ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (exo) DON'T TRUST ME , CHU~♥ (ChenMin or XiuChen ?)

    ลำดับตอนที่ #3 : DON'T TRUST ME , CHU~♥ 0 2

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 262
      2
      4 ก.พ. 58

      

     

     

    DON’T TRUST ME , CHU~

    0 2

     

     

     

     

     

                รถคันใหญ่เคลื่อนออกไปจากหน้าบ้านแล้ว ทิ้งเอาไว้ให้ผมยืนส่งมองตามจนกระทั่งลับตาไป ผมพรูลมหายใจเพื่อผ่อนคลายตัวเอง หันหน้ากลับเข้าบ้านเพื่อผจญกับอีกหนึ่งสายตาที่มองมาทางผมอย่างมีเลศนัย

     

                “มองอย่างนั้นทำไมเนี่ย?

     

    ผมถามออกไปอย่างนั้น และแน่นอนว่ายิ่งทำให้ได้รับรอยยิ้มกว้างขวางจากเจ้าของโครงหน้าคมเข้ม คิม จงอินส่ายหน้าไปมาไม่ตอบอะไร เหมือนจะเรียกร้องให้ผมยิ้มตอบกลับไปเช่นเดียวกัน และใช่ ผมค่อย ๆ คลี่ยิ้มขึ้นจนมุมปากที่เหมือนยกยิ้มตลอดเวลาอยู่แล้วของผมกลายเป็นยิ้มกว้างขวาง

               

    ยิ้ม...ที่พี่มินซอกบอกว่าน่ารักนักน่ารักหนา

     

    อืมใช่ ผม คิม จงแด คนน่ารักของพี่มินซอกไงล่ะครับ

     

              น่ารักเหรอ? ให้ตายเหอะ!

     

                “คืนนี้ผมค้างบ้านพี่นะ”

     

                จงอินบอกผมเหมือนขออนุญาต แต่ที่จริงผมรับรู้ตั้งแต่ไปรับหมอนี่มาถึงบ้านแล้ว เพราะจงอินหอบกระเป๋าเป้ใบตุงที่คาดว่าน่าจะมีของใช้อย่างอื่นเกินความจำเป็นใส่มาด้วย ไม่ต้องบอกก็รู้ ไม่ต้องขอก็คงต้องจำใจรับ ผมได้แต่พยักหน้าให้กับคำขอนั้น ส่วนจงอินก็ยักไหล่อย่างไม่แยแสในกระแสสายตาของผมที่จ้องมองไปหมายจะเอ็ดตะโร

     

                ความจริงจงอินกับผมอายุห่างกันแค่หนึ่งปีเท่านั้นเอง อันที่จริงไม่ถึงปีดีด้วยซ้ำละมั้ง แต่ยังไงผมก็มีศักดิ์เป็นพี่ แต่ในความเข้าใจของเราทั้งสองคนก็ไม่ต่างอะไรจากเพื่อนสนิทกันนักหรอก

     

                อาจจะเหมือนพี่มินซอกกับพี่จุนมยอน ประมาณนั้น

     

                “ถามจริงเหอะ นึกไงมานั่งตักตั้งนานสองนาน คิดว่าผมเอ็นดูพี่มากสินะ?

     

                ผมไม่ได้ตอบอะไรออกไป เพียงแต่หันไปยกยิ้มมุมปากให้ก็เท่านั้น จงอินรู้ดีว่าทำไมผมถึงทำ และคำถามนั้นก็ไม่ได้ทำให้ใจผมระแคะระคายสักเท่าไหร่ คำว่าเอ็นดูของจงอินเป็นคำโดยทั่วไปในการแสดงออกถึงความรักอย่างหนึ่ง ผมรู้ดีว่าหมอนี่ขยาดผมแทบตายที่ขึ้นไปนั่งบนตักมัน

     

                แต่ขอหน่อยเถอะ ไม่รู้เลยหรือว่ามีสายตาคู่หนึ่งมองผมแทบจะตลอดเวลา หึหึ

     

                “พิซซ่ายังเหลือตั้งเยอะแน่ะ”

     

                “เก็บไว้กินมื้อค่ำ”

     

                ผมทำหน้าเหม็นเบื่อใส่เจ้าน้องเล็กของตระกูล “เบื่อจะตายอยู่แล้ว แกคิดว่าฉันกินพิซซ่ามากี่มื้อแล้ววะ!

