ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ธาราโอบจันทร์ (yaoi)

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่สอง ... (รีไรท์)

    • อัปเดตล่าสุด 28 ก.ย. 63





    ธาราโอบจันทร์
    บทที่สอง



    ไกรวีถูกพี่สาวหัวเราะใส่ราวขบขันสุดชีวิตเมื่อคืนนี้หลังได้ฟังเรื่องหน้าแตกของเขาเพราะความเข้าใจผิดในตัวนทีธัชช์ หากเขากลับไม่คิดและไม่ทันได้เตรียมตัวรับความอับอายระลอกสองจากคีรินทร์ตัวจริงที่คราวแรกก็เพียงแต่ยกยิ้มทักทายเขา หากเพียงแค่สำรับมื้อเช้าวางลงตรงหน้าและเอ่ยปากว่าให้รับประทานกันก่อนนทีธัชช์จะมาได้เลย แววตาที่คีรินทร์มองมาทางเขาไม่เพียงแต่มีรอยเอ็นดูที่คล้ายกับมอบให้คนอายุน้อยกว่าตน แต่ยังแฝงไปด้วยความขบขันอย่างที่ทำให้ไกรวีแตะข้าวต้มกุ้งในถ้วยไม่ลง

    การล้อเลียนเงียบดูท่าจะไปกันใหญ่เมื่อนทีธัชช์ขับรถกระบะคันใหญ่มาจอดเทียบ เดินเข้ามาถึงก็ทิ้งตัวลงนั่งข้างกันพร้อมออกปากคุยกับไกรวีราวเป็นเรื่องสลักสำคัญที่ต้องรายงาน

    เมื่อคืนผมเก็บเศษบนรถเรียบร้อยแล้วนะครับ วันนี้คุณกรจะได้นั่งรถได้อย่างสบายใจ

    แล้วก็เป็นเพชรพริ้งที่กลั้นขำไม่ไหวจนหัวเราะพรืดออกมา ยังดีที่ตรงหน้าเธอเป็นอาหารเช้าแบบอเมริกันอย่างขนมปังปิ้ง ไส้กรอก ไข่ดาว กับสลัดผักสด ๆ ที่เด็ดมาจากแปลงสวนข้างบ้าน ไม่อย่างนั้นบางทีไกรวีอาจขอนิสัยไม่ดีแช่งให้กุ้งติดคอเธอจนสำลักหน้าแดงเลยก็ได้

    ถึงอย่างนั้นทุกคนก็ยังทำให้ไกรวีรู้สึกเหมือนบนโต๊ะอาหารมีเพียงความสบายใจ เรื่องที่ได้รับรู้เมื่อวานเหมือนเป็นเรื่องโกหก จนกระทั่งมื้อเช้าใกล้จบลงเต็มทีแล้วนั่นแหละนทีธัชช์จึงพูดออกมา

    ผมจะพาคุณกรไปเก็บของที่บ้านผมก่อนนะครับ แล้วจะพาเข้าออฟฟิศ ช่วงสายเรามีประชุมใหญ่กับคนงานเรื่องของพลอย คุณคงต้องเข้าร่วมประชุมด้วย

    ชายหนุ่มพยักหน้ารับ รู้สึกอิ่มไปทั้งท้องแม้อาหารจะพร่องลงไปเกินครึ่งเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทว่าเพชรพริ้งก็เข้าใจ น้องชายของเธอต้องมารับรู้ทั้งยังต้องเป็นตัวละครหนึ่งในการเล่นเกมแล้วด้วยคงยังทำใจลำบาก อันที่จริงเธออยากบอกให้น้องชายรู้ว่าไม่มีอะไรให้น่าเป็นห่วงหากอยู่กับนทีธัชช์ แต่พอได้รับฟังว่าน้องชายฝาแฝดของสามีก็เหมือนจะอยากแผลงฤทธิ์เดชตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน เธอจึงไม่แน่ใจนักว่าควรปลอบใจน้องชายดีหรือไม่

    บางทีหลังจากทุกอย่างเริ่มต้นขึ้น ไกรวีอาจต้องรับมือกับนทีธัชช์มากกว่าไร่เคียงผกาย

