมตอนนี้ที่อาจจะมีสีแดงเต็มแก้มแน่ๆ
“ผมก็แค่มองร้านข้างทางเฉยๆ พึ่งมามองคิโดะเมื่อกี้เอง คิโดะคิดไปเองหรือป่าว ส่วนเรื่องเหม่อ...ผมไม่เป็นไรหรอก” โกหกเต็มคำเสร็จ ผมก็หันไปมองทางอื่นแล้วเดินนำหน้าคิโดะไปทันที...ไม่เป็นไรได้ไง ใจเต้นรัวจนแทบวาย พอรู้ว่าคิโดะเป็นห่วงผม จับได้จากเสียงของคิโดะเลย
......เงียบผิดปกติ....ผมหันไปมองหน้าคิโดะเพื่อให้แน่ใจว่าเธอไม่ได้เป็นลมหรือโดนลักพาตัวไป ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เลย และสิ่งที่ผมเห็นทำให้ผมหายใจสะดุด
“หยุดโกหกได้แล้ว ไม่โกหกไม่ล้อเล่นชั้นสักเรื่องได้มั้ย ชั้นเป็นห่วงนะ ตาบ้า” เสียงทุ้มๆ แต่เต็มไปด้วยห่วงใย ผมคิดว่ามันน่าฟังมาก แค่นี้คงไม่ทำให้หัวใจผมเต้นรัวเท่าภาพที่เห็น เส้นผมสีเขียวของคิโดะปลิวตามลม ฮู้ดที่คิโดะคลุมหัวตกมาที่ไหล่ตามลมพัด ทำให้เห็นใบหน้าสวยและดวงตาที่ปริ่มน้ำของเธอ ท้องฟ้าสีส้มอมแดงทำให้คิโดะดูน่าหลงใหลมากขึ้น....อ้ากก อยากจะบ้าตาย...
แต่ผมหลงใหลภาพตรงไปได้ไม่นานก็โดนหมัดมหาประลัยของคิโดะทะลวงเข้ากลางท้อง โธ่ คิโดะ...ทำหน้าตาสวยๆนั้นให้น่ากลัวทำไมก็ไม่รู้.......แต่ผมก็ยังชอบเธอยู่ดี เพราะนั่นเป็นเสน่ห์ของคิโดะไง.....
“เหม่ออีกแล้ว ตาบ้า เดินไปเลย เร็วๆ จะได้รีบกลับ” คิโดะเดินนำผมไปแล้ว ผมรีบเดินตามหลังคิโดะ
ตอนนี้เราเดินผ่านต้นซากุระที่มีดอกสีชมพูเต็มต้น ลมช่วยพัดเอากลีบดอกไม้โรยไปทั่วถนน ท้องฟ้าเริ่มเป็นสีม่วงอมแดง คนตามซอยที่เดินกันอยู่ก็น้อย แหม เงียบจัง.......บรรยากาศตอนนี้มัน.....เป็นใจต่อการจะสารภาพอะไรสักอย่างจริงๆ คิโดะรีบเดินเร็วขึ้นเพื่อกลับไปทำข้าวเย็น ตอนนี้แม้แต่ธรรมชาติก็เป็นใจให้ผม (?) ผมต้องรีบใช้โอกาสนี้แล้ว!!!
“นี้ คิโดะ ผมอะไรจะบอก ฟังผมก่อนได้มั้ย” ผมจับแขนคิโดะให้หันหน้ามาทางผม เธอทำหน้างงแล้วพยักหน้า
...ถึงเวลาแล้วสินะ ผมต้องพูดออกไปให้ได้ ความรู้สึกของผมที่ไม่โกหก!!!!
“คิโดะ อยากให้ผมไม่พูดโกหกสักเรื่องใช่มั้ย ผมนะ......” ผมมองหน้าคิโดะ เธอดูน่ามองมากในตอนนี้
“ผมนะ......” พูดสิ ไอ้บ้าคาโนะ โกหกสารพัดพูดได้ พูดเรื่องแค่นี้ก็ต้องพูดได้สิ
“ผมนะ...ชอบ...” พูดสักทีสิ โว้ยยย
“ผมนะ...ชอบกินข้าวแกงกะหรี่ของคิโดะมากเลย!!! ทำให้ผมกินได้มั้ย” ผมมันบ้า เฮ้อ...
