ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ธาราโอบจันทร์ (yaoi)

    ลำดับตอนที่ #16 : บทที่สิบห้า ... (รีไรท์)

    • อัปเดตล่าสุด 18 มิ.ย. 64





    ธาราโอบจันทร์
    บทที่สิบห้า


    คุณแม่

    เสียงของเพชรพริ้งดังขึ้นในทันทีที่พิมพ์อรก้าวลงจากรถคันใหญ่ เธอเดินตรงเข้าไปหา สวมกอดผู้เป็นแม่แน่นจนคนที่มองเห็นยกยิ้มกว้าง คีรินทร์ยกมือประนมไหว้อย่างนอบน้อมยามท่านทอดสายตามองมาสบกัน และได้รับเป็นรอยยิ้มใจดีเหมือนอย่างเคย

    หากบางอย่างกลับทำให้พิมพ์อรเลิกคิ้วน้อย ๆ เธอผละจากกอดของลูกสาวแล้วสำรวจร่างประเปรียวที่ในตอนนี้ดูมีน้ำมีนวลอยู่ไม่กี่วินาทีก็ถามขึ้นด้วยความสงสัย

    ไม่แพ้ท้องเลยเหรอลูก

    เพชรพริ้งยิ้ม หันไปทางสามีก็เห็นว่ายิ้มอยู่เหมือนกัน พอสบตากันจึงเป็นคีรินทร์ที่ตอบให้ผมรับไว้ทั้งหมดเลยครับแม่พิมพ์

    นั่นไม่เกินจริงเลย ช่วงแรกที่ได้รู้ว่าภรรยาตั้งครรภ์ คีรินทร์ไม่มีอาการใดมากไปกว่าความใส่ใจที่มีอยู่แล้วและเพิ่มมากขึ้น เพชรพริ้งเองหากไม่นับช่วงแรกที่เกิดอาการเหม็นเบื่อสามีก็ยังเหมือนเดิมไม่มีอะไรผิดปกติ แต่พออายุครรภ์เข้าสิบห้าสัปดาห์ อาการเวียนหัวคลื่นไส้ก็ทักทายคีรินทร์อยู่บ่อยครั้ง ซ้ำยังต้องการผลไม้รสเปรี้ยวมากอย่างที่ในชีวิตชายหนุ่มไม่เคยต้องการ

    แน่นอนว่าอาการเหล่านั้นไม่เคยเกิดขึ้นเลยสักครั้งเดียว

    โธ่พ่อคี แพ้ท้องแทนเมียซะแล้ว

    พิมพ์อรเอ่ยด้วยความห่วงใยจริง หากคนที่หัวเราะกลับเป็นฝาแฝดที่ทำหน้าที่เป็นสารถีรับพิมพ์อรมาจากสนามบิน ไม่พอยังพาเธอแวะรับประทานอาหาร พาเดินชอปปิงที่ย่านการค้าอีกเป็นชั่วโมง โดยไม่คำนึงเลยสักนิดว่าจะมีใครรออยู่บ้าง

    แม้จะมีคนใกล้ใจที่ตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่นี่โทรศัพท์ถามเขาแทบทุกครึ่งชั่วโมงเลยก็ตาม

    ดีนะครับยังแพ้แค่นี้ แต่แค่นี้ก็แตกตื่นกันทั้งสำนักงานแล้วครับแม่พิมพ์

    นทีธัชช์เอ่ยเย้า หัวเราะออกมาอีกรอบเมื่อคีรินทร์ส่งสายตาคาดโทษมาให้ ก่อนจะยักไหล่แล้วหมุนตัวกลับไปที่รถ ขึ้นรถสตาร์ตเรียบร้อยก็ถอยหลังแล้วหักพวงมาลัยเคลื่อนล้อออกไปทันที

    จุดหมายของนทีธัชช์ไม่ใช่สำนักงานรินทร์ธาราที่ยังมีงานกองค้าง แต่เป็นโรงเลี้ยงม้าที่ในตอนนี้มีทีมสัตวแพทย์ซึ่งเป็นหมอม้าโดยเฉพาะกำลังตรวจร่างกายประจำเดือนให้ม้าทุกตัวในคอก เขาเห็นแล้วว่าไกรวีกำลังยืนลูบหน้าน้ำตาลไหม้อยู่ในส่วนคอกของมัน ก่อนจะได้ยกยิ้มเมื่อไกรวีหันมาเพราะน้ำตาลไหม้ที่มองเห็นและส่งเสียงทักทายเขาก่อน

    นทีธัชช์เดินตรงเข้าไปหา ยกมือขึ้นลูบหัวลูบหน้าม้าคู่ใจ ก่อนจะเคลื่อนมือไปแตะกับมือเรียวที่หยุดชะงักในทันทีอย่างแนบเนียน ลูบเบา ๆ ด้วยนึกเย้า พอได้รับเป็นสายตาดุปนคาดโทษสมใจแล้วจึงค่อยผละตัวเดินไปหาหมอม้าที่กำลังตรวจม้าตัวอื่นอยู่

