ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ธาราโอบจันทร์ (yaoi)

    ลำดับตอนที่ #15 : บทที่สิบสี่ ... (รีไรท์)

    • อัปเดตล่าสุด 20 พ.ค. 64





    ธาราโอบจันทร์
    บทที่สิบสี่


    นทีธัชช์โล่งใจ ยามเปิดประตูออกมาจากห้องแล้วกลิ่นหอมแตะจมูกเขา ได้เห็นเจ้าของเรือนกายสันทัดที่หันมามองกันเพียงแวบหนึ่งก่อนกลับไปสนใจซุปในหม้อ ไม่ได้คิดมีใจจะทักทายอรุณสวัสดิ์กันเลยสักนิด

    แน่ล่ะ คงเพราะเคืองที่เมื่อคืนเขาจูบ

    อันที่จริงมันไม่ควรเรียกว่าจูบเลยด้วยซ้ำ ในเมื่อนทีธัชช์มีโอกาสแค่โฉบริมฝีปากลงไป แตะกับเนื้อนิ่มได้แค่วินาทีเดียวก็ถูกผลักหน้าออก พอจะก้มลงไปหาใหม่ก็เลยถูกตบเบา ๆ ที่แก้มสากแทนการดัน มองมือที่เงื้อง่าขึ้นแล้วนทีธัชช์ก็ทั้งเคืองทั้งขำ คนอะไร...ยอมให้เขาฟัดคอจนกลิ่นติดจมูกไปถึงใจขนาดนั้นแล้วแต่ปากกลับไม่ยอมให้จูบเสียได้ แถมยังเป็นจูบที่เขาหมายมาดจะให้เป็นจูบราตรีสวัสดิ์ส่งเข้านอนเสียด้วยสิ

    หากที่ทำให้เขาโล่งใจ ก็เป็นเพราะบนข้อมือขาวยังมีสร้อยข้อมือที่เขาสวมให้เมื่อคืนอยู่ ของตีตราจองในความสัมพันธ์ของเขาสองคน

    เอาล่ะ ถ้ายังไม่ยอมให้เขาจูบปาก เขาก็จะไม่จูบ!

    ไกรวีนิ่ง มองคนที่เข้าประชิดตัวก่อนรั้งข้อมือเขาขึ้น มองใบหน้าคมคายที่โน้มลงแล้วประทับริมฝีปากที่ข้อมือของเขาเหนือจี้ไม้รูปดอกบัวซึ่งเป็นจุดเดียวกับชีพจร นัยน์ตากลมโตวิบวาวยามนทีธัชช์เงยหน้าขึ้นสบตา มุมปากหยักจุดเป็นรอยยิ้มลึกที่เจ้าเล่ห์อย่างถึงที่สุด

    อรุณสวัสดิ์

    คนฟังคำทักทายนิ่งไปอึดใจจึงค่อยระบายลมหายใจยาวแล้วจุดยิ้มจูบปากไม่ได้ก็ขอตรงอื่นก็ยังดีใช่ไหมครับ

    แหมรู้ทัน นทีธัชช์เลยจัดการให้รางวัลคนรู้ใจด้วยกอดจากด้านหลัง วางคางลงกับบ่าลาดแล้วมองซุปในหม้อนี่ซุปอะไร หอมดีจัง

    ซุปหัวหอมครับ

    อ้อ เมนูใหม่นี่เองแล้วนี่ใครครับ หอมจัง

    ไม่พูดเปล่า จมูกโด่งสันยังไล่แตะไปทั่วเรียวคอขาว ก่อนหยุดลงยังหลังใบหูที่กำลังระบายสีแดงจางจากการถูกสัมผัส แล้วก็หอมเข้าไปฟอดใหญ่จนทัพพีในมือขาวสั่นริก

    แน่นอนว่าไม่ใช่เพราะโอนอ่อนไปตามการรุกเร้า แต่เป็นเพราะไกรวีที่กำไว้จนแน่นเพื่อเตรียมตัวจะเขกกะโหลกคนเจ้าแผนการนี่แหละ!

    นับหนึ่งถึงสาม ถ้าไม่ถอยออกไป

    โอเค ถอยครับ

    ไม่ทันได้นับหนึ่งเลยนะนั่นไกรวีมองคนที่คลายกอดแล้วถอยห่างจากกัน เลือกที่จะยืนพิงเคาน์เตอน์ทำครัวเพื่อมองเขาปรุงอาหารอย่างเงียบ ๆ จนใกล้เสร็จแล้วถึงหมุนตัวไปจัดเตรียมชามมาวางไว้ข้างเตา ก่อนจะผละออกไปจัดโต๊ะรอกันเหมือนเป็นเรื่องปกติ แต่ไกรวีรู้ดีว่าไม่มีอะไรปกติเลย

    บางทีคงเพราะความสัมพันธ์ของเขาสองคนที่ชัดเจนขึ้นมาแล้ว

    วันนี้น่าจะมีเด็กมาฝึกงานนะครับ กรรับหน้าที่เป็นครูพี่เลี้ยงได้ไหม

    คำถามของนทีธัชช์ทำชายหนุ่มนิ่งไปนิดนักศึกษาเหรอครับ ให้คุณเก้าดูแลดีกว่าไหม ผมไม่ได้มีความรู้เรื่องเกษตรขนาดนั้นนะครับ