     

                “เอ๊า~” จงอินแสร้งขึ้นเสียงสูงราวกับประหลาดใจนักหนา “แล้วใครบอกให้พี่เสนอเมนูพิซซ่าล่ะครับหืม?

     

                ผมเหยียดมุมปากมากขึ้นจนกลายเป็นยิ้มร้าย ใช่แล้วล่ะ ยิ้มร้าย ยิ้มแบบที่พี่มินซอกจะไม่มีวันได้เห็น ผมยินดีที่จะเปิดเผยเพียงด้านน่ารัก ๆ ใส ๆ เหมือนน้องจงแดคนน่ารักเมื่อครั้งในอดีต บางทีพี่มินซอกอาจจะหลงลืมไปว่าตอนนี้ผมโตขึ้นมากแล้ว อายุที่เพิ่มขึ้นและสังคมที่เริ่มเปิดกว้างทำให้ผมเปิดหูเปิดตา ผมไม่ได้ทิ้งความเป็นคนเดิมให้หายไปไหน เพียงแต่เพิ่มเติมในบางสิ่งที่คิดว่าใช่สำหรับตัวเองเข้ามาด้วย แต่ถึงอย่างนั้นในตอนที่ผมเจอพี่ ๆ และรวมไปถึงบรรดาญาติพี่น้อง ผมก็ยังคงแสดงออกว่าเป็นเด็กสดใสร่าเริงน่ารักน่าชังเหมือนเดิม

     

                ผมฉลาดพอที่จะรู้ว่าควรแสดงออกแบบไหนกับใครบ้าง

     

                ไม่ใช่การใส่หน้ากาก ก็แค่รู้กาลเทศะเท่านั้นเอง

     

                ว่าแต่เมื่อกี้จงอินถามผมว่ายังไงนะ?

     

                “ก็พี่มินซอกชอบนี่”

     

                ผมตอบด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ ต่างจากรอยยิ้มร้ายที่มันยังเปื้อนใบหน้าของผมอยู่ จงอินเหลียวสายตามองมาที่ผมพลางทิ้งตัวลงนั่งบนฟูกนอน พาตัวลงนอนจมหมอนใบนุ่มแล้วกดแน่นอยู่อย่างนั้น ตอนแรกผมค่อนข้างประหลาดใจกับการกระทำของมัน แต่พอได้ยินเสียงสูดหายใจเฮือกใหญ่ตอนที่ค่อย ๆ ผละใบหน้าเข้ม ๆ ของมันออกห่าง เท่านั้นก็ชี้ชัดได้ในทันทีว่าจงอินทำไปเพื่ออะไร

     

                “หอมเป็นบ้า”

     

                มันกำลังกวนประสาทผม “จงอิน”

     

                “กลิ่นพี่มินซอกว่ะพี่จงแด โอ้โห หอมมาก...”

     

                จงอินส่งเสียงลากยาว ให้ผมแทบจะปาค้อนเล็กที่ยังวางค้างอยู่บนโต๊ะเขียนหนังสือใส่มัน บางทีจงอินก็ชอบยั่วผมให้อารมณ์เสียด้วยเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ใครจะรู้ว่าทุกความเป็นไปของพี่มินซอกในการแสดงออกอย่างออกหน้าออกตาของทุกคนเป็นเรื่องใหญ่ของผมเสมอ

     

                ใช่ ผมหวง และหวงมาก หวงจนคิดว่าหากมีใครมากอดรัดพี่มินซอกแน่น ๆ ต่อหน้าต่อตา บางทีความเป็นผมในอดีตที่ยังแสดงออกต่อพี่มินซอกจะหายไป และมันจะกลายเป็นคิม จงแดคนปัจจุบันเต็มตัว

     