    ดังนั้นเธอจึงไม่ได้บอกไป ว่าต่อให้เคียงผกายร้ายกาจยังไงก็ยังไม่สู้คนที่เขาต้องไปอาศัยร่วมด้วย ใช่ว่าอยากกลั่นแกล้งน้อง แต่เพราะเธอเองก็ยังไม่ค่อยแน่ใจนักว่านทีธัชช์มีแผนอย่างไรกับไกรวี

    ผมจะเจอพี่พลอยได้ทุกวันหรือเปล่าไกรวีถามสองคนที่นั่งอยู่ตรงข้าม ไม่มีใครตอบคำถามนั้น กระทั่งเขาแน่ใจว่าคงถามผิดคนจึงลองหันหน้ามองคนที่นั่งกินข้าวต้มอยู่เก้าอี้ตัวข้างกันหรือยังไงครับคุณที

    คนได้รับคำถามจุดยิ้มคงเจอได้ไม่ทุกวัน แต่ผมจะพยายามพามาให้เจอกันบ่อย ๆ แล้วกันครับ

    หมายความว่าถ้าผมจะไปไหนทำอะไร ผมต้องให้คุณพาไปเหรอครับ

    ใช่นทีธัชช์ตอบรับสั้น ๆ ไม่สนใจสายตาที่มองมาอย่างตั้งคำถามรวมถึงไม่พอใจเท่าไรนัก ไม่ได้คิดอธิบายขยายความของคำว่าใช่เสียด้วยซ้ำ เพราะหลังจากวันนี้ไป อีกพักหนึ่งเดี๋ยวไกรวีก็จะเรียนรู้ได้เองว่าเพราะอะไรถึงต้องมีเขาตามติดไม่ให้ห่าง

    กรคุยกับยายก้อยแล้วรึยังเพชรพริ้งถามถึงเจ้าของสำนักพิมพ์ที่ไกรวีเป็นบรรณาธิการอยู่ ซึ่งไกรวีก็พยักหน้ารับ บอกกล่าวพลางถอนหายใจ

    พี่ก้อยรู้แล้ว ไม่ติดใจอะไร ระหว่างนี้ผมคงทำงานของที่นี่ไปด้วยแล้วก็ยังทำงานที่กำลังดูแลนักเขียนสองคนแค่นั้น นอกนั้นยังไม่รับเพิ่ม โยนงานไปให้บ..คนอื่นก่อนเลย

    ไกรวีเป็นบรรณาธิการนิยายมือต้นของสำนักพิมพ์เรือนกระดาษซึ่งเป็นของกวินทรา เพื่อนสนิทของเพชรพริ้งและรู้จักกันดีกับไกรวี อันที่จริงไกรวีรู้จักเพื่อนของเธอแทบทุกคน การเป็นผู้ชายหนึ่งเดียวในบ้านตั้งแต่อายุย่างสิบขวบทำให้ได้รับการสอนให้รักและไม่ทิ้งพี่ เพชรพริ้งเองก็ไม่ทิ้งเขา เวลาไปไหนจึงติดสอยห้อยตามกันไปเสมอ

    กับกวินทรา ไกรวีก็รู้จักสนิทใจกันดี เธอซื้อตัวเขาไว้ตั้งแต่ยังเรียนไม่จบเลยด้วยซ้ำ โชคดีที่พอได้เข้าทำงานกวินทราก็ไม่ได้ใช้สิทธิ์ความสนิทกันในการมอบหน้าที่การงาน เธอให้เขาเริ่มต้นตั้งแต่เป็นเด็กเดินเอกสาร จนค่อย ๆ เติบโตมาเป็นบรรณาธิการที่นักเขียนคนไหนก็อยากมีผลงานร่วมด้วย

    ไกรวีเสียดายนิดหน่อยเพราะต้องโยนงานที่จะได้ร่วมทำกับนักเขียนชื่อดังคนหนึ่งให้คนอื่นดูแลเพราะมาที่นี่ ถึงแม้ว่าที่จริงส่วนมากเขาสามารถติดต่อสื่อสารกับนักเขียนผ่านโซเชียลได้ หากการมาที่นี่และรู้ว่าต้องทำงานแทนเพชรพริ้งจึงไม่อยากรับภาระมากนัก