    เปล่า ไม่ใช่นักศึกษาหรอกนทีธัชช์เอ่ยเรียบ ๆ ตักซุปหัวหอมเข้าปากไปคำหนึ่ง ดวงตาเป็นประกายอย่างเห็นได้ชัดแล้วพี่ก็ไม่ได้อยากให้กรดูแลในเรื่องของลงภาคสนาม แต่จะให้คอยดูความประพฤติระหว่างฝึกงานน่ะ

    นั่นไม่ได้ทำให้ไกรวีเข้าใจเลยสักนิดทำไมครับ

    นทีธัชช์ทำเหมือนคำถามนั้นลอยผ่านหู เขาให้ความสนใจกับอาหารตรงหน้าอยู่อีกพักหนึ่ง ซึ่งไกรวีเองก็ไม่ได้รีบร้อนอะไร ติดจะหมั่นไส้คนที่ได้ชื่อว่ารักกันอยู่หน่อย ๆ ด้วยซ้ำ ท่าทีลีลาเล่นลิ้นอย่างนี้ไม่ใช่ว่าได้เห็นบ่อยนัก หรือถ้าบ่อยก็คงเป็นเพราะเขาที่ไม่รู้ตัวหรือไล่ตามไม่ทันมากกว่า

    กว่าชายหนุ่มจะส่งเสียงออกมาได้ก็ตอนที่ซุปในถ้วยใกล้หมด ขนมปังกระเทียมเหลืออยู่หนึ่งคำเท่านั้น

    เด็กที่มาฝึกงานมีองค์ความรู้ดีอยู่แล้วน่ะ แค่มาฝึกที่นี่เพื่อเตรียมตัวเป็นนายเล็กเฉย ๆ

    นายเล็กเหรอครับ

    นทีธัชช์จุดยิ้ม นัยน์ตาคู่คมมีแววมาดร้ายเดี๋ยวกรก็รู้เอง

     

    ว่าที่นายเล็กที่นทีธัชช์เอ่ยถึงเมื่อช่วงเช้า เดินทางมาถึงสำนักงานของรินทร์ธาราก็ตอนใกล้พักเที่ยง ใบหน้าเกลี้ยงเกลาดูอ่อนล้าเล็กน้อย หากลูกแก้วกลมใสก็ยังทอประกายแรงกล้าของความขยันขันแข็ง เขายื่นเอกสารที่มีทั้งประวัติที่ยืนยันตัวตนและเอกสารมอบตัวฝึกงานให้นทีธัชช์รับไว้ นั่งอยู่เงียบ ๆ รอผู้เป็นนายของรินทร์ธาราอ่านเอกสารราวกับตั้งใจ กระทั่งผู้ชายอีกคนเดินเข้ามาพร้อมน้ำกับขนมห่อหนึ่ง ว่าที่นายเล็กถึงหันไปหา แย้มยิ้มพร้อมเอ่ยคำ

    ขอบคุณนะครับ ผมเป็นแค่เด็กฝึกงานแท้ ๆ บริการดีจัง

    ไกรวียิ้ม ไม่ทันได้ตอบอะไรเสียงทุ้มลึกของนทีธัชช์ก็ดังขึ้นดูแลไม่ดีเดี๋ยวเจ้าของหมอกรักษ์จะว่าเอา

    โหย คุณทีคิดว่าผมจะฟ้องพี่ธารเหรอครับ

    ฉันหมายถึงคุณศุภางค์นทีธัชช์ส่ายหน้าอ่อนใจนายไม่ฟ้องก็มีสายไปรายงานอยู่ดี หรือไม่จริง

    ข้อนั้นคนฟังก็เถียงไม่ออก เลยหยิบแก้วน้ำเย็น ๆ ขึ้นดื่มให้ชื่นใจ แกะห่อขนมที่บรรจุคุกกี้หลากรส กำลังจะหยิบเข้าปากนทีธัชช์ก็ขัดขึ้นเสียก่อน

    กรครับ มาทางนี้หน่อย

    หืม...คนฟังที่ไม่ใช่ไกรวีมองเจ้าของหน้าคมคายที่มีร่องรอยร้ายลึกในแววตาอย่างไม่เชื่อหู เขาไม่เคยได้ยินเสียงนทีธัชช์นุ่มนวลเหมือนที่คีรินทร์พูด ไม่นึกไม่ฝันด้วยซ้ำว่าจะมีวันนั้น นั่นหมายความว่าคนที่ชื่อกรต้องมีความสำคัญอยู่มาก...ใช่หรือเปล่าหนอ

    นี่คณพัฒน์ เรียกว่าไอ้เจ้าครามก็ได้ ส่วนนี่ก็ไกรวี เรียกคุณกรแล้วกัน

    คณพัฒน์ตวัดตามองคนกลางที่แนะนำตัวทั้งสองฝ่ายให้รู้จักกัน นึกรู้ขึ้นมาว่าสำคัญคงไม่พอ แต่น่าจะใหญ่คับนทีธัชช์ด้วยแน่ ๆ แบบนี้

    เรื่องนี้ต้องถึงหูคนที่หมอกรักษ์แน่!