                “ถอย จะเอาหมอนใบอื่นมาให้”

     

                ผมว่าอย่างนั้นด้วยท่าทีเคือง ๆ ยังผลให้จงอินหัวเราะชอบใจแต่ก็ยอมขยับลงจากฟูก ด้วยเพราะความจริงแล้วจงอินไม่มีสิทธิ์นอนบนฟูกของผม ว่ากันตามจริงก็ไม่มีใครมีสิทธิ์ทั้งนั้นนั่นแหละ ยกเว้นคิม มินซอกคนนั้น คนที่ผมสามารถออดอ้อนถูไหน้ากับแขนได้ตลอดเวลา

     

                รู้ไหมว่าเวลาที่ผมเข้าใกล้แล้วไอร้อนแผ่กระจายจากร่างของคนที่ผมมั่นใจว่าอีกไม่นานผมจะสูงมากกว่า ผมนี่...อื้อหือ...ไอร้อน ๆ กับดวงตากลม ๆ เป็นประกายที่พยายามเก็บซ่อนความรู้สึกนั่น

     

                น่าจับมาเอ็นดูเป็นบ้า!

     

                “เอาจริง พี่คิดว่าพี่มินซอกกำลังคิดอะไรอยู่”

     

                หืม? “ก็คง...หวงฉันตามประสาน้องที่รักที่สุดมั้ง”

     

                ผมไม่มั่นใจเลย ผมพยายามอยู่หลายครั้งที่จะมองให้ออกว่า ณ เวลานั้นพี่มินซอกคิดอะไรอยู่ แต่พอผมกำลังจะดึงตัวตนของความคิดที่หลบลึกนั่นได้ พี่มินซอกที่สุขุมก็จะพาความรู้สึกให้จมลึกลงไป

     

                มีหลายครั้งที่จงอินบอกผมว่าพี่มินซอกก็คงคิดไม่ต่างจากผม แต่ขอโทษเถอะ ท่าทางนิ่ง ๆ ดูอ่อนโยนเป็นสุภาพบุรุษแบบนั้นน่ะนะจะคิดอะไรที่เหมือนกับผม

     

                มา ผมจะสาธยายให้รู้ว่าผมคิดยังไงกับคิม มินซอก

     
    ข้อที่ 1 พี่มินซอกเป็นผู้ชายตัวอวบอ้วนในอดีตที่ตอนนี้ผันแปรมาเป็นผอมแต่ไม่แห้ง ยังดูมีน้ำมีนวลซึ่งอาจจะเกี่ยวเนื่องมาจากปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ที่แน่ ๆ ผมจำได้ว่าตัวเองเคยงอแงกับพี่เขาว่าไม่อยากให้พี่มินซอกผอมมากจนเกินไป ซึ่งไม่ว่าจะเพราะอะไรก็เถอะ แต่ทั้งหมดทั้งมวลนั่นน่ะ น่ากอดรัดแน่น ๆ มาก ๆ

     

    ข้อที่ 2 ใบหน้าของพี่มินซอกค่อนข้างกลมกว่าในบรรดาลูกพี่ลูกน้องทั้งหมด และน่าแปลกที่แก้มของพี่มินซอกไม่ได้ซูบผอมลงตามร่างกาย มันยังกลมดิกแถมยังเปล่งปลั่งเวลาหัวเราะอย่างอารมณ์ดี น่าหยิกน่าดึงเป็นอย่างมาก

     

    ข้อที่ 3 เสียงทุ้มต่ำของพี่มินซอกที่บางทีผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมมันถึงได้นุ่มนวลนัก ไม่แน่ชัดว่าเป็นเฉพาะเวลาคุยกับผมรึเปล่า เพราะเท่าที่สังเกตแล้วเสียงของพี่มินซอกค่อนข้างดุเวลาคุยกับจงอิน แต่ก็นั่นแหละ เพราะเสียงอย่างนั้นนั่นแหละ น่าทำให้ร้องครางเป็นบ้า

     

