คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : [SF] Break (Jisoo & Jiae) EP.4
EP.4
Ice Breaking = ทะลายกำแพง
เรื่องน่ายินดีในรอบหลายเดือนนี้คือ จีซูได้งานออกไปถ่ายรูปซักทีหลังจากนอนซังกะตายอยู่นาน เป็นงานฉุกละหุกเล็กน้อยที่เธอเพิ่งได้รับตอนกลางคืนวันก่อนถ่าย และต้องออกไปถ่ายตั้งแต่เช้ามืดวันต่อมา ได้กลับบ้านอีกทีก็เช้ามืดของวันต่อ ๆ มาอีกที เรียกได้ว่า เกือบ 24 ชั่วโมง แต่ก็งานดีเงินดีเชียวล่ะ ...
แต่เรื่องไม่น่ายินดีคือ เธอก็กำลังนอนซมเป็นผัก นอกจากเงินค่าจ้างจะยังไม่ได้และต้องรออีกหลายวัน เธอยังต้องมาน๊อคมาจากการทำงานนอนสต๊อปอีก
จีซูฝืนตาที่หนักอึ้งลืมขึ้นมองนาฬิกาก็พบว่าบ่ายโมงกว่าแล้ว เธอยังนอนอยู่บนเตียงด้วยชุดนอนเปื่อย ๆ ที่เธอพอมีแรงเปลี่ยนก่อนล้มตัวลงนอน และยังไม่มีวี่แววว่าจะมีแรงลุกไปหาข้าวหรือยากินได้อีกตอนไหน นุนอีย่องขึ้นเตียงมายกอุ้งเท้าสะกิด ๆ เจ้าของของมันเพื่อที่จะพิสูจน์ว่าเธอยังไม่ตายแล้วร้องเมี้ยว ๆ อีกสองสามครั้งก่อนจะเดินออกไป
จีซูไม่มีแรงแม้แต่จะยกเปลือกตาขึ้นดูว่าแมวของเธอไปทำอะไรต่อ เธอผล็อยหลับไปอีกรอบด้วยความอ่อนเพลียและพิษไข้…
.
.
.
“ตายจริง ตัวร้อนจี๋เลย…”
สัมผัสเย็นเยียบที่แตะเข้าที่หน้าผากทำให้จีซูรู้สึกตัวขึ้นมา แวบแรกเธอเผลอนึกไปถึงนุนอี แต่พอนึกขึ้นได้ว่าเจ้าแมวนั่นพูดไม่ได้แน่ ๆ ถึงรีบลืมตาขึ้นมาดูอย่างรวดเร็ว
“ฮ...เฮ้ย! คุณ ทำไมเข้ามาได้อีกแล้วอะ”
ผู้บุกรุกเจ้าเก่าเจ้าเดิมนั่นเอง…
จีเอยังคงใช้หลังมือแตะตามหน้าและคอของคนที่นอนอยู่ด้วยสีหน้ากังวล “ก็คุณไม่ล็อคบ้านอีกแล้วน่ะสิคะ คนอะไร ทำไมขี้ลืมขนาดนี้ก็ไม่รู้…”
“คุณก็เลยเข้ามาหน้าตาเฉยเนี่ยนะ”
“ถ้าฉันไม่เข้ามา คุณนั่นแหละจะแย่… ฉันไปหาผ้ามาเช็ดตัวคุณก่อนดีกว่า”
“ด… เดี๋ยว คุณ ไม่ต้อง”
เสียงคนป่วยรั้งไว้ก็ไม่ทันเสียแล้ว จีเอไปจัดแจงค้นหากะละมังใบเล็กกับผ้าชุบน้ำมาจนได้ เธอถืออุปกรณ์มาวางลงข้างเตียง ยกแขนคนป่วยขึ้นแล้วจัดการเช็ดมาจากต้นแขน จีซูไม่มีแรงขัดขืนนอกจากส่งเสียงร้องประท้วงว่าเจ็บ แต่ก็ไม่ทำให้จีเอหยุดทำได้