    ว่าที่นายเล็กของหมอกรักษ์เขาจะมาฝึกงานที่นี่ระยะสั้นหนึ่งเดือน พี่วางตารางงานไว้แล้วนทีธัชช์หยิบแฟ้มออกมา เปิดหาตารางฝึกงานที่เอาไว้ใช้กับคณพัฒน์โดยเฉพาะก่อนจะเอาออกมาวางตรงหน้าพี่ฝากกรจัดการดูแลด้วยแล้วกัน อ้อ แล้วก็ให้ว่าที่นายเล็กเขานอนที่เรือนพักคนงานนะ จะได้กลมกลืนกับคนงานดี

    ไกรวีรับตารางการฝึกงานของคนที่นั่งเบิกตาโตมาไล่ดู เห็นแล้วว่าหนักใช่เล่นก็อดจะเหลียวมองไม่ได้

    คณพัฒน์ไม่ใช่คนไร้ชื่อ ไกรวีรู้จักอีกฝ่ายผ่านภาพที่เห็นทางจอโทรทัศน์มาก็หลายปี หนำซ้ำคณพัฒน์ยังเคยรับบทเด่นของละครที่แปลงจากบทนวนิยายชื่อดังของสำนักพิมพ์เรือนกระดาษก็หลายเรื่อง มีโอกาสได้เจออยู่ครั้งสองครั้งหากก็เพียงผิวเผิน แต่จากการได้รู้จักผ่านสื่อบันเทิงอย่างนั้น การที่ได้รู้ว่าคณพัฒน์คือว่าที่นายเล็กของบ้านหมอกรักษ์ซึ่งเป็นรีสอร์ทและเกษตรผสมผสานของญาติสองฝาแฝดก็ทำให้เขาประหลาดใจ

    ที่แน่ ๆ คือไม่คิดว่านักแสดงหนุ่มชื่อดังจะผันตัวมาทางสายเกษตร

    พักอยู่ที่เรือนพักนักท่องเที่ยวก็ได้นี่ครับ ยังไงก็เป็นว่าที่นายเล็กด้วย

    ถึงจะเป็นว่าที่นายเล็ก ก็ใช่ว่าจะต้องมีอภิสิทธิ์ชนเหนือคนอื่นเขานี่ ดีเท่าไหร่แล้วที่พี่ไม่ได้ให้พักที่หอพักคนงาน อยู่บ้านหลังเล็กก็เป็นส่วนตัวดีออก หรือนายว่ายังไงล่ะคราม

    เอ่อ…” คนกลางส่งเสียงขึ้นมา มองไกรวีพร้อมรอยยิ้มแหยค่อยหันมาทางนทีธัชช์ว่าที่นายเล็กอะไรครับ ผมไม่เห็นรู้เรื่องเลย

    อ้าว ก็ผูกข้อมือไปแล้วนี่ หรืออยากจะเป็นแค่คนสวนล่ะ

    พลันใบหน้ากลม ๆ ก็ปั้นยาก ไกรวีมองไม่ออกนักว่าคณพัฒน์กำลังโมโหหรือเขินอายกันแน่ แต่ที่แน่ ๆ ชายหนุ่มอีกคนที่เพิ่งเดินเข้ามาก็หยุดอาการสับสนนั้นได้ดี เจ้าของผิวคร้ามเข้มจุดยิ้มทักทายไกรวี ก่อนหันมาหานทีธัชช์ ไถ่ถาม

    เรียบร้อยดีรึยังครับ ผมจะได้พาครามไปเก็บของก่อน

    คนฟังถอนหายใจเฮือก ยกแขนกอดอกแล้วทำไมไม่เตรียมมาเลย ไป ๆ มา ๆ ทำไม

    เป็นคณพัฒน์ที่ตอบเอง ผมยังไม่ได้กลับหมอกรักษ์เลยครับ ลงเครื่องแล้วก็ตรงมาที่นี่เลย

    แล้วจะเริ่มงานเมื่อไหร่

    พรุ่งนี้ครับ

    นทีธัชช์นิ่งคิด เคาะปลายนิ้วลงกับโต๊ะทำงานก่อนกวาดตามองทีละคนอย่างใจเย็น ที่สุดจึงเอ่ยออกมากรยังไม่เคยไปหมอกรักษ์เลยใช่ไหม งั้นขับรถไปกับครามสิ ส่วนธารอยู่นี่ พี่มีเรื่องจะคุยด้วย

    จะดีเหรอครับพี่ที ผมได้ยินมาว่าคุณกรเพิ่งเกิดอุบัติเหตุหรืออีกนัยที่ธายุกรได้รู้ข่าวผ่านคีรินทร์ คือการจงใจฆ่าเลยด้วยซ้ำไป