    ข้อที่ 4 ด้วยสรีระของพี่มินซอกที่ดูเหมือนจะเริ่มหยุดสูง และเพราะร่างที่ผอมลงจากเมื่อก่อนมากโข แต่ถึงอย่างนั้นแขนของพี่มินซอกก็ยังมีกล้ามเนื้อเป็นมัดพอประมาณดูแข็งแรง แต่รู้อะไรไหม เพราะร่างกายที่ดูประเปรียวสันทัดแต่ก็มีกล้ามเนื้อนั่นแหละ น่าทำให้ดิ้นรนใต้ร่างผมชะมัด

     

                ที่จริงยังมีข้อ 5 , 6 , 7 , 8 และไปเรื่อย ๆ อีกเยอะแยะ แต่ถ้าผมสาธยายซะหมด อย่างนั้นเรื่องคงจบไม่สวยแน่

     

                เอาเป็นว่าผมคิดกับพี่มินซอกแบบไม่บริสุทธิ์ใจเท่าไหร่ อา...ต้องบอกว่าไม่บริสุทธิ์ใจอย่างมาก น่าจะเข้าท่ากว่า

     

                ถ้าพี่มินซอกเป็นคนอื่นผมอาจจะพุ่งเข้าหาพร้อมจับล็อกตัวแล้วกดลงฟูกในทันทีที่มีโอกาส...ซึ่งโอกาสมีบ่อยมากสำหรับผม แต่เพราะพี่มินซอกคือพี่ชายซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้อง จะว่ามีสายเลือดเดียวกันหนึ่งทางก็ว่าได้ ถึงแม้จะไม่ได้เต็มแน่นทุกสายแบบพวกเลือดบริสุทธิ์จากแฮร์รี่ พอตเตอร์ก็เถอะ แต่คำว่าลูกพี่ลูกน้อง ญาติ และลุงป้าน้าอาปู่ทวดย่าทวดต้นตระกูลก็ค้ำคอให้ผมไม่สามารถกระทำอย่างที่ใจคิดได้

     

                แต่ก็ยังดีที่พี่เขายังไม่รู้ธาตุแท้ของผม ได้เต๊าะพี่เขาเล็ก ๆ น้อย ๆ ผ่านการเป็นน้องจงแดคนน่ารักขี้ออดขี้อ้อนก็ยังดี

     

                สรุปคือผมอยากจะจับพี่มินซอกกิน ซึ่งนั่น...ถ้าพี่มินซอกคิดเหมือนกัน ผมคงไม่เห็นดีด้วย

     

              เพราะผมจะไม่ยอมให้พี่มินซอกจับผมกินอย่างแน่นอน

     

                “ตาพี่มินซอกตอนมองเราสองคนวินาทีแรกนี่แทบจะกินผมหมดตัวแล้วมั้ง กินในที่นี้คือทำให้หายไปจากโลก โคตรน่ากลัว”

     

                คำพูดของจงอินทำให้ผมหัวเราะเสียงดังลั่นห้อง ยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเองเพื่อยับยั้งไม่ให้ตัวเองขำขันไปมากกว่านี้ ก็เพราะผมไม่รู้นี่ไงว่าจริง ๆ แล้วพี่มินซอกคิดยังไง เพราะอย่างนั้นเวลาแอบยั่วให้พี่มินซอกโกรธแบบนี้ถึงเป็นเรื่องสนุกมาก อันที่จริงก็อยากรู้นักเชียวว่าถ้าพี่มินซอกไม่ได้หวงผมแบบน้องชายสุดรัก แล้วพี่มินซอกจะหวงในรูปแบบไหนกัน?