“ชั้นรู้อยู่แล้ว วันนี้ก็จะทำแกงกะหรี่อยู่แล้ว” คิโดะทำหน้าแปลกๆนิดหน่อย แล้วรีบเดินต่อไป
Kido’ side
ช่วงนี้คาโนะเหม่อบ่อย เป็นอะรไหรือปล่าวก็ไม่รู้ ชั้นเป็นห่วงนายนะ ตาบ้า ตอนที่ถามนายว่าเป็นอะไรหรือปล่าว เห็นนายโกหกอีกแล้ว ก็รู้สึกว่าขอบตาเปียกๆ...ทำไมต้องปิดบังด้วยละ....พอรู้ตัวอีกทีก็พูดอะไรน่าอายออกไปแล้ว แก้มเริ่มร้อน เลยใช้วิธีเดิมๆ คือ การต่อยไปให้จบเรื่อง....คิดอยู่เพลินๆ คาโนะก็มาดึงเสื้อชั้น
“นี้ คิโดะ ผมอะไรจะบอก ฟังผมก่อนได้มั้ย” ชั้นก็งงเหมือนกันที่อยู่ดีๆ คาโนะมาดึงแขนชั้น แล้วยังทำหน้าเครียดๆอีก แต่ก็ได้แค่พยักหน้ารอให้นายพูด
“คิโดะ อยากให้ผมไม่พูดโกหกสักเรื่องใช่มั้ย ผมนะ......” ไม่รู้ทำไมหัวใจมันเต้นแรงอย่างนี้
“ผมนะ......” เต้นแรงขึ้นเรื่อยๆแล้วสิ ไม่มีอะไรให้น่าตื่นเต้นซะหน่อย แค่รุ้สึกว่าตอนนี้มันเหมือนโดนสารภาพรักเลย…ไม่จริงหรอก
“ผมนะ...ชอบ...” จะเต้นแรงเพื่อ!!! เขาไม่ได้มาสารภาพอะไรสำคัญๆอย่างที่คิดซะหน่อย
“ผมนะ...ชอบกินข้าวแกงกะหรี่ของคิโดะมากเลย!!! ทำให้ผมกินได้มั้ย” อึก…รุ้สึกเหมือนอะไรแตกๆไงไม่รู้สิ ตาบ้านี้ทำเอาใจเต้นหมด
“ชั้นรู้อยู่แล้ว วันนี้ก็จะทำแกงกะหรี่อยู่แล้ว” ก็กะว่าจะทำอยู่แล้วละ ก็คาโนะชอบแกงกะหรี่นิ รีบกลับไปทำดีกว่า
“นี้ คิโดะ ขอบคุณที่มาเดินเล่นกับผ ผมสนุกมากเลยนะ” ตาบ้านั้นยิ้มให้ชั้น...ยิ้มแบบที่ไม่ได้เห็นมานาน...ยิ้มที่มีแต่ความจริงใจ ชั้นไม่รู้หรอกว่ามีปฏิกริยาอะไร รู้แต่ว่าชั้นดีใจจนรีบเดินกลับบ้านทำแกงกะหรี่ให้ตาบ้านี้กิน
Kano’ side
ในที่สุดผมก็พูดออกไปได้ แค่นั้นก้พอละมั้ง แต่สิ่งผมไม่คิดว่าคิโดะจะทำ ก็คือ คิโดะยิ้มให้ผม ยิ้มแบบนางฟ้ามาโปรด ผมไม่ได้มั่วนะ มันเป็ยอย่างนั้นจริงๆ ผมแสบตา..... คิโดะวิ่งไปแล้วพร้อมมาดขรึมเหมือนเดิม แต่ผมยังเห็นภาพคิโดะของผมยิ้มอยู่ดี...ผมนี้มันบ้าหลงผู้หญิงจริงๆ แต่ถ้าบ้าเพราะคิโดะ ผมก็ยอม....ช่างเถอะ เอาเป็นว่าวันนี้เป็นอีกวันที่ผมจะไม่ลืมเลยละ..............
------------------------
ขอบคุณค่ะ ฝากเม้นด้วยนะค่ะ
ผลงานอื่นๆ ของ PokeRyu ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ PokeRyu
ความคิดเห็น