“เช็ดเบา ๆ หน่อยไม่ได้เหรอ”
“เช็ดแรง ๆ นี่แหละมันถึงจะหายเร็วค่ะ… ขนาดป่วยยังบ่นเก่งได้เหมือนเดิมเลยนะ”
จีซูถอนหายใจฮึดฮัดไม่เถียงด้วย จีเอก็เช็ดตัวให้คนป่วยต่อเงียบ ๆ ไม่มีเสียงสนทนาใด ๆ ดังขึ้นมาอีก แม้แต่นุนอียังนอนมองมาเงียบ ๆ ไม่ส่งเสียงร้องเมี้ยว ๆ ด้วยเช่นกัน เมื่อจีเอเช็ดตัวเสร็จ เธอก็ขอเจ้าของบ้านใช้ครัว ตัวเจ้าของบ้านยังไม่ทันอนุญาต อีกฝ่ายก็เดินตัวปลิวออกจากห้องนอนของเธอไปแล้ว จีซูนอนพักสายตาอย่างหมดอารมณ์
สิบห้านาทีต่อมา จีเอก็กลับมานั่งลงที่ข้างเตียงพร้อมกับถ้วยใบหนึ่ง แก้วน้ำและยาหนึ่งแผง จีซูนึกสงสัยว่าจีเอจะทำอะไรมาให้เธอได้ในเมื่อในครัวของเธอมีแต่รามยอนกับไข่ไก่อีกไม่กี่ฟอง จีเอก็บ่นขึ้นมาทันทีเหมือนรู้ความคิด “ในครัวคุณไม่มีอะไรเลย แม้แต่ข้าว ฉันก็เลยทำมาได้แค่ซุปไข่นี่แหละ…”
เจ้าของบ้านเหลือบมองในชามที มองหน้าคนทำที แบบทึ่ง ๆ “ทำได้ไงเนี่ย…”
“ทานเถอะค่ะ แล้วจะได้ทานยา หรือจะให้ฉันป้อนคะ”
“ม..ไม่เป็นไร กินเองได้ ๆ”
จีซูยกช้อนขึ้นซดน้ำซุปใส ฝีมือทำอาหารของจีเอดีกว่าทักษะการขับรถแบบคนละขั้ว เธอยกช้อนขึ้นซดอีกหลายคำ แต่ประโยคต่อมาของจีเอเกือบทำน้ำซุปในช้อนจีซูแทบพุ่ง
“ช่วงนี้คุณช็อตใช่ไหมคะ”
“ท...ทำไมคิดงั้น” คนถูกถามละล่ำละลักถามกลับพลางใช้หลังมือเช็ดน้ำซุปที่เปื้อนไหลลงมาจากมุมปาก
“ก็คุณมีแต่รามยอน”
“ฉัน… ก็แค่ไม่ชอบทำกับข้าวเองต่างหาก งานฉันยุ่ง ไม่มีเวลาทำหรอก”
“ถ้าไม่มีเวลา แล้วก็ไม่ชอบทำกับข้าวเอง ก็ต้องมีถุงที่ซื้อจากร้านเยอะแยะแล้ว แต่นี่คุณไม่มีอะไรเลย ฉันเดาว่าคุณไม่ได้ยุ่ง แต่คุณไม่มีเงินต่างหากล่ะ…”
ยัยนี่นี่!… แทงใจดำชะมัด
จีเอวิเคราะห์ต่อ “แล้วก็... ลักษณะงานของคุณน่าจะเป็นงานที่ไม่ได้ต้องทำบ่อย ๆ เลยมีเวลาอยู่บ้าน แล้วช่วงนี้ก็คงเป็นช่วงที่ไม่มีงานเข้ามา รายได้เลยอาจจะขาดตอนไป ใช่ไหมคะ ฉันขอถามหน่อยได้ไหมคะว่าคุณทำงานอะไร”
“แล้วคุณอะ เป็นนักสืบรึไง” จีซูย้อนกลับ
“ไม่หรอกค่ะ…” จีเอตอบยิ้ม ๆ “แต่ถ้ามีอะไรที่จะทำแล้วได้เงิน ฉันก็คงจะทำเป็นอาชีพเสริมนะคะ คงจะช่วยได้เยอะน่าดูเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง… ตอนที่ฉันช็อตอะค่ะ”