     

                และยังคงยืนยันว่าผมไม่ต้องการให้พี่มินซอกจับผมกิน

     

                “น่าเอ็นดูว่ะ”

     

                “พี่มินซอกน่ะนะ?” จงอินถาม กระตุกยิ้มมุมปากข้างหนึ่งอย่างยียวน ให้ผมพยักหน้ารับคำถามนั้นก่อนจะปาหมอนใส่มันให้ยกมือขึ้นรับได้ทันท่วงที “น่าเอ็นดูแบบไหนน้า~”

     

                “อ๋อ แบบไหนน่ะเหรอครับคุณ จงอิน”

     

                ผมเดินตรงไปยังตู้เสื้อผ้า เปิดตู้ขึ้นแล้วไล่กวาดสายตามองหาชุดที่จะผลัดเปลี่ยน ทำทีเหมือนไม่ได้สนใจจะตอบคำถามที่ก็รู้คำตอบดีอยู่แล้วสักเท่าไหร่ ก่อนจะเอื้อมมือหยิบไม้แขวนเสื้อซึ่งแขวนชุดนอนลายทางทั้งเสื้อและกางเกงออกมาแขวนกับที่จับประตูตู้ จัดการดึงเสื้อยืดสีชมพูอ่อนดูน่ารักให้ขึ้นเหนือศีรษะตัวเอง ก่อนจะหยุดชะงักแล้วเหลียวสายตาไปทางจงอิน กระตุกยิ้มร้ายแล้วตอบกลับไป

     

                “แบบที่จะทำให้พี่มินซอกถูกกลืนกินไปทั้งร่างแล้วหลอมละลายด้วยฝีมือผมยังไงล่ะครับ”

     

                ได้ยินเสียงผิวปากจากเจ้าจงอิน หากผมไม่ได้สนใจเท่าไหร่หรอก ก็แค่สะบัดเสื้อทิ้งลงพื้นแล้วหยิบเสื้อนอนมาสวม ติดเม็ดกระดุมอย่างใจเย็นจนกระทั่งเหลือไว้สองเม็ดด้านบนสุดแล้วค่อยถอดทั้งกางเกงและบ็อกเซอร์ออกแล้วผลัดเปลี่ยนเป็นกางเกงนอน หันไปยักคิ้วให้จงอินอีกรอบแล้วเดินออกมาจากห้อง

     

                ดื่มนมสักหน่อยดีกว่า สุขภาพจะได้แข็งแรง ได้สูงกว่าพี่มินซอกอีกนิด...เมื่อนั้นก็คงถึงเวลาที่ผมจะจู่โจมพี่เขาได้แล้วล่ะ หึหึหึ

     

     

     

    ~

     

     

     

                ไม่คิดว่าพี่มินซอกจะทำอย่างที่ว่าไว้จริง ๆ

     

                ทั้ง ๆ ที่เราเพิ่งจะเจอกันเมื่อสองวันก่อน และทั้ง ๆ ที่วันนี้ผมจำได้ว่าพี่เขามีเรียนจนถึงช่วงค่ำที่คณะ แต่ทำไมตอนนี้ถึงมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าผมพร้อมรถคันสวยที่หน้าโรงเรียนได้? นั่นก็เพราะพี่มินซอกจะพาผมไปขุนอย่างที่พี่เขาบอกไว้ไงล่ะ

     

              ไว้เราเจอกันบ่อยขึ้นดีไหม แล้วพี่จะเลี้ยงข้าวจงแดบ่อย ๆ เอง

     

              ผมคลี่ยิ้มสดใสแลดูน่ารักน่าชังส่งไปให้ ไม่ถามถึงจุดประสงค์ที่มารับกันเลยสักคำ ในตอนที่ผมยกมือขึ้นเกาแก้มเบา ๆ เมื่อพี่มินซอกส่งยิ้มสุขุมลุ่มลึกมาให้ ผมรับรู้ได้ถึงกระแสสายตาพรั่นพรึงจากคนในโรงเรียนที่มองเห็นการกระทำของผม การกระทำของเด็กผู้ชายขี้อายดูน่ารัก ซึ่งนั่นนับว่าผิดแปลกไปจากคิม จงแดที่โรงเรียนอย่างชัดเจน

     

                ดูขัดแย้งและปรับเปลี่ยนเร็วรี่เพียงไม่ถึงห้าวินาที ผมก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่าผมมีความสามารถพิเศษอย่างนี้ เหอะ ๆ ๆ

     

                “อยากกินอะไรเป็นพิเศษรึเปล่า?

     

                “ไปรับจงอินด้วยดีไหมครับ?

