ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [OS/SF] Lovelyz is all around

    ลำดับตอนที่ #11 : [SF] Break (Jisoo & Jiae) EP.6

    • อัปเดตล่าสุด 5 ก.พ. 60


    EP.6

    Break everything = ถล่มให้ราบ



    จีเอก็ไม่เข้าใจว่าทำไมอยู่ดี ๆ จีซูถึงกลายเป็นแบบนี้


    ถ้าจะพูดให้ละเอียดก็คือ ตั้งแต่วันนั้น...


    “เฮ้อ…”


    จีเอผลักเอกสารที่กองอยู่ตรงหน้าไปไว้ข้างโต๊ะ และฟุบลงกับคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์อย่างหมดแรง  ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมานี้เธอไม่มีสมาธิทำอะไรเอาเสียเลย


    ไม่ต้องพูดถึงงานบัญชีของเธอที่ต้องเช็คตัวเลขละเอียดยิบหรอก  กะอีแค่เอกสารง่าย ๆ หรืออีเมล์ที่จะตอบเจ้านายก็พิมพ์ผิด ๆ ถูก ๆ อยู่นั่นจนต้องแก้แล้วแก้อีกหลายรอบ  


    จีเอเองก็ไม่เคยเป็นแบบนี้  และเพื่อนร่วมงานหลายคนก็ยังเข้าใจดีว่าเธอไม่ได้เป็นคนอู้งาน จึงแวะเวียนเข้ามาไถ่ถามเป็นห่วงกันมากเป็นพิเศษว่าเธอมีปัญหาอะไรรบกวนจิตใจอยู่หรือเปล่า  เธอรู้ดี แต่ไม่ได้ตอบอะไรกับพวกเขาไป


    ก็มีน่ะสิ… แน่นอนที่สุด


    เสียงกริ่งประตูบ้านที่ไม่มีคนตอบรับ

    กุญแจประตูบ้านที่ล็อคแน่นหนา

    ข้อความที่ถูกกดเข้ามาอ่านแต่ไม่มีข้อความตอบกลับมา

    หลายสิบมิสคอลที่เธอฝากไว้แต่ไม่มีการโทรกลับ


    นั่นแหละ… สิ่งที่กวนใจจีเอทั้งหมด


    ทำไมอยู่ดี ๆ จีซูถึงกลายเป็นแบบนี้



    จีเอถอนหายใจยาว ๆ อีกครั้งเมื่อนึกถึงจีซู  เธอหยิบมือถือขึ้นมากดเข้าที่ชื่ออีกฝ่ายในโปรแกรมแชท  ข้อความที่เธอส่งไปอยู่ฝ่ายเดียวถูกอ่านหมดแล้ว  แต่ก็ยังไม่มีข้อความอะไรจากจีซูตอบกลับมาอยู่ดี ไม่ว่าเธอจะพยายามรีเฟรชมือถือด้วยวิธีใดก็ตาม  เธอพิมพ์ข้อความใหม่ส่งไปอีก หน้าจอในแชทมีแต่ข้อความของเธอขึ้นเรียงเป็นพรืดอยู่เต็มฝั่งด้านซ้าย


    Jiae: อย่าหายไปแบบนี้เลยนะคะ

    Jiae: ฉันอยากเจอคุณ

    Jiae: อยากคุยกับคุณ

    Jiae: ได้โปรด ตอบฉันหน่อยเถอะนะคะ


    จีเอกดล็อคมือถือและคว่ำหน้ามันไว้อย่างเหนื่อยใจ  แอบรู้สึกเห็นด้วยกับคำที่รุ่นพี่ซูจอง รุ่นพี่ที่สนิทด้วยที่สุดในแผนกเคยว่าเธอเอาไว้ว่า เธอเองชักจะ ‘เป็นเอามาก’ ไปหน่อยแล้ว



    “ไม่ไหวก็กลับบ้านไปพักไป…”


    “งือ… พี่ซูจอง~  คิดถึงจีซู...”