    เพราะเขาไม่รู้ว่าจะต้องเจออะไรบ้าง มันคงไม่ดีนักถ้าเรื่องทางนี้จะทำให้กระทบงานหลักของเขา

    ดีแล้วครับ ผมไม่อยากให้งานคุณกรกระทบกับเรื่องทางนี้เท่าไหร่

    ถ้าคุณอยากให้เป็นอย่างนั้นคุณคงจะหาทางบอกผมตั้งแต่ก่อนที่ผมจะมาที่นี่

    คีรินทร์นิ่งไปเล็กน้อย มองตากับนทีธัชช์ก็ค่อนข้างชัดเจนว่าเอาเรื่องที่พูดกันเมื่อคืนท่าทางจะจริง จึงเอ่ยขึ้นไม่ให้ไกรวีต้องรู้สึกหมางใจอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ หรือถ้ายังมีก็ขอให้น้อยลง

    เรื่องนี้พี่คงต้องขอออกตัวครับกร เพราะพี่เป็นคนบอกทีเองว่าตอนที่ติดต่อไป ให้เล่นละครไปให้สุดทาง อย่าหลุดแผนออกไปก่อนเป็นอันขาด เพราะพี่ไม่วางใจอะไรทั้งนั้น

    ไกรวีเข้าใจ ถึงจะอยากถามออกไปว่าแม้กระทั่งกับน้องชายที่จะไม่มีวันทำร้ายพี่สาวน่ะหรือ หากเขาก็พยักหน้าแล้วไม่เอ่ยอะไรอีก รออีกครู่นทีธัชช์ก็กินข้าวต้มหมดถ้วย จึงเป็นเวลาที่เขาต้องบอกลาพี่สาวแล้วเริ่มแผนของนทีธัชช์เสียที

    เพชรพริ้งมองตามรถกระบะคันใหญ่ที่มีน้องชายของเธอโดยสารไป อยู่ ๆ ก็คิดไม่ตกขึ้นมา จนกลับเข้ามาในบ้านเห็นคีรินทร์นั่งอ่านข่าวผ่านแท็ปเล็ตที่โต๊ะกินข้าวก็อดไม่ได้ที่จะถาม

    กรจะรอดไหมคะพี่คี

    คีรินทร์ช้อนตามองหัวใจของเขารอดจากอะไรเหรอพลอย

    จากพี่ที

    เท่านั้นคีรินทร์ก็หัวเราะออกมา ไม่ตอบอะไร ทว่ากลับส่ายหน้าเนือยให้กับหน้าข่าวในมือ เช่นนั้นเองเพชรพริ้งจึงเข้าใจ หลังจากนี้ไกรวีคงไม่รอดแล้ว ไม่ว่าจะกับการรับน้องหรือการที่ต้องติดตามนทีธัชช์ก็ตาม

    เธอได้แต่ภาวนาว่าน้องชายของเธอจะมีความอดทนมากพอที่จะไม่แผลงฤทธิ์ออกมาเหมือนกัน

     

    สิบโมงตรงเป็นเวลาที่คนงานทุกคนในไร่รินทร์ธาราพักมือจากงานของตัวเองเพื่อมารวมตัวกันในลานประชุมที่ตั้งเสาไม้สี่เสาเป็นฐาน มีหลังคากระเบื้องกันแดดกันฝน แต่ไม่ได้ก่อผนังขึ้นไม่ว่าทางใดเพื่อให้ลานประชุมได้รับอากาศของธรรมชาติอย่างเต็มที่ ตรงนี้เป็นลานประชุมเพื่อพูดคุยกันเพียงปากเปล่าที่ไม่ต้องใช้อุปกรณ์อะไรเพิ่มเติม หากเป็นงานที่ค่อนไปทางวิชาการหน่อยจะมีอีกห้องประชุมหนึ่งเป็นห้องประชุมปิด มีโต๊ะเก้าอี้และเครื่องปรับอากาศรองรับ ส่วนตรงนี้เป็นเพียงพื้นที่โล่ง ดังนั้นเมื่อไกรวีก้าวตามหลังนทีธัชช์มา จึงได้เห็นว่าคนงานบางกลุ่มบ้างก็นั่ง บ้างก็ยืน แต่ทุกคนดูอยู่ในสถานะเดียวกัน คือสถานะของคนที่รอความคืบหน้าอาการของคุณนายแห่งไร่รินทร์ธารา