     

                พี่มินซอกชะงักไปเล็กน้อย หากก็ยังส่งยิ้มใจดีมาให้ผมพร้อมกับเคลื่อนรถไปยังอีกเส้นทางที่ไม่ใช่ทางไปโรงเรียนของจงอิน ผมเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจนิดหน่อย แต่เขาก็คลายความสงสัยของเขาด้วยการเอ่ยขึ้นมาหนึ่งประโยค “พี่โทรหาจงอินแล้วน่ะ เห็นว่าไม่ว่าง”

     

                อ้อ...

     

                ว่าแต่ไอ้จงอินเนี่ยนะไม่ว่าง? แปลก ๆ นะ

     

                “งั้นกินอะไรก็ได้ครับ” จะดีที่สุดถ้าได้กินพี่มินซอกครับ

     

                ผมเผลอกลืนน้ำลายลงคอ แต่โชคดีนักที่พี่มินซอกคิดว่าผมเพียงกระหายน้ำเท่านั้น ผมหันไปที่เบาะหลังแล้วหยิบขวดน้ำมาหนึ่งขวดตามคำบอกของพี่มินซอกที่แสนจะห่วงใยผม เปิดฝาแล้วยกขวดขึ้นเหนือริมฝีปากหมายจะลำเลียงนั้นโดยไม่ให้ปากขวดแตะปากผม แต่มันก็เป็นเรื่องยากเพราะรถยังขับเคลื่อนอยู่ เพราะอย่างนั้นแล้วผมจึงถือวิสาสะแตะปากกับปากขวดแล้วลำเลียงน้ำลงคอซะเลย

     

                น้ำแร่ของพี่มินซอกนี่อร่อยดี ไม่รู้รสชาติของเจ้าของจะเป็นยังไง

     

                อ่า...ผมคิดว่ายิ่งโตผมก็ยิ่งหื่นนะ? หรือมันจะเป็นเรื่องปกติของวัยรุ่นเลือดร้อนรึเปล่า?

     

                ผมดื่มน้ำจนเหลือครึ่งขวดในตอนที่พี่มินซอกหยุดรถตามสัญญาณไฟจราจรพอดี คำสุดท้ายผมอมมันไว้จนแก้มตุง ปิดฝาขวดขณะไล่สายตามองไปยังทางเบื้องหน้าเรื่อยเปื่อย แต่ก็กลับต้องสะดุดกับสายตาของพี่มินซอกที่จ้องมองมา สายตาเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกบางอย่างทำให้ผมกลืนน้ำลงคออึกใหญ่แล้วแลบลิ้นเลียกลีบปาก พี่มินซอกเม้มปากแน่นก่อนหันหน้ากลับไป

     

                หือ?

     

                “มีอะไรรึเปล่าครับพี่มินซอก?

     

                “เปล่าครับ”

     

                ค่อนข้างน่าเชื่อถือเพราะเสียงพี่มินซอกราบเรียบเป็นปกติ แต่สายตาเมื่อครู่ยังคงติดตรึงในความคิดผม ผมทำอะไรผิด? หรือพี่มินซอกจะหันมาเห็นตอนปากผมแตะทาบกับปากขวด? “อ่า...ผมดื่มน้ำไม่หมด เดี๋ยวผม...”

     

                “ไม่เป็นไร ๆ เอามันไปไว้ที่เดิมก็ได้ ไม่ต้องคิดมากหรอก”

     

                อืม...

     

                ที่จริงก็ไม่มีอะไรให้ต้องคิดมากอยู่แล้วรึเปล่า หือ ก็เราเป็นพี่น้องกัน การดื่มน้ำจากขวดเดียวกันด้วยปากที่แตะปากขวดเหมือนกันก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรตรงไหน แต่เอาเข้าจริง ๆ ถึงพี่มินซอกจะเอ็นดูผมมากแค่ไหน ผมก็ไม่รู้หรอกว่าเส้นกรอบที่พี่มินซอกขีดไว้เป็นส่วนตัวจะเป็นยังไง จะว่าไปตลอดมาพี่มินซอกไม่ค่อยขัดใจอะไรผมเท่าไหร่เลยนี่นะ ให้ความรู้สึกเหมือนพี่มินซอกยอมรับให้ผมเป็นส่วนหนึ่งที่มากกว่าลูกพี่ลูกน้อง อาจจะเอ็นดูผมมากจนคิดจะให้เป็นน้องชายแท้ ๆ

     

                แต่ขอร้องเลยนะครับ ผมไม่ได้คิดอย่างนั้นด้วยเลยสักนิด!