    ระยะหลังมานี้ ธายุกรกับทางหมอกรักษ์ไม่ค่อยได้ติดต่อมาทางรินทร์ธารามากนัก อาจจะตั้งแต่ที่มีเรื่องของเพชรพริ้งเมื่อต้นปีใหม่ ชายหนุ่มได้รับรู้ถึงเหตุการณ์และแผนทั้งหมด แม้เขายินดีเต็มใจช่วยเหลือ แต่ก็กลับเป็นนทีธัชช์เองที่ไม่อยากให้อันตรายตีวงล้อมไปถึงบ้านหมอกรักษ์

    เพราะอย่างนั้นที่ผ่านมาเขาถึงรับข่าวผ่านทางสองฝาแฝดอย่างเงียบ ๆ ไม่ปริปาก ยังไม่ยื่นมือเข้ามาแม้จะรู้ดีว่าเหตุการณ์เริ่มรุนแรงมากขึ้นทุกที

    ในเมื่อนทีธัชช์ยังไม่ออกปากขอกำลังเสริมจากเขา ธายุกรก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากรอเวลา

    เอารถนายไป ครามคุ้นทางแล้วละมั้ง ไปสิ อย่าเสียเวลา ไปตอนนี้เลย

    คณพัฒน์ฟังคำสั่งจากคนกุมอำนาจแล้วก็ได้แต่ส่งเสียงตอบรับ ยื่นมือรับกุญแจรถมาจากธายุกร หันมองไกรวีที่ทอดสายตามองนทีธัชช์อยู่เงียบ ๆ ก็ยกยิ้มเป็นมิตร เอ่ยบอกให้ดวงตากลมสวยเหลียวมามองกัน

    ไปกันครับคุณกร ใกล้เที่ยงแล้วด้วย เดี๋ยวผมพาคุณกรไปกินข้าวอร่อย ๆ ฝีมือแม่ศุดีกว่าแล้วจะให้ผมแนะนำคุณกรกับพ่อกับแม่ว่ายังไงครับคุณที

    นทีธัชช์หรี่เรียวตา รู้ว่าคำถามนั้นไม่ใช่คำถามไร้เดียงสาไม่รู้ความ หากก็ยังตอบออกไปคนสำคัญ

    ครับ คนสำคัญของคุณทีเนอะครับ

    คณพัฒน์ตีหน้าซื่อ ขณะที่นายใหญ่ของหมอกรักษ์อย่างธายุกรจุดยิ้มเงียบเชียบ นทีธัชช์เองแม้ไม่ตอบโต้อะไรหากก็ยังมีสายตาคาดโทษส่งไปให้ จะมีก็แต่ไกรวีนี่ล่ะที่ได้แต่ทอดถอนใจ พยักหน้ากับคนที่ดวงตาแวววาวเหมือนพอใจที่กลั่นแกล้งนทีธัชช์ได้ให้ออกเดิน

    แม่ศุต้องชอบเรื่องนี้มากแน่ ๆ ครับคุณที

    คณพัฒน์ทิ้งท้ายไว้เท่านั้นก่อนประตูห้องจะปิดลง สองหนุ่มในห้องทำงานเลยได้แต่มองตามร่างสองร่างที่เดินห่างออกไปทุกที กระทั่งลับสายตาแล้วจึงเป็นธายุกรที่หันมามองพี่ชายก่อน ได้เห็นว่ายังมองตามแม้จะไร้ร่างสองคนนั้นแล้วก็เลยได้จุดยิ้ม เอ่ยถาม

    คงเป็นคนที่สำคัญจริง ๆ ใช่รึเปล่าครับ

    นั่นทำให้นทีธัชช์ละสายตาจากความว่างเปล่ากลับมาที่น้องชาย พยักหน้าน้อย ๆ แล้วตอบกลับด้วยเสียงทุ้มลึกจริงจังใช่ สำคัญมากในทุก ๆ ความหมาย...นั่งลงเถอะ คงมีเรื่องต้องคุยกันยาว กินอะไรเลยไหม จะได้โทรไปสั่งที่โรงอาหาร

    นี่คงเป็นเรื่องที่จริงจังเกินกว่าจะสละเวลาทำอย่างอื่น ธายุกรคิดเท่านั้นก็พยักหน้า เอ่ยปากถึงเมนูง่าย ๆ ที่อยากกินเป็นมื้อเที่ยง รอให้นทีธัชช์ต่อสายถึงวิรงรองจึงค่อยกลับมาสบตากันอีกครั้ง

    และเรื่องราวหลังจากนั้น เขาสองคนไม่แน่ใจเลยจริง ๆ ว่าทำไมถึงยังคุยไปกินข้าวไปได้เหมือนหัวข้อสนทนาเป็นเรื่องดินฟ้าอากาศ

    ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้วไม่ใช่เลย ไม่ใช่สักนิดเดียว

     

    ถ้าเป็นไปได้ผมก็อยากอยู่ฝึกงานที่นี่เกินหนึ่งเดือนแหละครับพี่กร แต่พอดีติดถ่ายละครต่อสามเดือน จะให้ไป ๆ มา ๆ ไม่ต่อเนื่องคุณทีเขาไม่เห็นด้วย เลยลงมติมาว่าให้เวลาแค่เดือนเดียว