    รุ่นพี่ซูจองเดินมาตบไหล่คนที่กำลังฟุบอยู่  จีเอเงยหน้าขึ้นมองแล้วหันไปเกาะแขนรุ่นพี่  ซูจองลูบผมเจ้าของสีหน้างอแงที่เข้ามากอดเธอไว้


    ซูจองเป็นเพียงคนเดียวที่จีเอไว้ใจเล่าเรื่องของจีซูให้ฟัง  เธอได้ฟังตั้งแต่วันเริ่มแรกที่เจ้าของรถจอมซุ่มซ่ามไปทำกระถางต้นไม้บ้านจีซูแตก  และจีเอก็ตกหลุมรักเข้าอย่างจังกับความใจดีของเจ้าของบ้านหลังนั้นจนแวะเวียนไปหาทุกวันหลังเลิกงาน แม้ว่าจะยังขับรถไม่คล่อง หรือต้องนั่งแท็กซี่ไปทุกวันก็ตาม  จนมาถึงวันที่จีเอโดนจีซูตัดขาดการติดต่ออย่างสิ้นเชิงเมื่ออาทิตย์ก่อน ทำให้จีเอหน้างอมาทำงานทุกวันจนถึงวันนี้


    เธอยังเคยบ่นกับจีเอไปอย่างไม่จริงจังนักว่าคงจะเป็นเอามากจริง ๆ  เพราะแค่เอ่ยชื่อจีซูขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร รุ่นน้องคนนี้ก็จะเล่าด้วยสีหน้ามีความสุขและยิ้มกว้างจนตาหยี  


    ไม่เหมือนช่วงนี้ ที่พอทักเรื่องนั้นขึ้นมาแต่ละที  จีเอก็คอตกหน้าหงอย ต้องมายืมไหล่เธอซบทุกครั้งไป


    “คิดถึงก็ไปหาเค้าสิยะ  มารอเค้าตอบแชทอยู่ทำไม  เค้าคงจะตอบแกหรอกถ้าเค้าโกรธแกอยู่น่ะ”


    “ก็ฉันไม่รู้ว่าเค้าเป็นอะไรนี่  ไปหาเค้าที่บ้านเค้าก็ไม่เคยออกมาเปิดประตูให้  ทั้งที่เมื่อก่อนไม่เคยจะล็อคประตูบ้านด้วยซ้ำ  เดี๋ยวนี้ทั้งล่ามโซ่ ทั้งล็อคแม่กุญแจ ฉันกดกริ่งจนจะโดนเจ้าของร้านขนมข้าง ๆ ออกมาด่าอยู่แล้ว… ท้อแล้วเนี่ย”



    “แล้วจะยังไงอะ… จะเลิกลุยต่อแล้ว?”


    ซูจองพูดพลางเท้ามือกับโต๊ะทำงานของจีเอที่ไหลกลับไปฟุบหน้าลงกับคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์อีกรอบ  เสียงงอแงเบา ๆ เล็ดรอดผ่านท่อนแขนที่ฟุบลงนอนออกมา


    “จะลุยยังไงล่ะ  เค้าไม่เปิดโอกาสให้ฉันทำอะไรเลย”


    รุ่นพี่ยกมือขึ้นตบไหล่คนน้องเบา ๆ ด้วยความเห็นใจปนเอ็นดู  ถึงเธอจะหมั่นไส้ความดี๊ด๊าของจีเอที่ทำให้คนโสดอย่างเธออิจฉาเมื่อก่อนหน้านี้  แต่พอเห็นจีเอหงอยลงไปถนัดตาแบบนี้ก็อดสงสารไม่ได้


    ตอนนั้นเองที่ซูจองปิ๊งไอเดียอะไรบางอย่างขึ้นมา  เธอรีบเขย่าไหล่ให้คนที่กำลังฟุบอยู่เงยหน้าขึ้นมาคุยด้วย



    “ถ้าเค้าไม่เปิด แกก็พังเข้าไปเลยสิ”



    -----


    “นี่ถามจริง ๆ เหอะ รถตัวเองก็มี ทำไมต้องเอารถผมมาด้วย จะเอาไปทำอะไรกันแน่เนี่ย”


    “จะห่วงรถอะไรหนักหนาฮะ ยองแจ  นั่งเงียบ ๆ ไปเลยไป”


    “ผมไม่ได้ห่วงรถแล้ว ผมห่วงตัวเอง!  พี่กำลังขับ 140 อยู่นะโว้ย!  ขับไม่เป็นก็ขับช้า ๆ หน่อยเถอะ!”