    ไกรวีคิดว่าการกระทำเมื่อครู่คงไม่มีใครมองเห็น แต่เขาคิดผิด

    ดวงตาเป็นประกายวิบวาวจากคณพัฒน์ที่ยืนเกาะรั้วคอกถัดไปทำเอาไกรวีเกิดอาการเก้อ ชายหนุ่มเม้มเรียวปาก คาดโทษคนอายุน้อยกว่าผ่านสายตาให้ได้ยินเสียงผิวปากเบา ๆ ก่อนส่ายหน้า มองนทีธัชช์ที่เดินกลับมาหากันพร้อมบอกกล่าวอย่างที่ควรจะต้องทำตั้งแต่แรก

    แม่พิมพ์ถึงบ้านสวนแล้วครับกร

    ไกรวีพยักหน้า แต่ก็อดถามไม่ได้ทำไมถึงเลทนักล่ะครับ ผมนึกว่าจะมาถึงตั้งแต่สองชั่วโมงที่แล้ว

    เห็นท่านบอกว่าไม่ได้มาที่นี่นานแล้ว พี่เลยพาท่านเดินเล่นในเมืองก่อนน่ะแล้วทางนี้เป็นยังไงบ้าง

    ทางนี้ของนทีธัชช์คือเด็กฝึกงาน ว่าที่นายเล็กของบ้านหมอกรักษ์ที่ยังเกาะรั้วคอกมองมาตาเป็นประกาย เห็นอย่างนั้นแล้วนทีธัชช์ก็มันเขี้ยวอยากหาเรื่องแกล้งสักหน่อย เลยกวักมือเรียกให้คณพัฒน์ออกจากคอกของพันแสง ม้าที่เชื่องที่สุดและเข้ากับคณพัฒน์ได้ดีที่สุดให้เดินมาหา พออีกฝ่ายตามมาสมทบก็ถามไปทันที

    มายังไง

    หือคณพัฒน์ร้องอยู่ในใจ นึกรู้ขึ้นมาว่าต้องมีเหตุอะไรให้เขาลำบากแน่เดินมาครับ

    คราวนี้เป็นนทีธัชช์ที่เลิกคิ้วอย่างแปลกใจบ้าง หันไปมองสบตากับไกรวี ถามอย่างไม่สบายใจนักเดินมาจากไหนกัน

    โรงแพะครับ ไปช่วยน้า ๆ เขารีดนมแพะมา รีดนมด้วยมือนี่สนุ๊กสนุกนะครับคุณที ตอนเดินมาที่นี่ก็ดีครับ แดดร้อนตลอดทางเลย

    เป็นคณพัฒน์ที่ตอบยืดยาวให้เสร็จสรรพ ทำคนที่กำลังอ้าปากตอบถึงกับกลั้นยิ้มแทบไม่ทัน ต่างกับนทีธัชช์ที่นัยน์ตาคมกล้าฉายแสงมาดร้าย ชายหนุ่มเหลียวมองคนช่างพูด เอ่ยออกไปนิ่ม ๆ แต่ทำคนฟังเจ็บเป็นบ้า

    นึกไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าหมอกรักษ์เลือกคนพูดมากมาเป็นนายเล็กไม่ทันที่อีกฝ่ายจะได้โต้ตอบเขาก็พูดขึ้นมาอีกเดินมาเองก็คงเดินกลับเองได้ใช่ไหม ไปกร ไปบ้านสวนกัน

    หือออ...คณพัฒน์ส่งเสียงลากยาวในลำคอ มองดูแล้วก็ให้รู้ว่าคนเป็นนายใหญ่ของรินทร์ธาราพูดจริงแน่ แล้วผิดเสียที่ไหนล่ะ พอพูดจบก็หันไปร่ำลาเจ้าน้ำตาลไหม้ เสร็จแล้วก็เดินดุ่มออกจากโรงม้าไปแบบไม่รอฟังคำทัดทานใดจากไกรวีเลยด้วยซ้ำ

    เห็นสายตาขอลุแก่โทษของไกรวีก็เลยได้แต่ถอนหายใจแล้วยกยิ้ม ไปเถอะครับพี่กร เดี๋ยวผมขอติดรถหมอไปลงใกล้ ๆ สำนักงานก็ได้ ยังไงหมอต้องขับรถผ่านอยู่แล้วนี่ครับ

    อย่ามาเสียเวลากับเขาที่เป็นตัวประกอบของนทีธัชช์เลย มันแสนจะเจ็บใจจริงจังเลยโว้ย!

     

    ไกรวีละมือจากการตระเตรียมวัตถุดิบสำหรับอาหารมื้อเย็นก่อนเดินออกมาด้านนอก ลัดเลาะผ่านทางเดินหินใหญ่ไปตามเส้นทางด้านข้างสู่ด้านหลังบ้านสวน เห็นผู้เป็นแม่นั่งคุยกับนทีธัชช์กันเพียงสองคนใต้ร่มเงาของศาลาไม้ซึ่งอยู่ด้านหลังตัวบ้านออกมาระยะหนึ่ง ตรงนี้มีดอกไม้หลากหลายพันธุ์ล้อมรอบ มีแอ่งน้ำตกน้อย ๆ ให้บรรยากาศร่มรื่นสงบใจและอ่อนหวานในคราวเดียวกัน

    รอยยิ้มอบอุ่นบนใบหน้าเข้มคร้ามทำให้ไกรวียกยิ้ม และยิ่งยิ้มกว้างมากขึ้นเมื่อพิมพ์อรหันมามองเขา