    ไกรวีนั่งเงียบรับฟัง พยักหน้าอย่างเห็นด้วยเมื่อได้รู้ถึงเหตุผลของระยะเวลาการฝึกงานที่น้อยเกินไปในความคิดเขา และเพราะเวลามีน้อย นทีธัชช์ผู้ไม่เคยปรานีใครจึงวางแผนงานให้คณพัฒน์กรำงานอย่างหนักหน่วง

    คราวแรกก็แปลกใจที่คณพัฒน์บอกเขาก่อนลงรถเมื่อถึงบ้านไม้หลังใหญ่ในหมอกรักษ์ว่าอย่าพูดถึงแผนการฝึกงานที่รินทร์ธาราให้ผู้สูงวัยฟังเป็นอันขาด แต่พอได้เข้าไปหา ทำความรู้จักกับปพนและศุภางค์จึงเข้าใจ คร่าว ๆ ที่รู้จากปากคณพัฒน์ที่เล่าเรื่องตัวเองให้ฟังระหว่างเดินทางไปหมอกรักษ์ก็คิดแล้วว่าคณพัฒน์คงเป็นที่รักไม่เบา ครั้นได้เห็นกับตาก็รู้แล้วล่ะว่าทำไมจึงไม่ควรพูดถึงแผนงานอันหนักหนาสาหัสให้ศุภางค์ฟัง

    ถ้าไม่ไหวก็บอกพี่แล้วกัน งานหนักมากไปจริง ๆ แหละคราม

    สบายครับ ผมเคยต้องขุดดินจนเป็นลมมาแล้ว เคยมาดูงานที่รินทร์ธาราก็สองครั้ง คุณทีเล่นผมใช่ย่อยเลย ครั้งนี้ผมเลยเตรียมรับมือมาแล้วล่ะครับ

    ไกรวียิ้มขำ ถ้าพูดถึงเรื่องรับน้องอันแสนจะโหดร้ายซ้ำยังกวนประสาทล่ะนทีธัชช์ถนัดนักครามเคยโดนอะไรบ้าง

    ให้ร่อนไข่ไส้เดือนด้วยมือตัวเองน่ะครับ แกล้งกันว่าเครื่องร่อนมันแยกได้แค่มูล มือแทบแตกแน่ะวันนั้นคณพัฒน์ได้ยินเสียงหัวเราะเบา ๆ ก็นึกครึ้มอกครึ้มใจ ถึงจะจอดรถที่หน้าสำนักงานรินทร์ธาราแล้วก็ยังถามพี่กรต้องเคยเจอเหมือนกันแน่ ๆ

    ใช่ครับ เคยเจอ

    คนฟังรีบลงจากรถ สาวเท้ามาหยุดข้างตัวไกรวีแล้วถามต่อโดนอะไรบ้างครับเนี่ย

    ให้พี่อยู่ที่นี่แบบไม่มีไฟฟ้าใช้สามวัน

    โห

    ระหว่างนั้นก็ให้พี่ปั่นจักรยานทำสมูทตี้ด้วยน่ะ

    ใจร้ายมากกก คนสำคัญขนาดนี้ยังใจโหดใจเหี้ยมได้ลง คุณทีนี่เป็นคนยังไงครับ

    เป็นคนที่ถ้าได้ฟังตัวเองถูกนินทาอีกนิด คนนินทาก็อาจจะไม่ได้ลายเซ็นอนุมัติผ่านฝึกงานน่ะ

    คณพัฒน์แทบสำลักน้ำลาย เพราะคำตอบนั้นไม่ได้ดังมาจากปากไกรวี แต่เป็นตัวบุคคลในบทสนทนานี่ต่างหากเล่า!

    พอจะหันไปขอความช่วยเหลือจากธายุกร คนนั้นก็เอาแต่ยิ้มขำ จะสบตากันก็ดันเสมองไปทางอื่นอย่างจงใจ ให้รู้ว่าเรื่องนี้จะไม่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ เพราะเขาทำตัวของเขาเอง

    สวัสดีครับคุณกร

    ไกรวียกยิ้ม มองเห็นคนมาใหม่ที่เพิ่งเดินออกมาจากสำนักงานก็พยักหน้ารับการทักทายครับคุณราม

    เดี๋ยวพี่กับรามจะเอาก้อนดินหมักออกไปแจกจ่ายให้เกษตรกรรายย่อยรอบ ๆ พื้นที่นะ กรไปเอากุญแจกับคุณมลแล้วพาเด็กฝึกงานไปบ้านพักหลังที่ว่างแล้วกัน เดี๋ยวคุณมลจะนำทางไปเอง

    ไกรวีพิจารณาเพียงอึดใจหนึ่งก็พยักหน้า หันไปทางธายุกรบ้างคุณธารล่ะครับ ไปกับพี่ทีไหม