    ชายหนุ่มนั่งตัวแข็งจับสายเซฟตี้เบลท์ไว้แน่น  รถวิ่งฉิวจนเห็นภาพข้างทางเป็นเพียงแค่เส้นเขียว ๆ ที่แวบผ่านไป  จีเอไม่มีทีท่าว่าจะฟังเสียงห้ามปรามของเขาเลย  


    ยองแจรู้สึกว่าตัวเองพลาดอย่างมหันต์ที่เขายอมให้จีเอแทรกตัวไปนั่งที่เบาะคนขับได้  ทั้ง ๆ ที่จีเอยังไม่รู้แม้แต่วิธีเปิดไฟเลี้ยวด้วยซ้ำ  เขายังนึกว่าที่จีเอมายืมรถเย็นวันนี้ เพราะจะขอให้พาไปสอนขับรถเสียอีก  แต่ที่ไหนได้  พอแม่คุณจับพวงมาลัยได้ก็เหยียบคันเร่งจนมิด  แถมยังไม่บอกว่าจะพาไปที่ไหนอีกด้วย  อีกทั้งวันนี้อารมณ์ของจีเอยังดูคุกรุ่นและเกรี้ยวกราดผิดจากปกติ  ไม่รู้ไปโกรธอะไรใครมา


    อย่างน้อยถ้าจะต้องตายวันนี้  ก็ขอให้รู้ที่ที่ตัวเองจะไปตายหน่อยเถอะ!  

    ชายหนุ่มหลับตาปี๋คิดในใจ



    “ถึงละ!”


    คนอายุมากกว่ากระแทกเบรคเสียงดังเอี๊ยด  พอค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา  ยองแจก็จับสำรวจตัวเองว่ายังอยู่ครบดีทั้ง 32 ชิ้น  มีเพียงแค่ใจที่หล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มเท่านั้น และรถมาหยุด (อย่าเรียกว่า ‘จอด’ เลย จีเอยังไม่เคยทำสิ่งนั้นได้ ที่เธอทำได้คือ เร่งไปข้างหน้า กับ หยุดอยู่กับที่ แค่นั้น) อยู่ที่หน้าบ้านหลังหนึ่งใกล้กับร้านเบเกอรี่ที่จีเอชอบมาซื้อไปทานบ่อย ๆ  ซึ่งเขาไม่รู้ว่าเจ้าของบ้านหลังนี้เป็นใคร


    จีเอกดกระจกลงและชะเง้อมองเข้าไปในบ้าน  ไม่มีทีท่าว่าจะลงไปกดกริ่ง หรือเรียกหาใครในบ้านหลังนั้น  ยองแจมองไม่เห็นสีหน้าของหญิงสาว  แต่คิดว่าเธอคงกำลังลังเลอะไรบางอย่างอยู่


    “จะมาซื้อขนม หรือจะมาหาใครที่บ้านนี้อะ”


    “อย่างหลัง”


    “บ้านใครเนี่ย”


    “ชื่อจีซู เธอไม่รู้จักหรอก”


    “แล้วทำไมไม่ลงไปกดกริ่งละ”


    “ถ้าเค้าเห็นหน้าฉัน เค้าไม่มาเปิดแน่  แค่เห็นรถฉันเค้าก็ไม่มาแล้ว  ฉันถึงต้องยืมรถเธอมาไง”


    “อ้าว… แล้วจะทำไง”


    จีเอไม่ตอบแต่กดปิดกระจกและเข้าเกียร์ถอยหลัง  ตั้งท่าจะจอดตรงที่ว่างหน้าบ้านหลังนั้น  ยองแจนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย  ไม่คิดว่ามือใหม่หัดขับรถชนิดที่ว่าไม่รู้ซ้ายรู้ขวาจะพยายามทำอะไรที่เรียกว่าการจอดรถให้ได้  จีเอเหยียบคันเร่งถอยแล้วก็หยุดไปเหมือนลังเล ยองแจสังเกตว่าอีกฝ่ายไม่ได้มองภาพด้านหลังรถที่แสดงขึ้นบนหน้าจอเลย  เขาคิดว่าจีเอคงจะดูไม่เป็นเลยยังไม่กล้า


    “ให้ผมลงไปดูข้างหลังให้แทนไหม”


    “ไม่ต้อง นั่งนี่แหละ”