จีซูมองค้อนนิดนึงก่อนจะตอบกลับ “ถึงฉันจะช็อตหรือไม่ช็อตก็ไม่สอนคุณขับรถอยู่ดีแหละ ไม่ต้องมากล่อมเลย”
“ใจร้ายจัง คนอุตส่าห์มาดูแลอย่างดี…” คนถูกว่าแกล้งทำปากยื่น “คุณนี่ใจแข็งจังเลยนะคะ”
“ทำดีหวังผลนี่นา”
“ก็ใช่น่ะสิคะ ฉันเลยมาตื๊อคุณทุกวันเนี่ย...” จีเอพูดกลั้วหัวเราะ เธอลุกขึ้นจากเตียงของจีซูไปคว้ากระเป๋าสะพายใบเล็กของเธอเองขึ้นมา นุนอีที่นอนอยู่บนเตียงรีบกระโดดตามไปพันแข้งพันขา เหมือนรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังจะกลับแล้ว จีเอนั่งลงลูบหัวเจ้าแมวสีขาวเบา ๆ
“แต่วันนี้คงไม่ใช่วันที่เหมาะที่จะมาตื๊อมามี้ของนุนอีแล้วล่ะ… คุณก็ทานยาแล้วพักผ่อนเยอะ ๆ นะคะ ฉันขอตัวกลับก่อนดีกว่า…”
“กลับไงอะ”
“ขับรถสิคะ”
“นี่คุณยังกล้าขับรถไปไหนมาไหนอยู่อีกเหรอเนี่ย” คนป่วยได้ยินคำตอบก็ชะโงกหน้าออกไปทางหน้าต่าง ฮุนไดสีแดงของแขกที่ไม่ได้เชิญจอดเอียงกะเท่เร่ ไม่พัฒนาฝีมืออยู่เช่นเดิม “มันอันตรายมากนะ คุณไปฝึกแล้วก็สอบใบขับขี่ให้ได้ก่อนเถอะ”
“ก็ฉันจำเป็นต้องใช้รถนี่คะ หรือ… ถ้าคุณเป็นห่วงฉัน คุณก็มาสอนฉันสิ ดีไหมละคะ หื้ม…”
หญิงสาวยักคิ้ว แล้วยิ้มตาหยีน่ารักจนจีซูต้องเบือนหน้าหนี ปฏิเสธกลบเกลื่อนอาการ “ฉันเป็นห่วงว่าคนอื่นจะเดือดร้อนเพราะคุณต่างหาก ถ้าจำเป็นต้องใช้ก็หาคนอื่นมาขับให้แทน ไม่ก็นั่งแท็กซี่ไปเถอะ”
“โอเค ๆ รับทราบค่ะ… งั้นฉันกลับก่อนนะคะ ไว้จะมาหาคุณกับนุนอีใหม่”
“มาทำไมอีกกกกกกก”
“ก็จะมาจนกว่าคุณจะรับสอนฉันนั่นแหละ… ไปก่อนนะคะ”
จีเอโค้งให้คนป่วยที่นอนอยู่บนเตียง แล้วเดินหันออกจากห้องนอนของอีกฝ่ายมา
นุนอีเดินตามด้วยคล้ายว่าจะมาทำหน้าที่ส่งแขกกลับบ้านให้เรียบร้อย เธออดทึ่งไม่ได้ในความแสนรู้ของเจ้าแมวสีขาวราวกับหิมะเหมือนกับชื่อของมันตัวนี้
นุนอีส่งเสียงเมี้ยวบอกลาเมื่อเธอเดินออกมาถึงหน้าบ้าน เธอบอกลามันอีกครั้งก่อนจะเดินมาที่รถ ก้มหน้าก้มตาควานหากุญแจในกระเป๋าสะพายใบเล็กของตัวเองที่รกอย่างแทบไม่น่าเชื่อ “อยู่ไหนนะ…”
“คุณ!”