    ไม่ครับ ผมจะไปกับคุณกรกับคราม จะได้ดูที่หลับนอนของเด็กฝึกงานเขาเสียหน่อย

    งั้นแยกย้ายกันตรงนี้เลยแล้วกัน ไป ราม จะได้เสร็จงานก่อนตะวันตกดิน

    นทีธัชช์กับเมืองรามแยกไปอีกทางแล้ว ขณะที่ไกรวียังคงมองตามไม่วางตา หากเมื่อพบว่าคงไม่มีประโยชน์อะไรที่จะมองทั้งสองคนจนลับตาอย่างนั้น จึงหันกลับมามองสองคนจากหมอกรักษ์แล้วยกยิ้มให้ เดินนำไปหาณกมล เจ้าหน้าที่ดูแลหอพักซึ่งตัวตึกอยู่ถัดเข้าไปจากสำนักงานพอควร

    ระหว่างนั้นเองที่เขาครุ่นคิดถึงเรื่องบางเรื่องอย่างเงียบ ๆ คนเดียว

     

    คุณกรดูสบายใจดีแล้วนะครับพี่ที

    เมืองรามเปิดปากขึ้นหลังจากมองเห็นสีหน้าสีตาของไกรวีที่สดชื่นห่างไกลจากรอยตระหนกที่เขาพบเมื่อหลายวันก่อน หากคนฟังกลับไม่พูดอะไรในคราวแรก เขาเปิดประตูขึ้นรถได้ก็สตาร์ตเครื่อง รอจนเมืองรามคาดเข็มขัดนิรภัยจึงเคลื่อนล้อแล้วค่อยตอบคำ

    ใช่ กรเขาเข้มแข็งกว่าที่เห็นน่ะ วันต่อมาก็เป็นปกติแล้ว มีแค่ร่างกายที่ปวดระบมบ้างจากแรงกระแทก

    แรงกระแทกเหรอครับ

    นทีธัชช์นิ่งไปนิดใช่ แรงกระแทก

    ดูจากรอยยุบของด้านหลังแล้วก็น่าจะกระแทกแรงอยู่ใช่ไหมครับ ผมเข้าใจ อย่างน้อยก็คงปวดแขนอยู่บ้าง

    เมืองรามระบายลมหายใจยาว นิ่งเพื่อรอฟังการตอบกลับจากนทีธัชช์ทว่าไม่มี หากนั่นก็ยังเป็นเรื่องที่เคยชินสำหรับเขา นทีธัชช์วางใจให้เขาเป็นน้องชายคนหนึ่ง แต่ยังคงมีกำแพงตั้งชันเพื่อแบ่งเขตของความสนิทสนมอยู่ดี

    ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร และเมืองรามก็ไม่คิดอะไร

    พี่ไม่คิดว่ามันจะเป็นอุบัติเหตุ

    ทว่าจู่ ๆ ถ้อยคำที่ดังขึ้นจากนทีธัชช์ก็ทำให้ชายหนุ่มหันมอง เรียวคิ้วได้รูปขมวดเข้าหากัน สีหน้าทั้งงุนงงและแปลกใจหมายความว่ายังไงครับ

    มีคนจงใจทำร้ายกร

    ลำคอของเมืองรามแห้งผาก การได้รับรู้สัญญาณอันตรายที่นทีธัชช์ได้เจอทำเขาใจหล่นวูบ ชายหนุ่มไม่แน่ใจนักว่าควรรู้สึกอย่างไรในตอนที่เรียวตาคมกริบเสมองมา แม้จะเป็นวินาทีแสนสั้นหากก็ยังมีอิทธิพลมากพอจะทำให้ชายหนุ่มมือเย็น

    ตกใจเหรอราม

    ครับชายหนุ่มตอบไปตามความจริงถ้าวันนั้นผมขับรถออกจากนาเร็วกว่านั้นหน่อย ผมอาจจะพอช่วยอะไรคุณกรได้

    กรเขาดวงแข็งน่ะนทีธัชช์จุดยิ้ม ไม่รู้ว่าเป็นยิ้มขำหรือยิ้มเย็นกันแน่ พี่ไม่ยอมให้ใครทำอะไรกรได้อยู่แล้ว นายไม่ต้องห่วงนะราม

    ไม่ยอมให้ใครทำอะไรไกรวีอย่างนั้นหรือเมืองรามนิ่งคิด ก่อนค่อย ๆ คลายริมฝีปากเป็นรอยยิ้มล้อเลียนคนสำคัญของพี่ทีใช่รึเปล่าครับ

    ตามปกติ นทีธัชช์คงแค่หัวเราะหึแล้วเบี่ยงไปประเด็นอื่น ทว่าคราวนี้ชายหนุ่มกลับจุดยิ้มลึก ไม่ปฏิเสธหรือเลี่ยงคำถามที่ได้รับอีกแล้ว เขาซึมซับถ้อยคำถามจากหนุ่มรุ่นน้อง นัยน์ตาคล้ายเป็นประกายแวววาวยามทอดมองถนนเบื้องหน้า อีกครู่หนึ่งหลังจากปล่อยให้ภายในรถเงียบสนิทถึงเอ่ยออกไป