    ก่อนที่นทีธัชช์จะพูด เขาใช้สายตากวาดมองคนงานหลายสิบเรือนร้อยชีวิตเพื่อพิจารณา ครู่หนึ่งจึงค่อยเปิดปาก

    เรื่องของคุณเพชรพริ้งเขาเว้นคำชั่วครู่ ต้องยกมือขึ้นเพราะเสียงที่ฮือฮาอื้ออึง ลดมือลงน้อย ๆ เป็นสัญญาณให้ทุกคนเงียบเสียงลง เมื่อทุกอย่างอยู่ในความสงบอีกครั้งจึงพูดต่อผมคิดว่าทุกคนคงได้ข่าวที่ไม่น่ายินดีกันหมดแล้ว วันนี้ผมเลยมาบอกทุกคนอีกครั้งให้ชัดเจน คุณเพชรพริ้งพลัดตกเขาจริง และอาการก็สาหัสผมไม่อยากใช้คำว่าปางตาย แต่มันก็ใช่ แต่ว่า…”

    นทีธัชช์ได้เว้นคำอีกครั้ง แววตายังคงแน่วนิ่งสงบเย็นแม้เห็นคนงานบางคนเริ่มซับน้ำตา รู้ดีว่าแผนการของเขาทำให้เกิดผลกระทบเป็นความโศกเศร้ามากกว่าที่ประเมินไว้ หากเขาก็ยังนิ่งตามแบบฉบับของเขา พูดต่อเมื่อเสียงเซ็งแซ่เบาลง

    ผมอยากให้ทุกคนเชื่อมั่นในทุกอย่างที่เกิดขึ้น ขอให้ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองต่อไปเหมือนปกติที่เคยทำ ระหว่างนี้ถ้าใครมีงานอะไรไม่เว้นแม้แต่งานออฟฟิศก็ขอให้เข้ามาคุยกับผมเท่านั้น เพราะหลังจากนี้คุณคีรินทร์จะไม่เข้าออฟฟิศสักพัก หวังว่าทุกคนจะเข้าใจนะครับ

    โธ่คุณพลอยคุณทีคะ คุณคีต้องเฝ้าดูอาการคุณพลอยใช่ไหมคนงานหญิงวัยกลางคนคนหนึ่งถามขึ้น สีหน้าเศร้าหมองเห็นได้ชัด

    ชายหนุ่มพยักหน้า ไม่มีรอยยิ้มอาทรเหมือนคีรินทร์ แต่ก็ไม่ได้แข็งกระด้างซึ่งก็เป็นไปในแบบของเขาเหมือนกันระหว่างนี้คนที่จะมาช่วยงานผมจะเป็นคุณไกรวี น้องชายของคุณเพชรพริ้ง

    มือกว้างเอื้อมแตะที่ศอกขาวของคนข้างกาย ไม่ได้ให้แนะนำตัว แค่ให้ทุกคนได้มองเห็นและจดจำคนมาใหม่เท่านั้น

    ถ้าผมไม่อยู่แล้วอยากติดต่ออะไร วางเรื่องไว้ที่คุณไกรวีได้เลยนะครับ ย้ำอีกครั้ง อย่าวางงานที่ใครนอกจากผมกับคุณไกรวี และอย่าเชื่อคำพูดของใครไม่ว่าเรื่องอะไรถ้าไม่ใช่คำที่มาจากปากผมกับคุณไกรวี

    น่าแปลกที่แม้นทีธัชช์จะยังไม่ให้เขามีบทบาทอะไร หากไกรวีกลับรู้ได้ว่าการประชุมครั้งนี้คือการเปิดตัวเขาที่จะเป็นคนสำคัญของที่นี่อีกคน แม้จะเป็นเพียงแผนของนทีธัชช์ก็ตาม