    คนขับหันมาสั่งคนนั่งเบาะข้างเสียงแข็ง  เธอเปลี่ยนเกียร์เป็นเดินหน้าห่างออกไปจากประตูรั้วของบ้านนั้นพอสมควร  ถึงตรงนี้ยองแจมองด้วยสายตาสับสน  รถของเขาอยู่ในท่าที่ช่างไกลกับคำว่า ‘จอดรถ’ อย่างสิ้นเชิง  เพราะท้ายรถหันเข้าหาประตูบ้าน  นั่นทำให้ดูเหมือนว่าจีเอตั้งใจจะถอยรถเข้าบ้านไปเลยมากกว่า…


    บ้าน่า… ประตูบ้านปิดอยู่อย่างงี้จะถอยเข้าไปได้ยังไงกัน  มีแต่ต้องชนฝ่าเข้าไปเท่านั้นแหละ....


    ชนฝ่าเข้าไป…

    ชิบหายแล้ว!!!!


        “พ.. พี่จีเอ  อย่าทำแบบนั้นนะเว้ย… เฮ้ย!!!!!!!!


       


    โครม!!!!!!!



    ยองแจพยายามส่งสายตาขอร้องแต่ไม่ทันแล้ว  จีเอตัดสินใจเข้าเกียร์ถอยหลังพร้อมเหยียบคันเร่งจนมิดในวินาทีนั้น  รถฮอนด้าซีวิคสีขาวของยองแจพุ่งถอยหลังด้วยความเร็วสูงชนเข้ากับประตูรั้วไม้บ้านจีซูเข้าโครมใหญ่  เสียงดังสนั่นจนคนแถวนั้นมองมาเป็นตาเดียว


        “ทำบ้าอะไรของพี่เนี่ย!  โอ๊ยย รถกู… เฮ้ย ๆ ๆ พอแล้วพี่ ทีเดียวก็พอแล้ว!!  หยุด!!!!!


       

    โครม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!


    เพล้ง!!!!!


    แต่จีเอไม่ได้ฟังและไม่สนใจฟัง  เธอเดินหน้าอีกรอบและถอยชนซ้ำเข้าไปที่เดิม  คราวนี้ดังสนั่นกว่าครั้งแรกเพราะประตูรั้วไร้เรี่ยวแรงโงนเงนแล้วพังล้มตึงหงายหลังไป  เท่านั้นยังไม่พอ ยังล้มลงไปหล่นทับกระถางต้นไม้ที่จัดไว้ข้าง ๆ จนแตกระเนระนาด


    เสียงดังสนั่นขนาดนี้  เจ้าของบ้านก็รีบวิ่งออกมาดูทันที  หน้าตาดูตกใจกับสภาพหน้าบ้านที่ราบเป็นหน้ากลอง  และพอได้เห็นหน้าจีเอที่เปิดประตูรถลงไป  สีหน้าเปลี่ยนเป็นแดงเข้มด้วยความโกรธจัด เดินขึงขังมาเผชิญหน้ากับคนขับรถที่มีสีหน้าเคร่งเครียดไม่ต่างกัน


    “คุณนี่เอง!  เมื่อไหร่จะเลิกสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นเค้าซักทีนะ!!”


    “ที่ฉันต้องทำแบบนี้ ก็เพราะคุณนั่นแหละ!”


    “คุณจะบอกว่าฉันสมควรถูกพังประตูบ้าน เพราะตัวฉันเองงั้นสิ?!”


    “ก็ถ้าคุณยังไม่ยอมคุยกับฉันดี ๆ มันจะไม่พังแค่ประตูบ้านแน่!”


    “เธอนี่มัน…”


    “เดี๋ยว ๆ  พวกคุณครับใจเย็น ๆ กันก่อน… พี่จีเอ นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย”


    ชายหนุ่มเพียงคนเดียวในที่นั้นเห็นท่าไม่ดี ก็รีบเปิดประตูออกมาจากรถหวังจะช่วยห้ามทัพ  เขาหยุดยืนอยู่ข้างจีเอ  สายตามองฝั่งเจ้าของบ้านที ฝั่งจีเอที เพราะไม่รู้ว่าทั้งสองคนไปโกรธอะไรกันมาแต่ชาติปางไหน  ถึงแค่เห็นหน้ากันก็ขึ้นเสียงได้ขนาดนี้  โดยเฉพาะจีเอ  ที่ตลอดเวลาที่เขารู้จักผู้หญิงคนนี้มา เขาก็เพิ่งจะเคยเห็นจีเอฟิวส์ขาดก็วันนี้แหละ