เสียงของคนป่วยที่เมื่อครู่นี้นอนซมอยู่บนเตียง ดังขึ้นอยู่ใกล้ ๆ เธอ เมื่อเงยหน้าขึ้นจากกระเป๋าก็เห็นว่าจีซูยืนพิงประตูรั้วบ้าน ยื่นกุญแจมีตุ๊กตามูมินห้อยอยู่ที่เธอเที่ยวควานหาในกระเป๋าตัวเองอยู่เป็นนาทีมาให้
“ว่าฉันขี้ลืมไม่ได้แล้วนะ”
“ขอบคุณนะคะ...”
“อืม ขอบคุณคุณด้วยเหมือนกันนะ”
เสียงแข็ง ๆ ที่ขัดกับคำพูดอ่อนโยนที่ไม่ได้คิดว่าจะมาได้ยินนั้นทำเอาใจจีเอเต้นไม่ลงจังหวะ จีเอยิ้มกว้างขณะที่ยื่นมือไปรับกุญแจจากมืออีกฝ่าย
“เปลี่ยนจากคำขอบคุณ เป็นสอนขับรถดีไหมคะ”
“ไม่อะ”
“โธ่ ตอบไม่คิดเลยอะ”
คนตัวเล็กกว่ายู่ปากเมื่อได้ยินคำตอบที่ไม่สมหวังอีกครั้ง เธอหัวเราะเบา ๆ และรู้สึกใจชื้นขึ้นมาอีกเล็กน้อยที่เห็นว่าจีซูเองก็ยิ้มเล็ก ๆ เหมือนกัน
“งั้นฉันไปแล้วนะคะ…”
“อ้อ เดี๋ยวก่อน”
จีเอกำลังจะยกมือขึ้นบอกลาเจ้าของบ้านและแมวตัวน้อยอีกครั้ง แต่จีซูก็ยื่นมืออีกข้างที่เอาไพล่หลังไว้ตลอดออกมา… โทรศัพท์มือถือของจีซูที่กดเข้าไว้ที่เมนูโทรออกถูกยื่นมาตรงหน้าเธอ
“เซฟเบอร์คุณไว้ให้หน่อยสิ นุนอีดันเอาถุงใบนั้นไปฉีกเล่นซะสนุกเลย”
โทรศัพท์เครื่องนั้นถูกยัดใส่มือของจีเอ เธอกดเบอร์ของตัวเองลงไปด้วยนิ้วมือเล็ก ๆ ที่สั่นเทา
จีเอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าการกดโทรออกเบอร์ตัวเองจะทำให้หัวใจเต้นแรงขนาดนี้ได้…
-----
Jiae: ทานยาแล้วรึยังคะ
Jiae: ดีขึ้นบ้างไหม
Js: กินแล้ว
Js: โอเคแล้วล่ะ
Jiae: พรุ่งนี้จะแวะไปหาตอนเย็น ๆ นะคะ
Jiae: อยากทานอะไรไหม ^^
Js: คุณนี่ไม่มีการมีงานต้องทำรึไง
Jiae: ก็มีค่ะ
Jiae: แต่เป็นห่วง
Jiae: อยากเจอ
Jiae: ต้องมีเหตุผลอื่นอีกไหมคะ
Jiae: …
Jiae: หลับแล้วแน่เลย
Jiae: งั้นพักผ่อนเยอะ ๆ นะคะ
Jiae: กู๊ดไนท์ค่ะ
จีซูไม่ได้ตอบอะไรกลับไปในช่องแชทนั้นมาชั่วโมงกว่า ๆ แล้ว จนจีเอคิดว่าเธอหลับไป ซึ่งอันที่จริงแล้วเธอห่างไกลจากคำว่าง่วงอย่างสิ้นเชิงในเวลาตีหนึ่งกว่า และกำลังนอนกุมมือถือไว้ที่อกด้วยอาการใจสั่นแปลก ๆ
หลังจากจีเอกลับไปได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ข้อความแจ้งเตือนจากแอพลิเคชั่นแชทสุดฮิตก็เตือนขึ้นว่ามีผู้เพิ่มเธอเป็นเพื่อนจากเบอร์มือถือ และไม่รอให้จีซูต้องสงสัยนานว่าเป็นใคร คน ๆ นั้นก็ส่งข้อความเข้ามาในแทบจะทันที
แต่จีซูไม่ได้ตอบไปทันทีเหมือนเช่นอีกฝ่าย เธอปล่อยเวลาทิ้งไปเป็นชั่วโมงกว่าจะตอบ ทั้ง ๆ ที่เธอเองก็ได้อ่านข้อความอยู่ตอนนั้นนั่นแหละ
ถ้าตอบเร็วมันเสียฟอร์มน่ะสิ!