    ทุกคนเองพอมองมาทางเขาก็มีริ้วความเคารพยำเกรงอยู่พอสมควร ซึ่งไกรวีไม่ชินเลย ตอนที่เป็นบรรณาธิการ แม้ไม่ได้พาตัวเองไปสุงสิงกับนักเขียนมากนัก แต่เขาก็ยังคุยกับทุกคนให้วางใจกันในระดับที่รู้สึกสนิทใจในเรื่องงานเขียนได้ ไม่ใช่การเคารพอย่างสถานะที่เหนือกว่าทุกคนอย่างนี้

    อยากบอกออกไปว่าเขาไม่ใช่เจ้านายหรือคนสำคัญก็พูดไม่ได้ นทีธัชช์อยากให้เขาสวมบทไหนก็คงต้องทำ

    จะให้สวมบทเป็นเลขานุการของนทีธัชช์ก็ย่อมได้ ขอเพียงแค่ทุกอย่างจะทำให้พี่สาวเขาปลอดภัย

    จากนี้เราจะไปไหนกันครับ

    หลังจากการประชุมย่อยว่าด้วยเรื่องเพชรพริ้งกับระบบเพิ่มเติมจบสิ้น นทีธัชช์พาไกรวีเดินมาทางออฟฟิศที่ยังปิดประตูสนิท เจ้าของผิวคร้ามแดดเพียงเปิดประตูทิ้งไว้ ก้าวเข้าไปหยุดอยู่หน้าตู้เอกสารด้านข้างโต๊ะทำงาน หยิบหมวกสานปีกกว้างมาได้ก็กลับออกมา ยื่นมันให้ไกรวีรับไว้

    นทีธัชช์ยังไม่ตอบในทันที เขาพาไกรวีมาถึงรถกระบะคันเดิม สอดตัวขึ้นรถ สตาร์ตเครื่องยนต์ได้ค่อยตอบคำเราจะไปทัวร์ไร่รินทร์ธารากันครับ

     

    ไกรวีหมดแรง เขายอมรับว่าแม้จะไม่ใช่ผู้ชายสำอางแพ้แสงอะไร แต่พอต้องอยู่กับแดดตั้งแต่สายจนค่อนมืดก็ทำเอาร้อนวาบไปทั้งกระบอกตาได้เหมือนกัน แถมพอกลับมาถึงที่พักซึ่งเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวแต่กว้างใหญ่พอให้สี่หรือห้าคนอาศัย ไกรวีก็แทบอยากจะกลับไปพุ่งตัวลงคลองใกล้ฟาร์มแพะมากกว่าจะนั่งนิ่งให้เหงื่อซึมในห้องนอนอย่างนี้ ห้องนอนที่มีเพียงแสงจากตะเกียงเท่านั้น

    นทีธัชช์บอกกับเขาว่าปกติแล้วบ้านหลังนี้ไม่มีไฟฟ้าใช้ ถึงจะเห็นว่ามีเครื่องอำนวยความสะดวกอยู่เยอะ แต่นทีธัชช์จะใช้วิธีปั่นไฟเอาเท่านั้น เพราะอย่างนั้นหากไม่เหลือบ่ากว่าแรง ก็อยากให้เขาลองใช้ชีวิตแบบที่ได้สัมผัสกับอากาศธรรมชาติไปก่อน

    หากอยู่ไม่ได้จริง ๆ ก็ค่อยกลับไปพักกับเพชรพริ้งและคีรินทร์ ซึ่งนั่นกลับทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกหยามอยู่ชัด ๆ !