    เป็นคำตอบเดียวกับที่มีให้ธายุกร

    สำคัญมาก ในทุก ๆ ความหมายของพี่

    ในทุก ๆ ความหมาย เพราะอย่างนั้นถึงสามารถแตะต้องต้นนางพญาเสือโคร่งสีขาวที่นทีธัชช์หวงแหนได้ ถึงได้ร่วมเดินทางและมีส่วนร่วมในการทำงานทุกอย่างของนทีธัชช์ได้ ทั้งยังได้อยู่ร่วมบ้าน ได้ความห่วงหาอาทรจากนทีธัชช์อย่างที่เมืองรามไม่เคยเห็นชายหนุ่มมอบมันให้กับใคร

    ไกรวีช่างเป็นคนสำคัญที่น่าร่วมแสดงความยินดีด้วยจริง ๆ

     

    เอาละลายทิ้งไว้ก่อนนะครับลุง พอมันแตกตัวจะส่งกลิ่นหน่อย ลุงค่อยตักไปผสมกับน้ำที่จะใช้รดดินตามอัตราส่วนที่ผมเขียนไว้ให้ในนี้

    นทีธัชช์ส่งกระดาษที่บ่งบอกวิธีใช้ดินดีหมักเพื่อฟื้นฟูสภาพดินแห้งแตกขาดสารอาหารให้เกษตรกรรายหนึ่งซึ่งอยู่ในเครือข่ายของรินทร์ธารา มองเมืองรามที่ยกกระสอบบรรจุดินดีหมักเป็นก้อนกลมอยู่ครึ่งกระสอบ ซึ่งเป็นปริมาณที่นทีธัชช์จะส่งต่อมอบให้เกษตรกรแต่ละรายอย่างเท่าเทียมกัน เห็นเมืองรามวางกระสอบลงเรียบร้อยแล้วก็หันไปรับฟังปัญหาจากคุณลุงเกษตรกรต่อ

    ปีนี้แล้งพอควรเลยนะคุณที ลุงว่าที่ดินแห้งก็เพราะน้ำมันเลี้ยงไม่พอด้วยนี่แหละ น้ำที่มันไหลผ่านหนองมาก็แห้งกว่าเดิม

    อีกหน่อยเราจะมีน้ำใช้มากกว่านี้ครับลุง ผมกับธารขุดคลองไว้แล้ว ถ้าปีนี้ฝนดี ต่อไปถ้าแห้งมากก็จะยังมีคลองตรงนั้นไว้เป็นที่เก็บน้ำ ใครน้ำไม่พอใช้ก็ไปเอาได้ ถ้ามีความคืบหน้ายังไงผมจะเล่าให้ฟังตอนประชุมใหญ่อีกทีนะครับ

    เกษตรกรสูงวัยคลายยิ้มอย่างเบาใจ ยกมือขึ้นไหว้จนนทีธัชช์ที่กำลังจะหมุนตัวเดินไปที่รถยกมือรับไหว้แทบไม่ทัน ได้รับคำขอบคุณอีกหลายครั้งก็ให้จุดยิ้ม พยักหน้าให้เมืองรามก้าวเดินไปที่รถ กระทั่งนั่งลงยังตำแหน่งของตัวเองได้ก็ถอนหายใจยาว

    หมดแล้วนะ เหลือที่เดียวคือสวนของนาย ไปกันเลยไหม

    เมืองรามนิ่วหน้า ปฏิเสธเสียงเกรงใจอย่าดีกว่าครับพี่ที ยังไงผมก็ขับรถใหญ่ทิ้งไว้ที่รินทร์ธาราอยู่แล้ว เดี๋ยวผมเอากลับเองดีกว่า นี่ก็ใกล้ค่ำแล้วด้วย

    อย่างนั้นก็ได้นทีธัชช์ไม่ใช่คนชอบต่อความยาวสาวความยืด ดังนั้นจึงตอบกลับไปง่าย ๆ อย่างไม่ได้สนใจอะไร ชายหนุ่มเคลื่อนล้อไปตามเส้นทางที่จะกลับเข้ารินทร์ธารา เห็นชาวนาบางคนยังอยู่ที่ที่ดินของตัวเองก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ที่จริงพี่ไม่ได้ไปดูสวนของนายตั้งแต่เมื่อไหร่แล้วนะราม

    คนได้รับคำถามนิ่งไปอีกครู่หนึ่งน่าจะเกือบปีได้แล้วมั้งครับ

    นานขนาดนั้นเลยเหรอ ขอโทษทีนะ

    ผมเองต่างหากที่บอกพี่ทีว่าไม่ต้องไป พี่ทีอย่าขอโทษผมเลยครับ

    นทีธัชช์เลยยกยิ้ม หันมองหนุ่มรุ่นน้องแล้วอดชมไม่ได้นายเก่งมากนะราม เรียนรู้งานจากพี่ได้ไว เห็นจัดการพื้นที่ตัวเองได้ดีขนาดนี้พี่ก็เบาใจ

    ต้องขอบคุณพี่ทีครับ

    คนฟังเลยส่ายหน้า เพราะว่ากันตามตรง ถึงเขาจะเป็นคนมอบวิชา แต่ถ้าลูกศิษย์ไม่คิดรับความรู้ก็คงไปไม่รอด กับเมืองรามเองที่แสดงให้เขาได้เห็นว่าทุกอย่างเป็นไปได้ดี นั่นต่างหากที่ดีที่สุดแล้วในฐานะคนที่มอบความรู้ให้