    เตรียมของเสร็จแล้วเหรอลูก

    ครับแม่ไกรวีทิ้งตัวลงนั่งข้างเธอ สวมกอดหลวม ๆ พอให้ได้รู้ว่าเขาคิดถึงมากแค่ไหนคุยอะไรกันอยู่ครับ

    เรื่องกล้วยไม้เป็นนทีธัชช์ที่ตอบกลับมาแทบจะในทันที แม่พิมพ์จะเข้าข้างในเลยไหมครับ ใกล้มืดแล้วด้วย

    จ้ะ งั้นแม่เข้าไปช่วยนภางค์ทำกับข้าวดีกว่า คนทำอาหารไม่เก่งก็นั่งเล่นกันอยู่ตรงนี้เถอะ เดี๋ยวครัวจะวุ่นไปกันใหญ่

    ไกรวีหัวเราะเบา ๆ พยุงแม่ให้ลุกขึ้นยืนได้อย่างสะดวก เดินส่งจนถึงทางเดินก่อนหยุดมอง พอแน่ใจแล้วว่าเธอจะไม่เจออุบัติเหตุอะไรถึงค่อยกลับมานั่งในศาลาไม้อีกครั้ง หรี่ตาเล็กลงยามนทีธัชช์ย้ายตัวเองมานั่งข้างกัน

    กล้วยไม้เหรอครับ ดูเหมือนไม่ใช่

    คนฟังถึงกับหัวเราะ เอนกายให้ไหล่อิงไหล่แล้วใช้ช่วงเวลานี้สูดกลิ่นหอมจางของคนใกล้ตัว เหลียวสายตามองปลายคางก็นึกมันเขี้ยวขึ้นมา เอ่ยออกไปเบา ๆขอหน่อยสิ

    “…ขออะไรครับ

    นทีธัชช์ตอบคำด้วยการจุมพิตที่ปลายคางได้รูปนั้นเพียงแผ่วเบา ไม่วายยังขยับแนบชิดจนร่างสันทัดอยู่ในอ้อมแขนแกร่ง เป็นการกอดอันแนบเนียนและรวดเร็วจนไกรวีไม่ทันได้ขยับตัวหนีเลยด้วยซ้ำ

    แล้วดูสิดู ได้รับสายตาดุอย่างนี้ยังจะยิ้มเจ้าเล่ห์อีกแน่ะ

    เดี๋ยวเถอะครับ ถ้าใครเห็นเข้า

    ก็ช่างเขาสิ ไม่เห็นเป็นไร

    ว่าแล้วเลยหอมแก้มอีกฟอดใหญ่จนเจ้าของแก้มคิดว่าเลือดคงซับสีที่ผิวแก้มแน่ ๆ ไกรวีขบฟัน กระทุ้งศอกใส่หน้าท้องแข็งแรงไปหนึ่งทีก่อนขยับตัวเว้นระยะห่างแก่กัน

    ตกลงคุยอะไรกับแม่ครับ

    โธ่เอ๋ยไกรวี จะไม่ปล่อยผ่านเลยจริง ๆ หรือเนี่ย… “คิดว่าพี่คุยอะไร

    ไม่รู้ครับ แต่ไม่น่าไว้วางใจ

    นทีธัชช์ยิ้ม แววตาเป็นประกายจนคนมองสบกันเกิดวูบไหวในอก ไกรวีขยับถอยห่าง มองจ้องดวงตาคมกริบอยู่อีกอึดใจถึงค่อยถามออกไป

    เรื่องวันพรุ่งนี้เหรอครับ

    เรื่องกล้วยไม้

    พี่ทีไกรวีส่งเสียงดุ อยากจะยกกำปั้นขึ้นทุบไหล่คนเจ้าเล่ห์ให้หายกังวลสักทีแต่ก็ยั้งมือไว้ รู้หรอกว่านทีธัชช์คงมีสองตัวเลือกให้เขา หากไม่ยอมให้เขาทุบไหล่สักที ก็คงจะรวบมือเขาแล้วรั้งให้เข้าหาแน่ ๆ

    มั่นใจแล้วว่านทีธัชช์คงไม่ปริปากแน่เลยถอนหายใจ ระบายยิ้มบางเมื่อใบหน้าคมคร้ามโน้มเข้ามาใกล้กัน ออดอ้อนผ่านเสียงทุ้มลึกเบา ๆคืนนี้กรจะนอนไหนครับ

    อาจจะอยู่ที่นี่กับแม่ครับ

    กลับด้วยกันได้ไหม พี่อยากอยู่กับกร

    ไกรวีหน้าร้อนวูบ น่าแปลกที่ถ้อยความอ้อนหวานเพียงเท่านั้นกลับทำให้ใจเขากระตุกไหว หากเมื่อมองคนช่างอ้อนที่วางคางเกยไหล่เขาก็ให้นึกอ่อนใจ เพราะนทีธัชช์ไม่ได้วอนขอไปมากกว่านั้น ด้วยรู้ดีว่าที่สุดแล้วการตัดสินใจย่อมเป็นของไกรวี