    ยังไม่ง่วงเหรอครับ

    หลังจากไกรวีลุกไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย เขาอยากจะออกมานั่งรับลมที่ชานเรือนเสียหน่อยก็เจอเข้ากับนทีธัชช์ที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว ไกรวีส่ายหน้าให้คำถามนั้น หย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้ไม้โต๊ะเดียวกับนทีธัชช์แล้วทอดสายตามองออกไป

    ลมเย็นยามราตรีทำให้ความอ่อนล้าที่สะสมตั้งแต่เมื่อคืนพลันจางเจือ ไกรวียิ้มได้นิดหน่อยให้กับแสงไฟนวลตาที่อยู่ต่ำลงไป

    บ้านของนทีธัชช์ตั้งอยู่บนเนิน หลบลี้จากพื้นที่อื่นของไร่ค่อนข้างมาก มีความเป็นส่วนตัวสูงต่างจากบ้านหลักของคีรินทร์ ชายหนุ่มบอกเล่าเมื่อเช้าว่าพื้นที่ตรงนี้จะไม่ให้ใครเข้ามายุ่มย่ามนักหากไม่มีเหตุจำเป็นจริง ไม่เหมือนบ้านของคีรินทร์ที่คอยต้อนรับขับสู้แขกเหรื่ออยู่เสมอ มีแต่หลังจากนี้ที่จะงดรับแขกเพราะย้ายไปอยู่บ้านหลังไร่ที่เขาได้นอนพักไปเมื่อคืนนี้

    ไกรวีจมจ่อมอยู่กับธรรมชาติอันเงียบงันอีกพักหนึ่งจึงได้ดึงสติกลับมาหาคนข้างกายหลังได้รับคำถาม

    เหนื่อยไหมวันนี้

    ไกรวีไม่อยากโกหก แต่ก็ไม่อยากให้นทีธัชช์มองว่าเขาเป็นคนอ่อนแอ พินิจเพียงครู่จึงตอบออกไปผมขอเวลาปรับตัว อีกวันสองวันคงเดินทำงานกับคุณได้สบาย

    เขาใช้คำว่าทำงานได้อย่างเต็มปากหลังจากวันนี้ทั้งวันนทีธัชช์พาเขาตระเวนเกือบจะทั่วไร่ ให้เขาได้รู้ว่ารินทร์ธารากินพื้นที่กว้างใหญ่อย่างที่คงเดินไปแต่ละที่ไม่ไหว และแต่ละส่วนก็แบ่งสรรกันได้อย่างดี รู้ได้ในทันทีว่าส่วนที่ดูงานไปวันนี้ยังไม่ครบทุกพื้นที่เลยด้วยซ้ำ

    และทุกพื้นที่ที่ไปมาก็ดูเหมือนมีอะไรให้ต้องทำเยอะแยะไปหมด อย่างส่วนของแปลงพืชหมุนเวียนที่ได้เรียนรู้มาว่ากำลังโรยเมล็ดปอเทืองเพื่อปรับสภาพดินเตรียมการปลูกครั้งต่อไป จู่ ๆ นทีธัชช์ก็บอกให้เขาลองดูสภาพเนื้อดิน พรวนดิน หว่านเมล็ดไปพร้อม ๆ กับชาวสวนอย่างงง ๆ

    ไกรวีรู้สึกได้ว่าคนที่นั่งบนชุดโต๊ะไม้เดียวกันมองอยู่ จึงเบือนจากทิวทัศน์ตรงหน้ามาสบกับเรียวตาคู่คม นทีธัชช์ไม่ได้ยิ้ม ไม่ได้มึนตึง เป็นสายตาที่มองมาอย่างที่ทำให้ไกรวีหัวใจกระตุกไปวูบเท่านั้น

    พี่ไม่ได้อยากให้กรปรับตัวเร็วนัก แต่ถ้าเร็วได้ก็จะดี

    นทีธัชช์ว่าอย่างนั้นให้ไกรวีหัวเราะหึ เหมือนชีวิตผมต้องฝากไว้ที่คุณทีใช่รึเปล่าครับถ้าต้องอยู่ที่นี่รวมถึงต้องทำตามให้ได้อย่างที่คนเป็นผู้นำอยากให้ทำ

    ใช่ชายหนุ่มถอนใจเฮือกหนึ่งก่อนมองหน้าคนที่หลุบตาลงพี่ไม่ไว้ใจใคร ถ้าพลอยถูกผลักลงเขาได้ คนในครอบครัวเดียวกับพลอยก็มีสิทธิ์โดนทำร้ายได้เหมือนกัน

    แล้วทำไม…”

    ทุกอย่างต้องเป็นไปตามแผน แต่ไม่ได้หมายความว่าพี่จะไม่ดูแลใคร ถูกไหม?”