    และมันจะดีมากกว่านี้ หากเขาได้รู้ว่าเมืองรามนำเอาความรู้ไปใช้ในทางที่ถูกที่ควร

     

    มีอะไรกินบ้าง

    คำถามดังขึ้นที่ด้านหลัง ให้ไกรวีที่นั่งทำงานอยู่ชานเรือนหลังบ้านเงยหน้าขึ้นจากจอส่องสว่าง ยกยิ้มเมื่อเห็นดวงตาคมกริบเป็นประกายยามทอดมองมา

    อาบน้ำก่อนไหมครับ เดี๋ยวผมเตรียมให้

    ขอชื่นใจก่อน

    ไม่พูดเปล่า นทีธัชช์ยังทิ้งตัวลงนั่งข้างกัน รั้งร่างสันทัดให้เข้าสู่อ้อมแขน กดจมูกลงกับแก้มขาวที่ส่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ ให้ได้รู้ว่าเจ้าตัวจัดการตัวเองเรียบร้อยดีแล้ว และนั่นก็ทำให้ปมที่ขมวดในอกคลายออก ชายหนุ่มหอมแก้มไกรวีซ้ำ ๆ อยู่สี่หน และอาจจะครบห้าถ้าไม่ใช่ว่าคนถูกกอดถูกหอมจะเอี้ยวตัวหลบเสียก่อน

    พอแล้วครับ

    ทำไมล่ะ หรือกรคิดว่าตัวเองเสียเปรียบนทีธัชช์ถามอย่างนั้นก่อนจะหันแก้มให้ไกรวีมองพี่ให้หอมคืน

    คนได้รับโอกาสที่จะไม่เสียเปรียบเลยส่ายหน้า ขยับตัวหมายจะออกจากวงล้อมอ้อมกอด แต่นทีธัชช์ก็ยังรั้งไว้ ทั้งยังแน่นกว่าเก่าจนแผ่นหลังไกรวีแทบฝังกับอกเขา ชายหนุ่มจุดยิ้มพึงใจเมื่อที่สุดไกรวีก็หยุดนิ่ง ฉวยความหอมจากแก้มขาวอีกครั้ง วางคางเกยไหล่ลาดแล้วหยุดคิดถึงบางสิ่งอย่างเงียบ ๆ

    อีกพักถึงทอดถอนลมหายใจยาว เอ่ยคำใกล้ ๆ หูคนในอ้อมแขน

    พี่คิดว่าพลอยพร้อมแล้วนะ

    เพชรพริ้งอย่างนั้นหรือไกรวีเงียบ ทอดสายตามองดอกนางพญาเสือโคร่งที่พลิ้วระริ่วตามกระแสลม อีกครู่ถึงหลับตาลง นิ่งคิด ก่อนเอ่ยตอบในที่สุด

    ผมก็พร้อมแล้วเหมือนกันครับ

    สองสายตาสบสาน หากการที่ใบหน้าของนทีธัชช์ขยับโน้มเข้าใกล้ไม่ใช่ด้วยบรรยากาศเป็นใจ แต่เพราะนัยน์ตาคู่กลมที่บอกชัดถึงความต้องการที่จะหยัดยืนอยู่ที่ตรงนี้โดยที่จะไม่หนีหายไปไหนแม้ว่านั่นจะเป็นสิ่งที่นทีธัชช์ต้องการ

    เปลือกตาบางปิดสนิทยามริมฝีปากหยักประทับลงมายังกลีบปากของเขา ไกรวีรับสัมผัสอุ่นอ่อนนั้นด้วยหัวใจอันมั่นคง ตอบกลับด้วยความวูบไหวที่เป็นดั่งกลีบดอกสีขาวนวลของนางพญาเสือโคร่งที่ลอยละล่องอยู่ในอก

    และทั้งสองต่างรู้ดี ว่าจุมพิตที่มอบให้กันซ้ำแล้วซ้ำเล่า ณ ที่แห่งนี้ จะโอบกอดและดูแลหัวใจของพวกเขา...ไม่ว่าหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม





    โปรดติดตามตอนต่อไป




    ธายุกรกับคณพัฒน์จาก "พระพายพรางเดือน" นะคะ

    ใครยังไม่เคยอ่านลองไปอ่านกันได้น้าาา


    ห่างหายจากการเขียนธาราไปนานเพราะไปเขียนพระพายก่อนค่ะ :)

    ทางนั้นจบแล้ว ก็คงเป็นเรื่องของทางนี้ที่ต้องสะสางให้เรียบร้อย

    พี่ทีวางแผนอะไรไว้อีกน้อออ รู้แต่ว่าพี่ทีข่นบว้าจูบคุณกรไปแล้วค่ะ

    กิ๊ดดดดดดดดดดดดด



    #ธาราโอบจันทร์ หรือ คอมเมนต์ หรือ กดให้กำลังใจ นะคะน้าาน้าน้าน้า

    ขอบคุณค่าา





     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×