    ...แม้ชายหนุ่มจะอยากเห็นหน้าคนรักก่อนเข้านอนก็ตาม

    พี่ที

    พี่จะไม่บังคับ

    นทีธัชช์จุมพิตลงยังหัวไหล่ผ่านเนื้อผ้า หยัดกายขึ้นยืนแล้วรั้งให้ไกรวีลุกขึ้นยืนบ้าง พอดีกับกลิ่นหอมที่ลอยโชยมาจากทางห้องครัวนั่นล่ะ ชายหนุ่มจึงกระชับมือเรียวขาวเอาไว้แล้วจูงมือให้ออกเดิน

    เย็นนี้พี่ไม่ต้องกินอาหารฝีมือกรแล้ว โชคร้ายชะมัด

    เดี๋ยวเถอะ ไกรวีรู้หรอกว่ามันเป็นความหมายตรงข้าม ดูจากนัยน์ตาคมกริบที่เป็นประกายของความยินดีอย่างนั้น อย่าให้เห็นเลยเชียวว่าเติมข้าวสองจาน เขาจะนอนที่บ้านสวนไม่ยอมกลับไปด้วยอย่างที่ใจหวังไว้อย่างแน่นอนเลยคอยดู!

     

    เกือบเที่ยงคืนเข้าไปแล้ว กว่าที่นทีธัชช์จะพาไกรวีกลับมาบ้านของเขา ปล่อยให้ร่างสันทัดที่กระฉับกระเฉงว่องไวในการหลบหลีกไม่ให้เขากอดอาบน้ำอาบท่าให้สบายใจ ยอมให้นั่งทำงานที่ชานเรือนหลังบ้านทั้ง ๆ ที่ยังโปะผ้าขนหนูกับศีรษะชื้นน้ำอีกพักหนึ่ง จนถึงเวลาที่นทีธัชช์เห็นว่าสมควรแล้ว จึงเดินออกมานั่งใกล้กันบนพื้นชานเรือนซึ่งจะว่าไปก็คงไม่ใช่ใกล้ แต่เป็นแนบชิดสนิทสนมกันเสียมากกว่า

    คนที่ถูกซ้อนร่างจากด้านหลังยืดตัวตรง ไม่ทันได้เอี้ยวหน้าไปกล่าวว่าก็ถูกเก็บกลืนความหอมกรุ่นของลำคอ จังหวะนั้นไกรวีเกร็งตัว นึกรู้ขึ้นมาครามครันว่าทำไมนทีธัชช์ถึงอยากให้เขากลับมาอยู่ด้วยกันนักหนา แล้วยังคอยแวะแตะแวะชิดใกล้กันอยู่หลายหนตั้งแต่บ่าย ทั้ง ๆ ที่ปกติไม่ได้ตัวติดกันขนาดนั้น

    นี่อย่างไรเล่าคำตอบ ไกรวีไม่เคยตามความคิดมุมเจ้าเล่ห์เพทุบายนี้ได้ทันเลยจริง ๆ

    พี่ที

    ชายหนุ่มเรียก หวังให้คนด้านหลังมีสติขึ้นมาสักนิด หากมือกว้างกร้านกลับลูบเบา ๆ ที่หัวไหล่เขายามแตะแต้มริมฝีปากเลื่อนขึ้นมาถึงสันกราม จุมพิตนุ่มหวานให้ไกรวีตายใจ ก่อนรุกรานสิทธิเจ้าของริมฝีปากอิ่มด้วยรุนแรงโหยหา ลิดรอนอากาศหายใจจนไกรวีแทบหมดลม

    พี่-ที

    ไกรวีย้ำ เสียงเข้ม แต่ก็แสนเบาเหลือเกินเมื่อเทียบกับรสจูบที่ปรนเปรอเขาไม่เลิก ใบหน้าที่ว่าอุ่นกรุ่นก็กลายเป็นร้อนวูบยามสบสายตา เขาเห็นประกายวาววามจากนัยน์ตาคมกล้านั้น และริมฝีปากที่ยกยิ้มยั่วเย้านั่นก็ด้วย

    ให้ตาย นทีธัชช์นี่นะ!

    ไม่รู้ทำไม คืนนี้พี่อยากกอดอยากหอมกรจัง

    คนฟังเราะในลำคอ ไม่ว่าอะไรตอนที่นทีธัชช์เอาแล็ปท็อปวางไว้ห่างตัว ออกแรงให้ร่างเขาหมุนตัวเข้าหา แม้รู้ว่าพอหันมาแล้วเขาสองคนจะอยู่ในท่าสุ่มเสี่ยงก็เถอะ แต่ไกรวีก็อยากรู้นักว่าคนตรงหน้าจะงัดไม้ไหนมาล่อลวงกันได้

    ไกรวีรู้ดีเหมือนที่นทีธัชช์รู้ เขาสองคนไม่ใช่เด็กหนุ่มเลือดร้อนที่อยากรู้อยากลอง หากความเป็นผู้ใหญ่ต่างหากที่ยิ่งผลาญไฟในใจให้ลุกโชนได้ การที่เขากลายเป็นคนรักและยังอยู่ในบ้านหลังเดียวกันสองต่อสอง นทีธัชช์อดทนอดกลั้นมาได้อยู่นานสองนานก็นับว่าเก่งมากแล้ว