เพราะเธอกำลังรู้สึกว่าใจเธออ่อนยวบยาบอย่างบอกไม่ถูกเมื่อได้อ่านข้อความเป็นห่วงเป็นใย เหมือนกับว่าจู่ ๆ เธอก็มองว่ายัยนั่นก็น่ารักขึ้นมาซะอย่างนั้น ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ไม่กี่ชั่วโมงเธอยังรู้สึกรำคาญที่ได้เห็นฮุนไดสีแดงจอดเอียงไม่เป็นท่าอยู่เลย
จริง ๆ เธอก็ไม่ได้จะอวดตัวเองหรอกนะ ว่าก็มีคนเข้ามาชอบเธอหลายคนสมัยเรียนทั้งมัธยมและมหาวิทยาลัย แต่ส่วนใหญ่เธอก็จะเป็นคนจีบก่อนเสียมากกว่า ไอ้เรื่องโดนรุกหนักจนเขินขนาดนี้ก็เพิ่งจะมีคนนี้นี่แหละ!
จีซูยกมือถือขึ้นมา พิมพ์ ๆ ลบ ๆ อยู่หลายรอบ เธอชั่งใจว่าจะตอบอะไรดี จะตอบเลยดีไหม หรือจะตอบตอนเช้า เธอกดอ่านข้อความเค้าไปแล้ว มันคงขึ้นที่อีกฝั่งว่าเธออ่านแล้วแน่ ๆ แล้วถ้าตอบจะตอบอะไรดี…
“โอ๊ย อะไรของแกวะไอ้จีซู… กะอีแค่ ฝันดีเหมือนกัน ก็ตอบ ๆ ไปเหอะ”
Js: คุณก็เหมือนกันนะ
คนป่วยพ่นลมหายใจฟึดฟัดพึมพำว่าตัวเอง พิมพ์ตอบเสร็จก็คว่ำมือถือลงกับโต๊ะวางโคมไฟข้างเตียง และกดปิดไฟข่มตาให้หลับ ใช้วิชานับแกะที่พ่อแม่สอนกันมาจากรุ่นสู่รุ่นเป็นยานอนหลับช่วยอีกแรง…
หนึ่ง…
สอง…
สาม…
สี่...
ครืด ครืด~
ความพยายามนับแกะล้มเหลวเมื่อเสียงสั่นของมือถือรบกวนสมาธิในการข่มตาหลับของจีซู เธอพลิกตัวไปหยิบมือถือที่หน้าจอสว่างวาบ บนหน้าจอขึ้นแจ้งเตือนข้อความใหม่จากคนที่เธอคิดว่านอนไปแล้ว
Jiae: ยังไม่นอนอีกเหรอคะ พักผ่อนได้แล้วค่ะ
Jiae: ฉันหลับจนฝันถึงคุณไปรอบนึงแล้วเนี่ย
Jiae: พรุ่งนี้เจอกันนะคะ ^^
จีซูอ่านเสร็จก็ลดมือถือกุมไว้ที่หน้าอกเช่นเดิม
เธอเองก็ไม่รู้หรอกว่าจีเอทำอาชีพอะไร และว่างมากแค่ไหนถึงหาเรื่องมาเจอเธอได้ทุกวัน
แต่หยอดเก่งซะขนาดนี้ จีเอน่าจะไปขายทาโกะยากิ หรือไม่ก็ขนมครกได้รุ่งแน่ ๆ
หมดกันฉัน หวั่นไหวไปหมดแล้ว ไอ้จีซูเอ๊ย…
---to be continued---
ความคิดเห็น