     

                “ง่วงจังเลย...”

     

                “นอนสักงีบก็ได้นะ”

     

                “ไม่ดีกว่าครับ” ผมส่ายหน้าพลางคลายยิ้มอ่อน ๆ ขณะหันไปมองพี่มินซอก “นั่งรถเป็นเพื่อนพี่มินซอกดีกว่าหลับแล้วให้พี่มินซอกขับรถคนเดียวเงียบ ๆ มีผมคุยเป็นเพื่อน พี่มินซอกจะได้ไม่เหงาไง เนอะ”

     

                ผมยิ่งยิ้มกว้างมากขึ้นจนดวงตาแทบปิดเมื่อพี่มินซอกหันมามองเล็กน้อย เมื่อหันหน้ากลับไปยังเบื้องหน้าตามเดิม พี่มุมปากกดมุมปากเป็นรอยยิ้มราบเรียบแต่ก็ดูออกว่าพอใจมากแค่ไหน กิริยาเช่นนั้นของพี่มินซอกทำให้ผมคลายยิ้มน่ารักเพิ่มมากขึ้น ซึ่งตรงข้ามกับในใจของผมเป็นอย่างมาก

     

                เพราะผมมีแต่ความคิดที่ว่า...สักวันหนึ่งผมจะทำให้ความสุขุมแบบบุรุษของพี่มินซอกเปลี่ยนไป ด้วยผมเอง

     

                ฮ้า! แค่คิดก็โคตรจะตื่นเต้นละ!!

     

     

     

     

     

                “ขอบคุณมาก ๆ นะครับพี่มินซอก อิ่มมาก ๆ เลยครับ”

     

                ผมว่าอย่างนั้นในตอนที่ก้าวเท้าลงรถมาแล้ว และพี่มินซอกก็ลงรถมาด้วยเช่นเดียวกัน ตามปกติแล้วเวลาที่เราออกไปไหนด้วยกันข้างนอกและพี่มินซอกเป็นคนมาส่ง แม้จะไม่ได้เอ่ยเชิญอะไรแต่พี่เขาก็จะลงมาด้วย เพราะเหตุผลง่าย ๆ ที่จะเข้าไปทักทายคุณแม่กับคุณพ่อของผม ซึ่งส่วนใหญ่จะเจอคุณแม่ซะมากกว่า อย่างวันนี้ที่พอผมเปิดประตูบ้านก็คิดว่าจะเห็นคุณแม่นั่งอยู่ที่โซฟา

     

                แต่...คุณแม่ผมหายไปไหนก็ไม่รู้

     

                “พักก่อนไหมครับพี่มินซอก?

     

                ผมเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแสนห่วงใย กะพริบตาปริบ ๆ อย่างเว้าวอนให้พี่เขารับความห่วงใยจากผม พี่มินซอกคล้ายจะนิ่งไปชั่วครู่ ไม่รู้แน่ชัดว่ากำลังตัดสินใจหรืออย่างไร แต่ที่แน่ ๆ สุดท้ายแล้วก็พยักหน้ารับเรียบ ๆ หากก็แต้มประดับด้วยรอยยิ้มเล็ก ๆ ดูสุขุม ให้ผมยิ้มกว้างด้วยความยินดีแล้วเดินตรงเข้าไปในห้องครัว จัดการชงกาแฟรสโปรดของพี่มินซอกพร้อมกับจัดคุกกี้ที่คุณแม่เป็นคนอบเองใส่จานกระเบื้องเคลือบสีน้ำเงินเข้ม เดินออกมาอีกทีก็เห็นว่าพี่มินซอกนั่งบนโซฟาแล้วพร้อมกับเสื้อเชิ้ตที่ปล่อยให้เป็นอิสระจากขอบกางเกง