    แต่ในขณะที่พรุ่งนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ซึ่งเป็นแผนการของคนที่ยังขบกินริมฝีปากเขาไม่เลิกตรงนี้น่ะหรือ

    ไม่เครียดเลยรึไงครับ

    คำถามนั้นทำนทีธัชช์ครางแผ่วในคอ ขยับห่างออกจากริมฝีปากที่เม้มหลบกัน เปลี่ยนไปจุมพิตหลังใบหูแทน ชายหนุ่มพ่นลมหายใจเบา ๆ เหมือนจะเก็บกลั้นความต้องการแล้วตอบออกไป

    เครียดมาก กรก็รู้ว่าพี่เอาชีวิตตัวเองเป็นเดิมพันเลยนะ

    และเพราะอย่างนั้นเขาถึงต้องการกอดหอมไกรวีมากกว่าทุกวัน จะอ้างว่าเป็นเพราะเครียดก็ได้ แต่หลังจากพรุ่งนี้ไป ไม่ว่าใครก็ไม่รู้ทั้งนั้นว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นและเปลี่ยนแปลงบ้าง

    และใช่ แผนที่เขาใช้ตัวเองเป็นเดิมพัน เพื่อจบทุกอย่างสักที!

    แต่ถ้ากรไม่อยากให้พี่รัก แค่กรบอกพี่

    เขาพูดขึ้นจริงจัง หากกลับทำให้คนฟังแววตาวูบไหว และเป็นไกรวีเสียอีกที่ประคองใบหน้าเข้มคร้ามเอาไว้แล้วบรรจงจุมพิตเบา ๆ ยังริมฝีปากหยักในคราวแรก ก่อนค่อย ๆ ทบทวีความรุ่มร้อนด้วยเรียวลิ้นที่แลกสัมผัสกันอย่างหวามไหว เป็นการอนุญาตให้นทีธัชช์รักกันได้ด้วยความเต็มใจ พร้อมทั้งยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะให้ความร่วมมือ

    แต่เดี๋ยวก่อน

    พี่ที เข้าบ้านก่อนครับ

    ไกรวีท้วงยามใบหน้าคมไล่ลงจากใบหน้าไปถึงหน้าท้องของเขา ซ้ำตอนนี้ไกรวียังค้ำศอกอยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน ด้วยยังไม่ยอมอ่อนข้อให้คนที่ใจร้อนจะรักเขาเสียให้ได้

    แล้วดูสินั่น คำตอบจากเสียงทุ้มลึกฟังเขาเสียที่ไหน

    เสียเวลา

    พร้อมทั้งดึงกึ่งกระชากท่อนขาขาวให้เสียหลัก ไกรวีเอนหลังล้มลงนอน อุทานในตอนที่คนใกล้ใจจับขาเขากางกว้างแล้วแทรกกายเข้ามาแทน

    นทีธัชช์ยิ้มร้าย โน้มตัวลงหา ปัดเป่าลมหายใจกรุ่นร้อนรดรินที่พวงแก้มระเรื่อแดง แลบลิ้นแตะเลียใบหูขาวแล้วขบเบา ๆ

    บรรยากาศดีออก กรไม่ชอบเหรอ

    ก็จริง

    อากาศเย็นสบาย ลมเอื่อยยามดึก กับนางพญาเสือโคร่งที่พลิ้วไหวราวเล่นระบำไปกับคลื่นลม ดวงดาวระยิบระยับบนฟ้าสีทึม ดูเหมือนทุกอย่างจะเป็นใจให้เขาได้รักกันอย่างโรแมนติกเหลือเกิน

    แต่ไกรวีก็ไม่แน่ใจนักว่าคนที่โถมตัวลงมาแล้วฟัดหน้าท้องเขาเหมือนมันเขี้ยวกันจับใจจะทำให้โรแมนติกได้หรือไม่

    กรชอบแบบไหน

    นทีธัชช์ถามอย่างนั้นในตอนที่พยายามถอดเสื้อนอนออกจากตัวของไกรวีแต่ไม่เป็นผล อยากเข้มใส่แต่ก็ทำไม่ได้ เลยได้แต่หัวเราะเบา ๆ ให้กิริยาต่อต้านนั้นแล้วเปลี่ยนไปถอดกางเกงนอนแทน

    ไม่เปลือยทั้งหมดก็ได้ ถ้าไกรวีไม่ชอบ

    หมายถึงอะไรครับ

    ไกรวีย่นคิ้ว หอบลมหายใจขณะที่ปากหยักไล่สัมผัสกับต้นขาด้านในของเขา อยากขยับหนีสัมผัสนั้นแต่ก็กลับถูกแขนแข็งแรงล็อกเอาไว้ เหมือนรู้อยู่แล้วว่าเขาจะหักหลังต่อต้านกันอย่างที่นึกอยากจะแกล้งทำ

    แต่เท่านั้นไกรวีก็อ่อนยวบแล้ว ไม่จำเป็นต้องล็อกขารั้งสะโพกกันไว้ด้วยซ้ำ

    หมายถึง อยากให้พี่รักแบบไหน เบา ๆ ค่อยเป็นค่อยไป หรืออยากเร่าร้อนหน่อย

    เร่าร้อนอ๊ะ!”