    และคนที่นทีธัชช์จะดูแลก็คือเขา พอคิดได้แบบนี้ไกรวีจึงช้อนนัยน์ตาขึ้น ดวงตาคู่คมยังมองมา ไม่มีแววอาทรและอบอุ่นอ่อนโยนอย่างที่เขาจับต้องได้จากคีรินทร์ แต่ดวงตาคู่นี้กลับเต็มล้นด้วยพลังของความแน่วแน่จริงจังเหมือนที่มองเห็นมาตลอดทั้งวัน

    ไกรวีไม่เคยคิดว่าตัวเองจะต้องเจอกับอันตรายอะไรจนกระทั่งเมื่อครู่ และโดยที่อีกฝ่ายยังไม่พูดมา แต่ไกรวีก็รู้ได้ว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นจริง เขาจะมีคนรองรับอันตรายนั้นไม่ให้กระทบโดนตัวโดยตรง

    นทีธัชช์จะเป็นคนปกป้องเขา

    นอนเถอะอยู่ ๆ นทีธัชช์ก็เอ่ยขึ้นพรุ่งนี้ออกกันแต่เช้าหน่อยนะครับ ต้องออกพื้นที่ไปตรวจงานของชาวบ้าน

    ปกติออกตรวจกี่โมงครับ

    เจ็ดโมงครึ่งสำหรับการออกพื้นที่รอบไร่ ไม่ใช่ในไร่ กรไหวหรือเปล่า

    ทำไมนทีธัชช์จะไม่เห็น เขาเห็นว่าใบหน้าเกลี้ยงเกลาดูอ่อนล้าเพลียแรงอย่างเห็นได้ชัด ดีเท่าไหร่แล้วที่หนุ่มเมืองกรุงไม่เป็นลมล้มพับไปเสียก่อนระหว่างตรวจดูสภาพดินของแปลงปลูกพืชหมุนเวียน เขายอมรับว่ารับน้องโหดไปหน่อย แต่พอเห็นไกรวีที่ถึงแม้จะงง ๆ แต่ก็ทำตามแต่โดยดีก็พอใจ ให้เขารู้ว่าไกรวีไม่เพียงแต่เอาเรื่องทางด้านนิสัยใจคอ กับการทำงานก็ไม่เว้นเหมือนกัน

    เพราะอย่างนั้นจากความตั้งใจเดิมที่คิดไว้ว่าจะให้ไกรวีดูงานอยู่ในออฟฟิศตลอดวัน เลยเปลี่ยนแผนเป็นให้รับแดดตลอดวันกับเขาน่าจะดีกว่า

    งั้นพรุ่งนี้ผมจะตื่นมาทำข้าวเช้าก่อนเราออกพื้นที่แล้วกันนะครับ

    นทีธัชช์พยักหน้าขอบใจมาก

    ไกรวีไม่ได้เอ่ยอะไรหลังจากนั้น เขาลุกขึ้นยืน สบตากับนทีธัชช์เชิงขอตัวก่อนเดินกลับเข้าห้องตัวเอง ครู่หนึ่งหลังจากสวดมนต์เสร็จแล้วทิ้งตัวลงนอน เสียงประตูของห้องใกล้ ๆ กันก็ดังขึ้นให้รู้ว่าเจ้าของบ้านคงเตรียมตัวนอนแล้วเหมือนกัน

    ชายหนุ่มจ้องมองเพดานไม้ผ่านความสลัวราง ครุ่นคิดถึงหลาย ๆ เรื่องก่อนเปลือกตาจะค่อย ๆ ปรือปรอยและนำเขาสู่ห้วงนิทราในที่สุด





    โปรดติดตามตอนต่อไป





    อดใจไม่ไหว อยากอัปมากเลยยยยย แง้



    ทวีตติดแท็ก #ธาราโอบจันทร์ หรือคอมเมนต์ หรือกดปุ่มให้กำลังใจน้าาา



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×