     

                โห...ปลายเสื้อยับ ๆ กับกระดุมเชิ้ตที่ปลดออกหนึ่งเม็ดนี่มัน

     

                “กาแฟครับ”

     

                “ขอบใจมากครับจงแด”

     

                ผมยังคงยิ้มน่ารักส่งไปให้ แล้วก็นั่งแหมะลงที่พื้นตรงหน้าพี่มินซอก ยกมือขึ้นเกาะแก้วกระจกโต๊ะเตี้ยเอาไว้ ช้อนดวงตาขึ้นมองพี่มินซอกที่ยกแก้วกาแฟขึ้นจิบขณะทอดสายตาจ้องลงมามองผม แต่ก็เพียงแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น เพราะหลังจากนั้นพี่มินซอกก็เสสายตาไปทางอื่นโดยที่แทบจะไม่หันกลับมามองอีกเลย

     

                กว่าจะมองกลับมาอีกทีก็ตอนที่วางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะแล้วหยิบคุกกี้ขึ้นงับหนึ่งชิ้น

     

                “แจกันอันนี้ไม่เคยเห็นเลย คุณน้าซื้อมาใหม่อีกแล้วหรือจงแด?

     

                อ้อ...ที่แท้ก็สนใจแจกันนี่เอง ผมพยักหน้ารับแล้วทำหน้าเนือย ๆ “ของเก่าแทบจะไม่มีที่เก็บแล้วครับพี่มินซอก”

     

                พี่มินซอกกลั้วหัวเราะเบา ๆ ยังคงไว้ซึ่งกิริยาทุ้มนุ่มสุขุมลึกดุจความเวิ้งกว้างของหลุมอากาศ แต่ก็น่าแปลกที่มันยิ่งเป็นการกระตุ้นให้ผมอยากจะฉุดดึงสิ่งนั้นให้พ้นไป อยากจะเปลี่ยนแปลงให้พี่มินซอกเป็นคนใหม่ ที่ได้ชื่อว่าเป็นคนของผม...นั่นแหละถึงจะดี

     

                ผมฉีกยิ้มอารมณ์พลางเอื้อมมือหยิบคุกกี้บนจาน และเผอิ๊ญเผอิญว่านิ้วของเราสองคนแตะชนกัน ราวกับมีกระแสไฟฟ้าแล่นผ่านปราดนิ้วของผม แต่ผมก็ยังคงปั้นยิ้มไร้เดียงสาสดใสอยู่เช่นนั้น

     

                ทั้ง ๆ ที่ในใจนั่นน่ะ...

     

                นิ้วชนกันหรือครับ? หึหึหึ ผมตั้งใจล้วน ๆ เลยล่ะครับ เรื่องบังเอิญอะไรนั่น โกหกทั้งเพ

     

     

     

     

     

    To be continued

     

     

     

    โอ้โห วันนี้เห็นดิสเพลย์ไอจีมินซอกแล้วเกิดอาการครั่นไม้ครั่นมือเลยค่ะ
    นั่นมันพี่มินซอกผู้อยากจะกินน้องจงแดชัด ๆ !!
    น่าเสียดายที่ในตอนนี้เราเขียนในมุมมองของน้องจงแด
    อะ บอกแล้วไงว่าอย่าเพิ่งตัดสินไปก่อนว่าใครจะได้กินใคร คึคึคึ

    คือ...จะมีคนอ่านมั้ยคะเรื่องนี้ ๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕
    เราจะแต่งสลับมุมมองกันระหว่างพี่มินซอกกับน้องจงแดแบบนี้นะคะ
    สลับตอนกันไป สบาย ๆ เรื่อย ๆ สดใสมุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งนะ~

    เจอกันใหม่ตอนหน้านะคะ ทวิตติดแท็ก #DTMCHU ได้น้า ถ้าชอบก็กดโหวตได้น้า~




     

                

    。SYDNEY♔
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×