    ไกรวีอุทาน เนื่องด้วยถ้อยคำนั้นไม่ใช่คำตอบ แต่เป็นการทวนคำที่เขากำลังคิดว่านทีธัชช์จะทำอย่างไรต่างหาก แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะใจร้อนเกินไป พอฟังเท่านั้นถึงก้มลงครอบครองตัวตนของเขาโดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัวหรืออาจไม่อยากให้เขาตั้งตัวมากกว่า

    เจ้าเล่ห์นัก!

    ร้อนแรงนะเรา ครั้งแรกก็เลือกแบบเร่าร้อนเลยเหรอ

    ไกรวีอยากขำแต่ก็ขำไม่ออก เลยได้แต่เอื้อมมือไปรั้งศีรษะที่กำลังขยับอยู่ตรงกลางกายเขา เริ่มทวีความร้อนรุ่มจากริมฝีปากกับเรียวลิ้นที่ทำงานรับกันได้ดีมากเหลือเกิน และมันเกินกว่าที่ไกรวีจะรับไหวเสียด้วย จึงทำได้เพียงออกแรงขยำกลุ่มผมดำสนิทของนทีธัชช์เอาไว้ หอบลมหายใจทั้งกลั้นเสียงคำรามให้เล็ดลำคอเพียงแผ่วเบา เรือนกายบิดเร่ายามนทีธัชช์ไม่ปรานีต่อกัน

    กระไออุ่นจากผิวของไกรวีทำให้นทีธัชช์แทบคลั่ง กลิ่นกายอันหอมหวานทำให้เขาแทบเสียสติ หากสิ่งที่ทำก็ยังคอยบอกคอยย้ำว่าไกรวียังอยู่ในอ้อมกอดของเขา อ้อมกอดที่ไม่ว่าอย่างไรก็จะยังประคองและรักใคร่หวงแหน มีหรือจะทำให้ชอกช้ำเจ็บปวด นั่นหมายความว่านทีธัชช์จะยินยอมผ่อนปรนไม่ให้คนในอาณัติต้องทรมานมากเกินไป...

    ชายหนุ่มจึงถอนริมฝีปากออกจากความทรมานที่ใกล้จะสาหัสเต็มที ขยับตัวขึ้นมาป้อนปรนจุมพิตซ้ำแล้วซ้ำอีก ขณะเดียวกันก็ล้วงหยิบเอาซองสีเงินที่ซ่อนไว้ในกระเป๋ากางเกง ส่งมอบมันให้กับไกรวีอย่างเงียบเชียบแต่เต็มล้นด้วยความต้องการ

    นทีธัชช์แต้มสัมผัสไปเรื่อย ทุกอณูผิวกายของไกรวีถูกเขาตีตราซ้ำแล้วซ้ำเล่า เป็นการดูดกลืนที่สลับหนักเบา รักใคร่เอ็นดูหากก็อยากแทรกชำแรกให้สาแก่ใจ ก่อนการผูกรักไว้ทั่วกายจะจบสิ้นลง ยามตัวตนของเขาได้รับการประคองไว้ด้วยมือเรียวขาวที่ติดจะกร้านขึ้นเล็กน้อยหลังต้องมากรำงานในไร่ เพลิงปรารถนาจุดประกายเมื่อสิ่งป้องกันครอบครองตัวตนเขาไว้ด้วยฝีมือของไกรวี

    เริ่มต้นด้วยอยากรัก และได้รัก

    อึก…”

    ไกรวีเกร็งตัว ค่อย ๆ ผ่อนแรงนั้นลงจนกลายเป็นผ่อนคลายยามสัมผัสจากริมฝีปากที่ประทับแต้มแตะลงมาทั่วใบหน้า ลดไปที่แผ่นอก แล้วหวนกลับมาที่ลำคออย่างนุ่มนวล พร้อมกันนั้นสะโพกสอบก็เริ่มขยับเขยื้อน ชำแรกกายเข้าสู่ตัวตนที่เปิดรับอย่างยินดีของเขา ก่อนค่อย ๆ ประสานสัมผัสซึ่งกันและกัน กลายเป็นการคืบคลานสู่จุดอันล้ำลึกของการได้รักกันและกันอย่างเร่าร้อนรุนแรงเป็นอย่างมาก

    ไกรวีไม่รู้ตัวว่าส่งเสียงไปอย่างไรถึงทำให้นทีธัชช์หมดความอดทน สะโพกสอบที่ถลำลึกเข้ามาซ้ำ ๆ จึงยิ่งหนักหน่วงเน้นย้ำ สลับเร็วรี่รุนแรงให้ทั้งสรรพางค์ทรมาน แต่เพราะการกระทั้นกันอย่างนั้นเองที่ป้อนความสุขสมให้เขา นทีธัชช์ไม่เพียงแต่สร้างแรงขับดันให้แก่กัน หากยังพร้อมที่จะทะยานไปยังเส้นขอบฟ้าสีทึม ผ่านหมู่ดาวนับร้อยที่ซุกซ่อนตัวอยู่หลังปุยเมฆใต้แสงจันทร์

    เมื่อหยุดเคลื่อนไหว ไกรวีถึงได้รู้ว่าแม้อากาศเย็นสบายยังไม่สู้ไอร้อนจากร่างกายของเขาสองคน