    แทนที่จีเอจะเป็นคนตอบคำถามนั้น  แต่กลับเป็นเจ้าของบ้านพูดสวนยองแจขึ้นมาแทน


    “อ้าว คุณก็อยู่ด้วยเหรอเนี่ย… ดีเลย  ฉันจะบอกอะไรให้นะ  ผู้หญิงคนนี้มาสร้างความเดือดร้อนให้ฉันไม่เว้นแต่ละวัน  เพราะการขับรถโง่ ๆ แบบนี้นี่แหละ คุณควรพาผู้หญิงคนนี้ไปหัดขับรถซะ หรือไม่ก็ไม่ต้องให้เธอออกจากบ้านมาเลยก็ยิ่งดี


    อ้อ… แต่ตอนนี้ คุณรีบพาแฟนของคุณแล้วก็ตัวคุณเองออกไปจากบ้านของฉันดีกว่า  ฉันไม่มีอารมณ์มาต้อนรับใครทั้งนั้น  ค่าเสียหายอะไรเอาไว้คุยกันวันหลังละกัน ขอโทษที่เสียมารยาทนะ”


    เจ้าของบ้านยืนกอดอกหน้าตาบอกบุญไม่รับมองแขกที่ไม่ได้รับเชิญสองคน เหมือนจะบอกว่าทำไมยังไม่ออกไปกันเสียที แล้วก็เป็นจีเอที่ถามสิ่งที่ทั้งสองสงสัยออกมา


        “เมื่อกี๊คุณว่าฉันเป็นอะไรกับเขานะ?”


    ก็แฟนคุณไง…” จีซูกระแทกเสียงเน้นคำตอบ ก่อนที่จะโบกมือไล่ทั้งสองคนอีกครั้ง  “รีบ ๆ ไปกันได้แล้ว  เออ หรือจะเอาเงินมาไว้ก่อนซักแสนสองแสนก็ได้นะ มัดจำไว้ก่อน”




    นี่.. คุณจีซู อย่าบอกนะว่าที่แท้ก็หึงเรากับยองแจเนี่ย…

    อย่างนี้ต้องจัดการล่ะ > <


    ขณะที่จีเอลอบอมยิ้มอยู่ในใจ  ยองแจที่หน้าตาตกใจยิ่งกว่ารีบโบกไม้โบกมือปฏิเสธ


    “แฟน?!  ผมกับพี่จีเอเนี่ยนะ!?  ผมไม่---”


    “ชู่ว…”


    จีเอหันไปทำปากจุ๊ ๆ ใส่ชายหนุ่มที่อยู่ข้าง ๆ  เธอพอจะรู้แล้วว่าจะจัดการกับสถานการณ์ตรงหน้าต่อไปอย่างไรดี


    “ยองแจอา… กลับไปก่อนนะ  เรื่องรถเธอเดี๋ยวฉันจัดการให้ทีหลัง


    เพราะตอนนี้ฉันต้องบอกเรื่องของเราให้คุณเจ้าของบ้านเค้าฟังก่อน เค้าจะได้เข้าใจอะไร ๆ ได้ถูกต้อง


    ดีไหมละคะ คุณจีซู…”


    ---to be continued---

    Writer's Note:

    ขอคั่นรายการนิดนึงนะคะ...  
    เราเพิ่งเปิดทวิตเตอร์ ให้ไว้สำหรับทุกคนได้เข้าไปทวงฟิคจากเราแล้วค่ะ 5555  ยังไงไปกดฟอลโลว์กันได้นะคะ 
    ที่แอคเคานท์ @RyukeiAllaround  จะทวงฟิค จะรีเควสอะไรแบบไหน (จะพยายามเขียนให้ได้นะคะ ^^) หรือจะมาหวีดโมเม้นด้วยกันได้หมดเลยค่ะ 

    ตอนหน้าเป็นตอนจบของ ทูจี แล้ว
    ยังไงก็ติชมกันได้เหมือนเดิมนะคะ :)
    ------
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×