    ถอดให้พี่หน่อยสิครับ

    นทีธัชช์หอบหนักในตอนที่เอ่ยอ้อน ยืดกายขึ้นตรงพลางถอดเสื้อขณะที่มือขาวสั่นน้อย ๆ ถอดสิ่งป้องกันออกให้ หากไม่ทันได้ทำอะไรหลังจากนั้น ร่างที่ยังไร้เรี่ยวแรงของไกรวีก็ถูกช้อนขึ้นลอยกลางอากาศ ร่างกายเหนียวเหนอะทำให้เขาไม่สบายตัวนัก และไกรวีไม่รู้เลยสักนิดว่าคนที่ทำเขาอ่อนแรงจะใช้ประโยชน์จากเรื่องนั้น

    นี่ไง ไม่ยอมถอดเสื้อ เหงื่อออกก็เหนียวตัวไปหมด

    ไกรวีกัดปากล่าง ยกแขนขึ้นคล้องลำคอของคนที่ช้อนอุ้มเขาก้าวเท้าเข้าบ้าน ไม่รู้จะสรรหาคำพูดไหนมาต่อว่าคนเจ้าเล่ห์ที่ไม่ยอมหมดฤทธิ์เสียที เพราะนทีธัชช์ไม่ได้พาเขากลับห้องเล็กหรือแม้แต่พาเข้าห้องนอนตัวเอง แต่เป็นห้องน้ำใหญ่ที่มีอ่างอาบน้ำนั่นต่างหาก

    พี่ทีจะทำอะไรครับ

    นทีธัชช์นิ่งไปนิดคล้ายพยายามหาถ้อยคำให้สวยงามกว่าความเป็นจริง แต่สุดท้ายเขาก็โง่งมเกินกว่าจะหาถ้อยคำสวยหวาน จึงตอบออกไปอย่างที่รวบรัดกระชับเป็นอย่างยิ่ง

    เสียน้ำในน้ำ

    และจริงดังว่า นทีธัชช์ฟอนเฟ้นไปทั่วร่างไกรวีที่นั่งอยู่บนขอบระหว่างรอน้ำเต็มอ่าง และเมื่อปริมาณพร้อมกรุ่นอุ่นจากอุณหภูมิน้ำได้ที่ เขาก็พาคนใกล้ใจที่ได้รักกันอย่างสำเร็จลุล่วงลงไปในอ่างน้ำอีกครั้งซ้ำยังย้ำให้ไกรวีรู้อีกด้วยว่าเป็นการเสียน้ำในน้ำด้วยน้ำที่แข็งแกร่งเร่าร้อนอย่างนทีธัชช์นี่อย่างไรเล่า!

     

    นทีธัชช์ออกประกาศนัดหมายคนงานทุกส่วนของรินทร์ธาราให้มาประชุมพร้อมกันก่อนเวลาเข้างานครึ่งชั่วโมงตั้งแต่เมื่อวานนี้ และเพียงแค่เจ็ดนาฬิกาสามสิบนาที คนงานในไร่ก็พร้อมใจกันมารวมตัวที่หอประชุมกลางแจ้งตรงตามเวลาที่เจ้านายแจ้งไว้ ผู้เป็นนายกวาดตามองเหล่าคนในการดูแลของเขาอย่างพึงพอใจ ทอดสายตามองสบจอมทัพที่ยืนอยู่ด้านหลังสุด จึงค่อยกวาดตามองทุกคนอีกครั้ง และเริ่มส่งเสียง เอ่ยคำตามจุดประสงค์ที่ทำให้เกิดการประชุมนอกแผนงานในวันนี้

    “สวัสดีครับทุกคน” เสียงของเขาดังและทรงอำนาจมากพอที่จะทำให้เสียงเซ็งแซ่ก่อนหน้านี้เงียบลงในพริบตา “ผมต้องขอโทษด้วยที่ทำให้ทุกคนต้องเตรียมตัวเข้างานกันเช้ากว่าปกติ แต่เพราะผมมีเรื่องสำคัญที่ต้องแจ้งให้ทุกคนทราบ...เลยอยากขอเวลาไม่เกินสิบนาทีครับ”

    ชายหนุ่มเห็นหลายคนพยักหน้า แววตาของคนงานส่วนมากมีความกระตือรือร้นที่จะได้รับฟังข่าวสารจากเขาอยู่เสมอ หากในครั้งนี้คงเป็นเรื่องสำคัญที่ทำให้ทุกคนส่งเสียงร้องฮือแทบจะพร้อมกันในทันที เพราะวินาทีที่เจ้านายใหญ่หันมองไปทางด้านหลังเพื่อส่งสัญญาณให้คนที่ยืนอยู่ในตัวอาคารติดหอประชุมกลางแจ้งก้าวเดินออกมา เรือนกายประเปรียวขาวผ่องของหญิงสาวซึ่งเป็นที่รักของคนในไร่รินทร์ธาราก็ปรากฏตัวพร้อมสามีที่เดินเคียงกัน ได้รับเป็นเสียงปรบมือเกรียวกราวแสดงความดีอกดีใจก้องหอประชุม ทำเอาคนที่ได้รับการต้อนรับคลี่ยิ้มหวานอย่างเขินอายเชียวล่ะ

    เพชรพริ้งยิ้มกว้างเมื่อเห็นคุณป้าแม่ครัวร้องขึ้นด้วยความดีใจ พยักหน้าขอบคุณนทีธัชช์ที่อุตส่าห์เปิดตัวเธอเสียยิ่งใหญ่ขนาดนี้

    รอจนเสียงเงียบลงแล้ว เธอจึงค่อยเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสดใสสมกับเป็นเธอที่ทุกคนรู้จัก “พลอยหายดีแล้วนะคะทุกคน พลอยกลับมาแล้วค่ะ”

    ได้ยินหลายเสียงเรียกชื่อเธอ เพชรพริ้งได้แต่หันมองสามีที่ยกยิ้มอุ่นอยู่ข้าง ๆ แขนแข็งแรงโอบเอวเธอไว้เหมือนที่เคยเป็น หากสิ่งที่คีรินทร์บอกกล่าวต่อทุกคนนั่นสิ ที่ทำให้เสียงฮือฮายิ่งดังมากกว่าเดิม

    “หลังจากวันนี้คุณพลอยจะกลับมาช่วยงานผมในส่วนของออฟฟิศแล้วนะครับ แต่จะไม่ได้รับอนุญาตให้ออกภาคสนามกับคุณทีอีกแล้ว และผมคงต้องรบกวนทุกคนไม่ชวนคุณพลอยออกภาคสนามไม่ว่าจะกรณีไหน...เพราะคุณพลอยต้องดูแลเจ้าตัวเล็กที่อยู่ในท้องครับ”

    นทีธัชช์จุดยิ้มพึงใจเมื่อเห็นปฏิกิริยาของทุกคนในที่ประชุม หากเป็นเมื่อก่อน เขาไม่ใคร่สนใจหรอกว่าเพชรพริ้งคือภรรยาของฝาแฝด เขามองเพียงว่าเธอคือหนึ่งในคนงานของรินทร์ธาราที่จะต้องติดตามเขาออกภาคสนามทุกครั้งหากเขาต้องการ

    ทว่าในตอนนี้ ชายหนุ่มกลับเพียงยกยิ้มน้อย ๆ ก้าวถอยหลังออกมาอีกเพื่อยืนอยู่เคียงกันกับไกรวีที่มองแผ่นหลังของพี่สาว กว่าจะรู้ตัวว่านทีธัชช์อยู่ข้างกันก็ตอนที่ไหล่กว้างเอนมาอิงกันน้อย ๆ กระแซะกันอย่างเย้าหยอกที่ไม่ได้หวั่นเกรงว่าใครจะมองเห็นภาพที่คงหาได้ยากจากนทีธัชช์ ดังนั้นไกรวีจึงยิ้มทั้งส่ายหน้า เอี้ยวตัวหลบคนรักพอไม่ให้ไหล่ชนกัน แล้วหันกลับไปดื่มด่ำกับภาพของเพชรพริ้งที่กำลังอยู่ท่ามกลางวงล้อมของคนงานในไร่รินทร์ธารา

    ขณะเดียวกัน...นทีธัชช์ก็รู้สึกถึงสายตาคู่หนึ่งที่มองมาทางเขา สายตาที่ดุกร้าวทว่าวาววามด้วยความรู้สึกบางอย่างอันยากจะหยั่งถึง ยิ่งยามมือกว้างของเขาทิ้งลงข้างตัวแต่ให้แตะกับหลังมือของไกรวีอย่างจงใจ ก่อนขยับเรียวนิ้วเกี่ยวกับนิ้วก้อย ก็คล้ายคิ้วได้รูปนั้นจะขมวดเข้าหากันอย่างลืมตัว

    นทีธัชช์เห็นอย่างนั้นจึงแสดงออกว่าเพิ่งมองเห็นและสบสายตา ให้ฝ่ายนั้นที่อยู่ด้านหลังของหอประชุมกลางแจ้งแปรเปลี่ยนสีหน้าดุกร้าวเหมือนดวงตาเป็นยกยิ้ม แสดงความยินดีที่เพชรพริ้งกลับมาทำงานในฐานะของนายหญิงแห่งรินทร์ธาราได้ดังเดิม

    โดยที่ฝ่ายนั้นไม่ได้รู้ตัวเลยว่ากำลังพาตัวก้าวขาเข้ามาอยู่ในแผนของนทีธัชช์

    ซึ่งแน่ล่ะว่าชายหนุ่มพอใจเป็น-อย่าง-มาก!






    โปรดติดตามตอนต่อไป




    สวัสดีค่ะ ห่างหายไปนานเลย กลับมาแล้วค่ะ ^ ^


    พี่ทีวางหลุมล่อแล้วนะคะ

    อีกไม่นานคนที่ตามทำล้างทำลายรินทร์ธาราก็จะเปิดเผยตัวแล้ว

    แต่จะเป็นไปในรูปแบบไหน อย่าลืมติดตามกันด้วยน้า~



    #ธาราโอบจันทร์ หรือ คอมเมนต์ หรือ กดให้กำลังใจ นะคะน้าาน้าน้าน้า

    ขอบคุณค่าา





     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×